Skip to content

อาจารย์เย็นชากับศิษย์ชั่วช้า 8

  • by
Cover Aj For Web

Chapter 8

ประมูลโอสถดุเดือด

“20 หยก” คนของสำนักซ่อนจันทร์เสนอราคาทันที คนอื่นๆ ก็เสนอราคาแข่ง “30 หยก”

“40 หยก”

“50 หยก” เมื่อราคามาถึง 50 หยกก็ไม่มีใครเสนอราคาอีก ทำให้สตรีจากสำนักซ่อนจันทร์ประมูลได้ไป

สตรีผู้ถือถาดโอสถก็เดินลงจากเวที สตรีจากสำนักซ่อนจันทร์คนหนึ่งก็ไปจ่ายค่าโอสถแล้วรับโอสถมา

สตรีถือถาดขึ้นไปบนเวที บุรุษชุดดำก็เอ่ยว่า “นี่คือโอสถ……..”

การประมูลดำเนินไปเรื่อยๆ มีโอสถบางเม็ดที่ถูกแย่งชิงกันอย่างดุเดือด จนกระทั่งถึงโอสถพิษศิลา สตรีผู้ถือถาดเดินขึ้นไปบนเวที บนถาดมีขวด 2 ขวด ผู้คนมองอย่างสงสัยใคร่รู้ บุรุษชุดดำเทโอสถออกจากขวดทั้งสองใบ ลงบนจาน 2 ใบ แล้วเอ่ยว่า “นี่คือโอสถพิษศิลาและโอสถแก้พิษศิลา”

“หือ? โอสถพิษศิลา? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย” ผู้คนพูดพลางส่ายๆ หน้า ตาก็มองโอสถอยากอย่างรู้อยากเห็น บุรุษชุดดำจึงบรรยายสรรพคุณว่า “โอสถพิษศิลานี้ทำให้ร่างกายของคนที่สูดดมเข้าไปกลายเป็นอัมพาต หากไม่ได้รับโอสถแก้พิษชนิดนี้โดยเฉพาะก็จะตกตายไป โอสถพิษศิลานี้ 1 เม็ดสามารถทำให้คนกลายเป็นอัมพาตอย่างน้อย 50 คน วิธีการใช้คือบดให้เป็นผงแล้วโปรยไปในอากาศให้คนสูดดมเข้าไป เพียงเท่านี้คนก็จะกลายเป็นอัมพาตไปอย่างช้าๆ”

“โอ”

“หือ?”

ผู้คนส่งเสียงฮือฮา มองโอสถพิษศิลาอย่างตื่นเต้น บางคนก็ยังสงสัยในสรรพคุณของโอสถ บุรุษชุดดำพูดต่อ “ส่วนนี่คือโอสถแก้พิษศิลา มีอยู่ทั้งหมด 49 เม็ด โอสถสองชนิดนี้ประมูลคู่กัน”

“จะรู้ได้อย่างไรว่าโอสถนี้เป็นอย่างที่ท่านพูดจริงๆ?” มีคนสงสัยเอ่ยปากถาม บุรุษชุดดำมองคนพูดแล้วผายมือเชิญ “เช่นนั้นเชิญท่านมาลองโอสถพิษศิลาด้วยตัวเองเถิด”

“หึ!” บุรุษชุดเทาที่เอ่ยปากถามแค่นเสียงคำหนึ่งแล้วแหวกผู้คนเดินขึ้นไปบนเวที พลัน! มีคนหนึ่งพูดขึ้นมา “จะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนๆ นั้นไม่ใช่หน้าม้าของตลาด?”

