ตอนที่ 1081
เรียกตะเกียงวิญญาณ ก้าวเข้าไปในอาณาจักรโบราณ!
ประตูสีแดงอาณาจักรโบราณส่งเสียงดังกระหึ่มกึกก้องขณะที่มันเปิดออก จากนั้นสายลมก็พุ่งขึ้นมา ม้วนกวาดไปยังเมิ่งฮ่าว ทำให้พลังชีวิตและวิญญาณของเขาแทบจะถูกกำจัดไปได้ทุกเมื่อ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำรามออกมา ในเวลาเดียวกันนั้น จิตใจก็เริ่มเต้นรัวอย่างรวดเร็ว และพลังของกายเนื้ออันน่าตกใจก็กลายเป็นพลังลมปราณที่พุ่งขึ้นมาเพื่อต่อสู้กลับไปยังสายลมนั้น!
ผู้ฝึกตนของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าซึ่งลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำ ต่างก็เฝ้ามองไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นนี้กันทุกคน
หลังจากที่สายลมพัดผ่านไป ก็มีบางสิ่งปรากฏขึ้นมาอย่างน่าตกใจ อยู่ภายในประตูสีแดงของอาณาจักรโบราณ นั่นก็คือ…ระฆัง!
“ระฆังแห่งอาณาจักรโบราณ!!”
“ระฆังแห่งอาณาจักรโบราณได้ปรากฏขึ้นมาแล้ว! เมื่อเคาะไปที่ระฆัง ก็สามารถจะจุดตะเกียงวิญญาณขึ้นมาได้ เคาะได้กี่ครั้ง ก็สามารถจุดตะเกียงวิญญาณขึ้นมาได้ตามจำนวนที่เคาะไปนั้น!”
“โดยทั่วไปแล้ว จะมีตะเกียงวิญญาณหนึ่งดวงต่อทุกๆ ห้าชีพจรเซียน!!”
“เมิ่งฮ่าวผู้นี้…มีหนึ่งร้อยยี่สิบสามชีพจรเซียน มัน…มันสามารถจุดตะเกียงวิญญาณได้มากกว่ายี่สิบดวง?”
“ยิ่งมีตะเกียงวิญญาณมากเท่าใด ก็ยิ่งยากที่จะเข้าไปในอาณาจักรโบราณ แต่กลับกัน ก็จะยิ่งมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น!”
ขณะที่เสียงพูดคุยด้วยความประหลาดใจดังก้องออกมา เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาไม่ได้เข้าไปในอาณาจักรโบราณด้วยพื้นฐานฝึกตน แต่ด้วยกายเนื้อของตัวเอง ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจนักว่าจะมีตะเกียงวิญญาณปรากฏขึ้นมาได้หรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น เมิ่งฮ่าวก็ไม่มีใครให้ทำตามเป็นแบบอย่างได้ ถึงแม้ว่ากายเนื้อของเขาจะเหมือนกับเป็นผู้ฝึกตนกายเนื้อ แต่จริงๆ แล้วก็มีความแตกต่างไปจากผู้ฝึกตนกายเนื้อที่แท้จริง ผู้ฝึกตนกายเนื้อจำเป็นต้องอาบไล้อยู่ในโลหิตแห่งเทพ เพื่อที่จะพุ่งขึ้นไปสู่อีกอาณาจักรหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการฝึกตนของพวกมันก็ไม่ได้ถูกแยกว่าเป็นเซียนหรือโบราณ
เมิ่งฮ่าวเดินไปบนเส้นทางที่แตกต่างกัน เป็นเส้นทางที่ห่างไกลจากเส้นทางปกติเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้เป็นผู้ฝึกตนกายเนื้อในเส้นทางโบราณ แต่เป็นการผสมรวมกันของระบบการฝึกตนที่แตกต่างกัน เขากำลังเดินไปบนเส้นทางของตัวเอง
“มาดูกันว่าข้าจะมีตะเกียงวิญญาณหรือไม่!”
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ โดยไม่ลังเลใดๆ อีก เขาก้าวเท้าเข้าไปในประตูอาณาจักรโบราณ มองเห็นระฆังขนาดใหญ่ของอาณาจักรโบราณอยู่ตรงหน้า
เขากำมือขวาเป็นหมัดจนแน่น และต่อยออกไป
เสียงระฆังดังก้องออกไป และระลอกคลื่นก็พลุ่งพล่านไปทั่วทั้งทะเลที่เก้า ทุกสิ่งทุกอย่างเลือนรางลงไป และโลกแห่งนี้ก็บิดเบี้ยวไปมา ผู้ฝึกตนทั้งหมดรู้สึกว่าจิตใจกำลังหมุนคว้าง
แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว ร่างกายแสดงให้เห็นถึงสัญญาณแห่งความแห้งเหี่ยวลงไป พลังชีวิตรวมทั้งปราณและโลหิตในตอนนี้กำลังถูกดูดซับออกไป ไม่ใช่โดยระฆังของอาณาจักรโบราณ แต่โดยกระแสน้ำวนที่คล้ายกับเป็นหลุมดำ ซึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าอกของเขา!
