Skip to content

King of Gods 1026

King Of Gods

บทที่ 1026 พฤติกรรมอันตราย

“เป็นไปได้อย่างไรกัน มิติส่วนตัวของข้า!”

บุรุษปีกค้างคาวใจเต้นระรัว ทั้งร่างสั่นสะท้าน

ในวินาทีนั้น โลกมิติส่วนตัวของเขาไม่เพียงแต่ปรากฏรอยร้าว แต่โครงสร้างพื้นฐานก็ถูกทำลายไปบางส่วนด้วย

เมื่อโครงสร้างพื้นฐานของโลกมิติส่วนตัวถูกทำลายไป การโคจรของมันจะสับสนวุ่นวาย และจะส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของโลกมิติส่วนตัว

“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา ฝ่ามือพิฆาตโลกา!”

เห็นเพียงพลังฝ่ามือสีทองแดงใหญ่ราวภูผา เปล่งประกายสายฟ้ามหาศาล ถูกผลักออกมาด้านหน้า สรรพสิ่งระหว่างทางถูกทำลายจนราบคาบ

ตู้ม! วิชาฝ่ามือของจ้าวเฟิงพุ่งปะทะโลกมิติส่วนตัวของบุรุษปีกค้างคาว

โครม แซ่ด! แก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์และพลังวายุอัสนีที่แข็งแกร่ง ถูกปลดปล่อยผ่านเสวียนอ้าวของ ‘ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา’ จากนั้นหลอมรวมเข้าไประบบของโลกมิติส่วนตัว

ถึงแม้ว่าพลังของฝ่ามือนี้จะไม่เท่าฝ่ามือที่รับมือกับเซียนซุ่นอิ่งในตอนนั้น แต่ก็มากพอจะต้านทานผู้ถูกเลือกต่างเผ่าพันธุ์ในขั้นปฐมเซียนผู้นี้

แกรก! บุรุษปีกค้างคาวรู้สึกได้ว่าโครงสร้างโลกมิติส่วนตัวของเขาถูกทำลายลงไปมากกว่าครึ่ง โลกมิติส่วนตัวสีม่วงที่อยู่รอบกายเริ่มพังทลายลง!

ในเวลาเดียวกัน พลังที่หลงเหลือของวิชาฝ่ามือปะทะลงบนร่างบุรุษปีกค้างคาว

“อ๊าก…มิติส่วนตัวของข้า!”

บุรุษปีกค้างคาวกระอักเลือดออกมา ร้องลั่นด้วยความตกใจ

จะต้องรู้ว่า โลกมิติส่วนตัวเริ่มต้นจากเขตแดนของราชัน ค่อยๆ เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นทีละก้าว จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นโลกมิติส่วนตัวดังเช่นในตอนนี้ ไม่รู้ว่าต้องเสียเวลาและพลังไปมากเท่าใด

บุรุษปีกค้างคาวมองจ้าวเฟิงด้วยใบหน้าตื่นตะลึง ไม่ว่าจะความเร็ว การป้องกัน หรือว่าวิธีใช้พลังของฝ่ายตรงข้ามก็ล้วนแข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ

“มนุษย์มีผู้ถูกเลือกที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!”

บุรุษปีกค้างคาวตื่นตระหนก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ถูกเลือกของเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวและเขาจะเผชิญเหตุการณ์เช่นนี้

“เงาค้างคาวโบยบิน !”

บุรุษปีกค้างคาวมีสีหน้าตึงเครียด เผาผลาญปราณที่แท้จริง ทั่วร่างปรากฏระลอกแสงสีม่วงเข้ม และในเวลาเดียวกัน ปีกค้างคาวสีม่วงก็มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกส่วนหนึ่ง ห่อหุ้มร่างกายเขาไว้ภายใน พลางปลดปล่อยคลื่นอากาศที่ประหลาดออกมา

วูบ! ร่างบุรุษปีกค้างคาวหายไปจากโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงท่ามกลางแสงสีม่วงเข้มแวววับ

ในวินาทีนั้น แม้กระทั่งโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงก็จับร่องรอยของบุรุษปีกค้างคาวไม่ได้

“เคล็ดวิชาสายเลือดอำพรางกาย?”

