ตอนที่ 1366
การต่อสู้ชี้ชะตา
ตรงด้านนอกในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว สองผู้ยิ่งใหญ่นอกคอก เสวียนฟางและหลีหลงต่างก็มีท่าทางตกตะลึง หลีหลงกำลังลังเลใจ แต่เสวียนฟางแค่ถอนหายใจเท่านั้น และแสงอันเย็นชาก็สาดประกายขึ้นในดวงตา ขณะที่ชี้นิ้วตรงขึ้นไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นที่ห้า
“สหายเต๋าหลีหลง โปรดช่วยเหลือเหล่าฟูอีกครั้ง”
หลีหลงถอนหายใจอยู่ภายในความมืดมิดที่ปกคลุมร่าง “เปิ่นจุนไม่เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ แค่บอกมาว่าต้องทำอะไรบ้าง” ด้วยเช่นนั้นมันก็โคจรหมุนวนพลังการฝึกตน จากนั้นเสียงแผดร้องที่คล้ายกับเสียงมังกรคำรามก็ดังก้องออกมาอย่างแผ่วเบา เวลาเดียวกันนั้นเงาร่างอันเลือนรางจำนวนมากก็ปรากฏขึ้น และเริ่มหมุนวนไปรอบๆ ร่างมัน ขณะที่ช่วยเสวียนฟางขยับเขยื้อนสวรรค์ชั้นห้าให้เคลื่อนที่ลงมา
ดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นห้ากระจายเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมา และจากนั้นก็เริ่มบดขยี้ตรงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล
เวลาเดียวกันนั้นพลังของราชันจักรพรรดิซากศพทั้งสิบแปดซากก็ปะทุออกไป วิญญาณไร้ร่างของพวกมันกำลังลุกไหม้ขึ้นมา ทำให้พลังแห่งฟ้าดินอันน่าเหลือเชื่อพุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นที่สาม
เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น และสีสันหลากหลายก็แวบขึ้นไป รอยแตกร้าวเริ่มกระจายออกไปทั่วทั้งสวรรค์ชั้นสาม และในที่สุดก็เริ่มแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ
สิบแปดซากศพกลายเป็นลำแสงสิบแปดสายที่ดูคล้ายกับเป็นใบมีด พุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นสี่ อย่างน่าตกใจยิ่งขณะที่พวกมันเข้าไปใกล้ดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นสี่ พวกมันก็ทำการ…ระเบิดตนเองไป!
ตูมมมมมมม!
สิบแปดซากศพใช้พลังชีวิตส่วนสุดท้ายเท่าที่มีระเบิดออกไป ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน และสวรรค์ชั้นสี่ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงแรงระเบิดนั้นไปได้ ปะทะเข้าด้วยกัน ในชั่วพริบตา…ดินแดนอันกว้างใหญ่ทั้งหมด…ก็แตกสลายไป! ไม่อาจจะรักษารูปแบบเดิมไว้ได้ แตกกระจายจนกลายเป็น…กลุ่มควันและเถ้าธุลีไป!
แม้ในขณะที่เศษชิ้นส่วนที่แตกกระจายไปของสวรรค์ชั้นสามตกลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างต่อเนื่อง รังสีกระบี่จำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาจากด้านล่างในทันที ฉับพลันนั้น…กระบี่เก้าเล่มก็พุ่งออกมาจากภายในอาณาจักรขุนเขาทะเล!
ที่รวมตัวกันอยู่บนกระบี่ทั้งเก้าเล่มเป็นเจตจำนงของผู้ฝึกตนแห่งสำนักกระบี่ไท่สิงจากขุนเขาทะเลแต่ละแห่ง เป็นของวิเศษอันล้ำค่าจากอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ กรีดเฉือนตรงไปยังเศษชิ้นส่วนของสวรรค์ชั้นสาม ทำลายพวกมันไปโดยสิ้นเชิง!
