ตอนที่ 1569
เน่าเปื่อย
แววตาของบุรุษหนุ่มสาดประกายขึ้นด้วยความต้องการสังหาร ขณะที่บินฝ่าอากาศมา ก็ยื่นมือตรงไปยังคันธนูแม่น้ำ ซึ่งหดตัวเล็กลงไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งคว้าจับไว้ได้ จากนั้นก็เริ่มดึงสายธนูไปทางด้านหลัง เล็งตรงมายังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวมองไปยังบุรุษหนุ่มที่แผดร้องด้วยความเกรี้ยวกราดออกมาด้วยสายตาที่เย็นชา ขณะที่มันดึงสายธนูไปทางด้านหลัง กระแสปราณทั้งหมดก็ไหลออกมาจากอาณาจักรเทพ เพื่อก่อตัวเป็นลูกธนู
จากนั้นเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่บุรุษหนุ่มปล่อยลูกธนูออกไป พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นสายฟ้า
เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงพลังอันน่ากลัวของลูกธนูดอกนี้ ถ้ามันถูกยิงออกมาโดยผู้ฝึกตนเหนือสูงสุดอย่างแท้จริง ก็อาจจะแข็งแกร่งจนสามารถจะคุกคามเขาได้ แต่ในตอนนี้สิ่งที่เขากระทำทั้งหมดก็คือยื่นมือออกไปแตะลูกธนูดอกนั้น ทำให้ลูกธนูสั่นสะท้านและจากนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป
โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของบุรุษหนุ่ม ขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง
เวลาเดียวกันนั้นรูปปั้นของปรมาจารย์ที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของดินแดนกว้างใหญ่ ก็เปล่งประกายเป็นแสงเจิดจ้าเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของอาณาจักรเทพ
กิ้งก่าชราและผู้แข็งแกร่งพิสดารอื่นๆ ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง เจ้าสำนักและคนอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพทั้ง
เหนือสูงสุดอย่างแท้จริง ก็อาจจะแข็งแกร่งจนสามารถจะคุกคามเขาได้ แต่ในตอนนี้สิ่งที่เขากระทำทั้งหมดก็คือยื่นมือออกไปแตะลูกธนูดอกนั้น ทำให้ลูกธนูสั่นสะท้านและจากนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป
โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของบุรุษหนุ่ม ขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลัง
เวลาเดียวกันนั้นรูปปั้นของปรมาจารย์ที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของดินแดนกว้างใหญ่ ก็เปล่งประกายเป็นแสงเจิดจ้าเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของอาณาจักรเทพ
กิ้งก่าชราและผู้แข็งแกร่งพิสดารอื่นๆ ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง เจ้าสำนักและคนอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ผู้ฝึกตนอาณาจักรเทพทั้งปวงถอยร่นไปทางด้านหลัง จนกระทั่งเข้าไปอยู่ภายในแสงนั้น จ้องมองกลับไปยังกองกำลังจากชางหมางพ่ายด้วยสายตาอันดุร้าย
แสงนั้นสามารถจะหยุดยั้งกลุ่มคนเหล่านั้นได้ แต่ก็ไม่อาจจะหยุดเมิ่งฮ่าวได้
เขามองไปยังรูปปั้นด้วยแววตาครุ่นคิด และจากนั้นก็เดินตรงไปหนึ่งก้าว
หนึ่งก้าวนั้นทำให้เมิ่งฮ่าวพุ่งฝ่าอากาศไปยืนอยู่ตรงเบื้องหน้าเขตชายขอบของแสงนั้น จากนั้นก็พุ่งทะลวงผ่านเข้าไป ทำให้แสงนั้นเกิดเป็นรอยแยกแตกออกไป
