Skip to content

A World Worth Protecting 79

บทที่ 79 ศิษย์ผู้บรรลุธรรมตัวจริง

ข้าได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของเกาะมหาปราชญ์ชั้นรองแล้ว หากข้าต้องการจะพัฒนาขึ้นไปอีก ข้าจะต้องทลายกำแพงของขั้นการฝึกตนโบราณเพื่อไปอยู่ในระดับ   ลมหายใจเที่ยงแท้ให้จงได้!

อัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานระดับสูงกล่าวไว้ว่า ผู้ใดต้องการประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ผู้นั้นจะต้องไม่อยู่ที่เดิมตลอดไป แม้ว่าชีวิตข้าตอนนี้จะสุขสบายแต่จำเป็นจะต้องก้าวเข้าสู่ระดับลมหายใจเที่ยงแท้เพื่อเข้าสู่เกาะมหาปราชญ์ชั้นสูงและไปสู่ขั้นต่อไป! หวังเป่าเล่อกำหมัดแน่น สายตาเขาแสดงความพร้อมที่จะต่อสู้

ในตอนนี้ หวังเป่าเล่อรู้จักเกาะมหาปราชญ์ชั้นสูงดีระดับหนึ่งแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในเกาะมหาปราชญ์ชั้นรอง แต่ในเกาะมหาปราชญ์ชั้นสูงนั้นเขายังคงเทียบไม่ติด ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีความสามารถ หากแต่เป็นเพราะว่ายังมีช่องว่างในความสามารถที่กว้างใหญ่ราวกับเหวลึกกั้นขวางอยู่

เพื่อถมช่องว่างนี้เขาจึงต้อง…สำเร็จระดับลมหายใจเที่ยงแท้!

การต่อสู้เฉียดตายที่ป่าฝนบ่อเมฆสอนหวังเป่าเล่อว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอยู่เสมอเพื่อจะได้ไม่โดนรังแก ในสหพันธรัฐเอง ความสามารถในการฝึกตนของเสนาบดีก็เกื้อหนุนให้ได้รับตำแหน่งที่ดียิ่งขึ้นไปในรัฐบาลด้วย!

ข้าต้องทำให้ได้ ติดหนึ่งในพัน ไปมิติเวท ไขว่คว้าโอกาสเอาไว้ ข้าจะต้องสำเร็จระดับลมหายใจเที่ยงแท้ใจจงได้!

ชายหนุ่มตัดสินใจอย่างมุ่งมั่น ในเกาะมหาปราชญ์ชั้นรองเองก็มีผู้คนอีกจำนวน   ไม่น้อยที่ตัดสินใจแบบเดียวกัน

แม้ว่าศิษย์จำนวนมากที่กำลังเตรียมตัวเข้าสอบต่างก็เป็นศิษย์ปีสูง ยังมีศิษย์ใหม่อยู่จำนวนหนึ่งที่เพิ่งสำเร็จขั้นผนึกกายาที่กำลังคิดจะเข้าร่วมด้วย พวกเขาตัดสินใจว่าจะลองดู หากพวกเขาจะต้องผิดหวัง พวกเขาก็ยังมีโอกาสให้ลองใหม่อีกหลายครั้ง พวกเขาคงจะรู้สึกไม่สบายใจหากจะยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้!

หนึ่งในบรรดาศิษย์เหล่านั้นคือจั่วอี้ฟาน เขาเพิ่งฝึกตนสำเร็จในโถงแสดงของสาขาการยุทธ์ เขายกมือปาดเหงื่อขณะที่ฟังเสียงประกาศจากแหวนสื่อสารไปด้วย นัยน์ตาเขาฉายแววประกาย

หนึ่งในพันหรือ…เป้าหมายของข้าคือ หนึ่งในสิบ!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ในสาขาการยุทธ์ เฉินจื่อเหิงและลู่จื่อหาวตัดสินใจแล้วเช่นกัน เฉกเช่นเดียวกันบรรดาศิษย์ในสาขาอื่นๆ เช่น ตู้หมินจากสาขาหลอมโอสถ นอกจากนั้นบนระเบียงของถ้ำที่พักในสาขาวงแหวนปราณ สาวน้อยหน้าตาสะสวย   ใส่ชุดคลุมเต๋ายืนอยู่ ผมสีดำขลับของนางโบกไสวในสายลมโกรก

