ตอนที่ 1466
ยังมีข้า
เสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจได้ยินขึ้นมา ขณะที่เมิ่งฮ่าวโจมตีไปยังสายฟ้าลงทัณฑ์มากกว่าหนึ่งหมื่นสาย เขาโบกสะบัดชายแขนเสื้อปลดปล่อยพลังการฝึกตนให้ระเบิดออกไป ไม่ใช่พลังแห่งอาณาจักรเซียน แต่เป็นอาณาจักรโบราณ มองเห็นจุดแสงกระจายออกไปทั่วทั้งร่างกาย ทำให้ดูเจิดจ้าขึ้น
เกิดเป็นเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องไปทั่ว เมื่อสายฟ้าทั้งหนึ่งหมื่นสายถูกทำลายไป เสื้อผ้าและเส้นผมเมิ่งฮ่าวสะบัดพลิ้วไปมา และขณะที่มองขึ้นไปยังกลุ่มเมฆสีดำ ก็ก้าวเดินตรงไป
เมื่อเขาเดินขึ้นมา กลุ่มเมฆก็ส่งเสียงดังกระหึ่ม และสายฟ้านับหมื่นก็ฟาดลงมา กลายเป็นทะเลสาบแห่งสายฟ้าปกคลุมเมิ่งฮ่าวไว้ภายใน เขาแค่นเสียงเย็นชา ขยับสองมือร่ายเวทและจากนั้นก็ฟาดฝ่ามือออกไปทั้งสองข้าง
ตูมมมมมมม!
สายฟ้าทั้งหมดถูกทำลายไป จากนั้นกลุ่มเมฆก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน ขณะที่เสียงแผดร้องด้วยโทสะดังก้องออกมาจากด้านในกลุ่มเมฆ สายฟ้าหนึ่งแสนสายเริ่มฟาดลงมา ดูเหมือนว่าจะไร้จุดสิ้นสุด ราวกับว่าสวรรค์กำลังมีโทสะ หลังจากที่สายฟ้าทั้งหนึ่งแสนสายถูกทำลายไป อีกหนึ่งแสนสายก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็อีกหนึ่งแสนสาย
ดูเหมือนว่าสายฟ้าจะไม่มีวันจบสิ้น ราวกับว่าทัณฑ์นี้จะไม่ยอมหยุดลงจนกว่าเมิ่งฮ่าวจะตายไป
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ใช้มือขวาขยับร่ายเวท ทำให้กลุ่มหมอกอันไร้ขอบเขตถูกสร้างขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว ซึ่งก็คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ได้เรียนรู้มาจากชางหมางพ่าย เขายกมือขวาขึ้นมา และกลุ่มหมอกก็กลายเป็นกระแสแห่งกลุ่มควันอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปปะทะกับทัณฑ์สายฟ้าที่ใกล้เข้ามา เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นเมื่อพวกมันระเบิดออกไปทั้งหมด
เสียงระเบิดนั้นน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าจากสิ่งมีชีวิตทั้งปวง มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ก็คือสวรรค์และเมิ่งฮ่าว!
คนเดียวกำลังต่อสู้กับสวรรค์เพียงลำพัง!
คนทั้งหมดในที่แห่งนั้นต่างก็สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง และผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าก็เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอย่างเห็นได้ชัด
สายฟ้าอีกหนึ่งแสนสายพังทลายลงไป และด้านหลังพวกมันก็ยังมีอีกหนึ่งแสนสาย ในตอนนี้เองที่เสียงหัวเราะของเมิ่งฮ่าวเริ่มดังก้องออกมา ขยับสองมือร่ายเวทขณะที่ก้าวเดินตรงไปอีกครั้ง ทำให้พลังพุ่งทะยานขึ้นไปอย่างน่าประทับใจยิ่ง
“ข้ากำลังค้นหาความรู้แจ้งของสิ่งที่มีความหมายต่อการผนึกสวรรค์ เพื่อจะทำให้เวทรุ่นเก้าเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ถ้าไม่สามารถผนึกทัณฑ์สายฟ้าเหล่านี้ แล้วข้าจะมุ่งมั่นผนึกสวรรค์ได้อย่างไรกัน!?” พร้อมกับเสียงหัวเราะ เมิ่งฮ่าวเดินตรงไปอีกหนี่งก้าว ยกมือขึ้นมาและฟาดตรงไปยังสวรรค์
กลิ่นอายของอาณาจักรโบราณปะทุออกไป แสงอันเจิดจ้านับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น สวรรค์สั่นสะท้านปฐพีสั่นสะเทือน ขณะที่เขาต่อสู้กลับไปยังสายฟ้านับแสนครั้งแล้วครั้งเล่า
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สายฟ้าพังทลายลงไป เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยังคงอยู่ในกลางอากาศ คนทั้งหมดที่อยู่ตรงด้านล่างสามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน กลุ่มฝูงชนสั่นสะท้านด้วยภาพของใครบางคนที่กำลังต่อสู้กับสวรรค์อย่างแท้จริง
เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดชายแขนเสื้อ จ้องมองไปยังกลุ่มเมฆขณะที่กล่าวว่า “ฟาดลงมาอีก! มาดูกันว่าครั้งนี้ เจ้าจะฟาดลงมามากน้อยเท่าใดกัน!”