จ้าวเฟิงนิ่งเฉย บริเวณดวงตาซ้ายปรากฏคลื่นสีทองอ่อนอำพันขึ้นมา

วิ้ง! เพียงกวาดสายตาผ่าน ร่างบุรุษปีกค้างคาวก็ปรากฏในครรลองสายตาของจ้าวเฟิง

ดวงตาซ้ายของเขามีผลเหนือเคล็ดวิชาอำพรางกายประเภทนี้พอดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ดวงตาซ้ายเปลี่ยนเป็นสีทองแล้ว ทุกสรรพสิ่งไม่อาจพ้นสายตาไปได้!

ทันใดนั้น จ้าวเฟิงเล็งเป้าหมายที่บุรุษปีกค้างคาว

“นี่…เป็นไปได้อย่างไร?”

บุรุษปีกค้างคาวที่หลอมรวมไปกับอากาศและไร้ซึ่งกลิ่นอายใดๆ พลันรู้สึกได้ว่าถูกตรึงเป้าจากพลังจิตวิญญาณกลุ่มหนึ่ง

“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”

เพลิงแสงอัสนีทองม่วงกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศในฉับพลัน จากนั้นจึงระเบิดออกมา

“อ๊าก…”

บุรุษปีกค้างคาวเผยกายทันที ร่างกายและดวงวิญญาณถูกเพลิงอัสนีเทวะทำลายล้างเผาผลาญอย่างรุนแรง

ในเวลาเดียวกัน ภายใต้พลังของจ้าวเฟิง พลังวายุอัสนีมากมายในโลกมิติส่วนตัวพากันตรงไปโจมตีบุรุษปีกค้างคาว

“คิดจะหนีงั้นหรือ?”

ความคิดของจ้าวเฟิงขยับ

ฟู่ แซ่ด!

ร่างจ้าวเฟิงสว่างวาบแล้วพลันหายไป มาปรากฏที่อีกฟากหนึ่งของโลกมิติส่วนตัว

บุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวผู้นั้นเพิ่งจะหนีออกจากโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงมาได้ ก็ถูกขวางเอาไว้อีก

บุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวมองจ้าวเฟิง นอกเหนือจากความหวาดกลัวไม่มีสิ้นสุดแล้ว ในแววตายังมีความเกลียดชังด้วย

เขารู้ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับพวกมนุษย์ จะอ้อนวอนอย่างก็ไร้ผล

พรึ่บ!

เลือดในร่างบุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวเผาไหม้ ร่างขยายใหญ่ขึ้นในฉับพลัน ขนราวเข็มสีทองงอกขึ้นทั่วตัว กลายเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์เสือดาว แก่นแท้พลังที่โหดเหี้ยมอำมหิตกลุ่มหนึ่งระเบิดออกในทันที

โครม! บุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวระเบิดความเร็วในการพุ่งปะทะชั้นยอด เปลี่ยนทิศทางในฉับพลัน เตรียมจะเข้าโจมตีจากอีกทาง

จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น มือข้างหนึ่งคว้าหมับ

ในตอนนั้นเอง พลานุภาพในฟ้าดินกลุ่มหนึ่ง บวกกับแรงกดดันจากโลกมิติส่วนตัว ปกคลุมทั่วร่างบุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาว

แซ่ด ขวับ!

พริบตานั้น กรงเล็บแสงสีแดงขนาดมโหฬารที่มีวายุอัสนีสีชาดล้อมรอบดิ่งลงจากฟากฟ้า คว้าร่างของบุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวที่เปลี่ยนร่างแล้วเอาไว้ในคราเดียว

จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น ดวงตาซ้ายจ้องเขม็ง

ในวินาทีต่อมา

เจตจำนงดวงตาที่แข็งกล้ากลุ่มหนึ่งตรึงวิญญาณของบุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวไว้กลางอากาศ

“อะไรกัน พลังดวงวิญญาณของมัน…”

บุรุษมนุษย์เสือดาวสูญเสียความสามารถควบคุมร่างกายอย่างสิ้นเชิง ความคิดและสติยากจะขยับได้

“สืบวิญญาณ!”

ในดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงผุดระลอกวิญญาณที่ชั่วร้าย พุ่งทะลุเข้าไปวิญญาณของบุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาว

ด้วยระดับขั้นวิญญาณของจ้าวเฟิง ระดับความลึกซึ้งในศาสตร์วิญญาณ บวกกับสายเลือดดวงตา จึงใช้วิชาสืบวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

อีกทั้งพลังวิญญาณของบุรุษมนุษย์เสือดาวผู้นี้อ่อนแอกว่าบุรุษปีกค้างคาว ด้วยเหตุนี้จ้าวเฟิงถึงจงใจสืบวิญญาณเขา

หนึ่งถึงสองช่วงลมหายใจต่อมา จ้าวเฟิงก็ยุติการสืบวิญญาณลง

พรึ่บ แซ่ด!

พลังวิญญาณของจ้าวเฟิงสังหารวิญญาณบุรุษเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาว ส่วนศีรษะถูกจ้าวเฟิงเก็บเข้าไปในมนตราอากาศ

อีกฟากหนึ่ง บุรุษปีกค้างคาวที่ถูกเพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้าโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส เจ็บปวดทรมานเจียนตายจากการกดดันและทารุณของโลกมิติส่วนตัววายุอัสนี

เมื่อบุรุษปีกค้างคาวเห็นจุดจบของบุรุษมนุษย์เสือดาวแล้ว เขาก็เลือกระเบิดตนเองตายไป

จ้าวเฟิงก็ไม่ได้ขัดขวาง อย่างไรเสียการระเบิดตัวตายของผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเซียนก็เขย่าขวัญเซียนได้ในระดับหนึ่ง

บึ้ม! ยามบุรุษปีกค้างคาวระเบิดตัวตาย จ้าวเฟิงเก็บโลกมิติส่วนตัวเข้าไป

เวลาผ่านไปไม่นานนัก อัจฉริยะต่างเผ่าพันธุ์สองคนที่ประมาทเลินเล่อก็ตายในเงื้อมมือของจ้าวเฟิง

“ได้ข้อมูลเพียงพอแล้ว!”

จ้าวเฟิงเอ่ยพึมพำ

ในความทรงจำของผู้ถูกเลือกเผ่าพันธุ์มนุษย์เสือดาวผู้นั้น มีข่าวสารข้อมูลครบถ้วน

เมืองเหมิงมีเซียนดูแลอยู่เพียงคนเดียว พลังเทียบเท่ากับเซียนซุ่นอิ่งที่สังหารไปในคราวก่อน แต่บุตรมังกรวารีที่ห้าของเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกรวารี กลับพากำลังรบขั้นปฐมเซียนที่เก่งกาจสี่คนมาด้วย และยังมีจักรพรรดิไร้เทียมทานอีกหลายคน

คนเหล่านี้เป็นบริวารต่างเผ่าพันธุ์ที่บุตรมังกรวารีที่ห้าพามาด้วย ความแข็งแกร่งทั้งหมดอยู่เหนือกว่าเซียนซุ่นอิ่งในตอนนั้นอย่างยิ่ง

เรียกได้ว่า กำลังรบขั้นสูงในตอนนี้ของเหมืองเหมิงยังแข็งแกร่งกว่าเซียนซุ่นอิ่งสองคนอยู่บ้าง

“แย่จริง ไม่ควรเก็บมิติส่วนตัวเลย!”

จ้าวเฟิงขมวดคิ้วมุ่น

เขาเกรงว่าการระเบิดตัวตายของบุรุษปีกค้างคาวจะส่งผลกระทบต่อโลกมิติส่วนตัวของเขา จึงเก็บเข้าไป

คิดไม่ถึงว่าอยู่ห่างไกลมากขนาดนี้ การระเบิดตัวตายของบุรุษปีกค้างคาวยังดึงดูดความสนใจของกลุ่มที่กำลังตรวจตรานอกเมืองเหมิงได้

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็เก็บพวกเจ้าด้วยเลยแล้วกัน!”

จ้าวเฟิงไม่ได้จากไป แต่รุกคืบเข้าไปอีก

ไม่นานนัก

พวกต่างเผ่าพันธุ์สามกองก็เร่งรุดมา ทุกกองมีประมาณหนึ่งร้อย มีขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับต่ำ ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง และครึ่งก้าวสู่ราชันเป็นต้น ส่วนผู้นำกองกำลังเป็นจักรพรรดิทั่วไป

“เมื่อครู่ด้านหน้ามีระลอกปราณแท้จริงอันแข็งแกร่งอยู่!”

“เป็นอัจฉริยะสองคนที่ติดตามบุตรมังกรวารีที่ห้ามาประลองฝีมือกันที่นั่นหรือไม่?”

