บทที่ 1107 มังกรวารีล้างโลกาเข้าประชิด
กำแพงผลึกที่หนาและแข็งแกร่งถูกศรสังหารเทพของจ้าวเฟิงทำลายจนแตกออก เผยผลึกสีแดงเลือดภายในออกมา
และภายในผลึกสีแดงโลหิตนั้นมีเลือดสีม่วงทองวาววับอยู่หนึ่งหยด!
ในยามที่เข้าใกล้ผลึกสีแดงโลหิตก้อนนี้ เลือดในกายของจ้าวเฟิงก็สั่นสะท้านไม่หยุด ตัวจ้าวเฟิงยิ่งแบกรับแรงกดทับสายเลือดบรรพกาลที่มหาศาลไม่สิ้นสุด
นี่ยังเป็นสภาพที่เลือดหยดนี้ถูกผนึกไว้ในกำแพงผลึกพลังเทพ
หากเลือดหยดนี้ปรากฏอยู่ที่โลกภายนอกโดยสมบูรณ์ เกรงว่าแม้แต่จ้าวเฟิงจะเข้าใกล้ก็ยากเหลือคณนา
“นี่หรือว่าจะเป็นเลือดของร่างเทพ อีกทั้งดูไปแล้วเหมือนจะไม่ใช่เลือดธรรมดา เป็นไปได้สูงมากว่าเป็นเลือดบริสุทธิ์ของร่างเทพ!”
จ้าวเฟิงจิตใจสั่นสะท้าน
คิดไม่ถึงเลยว่าการใช้ศรสังหารเทพปลิดชีพครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง จะเปิดโอกาสนี้ได้โดยบังเอิญ
ในยามนี้ กลิ่นอายพลังเทพและพลังงานของร่างเทพทุกๆ ส่วนยังคงไหลเวียนไปยังศีรษะร่างเทพ
กำแพงผลึกในร่างเทพเทียบกับตอนแรกแล้วนับว่าอ่อนแอลงไปเป็นอย่างมาก ยอดฝีมือขั้นราชาเซียนที่ค่อนข้างแข็งแกร่งล้วนสามารถฟันกำแพงผลึกบางส่วนขาดได้
ดังนั้นศรสังหารเทพของจ้าวเฟิงจึงมีพลังทำลายล้างที่น่าหวาดหวั่น ทำลายกำแพงผลึกบางส่วนลงได้อย่างง่ายดาย
“ข้าจะได้ ‘เลือดเทพ’ นี่มาได้อย่างไร?”
จ้าวเฟิงเจอกับโจทย์ยาก
ถึงแม้ว่ากำแพงผลึกทั่วทุกแห่งในยามนี้อ่อนแอลงมากเมื่อเทียบกับตอนแรก
แต่กำแพงผลึกที่หุ้มเลือดเทพหยดนี้เอาไว้กลับเเข็งยิ่งนัก เว้นเสียแต่ว่าการทำลายชั้นวัตถุของจ้าวเฟิงจะถึงระดับครึ่งเทพ มิฉะนั้นแล้วก็ยากจะผ่าผลึกสีแดงโลหิตออกมา
ยามนี้ ในซากผลึกแห่งนี้ พายุทำลายล้างที่ศรสังหารเทพสร้างขึ้นค่อยๆ สลายไป
อาณาเขตรอบนอก ผู้แข็งแกร่งบางคนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสายเลือดที่น่าหวาดหวั่น เริ่มเข้ามาใกล้ที่นี่
“แย่แล้ว เลือดเทพหยดนี้จะต้องถูกผู้แข็งแกร่งคนอื่นค้นพบอย่างแน่นอน!”
จ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งเครียดอยู่บ้าง
“ไสหัวไปให้หมด!”
จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในทันที กระตุ้นเพลิงมารโลหิต อีกทั้งปลดปล่อยเจตจำนงดวงตาที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน
เหล่ามนุษย์และต่างเผ่าพันธุ์ที่อยู่รอบนอกซึ่งเตรียมจะเข้ามาดูสถานการณ์ตกใจถอยทันที
“พลังชีวิตและเจตจำนงดวงตาแข็งแกร่งเหลือเกิน น่ากลัวว่ามันจะมีพลังขั้นราชาเซียน!”