สีหน้าท่าทางของนางดูเรียบง่ายแต่ก็หรูหรา ดูราวกับว่าไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใดในโลกจะกวนใจนางได้ แม้จะมีความใสซื่อในแววตาแต่ทว่ายังแฝงไว้ซึ่งความมุ่งมั่นในการฝึกตน

ด้วยพรสวรรค์และความเฉลียวฉลาด นางเป็นที่รู้จักขึ้นมาเมื่อหนึ่งปีก่อน       สำนักศึกษาเต๋ากวางขาวเองก็สยายปีกพร้อมต้อนรับนางไปเข้าร่วม แม้ว่านางจะเป็นถึงหัวหน้าศิษย์แต่นางก็ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย…นามของนางคือ เจ้าเยี่ยเหมิงนั่นเอง

“ลมหายใจเที่ยงแท้” เจ้าเยี่ยเหมิงพึมพำอยู่เบาๆ ดวงตาของนางดูสงบ สำหรับนางแล้วไม่มีความจำเป็นจะต้องคิดใคร่ครวญว่าจะเข้าร่วมการทดสอบเพื่อสำเร็จวิชาระดับลมหายใจเที่ยงแท้หรือไม่ เพราะสำหรับนางแล้วนี่คือ โชคชะตาที่ไม่อาจเลี่ยง

ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวเพื่อการสอบ ดูเหมือนกับว่าความบาดหมางระหว่างหวังเป่าเล่อและสาขาปรัชญาเต๋านั้นสงบลงไปมาก แม้จะยังไม่หายไป        เสียทีเดียว เหตุผลก็เพราะ…มีข่าวลือแพร่สะพัดออกไปว่ามีศิษย์คนหนึ่งจากสาขาปรัชญาเต๋าผู้ซึ่งใช้หวังเป่าเล่อเป็นเครื่องมือบรรลุธรรม เกิดบรรลุธรรมและสัมผัส     ถึงเต๋าได้ขึ้นมาจริงๆ ขณะนี้เขาแยกตัวไปฝึกคนเดียวแล้ว

ข่าวนี้ทำให้ศิษย์สาขาปรัชญาเต๋าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และหากไม่ใช่เพราะการสอบของสำนักศึกษาเต๋าแล้วล่ะก็ จะต้องมีคลื่นศิษย์สาขาปรัชญาเต๋าระลอกใหม่ไปใช้หวังเป่าเล่อในการบรรลุธรรมแห่งเต๋าอย่างแน่นอน กระแสนั้นแรงกว่าครั้งแรกเป็นอย่างมาก

หลังจากได้ยินข่าวนี้ หวังเป่าเล่อก็เกิดกลัวขึ้นมา เขานึกไปถึงคำเตือนของอาจารย์หัวหน้าสาขาว่าในสาขาปรัชญาเต๋านั้นมีศิษย์ถึงสองหมื่นคน หัวใจเขาเต้นแรงด้วยความกังวล

ข่าวปลอม จะต้องเป็นข่าวปลอมแน่นอน!

ภายในไม่กี่วัน ข่าวการสอบของสำนักศึกษาเต๋าก็แพร่ไปถึงทุกคน เหล่าศิษย์    เริ่มพากันมาลงทะเบียน บนยอดเขาของสาขาปรัชญาเต๋ามีส่วนหนึ่งของผา              ที่ยื่นออกมา ใต้ผานี้มีเหวลึกไร้ก้นอยู่ แต่ข้างบนนั้นเป็นท้องฟ้าสีครามและปุยเมฆขาว ยืนอยู่ตรงนั้นให้ความรู้สึกราวกับว่าจะสามารถโผบินออกไปได้

บนขอบผามีชายหนุ่มรูปงามศีรษะล้านนั่งขัดสมาธิอยู่ เขาใส่ชุดคลุมเต๋าของสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ใช่หัวหน้าศิษย์ของสาขาปรัชญาเต๋า ซ้ำยังไม่เป็นที่รู้จักในสาขาปรัชญาเต๋าเอาเสียเลย อีกทั้งยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ปะทะกับหวังเป่าเล่อด้วย ราวกับว่ายศถาบรรดาศักดิ์เหล่านั้นไม่สำคัญต่อเขาแม้           เพียงนิดเดียว

