Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1440

ตอนที่ 1440

ห้าราชันผู้ยิ่งใหญ่

ภาพอันน่าตกใจที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้ากลุ่มผู้ฝึกตนแห่งชางหมางพ่ายนี้ เป็นสิ่งที่พวกมันไม่มีทางจะลืมเลือนไปได้ตลอดชั่วชีวิตนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราชันผู้ยิ่งใหญ่คนที่ห้าได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนดาวชางหมางแล้ว!

ก่อนหน้านี้ดาวชางหมางมีผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้เพียงแค่สี่คน เหมือนกับเป็นสี่ราชันผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถจะสร้างความสั่นสะเทือนให้ได้ แต่ละคนต่างก็เป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุด

กลุ่มคนทั้งสี่ประกอบด้วยซาจิ่วตง, จินหยุนซาน, เจ้าสำนัก และเซียนไป๋อู้เฉิน พวกมันคือผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากที่สุดบนดาวชางหมาง และมีโอกาสที่จะบรรลุถึงระดับเหนือสูงสุดได้ทั้งหมด

ผู้ฝึกตนเก้าแก่นแท้คนอื่นๆ ต่างก็ไร้ทางเลือกนอกจากต้องก้มศีรษะลงเพื่อคล้อยตามพวกมันเท่านั้น

แต่จากการต่อสู้ระหว่างเมิ่งฮ่าวและจินหยุนซาน ตอนที่เมิ่งฮ่าวกลายร่างเป็นวิหคยักษ์สีดำ และปลดปล่อยแปดเวทผนึกที่หลอมรวมเข้าด้วยกันออกมา คนทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง

ที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้

การโจมตีจากโลกแห่งนี้ และภูตผีนับไม่ถ้วนก็กรีดร้องออกมา จวบจนกระทั่งถึงตอนนี้จินหยุนซานมักจะได้เปรียบอยู่ตลอดเวลา แต่ในตอนนี้เองที่โลหิตกำลังพุ่งออกมาจากบาดแผลของมัน ขณะที่ถูกโจมตีมาโดยเสียงกรีดร้องอย่างไม่มีวันจบสิ้นของกลุ่มภูตผี มันกำลังโซเซไปมาจนแทบจะล้มลงไป และแก่นแท้ที่มันหลอมรวมเข้าไปในโลกแห่งนี้ ก็ต้องพบเจอกับพลังขับไล่อยู่ในตอนนี้!

สายลมกำลังขับไล่มัน ธาตุทั้งห้ากำลังขับไล่มัน เช่นเดียวกับพื้นดิน, ท้องฟ้า และสายฟ้า ทั่วทั้งโลกแห่งนี้ระเบิดเป็นพลังแห่งการขับไล่ออกมา

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อจินหยุนซานกระอักโลหิตออกมา สั่นสะท้านถอยโซเซไปทางด้านหลัง เหล่าภูตผีนับไม่ถ้วนกำลังโจมตีมายังมันด้วยความคลุ้มคลั่งโดยสิ้นเชิง อากาศรอบๆ ตัวบิดเบี้ยวไปมา และใบหน้าของจินหยุนซานก็ซีดขาวไปโดยสิ้นเชิง ขณะที่แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา ไม่มีอะไรที่มันจะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้อย่างแท้จริง

ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงได้บรรลุถึงจุดสูงสุด มันไม่อาจจะทำอะไรเพื่อต่อสู้กลับไปได้ และความจริงแล้วแม้แต่การดิ้นรนต่อต้านก็ยังไม่อาจจะทำได้ มันอาจจะกลายเป็นโลกแห่งนี้ แต่กลุ่มภูตผีเหล่านี้ก็เป็นเจ้าของโลกใบนี้!