มีแต่ผู้ที่มีความสามารถอย่างลึกล้ำเท่านั้น…ถึงจะสามารถกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมาได้!
เสียงหอบหายใจด้วยความตกตะลึงนับไม่ถ้วนได้ยินมาจากกลุ่มฝูงชนที่ด้านล่าง นี่คือภาพที่จะประทับลงไปในจิตใจพวกมันอย่างลึกซึ้ง ฟางมู่กำลังยืนอยู่ที่นั่น เผชิญหน้ากับกลุ่มเมฆสีดำที่พลุ่งพล่านปั่นป่วนและสายฟ้าที่กำลังฟาดลงมาอย่างไม่มีวันจบสิ้น
ใครก็ตามที่มองเห็นภาพเช่นนี้ ก็จะต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจอย่างช่วยไม่ได้
ผู้ถูกเลือกต่างก็ลืมไปแล้วว่าพวกมันไม่ต้องการจะยอมรับฟางมู่ ดวงตาพวกมันสาดประกายเจิดจ้าขึ้นอันเนื่องมาจากการกระทำอย่างองอาจของเขา, การสะกดข่มอย่างเป็นธรรมชาติของเขา และความกล้าหาญอย่างน่าตกใจที่เขาต่อสู้กลับไปยังสวรรค์
“ฟางมู่!”
“ฟางมู่!!”
“ฟางมู่!!!” ยากที่จะบอกได้ว่าใครเป็นคนเริ่มร้องตะโกนออกไปก่อน แต่ในที่สุดผู้ถูกเลือกทั้งปวง และศิษย์บุรุษอื่นๆ ทั้งหมดในตี้จิ่วจง ต่างก็รู้สึกได้ถึงธรรมชาติอันกล้าหาญของเมิ่งฮ่าว มันคือความบ้าคลั่งที่ต่อสู้กลับไปยังสวรรค์ ทำให้พวกมันต้องสั่นสะท้าน ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ แผดร้องตะโกนออกไปจนสุดเสียง
เสียงของพวกมันกลายเป็นคลื่นเสียงที่ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นไหวไปมา ขณะที่พลังเหล่านั้นปะทุออกมาจากปากพวกมัน
ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าต่างก็เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก มองไปยังเหล่าศิษย์และจากนั้นก็มองไปยังเมิ่งฮ่าว สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ขวัญและกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดในสำนัก และในตอนนี้…ก็ดูเหมือนว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความกล้าหาญได้ถูกปลูกฝังอยู่ในจิตใจของศิษย์ทั้งปวงแล้ว
และทั้งหมดนั้นก็เนื่องมาจากเมิ่งฮ่าว เขาคว้าจับจิตใจของศิษย์แห่งตี้จิ่วจงได้ทั้งหมด พวกมันไม่เพียงแต่จะร้องตะโกนเรียกเขาในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่เท่านั้น จิตใจพวกมันก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและเลื่อมใสเขาอีกด้วย
เวลาเดียวกันนั้น ศิษย์หญิงสาวที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น กำลังมองไปยังฟางมู่ด้วยแววตาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภาพที่เขากำลังต่อสู้กับสวรรค์ ประทับลึกลงไปในจิตใจพวกนางตราบชั่วนิรันดร์
เป็นแววตาเดียวกับที่ศิษย์หญิงสาวมองไปยังหวังเถิงเฟย ตอนอยู่ในสำนักเอกะเทวะ หรือเป็นแววตาที่ศิษย์ปรุงยาหญิงสาวมองไปยังผู้ถูกเลือกในสำนักจื่อยิ่น เป็นแววตาเดียวกับที่ศิษย์หญิงสาวจากสำนักต่างๆ มองไปยังเมิ่งฮ่าวในตอนที่เขากลายเป็นตำนาน เป็นเต้าจื่อในท่ามกลางกลุ่มผู้ถูกเลือก!