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และหลับตาลง ไม่นานต่อมา ภาพอันน่าตกใจก็ปรากฏขึ้นอยู่ในหน้าอกของเขา!
มันคือ…ภาพของตะเกียงวิญญาณ! ดูคล้ายกับเป็นคนตัวเล็กๆ เป็นคนที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหัวใจของเมิ่งฮ่าว!
“ตะเกียงวิญญาณปรากฏขึ้นจริงๆ!”
“การก้าวเข้าไปในกายเนื้ออาณาจักรวิญญาณ สามารถสร้างตะเกียงวิญญาณขึ้นมาได้เช่นกัน! เมิ่งฮ่าวผู้นี้ช่างต่อต้านสวรรค์อย่างแท้จริง!” สำหรับกลุ่มที่เฝ้าจับตาดู ต่างก็รู้สึกตกตะลึงขึ้นจนดูเหมือนว่ายากที่จะเชื่อได้
นั่นเป็นเพราะว่าพวกมันตระหนักว่าคนตัวเล็กๆ นั้น ซึ่งเป็นตะเกียงวิญญาณไม่ได้ลุกไหม้ขึ้นมาจริงๆ แต่กลับดับลงไปเรียบร้อยแล้ว!
คนทั้งหมดอึ้งงงงัน กล่าวกันโดยทั่วไปแล้ว การเคาะระฆังของอาณาจักรโบราณ ทำให้ตะเกียงวิญญาณที่ลุกไหม้ปรากฏขึ้นมา
หลังจากนั้นตะเกียงเหล่านั้นก็จะถูกดับลงไปทีละดวง ช่วยให้ผู้ฝึกตนมีพลังเพิ่มมากขึ้น
แต่ตะเกียงวิญญาณของเมิ่งฮ่าวได้ดับลงไปเรียบร้อยแล้ว…
เขากลับตรงกันข้ามกับคนอื่นๆ ทั้งหมด! ตะเกียงวิญญาณกายเนื้อไม่จำเป็นต้องถูกดับไป มันต้องการถูกจุดให้ติดขึ้นมา!
ดวงตาเสินซือซ่างเหรินลืมขึ้นมาในทันที แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างท่านเล็กน้อย กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ขบถโบราณ!!”
“มันคือ…ขบถโบราณ!!”
สีหน้าไม่อยากจะเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจิ่วผอ หลิงอวิ๋นจื่อหอบหายใจออกมา และมองไปด้วยความตกตะลึง สำหรับสองปรมาจารย์อสูร
พวกมันมีท่าทางคล้ายกับถูกฟาดด้วยสายฟ้า สั่นสะท้านไปทั้งร่างขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความประหลาดใจ
เมื่อตะเกียงวิญญาณของกายเนื้ออาณาจักรโบราณปรากฏขึ้น ช่างเป็นสิ่งที่น่าตกใจยิ่งด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่การที่ตะเกียงปรากฏขึ้นด้วยการดับลงไปแล้ว ทำให้ฉับพลันนั้นปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าก็นึกขึ้นได้ถึงตำนานและขั้นที่น่ากลัวของอาณาจักรโบราณ!
นั่นคือ…ขบถอาณาจักรโบราณ!
