Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1530

ตอนที่ 1530

ดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า

สิ่งกีดขวางระหว่างดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปดและเก้าคือประตูขนาดใหญ่หนึ่งบาน ถูกห้อมล้อมด้วยกำแพงที่ดูเหมือนว่าจะยืดยาวออกไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด

เจ้าสำนักและคนอื่นๆ ไม่เคยผ่านจุดนี้ไปได้มาก่อน พวกมันพยายามจะเดินเลียบกำแพงไปทั้งด้านซ้ายและด้านขวา แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปทุกเขตชายขอบของดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปดนี้อย่างไร ก็ไม่อาจค้นพบจุดที่สามารถจะผ่านเข้าไปได้

มีเพียงทางเดียวเท่านั้นก็คือผ่านประตูนี้เข้าไป นั่นคือหนทางเดียวที่จะผ่านเข้าไปในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า

ไม่ว่าพวกมันจะคิดหาวิธีมาผลักประตูนี้ให้เปิดออกอย่างไร ไม่ว่าจะใช้พลังมากแค่ไหน ก็ไม่อาจจะทำได้สำเร็จ

เจ้าสำนักกำลังมองไปยังประตูบานนั้น อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันรู้ให้กับเมิ่งฮ่าวฟัง รวมทั้งวิธีการทั้งหมดที่เคยล้มเหลวมาก่อน

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่น ถูกห้อมล้อมด้วยทะเลแห่งภูตผีอันไร้ขอบเขตที่ตกอยู่ในความเงียบสงบโดยสิ้นเชิง เฝ้ารอคอยอยู่ที่นั่นพร้อมกับก้มศีรษะลงไป ขณะที่เขากำลังขบคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ แค่คำพูดเพียงคำเดียวจากปากเมิ่งฮ่าว พวกมันก็จะรีบทำตามอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นวิญญาณอันดุร้าย จนลืมนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวตกอยู่ในห้วงภวังค์ จินหยุนซานและอื่นๆ ก็ไม่กล้าที่จะไปรบกวน พวกมันเคยรับรู้มาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้วว่า เมิ่งฮ่าวเป็นทั้งองค์ราชันและจักรพรรดิในเขตสุสานแห่งนี้

หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เมิ่งฮ่าวก็ขยับร่างเคลื่อนไหว ในชั่วพริบตาก็ไปอยู่ที่เบื้องหน้าของประตู

ในแง่ของขนาดแล้วเมิ่งฮ่าวก็เทียบกับประตูบานนั้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่พลังที่กระจายออกมาจากร่างก็ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือนไปมา ส่งผลให้รอบๆ บริเวณนั้นทั้งหมดตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยื่นมือออกไปผลักประตู

พลังที่สวรรค์ต้องสั่นสะท้านปฐพีต้องสั่นสะเทือนปะทุออกไป บรรลุถึงระดับเก้าแก่นแท้ขั้นสูงสุดอย่างรวดเร็ว เป็นพลังที่สูงเกินว่าตี้เอ้อร์จื้อจุน (ผู้ยิ่งใหญ่อันดับสอง) และคนอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกัน

แต่ก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ยังคงพุ่งสูงขึ้นไปด้วยพลังที่ระเบิดออกมา พุ่งผ่านระดับของจินหยุนซาน, ซาจิ่วตง และไป๋อู้เฉิน ทำให้ดวงตาพวกมันต้องเบิกกว้างขึ้นมา

ถึงแม้คนทั้งหมดจะตระหนักดีว่าเมิ่งฮ่าวมีความน่ากลัวมากแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็สามารถจะรับรู้ได้ถึงระดับพื้นฐานฝึกตนอันน่ากลัวอย่างแท้จริงของเมิ่งฮ่าวแล้ว

แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ พลังการฝึกตนอันไร้ขอบเขตยังคงระเบิดเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ประตูก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้วมองไปยังประตูที่ไร้ปฏิกิริยาตอบรับใดๆ การทุ่มพลังทั้งหมดเท่าที่สามารถจะรวบรวมได้ออกไป ราวกับเป็นการทุ่มวัวศิลาลงไปในมหาสมุทร ดวงตาแวบประกายขึ้น โบกสะบัดมือขวาออกไป และกระจกทองแดงก็ปรากฏขึ้น เส้นใยสีดำพุ่งกระจายออกมา ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายในรูปแบบของชุดเกราะ

ด้วยชุดเกราะสีดำนี้ ทำให้พลังของเมิ่งฮ่าวพุ่งสูงขึ้นไปมากกว่าเดิม และลมพายุก็พุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว เจ้าสำนักและผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้คนอื่นๆ ต่างก็อ้าปากค้าง และเริ่มพุ่งถอยไปทางด้านหลัง

คนทั้งหมดไม่อาจจะหยุดลงได้จนกระทั่งห่างออกไปไกลหลายร้อยจ้าง มองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก

เมิ่งฮ่าวช่างแข็งแกร่งอย่างน่ากลัว จนพวกมันไม่มั่นใจว่าจะต่อสู้กับเขาได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าจะรวมพลังกันทั้งหมดก็ตาม

ด้วยชุดเกราะนักรบนี้ พลังการฝึกตนของเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด และยกฝ่ามือขึ้นมาผลักไปที่ประตูอีกครั้ง เท่าที่เจ้าสำนักเคยจดจำได้ พวกมันไม่เคยเห็นประตูนี้ขยับเขยื้อนเลยในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา แต่ในตอนนี้มันกำลังสั่นไหวไปมา

ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเท่านั้น แต่ก็ทำให้จิตใจเจ้าสำนักต้องหมุนคว้างไปมา และเริ่มหอบหายใจด้วยความมุ่งหวัง ไม่ใช่ว่ามันไร้พลังแห่งเจตจำนง แต่หลังจากที่ก้าวเข้าไปในระดับเก้าแก่นแท้ ความฝันทั้งหมดของมันถูกห่อหุ้มด้วยความหวังที่อยู่ภายในเขตสุสานแห่งนี้

เส้นเลือดเขียวโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว ขณะที่ปลดปล่อยพลังอันน่าเหลือเชื่อผ่านฝ่ามือออกไป ผลก็คือประตูสั่นสะท้านเล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว

ประกายดุร้ายปรากฏขึ้นในแววตาเมิ่งฮ่าว ขณะที่ยกฝ่ามือซ้ายขึ้นไปผลักประตูด้วยเช่นกัน

พลังอันแข็งแกร่งพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง และเสียงระเบิดที่คล้ายกับเสียงระฆังก็ดังก้องไปทั่วทั้งดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปด จากนั้นก็เจ็ด, หก…จนกระทั่งถึงดินแดนกว้างใหญ่แห่งแรก

ประตูสั่นสะเทือนอีกครั้ง กลุ่มเมฆแห่งฝุ่นละอองพุ่งขึ้นมา แต่ก็ยังคงไม่ยอมเปิดออก จนเมิ่งฮ่าวต้องขมวดคิ้วเป็นร่องลึก

เขาอยู่ในระดับขั้นสูงสุดของพลัง แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่อาจจะเปิดประตูออกมาได้ ดูเหมือนจะเป็นการบ่งบอกว่ามีแต่ผู้ที่อยู่เหนือสูงสุดเท่านั้นถึงจะสามารถเปิดมันออกมาได้

“แต่ผู้ที่อยู่เหนือสูงสุดไม่จำเป็นต้องใช้แท่นบูชาในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า ดังนั้นวิธีการเปิดประตูก็ไม่เกี่ยวข้องกับเหนือสูงสุด ต้องมีวิธีการบางอย่างอยู่เป็นแน่”

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ เมิ่งฮ่าวก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้กระจายเต็มไปทั่วทั้งดินแดนอันกว้างใหญ่ ใช้เวลานานอยู่สักพัก แต่ในที่สุดก็สามารถจะรับรู้ได้ถึงตำแหน่งที่เจตจำนงแห่งหลัวเทียนมีอยู่อย่างเบาบางในที่แห่งนั้น

ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ร่องรอยอันเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดเป็นปัญหาขึ้นมาได้ ถ้าเขาพยายามจะดูดซับเวทรุ่นเก้า

“เริ่มต้นจากดินแดนกว้างใหญ่แห่งแรก เจตจำนงแห่งหลัวเทียนเริ่มอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ บนดินแดกว้างใหญ่แห่งที่แปดนี้ มีแค่เล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นดินแดนแห่งที่เก้า…น่าจะไม่มีเจตจำนงแห่งหลัวเทียนอยู่เลย!”

“นั่นคือสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการดูดซับเวทรุ่นเก้า หลัวเทียนไม่อาจจะแทรกแซงเข้ามาได้ และมีโอกาสที่จะอยู่เหนือสูงสุดได้!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็ถอยไปทางด้านหลังสองสามก้าว ส่งเจตจำนงออกไปยังเหล่าภูตผี!

“เปิดประตูบานนี้!”

ในทันทีที่เจตจำนงของเมิ่งฮ่าวส่งคำสั่งนี้ออกไป เหล่าภูตผีจำนวนมหาศาลก็เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสาดประกายขึ้น ส่งเสียงกรีดร้องขณะที่ขยับร่างเคลื่อนไหว พุ่งตรงไปบดขยี้ประตูขนาดใหญ่มหึมานั้น!

ตูมมมมมมม!

คลื่นภูตผีกระแทกลงไป ทำให้ประตูสั่นสะเทือน ภูตผีบางตัวที่มีร่างกายใหญ่โตมากเป็นพิเศษ ก็ใช้ศีรษะกระแทกลงไปยังบานประตูด้วยความดุร้าย

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ทำให้แผ่นฟ้าและผืนดินในเขตสุสานสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง ขณะที่เหล่าภูตผีบดขยี้ลงไปยังประตู

ช่างเป็นภาพที่น่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง กระแสภูตผีอันไร้จุดสิ้นสุดปลดปล่อยพลังอันน่าเหลือเชื่อออกมา ทำให้ประตูส่งเสียงดังกระหึ่มและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงมากขึ้น กว่าตอนที่เมิ่งฮ่าวใช้สองมือผลักออกไปซะอีก

การรวมพลังกันของเหล่าภูตผีจากดินแดนกว้างใหญ่ทั้งแปด เป็นสิ่งที่แม้แต่ด้วยพลังการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวก็ยังต้องรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ตอนนี้พลังนั้นทำให้ประตูสั่นสะท้าน ราวกับว่าอีกไม่นานก็จะเปิดออกมาแล้ว

เจ้าสำนักและคนอื่นๆ สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง ด้านหลังของประตูบานนี้คือความหวังที่คนทั้งหมดเสาะแสวงหา เป็นประตูที่ปิดกั้นเส้นทางของพวกมันมานานหลายร้อยปี แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าอีกชั่วขณะก็จะถูกเปิดออกมาแล้ว!

จินหยุนซานเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาขึ้นมา แผดร้องคำราม ปลดปล่อยพื้นฐานฝึกตนและพลังแก่นแท้ของตนเองออกมา ผลักสองมือตรงไปยังประตู

ชั่วขณะต่อมาเจ้าสำนักก็ทำตาม ปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์และพลังแก่นแท้ เพื่อสร้างเป็นหัตถ์ยักษ์ฟาดลงไปยังประตู

จากนั้นก็เป็นซาจิ่วตง ที่กลายร่างเป็นพายุทรายม้วนกวาดออกไปด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อ ต่อมาก็เป็นเซียนไป๋อู้เฉินที่เรียกกลุ่มหมอกอันทรงพลังออกมา ผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้คนอื่นๆ ต่างก็ปลดปล่อยพลังการฝึกตนออกมาทั้งหมด ทุ่มเทออกไปจนสุดตัว รวบรวมพลังทั้งหมดเท่าที่สามารถจะทำได้กระแทกตรงไปยังประตู