“ท่านจะขึ้นมาลองเองข้าก็ไม่ขัดข้อง” บุรุษชุดดำผายมือเชิญ ทำให้บุรุษชุดสีเปลือกไข่แหวกผู้คนแล้วเดินขึ้นไปบนเวที บุรุษชุดดำมองคน 2 คนนั้นแล้วใช้มีดขูดเม็ดโอสถพิษศิลาออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็นำผงโอสถไปให้บุรุษทั้งสองสูดดม ทั้งสองคนสูดดมโอสถพิษศิลาเข้าไปอย่างไม่เชื่อสรรพคุณนัก ผู้คนก็มองบุรุษสองคนนั้นเป็นตาเดียว

หยางซีหยุนซึ่งอยู่ในกลุ่มคนของสำนักหมื่นดารา ตั้งแต่ได้ยินชื่อโอสถเขาก็แน่ใจว่าเป็นโอสถของเจ้าศิษย์ชั่วของเขาอย่างแน่นอน เขาซึ่งเคยถูกพิษของมันมาแล้วรู้ซึ้งดียิ่งนักจนในใจเกิดความโมโหขึ้นมาอีกครั้ง เขาขบกรามกรอดๆ มือกำแน่นขึ้นมา

“หึ!” บุรุษผู้ลองโอสถทั้งสองคนแค่นเสียงคนละคำอย่างดูแคลน “ข้าว่าโอสถนี้หลอกลวงกระมัง ข้ายังไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”

บุรุษชุดเทาก้าวขาจะเดินลงจากเวที พลัน! สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเขายกเท้าไม่ขึ้น เขาก้มลงมองเท้าตัวเองที่เหมือนความรู้สึกที่เท้าหายไปราวกับมันว่างเปล่า เขาจับขาตัวเองยกขึ้นแล้ววางไปเบื้องหน้า เขายกเท้าวางได้ก็จริง แต่เท้าไร้ความรู้สึก ทำให้เขาเบิกตาโต “เท้าข้า!”

“หึ! เจ้าเล่นปาหี่ได้สมจริงดีนี่” บุรุษชุดสีเปลือกไข่แค่นเสียงดูแคลน เขายืดหลังตรงก้าวขาไปข้างหน้า เขาหน้าเปลี่ยนสีไปทันควัน

เขารู้สึกว่าเขายกขาขึ้นแต่เท้าเขากลับไม่ขยับแม้แต่น้อย มันเหมือนกลายเป็นหินไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น มันไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง!

บุรุษชุดดำคนของตลาดก็ปล่อยให้ผู้คนได้เห็นฤทธิ์ของโอสถผ่านผู้อยากลองทดสอบโอสถพิษศิลา ในเมื่อมีคนไม่เชื่อถือเช่นนั้นก็ปล่อยให้ลองเสียให้พอใจ! หึๆๆๆ…

ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนชมดูอยู่ด้านล่าง พวกเขาก็สงสัยฤทธิ์เดชของโอสถพิษศิลานี้เช่นกัน พวกเขาจึงชวนกันเดินขึ้นไปบนเวที “ข้าอยากทดสอบโอสถนี้”

“เชิญ” บุรุษชุดดำผายมือ เขาจัดแจงขูดโอสถพิษศิลาออกมาเป็นผงเล็กน้อยแล้วยื่นให้ศิษย์สำนักหมื่นดาราเหล่านั้น ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนรับไปพิจารณาส่วนผสมสมุนไพรในเม็ดโอสถ พวกเขาเขี่ยๆ เศษผงเหล่านั้นแล้วก็ยังดูไม่ออกว่าโอสถนี้ใช้สมุนไพรอะไรบ้าง ทำให้พวกเขามีสีหน้าตื่นตะลึงกันถ้วนหน้า! มีโอสถที่พวกเขามองส่วนผสมไม่ออกด้วยรึ!

คนหนึ่งก้มลงไปสูดดม เขาไม่ได้กลิ่นสมุนไพรเลยแม้แต่นิดเดียว นี่เป็นโอสถไร้กลิ่น!