จากตำนานที่ถูกเล่าขานสืบต่อกันมา ในยุคที่รุ่งเรืองของอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่
ครั้งหนึ่งเคยมีบุคคลในอาณาจักรโบราณปรากฏขึ้นในเส้นทางตรงกันข้ามกับวิถีปกติ คือแทนที่จะดับตะเกียงวิญญาณไป แต่คนผู้นั้นกลับต้องจุดพวกมันขึ้นมา
รายละเอียดของชีวิตคนผู้นั้นถูกปกคลุมด้วยความลี้ลับ และคนในรุ่นต่อมาก็รู้เรื่องเกี่ยวกับมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งทั้งหมดที่ถูกรับรู้ก็คือว่าการเดินตามรอยเท้าของมันเป็นสิ่งต้องห้าม ผู้ยิ่งใหญ่ในเวลานั้นได้กวาดล้างข้อมูลเกี่ยวกับมันไปทั้งหมด หลังจากนั้นอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ก็ถูกทำลายไป และคำว่า ‘ขบถโบราณ’ ก็กลายเป็นคำที่รับรู้กันอยู่แต่ในสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่เท่านั้น บุคคลภายนอกไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
ในตอนที่ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าสั่นสะท้าน เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ลืมตาขึ้นมา และต่อยหมัดออกไปอีกครั้งยังระฆังของอาณาจักรโบราณ
การโจมตีนั้นทำให้ระฆังดังก้องขึ้นมา และร่างกายเมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้าน เขาแห้งเหี่ยวลงไปมากขึ้นกว่าเดิม ระลอกคลื่นแห่งความอ่อนแอทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปมา
ตะเกียงวิญญาณดวงที่สองปรากฏขึ้น ครั้งนี้อยู่ในช่องท้อง ทำการดูดซับปราณ, โลหิตและพลังชีวิตของเขามากขึ้นไปอีก!
“ตะเกียงวิญญาณกายเนื้อช่างแข็งแกร่งนัก…” เมิ่งฮ่าวคิด รีบกลืนเม็ดยาลงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นเมื่อตระหนักว่าเม็ดยานั้น…ไม่อาจจะทำอะไรได้
มันไม่อาจจะช่วยฟื้นฟูเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ก็ถูกผนึกไว้ และไม่อาจจะช่วยเขาฟื้นฟูร่างกายได้
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ไม่สนใจร่างกายที่กำลังเหี่ยวแห้งลงไป ต่อยหมัดออกไปเป็นครั้งที่สาม และจากนั้นก็สี่!
ร่างกายเขาแห้งเหี่ยวลงไปมากขึ้น จนกระทั่งดูคล้ายกับเป็นถุงหนังที่ห่อหุ้มกระดูกไว้ แต่ตะเกียงวิญญาณอีกสองดวงได้ปรากฏขึ้น อยู่บนไหล่แต่ละข้างของเขา
เมิ่งฮ่าวถอยโซเซไปทางด้านหลังเล็กน้อย รับรู้ได้ถึงความอ่อนแอที่เต็มอยู่ในร่าง จนดูเหมือนว่าได้บรรลุถึงความเข้มข้นสูงสุด แต่เขาก็ยังไม่ยอมที่จะหยุดเพียงแค่ตะเกียงวิญญาณสี่ดวงเท่านั้น กัดฟันแน่นและกู่ร้องออกมา ต่อยไปที่ระฆังอีกสามครั้ง! ทุกครั้งที่โจมตีไปทำให้ร่างกายเขาต้องแห้งเหี่ยวลงไปมากขึ้น!
ทันใดนั้น ตะเกียงวิญญาณสองดวงได้ปรากฏขึ้นตรงหัวเข่าทั้งสองข้าง และหนึ่งดวงอยู่ตรงหน้าผาก ในตอนนี้เขาดูไม่เหมือนกับผู้คนแม้แต่น้อย กลับดูเหมือนโครงกระดูกมากกว่า พลังชีวิตอ่อนแอลงไป คล้ายกับเปลวเทียนที่ใกล้จะดับลงไปได้ทุกเมื่อ!
นี่เป็นความอ่อนแอที่เมิ่งฮ่าวไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน ทำให้รู้สึกคล้ายกับเป็นชายชราที่อ่อนแอกำลังนอนรอความตายอยู่บนเตียงของตนเอง พลังชีวิตทั้งหมดของเขาถูกส่งต่อไปยังตะเกียงวิญญาณที่เกิดขึ้นมาใหม่เหล่านั้น!
หัวใจ, ท้อง, ไหล่, เข่า, หน้าผาก มีทั้งหมดเจ็ดตะเกียงวิญญาณ!
ในตอนนี้เจตจำนงของอาณาจักรโบราณ รับรู้ได้ว่าเมิ่งฮ่าวได้บรรลุถึงขีดจำกัดของตนเองแล้ว และเริ่มจางหายไป
“ข้ายังไม่เสร็จสิ้น!” เมื่อได้เห็นระฆังกำลังจางหายไป เขาก็แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา! มือทั้งสองกำแน่นจนกลายเป็นหมัด บินตรงไปยังระฆังของอาณาจักรโบราณ ทั่วทั้งร่างกายแทบจะถูกทำลายลงไป หายตัวไปในอากาศ แต่…ตะเกียงวิญญาณอีกสองดวงจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาอยู่ในดวงตาทั้งสองข้าง!
ตะเกียงวิญญาณเก้าดวง!
