Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1462

ตอนที่ 1462

สร้างตำนาน

เมิ่งฮ่าวกำลังฉ้อโกงอยู่จริงๆ บนชั้นแรก เขาพึ่งพาพลังแห่งเจตจำนงและพลังจิต จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของร่างจริง จึงไม่มีอะไรที่จะเหนือกว่าเขาในเรื่องนี้

บนชั้นที่สอง เขาก็คดโกงด้วยเช่นกัน การทดสอบพรสวรรค์หรือพื้นฐานตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานที่เหมาะสมกับการฝึกฝนวิชาเวทของชางหมางพ่ายหรือไม่ ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่ชางหมางพ่ายถือว่าเป็นพรสวรรค์อันน่าเหลือเชื่อ อาจจะไม่เหมือนกับสำนักอื่นๆ ในโลกภายนอกคิดก็เป็นได้

ความจริงนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วทุกที่ ในสำนักที่แตกต่างกันออกไป ในอาณาจักรที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่ถูกเรียกว่าพรสวรรค์จริงๆ แล้ว ก็เป็นเพียงแค่การวัดความเหมาะสมของแต่ละคนในการฝึกฝนวิชาเวทของแต่ละสำนักหรือแต่ละอาณาจักรเท่านั้น

ภายในชางหมางพ่าย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พรสวรรค์ของปรมาจารย์ชางหมาง…จะอยู่ในจุดสูงสุดกว่าผู้ใด!

ฟ้าสะท้านดินสะเทือน ขณะที่แสงอันไร้ขอบเขตพุ่งกระจายออกมาจากสวรรค์ชั้นที่สอง ทำให้กลุ่มฝูงชนตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นมา เมิ่งฮ่าวลุกขึ้นมายืน ไอแห้งๆ ออกมา แต่ก็ไม่รู้สึกละอายใจแม้แต่น้อย ขณะที่มุ่งหน้าตรงไปยังชั้นที่สาม

เขาไม่ได้อยู่บนชั้นที่สามเป็นเวลานานมากนัก ในตอนที่ทั่วทั้งชั้นเริ่มสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า จนกลายเป็นสวรรค์ชั้นที่สาม ก่อนที่ความวุ่นวายในกลุ่มฝูงชนจะเงียบสงบลง สวรรค์ชั้นที่สี่ก็ส่งเสียงกระหึ่มดังก้องออกไป

จากนั้นก็เป็นสวรรค์ชั้นที่ห้า, ชั้นที่หกและชั้นที่เจ็ด เมิ่งฮ่าวกำลังสร้างตำนานขึ้นมาอย่างแท้จริง ตรงด้านนอกภูเขา กลุ่มฝูงชนกำลังเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น รวมทั้งผู้แข็งแกร่งอาณาจักรทั่วไป, ราชันเต๋า และแม้แต่จักรพรรดิเต๋า ต่างก็ประหลาดใจไปตามๆ กัน

“นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน! ฟางมู่ผู้นี้…กำลังทำลายสถิติทั้งปวง!”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ฝึกตนจากตี้จิ่วจงทำให้สวรรค์ชั้นที่ห้า, หก และเจ็ดปรากฏขึ้น!”

“พวกท่านว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันกำลัง…ทำบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชางหมางพ่ายทั้งหมดนี้ ซึ่งก็คือการทำให้…สวรรค์ชั้นที่สิบปรากฏขึ้น?!”