และจักรพรรดิของภูตผีเหล่านี้ก็คือเมิ่งฮ่าว เจตจำนงของเมิ่งฮ่าวคือตัวแทนเจตจำนงแห่งภูตผีทั้งปวง

เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกไป

ขณะที่รอบๆ บริเวณนั้นสั่นสะเทือนไปมา จิตใจจินหยุนซานก็สั่นสะท้าน แก่นแท้ที่มันใส่เข้าไปในสายลมกำลังถูกขับไล่ออกมา และก่อนที่มันจะทันได้ทำสิ่งใดๆ เพื่อรวมรวมแก่นแท้นั้น เสียงระเบิดก็ดังก้องอยู่ในจิตใจ และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากมัน ขณะที่แก่นแท้นั้นหายไป

ในชั่วพริบตามันก็ไม่อาจจะควบคุมโลกแห่งนี้ได้อีกต่อไป และสายลมก็ไม่ได้เป็นของมันอีกแล้ว

“เจ้าเป็นใคร? เจ้าคือใครกันแน่?!?!”

จินหยุนซานแผดร้องออกมา มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่ออย่างแท้จริง

ขณะที่มันถอยโซเซไปทางด้านหลัง เหล่าภูตผีก็ยังคงโจมตีมาอย่างต่อเนื่องด้วยความบ้าคลั่งโดยสิ้นเชิง

ไม่ใช่ว่ามันไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในความว่างเปล่าตรงด้านนอกของดินแดนอันกว้างใหญ่นี้ เมื่อเหล่าภูตผีพุ่งตรงมากราบกรานต่อเมิ่งฮ่าว แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือว่าจำนวนของกลุ่มภูตผีเหล่านั้นคล้ายกับเป็นแสงหิ่งห้อยที่ไม่อาจจะเทียบได้กับแสงจันทรา

มันไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าเมิ่งฮ่าวสามารถกระทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร ที่น่าหวาดกลัวมากไปกว่านั้นก็คือว่า จำนวนของเหล่าภูตผีมีแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หนังศีรษะจินหยุนซานต้องด้านชาขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

ในตอนนี้เองที่พื้นดินเริ่มสั่นไหวไปมา และจินหยุนซานก็รู้สึกว่าแก่นแท้ที่มันใส่เข้าไปในพื้นดินกำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

จากนั้นการเชื่อมต่อระหว่างตนเองและพื้นดินก็ฉีกขาดออก จินหยุนซานรู้สึกราวกับว่าจิตใจกำลังถูกฉีกกระชาก และต้องกระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง

แต่โชคร้ายที่มันไม่อาจจะทำอะไรเพื่อหยุดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้ ได้แต่มองไปขณะที่แก่นแท้ที่สามซึ่งมันส่งเข้าไปในต้นไม้ใบหญ้าถูกขับไล่ออกมา

จากนั้นแก่นแท้ที่สี่อันน่ากลัวของมันก็โผล่ออกมาจากเปลวไฟปฐพี ต้องพบเจอกับเรื่องเดียวกัน หลังจากนั้นก็เป็นน้ำที่อยู่ในโลกแห่งนี้

หลังจากที่แก่นแท้เหล่านั้นถูกขับไล่ออกมา ความรู้สึกถูกฉีกกระชากก็ยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น จนกระทั่งรู้สึกว่าตนเองไม่สอดคล้องกับโลกแห่งนี้ไปโดยสิ้นเชิง!

ภูตผีกำลังกรีดร้องออกมา ขณะที่หมุนวนไปรอบๆ ท่ามกลางกองกำลังเหล่านั้นมีเงาร่างอันน่ากลัวเป็นพิเศษอยู่บางเงาร่าง ซึ่งกวาดต้อนให้กลุ่มภูตผีพุ่งตรงไปโจมตี ทำให้จินหยุนซานไร้ทางเลือกนอกจากต้องล่าถอยไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