ตะเกียงวิญญาณของเขาไม่เหมือนกับของคนอื่นๆ พวกมันดูแตกต่างกันออกไป ตะเกียงวิญญาณของผู้อื่นมีรูปร่างเหมือนกับตะเกียงจริงๆ แต่ตะเกียงวิญญาณกายเนื้ออาณาจักรโบราณของเมิ่งฮ่าวดูคล้ายกับเป็นคน!
แต่ละคนนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น มีท่าทางเศร้าหมองและสง่างาม ดูเหมือนว่าสามารถสะกดข่มโดยที่ไม่ต้องมีโทสะใดๆ ถ้ามองดูโดยละเอียด ก็จะเห็นว่าพวกมันดูคล้ายกับเมิ่งฮ่าวเป็นอย่างยิ่ง!
เก้าตะเกียงวิญญาณกระจายไปทั่วร่างของเขา พวกมันไม่ได้หมุนวนเป็นวงกลมอยู่รอบๆ ตัว แต่…คงอยู่ที่ข้างใน!
นี่คือกายเนื้ออาณาจักรโบราณ!
แทบจะในเวลาเดียวกับที่ตะเกียงวิญญาณดวงสุดท้ายปรากฏขึ้น ระฆังของอาณาจักรโบราณก็จางหายไป และสายลมอันรุนแรงก็พัดออกมาจากด้านในของประตูขนาดใหญ่นั้น เมื่อมาสัมผัสโดนตัวเขา ร่างกายเมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้านขึ้น พลังปราณและโลหิตจำนวนมากไหลเข้ามาในร่าง
ร่างกายเมิ่งฮ่าวชุ่มโชกเต็มไปด้วยพลังนั้น คล้ายกับเป็นข้าวเปลือกหลังฝนแล้ง ประกอบไปด้วยพลังที่ไร้ขอบเขต
ซึ่งกลายเป็นพลังชีวิตอันน่าเหลือเชื่ออยู่ภายในร่าง ทำการหล่อเลี้ยงเลือดเนื้อ, เสริมสร้างกระดูก, บำรุงกายเนื้อ ทำให้ปราณและโลหิตของเขามีความก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและน่ากลัว
เขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงอันน่าเหลือเชื่อที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ เสียงแตกร้าวดังก้องออกมา และดูเหมือนว่าร่างกายก่อนหน้านี้ของเขาจะถูกปลดออกไปโดยสิ้นเชิง พลังกายเนื้อได้ผ่านจุดสูงสุดของอาณาจักรเซียนไปโดยสมบูรณ์ ก้าวเข้าไปในระดับใหม่ซึ่งก็คืออาณาจักรโบราณ!
กายเนื้ออาณาจักรโบราณปรากฏขึ้น ทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะท้านปฐพีต้องสั่นสะเทือนไปทั้งหมด ทะเลที่เก้าส่งเสียงดังกระหึ่ม และเมิ่งฮ่าวก็รับรู้ได้ถึงเก้าตะเกียงวิญญาณที่อยู่ภายในร่าง กำลังดูดซับสายลมที่กำลังพุ่งเข้ามาทั้งหมดอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่า…
พวกมันกำลังใช้พลังนั้นเพื่อทำให้ตัวเองลุกไหม้ขึ้นมา!
เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้ว่าแต่ละตะเกียงวิญญาณที่ถูกจุดติดขึ้นมา ทำให้กายเนื้อของเขายิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม!
ขณะที่สายลมพัดผ่านไป ตะเกียงวิญญาณก็เริ่มแสดงสัญญาณแห่งการลุกไหม้ขึ้นมา แต่ในที่สุดสายลมนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะจุดตะเกียงได้ทั้งหมด มีตะเกียงวิญญาณเพียงแค่สองดวงในดวงตาของเขาเท่านั้นที่เริ่มมีชีวิตขึ้นมา
ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวรู้สึกคล้ายกับมีสายฟ้านับล้านกำลังฟาดลงมาอยู่รอบๆ จิตใจ ทำให้ต้องสั่นสะท้านขึ้น รับรู้ว่าพลังของกายเนื้อกำลังพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว อากาศรอบๆ ตัวเขาบิดเบี้ยวไปมา และเมื่อเขากำหมัด อากาศก็แตกกระจายไป
เป็นความรู้สึกถึงพลังอันไร้ขอบเขต ทำให้เมิ่งฮ่าวเชื่อมั่นว่าสามารถจะสังหารผู้แข็งแกร่งอาณาจักรโบราณที่มีตะเกียงวิญญาณดับลงไปแล้วหลายดวงได้อย่างง่ายดาย ทำให้เขารู้สึกคล้ายกับว่า…พลังของหนึ่งหมัดสามารถทำให้โลกทั้งหมดนี้สั่นสะเทือนไปได้ เมิ่งฮ่าวรู้สึกว่า…มีความแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างแท้จริง!