เขาจ้องมองเศษผงเหล่านั้นที่ลดลงไปจนหายไปหมด เขาไม่เห็นมันสลายเป็นควันแต่อย่างใด โอสถนี้ช่างพิสดารยิ่งนัก!

เขาไม่รู้สึกแสบร้อนจมูกแม้แต่น้อย อาการต่างๆ ในร่างกายของเขาปกติมาก

“ศิษย์พี่ขอรับ เป็นอย่างไรขอรับ?” ศิษย์น้องคนหนึ่งถาม ศิษย์พี่ที่สูดดมโอสถเข้าไปตอบ “ไร้กลิ่น ไร้ควัน ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย ทุกอย่างปกติดี”

“หรือว่าจะสูดน้อยเกินไป?” ศิษย์น้องเดา บุรุษชุดดำรีบบอก “รอสักครู่เถิด”

ปริมาณผงโอสถที่เขาขูดออกมาเมื่อครู่นี้เป็นปริมาณที่เพียงพอสำหรับ 1 คนพอดี ใช้การคำนวณจากน้ำหนักของโอสถแล้วหารด้วย 49 ก็จะกลายเป็นน้ำหนัก 49 ส่วน เพราะก่อนหน้านี้ท่านซีห้าวได้ทดสอบโอสถนี้ไปแล้ว น้ำหนักจึงหายไป 1 ส่วน จาก 50 ก็เหลือ 49 อย่างไรล่ะ ตอนนี้ถูกคน 3 คนทดสอบไป ทำให้ปริมาณโอสถเหลืออยู่ 46 ส่วนจาก 50 ส่วน

“ขาข้า!” บุรุษชุดเทาพูดขึ้นมา สีหน้าเขาตื่นตะลึงยิ่งนัก เขารู้สึกว่าความรู้สึกที่ขาค่อยๆ หายไปเหมือนไร้ขาลามขึ้นมาเรื่อยๆ จากปลายเท้า เขามองโอสถแก้พิษที่อยู่ในจานแล้วมองคนของตลาด อย่างน้อยๆ คนของตลาดไม่น่าจะปล่อยให้เขาเป็นอะไรไปกระมัง บุรุษชุดดำเห็นสายตาของบุรุษชุดเทามองโอสถแก้พิษศิลาแล้วมองที่เขา เขาจึงพูดว่า “ท่านจะได้รับโอสถแก้พิษศิลา 1 เม็ด แต่ราคาที่ท่านต้องจ่ายจะเท่ากับราคาที่ปิดประมูลโอสถแก้พิษศิลา อ่อ โอสถพิษศิลานี้แม้แต่โอสถแก้พิษระดับ 5 ก็ยังไม่สามารถแก้พิษได้เลย ต้องใช้โอสถแก้พิษศิลาโดยเฉพาะจึงจะสามารถแก้พิษศิลาได้”

“อะไรนะ!” ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนอุทานออกมา “แม้แต่โอสถแก้พิษระดับ 5 ก็ยังแก้พิษไม่ได้รึ!?”

“ใช่แล้ว” บุรุษชุดดำพยักหน้ารับ หยางซีหยุนที่ยืนชมดูอยู่อยากจะบอกยิ่งนักว่าขนาดโอสถแก้พิษระดับ 9 ของเขายังแก้พิษชนิดนี้ไม่ได้เลย! แต่เขาก็พูดไม่ออกจริงๆ หากคนอื่นรู้ว่าเขาถูกพิษศิลาแล้วใช้โอสถแก้พิษของตัวเองแล้วยังแก้พิษไม่ได้ก็เป็นการเสียหน้าอย่างรุนแรงน่ะซิ ตีให้ตายเขาก็ไม่พูดออกไปเด็ดขาด เรื่องขายหน้าเช่นนี้จะพูดออกไปได้อย่างไร พูดไม่ได้! พูดไม่ได้จริงๆ!

ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนจึงเอาโอสถแก้พิษระดับ 9 ที่อาจารย์มอบให้ออกมาถือไว้อย่างเย่อหยิ่ง “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าโอสถแก้พิษระดับ 9 ของอาจารย์ข้าจะแก้พิษนี้ไม่ได้”

เขาถือเอาไว้ยังไม่กินเข้าไป เพราะอยากรู้ว่าพิษศิลานี้จะออกฤทธิ์อย่างไรบ้าง ในเมื่อลองพิษแล้วก็ต้องลองให้ถึงที่สุดซิ!

“ขาข้า!” บุรุษชุดสีเปลือกไข่อุทานออกมา เขารู้สึกเหมือน 2 ขาของตัวเองไม่มีอยู่อย่างไรอย่างนั้น เขาพยายามจะยกขาตัวเองขึ้นแต่กลับยกไม่ได้เลย มันเหมือนกลายเป็นท่อนไม้หรือไม่ก็หินไปแล้ว ช่างสมกับชื่อพิษศิลาจริงๆ เขามองโอสถพิษศิลาอย่างมาดหมาย!

เขาจะต้องประมูลมันมาให้ได้!

“หากพิษนี้ลามไปถึงอก จะทำให้หายใจไม่ออกแล้วก็ตายไปในที่สุด” บุรุษชุดดำพูดขึ้นมา นี่เป็นคำพูดที่เขาฟังมาจากท่านซีห้าวซึ่งได้ทดสอบพิษศิลาก่อนหน้านี้ ผู้คนฟังแล้วอุทานตาโต “โอ!”

“อา…!”

“หือ?”

ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนฟังแล้วดวงตาเป็นประกาย เช่นนั้นเขาก็จะรอให้พิษศิลานี้ออกฤทธิ์จนเกือบถึงอกแล้วค่อยกินโอสถของอาจารย์เข้าไป!

ผู้คนเบื้องล่างชมดูอย่างอยากรู้อยากเห็น โอสถนี้เป็นโอสถที่เพิ่งจะมี น่าจะมีใครสักคนเพิ่งหลอมได้กระมัง พวกเขารอดูผลของโอสถอย่างใจจดใจจ่อ หากว่าแม้แต่โอสถแก้พิษระดับ 9 ยังแก้โอสถชนิดนี้ไม่ได้ เช่นนั้นโอสถนี้ก็ร้ายกาจยิ่งนัก!

“มะ…มัน…ลาม…มะ…มา…ถึง…อะ…อก…” บุรุษชุดเทาพูดตะกุกตะกักอย่างหายใจไม่ออก สีหน้าเขาเริ่มเปลี่ยนไป เขาไม่ได้แกล้งทำเลยสักนิด เขาเริ่มหายใจไม่ออกจริงๆ บุรุษชุดดำรีบเอาโอสถแก้พิษศิลาใส่ปากบุรุษชุดเทาทันที บุรุษชุดเทากลืนลงไป สักพัก เขารู้สึกถึงกระแสธารอุ่นที่ค่อยๆ แผ่ไปทั่วร่าง มันค่อยๆ ขับไล่อาการไร้ความรู้สึกเมื่อครู่ออกไปทีละน้อย ทำให้เขากลับมาหายใจได้อีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนยืนอยู่ปากประตูผีเมื่อครู่ทำให้เขามองโอสถพิษศิลาตาวาววับ นี่มันโอสถพิษชั้นเลิศจริงๆ ฆ่าคนได้อย่างไร้ร่องรอย เยี่ยมๆๆ!!!

“หึ!” บุรุษชุดสีเปลือกไข่แค่นเสียงเยาะคำหนึ่ง เขาคิดว่าชายชุดสีเทานั่นจะต้องเป็นหน้าม้าของตลาดแน่นอน เขามีโอสถแก้พิษระดับ 6 อยู่ เขาไม่เชื่อหรอกว่าโอสถแก้พิษระดับ 6 ของเขาจะแก้พิษนี้ไม่ได้!