นอกจากตัวตนของเขาแล้ว โลกรอบกายเขาเปรียบประหนึ่งถ้วยเปล่าที่วางอยู่ตรงหน้า ใสบริสุทธิ์จนเกินคำบรรยาย

ในถ้วยนั้นไม่มีน้ำอยู่ แม้จะวางอยู่ตรงหน้าเขามาเป็นเวลานานแล้ว เขาเองก็นั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่นมานานแล้วเช่นกัน

ชายหนุ่มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้นมาเป็นเวลานานเท่าใด ทันใดนั้นเอง…   น้ำหยดหนึ่งปรากฎขึ้นในถ้วยเปล่าใบนั้น!

ในวินาทีที่หยดน้ำปรากฎขึ้น ชายหนุ่มยิ้มออกมาได้ และเมื่อเขายิ้มออกมานั้น    ดูราวกับว่ามีพลังชีวิตรูปแบบใหม่มาห่อหุ้มตัวเขาเอาไว้

พลังชีวิตนั้นแพร่กระจายออกไป ดอกไม้ใบหญ้ารอบตัวเขาเริ่มเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ดูราวกับว่าพืชพรรณที่รายล้อมตัวเขาอยู่นั้นโตขึ้นมาหน่อยหนึ่ง!

ในเวลาเดียวกัน จากความว่างเปล่าด้านหลังเขา ผู้เฒ่าคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นมาจากอากาศธาตุ

ผู้เฒ่าใส่ชุดคลุมเต๋าธรรมดาๆ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะปกคลุมไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แววตาของเขาก็แวววาวอย่างลุ่มลึก ปราศจากโทสะหรือความทรนง แต่ว่าหากได้มองลึกลงไปในตาเขาก็สามารถเห็นเปลวไฟที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแววตาคู่นั้น

แม้ว่าร่างของเขาจะเป็นมนุษย์เมื่อสัมผัสกับตาเนื้อ แต่ทว่าหากได้ลองยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วหลับตา จะรู้สึกราวกับมีดวงอาทิตย์มาแผดแสงจ้าอยู่ตรงหน้า          ก็ไม่ปาน!

หากหวังเป่าเล่ออยู่ที่นั่นด้วยคงจะรู้ได้ทันทีว่าแรงกดดันอันมหาศาลที่ชายผู้นี้ปล่อยออกมารุนแรงเกินกว่าผู้เฒ่ามหาปราชญ์ชั้นสูงที่ปรากฎตัวเพื่อคุยกับเจ้าสำนักด้วยซ้ำ รุนแรงราวกับว่าจะสามารถแผดเผาโลกทั้งใบได้เลย!

ยิ่งไปกว่านั้น รูปลักษณ์ของผู้เฒ่ายังไม่สะดุดตาผู้คนบนเกาะมหาปราชญ์ชั้นรองแม้สักนิด ดูราวกับว่าเขาสามารถจะซ่อนตัวได้หากเขาต้องการและจะไม่ผู้ใดบนเกาะมหาปราชญ์ชั้นรองที่จะหาเขาพบ

เขาผู้นั้นคือ…อดีตผู้นำสหพันธรัฐและผู้อาวุโสสูงสุด…หนึ่งเดียวแห่งสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์!

“ไม่เลวเลย แม้ว่าจะใช้เวลาไปไม่น้อยแต่ทว่าเจ้าก็ทำสำเร็จแล้ว” ผู้เฒ่าแย้มยิ้มก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างแช่มช้า

เมื่อเขาพูด เจ้าหนุ่มศีรษะล้านหันขวับมาทันที เมื่อเห็นผู้อาวุโสตรงหน้า เจ้าหนุ่มผุดลุกขึ้นยืนและยกมือขึ้นคารวะอย่างนอบน้อม