จากนั้นแก่นแท้ที่แปดซึ่งมันหลอมรวมเข้ากับท้องฟ้า ก็ถูกกรีดเฉือนออกไปราวกับมีใบมีดที่มองไม่เห็นกำลังตัดมันออกไป จากนั้นก็เป็นแก่นแท้ที่เก้าซึ่งอยู่ในสายฟ้า จินหยุนซานกระอักโลหิตออกมากองโต และร่างกายก็เซื่องซึมไร้เรี่ยวแรง ไม่ได้ดูโปร่งใสอีกต่อไป แต่ถูกโลกแห่งนี้ขับไล่ออกมาโดยสิ้นเชิง

ราวกับว่ามันถูกเท้ายักษ์บดขยี้ไปมา

การเปลี่ยนแปลงความว่างเปล่าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นไพ่ไม้ตายที่ทรงพลังมากที่สุดของมัน ถูกบดขยี้ไปราวกับเป็นกิ่งไม้ผุด้วยการโบกสะบัดมือไปตามปกติธรรมดาของเมิ่งฮ่าว ทำให้มันไม่มีแม้แต่พลังที่จะต่อสู้กลับไป

“ถ้าไม่อยู่ในที่แห่งนี้ เจ้าไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้!!” จินหยุนซานแผดร้องออกมา หลังจากที่ถูกโลกแห่งนี้ขับไล่ออกมา จินหยุนซานก็ถอยโซเซไปทางด้านหลังอีกครั้ง แต่เหล่าภูตผีก็ยังไม่หยุดโจมตีมา

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความต้องการสังหาร ยกมือขวาขึ้นมาและชี้ตรงไปยังจินหยุนซาน ทำให้กลุ่มภูตผียิ่งมีความบ้าคลั่งมากขึ้นกว่าเดิม ส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงไปยังจินหยุนซานเพื่อโจมตีอย่างต่อเนื่อง

“ไม่!!” มันแผดร้องออกมา ความรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่ธรรมดาพุ่งขึ้นมาอยู่ในจิตใจ รีบขยับสองมือร่ายเวททำให้เกราะป้องกันนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว เกราะป้องกันเหล่านั้นแตกกระจายไปทีละชั้น และร่างมันก็ลอยไปทางด้านหลัง ใบหน้าซีดขาวมีท่าทางสิ้นหวังและไม่ยินยอมพร้อมใจ

อันที่จริงเมื่อครู่นี้มันได้พูดถูกต้องแล้ว ถ้าไม่อยู่ในสถานที่แห่งนี้เมิ่งฮ่าวก็คงยากที่จะรับมือกับวิชาเวทของมัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็คงจะต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาอย่างสูงลิ่วที่จะทำเช่นนั้น ไม่ใช่เพียงแค่โบกสะบัดมือออกไปตามธรรมดาเหมือนที่เพิ่งจะทำมา

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อเกราะป้องกันที่อยู่รอบๆ ตัวจินหยุนซานพังทลายลงไป ในตอนนี้เองที่จู่ๆ เจ้าสำนักก็บินไปปรากฏขึ้นที่ข้างกายจินหยุนซาน โบกสะบัดชายแขนเสื้อ ปลดปล่อยพลังการฝึกตนขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้ออกไป เพื่อช่วยจินหยุนซานต่อต้านกับเหล่าภูตผีอันดุร้าย

เวลาเดียวกันนั้น ซาจิ่วตงก็พุ่งทะยานตรงไปปรากฏกายขึ้นยังอีกด้านของ

จินหยุนซาน ด้วยสีหน้าบึ้งตึงขณะที่โบกสะบัดมือออกไปเช่นเดียวกัน ปลดปล่อยเป็นพลังการฝึกตนที่ทำให้พายุทรายพุ่งขึ้นมาเพื่อปกป้องจินหยุนซานไว้ภายใน

แต่ขณะที่ผู้แข็งแกร่งทรงพลังทั้งสามร่วมมือกัน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้กองกำลังของเหล่าภูตผีต้องสั่นสะท้าน พวกมันเริ่มตกอยู่ภายใต้การโจมตีของเหล่าภูตผี ปราณและโลหิตกำลังเดือดพล่าน พื้นฐานฝึกตนกำลังสั่นสะท้าน