รังสีกระบี่อันเจิดจ้ากระจายเต็มไปทั่วอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำให้ทุกสรรพสิ่งเริ่มมืดสลัวลงไป
เมิ่งฮ่าวยังคงยืนอยู่บนดวงตะวัน มองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด จิตใจกำลังเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น เวลาเดียวกันนั้นดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นห้าก็ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเสวียนฟางและหลีหลง กระแทกลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล
“พวกเราจำเป็นต้องบังคับให้อาณาจักรขุนเขาทะเลใช้ทุกอย่างเท่าที่มีออกมา สวรรค์ชั้นเจ็ดและชั้นอื่นๆ ไม่อาจจะเข้าร่วมกับการต่อสู้นี้ได้ แต่พวกมันสามารถจะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้…” ดวงตาเสวียนฟางสาดประกายขึ้น ขณะที่ใช้พลังการฝึกตนทั้งหมดไปควบคุมสวรรค์ชั้นห้าต่อจากสวรรค์ชั้นสามและชั้นสี่
สวรรค์ชั้นห้ามีขนาดที่ใหญ่โตมากกว่าสวรรค์ก่อนหน้านี้ทั้งหมด และในทันทีที่มันเริ่มตกลงมา
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็ถูกบดขยี้ไป รอยแตกร้าวจำนวนมากเลื้อยออกไปทั่วทุกที่ แต่ในเวลาเดียวกันนั้น จู่ๆ ก็มีชายชราผู้หนึ่งบินออกมาจากขุนเขาแรก
ชายชราผู้นั้นมีท่าทางที่คล้ายกับเป็นเซียนผู้วิเศษ
แต่ถ้ามองดูให้ละเอียด ก็จะเห็นว่ามีรูปร่างที่โปร่งใส เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้นไม่ใช่ร่างจริง ในขณะที่ปรากฏตัวขึ้น เสียงท่องคัมภีร์สวดมนต์ก็ดังก้องออกมาจากภายในวิหารของเซียนกู่เต้าฉ่าง (พิธีเต๋าเซียนโบราณ) ซึ่งอยู่ในขุนเขาทั้งเก้าแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล
เสียงสวดนั้นดังเต็มไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล และพลังที่แปลกๆ ก็พุ่งขึ้นไป แทบจะคล้ายกับเป็นเสียงร้องเรียก เห็นได้ชัดว่าชายชราภาพลวงตานั้นกำลังถูกเรียกตัวอยู่
เมิ่งฮ่าวจดจำชายชราผู้นั้นได้ในทันที เป็นชายชราคนเดียวกับที่เคยเทศนาเกี่ยวกับเต๋า ตอนที่ตนเองอยู่ในวิหารร้างของเซียนกู่เต้าฉ่าง เป็นชายชราคนเดียวกับที่เคยเขียนตัวอักษร 仙 (เซียน) ในกลางอากาศด้วยนิ้วของท่าน
ตอนนี้ชายชราผู้นั้นลอยตัวขึ้นไปในความว่างเปล่า ราวกับว่ากำลังถูกเคลื่อนย้ายจากยุคสมัยโบราณมาปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้ ใบหน้าท่านเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน และถอนหายใจออกมา ขณะที่ยกมือขึ้นผลักตรงไปยังสวรรค์ชั้นห้าที่ใกล้เข้ามา
แค่การเคลื่อนไหวที่ธรรมดานั้น ก็ทำให้สวรรค์ชั้นห้าซึ่งเป็นดินแดนอันกว้างใหญ่ทั้งหมดต้องสั่นสะเทือนและหยุดลง จากนั้น…ด้วยความไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิงของเมิ่งฮ่าว ดินแดนอันกว้างใหญ่เริ่มแตกกระจายไป กลายเป็นเถ้าธุลีในทันที
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผู้คนไม่ทันจะมีปฏิกิริยาใดๆ แค่ท่าทางอันเรียบง่ายของชายชราผู้นั้น ก็ทำให้ดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นห้าต้อง…หายไปโดยสิ้นเชิง