“ท่านอาจารย์”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมในการสอบใหญ่ของเหล่าสำนักศึกษาเต๋าหรอก       การสอบนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ศิษย์สาขาปรัชญาเต๋า สำหรับเจ้า…ข้าจะพาเจ้าไปในที่เฉพาะสำหรับศิษย์สาขาปรัชญาเต๋าเท่านั้น เป็นที่พิเศษสำหรับการฝึกตนโดยเฉพาะ!” เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดพูดจบ เขาสะบัดชายเสื้อ สิ่งรอบข้างเลือนลางลงไปในบัดดล เมื่อทุกสิ่งกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ผู้อาวุโสสูงสุดและชายหนุ่มก็หายตัวไป

ยิ่งเวลาผ่านไป เหล่าบรรดาศิษย์ของสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่ลงทะเบียนไปแล้วต่างก็ตื่นเต้นกับการเตรียมตัวสอบ ในที่สุดก็มีการประกาศวันสอบออกมา

การสอบใหญ่จะมีขึ้นในอีกห้าวัน!

จำนวนของศิษย์ที่เข้าร่วมการสอบได้รับการยืนยันมาแล้วเช่นกัน เพราะครั้งนี้เป็นการสอบที่พิเศษจึงมีผู้เข้าร่วมมากกว่าปกติถึงหนึ่งหมื่นคน ยอดรวมอยู่ที่          ห้าหมื่นคน

คนที่เพิ่มขึ้นมาหนึ่งหมื่นคนนั้นคือ ศิษย์ที่ผ่านมาห้าปีแล้วยังไม่พร้อมจะเข้าสอบ พวกเขาคิดว่าอาจจะทำสำเร็จได้ในปีนี้

แม้ว่าจะมีเพียงหนึ่งพันคนเท่านั้นที่จะผ่านไปที่มิติเวทของสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋า บรรดาศิษย์ผู้มั่นอกมั่นใจทุกคนไม่อยากปล่อยโอกาสหายากนี้ให้หลุดมือ ทุกคน     ต่างหมายมั่นจะเป็นหนึ่งในพันให้จงได้

สำหรับผู้ที่ไม่ติดหนึ่งในพันและไม่สามารถเข้ามิติเวทรวมได้ ยังมีมิติเวทเฉพาะของสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์รออยู่ แม้ว่ามาตรฐานจะเทียบไม่ติดและ              รากฐานวิญญาณที่หาพบจะยาวที่สุดเพียงห้านิ้ว แต่สำหรับคนจำนวนมากแค่ห้านิ้ว   ก็เกินพอแล้ว

เหตุที่มีผู้เข้าร่วมเพิ่มจำนวนขึ้นมากอย่างแข็งขันถึงห้าหมื่นคนเกิดขึ้นที่        สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เพราะว่าการที่สี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าเปิดมิติเวทรวมสำหรับศิษย์หลายคนแล้วนับเป็นโอกาสเดียวที่พวกเขาจะได้เข้าร่วมกิจกรรมเช่นนี้ในชีวิตการเป็นศิษย์

เพราะฉะนั้น แม้กระทั่งศิษย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนเองก็ตามดูการสอบนี้อย่างใกล้ชิด

“ข้าอยากรู้แล้วว่าใครจะติดอันดับบ้าง!”

“ไม่ต้องไปสนใจพวกศิษย์ใหม่หรอก แต่หวังเป่าเล่อ จั่วอี้ฟาน เจ้าเยี่ยเมิ่งและคนอื่นๆ ในปีสอง พวกเขามีโอกาสแน่นอน”

“อย่ามองข้ามศิษย์ปีสูงล่ะ พวกเขาอยู่ในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์มานานกว่าและฝึกตนมานานปีกว่ามาก พวกเขาไม่ยอมแพ้แน่นอน!”

ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยทั่วไประหว่างศิษย์ในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์หรือกระทั่งบนเครือข่ายวิญญาณ เรื่องของการสอบใหญ่เป็นที่กล่าวขวัญถึงไปทั่วทุกคนตลอดช่วงระยะเวลาห้าวันนั้น เมื่อถึงวันที่ความกระตือรือร้นค่อยๆ เจือจางลงอย่างช้าๆ       การสอบก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!

เมื่อวันสอบมาถึง สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ก็ประกาศกฎกติกาการสอบ!