ศิษย์หญิงสาวมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความรักใคร่และอิจฉา พวกนางพยายามดึงดูดความสนใจจากเขา ด้วยวิธีที่เกินกว่าความหลงใหลของผู้ฝึกตนบุรุษเป็นอย่างมาก
เพียงชั่วขณะเท่านั้น ศิษย์ทั้งหมดแห่งตี้จิ่วจงก็ตกอยู่ในความคลุ้มคลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อันเนื่องมาจากภาพที่เมิ่งฮ่าวกำลังต่อสู้กับสวรรค์ กำลังโจมตีไปยังสายฟ้าอย่างดุร้าย และสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด
เยียนเอ๋อร์ยืนอยู่ในกลุ่มฝูงชน และทันใดนั้นก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก
นางรับรู้ได้ถึงจุดวิกฤต เป็นบางสิ่งที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่ง นางตื่นเต้นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทั้งหมด แต่ภายในจิตใจก็แอบเต็มไปด้วยความยินดีอันเนื่องมาจากเมิ่งฮ่าว เขาได้กลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับนาง ดังนั้นเมื่อนางตระหนักว่าคนทั้งหมดกำลังมองไปที่เขาด้วยแววตาอย่างไร ทันใดนั้นก็รู้สึกราวกับว่าพวกมันกำลังใฝ่ฝันถึงบางสิ่งบางอย่างที่เป็นของตนเอง
“ฮึ่ม เสียวเหล่าโถว (ตาเฒ่าน้อย) นั่นมีแค่คนเดียวเท่านั้น พวกเจ้าคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่? พยายามจะขโมยมันไปจากข้า? มันคือซือจุนข้า ข้าคนเดียวเท่านั้น!” นางคิดพร้อมกับกัดฟันแน่น
ความรู้สึกของศิษย์ตี้จิ่วจงพลุ่งพล่านขึ้นมา ราวกับว่ากำลังสว่างไสวด้วยเปลวไฟ เวลาเดียวกันนั้นกลุ่มเมฆก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน และสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นมากไปกว่าเดิม ตอนนี้ไม่ใช่สายฟ้าหนี่งแสนสายอีกต่อไป แต่มีมากกว่าหนึ่งล้านสาย
หนึ่งล้านสายฟ้าเริ่มฟาดลงมา ช่างเป็นภาพที่น่าตกใจจนยากที่จะเอ่ยขึ้นมาเป็นคำพูดได้ ขณะที่พวกมันฟาดลงมา ก็ดูคล้ายคลึงกับ ไม่ใช่ทะเลสาบแห่งสายฟ้า แต่เป็นหัตถ์ยักษ์!
เป็นหัตถ์ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยสายฟ้า กระจายเป็นพลังบดขยี้ขณะที่ฟาดลงมายังเมิ่งฮ่าว ความรู้สึกถึงวิกฤตที่จวนตัวพุ่งขึ้นมาในจิตใจ และดวงตาก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้า แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกไป ฟาดสองมือขึ้นไปในอากาศ ทำให้จุดแสงนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมา
สิบ, สามสิบ, ห้าสิบ, แปดสิบ…หนึ่งร้อยแปด!
ชีพจรเซียนหนึ่งร้อยแปดจุดบนร่างเมิ่งฮ่าวต่างก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น อย่างน่าตกใจยิ่งชีพจรเซียนแต่ละจุดเหล่านั้นสามารถจะมองเห็นเป็นภาพๆ หนึ่ง
เมื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียด ก็จะเห็นว่าภาพเหล่านั้นคือ…ตะเกียงวิญญาณเซียนอันน่าประหลาดใจ!!
หนึ่งร้อยแปดชีพจร หนึ่งร้อยแปดตะเกียง!
ช่างเป็นภาพที่น่าตกใจสำหรับคนทั้งหมดโดยสิ้นเชิง นี่คือครั้งแรกที่ร่างจำแลงเมิ่งฮ่าวเผยให้เห็นถึงตะเกียงวิญญาณทั้งหมด และทำให้กลุ่มคนที่มุงดูอยู่แทบไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง
ในชั่วพริบตาตะเกียงวิญญาณทั้งหนึ่งร้อยแปดดวงกำลังสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า ทำให้ร่างเมิ่งฮ่าวสว่างไสวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อหัตถ์ยักษ์ฟาดลงมา เขาไม่มีความคิดที่จะป้องกันตัวแม้แต่น้อย แต่…โจมตีกลับไป!
เขากำลังต่อสู้กับสวรรค์ด้วยเจตจำนงอันมุ่งมั่น!