ความมุ่งหวังในเชิงบวกเต็มอยู่ในจิตใจของกลุ่มผู้ชม นอกจากนั้นก็ยังไม่มีใครในตี้จิ่วจง ที่จะสามารถทำให้สวรรค์ชั้นที่ห้าปรากฏขึ้นมาในชางหมางไถนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม ชางหมางไถของตี้จิ่วจงนี้เป็นแค่หนึ่งในชางหมางไถทั้งหมดของชางหมางพ่ายเท่านั้น จึงมีคนอื่นๆ ที่สามารถจะเรียกสวรรค์ชั้นที่ห้า, ชั้นที่หก หรือแม้แต่ชั้นที่เจ็ดให้ปรากฏขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน สำหรับสวรรค์ชั้นที่แปดมีคนทำได้สำเร็จน้อยมาก แต่ก็มีอยู่เช่นกัน

และจากนั้นก็ยังมีสวรรค์ชั้นที่เก้า เมื่อหลายปีก่อนก็มีอยู่หนึ่งคนที่สามารถทำได้

แต่สำหรับสวรรค์ชั้นที่สิบ เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนโดยสิ้นเชิง จากประวัติศาสตร์ทั้งหมดของชางหมางพ่าย ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน!

เสียงอึกทึกวุ่นวายดังก้องขึ้นมา จนถึงจุดที่แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดแก่นแท้ที่เฝ้ามองดูไปทั่วทั้งชางหมางพ่ายก็ยังต้องรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา และบินขึ้นไปในกลางอากาศเพื่อเฝ้าสังเกตดูด้วยเช่นกัน

แววตาเยียนเอ๋อร์เต็มไปด้วยความงุนงง อาจารย์ของตนเองกำลังทำให้โลกทั้งหมดนี้สั่นสะเทือน เป็นสิ่งที่นางแทบไม่อยากจะเชื่อ แทบไม่กล้าจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

ขณะที่สวรรค์ทั้งเจ็ดชั้นกำลังส่องแสงอันเจิดจ้าขึ้นไปในท้องฟ้า เมิ่งฮ่าวก็เดินขึ้นไปบนชั้นที่แปดอย่างช้าๆ ชั้นที่สามจนถึงชั้นที่เจ็ดเป็นการทดสอบเกี่ยวกับพรสวรรค์ในการฝึกตน บางชั้นก็ตรวจดูเกี่ยวกับโลหิต บางชั้นก็ตรวจดูเกี่ยวกับเส้นเลือดต่างๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร เมิ่งฮ่าวก็ได้กระทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำได้มาก่อนในทันที!

ถ้าไม่มีผู้ริเริ่มก็ไม่อาจจะทำได้เช่นนี้…การปรากฏกายขึ้นของเมิ่งฮ่าว ก็เหมือนกับการที่ปรมาจารย์ชางหมางมาด้วยตนเอง เมื่อผู้ริเริ่มมาทดสอบเองเช่นนี้ แล้วจะผลลัพธ์จะออกมาไม่สมบูรณ์อย่างน่ามหัศจรรย์ได้อย่างไร?

บนแท่นศิลาตัวอักษร นามฟางมู่ยังคงพุ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งไปอยู่ที่อันดับสามสิบคนแรก!

ผู้ถูกเลือกทั้งหมดที่อยู่สูงกว่าอันดับนี้ สามารถจะบอกได้ว่าเขาคงจะผ่านพวกมันไปได้อย่างง่ายดาย สถิติของพวกมันคงจะถูกบดขยี้ไปราวกับเป็นหญ้าแห้ง เสมือนกับว่าพวกมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับเขา

สำหรับกลุ่มศิษย์ทั้งหมดที่ยังมีอันดับเหนือกว่าเขา โดยปกติแล้วกลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีท่าทางเย่อหยิ่งและทรงอำนาจ แต่ในตอนนี้พวกมันกำลังนั่งดูด้วยความวิตกกังวล แม้แต่กลุ่มคนที่อยู่ในสิบอันดับแรกก็ยังมีลางสังหรณ์อันเลวร้ายพุ่งขึ้นมาในจิตใจ