“กระทั่งครึ่งเทพมันยังฆ่าเสีย เจ้ามนุษย์นี่จะต้องมีไพ่ตายที่แข็งแกร่งอีกเป็นแน่!”
ราชาเซียนทั่วไปเหล่านี้ถูกเสียงตะโกนดังของจ้าวเฟิงสะเทือนจนถอยร่นไปทันใด
ผู้เดียวที่พลังพอจะแข็งแกร่งก็มีเพียงเซียนโม๋ยวน แต่เซียนโม๋ยวนกล้าเข้าใกล้จ้าวเฟิงเสียที่ไหน
เขากับจ้าวเฟิงนับว่ามีแค้นฝังลึก เมื่อครู่จ้าวเฟิงเมินตนเองไปเพื่อที่จะไล่สังหารครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง หากในยามนี้เขาวิ่งไปหา มิใช่ว่าเป็นการรนหาที่ตายรึ
“ทำให้พวกนั้นตกใจถอยหนีไปได้ชั่วขณะ!”
จ้าวเฟิงโล่งใจเล็กน้อย
แต่กลิ่นอายของเลือดหยดนี้น่าหวาดหวั่นเกินไปจริงๆ ไม่อาจปกปิดไปได้ตลอด
อีกทั้งหากมีราชาเซียนหรือครึ่งเทพมาแถวนี้พอดี เลือดเทพหยดนี้ก็จะถูกพบเจอ
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือจ้าวเฟิงต้องซ่อนเลือดเทพหยดนี้เอาไว้ หรือไม่ก็ใช้มันเสีย
“แมวขโมยน้อย!”
จ้าวเฟิงเรียกเจ้าแมวขโมยน้อยออกมา
ดวงตาทั้งสองของเจ้าแมวขโมยน้อยวาววาบ จ้องเขม็งไปยังหยดเลือดสีม่วงทองในผลึกสีแดงโลหิต น้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว
เคร้ง เคร้ง!
เเมวขโมยน้อยกำกริชสีดำเอาไว้ ก่อนฟันไปยังเบื้องล่าง
ชั่วประเดี๋ยวเดียว แมวขโมยน้อยก็ฟันเป็นรอยลึกครึ่งชุ่น
แต่ว่ายิ่งขุดลงไปก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
เมี้ยว เมี้ยว!
แมวขโมยตัวน้อยอธิบายกับจ้าวเฟิง ในยามนี้มันไม่อาจกระตุ้นอาวุธเทพชิ้นนี้ได้ มันใช้ความคมของตัวอาวุธเทพขุดล้วนๆ
ไม่นานนัก แมวขโมยน้อยก็ขุดรูเล็กๆ ลึกสองชุ่น ห่างจากเลือดเทพข้างใต้ไม่ถึงครึ่งชุ่น
แต่กำแพงผลึกครึ่งชุ่นเหมือนจะแฝงด้วยพลังของเลือดเทพหยดนี้ จึงแข็งผิดธรรมดา
เคร้ง เคร้ง!
แมวขโมยน้อยขุดลงไปอีกหลายส่วนอีกครั้ง
ครืน!
กลิ่นอายสายเลือดน่าหวาดกลัวที่ทรงพลังบรรพกาลแผ่กระจายออกทันใด
จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิข้างๆ สีหน้าพลันตื่นตะลึง
วู้ม ฟู่ ฟู่!
จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง กระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์และเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบทันที
ในขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานขึ้น พยายามกลบเกลื่อนกลิ่นอายเลือดเทพสุดแรง
เซียนบางคนที่อยู่ไกลๆ ถูกการเคลื่อนไหวของจ้าวเฟิงดึงดูดทันที
“เมื่อครู่นี้มันอะไรกัน? กลิ่นอายสายเลือดโบราณน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก!”
“หรือว่าจ้าวเฟิงได้ของล้ำค่าอะไรไว้ ทำให้เพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบของเขาแปรสภาพอีกครั้ง?”