“ธาตุของคลื่นกลุ่มนั้นต่างจากที่ผ่านมา!”

ผู้นำสามคนถกเถียงกันไปพลาง โบยบินไปพลาง

ทันใดนั้นเอง เสียงโครมครามก็เข้าไปใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว กองกำลังทั้งสามตั้งรับทันที แต่พวกเขายังไม่ทันได้สัมผัสถึงอะไร ชายผู้มีเรือนผมและดวงตาสีทองผู้หนึ่งก็ปรากฏขึ้นข้างกาย

“เป็นไปได้อย่างไร พวกมนุษย์!”

กำลังพลทั้งสามรู้สึกได้ถึงพลานุภาพที่แข็งแกร่ง ปิดผนึกความว่างเปล่าในบริเวณใกล้เคียง แรงกดดันจนยากจะหายใจทำให้ไม่อาจกระดิกตัวได้

“เขตแดนคุกมายา!”

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงเปลี่ยนเป็นเป็นโลกเขาวงกตสีทองม่วงที่ไร้จุดสิ้นสุด แผ่แรงดึงดูดอย่างที่สุดออกมา

วิ้ง! ใกล้กับจ้าวเฟิง ยอดฝีมือต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหมดในกองกำลังทั้งสามมองไปที่ดวงตาจ้าวเฟิงอย่างไม่รู้ตัว

ทันใดนั้นเอง ต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหมดตรงนั้นยืนนิ่งอยู่ที่เดิมประหนึ่งท่อนไม้ ดวงตาสองข้างมืดบอดไร้ประกาย วิญญาณติดอยู่ในโลกมายาลวงตาที่จ้าวเฟิงสร้างขึ้น

พรึ่บ!

จ้าวเฟิงโบกมือขวา คมมีดวายุจำนวนนับไม่ถ้วนตัดศีรษะของต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหมด

‘บางทีอาจยังสังหารได้อีกส่วนหนึ่ง!’

จ้าวเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ภารกิจของเขาสำเร็จลุล่วงไปแล้ว แถมยังสามารถสังหารผู้ถูกเลือกสองคนของต่างเผ่าพันธุ์ และสองกลุ่มที่ออกลาดตระเวน

และตามที่จ้าวเฟิงเข้าใจ วิธีสร้างผลงานการรบไม่ใช่เพียงแต่สังหารต่างเผ่าพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่นในตอนนี้ จ้าวเฟิงสืบหาข่าวสาร ก็ยังสามารถได้รับผลงานการรบจำนวนมาก

แต่กว่าจะมาสักเที่ยวก็ไม่ง่ายนัก เก็บเกี่ยวไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านี้ ไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของจ้าวเฟิง

ฟุ่บ!

จ้าวเฟิงเข้าไปใกล้เมืองเหมิงอีกเรื่อยๆ

ในขณะที่ใช้ประสาทสัมผัสรับรู้ ยอดฝีมือในระดับขั้นเดียวกันและผู้ที่ชำนาญการรับรู้จะจับสังเกตได้

แต่จ้าวเฟิงใช้ความสามารถในการมองของดวงตาซ้าย กระจายการควบคุมกองกำลังทั้งหมดรอบเมืองเหมิง

ขอแค่จ้าวเฟิงไม่เจตนาจ้องไปที่ยอดฝีมือคนใด ก็จะไม่โดนสังเกตเห็น

ในตอนนี้ จ้าวเฟิงพรางตัวอยู่ในป่าทึบหกหมื่นลี้นอกเมืองเหมิง

ฟู่! จ้าวเฟิงเผยกลิ่นอายบางเบาออกมาในทันใด

“เอ๊ะ ไปดูที่นั่นกับข้าหน่อย!”

ผู้นำสองคนของกลุ่มลาดตระเวนต่างเผ่าพันธุ์รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติ แต่ก็ไม่กล้ายืนยัน จึงนำกองกำลังสองกลุ่มโบยบินไปดูสถานการณ์

‘หลอกล่อสำเร็จแล้ว!’

จ้าวเฟิงเผยรอยยิ้มน้อยๆ รอให้พวกเขามาถึง

ฟู่!