หลังจากที่บรรลุถึงชั้นที่แปด เมิ่งฮ่าวก็ช้าลงเล็กน้อย ตอนนี้เขากำลังใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้สำเร็จ เมื่อมาถึงจุดนี้ชางหมางไถกำลังทดสอบระดับพลังทั้งหมดของผู้คน สำหรับร่างจำแลงเมิ่งฮ่าว ส่วนที่อ่อนแอมากที่สุดคือพื้นฐานฝึกตน ซึ่งยังอยู่ในอาณาจักรเซียน

เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนที่อยู่ในอันดับหนึ่งหมื่นคนแรกต่างก็อยู่ในอาณาจักรโบราณกันทั้งสิ้น มีเมิ่งฮ่าวเป็นผู้ฝึกตนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสามสิบคนแรกแต่ไม่อยู่ในอาณาจักรโบราณ นอกจากนี้สำหรับกลุ่มคนที่อยู่ในขั้นสูงสุดของอาณาจักรโบราณเหล่านั้น บางคนยังแทบจะทะลวงผ่านเข้าไปในอาณาจักรเต๋าได้ทุกเมื่ออีกด้วย!

อย่างไรก็ตามชางหมางพ่ายก็ไม่มีผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าอยู่ในอันดับเหล่านี้ มันคือการทดสอบสำหรับศิษย์ที่อยู่ต่ำกว่าอาณาจักรเต๋าเท่านั้น

โดยปกติแล้วการทดสอบสำหรับกลุ่มคนที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าคือการทดสอบสำหรับเส้นทางเหนือสูงสุด

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มาทดสอบในเส้นทางเหนือสูงสุดแล้วไม่ได้อยู่ในอาณาจักรเต๋า

ภายในชั้นที่แปด เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เห็นเงาร่างดวงตาสีแดงกำลังพุ่งตรงมาอย่างดุร้ายนับไม่ถ้วน

ถ้าตรวจสอบดูให้ละเอียดก็จะพบว่าเงาร่างเหล่านั้นทั้งหมด มีเส้นใยเชื่อมต่อกับพวกมัน เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้คือหุ่นเชิดที่ตกอยู่ใต้การควบคุมของใครบางคน

การทดสอบนี้ไม่ได้แค่ให้สังหารศัตรูไปเท่านั้น แต่ต้องค้นหาให้ได้ว่าใครกำลังควบคุมหุ่นเชิดเหล่านี้อยู่ และสังหารคนผู้นั้นให้ได้

ถ้าไม่ทำเช่นนั้น ผู้ที่มาทดสอบก็จะจมอยู่ในเหล่าศัตรูจำนวนมาก และต้องถูกบังคับให้กวาดล้างพวกมันไปด้วยการสังหาร แน่นอนว่ามีแต่ผู้ที่มีพื้นฐานฝึกตนที่เพียงพอเท่านั้น ถึงจะทำเช่นนี้ได้

อันที่จริงการทดสอบนี้ได้มุ่งเน้นไปที่พื้นฐานฝึกตนเป็นอันดับแรก เงาร่างเหล่านั้นทั้งหมดอยู่ในขั้นสูงสุดของอาณาจักรเซียน หลังจากที่มองไป เมิ่งฮ่าวก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าใครเป็นคนควบคุมพวกมัน แต่ก็ตระหนักดีด้วยเช่นกันว่าพื้นฐานฝึกตนของตัวเองไม่เพียงพอที่จะไปสังหารมันได้อย่างแน่นอน

ดูเหมือนว่าเวลาจะเลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ และดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา รู้ดีว่าตนเองแทบจะบรรลุถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ก็ไม่ยินดีที่จะยอมแพ้

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะต้องจัดการกับทัณฑ์เซียนของตัวเองอยู่ในที่แห่งนี้ ข้าจะทะลวงผ่านอาณาจักรเซียนเข้าไปในอาณาจักรโบราณ และมาดูกันว่าข้าจะได้อันดับหนึ่งหรือไม่!?” โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เมิ่งฮ่าวถอยไปทางด้านหลัง หลับตาลงชั่วขณะ จากนั้นก็ลืมขึ้นมาใหม่ ราวกับว่าโลกแห่งนี้กำลังระเบิดออกไป

เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นมาจากภายในร่าง ขณะที่ชีพจรเซียนเริ่มระเบิดขึ้น พื้นฐานฝึกตนพุ่งขึ้นไป และบรรยากาศของอาณาจักรโบราณก็เริ่มพุ่งขึ้นมาอยู่ภายในร่าง

ขณะที่เมิ่งฮ่าวเริ่มเปลี่ยนแปลงไป กลิ่นอายของพื้นฐานฝึกตนก็เริ่มพุ่งขึ้นมา ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เวลาเดียวกันนั้นก็รีบพุ่งตรงไปราวกับเป็นสายฟ้า ไปปรากฏกายขึ้นตรงหน้าของเงาร่างๆ หนึ่ง จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือออกไปอย่างรุนแรง

เสียงระเบิดดังก้องขึ้นมาขณะที่เงาร่างนั้นแตกกระจายไป ทันใดนั้นเงาร่างอื่นๆ ทั้งหมดก็จางหายไป ขณะที่การทดสอบของชั้นนี้กำลังจะจบสิ้นลงแล้ว

แต่จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ต้องร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขา ยังมีคนอื่นอีกที่อยู่ภายในเงาร่างเหล่านั้นทำการควบคุมพวกมันอยู่…กลายเป็นว่าไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่ควบคุมพวกมัน แต่มีถึงสองคน

“ทดสอบในการทดสอบ?” โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขารีบขยับตัวเคลื่อนไหวไปปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าของอีกเงาร่าง ฟาดฝ่ามือออกไปและเงาร่างนั้นก็แตกกระจายไป เงาร่างอื่นๆ แทบจะดูโปร่งใสไปโดยสิ้นเชิง และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังจะหายตัวไป แต่ในตอนนี้เองที่จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ชี้นิ้วออกไปยังเบื้องหน้า

สายลมอันรุนแรงพุ่งออกไป กระแทกหนึ่งในเงาร่างที่อยู่ห่างไกลออกไป กำจัดมันไปโดยสิ้นเชิง!

ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อตระหนักว่าจำนวนเงาร่างที่ควบคุมหุ่นเชิดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นว่าพวกมันมีมากกว่าแปดคน!

เวลาเดียวกันนั้น เงาร่างที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น รวมทั้งผู้ควบคุม ต่างก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วจนหมดสิ้น

ดูเหมือนว่าไม่มีเวลาพอที่จะสังหารพวกมันไปได้ทั้งหมด ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้นมา โดยไม่ลังเลใดๆ รีบสูดหายใจเข้าลึกๆ ในทันที จากนั้นก็ขยับสองมือร่ายเวทและชี้นิ้วออกไป

นี่คือเวทผนึกอสูร! เขากำลังใช้เวทรุ่นสี่ออกมา…เวทตนเอง!

แทบจะทันใดนั้นความผันผวนแปลกๆ ก็เริ่มกระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ภาพซ้อนทับพุ่งขึ้นมา และเมิ่งฮ่าวคนที่สองก็เดินตรงไป จากนั้นก็สาม, สี่และห้า…

ในชั่วพริบตาเมิ่งฮ่าวสิบล้านคนก็ปรากฏขึ้น มีทั้งบุรุษและสตรี ชราและเยาว์วัย คนทั้งหมดมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดนั้นก็คือเมิ่งฮ่าว!