เมื่อพิษลามขึ้นมาถึงช่วงท้องส่วนบนเขาก็เอาโอสถแก้พิษระดับ 6 ออกมา “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าโอสถแก้พิษระดับ 6 ของข้าจะแก้พิษนี้ไม่ได้”

เขาพูดแล้วก็กินโอสถแก้พิษระดับ 6 เข้าไป ผู้คนที่อยู่ติดเวทีล้วนมองเห็นลายโอสถ 6 วง พวกเขาอุทานออกมา “เป็นโอสถระดับ 6 จริงๆ”

โอสถระดับ 6 ไม่ใช่ของที่มีขายดาษดื่น ราคาของมันแพงยิ่งนัก สามารถซื้อถ้ำเซียนระดับต่ำได้เลย บุรุษชุดสีเปลือกไข่กินโอสถเข้าไปแล้ว เขารอดูผลของโอสถแก้พิษระดับ 6 แต่มันก็ไม่เกิดผลอะไรเลย เหมือนขว้างหินลงน้ำสร้างแรงกระเพื่อมนิดหน่อยแล้วก็เงียบหายไป ความรู้สึกที่ไร้ความรู้สึกยังคงลามขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสีแล้ว “เป็นไปได้อย่างไร? นี่เป็นโอสถแก้พิษระดับ 6 ของท่านอาจารย์หยางเชียวนะ!”

โอสถเม็ดนี้เขาได้มาจากการไปร่วมงานประมูลโอสถของสำนักหมื่นดาราเมื่อเดือนที่แล้ว ราคาที่จ่ายไปไม่น้อยเลยจริงๆ พิษของโอสถพิษศิลายังคงลามขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงอกช่วงล่าง เขาหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง “เร็วๆ เอาโอสถแก้พิษให้ข้า!”

เขารู้สึกว่าความตายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้นเขาจึงร้องบอกอย่างไม่อายเลย เขากลัวว่าหากพิษลามถึงอกช่วงบนเขาจะต้องตายแน่นอน บุรุษชุดดำหยิบโอสถแก้พิษศิลายื่นให้บุรุษชุดสีเปลือกไข่ บุรุษชุดสีเปลือกไข่รีบคว้าโอสถแก้พิษศิลากลืนลงไปทันที สักพัก เขาก็รู้สึกถึงกระแสธารอุ่นแผ่กระจายออกไป ขับไล่อาการไร้ความรู้สึกให้หายไปทีละนิด…ทีละนิด เขามองโอสถพิษศิลาอย่างอยากได้ขึ้นมาทันที

ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนปล่อยให้พิษลามขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงอกช่วงล่างเขาจึงกินโอสถแก้พิษของอาจารย์ลงไป สีหน้าเขาเย่อหยิ่งยิ่งนัก สักพัก เขารู้สึกว่าพิษยังคงลามขึ้นมาไม่มีท่าทีว่าจะชะลอลง หรือหยุดชะงัก สีหน้าเขาพลันเปลี่ยนไป “เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นโอสถแก้พิษระดับ 9 ของอาจารย์เชียวนะ มันจะแก้พิษโอสถระดับ 1 ไม่ได้ได้อย่างไร! ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อหรอก!”

ผู้คนมองดูอย่างอยากรู้อยากเห็น พวกเขาเห็นลายโอสถเม็ดนั้นเป็นโอสถระดับ 9 จริงๆ ทำให้พวกเขารอดูอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว

หากว่าแม้แต่โอสถระดับ 9 ยังต้านพิษโอสถระดับ 1 ไม่ได้ นี่มันก็ร้ายกาจเกินไปแล้ว!