ตอนที่กำลังทหารต่างเผ่าพันธุ์ทั้งสองกลุ่มเข้ามาใกล้ผืนป่าแห่งนี้ พลังมหาศาลก็ผนึกอากาศทั่วบริเวณทันที

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงเปลี่ยนเป็นโลกเขาวงกตม่วงทอง ทำให้สตินึกคิดและวิญญาณของทุกคนตกลงไปในมิติลวงตาอีกแห่งหนึ่งอย่างเงียบเชียบ สูญเสียประสาทสัมผัสทั้งหมดและความสามารถในการควบคุมร่างกาย

โครม!

ฉับพลันนั้น ก่อนที่จะติดอยู่ในวิชาลวงตาของจ้าวเฟิง ผู้นำในขั้นจักรพรรดิระเบิดพลังมหาศาลที่น่ากลัวออกมา

‘เสียแผนแล้ว’

จ้าวเฟิงมีสีหน้านิ่งเฉย

การใช้ ‘เขตแดนคุกมายา’ กับพวกต่างเผ่าพันธุ์จำนวนหลายร้อยพร้อมกัน ผลลัพธ์ย่อมลดลงไปมาก

แต่ในกลุ่มนั้น จักรพรรดิต่างเผ่าพันธุ์ที่พลังวิญญาณค่อนข้างแข็งแกร่งคนหนึ่ง ก่อนที่จะติดอยู่ในวิชาลวงตาของจ้าวเฟิงก็ส่งสัญญาณออกไปแล้ว

“แต่แบบนี้ก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องหลอกล่อทีละคน!”

จ้าวเฟิงตัดศีรษะของต่างเผ่าพันธุ์ทั้งสองกลุ่ม ก่อนโบกมือ ปราณที่แท้จริงวายุอัสนีโหมทะลัก ร่างของต่างเผ่าพันธุ์ทั้งหมดสูญสลายเป็นผุยผง

“มีเรื่องแล้ว ตามข้ามาให้หมด!”

แถวเมืองเหมิง จักรพรรดิชั้นยอดคนหนึ่งทอดสายตาไปที่ไกลๆ แล้วตะโกนออกมาทันที

ฟิ้ว! พลลาดตระเวนด้านนอกเมืองเหมิงทั้งหมดรุกคืบเข้ามาใกล้

ฟุ่บ ฟุ่บ!

พลลาดตระเวนนับพันโบยบินมาใกล้จ้าวเฟิงภายใต้นำของจักรพรรดิชั้นยอดต่างเผ่าพันธุ์คนนั้น

เวลาเดียวกัน ในเมืองเหมิง

แม่ทัพหนึ่งดาวห้าคน แม่ทัพสองดาวสามคน พากำลังทหารชั้นดีห้าพันเดินทางออกไป

ภายในโถงใหญ่มืดมิดแห่งหนึ่งของเมืองเหมิง

“เกิดอะไรขึ้น?”

ชายต่างเผ่าพันธุ์ที่มีเขามังกรเอ่ยขึ้น ทั่วร่างกายเป็นเกล็ดสีคราม สวมชุดหรูหรา

ใจกลางโถงใหญ่มีผู้เฒ่าต่างเผ่าพันธุ์อ้วนฉุตัวใหญ่ยืนอยู่ เขาก็คือเซียนอั้นโหยว (ปลาหมึกดำ) ที่ปกครองเมืองเหมิง

เขาปลดปล่อยประสาทสัมผัสจิตวิญญาณ กวาดผ่านรอบๆ แต่ก็ไม่รับรู้ถึงสถานการณ์อะไร

“พวกเจ้าไปดู!” เซียนอั้นโหยวเอ่ยสั่ง

“ขอรับ!”

“เหอะๆ หวังว่าจะมีโอกาสลงมือ!”

สตรีปีศาจสองตนที่มีกลิ่นอายแกร่งกล้าเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยม สตรีมนุษย์เหยี่ยวหนึ่งในนั้นมีปีกสีดำคู่หนึ่งปรากฏที่หลัง พุ่งทะยานขึ้นฟ้าไป

สตรีเผ่าพันธุ์มนุษย์งูที่มีเรือนร่างเย้ายวนอีกตนกลายร่างเป็นเงาแสงสีเขียวคราม ติดตามแสงปีกดำที่โบยบินอยู่ไป

พวกนางสองคนเป็นอัจฉริยะชั้นยอดที่ติดตามบุตรมังกรวารีที่ห้าแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกรวารีมาที่นี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!