นี่คือเวทตนเอง และในทันทีที่ถูกใช้ออกมา เมิ่งฮ่าวนับไม่ถ้วนก็พุ่งตรงไปยังผู้ควบคุมหุ่นเชิดทั้งแปด กำจัดพวกมันไป แทบจะในทันใดนั้นผู้ควบคุมคนใหม่ก็ปรากฏขึ้นมาสิบสองคน

เกิดการสังหารขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาสั้นๆ เมิ่งฮ่าวก็สังหารผู้ควบคุมหุ่นเชิดไปมากมายจนยากที่จะนับได้ ในที่สุดโลกแห่งนี้ก็จางหายไปโดยสิ้นเชิง และชั้นที่แปดก็จบสิ้นลง

เวทตนเองของเมิ่งฮ่าวจางหายไป และตัวตนเหล่านั้นก็หายไปจนหมดสิ้น เขายืนอยู่ที่นั่นในท่ามกลางชั้นที่แปด พื้นฐานฝึกตนยังคงพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชีพจรเซียนเริ่มกลายเป็นตะเกียงวิญญาณเซียน

ตะเกียงวิญญาณเซียนไม่ได้ปรากฏขึ้นตรงด้านนอก แต่อยู่ภายในร่างกาย

เมิ่งฮ่าวสูดหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาสาดประกายขึ้นขณะที่พึมพำว่า “ชั้นที่แปดนี้ช่างน่าเหลือเชื่อนัก”

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการทดสอบของชั้นที่แปดนี้มีความซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง เป็นการทดสอบพื้นฐานฝึกตนและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของคนผู้หนึ่ง

รวมทั้งการตัดสินใจและการสังเกต ไม่เพียงแต่จะต้องแยกแยะผู้ควบคุมในท่ามกลางกลุ่มหุ่นเชิดมากมายเหล่านั้น แต่ยังต้องสังหารพวกมันให้ได้อีกด้วย

นั่นคือหนทางที่จะผ่านชั้นนี้ไปได้ แต่เพื่อให้บรรลุถึงความสมบูรณ์แบบขั้นสูงสุด ก็จำเป็นต้องมีความรวดเร็วและสัญชาตญาณที่ดี

นั่นคือสิ่งที่เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะทำได้ด้วยตนเอง จึงถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาเวทตนเองเพื่อให้ลุล่วงผ่านไปได้ด้วยดี

“ข้าประเมินชางหมางไถต่ำเกินไป” เมิ่งฮ่าวกล่าว มองตรงขึ้นไปยังชั้นที่เก้าด้วยความมุ่งหวัง

ในตอนนี้เองที่แสงอันเจิดจ้าเริ่มสาดประกายออกมาจากชั้นที่แปด ในตอนนี้กลุ่มผู้ฝึกตนทั้งหมดที่อยู่ตรงด้านนอกสามารถจะมองเห็น…สวรรค์ชั้นที่แปดแล้ว!

ตี้จิ่วจงตกอยู่ในห้วงโกลาหลโดยสิ้นเชิง และสั่นสะเทือนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่ผู้ยิ่งใหญ่จนถึงศิษย์ธรรมดาทั่วไป ผู้คนนับสิบล้านกำลังร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นกันทั้งหมด

สำหรับผู้ถูกเลือกที่อยู่ในยี่สิบอันดับแรก พวกมันต้องหัวเราะออกมาด้วยความขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากที่ได้เห็นสวรรค์ชั้นที่แปด พวกมันก็เข้าใจดีว่านั่นคือตัวแทนของความยิ่งใหญ่ รู้ดีว่าตนเองถูกลิขิตให้ต้องลดลงมาหนึ่งอันดับกันทุกคน

ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวกำลังก้าวเดินไปทีละก้าวเพื่อสร้างเป็น…ตำนานอันน่าตกใจอยู่ภายในชางหมางพ่าย!

นั่นก็คือ…สวรรค์ชั้นที่เก้า!

ถ้าเมิ่งฮ่าวทำได้สำเร็จ และสวรรค์ชั้นที่เก้าปรากฏขึ้น สำนักทั้งเก้าในชางหมางพ่ายก็จะเต็มไปด้วยเสียงระฆังที่ดังก้องกังวานขึ้นมา

นั่นคือ…เกียรติยศอันสูงสุด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!