เซียนบางคนที่อยู่ไกลมากมีสีหน้าประหลาดใจ มองไปยังจ้าวเฟิงทางนั้น แต่กลับไม่กล้าเข้าใกล้
อีกทั้งที่นี่ห่างจากจ้าวเฟิงมากเกินไป ระหว่างนั้นมีซากผลึกมากมายสกัดกั้น ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณของพวกเขาไม่อาจทะลุผ่านไปได้
บนเลือดเทพ หัวใจของจ้าวเฟิงเต้นระรัว
ยามนี้ ผู้แข็งแกร่งตรงเขตรอบนอกที่นึกสงสัยพวกนั้นล้วนเป็นขอบเขตพลังขั้นเซียนทั้งสิ้น กลับถูกจ้าวเฟิงข่มขวัญ ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
แต่หากดึงดูดยอดฝีมือที่ยิ่งแข็งแกร่งกว่านี้ เลือดเทพหยดนี้จะต้องถูกค้นพบเป็นแน่!
“เหมือนจะสามารถดูดซับพลังเลือดเทพได้!”
จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างยินดี
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เริ่มดูดซับเลยแล้วกัน!”
จ้าวเฟิงตัดสินใจขึ้นโดยพลัน
แม้กระทั่งแมวขโมยน้อยก็ยังไม่สามารถขุดเอาเลือดเทพหยดนี้ออกมาทั้งก้อนได้ การเคลื่อนย้ายมิติของจ้าวเฟิงก็ไม่อาจใช้ได้เช่นกัน
เริ่มดูดซับพลังเลือดเทพไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด ต่อให้เมื่อถึงเวลานั้นดึงดูดผู้แข็งแกร่งคนอื่นมา จ้าวเฟิงก็นับว่าได้ประโยชน์อะไรบ้างแล้ว
เมี้ยว เมี้ยว!
แมวขโมยน้อยมุดกลับไปในมนตราอากาศ
จ้าวเฟิงยื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง แล้วแหย่ลงไปในรูผลึกเล็กบาง
วู้ม ฟู่~
กลิ่นอายอ่อนจางสีม่วงทองค่อยๆ ถูกจ้าวเฟิงเหนี่ยวนำออกมา ผสานเข้าไปในพื้นฐานสายเลือดของเขา
ฟู่ ฟู่!
สายเลือดในกายของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน โคจรดูดซับกลิ่นอายสายเลือดบรรพกาลนี้อย่างบ้าคลั่ง
ชั่วเสี้ยวขณะ พื้นฐานสายเลือดของจ้าวเฟิงและระดับขั้นชีวิตก็ได้รับการยกระดับขึ้นพอควร
วู้ม ฟู่!
ครั้งนี้ เส้นเลือดม่วงทองเล็กละเอียดถูกจ้าวเฟิงดึงออกมา ก่อนหลอมเข้าไปทั่วทั้งร่างของเขา
ฟู่! จ้าวเฟิงกระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ซึมซับเลือดม่วงทองสายนี้
วู้ม ฟู่ ฟู่!
ลายอัสนีสีทองโบราณบนพื้นผิวกายศักด์สิทธิ์อัสนีของจ้าวเฟิงพลันส่องประกายแสงเทพทองแดงขึ้น กลิ่นอายไร้รูปที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังแผ่ซ่านออกมาจากในกาย
“ยังเร็วขึ้นได้อีกนิด!”
จ้าวเฟิงเพิ่มระดับความเร็วในการดึง
วู้ม วู้ม! สายเลือดม่วงทองอีกจำนวนมากถูกจ้าวเฟิงดึงออกมา
เพียงชั่วเสี้ยวขณะ แก่นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ พลังศักดิ์สิทธิ์อัสนีเทวะ และพื้นฐานสายเลือดของจ้าวเฟิงยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งพลังวิญญาณก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“ไม่อย่างนั้นก็ใช้เลือดเทพหยดนี้ทะลวงเทวาเร้นลับชั้นสูง!”