จากนั้นเงาร่างของชายชราก็เริ่มจางหายไป เวลาเดียวกันนั้นผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนในวิหารเซียนกู่เต้าฉ่างแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเลก็กระอักโลหิตออกมา เป็นค่าตอบแทนที่พวกมันต้องจ่ายออกไปเพื่อเรียกให้ชายชราผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นมา
“ซากศพราชันจักรพรรดิ ของวิเศษอาณาจักรเต๋าอันน่ากลัว ภาพสะท้อนแห่งผู้ยิ่งใหญ่…อาณาจักรขุนเขาทะเลมีทรัพยากรอันลึกล้ำนัก!” เสวียนฟางจ้องมองไปยังชายชราจากเซียนกู่เต้าฉ่างที่ค่อยๆ หายตัวไป จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันบ้าคลั่ง
“พวกเราไม่อาจจะยืดการต่อสู้นี้ออกไปจนกระทั่งสวรรค์ชั้นเจ็ดและชั้นอื่นๆ มาถึง สหายเต๋าหลีหลง ในตอนนี้พวกเราได้แต่…ทุ่มออกไปจนสุดตัวเท่านั้น เพื่อไม่ให้พวกเราทั้งสองต้องถูกกำจัดไปในที่แห่งนี้!” เสวียนฟางลุกขึ้นมายืน จากนั้นก็มองไปยังทิศทางของสวรรค์ชั้นหก และกระทืบเท้าลงไปอย่างดุร้าย
ทันใดนั้นสวรรค์ชั้นหกก็เริ่มเอียงไปทางด้านข้าง หลีหลงจื้อจุนยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ถอนหายใจออกมา มันรู้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ และทั้งหมดนั้นก็เนื่องมาจากตนเอง ดังนั้นโดยไม่ลังเลใดๆ มันกระทืบเท้าลงไปด้วยเช่นกัน ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร
ดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นหกส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่ค่อยๆ เริ่มเคลื่อนที่ลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล
“การรวมพลังกันเพื่อปลดปล่อยห้าดินแดนอันกว้างใหญ่ของพวกเรา ไม่เพียงพอที่จะทำลายแม้แต่ด่านป้องกันแรกของพวกมัน จากทรัพยากรของอาณาจักรขุนเขาทะเลที่มีอยู่ในมือตอนนี้…พวกเรายังเตรียมตัวมาไม่ดีพอที่จะเอาชนะได้” เสวียนฟางกล่าวขึ้น
“แต่อย่าได้ออมรั้งยั้งมือใดๆ สหายเต๋าหลีหลง พวกเราต้องทุ่มจนสุดตัว มาดูกันว่า…พวกเราจะสามารถทำลายด่านป้องกันแรกนี้ได้หรือไม่!? มาดูกันว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลจะมีกลยุทธ์ใดเหลืออยู่อีกที่จะมาต่อต้านพวกเรา…”
“ยิ่งพวกมันใช้ทรัพยากรออกมามากขึ้นในตอนนี้ ก็ยิ่งเป็นเรื่องง่ายสำหรับสวรรค์ชั้นเจ็ดและชั้นอื่นๆ ที่เตรียมตัวไปเผชิญหน้ากับพวกมันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเลต้องพ่ายแพ้ไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น” ดวงตาเสวียนฟางสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ขณะที่ตนเองและหลีหลงบังคับให้สวรรค์ชั้นหกตกลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล
เวลาเดียวกันนั้น กองกำลังสุดท้ายนับล้านของกลุ่มคนนอกคอก ก็พุ่งไปตามทิศทางที่ถูกสั่งการมาจากเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของเสวียนฟาง ห้อมล้อมอยู่รอบๆ สวรรค์ชั้นหก รวมพลังกันเพื่อบดขยี้ลงไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล
นี่คือ…การต่อสู้เพื่อชี้ชะตา!