กิ้งก่าชราแผดร้องคำราม จากนั้นก็ขยับร่างเคลื่อนไหว ไปปรากฏกายขึ้นอีกครั้งบนสนามรบ เมื่อพลังการฝึกตนของมันพุ่งกระจายออกไป ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็ถูกทำลายไปคล้ายกับกิ่งไม้ผุ
เมิ่งฮ่าวไม่สนใจแสงอันดุร้ายนั้น ขณะที่เข้าไปใกล้จุดศูนย์กลางของดินแดนกว้างใหญ่ ซึ่งมีรูปปั้นตั้งตระหง่านอยู่ เมื่อทำเช่นนั้นลูกธนูแสงก็พุ่งตรงมาจากที่ห่างไกลอีกครั้ง
ถูกยิงออกมาจากบุรุษหนุ่มก่อนหน้านี้ มันยิงออกไปดอกแล้วดอกเล่าด้วยความวิตกกังวล เมิ่งฮ่าวแค่โบกสะบัดชายแขนเสื้อเท่านั้น ก็ทำลายลูกธนูทั้งหมดลงไปได้
บุรุษหนุ่มมองมาด้วยความสิ้นหวัง ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้รูปปั้น ทันใดนั้นเสียงถอนหายใจเสียงหนึ่งก็ดังก้องออกไปทั่วทั้งอาณาจักรเทพ พร้อมกับเงาร่างๆ หนึ่งปรากฏขึ้นมา เป็นชายชราที่สวมใส่ชุดยาวเต็มยศ ดูเหมือนว่าจะเก่าแก่โบราณอย่าง
ลึกล้ำ ขณะที่บินขึ้นไปในอากาศ และมองตรงมายังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็ยกมือขวา ชี้นิ้วขึ้นไปในท้องฟ้า
ทันใดนั้นพื้นที่รอบๆ กายเมิ่งฮ่าวก็เต็มไปด้วยความผันผวนที่ไร้เสียง คล้ายกับเป็นระลอกคลื่นบนพื้นผิวของทะเลสาบ เวลาเดียวกันนั้นบึงน้ำแห่งหนึ่งก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอยู่ที่เบื้องหน้าชายชราในทันที
บึงน้ำนั้นกระจายเป็นระลอกคลื่นที่ทรงพลังออกมาเช่นเดียวกัน ถ้าตรวจสอบดูอย่างละเอียดก็จะมองเห็นว่าภายในระลอกคลื่นเหล่านั้น คล้ายกับเป็นภาพสะท้อนของเมิ่งฮ่าวและพื้นที่ที่อยู่รอบๆ ตัว
ดวงตาของชายชราสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันดุร้าย ขณะที่ยื่นนิ้วออกไปแตะสัมผัสภาพสะท้อนของเมิ่งฮ่าว ที่อยู่ภายในระลอกคลื่นของบึงน้ำ เมื่อมือของมันผ่านลงไปในน้ำ ก็มีระลอกคลื่นพุ่งกระจายออกไปมากขึ้น
ระลอกคลื่นตรงบริเวณที่อยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย และบางสิ่งที่ดูคล้ายกับเป็นหัตถ์ยักษ์ก็ปรากฏขึ้นมา ราวกับว่าจะบดขยี้เขาไป!
แสงแปลกๆ สาดประกายขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว นี่เป็นครั้งที่สองที่ตนเองรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของผู้อยู่เหนือสูงสุดโบราณ ซึ่งก็เหมือนกับเมิ่งฮ่าวที่คอยเตรียมพร้อมเพื่อดูแลกลุ่มคนของตนเอง
“น่าเสียดาย ที่เจตจำนงแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตกระทำเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของผู้อยู่เหนือสูงสุดนั้น” เมิ่งฮ่าวมองไปยังชายชราที่กำลังใช้วิชาเวทของมันยังตำแหน่งที่อยู่ห่างไกล
ของเมิ่งฮ่าว ที่อยู่ภายในระลอกคลื่นของบึงน้ำ เมื่อมือของมันผ่านลงไปในน้ำ ก็มีระลอกคลื่นพุ่งกระจายออกไปมากขึ้น
ระลอกคลื่นตรงบริเวณที่อยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย และบางสิ่งที่ดูคล้ายกับเป็นหัตถ์ยักษ์ก็ปรากฏขึ้นมา ราวกับว่าจะบดขยี้เขาไป!