“พวกเจ้าที่เหลือกำลังทำอะไรกันอยู่? จะรอดูสหายเต๋าจินถูกสังหารไปหรืออย่างไร!?!? เหลาจิ่ว ยั้งมือด้วย!!” เจ้าสำนักแผดร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่เร่งร้อน

ซาจิ่วตงไม่พูดอะไรออกมา แต่ความขมขื่นก็เต็มอยู่ในจิตใจ มันและคนอื่นๆ กัดฟันแน่น บินออกไปปรากฏตัวขึ้นอยู่รอบๆ กายจินหยุนซาน ทุ่มพลังออกไปเพื่อพยายามต่อต้าน ปลดปล่อยพลังการฝึกตนเพื่อสร้างเป็นลมพายุอันแข็งแกร่งเพื่อปิดกั้นกลุ่มภูตผีเหล่านั้นไว้

การรวมพลังกันเช่นนี้ทำให้กลุ่มภูตผีหยุดชะงักไปแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ภูตผีเหล่านี้เป็นตัวแทนพลังชีวิตของดินแดนอันกว้างใหญ่ทั้งปวง และประกอบไปด้วยบางสิ่งที่ทรงพลังอย่างสูงสุดด้วยเช่นกัน เมื่อพวกมันโจมตีลงไปยังลมพายุนั้นอย่างต่อเนื่อง ลมพายุก็เริ่มแวบประกายขึ้นราวกับเป็นเปลวไฟที่ใกล้จะมอดดับลงไป

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่กลางอากาศ รู้สึกไม่สบายใจขึ้นเล็กน้อยขณะที่มองไปยังสิ่งทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้

กลุ่มภูตผีของสุสานแห่งนี้โดยแท้จริงแล้วก็มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เมิ่งฮ่าวสันนิษฐานว่าต้องมีบางสิ่งที่เป็นสาเหตุแห่งการตายของพวกมัน

“เหลาจิ่ว สหายเต๋าจินมีความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทที่จะช่วยพวกเราในดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งอื่น ถ้าเจ้ากำจัดมันไป ก็เป็นเรื่องยากที่พวกเราจะบรรลุถึงดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งที่เก้าได้”

จินหยุนซานรักษาความเงียบไว้ ใบหน้าซีดขาวขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว เห็นได้ชัดถึงความรู้สึกอันซับซ้อน ถึงแม้ว่ามันไม่ต้องการจะยอมจำนน แต่ก็รู้ว่ามีโอกาสสูงมากที่ตนเองจะถูกกำจัดไป

ในที่สุดจินหยุนซานก็ถอนหายใจออกมา มันเป็นคนที่แน่วแน่เด็ดเดี่ยว ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะไม่ยอมหยุดจนกว่าตนเองจะตายไป มันก็ไม่สนใจ ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับเมิ่งฮ่าว ไม่พูดจาใดๆ แค่ใช้การกระทำเพื่ออธิบายถึงความคิดของตนเอง

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว เป็นความจริงที่เขาต้องการให้จินหยุนซานตายไป และคงจะทำได้ยากถ้าเมื่อไหร่ที่คนทั้งหมดออกไปจากเขตสุสานแห่งนี้ แต่ถ้าเขาสังหารมันไปในตอนนี้จริงๆ ก็คงจะทำให้คนทั้งหมดจากชางหมางพ่ายต้องมีโทสะขึ้นมา นั่นไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เมิ่งฮ่าวต้องการ

ขณะที่เมิ่งฮ่าวพิจารณาถึงเรื่องนี้ เจ้าสำนักก็กัดฟันแน่นและกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

“เหลาจิ่ว เหล่าฟูเข้าใจว่าเจ้าไม่พอใจในเรื่องบางอย่าง ดังนั้นเหล่าฟูขอสาบานด้วยเต๋าว่าถ้าจินหยุนซานไปหาเรื่องเจ้าอีกครั้ง เหล่าฟูก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าเพื่อบดขยี้มัน!”