รอบแรกเป็นการคัดเลือก จากห้าหมื่นจะเหลือสองพันคนเท่านั้นจะมีโอกาสเข้ารอบต่อไป

สำหรับหัวหน้าศิษย์ที่ลงทะเบียนมาจะไม่ต้องเข้าร่วมรอบคัดเลือก พวกเขาได้ผ่านเข้ารอบถัดไป เพื่อรอพบกับอีกสองพันคนที่ผ่านรอบนี้ไปได้ทันที

รอบถัดไปจะเป็นการคัดเลือกหนึ่งพันคนจากสองพันคนนั้น วิธีการคัดเลือกก็ไม่ได้ซับซ้อน ศิษย์สองพันคนนั้นจะได้จับสลากเลือกคู่และประลองยุทธ์กันห้ารอบ!

สถานที่คือยอดเขาของสาขาวิชาต่างๆ ในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ที่มีลานประลองยุทธ์อยู่กว่าร้อยแห่ง การเลือกสถานที่ประลองยุทธ์ก็จะใช้การจับสลากเช่นกัน

การคิดคะแนนสุดท้าย ผู้ที่ชนะการประลองยุทธ์ทั้งห้าจะติดหนึ่งในพันแน่นอน สำหรับผู้ที่ชนะสี่แพ้หนึ่งก็จะผ่านเช่นกัน สำหรับคนอื่นๆ จะต้องมาประลองยุทธ์ชิงดำกันต่อเพื่อชิงตำแหน่งที่เหลืออยู่!

กติกาเช่นนี้ช่วยซ่อนตัวตนของอันดับหนึ่งที่แท้จริง ในแง่หนึ่ง ไม่มีใครเป็นที่หนึ่ง มีเพียงหนึ่งในพันเท่านั้น! นอกจากนั้นแล้ว โชคชะตาก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญอีกด้วย!

ในไม่ช้า หลังจากการประกาศกฎกติกาเสร็จสิ้นลง ความตื่นเต้นของบรรดาศิษย์สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ในเกาะมหาปราชญ์ชั้นรองก็ถึงขีดสุด ผู้คนที่เข้าร่วมการ    สอบใหญ่ต่างก็เริ่มการประลองยุทธ์นับร้อยนัดขึ้นพร้อมๆ กัน!

เช่นนั้น การสอบเริ่มต้นขึ้น เหล่าอาจารย์ต่างก็ยุ่งวุ่นวายกับการเป็นกรรมการและการวางมาตรการป้องกันการบาดเจ็บ

ในไม่กี่อึดใจ เสียงคำรามสนั่นดังก้องมาจากทั่วทุกลานประลองยุทธ์ของ       สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เสียงโห่ร้องตะโกนปลุกใจที่ดังมาเป็นระยะสะท้อนก้องไปทั่ว

หวังเป่าเล่อไม่ได้กักตัวอยู่ในถ้ำที่พักทั้งวัน กลับกัน เขาไปเฝ้าดูการประลองยุทธ์คู่อื่นๆ ในสนาม เป้าหมายหลักของเขาคือการไปดูฝีมือของศิษย์สาขาอื่น เพราะเขาคิดว่าเขาน่าจะได้ประลองยุทธ์กับศิษย์นอกสาขาอย่างแน่นอนในรอบแรก

สาขาวงแหวนปราณ สาขาหลุมพราง สาขาหลอมโอสถ…ข้าต้องรู้รูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาให้ได้เพื่อจะชนะได้ง่ายขึ้น! หวังเป่าเล่อรู้ว่าเขาจะดูเบาคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นอันขาด เขาจึงเคี้ยวขนมไปขณะยืนอยู่ใกล้ๆ ลานประลองยุทธ์ พลางเฝ้ามองการประลองยุทธ์อย่างตั้งใจ

การประลองยุทธ์หลายนัดจัดขึ้นพร้อมๆ กันจนเขาดูไม่หมด เพราะฉะนั้นแม้เขาจะกลับไปที่ถ้ำที่พัก หวังเป่าเล่อก็ยังศึกษาวิดีทัศน์การประลองยุทธ์เหล่านี้จากบนเครือข่ายวิญญาณ จนกระทั่งเข้าใจแจ่มชัดในสิ่งที่เขาต้องทำ

เวลาผ่านไป ในที่สุดจากห้าหมื่นก็เหลือเพียงสองพันคน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!