เพียงชั่วขณะเท่านั้นกองกำลังเสริมของอาณาจักรขุนเขาทะเลก็ขยับตัวเคลื่อนไหว ขณะที่สวรรค์ชั้นหกเริ่มตกลงมา มังกรทะเลหนึ่งแสนตัวที่อยู่ด้านล่างประตูของอาณาจักรแห่งท้องทะเลก็แผดร้องคำราม และบินขึ้นไปปะทะด้วย
อย่างไรก็ตามขณะที่พวกมันเข้าไปใกล้
รังสีสังหารก็แวบขึ้นมาในแววตาของหลีหลงจื้อจุนแห่งสวรรค์ชั้นหก มันโบกสะบัดมือขวาออกไปในอากาศอย่างดุร้าย และเสียงแผดร้องคำรามของมังกรก็ได้ยินออกมาจากความมืดมิดที่ปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวมัน ทันใดนั้นปีศาจมังกรสีดำสนิทก็ร้องคำรามออกมา มีความยาวถึงหนึ่งหมื่นจ้างเต็ม การปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของมัน ทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือนอย่างรุนแรง และทำให้มังกรทะเลทั้งหนึ่งแสนตัวต้องแผดร้องคำรามด้วยโทสะออกมา
เสียงระเบิดดังก้องขึ้น ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน
เวลาเดียวกันนั้นหลีหลงจื้อจุนก็ปะทุขึ้นด้วยพลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ถึงแม้ว่ามันจะไม่เชี่ยวชาญด้านการวางแผนกลยุทธ์ แต่ก็เป็นผู้เก่งกาจในเรื่องของ…การสังหาร!
ในทันทีที่มันโบกสะบัดมือออกไป เสียงแผดร้องคำรามของมังกรปีศาจสีดำก็ทำให้มังกรทะเลเริ่มสั่นสะท้าน ในชั่วพริบตาเนื้อหนังของพวกมันก็ถูกแล่ออกมาจากร่างกาย จนเหลือแต่โครงกระดูก และจากนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นเถ้าธุลีไป
ต่อมามังกรปีศาจสีดำก็พุ่งตรงไปยังประตูของอาณาจักรแห่งท้องทะเล
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่จู่ๆ ประตูก็ถูกกระแทกให้เปิดออก และมังกรทะเลขนาดใหญ่มหึมายาวถึงหนึ่งหมื่นจ้างก็บินออกมา มังกรทะเลตัวนี้ไม่มีเลือดเนื้อ และถูกสร้างขึ้นมาจากโครงกระดูกเท่านั้น!
ในทันทีที่มันบินออกมา เศษเลือดเนื้อที่กระจัดกระจายออกไปของมังกรทะเลตัวอื่นๆ รวมทั้งเถ้าธุลีจากกระดูกของพวกมัน ก็ลอยมาปกคลุมไปทั่วโครงกระดูกของมังกรทะเลยักษ์ตัวนี้ในทันที ตอนนี้มันมีร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อแล้ว พุ่งตรงไปยังมังกรปีศาจพร้อมกับแผดร้องคำรามออกมา
ในตอนนี้เองที่ไห่เมิ่งจื้อจุนได้บินออกไปพร้อมกับผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเมิ่งฮ่าว และเมิ่งฮ่าวก็พุ่งออกมาจากดวงตะวันด้วยเช่นกัน มุ่งหน้าตรงไปยังสนามรบ
กระบี่ทั้งเก้าเล่มจากสำนักกระบี่ไท่สิงแหวกฝ่าความว่างเปล่าตรงขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นหกอันกว้างใหญ่
ตรงส่วนลึกของอาณาจักรขุนเขาทะเล เสียงสวดมนต์ท่องคัมภีร์ดังขึ้นมาอีกครั้ง จากวิหารของเซียนกู่เต้าฉ่าง
ครั้งนี้บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นในกลางอากาศ พร้อมด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า และถือหอกยาวอยู่ในมือก้าวเดินตรงไป และเริ่มสังหารกลุ่มคนนอกคอกในทันที
เวลาเดียวกันนั้นหลีหลงจื้อจุนก็ก้าวเดินตรงไป กลายเป็นร่างจำแลงสามร่าง หนึ่งร่างมุ่งหน้าตรงไปยังไห่เมิ่งจื้อจุน และอีกร่างตรงไปยังผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด
ร่างจำแลงสุดท้ายกลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งตรงไปยังกระบี่ทั้งเก้าเล่ม แสงสีดำที่ปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวมันแตกกระจายไป กลายเป็นเศษชิ้นส่วนที่หมุนวนตรงไปยังเก้ากระบี่ จากนั้นก็รวมตัวกันกลายเป็นเกราะป้องกันเพื่อกักกระบี่ทั้งเก้าเล่มไว้ภายใน
โดยที่ไม่มีแสงสีดำปกคลุมร่างกาย หลีหลงจื้อจุนในตอนนี้จึงเผยรูปร่างหน้าตาให้คนทั้งหมดได้เห็น มันมีร่างกายที่ใหญ่โต มีสามเศียร โดยที่เศียรทั้งสองข้างยังคงหลับตาอยู่ ดวงตาของศีรษะตรงกลางสาดประกายเจิดจ้าขึ้นด้วยแสงสีแดง จ้องนิ่งตรงไปยังบุรุษวัยกลางคนที่เซียนกู่เต้าฉ่างเรียกมา
ในที่สุดแสงของวิชาเวทก็พุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า
ขณะที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เสวียนฟางก็เริ่มมุ่งหน้าตรงไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็ว
เนื่องด้วยกองกำลังหลักทั้งหมดของอาณาจักรขุนเขาทะเลถูกตรึงไว้ ทำให้ไม่มีทางจะหยุดสวรรค์ชั้นหกได้ เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่มันกระแทกเข้าไปในขุนเขาแรก ขุนเขาสั่นสะเทือนและเสียงแตกร้าวก็กระจายออกมา เกิดเป็นรอยแตกขึ้น จากนั้นดินแดนอันกว้างใหญ่ก็กระแทกลงไปยังขุนเขาแรกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง…ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง!