จ้าวเฟิงเผยความบ้าคลั่งออกมา
ขอบเขตพลังสำนึกรู้ของจ้าวเฟิงฝึกฝนในร่างเทพถึงจนทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงนานแล้ว
นอกจากนั้น หากใช้เลือดเทพหยดนี้ยกระดับขอบเขตพลัง ไม่เพียงแต่ไม่ติดขัดอะไร พื้นฐานก็มั่นคง อีกทั้งยังสามารถทำให้จ้าวเฟิงดูดซับพลังเทพได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
ครั้นตัดสินใจแล้ว จ้าวเฟิงก็เริ่มเตรียมตัว
เช่นเดียวกัน จ้าวเฟิงกระตุ้นสายเลือดและกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์สุดกำลัง เพื่อกลบเกลื่อนกลิ่นอายเลือดเทพหยดนี้ พูดได้ว่าเสียงดังกึกก้องครึกโครม
วู้ม บึ้ม!
แก่นสารสำคัญ ปราณ และจิตวิญญาณของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายน่าหวาดกลัวอันไร้รูปร่างพวยพุ่งออกไปทั่วทุกทิศไม่ขาดสาย
วู้ม ฟู่ ฟู่!
กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิงยิ่งสว่างระยิบระยับ แรงกดดันพลังอันน่าหวั่นเกรงปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน
ถึงแม้จ้าวเฟิงจะโคจร ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ช่วยทะลวงเทวาเร้นลับชั้นสูง
แต่พลังของเลือดเทพหยดนี้หล่อเลี้ยงพื้นฐานสายเลือดของจ้าวเฟิงให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดอย่างไร้ร่องรอย มีประโยชน์อย่างมากต่อกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์
พื้นที่รอบนอก
“นี่มันอะไรกัน? เป็นกลิ่นอายสายเลือดที่โบราณอะไรเช่นนี้!”
ในขณะนี้ ชายต่างเผ่าพันธุ์ที่ทั่วทั้งกายมีผิวสีเขียวเข้ม บนหัวมีสองเขาก็มาถึงที่นี่
“ราชาเซียนปี้ซี (กิ้งก่ามรกต) นั่นคือจ้าวเฟิง เมื่อไม่นานมานี้มันใช้ไพ่ตายสังหารครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง หลังจากนั้นก็หยุดอยู่ที่นี่มาตลอด!”
เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผู้หนึ่งรีบอธิบายที่มาของเรื่องราว
“อะไรนะ?”
ราชาเซียนปี้ซีเผยสีหน้าตื่นตกใจ ไม่อยากเชื่อว่าครึ่งเทพจวี้เหมิ่งจะถูกจ้าวเฟิงสังหาร
“เจ้าเด็กนั่นสำแดงไพ่ตายที่สามารถสังหารครึ่งเทพได้ ในยามนี้จะต้องอ่อนแออย่างมากเป็นแน่ แต่มันอยู่ที่นั่นมาโดยตลอด เกรงว่าคงจะค้นพบของล้ำค่าอะไร!”
ราชาเซียนปี้ซีปรายตามอง จากนั้นมองไปยังที่ไกลด้วยสายตาเป็นประกาย
ฟิ้ว! ราชาเซียนปี้ซีมุ่งหน้าบินไปยังจ้าวเฟิงทันที
“กลิ่นอายสายเลือดบรรพกาลแข็งแกร่งนัก!”
ราชาเซียนปี้ซีสัมผัสได้ว่าเลือดของตนสั่นสะท้าน
เขาสงสัยกระทั่งว่าจ้าวเฟิงครอบครองสายเลือดบรรพกาลที่อยู่ในสิบอันดับแรกหรือไม่
ทันใดนั้น
รัศมีอำนาจทั่วร่างจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นทันใด พลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุดินทั่วทิศทางทะลักล้น แรงดึงดูดมหาศาลไร้ขอบเขตแผ่ซ่านไปทั่วฟ้าดินทันใด
ราชาเซียนปี้ซีแค่นเสียงอึดอัด ถูกแรงดึงดูดทรงพลังที่จู่ๆ ก็แผ่ซ่านมากดอัดจนหายใจไม่ออก
“มันทะลวงขั้นได้แล้ว…”
ราชาเซียนปี้ซีมีสีหน้าตื่นตกใจ
ในชั่วขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงพลันลืมตาทั้งสองขึ้น ปลดปล่อยความคิดจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งทรงอำนาจออกมา
ราชาเซียนปี้ซีถูกโจมตีอย่างไร้รูปร่างอีกครั้ง สตินึกคิดพร่าเลือน
“ไป!”