บุรุษชุดเทาที่สูดโอสถพิษศิลาเป็นคนแรกเหยียดยิ้มเยาะ เขารู้ซึ้งถึงฤทธิ์ของโอสถด้วยตัวเองจึงไม่กล้าดูถูกโอสถพิษศิลาอีกเลย หากว่าเขากินโอสถแก้พิษไม่ทันคงตกตายไปแล้วแน่นอน ช่างเป็นโอสถที่ร้ายกาจยิ่ง ข้าจะต้องประมูลมันให้ได้!

บุรุษชุดสีเปลือกไข่ก็ไม่กล้าดูแคลนโอสถพิษศิลาอีก เขามองโอสถพิษศิลาอย่างมาดหมาย ข้าจะต้องประมูลมันมาให้ได้!

“อึก!” ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนเริ่มหายใจติดขัดขึ้นมาแล้ว พวกศิษย์น้องที่อยู่ข้างๆ รีบถาม “ศิษย์พี่ ท่านเป็นอะไร?”

“อึก! ข้า…หาย…จะ…ใจ…มะ…ไม่…อะ…ออก!” ศิษย์พี่คนนั้นพยายามบอก พวกศิษย์น้องลนลานขึ้นมาแล้ว “จะทำอย่างไรดี!?ๆ”

บุรุษชุดดำรีบหยิบโอสถแก้พิษศิลาไปยัดใส่ปากศิษย์สำนักหมื่นดาราคนนั้นทันที เขาไม่อาจปล่อยให้คนๆ นี้เป็นอะไรไปได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นสำนักหมื่นดาราจะต้องมาถามหาความรับผิดชอบกับพวกเขาแน่ๆ

เมื่อศิษย์พี่คนนั้นกลืนโอสถแก้พิษศิลาลงไป สักพัก เขาก็รู้สึกถึงกระแสธารอุ่นที่ขับไล่อาการไร้ความรู้สึกให้หายไปทีละนิด ทำให้เขากลับมาหายใจได้คล่องขึ้น “อึก…”

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกหลายๆ ที ราวกับว่าหากไม่รีบสูดเข้าไปเขาจะไม่มีโอกาสสูดอีกเลย ความรู้สึกที่ยืนอยู่ปากประตูผีเมื่อครู่ทำให้เขาไม่กล้าดูแคลนโอสถพิษศิลาอีกแล้ว เขามีความมุ่งมั่นที่จะประมูลมันกลับไปศึกษาที่สำนักให้จงได้!

จะต้องรู้ให้ได้ว่ามันประกอบไปด้วยสมุนไพรอะไรบ้าง! หากรู้ส่วนประกอบพวกเขาก็ย่อมหลอมมันออกมาได้แน่นอน!

ผู้คนมองดูอย่างตะลึงลาน บางคนเกิดความคิดอยากได้โอสถพิษศิลาขึ้นมาแล้ว! โอสถที่แม้แต่โอสถแก้พิษระดับ 9 ยังไม่อาจแก้พิษได้ นี่ย่อมเป็นโอสถระดับสูงกว่าระดับ 9 แน่นอน โอสถนี้ร้ายกาจยิ่งนัก!

พวกเขาไม่คิดว่าตลาดเล่นปาหี่อะไรอีก อย่างน้อยๆ ศิษย์ของสำนักหมื่นดาราก็ล้วนเป็นคนที่เย่อหยิ่งมาก พวกเขาไม่มีทางร่วมมือกับตลาดหลอกลวงผู้คนแน่นอน โอสถพิษศิลานี้จะต้องร้ายกาจอย่างแน่แท้!

บุรุษชุดดำจับจังหวะได้ถูกจุดยิ่ง เขารีบพูดว่า “เอาล่ะ เริ่มประมูลโอสถพิษศิลากับโอสถแก้พิษได้”

“100 หยก” มีคนเสนอราคาทันที ทำให้มีเสียงดูแคลนขึ้นมา “หึ! โอสถร้ายกาจเช่นนี้เจ้าประมูลแค่ 100 ข้าให้ 1,000”

“2,000”

“2,100”

“3,000”

ราคาประมูลดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทะยานไปถึง 1 ล้าน!