ภายใต้การรวมพลังกันโจมตีไปของพวกมัน ทำให้ประตูที่จะนำไปสู่ดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า ซึ่งปิดกั้นเส้นทางพวกมันไว้เป็นเวลานาน เริ่มส่งเสียงกระหึ่มดังกึกก้อง และสั่นสะท้านไปมาอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าประตูอาจจะเปิดออกมาได้ทุกเมื่อ

ดวงตาเมิ่งฮ่าวเปล่งแสงสีแดงจ้า ขณะที่กลายร่างเป็นวิหคยักษ์ ในชั่วพริบตาก็พุ่งกระแทกตรงไปยังประตู

ภูเขาสั่นสะเทือนและพื้นดินก็สั่นไหวไปมา ประตูสั่นสะท้าน ราวกับว่ากำลังเปิดออกมาเล็กน้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามขนาดเล็กน้อยนั้นก็เหมือนกับเป็นความแตกต่างระหว่างสวรรค์และปฐพี ถึงแม้ว่าการรวมพลังโจมตีไปของกลุ่มผู้ฝึกตนทั้งหมด รวมทั้งกองกำลังเหล่าภูตผีนับไม่ถ้วน ประตูก็ยังคงไม่เปิดออกมา เจ้าสำนักและคนอื่นๆ เริ่มรู้สึกสิ้นหวังอยู่ในตอนนี้

“พวกเราไม่อาจจะเปิดประตูด้วยวิธีการนี้…?”

“พวกเราจะทำได้อย่างไร? เป็นความจริงหรือไม่ว่ามีแต่ผู้ฝึกตนเหนือสูงสุดเท่านั้นที่จะเปิดมันออกมาได้?”

“เป็นไปไม่ได้ ทำไมผู้ฝึกตนเหนือสูงสุดถึงต้องการจะเข้าไปยังแท่นบูชาที่เก้า?” ในความสิ้นหวังของพวกมัน คนทั้งหมดพยายามผลักออกไปเต็มแรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่งกระอักโลหิตออกมา

เหล่าภูตผีกรีดร้องเป็นเสียงแหลมเล็ก ต่างก็ทุ่มพลังทั้งหมดเท่าที่สามารถจะรวบรวมได้ออกมา เมิ่งฮ่าวเริ่มหอบหายใจ ในที่สุดก็ส่งเจตจำนงออกไปทางสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ให้กระจายเต็มไปทั่วทั้งดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปด

คล้ายกับเป็นสายฟ้าที่ฟาดลงไปยังซากศพต่างๆ บนดินแดนกว้างใหญ่แห่งนี้ ภายในดวงตาที่เริ่มลุกไหม้ขึ้นมาด้วยแสงสีขาว พวกมันเริ่มวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็เริ่มมองเห็นจากที่ห่างไกลออกไป

ซากศพเริ่มปรากฏขึ้นมากเรื่อยๆ วิ่งตรงมายังประตูแห่งนี้ และเริ่มกระแทกลงไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด ไม่นานนักประตูก็เริ่มเปิดออกเล็กน้อย

ทำให้เจ้าสำนักและคนอื่นๆ คึกคักขึ้นมาในทันที ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งหวัง และกระแทกตรงไปด้วยความรุนแรงมากขึ้น ในที่สุดประตูก็เปิดออก!

เมิ่งฮ่าวในรูปแบบของวิหคยักษ์สีฟ้าพุ่งผ่านเข้าไปในประตู ตามมาด้วยเจ้าสำนักและคนอื่นๆ อย่างใกล้ชิด พวกมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ขณะที่บินฝ่าอากาศเข้าไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด

ในที่สุดคนทั้งหมดก็สามารถจะผ่านเข้าไปใน…ดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า!

นี่คือดินแดนกว้างใหญ่แห่งสุดท้ายในเขตสุสาน และเป็นที่ตั้งของบัลลังก์ขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!