ในตอนนี้ดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นหกถูกทำลายไปเป็นส่วนใหญ่ เศษหินดินทรายจำนวนมากเริ่มตกลงไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเลที่เหลือ
ค่ายกลเวทของทะเลที่สองทำงานขึ้นมาในทันที ทำให้ทะเลที่สองพังทลายลงไป ขณะที่ปิดกั้นการตกลงมาของเศษชิ้นส่วนเหล่านั้น
ขุนเขาถูกบดขยี้และทะลกำลังถูกกำจัดไป!
เมื่อทะเลที่สองพังทลายลงไปเพื่อปิดกั้นการตกลงมาของเศษชิ้นส่วนเหล่านั้น
ตี้จ้างกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนดวงจันทร์ เมื่อท่านลืมตาขึ้นมา ก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา และกระตุ้นให้เกราะป้องกันทำงานขึ้นมาในทันที ถึงแม้ว่าจะต้องบาดเจ็บจากการกระทำเช่นนี้ก็ตาม
เกราะป้องกันเปล่งแสงระยิบระยับปรากฏขึ้นตรงด้านบนของทะเลที่สอง และเศษชิ้นส่วนที่ตกลงมาก็กระแทกลงไปในทันที ทำให้กลายเป็นเถ้าธุลีไป
การป้องกันยืดขยายออกไป วิกฤตอันตรายจากสวรรค์ชั้นหกยุติลง!
“ในที่สุดก็ทำได้แค่นี้…?” เสวียนฟางกล่าว ถอนหายใจออกมา กองกำลังสุดท้ายของกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่ด้านหลัง พุ่งเข้ามายังผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล เกิดเป็นการต่อสู้อย่างโหดเหี้ยมดุร้ายขึ้นมาในทันที เวลาเดียวกันนั้นความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วทุกสรรพสิ่งที่อยู่ด้านหลังทะเลที่สอง ไม่มีกลยุทธ์หรือวิธีการที่พิเศษเฉพาะใดๆ ถูกใช้ออกมา
“ยังไม่ใช้กองกำลังสำรองออกมาอีก? ถ้าเช่นนั้น…”
เสวียนฟางใช้มือขวาขยับร่ายเวท และชี้ตรงไปยังทิศทางของเมิ่งฮ่าว แต่เมื่อเมิ่งฮ่าวกำลังจะขยับตัวเคลื่อนไหว เสวียนฟางก็ดึงมือกลับไป หัวเราะขึ้น
“ข้าไม่สนว่าสวรรค์ชั้นเจ็ดจะใช้กลยุทธ์อะไร หรือสวรรค์ชั้นอื่นๆ จะมีวิธีการอย่างไร พวกมันคงจะยังไม่มาในตอนนี้ ดังนั้น…เมื่อขุนเขาทะเลไม่ยอมเปิดเผยทรัพยากรอื่นๆ อีก ถ้าเช่นนั้น…เด็กผู้นี้พร้อมทั้งดวงตะวันและจันทรา ต้องถูกทำลายไป!” “จัดตั้งค่ายกลกักเซียน!!”