เมิ่งฮ่าวฉวยโอกาสบินขึ้นไป กลายเป็นแสงอันเลือนรางที่พุ่งตรงไปยังหัตถ์สายฟ้ายักษ์ ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และสายตาทุกคู่ต่างก็จ้องนิ่งไปยังภาพที่เกิดขึ้นมานี้ เต็มไปด้วยความวิตกและมุ่งหวัง สำหรับพวกมันแล้วก็ราวกับว่าไม่มีอะไรคงอยู่นอกจากเมิ่งฮ่าวเท่านั้น
ดูเหมือนว่าเวลาจะเคลื่อนที่ช้าลง คนทั้งหมดเฝ้ามองไปขณะที่เมิ่งฮ่าวปะทะเข้ากับหัตถ์ยักษ์ จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเวลาจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม และยังได้เคลื่อนที่เร็วขึ้นอีกด้วย
สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมา หัตถ์ยักษ์เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอย่างไร้จุดสิ้นสุด ด้วยความต้องการจะม้วนกวาดเมิ่งฮ่าวออกไป กลับพังทลายกลายเป็นเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน แสงที่กระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าวค่อนข้างจะมืดสลัวลงไป แต่เขาก็ยังคงหัวเราะเป็นเสียงดังก้องไปทั่ว
“ฟาดลงมาอีก!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนขึ้น ด้วยความกล้าหาญเหมือนเช่นเคย เส้นผมพลิ้วไสวไปมา
เสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากภายในกลุ่มเมฆสีดำ จากนั้นก็หดตัวลงไปในทันที รวมตัวเข้าด้วยกันทำให้เกิดเป็นแรงกดดันอันน่ากลัวปกคลุมไปทั่วทุกสรรพสิ่ง
ศิษย์ตี้จิ่วจงที่เพิ่งจะเริ่มรู้สึกผ่อนคลายเมื่อครู่นี้ แต่ทันใดนั้นก็ต้องวิตกขึ้นมาอีกครั้ง
เกิดเป็นเสียงแตกร้าวดังก้องออกมา เมื่อกลุ่มเมฆที่หดตัวลงไป ทันใดนั้นก็ระเบิดขึ้นอย่างบ้าคลั่งด้วยพิรุณแห่งสายฟ้า หนึ่งแสนสาย, หนึ่งล้าน, สองล้าน, สามล้าน, ห้าล้าน, แปดล้าน!!
แปดล้านสายฟ้ามาบรรจบเข้าด้วยกัน จนดูเหมือนว่าจะปกคลุมโลกแห่งนี้ไปทั้งหมด พวกมันฟาดลงมาคล้ายกับเป็นสายฝนที่เทกระหน่ำ และถ้ามองมาจากที่ห่างไกล ก็แทบจะดูเหมือนกับเป็น…ดรรชนีขนาดใหญ่!
ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่โครงร่างคร่าวๆ เท่านั้น แต่ก็ดูคล้ายคลึงกันเป็นอย่างยิ่ง!
ม่านตาเมิ่งฮ่าวหรี่เล็กลงขณะที่ดรรชนีสายฟ้าใกล้เข้ามา แต่เมื่อร่างจริงเตรียมตัวที่จะส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์บางส่วนออกไปช่วยเหลือ ทันใดนั้นเองเสียงๆ หนึ่งก็ดังก้องขึ้นมา ดังมาจากกลุ่มผู้ถูกเลือกที่อยู่ตรงด้านล่าง พวกมันมองเห็นเมิ่งฮ่าวกำลังต่อสู้กับสวรรค์ด้วยสองตาตนเอง และรู้สึกว่านี่เป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง
“ศิษย์พี่ฟาง ท่านกำลังต่อสู้กับสวรรค์เพียงลำพัง! ซุนโหม่วขอร่วมต่อสู้…กับทัณฑ์สายฟ้านี้ด้วยจะได้หรือไม่!?” ขณะที่คำพูดนี้ดังก้องขึ้น เงาร่างๆ หนึ่งก็บินออกมาจากกลุ่มฝูงชน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น คนอื่นๆ ก็เริ่มร้องตะโกนออกมาด้วยเช่นกัน
“ศิษย์พี่ฟาง นับหลิวโหม่วด้วยอีกคน!”
“ยังมีข้า เฉินอ้าว!”
“เรื่องเช่นนี้ ข้า, จางอวิ๋น จะไม่เข้าร่วมได้อย่างไร?”
“ยังมีข้า!”
“ศิษย์พี่ฟาง ข้า, ไช่เหว่ย ก็มาด้วย!”
“ทัณฑ์สายฟ้า? เจิ้งหยวนขอร่วมต่อสู้กับศิษย์พี่ฟางด้วย!”
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนบินขึ้นไป ร้องตะโกนเป็นเสียงดังออกมา มีทั้งบุรุษและสตรี คนทั้งหมดต่างก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ
ศิษย์หนึ่งพัน, ห้าพัน, สามหมื่น, สองแสน, หนึ่งล้าน, สามล้าน…ในที่สุดศิษย์สิบล้านคนต่างก็พุ่งขึ้นไปในอากาศโดยพร้อมเพรียงกัน!
ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าตกตะลึง และผู้ยิ่งใหญ่ก็อ้าปากค้าง ในชั่วพริบตา สายฟ้าแปดล้านสายทันใดนั้น..ก็หยุดชะงักนิ่งอยู่ในกลางอากาศอย่างคาดไม่ถึง!