“ซาโหม่วก็เช่นกัน” ซาจิ่วตงกล่าวขึ้น ในตอนนี้มันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของเมิ่งฮ่าว การต่อสู้นี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเขามีคุณสมบัติที่แท้จริงในการยืนบนระดับเดียวกันกับสี่ราชันผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ

จินหยุนซานฝืนยิ้มออกมาและพยักหน้าให้

เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เมิ่งฮ่าวก็ยังคงต้องการสังหารมัน แต่หลังจากที่พิจารณาแล้ว ก็จำเป็นต้องยกเลิกความคิดนั้นไป

“เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ปล่อยวางเรื่องนี้ไป แต่คงไม่อาจจะปล่อยไปอย่างง่ายดายเช่นนั้น ก่อนหน้านี้เปิ่นจุนเกือบตายไปแล้ว สหายเต๋าจินต้องขอโทษเกี่ยวกับเรื่องนี้” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ

จินหยุนซานแอบถอนหายใจ รู้ดีว่าในตอนนี้เมิ่งฮ่าวเป็นฝ่ายได้เปรียบ และตนเองก็ไม่อาจจะทำอะไรเพื่อต่อสู้กลับไปได้ จึงกัดฟันแน่นทำท่าคว้าจับออกไป ทำให้กำไลวงหนึ่งปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า

“สหายเต๋าเมิ่งโปรดรับของชิ้นนี้ไว้ เพื่อชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้น” มันโบกสะบัดมือออกไป ทำให้กำไลวงนั้นพุ่งฝ่าลมพายุออกมาลอยอยู่ที่เบื้องหน้า เมิ่งฮ่าวใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดผ่านไป ก็พบว่าภายในนั้นมีถุงสมบัติที่เต็มไปด้วยหยกเซียนนับไม่ถ้วน รวมทั้งของวิเศษอันล้ำค่าอื่นๆ อีกมากมาย หลังจากที่มองไป เมิ่งฮ่าวก็พยักหน้าให้และเก็บมันไว้

ด้วยเช่นนั้นเขาก็โบกสะบัดมือออกไป ทำให้เหล่าภูตผีล่าถอยจากไป โค้งตัวลงให้กับเมิ่งฮ่าวอยู่ตลอดเวลา

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่นคล้ายกับเป็นจักรพรรดิของโลกแห่งนี้ กลุ่มคนจากชางหมางพ่ายไม่มีทางจะลืมเลือนเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปได้

การต่อสู้นี้ช่วยผลักดันเมิ่งฮ่าวจากตี้จิ่วจื้อจุน ให้กลายเป็นหนึ่งในห้าราชันผู้ยิ่งใหญ่แห่งดาวชางหมาง

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวมีศักดิ์ฐานะที่สูงส่งเทียบเท่ากับเจ้าสำนัก อันที่จริงการต่อสู้กับจินหยุนซานทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีผู้แข็งแกร่งทรงพลังคนใดแห่งชางหมางพ่ายจะกล้ามาตอแยเมิ่งฮ่าว อย่างน้อยก็ไม่มีในเขตสุสานแห่งนี้

เมื่ออยู่ตรงด้านนอกเขตสุสานเมิ่งฮ่าวคือผู้แข็งแกร่งทรงพลัง และเมื่อเข้ามาในเขตสุสานแห่งนี้ เมิ่งฮ่าวก็ใช้การต่อสู้เพื่อบอกให้คนทั้งหมดรู้ว่า ในที่แห่งนี้เขาคือ…องค์จักรพรรดิ!

กองกำลังภูตผีเหล่านี้ทำให้เมิ่งฮ่าวกลายเป็นผู้ที่ไร้พ่าย เป็นผู้ที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version