ความแตกต่างระหว่างตัวเองในตอนนี้กับก่อนหน้านี้…ช่างห่างไกลกันอย่างน่าเหลือเชื่อ!
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และดวงตาเริ่มสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า ที่ด้านหลัง ประตูยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโบราณค่อยๆ จางหายไป ขณะที่มันหายลับตาไป ในที่สุดทะเลที่เก้าก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบดังเดิม
แต่กลับกัน จิตใจของผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่อยู่เหนือน้ำทะเลต่างก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน ภาพที่พวกมันเพิ่งจะมองเห็นด้วยสองตาของตนเอง คือสิ่งที่รวดเร็วมากที่สุดเท่าที่พวกมันเคยเห็นใครบางคนผ่านเข้าไปในอาณาจักรโบราณ และเป็นสิ่งที่น่าตกใจมากที่สุดเช่นกัน!
ความตกใจนั้นยังไม่จบลงไป และไม่อาจจะลืมเลือนไปได้เช่นเดียวกัน วันนี้อาจจะถือได้ว่าเป็นวันที่เมิ่งฮ่าวสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังขึ้นมาในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าอย่างแท้จริง และเป็นวันที่ไม่อาจจะลบเลือนไปได้ ต่อให้ผ่านไปหลายหมื่นปีจนนับไม่ถ้วนก็ตามที!
เมิ่งฮ่าวกลายเป็นลำแสงอันเจิดจ้า พุ่งกลับลงไปในทะเล ผ่านน้ำทะเลเข้าไปในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า และจากนั้นก็เข้าไปในประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองบานแรกอีกครั้ง และในที่สุดก็ไปปรากฏตัวอยู่ที่ด้านล่างของทะเลลึกในสำนัก!
คลื่นขนาดใหญ่ม้วนตัวออกไปทั่วทั้งผิวน้ำทะเล และกระแสน้ำวนก็ปรากฏขึ้นตรงส่วนลึกใต้ทะเล แต่อาณาเขตที่ด้านล่างซึ่งก่อนหน้านี้มีแรงกดดันอันมหาศาลต่อเมิ่งฮ่าว ในตอนนี้กลับแทบจะไม่มีผลต่อเขาเท่าใดนัก
หนึ่งหมื่นจ้าง, สองหมื่นจ้าง, สามหมื่นจ้าง, สี่หมื่นจ้าง…
พลังของเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นมา ขณะที่เขาพุ่งลงไปอย่างบ้าคลั่ง ในเวลาเดียวกันนั้น นามของเขาก็พุ่งขึ้นไปจากลำดับชื่อที่อยู่บนประตูแท่นศิลาตัวอักษรสีทองบานแรก ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในอันดับที่ห้า แต่รายชื่อในอันดับหนึ่งมีความลึกเพียงแค่สามหมื่นสามพันจ้างอยู่ที่ด้านข้างเท่านั้น!
เมิ่งฮ่าวมีความโดดเด่นเหนือกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมดเป็นอย่างมาก ยกเว้นเรื่องของเวลาที่ถูกใช้ไป แต่…ไม่ใช่ว่าทุกระดับความลึกต้องใช้เวลา ใครก็ตามที่สามารถจมลงไปผ่านระดับหกหมื่นจ้างได้ ก็จะทำลายสถิติของคนทั้งหมดไปในทันที และจะถูกถือว่าอยู่ในอันดับหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง!
เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ภายในร่างเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาจมลึกลงไปมากขึ้น ห้าหมื่นจ้าง…หกหมื่นจ้าง, เจ็ดหมื่นจ้าง, แปดหมื่นจ้าง…ในที่สุดเมื่อเขาบรรลุถึงระดับแปดหมื่นเจ็ดพันหนึ่งร้อยสี่สิบสามจ้าง เขาก็มองเห็นก้นทะเล และสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง
ที่ด้านนอกของประตูสีทองบานแรก แสงสีทองอันเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ได้พุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างเข้มข้น ขณะที่นามของเมิ่งฮ่าวอยู่ใน…อันดับหนึ่ง!
เมื่อผู้คนมองเห็นตัวเลขที่อยู่ข้างนามของเขา ซึ่งเป็นตัวแทนของความลึกที่เขาบรรลุถึง พวกมันต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน