Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 797

ตอนที่ 797

พบหน้ากัน…

“เจี้ยนเหริน, ข้าน่าจะสังหารเจ้าไปตั้งแต่ตอนที่พบกันในทะเลเทียนเหอ!” เสียงที่สองดังขึ้นมา เป็นเสียงของสตรี

ทั้งสองเสียงนี้ ทันใดนั้นก็ทำให้การหยุดนิ่งชะงักไปของทุกสรรพสิ่งแตกกระจายออก ขุนเขาที่เก้าตกลงไปอย่างต่อเนื่อง และผู้ฝึกตนทั้งหมดก็สามารถขยับตัวได้อีกครั้ง

ขณะที่เสียงแค่นอย่างเย็นชาดังก้องไปมาอย่างต่อเนื่อง ลำแสงกระบี่ก็พุ่งฝ่าอากาศมา ตัดการเชื่อมต่อที่มองไม่เห็นระหว่างเซียนรุ่งอรุณและเมิ่งฮ่าวไปโดยสิ้นเชิง!

เสียงระเบิดดังก้องออกไป และแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว ดอกบัวสีเขียวหายไป และภาพแห่งธรรมของเขาก็ฟื้นฟูกลับคืนมา ดวงตาเบิกกว้างขณะที่เขามองเห็นสองเงาร่างกำลังใกล้เข้ามาจากที่ห่างไกลออกไป

เป็นหนึ่งบุรุษและหนึ่งสตรี และเมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นคนทั้งสองได้อย่างชัดเจน จิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มราวกับเสียงฟ้าร้อง

เขารู้จักใบหน้าทั้งสองนี้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะผ่านไปนับล้านปีก็ตามที เขาไม่มีทางจะลืมเลือนพวกท่านไปได้ สตรีนางนั้นก็คือมารดาของเขา เป็นมารดาที่อุ้มเขาอยู่ในวงแขนในตอนที่เขายังเป็นเด็ก และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เขาฟัง บุรุษเป็นบิดาของเขา ซึ่งดูเหมือนจะเข้มงวด แต่ดวงตาก็เต็มไปด้วยความรักอันลึกล้ำไร้ขอบเขตของบิดา

เมิ่งฮ่าวเริ่มสั่นสะท้าน และไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากจ้องมองไปด้วยความงุนงง ในเวลาเดียวกันนั้น เครื่องหมายบนมือเขาก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้า

ทันทีที่บุรุษและสตรีปรากฏขึ้น สีหน้าเซียนรุ่งอรุณก็เปลี่ยนไป นางเริ่มหอบหายใจออกมา และใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อขณะที่ถอยไปทางด้านหลัง

นางถอยไปได้แค่สามก้าวเท่านั้น เมื่อสายตาของบุรุษจ้องนิ่งมายังร่างนาง

เสียงกระหึ่มดังก้องออกไป และจากนั้นโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของเซียนรุ่งอรุณ ท่าทางประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้านาง ในตอนนี้เองที่ภาพแห่งธรรมที่ด้านหลังนาง ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน

ยิ่งไปกว่านั้น ดอกปี่อ้านขนาดใหญ่ที่อยู่ในทะเลเทียนเหอ ซึ่งเป็นร่างจริงของเซียนรุ่งอรุณ ก็ระเบิดออกเช่นเดียวกัน แตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ นับไม่ถ้วน ดอกปี่อ้าน…พ่ายแพ้ไปโดยสิ้นเชิง

“มันมองมาแค่แวบเดียว ก็ทำให้ภาพแห่งธรรมของข้าต้องแตกกระจายไป” เซียนรุ่งอรุณคิด ด้วยใบหน้าที่ซีดขาว “แม้แต่ข้าก็ยังได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส…สิ่งที่เพิ่งจะตัดสะพานดอกบัวเขียวไปเมื่อครู่นี้ไม่ใช่กระบี่ แต่เป็นสายตาของมัน!”

“มันเป็นใคร!?!?”

“ไม่อาจจะคาดเดาถึงระดับพลังของมันได้ แม้แต่ตระกูลจี้ก็ไม่อาจจะเทียบได้!” รากฐานของนางถูกทำลายไป และตอนนี้นางก็ไม่กล้าที่จะถอยออกไปแม้แต่น้อย เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ การที่จะมีชีวิตอยู่หรือตายไป ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนางเลยแม้แต่น้อย

“ก่อนที่ฟางโหม่วจะมายังดาวดวงนี้” บุรุษกล่าวเสียงราบเรียบ ยืนอยู่ระหว่างเมิ่งฮ่าวและเซียนรุ่งอรุณ “สหายเก่าของข้าได้บอกว่ามีดอกไม้อยู่ในมหาสมุทรที่นี่ ซึ่งถูกทิ้งไว้โดยผู้มีพระคุณของมัน ดอกไม้นั่นได้กลายเป็นอสูรที่คงอยู่มานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน”

“หลายครั้งที่มันไม่ต้องการจะหลุดพ้นกลายเป็นเซียนไป เจ้าคงเป็นดอกไม้ที่สหายข้าได้พูดถึง”

“เห็นได้ชัดว่าเจ้าสามารถจะกลายเป็นเซียนแท้ และเดินทางเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวได้เมื่อนานมาแล้ว ทำไมเจ้าถึงได้ทำให้ตนเองและคนอื่นต้องลำบาก? แต่เมื่อคิดว่าการคงอยู่ของเจ้าได้ทำให้บุตรชายข้าเข้มแข็งขึ้น ข้าก็จะไม่สังหารเจ้าไปในวันนี้”

“ยังไม่รีบจากไปเพื่อกลายเป็นเซียนอีก!” ท้องฟ้าสะท้านพื้นดินสะเทือน ราวกับว่าถูกกระแทกด้วยเสียงฟ้าร้องมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อบุรุษผู้นั้นกล่าว กฎธรรมชาติก็สอดคล้องกับคำพูดของมัน ใบหน้าเซียนรุ่งอรุณซีดขาว และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากนางอีกครั้ง ขณะที่นางลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลังหนึ่งพันจ้าง ในที่สุดนางก็มองขึ้นมา และยิ้มด้วยความปวดร้าวใจออกมา

สตรีที่กำลังยืนอยู่ข้างกายบุรุษทันใดนั้นก็กล่าวขึ้น “จะพูดกับนางไปทำไม? แค่ตัดศีรษะนางลงมาก็จบแล้ว!”

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่ด้านหลังคนทั้งสอง จิตใจหมุนคว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ จิตใจเขาตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายโดยสิ้นเชิง และไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรออกมาดี

“ตัดศีรษะข้า?” เซียนรุ่งอรุณหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโหดเหี้ยม เส้นผมยุ่งเหยิง นางสูญเสียรากฐานไป ซึ่งก็คือดอกปี่อ้าน ภาพแห่งธรรมของนางก็ถูกทำลายไป มองเห็นความบ้าคลั่งอยู่ในแววตานาง

“พันธมิตรผู้ผนึกอสูรทั้งหมดต่างก็เป็นพวกที่ไร้ใจ ข้าคบหากับบุรุษผู้นั้น แต่สุดท้ายมันก็ตัดข้าทิ้งไป!”

“หัวใจข้าเต้นอยู่ด้วยความเกลียดชัง!!”

“ข้าเกิดมาในสมัยโบราณ และข้าก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นเซียนมาหลายครั้ง ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เหตุผลเดียวที่ข้าไม่ยอมจากสถานที่แห่งนี้ไปก็เนื่องมาจากสิ่งที่มันได้บอกกับข้าหลังจากนั้น”

“มันตัดข้าในที่แห่งนี้ และจากนั้นก็จากไปเพียงลำพังคนเดียว ข้าสังหารคนในสายโลหิตของมันไปนับไม่ถ้วน แต่ความเกลียดชังของข้าก็ยังคงมีอยู่!”

“และตอนนี้เจ้า…เจ้ายังต้องการจะตัดข้าด้วยเช่นเดียวกัน!?” นางเงยหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา จากนั้นก็สะบัดแขนออกไปเป็นวงกว้าง

“ข้าคงอยู่ในดินแดนแห่งดาวหนานเทียนมาตั้งแต่สมัยโบราณ ข้าอาจจะหลบหน้าซ่อนตัว แต่ตอนนี้ ข้าจะเรียกผู้ที่เป็นหนี้ข้า, เซียนรุ่งอรุณ ทั้งหมดมา …พวกเจ้าทั้งหมด…มาช่วยให้ข้ากลืนกินเด็กผู้นี้ด้วย!”

“ช่วยให้ข้าบรรลุถึงความตั้งใจ! จงยึดถือคำสัญญาของพวกเจ้าเมื่อในอดีต!”

เสียงแหลมเล็กของนางดังก้องออกไปทั่วดินแดนแห่งดาวหนานเทียนทั้งหมด ขณะที่เป็นเช่นนั้น เสียงถอนหายใจอย่างแผ่วเบาก็ดังก้องออกมาจากภายในทะเลสาบเต๋าโบราณ เสียงถอนหายใจนั้นดูเหมือนจะประกอบด้วยการไร้กำลังไม่อาจจะทำอะไรได้ แต่ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีพลังอย่างน่าตกใจยิ่ง

“ข้าไม่ควรโผล่ออกไป เนื่องจากสนธิสัญญาจากในอดีตที่ผ่านมา ทำให้ข้าออกไปไม่ได้ แต่พระคุณนี้…ถึงอย่างไรก็ต้องตอบแทนอย่างแน่นอน” สัตว์อสูรสีม่วงทองทันใดนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากภายในทะเลสาบเต๋าโบราณ

ในเวลาเดียวกันนั้น ฝุ่นผงก็เริ่มตกลงมาจากรูปปั้นที่อยู่ภายในวิหารไท่เอ้อร์โบราณ ดวงตาของรูปปั้นลืมขึ้นมา ตอนแรกมีท่าทางสับสน แต่จากนั้นแสงอันเก่าแก่โบราณก็เริ่มสาดประกายออกมา และรูปปั้นก็ลุกขึ้นมายืนอย่างช้าๆ

“เป็นเพราะนาง ข้าถึงสามารถเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในวิหารโบราณนี้ และได้ครอบครองพลังธูป ถ้าข้าไม่ไปช่วย จิตใจข้าคงไม่อาจจะสงบลงได้”

ลึกลงไปจากพื้นผิวของทะเลเทียนเหอ เงาร่างที่ผอมกระหร่องทันใดนั้นก็ใช้กรงเล็บของมันขุดโคลนและตะกอนเพื่อโผล่ขึ้นมา

“พระคุณจากเมื่อหลายปีก่อนนั้น จะต้องตอบแทนให้ได้ในวันนี้ แต่ก่อนอื่นข้าต้องกินเลือดเพิ่มอีกเล็กน้อย”

ในทะเลทรายตะวันตกที่กว้างใหญ่ เนื่องจากทะเลม่วงได้ระบายออกไปในทะเลเทียนเหอ ทำให้ระดับน้ำของมันลดลงเป็นอย่างมาก ลึกลงไปไม่มากนักจากพื้นผิวของทะเลม่วง เป็นภูเขาที่ตอนแรกดูเหมือนว่าจะธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่จากนั้นภูเขาก็เริ่มสั่นสะท้าน และทันใดนั้นใบหน้าก็ปรากฏขึ้นบนภูเขาลูกนั้น และมันก็เริ่ม…ลอยขึ้นไป

ไม่มีภูเขาอีกต่อไป แต่กลายเป็นยักษ์ขนาดใหญ่แทน มันดูคล้ายกับเป็นเทพภูเขา ขณะที่ศีรษะมันโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวน้ำ สีหน้ามันดูเก่าแก่โบราณขณะที่บินขึ้นไปในอากาศ

“สังหาร! เพื่อตอบแทนพระคุณ ข้าต้องสังหารผู้ฝึกตนหนึ่งล้านคน!”

ที่ด้านล่างของทะเลม่วงเช่นเดียวกัน มีเทือกเขาที่ถูกเรียกว่าเทือกเขามังกรดำ เทือกเขานี้เริ่มสั่นสะเทือน ส่งผลให้ก้อนศิลาจำนวนมากล่วงหล่นลงไปที่ด้านข้าง อย่างน่าตกใจยิ่ง จระเข้ยักษ์ปรากฏขึ้น สะบัดหางไปมา ขณะที่มันพุ่งขึ้นมาจากน้ำ ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะท้าน

มองเห็นแสงอันดุร้ายอยู่ในดวงตาของจระเข้ และมันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ระเบิดความดุร้ายอย่างรุนแรงออกมาแทน

ในดินแดนทางเหนือ มีแท่นบูชาอยู่ในอาณาเขตของเผ่าย่อย ที่ด้านบนแท่นบูชามีกระโหลกศีรษะวางอยู่ที่นั่นนานหลายปีจนนับไม่ถ้วน ยากที่จะบอกได้ว่ามันอยู่ที่นั่นมานานเท่าใดแล้ว ในตอนนี้แสงอันเลือนลางเริ่มสาดประกายออกมาจากกระโหลกศีรษะนั้น และกระโหลกศีรษะก็เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ

ในดินแดนทางเหนือเช่นเดียวกัน มีหุบเขาที่ถูกผนึกไว้ด้วยน้ำแข็ง ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามสำหรับผู้ฝึกตน และลึกลงไปในความมืดของหุบเขานั้น…มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง ที่ถูกผนึกไว้อยู่ด้านในก้อนน้ำแข็ง เป็นบุรุษที่มีปีกสีทองงอกออกมาจากแผ่นหลังของมัน

ดวงตาของมันลืมขึ้นมาในทันที และเสียงแตกร้าวก็ได้ยินมา ขณะที่ก้อนน้ำแข็งแตกกระจายไป มันขมวดคิ้วก้าวเท้าออกมา จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

“ในตอนที่ข้ามาถึงที่แห่งนี้ ข้าได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสจนแทบจะตกตายไป นางช่วยให้ข้ามีชีวิตรอด…และให้ข้าสัญญาว่าจะตอบแทนนางในภายหลัง”

ในดินแดนตะวันออกอันกว้างใหญ่มีเขตหวงห้ามอยู่สองแห่ง

หนึ่งเป็นสวรรค์โบราณ มีข่าวลือกล่าวว่าทั่วทั้งบริเวณนั้นเต็มไปด้วยต้นสมุนไพรโบราณมากมายนับไม่ถ้วน แต่ละต้นกระจายกลิ่นอายแห่งความตายอันเข้มข้นออกมา นั่นเป็นเพราะว่าสวรรค์โบราณจริงๆ แล้วก็คือ…สนามรบโบราณนั่นเอง

ภายในสวรรค์โบราณมีต้นไม้ที่แห้งเหี่ยวขนาดใหญ่อยู่หนึ่งต้น รากของมันกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นดิน ต้นไม้สั่นสะท้านเพื่อตอบรับคำเรียกหาของเซียนรุ่งอรุณ และรากของมันก็หดกลับเข้าไปในลำต้น เมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้น ต้นไม้ก็..แผ่พุ่งพลังอันน่าตกใจออกมา!

ยังมีเขตหวงห้ามอีกแห่งในดินแดนตะวันออก บางคนเรียกมันว่าวิหารเซียน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาที่เหยียดยาว และเต็มไปด้วยเวทเกราะป้องกันนับไม่ถ้วน ลึกเข้าไปในเทือกเขามีวิหารที่ชำรุดทรุดโทรมเก่าแก่โบราณอยู่หนึ่งแห่ง

รูปปั้นเทพที่ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับวิหารเมื่อนานมาแล้วสั่นสะท้าน และยากที่จะมองเห็นได้ชัดเจน ภายในวิหารมีตะเกียงน้ำมันซึ่งไม่เคยถูกจุดขึ้นมานานหลายปีมากแล้ว แต่ในตอนนี้ตะเกียงน้ำมันนั้นก็เกิดเป็นประกายไฟขึ้น และเริ่มกระจายแสงอันศักดิ์สิทธิ์ออกมา

แสงนั้นปกคลุมไปทั่วทั้งวิหารโบราณ รวมทั้งรูปปั้นเทพนั้นด้วย ทันใดนั้น เงาร่างก็ปรากฏขึ้น และจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา

“นางเคยมายังที่แห่งนี้ และได้ติดต่อกับข้า…” มันแยกตัวออกมาจากรูปปั้นเทพ ลอยออกไปจากวิหารโบราณ จากนั้นก็บินจนหายลับตาไป

มีทั้งหมดเก้ากลิ่นอายที่พุ่งออกมา ทำให้เกิดเป็นเสียงดังกระหึ่มกระจายออกไปทั่วทั้งดินแดนแห่งดาวหนานเทียน ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดสลัว และสิ่งมีชีวิตในดินแดนแห่งนี้ก็สั่นสะท้าน ผู้ฝึกตนทั้งหมดในสนามรบ แทบจะหมดสติไป

สำนักใหญ่แห่งดินแดนตะวันออกต่างก็ประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง ปรมาจารย์ของพวกมันเริ่มคิดไปถึงตำนานต่างๆ ที่ถูกจดบันทึกไว้ในสมุดบันทึกโบราณของพวกมัน

ในตระกูลจี้แห่งดินแดนตะวันออก ปรมาจารย์เด็กหนุ่มที่ไร้แขนลุกขึ้นมายืน และแสงแปลกๆ ก็สาดประกายอยู่ในดวงตา

“เซียนรุ่งอรุณช่างน่าเหลือเชื่อนัก! แม้แต่ข้าก็ไม่เคยจะคาดคิดว่า นางจะมีสายสัมพันธ์กับผู้คนมากมายเช่นนี้!”

“จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า นางได้คงอยู่มานาน…นานหลายปีจนนับไม่ถ้วน! ถ้านางมุ่งเน้นไปที่การฝึกตนเพียงอย่างเดียว ก็คงไม่อาจจะคาดเดาได้ว่านางจะไปอยู่ในอาณาจักรใดกัน”

ขณะที่ดินแดนแห่งดาวหนานเทียนสั่นสะเทือน สามีและภรรยายืนอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว สีหน้าของสตรีเปลี่ยนไปขณะที่นางมองไปรอบๆ จากนั้นก็ถอยหลังไปยืนอยู่ที่ด้านข้างเมิ่งฮ่าว

จิตใจเมิ่งฮ่าวยังคงหมุนคว้าง ขณะที่เขามองไปยังใบหน้านาง ก็รู้สึกคล้ายกับว่าเขากำลังตกอยู่ในความเคลิบเคลิ้มมึนงง

“ท่านเป็น…ท่านแม่ข้าจริงๆ…?” เขาพึมพำ

“ฮ่าวเอ๋อร์, เจ้าต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากมายตลอดหลายปีมานี้” นางกล่าว สตรีนางนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นมารดาของเมิ่งฮ่าว เมื่อนางมองไปที่เขา จิตใจก็รู้สึกเจ็บปวดราวถูกมีดกรีดแทง นางยื่นมือออกไปจับมือเขาไว้ และดวงตาก็เต็มไปด้วยทั้งความรักและหยาดน้ำตา

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแม่ไม่ดีเอง ที่ไม่สามารถดูแลเจ้าได้ ตอนที่เจ้ายังเป็นเด็ก…เมื่อข้าและพ่อเจ้าจากไป เจ้าก็วิ่งร้องไห้ออกมาจากบ้านและตะโกนเรียก แม่เห็นเจ้าล้มลงไป จิตใจก็แหลกสลาย”

ในตอนนี้เองที่บุรุษหันหลังกลับมามองดูเมิ่งฮ่าว เป็นสายตาที่ทำให้จิตใจเขาต้องสั่นสะท้าน เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและเมตตา และทันใดนั้นก็ทำให้หยดน้ำตาเริ่มไหลลงมาจากใบหน้าเมิ่งฮ่าว

เขาไม่เคยจะคาดคิดว่าจะต้องมาร้องไห้ในช่วงเวลานี้ เขาไม่เคยจะคาดคิดว่าจะได้พบกับบิดาและมารดาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้มาก่อน

เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร แต่ก็ไม่อาจจะหยุดร้องไห้ออกมาได้

เมื่อมารดามองเห็นเมิ่งฮ่าวร้องไห้ ก็ทำให้หยดน้ำตาไหลลงมาบนใบหน้านางมากยิ่งขึ้น

“ฮ่าวเอ๋อร์…” นางกล่าว และจากนั้นก็โอบกอดเขาด้วยความอบอุ่น ทำให้เมิ่งฮ่าวคิดย้อนกลับไปในตอนที่เขายังเป็นเด็ก และความรู้สึกเกลียดที่ต้องจากนางไป

“อย่าร้องไห้” บิดาเขากล่าว ยกมือขยี้ผมของเขา ยิ้มออกมา และความรักในแววตาก็ดูเหมือนจะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น

“เจ้าเติบโตขึ้นแล้วในตอนนี้…เจ้าอยู่ห่างจากเซียนแท้แค่ครึ่งก้าวเท่านั้น ดังนั้นก็ถึงเวลาที่จะส่งต่อเวทแห่งเต๋าบางอย่างของข้าให้กับเจ้า เต๋าของข้าคือเต๋าแห่งกระบี่…ดูให้ดี ข้าจะแสดงเก้าท่ากระบี่ออกมา”

“ท่าแรก!” ท่านก้าวเท้าออกไป และก้มตัวลงเล็กน้อย จากนั้นเอนตัวไปทางด้านหลัง จนกระทั่งแทบจะคล้ายกับเป็นคันธนูที่ถูกขึงจนตึง เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในครั้งเดียวพร้อมกับพลังแห่งสวรรค์และปฐพี อึดใจต่อมา ก็ดูราวกับว่าสวรรค์และปฐพีก็ไม่อาจจะเทียบกับท่าน และไม่อาจจะทำอะไรได้ ราวกับว่าท่านได้ดึงพลังอันน่าเหลือเชื่อจากสวรรค์ลงมา

ท่านยื่นมือขวาออกไป และกระบี่เหล็กธรรมดาก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ

กระบี่…ม้วนกวาดตรงไปยังทะเลสาบเต๋าโบราณแห่งดินแดนด้านใต้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version