“1,100,000”

“1,150,000”

“2 ล้าน!”

เมื่อราคาถึง 2 ล้าน เสียงก็เงียบกริบไปครู่หนึ่ง ผู้คนอึ้งไปที่ราคาโอสถนี้พุ่งสูงลิ่วยิ่งนัก คนที่เสนอราคา 2 ล้านก็คือศิษย์ของสำนักหมื่นดาราที่ทดสอบโอสถคนนั้น เขาหมายมั่นที่จะนำโอสถนี้ไปมอบให้อาจารย์ให้ได้!

“มีใครจะให้สูงกว่านี้อีกไหม?” บุรุษชุดดำถามพลางกวาดตามองไปรอบๆ หยางซีหยุนเอ่ยขึ้นมาน้ำเสียงเย็นชา “10 ล้าน”

“หา!” ผู้คนตกตะลึงกันถ้วนหน้า ศิษย์ของอาจารย์จงฮ่วนก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่ได้มีหยกมากไปกว่า 2 ล้านอีกแล้ว 2 ล้านนี่ถือเป็นจำนวนสูงสุดที่เขารวบรวมมาจากพวกศิษย์น้องจนเกลี้ยงถุงฟ้าดินกันแล้ว อีกทั้งคนที่เสนอราคา 10 ล้านก็คืออาจารย์หยาง! ในเมื่ออาจารย์หยางอยากได้เช่นนั้นเขาก็ต้องยอมถอยอย่างสู้ไม่ได้จริงๆ หยกพวกเขามีจำกัด แต่อาจารย์หยางมีไม่จำกัด ในสำนักยังจะมีใครร่ำรวยกว่าอาจารย์หยางอีกก็คงเป็นเจ้าสำนักที่เก็บตัวมาหลายปีเท่านั้น

“มีใครจะให้สูงกว่านี้อีกไหม?” บุรุษชุดดำถามพลางกวาดตามองไปรอบๆ จนผ่านไปพักใหญ่ก็ยังไม่มีใครเสนอราคาแข่ง เขาจึงผายมือไป “โอสถพิษศิลาเป็นของท่านแล้ว”

“หึ!” หยางซีหยุนแค่นเสียงเย็นชาคำหนึ่งแล้วเดินไปที่กระโจมเพื่อจ่ายค่าโอสถ เขาต้องการโอสถกลับไปศึกษาว่าใช้สมุนไพรอะไรบ้าง ถึงเขาจะรู้ว่าเจ้าศิษย์ชั่วเก็บสมุนไพรอะไรไปบ้างแต่เขาก็แยกไม่ออกอยู่ดีว่าโอสถเม็ดนั้นใช้สมุนไพรอะไรในการหลอม เขาจะต้องศึกษามันออกมาให้กระจ่างแจ้งเลยทีเดียว!

เฉินมู่อิ๋งก็ตกตะลึงไปเมื่อเห็นอาจารย์หยางเป็นคนเสนอราคา 10 ล้านออกมา อาจารย์หยางต้องรู้แน่ว่าโอสถนี้เขาเป็นคนหลอม แล้วเหตุใดถึงยังประมูลอีกล่ะ? หากมาขอซื้อจากเขา เขาก็คงยอมขายให้ซักสี่ห้าหมื่นกระมัง หรืออยากอวดรวย?

เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าอาจารย์หยางทำเช่นนี้เพื่ออะไร แต่ไม่ว่าจะทำเพื่ออะไรเขาก็ได้รับหยกไม่น้อยเลย กำไรแล้ว!

การประมูลโอสถยังคงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงโอสถเม็ดสุดท้าย แต่ก็ไม่มีโอสถชนิดไหนที่ประมูลออกไปได้สูงเท่าโอสถพิษศิลา โอสถนี้สร้างชื่อเสียงในเวลาไม่นานจริงๆ แน่นอนว่าชื่อเสียงของ ‘โอหยาง’ ผู้เป็นเจ้าของโอสถพิษศิลาย่อมระบือไปไกลอย่างแน่นอน

หลังจากเสร็จสิ้นการประมูล ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เฉินมู่อิ๋งก็ไม่ได้รีบไปรับค่าโอสถมา เขารอให้คนอื่นๆ เข้าไปรับค่าโอสถจนหมดแล้วเขาถึงเข้าไปเป็นคนสุดท้ายแล้วกระมัง

ภายในกระโจม ผู้ดูแลตลาดรีบลุกขึ้นยืนต้อนรับคุณชายโอหยางทันที “เชิญๆ คุณชายโอหยาง เชิญท่านนั่งก่อน”

เฉินมู่อิ๋งนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง ผู้ดูแลตลาดก็นั่งลงใกล้ๆ แล้วถามว่า “โอสถพิษศิลานี้เป็นคุณชายได้มาอย่างไรหรือ? หรือว่าท่านหลอมโอสถเอง?”

“เป็นข้าหลอม ทำไมรึ?” เฉินมู่อิ๋งย้อนถาม ผู้ดูแลตลาดรีบเสนอว่า “เช่นนั้นสมุนไพรที่ใช้หลอมต่อไปคุณชายมาซื้อจากข้าได้นะ ข้าจะลดราคาให้ท่านเป็นพิเศษเลย”

เฉินมู่อิ๋งยิ้มเย็นอยู่ใต้หน้ากาก เขารู้ดีว่าผู้ดูแลตลาดย่อมอยากรู้ว่าเขาใช้สมุนไพรอะไรในการหลอมโอสถพิษศิลาบ้าง จึงได้เสนอเช่นนี้ นี่เรียกว่าการขอดูตำราทางอ้อมอย่างไรล่ะ หากเขาซื้อสมุนไพรจากทางตลาดอย่างไร้เล่ห์เหลี่ยม ทางตลาดก็จะทราบว่าโอสถพิษศิลาใช้สมุนไพรอะไรบ้างทันที แต่เขาเป็นใคร? เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลเฉินเชียวนะ ลูกไม้ตื้นๆ แค่นี้ทำไมเขาจะดูไม่ออกล่ะ เขาจึงตอบรับน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “โอ้! ดีจริง ขอบคุณท่านมาก ว่าแต่ท่านจะลดราคาให้ข้าเท่าไหร่รึ?”

“10 ส่วนร้อย” ผู้ดูแลตลาดบอก เฉินมู่อิ๋งพูดน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย “แค่ 10 ส่วนร้อยเองรึ ข้ารึคิดว่าน่าจะ 30 ส่วนร้อย หากเป็นเช่นนั้นข้าก็ยินดีซื้อสมุนไพรจากท่าน”

“อ่า…30 ส่วนร้อย ให้ท่านไม่ได้จริงๆ เอาเช่นนี้เถอะ 15 ส่วนร้อยเถอะคุณชาย มากกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ” ผู้ดูแลตลาดเสนอ เฉินมู่อิ๋งพยักหน้าตกลง “ได้ ขอบคุณท่านมาก เช่นนั้นรบกวนท่านเตรียมสมุนไพรตามนี้ให้ข้าด้วย”

เขาบอกแล้วก็มองหาพู่กันกับกระดาษ ผู้ดูแลตลาดรีบหลิ่วตาสั่งคนข้างกายทันที บุรุษข้างกายก็รีบก้าวไปหยิบพู่กันกับกระดาษมาวางตรงหน้าคุณชายโอหยาง เฉินมู่อิ๋งหยิบพู่กันขึ้นมาจุ่มหมึกแล้วเขียนชื่อสมุนไพรที่เขาต้องการลงไป ผู้ดูแลตลาดก็มองดูอยู่เงียบๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!