แสงแปลกๆ สาดประกายขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว นี่เป็นครั้งที่สองที่ตนเองรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของผู้อยู่เหนือสูงสุดโบราณ ซึ่งก็เหมือนกับเมิ่งฮ่าวที่คอยเตรียมพร้อมเพื่อดูแลกลุ่มคนของตนเอง
“น่าเสียดาย ที่เจตจำนงแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขตกระทำเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของผู้อยู่เหนือสูงสุดนั้น” เมิ่งฮ่าวมองไปยังชายชราที่กำลังใช้วิชาเวทของมันยังตำแหน่งที่อยู่ห่างไกลออกไป จากนั้นก็เคลื่อนที่ตรงไปอย่างเรียบง่าย ทุกก้าวย่างที่เดินไปนั้นทำให้ระลอกคลื่นถูกทำลายไป และบังคับให้มันต้องพยายามดิ้นรนเพื่อรักษารูปแบบของตนเองไว้
ชายชราเริ่มสั่นสะท้าน ราวกับว่าแม้แต่พลังทั้งหมดที่ตนเองมีก็ยังไม่เพียงพอที่จะรักษาวิชาเวทนี้ให้คงอยู่ได้ รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิวของสระน้ำ และจากนั้นก็เริ่มพังทลายลงไป ชายชราแผดร้องคำรามด้วยโทสะ ร่างกายเริ่มแห้งเหี่ยวลงไป ขณะที่เลือดเนื้อถูกดูดออกไป ในที่สุดก็ดูเหมือนกับเป็นถุงหนังห่อหุ้มกระดูก เพราะว่ามันใช้พลังออกมาจนเกินตัว จึงเผยให้เห็นถึงสิ่งที่ถูกปิดซ่อนไว้จากก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือกลิ่นอายเน่าเปื่อยอันเลือนลาง
กลิ่นอายนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดเก้าแก่นแท้ก็ยังไม่อาจจะสังเกตเห็นได้ แต่เมิ่งฮ่าวสามารถจะรู้สึกได้ ดวงตาแวบประกายขึ้นขณะที่มองไปยังชายชรา ซึ่งแผดร้องคำรามออกมา ขณะที่กลิ่นอายเน่าเปื่อยเริ่มรุนแรงมากขึ้น ราวกับว่ามันได้เน่าเปื่อยนานหลายปีมาแล้ว ทันใดนั้นชายชราก็ทำท่าคว้าจับออกไปอย่างดุร้าย
อากาศรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่หัตถ์ยักษ์เริ่มบดขยี้ลงมา สามารถจะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายเหนือสูงสุดบนหัตถ์ยักษ์นั้นได้อย่างน่าตกใจยิ่ง
ในขณะที่หัตถ์ยักษ์ใกล้เข้ามา เมิ่งฮ่าวก็แค่นเสียงเย็นชา และกลิ่นอายเหนือสูงสุดของตนเองก็ปะทุขึ้นมาอย่างเต็มกำลัง
ตูมมมมมมม!
กายเนื้อเหนือสูงสุด พื้นฐานฝึกตนเหนือสูงสุด!
พลังที่ทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะท้านปฐพีต้องแตกกระจายไปปะทุขึ้นมา ก่อนที่หัตถ์ยักษ์นั้นจะทันได้เข้ามาใกล้ ก็แตกกระจายกลายเป็นเสี่ยงๆ เวลาเดียวกันนั้นอากาศรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นหลุมดำไป
บึงน้ำนั้นไม่อาจจะต่อต้านได้อีก แตกกระจายออกไป ทำให้เกิดเป็นเศษซากปรักหักพังพุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง ชายชราสั่นสะท้าน จากนั้นก็กระอักโลหิตสีดำออกมากองโต กลิ่นอายเน่าเปื่อยที่อยู่รอบๆ ตัวมันเริ่มมีความเด่นชัดมากขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อชายชรากำลังจะล่าถอยออกไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา และเดินตรงไปหนึ่งก้าว ทำให้ไปอยู่ที่เบื้องหน้าชายชรา ยื่นมือออกคว้าจับไปบนศีรษะของมันในทันที
เวทควาญหาวิญญาณถูกใช้ออกมาอีกครั้ง
แต่ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นมา ชายชราผู้นี้ก็เหมือนกับดวงตะวันทั้งเก้า มันไม่มีความทรงจำ หรือถ้ามีก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายไปโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าถูกบังคับจากใครบางคน ทำให้ไม่อาจจะวิเคราะห์ได้โดยสิ้นเชิง
หลังจากที่ผ่านไปชั่วขณะ ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น และเริ่มโคจรหมุนวนพลังการฝึกตนในทันที ทำการสะกดข่มพลังของตนเองไว้จนกระทั่งอยู่ในระดับเก้าแก่นแท้ เมื่อเป็นเช่นนั้นกลิ่นอายเน่าเปื่อยของชายชราก็จางหายไป
รูปร่างหน้าตาของมันก็ดูปกติมากขึ้นไปเรื่อยๆ มันกวาดเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก ไร้ซึ่งกลิ่นอายเน่าเปื่อยอีกต่อไป เวลาเดียวกันนั้นความเกลียดชังในแววตาก็ยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น
ในตอนนี้เองที่เสียงแผดร้องคำรามก็ได้ยินออกมาจากปากของผู้ฝึกตนทั้งหมดแห่งอาณาจักรเทพ แม้แต่กลุ่มคนที่อยู่ห่างไกลออกไปก็ตามที
“เมิ่งฮ่าว เจ้าต้องตาย!” เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ดูเหมือนว่าโลกแห่งนี้จะสมบูรณ์ขึ้นมาในทันที ขณะที่พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวตกลงไป กลุ่มผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็ดูเหมือนว่าจะมีความคล่องแคล่วว่องไวมากขึ้น