ราชาเซียนปี้ซียังไม่ทันเข้าใกล้จ้าวเฟิงก็ต้องกลับไปทางเดิม
แต่เดิมเขาคิดว่าจ้าวเฟิงจะอ่อนแรงเป็นอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงกลับทะลวงขั้นได้ในยามนี้
อีกทั้งพลังและรัศมีอำนาจที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้านทานได้อย่างแน่นอน
“ราชาเซียนปี้ซีเขา…”
ราชาเซียนผู้หนึ่งเอ่ยไม่ออก
ราชาเซียนปี้ซีทะยานไปอย่างดุดัน แต่ยังไม่ทันจะเข้าใกล้เป้าหมายก็วิ่งกลับมาเสียแล้ว
“ฟู่…” จ้าวเฟิงถอนหายใจยาว
เมื่อครู่เขาใช้รัศมีอำนาจจากการทะลวงขอบเขตพลังร่วมกับเลือดเทพที่อยู่ใต้พื้น ปลดปล่อยพลังชีวิตและพลังที่ไร้เทียมทานออกมาขู่ราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์ผู้หนึ่งจนตกใจหนีไปได้สำเร็จ
แต่ครั้งต่อไป วิธีนี้ท่าทางคงไม่ได้ผลแล้ว
“ยามนี้พลังเลือดเทพถูกข้าใช้ไปแล้วสองส่วน!”
เรื่องนี้เกินความคาดหมายมาก สรรพคุณของเลือดเทพเพียงแค่สองส่วนก็สามารถทำให้จ้าวเฟิงทะลวงได้หนึ่งขั้นเล็ก
นอกจากนั้น กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขายังได้ประโยชน์มหาศาล ก้าวกระโดดไปจนถึงขั้นสุดยอดของระดับสูง!
หากจ้าวเฟิงสามารถเก็บเลือดหยดนี้ไว้ได้ รอใช้ตอนเขาถึงขั้นเซียนเทวาเร้นลับชั้นสูง เกรงว่าคงทะลวงถึงขั้นครึ่งเทพได้เลย
ยากที่จะจินตนาการได้ว่า พลังที่แฝงอยู่ในเลือดเทพหยดนี้น่าหวาดหวั่นเพียงใด
“พลังเลือดเทพที่เหลือนี่ ข้าควรจะดูดซับมันยังไง!”
จ้าวเฟิงพูดอะไรไม่ออกอยู่บ้าง
ตอนนี้มีของวิเศษล้ำค่าถึงเพียงนี้อยู่ต่อหน้า แต่จ้าวเฟิงกลับเอาไปไม่ได้ ดูดซับได้แต่ก็ช้าเป็นที่สุด
“ไม่สนแล้ว ดูดซับได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น!”
จ้าวเฟิงใช้แผนการเช่นนี้ ใช้นิ้วมือดูดซับพลังเลือดเทพที่อยู่ข้างใต้อีกครั้ง
พลังเลือดเทพถูกจ้าวเฟิงดูดซับ อ่อนกำลังลงเรื่อยๆ กลิ่นอายพลังเทพของกำแพงผลึกสีแดงโลหิตก็ค่อยๆ หายไป
บางทีอีกครู่หนึ่ง แมวขโมยน้อยอาจจะขุดเลือดเทพหยดนี้ออกมาได้ทั้งหมด
นอกกำแพงผลึกหลายหมื่นลี้ ร่างดำร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
“หาเจอแล้ว!”
สายตาเหี้ยมโหดของมังกรวารีล้างโลกามองไปยังจ้าวเฟิงที่กำลังฝึกตนอยู่ไกลๆ
“นั่นคือหยดเลือดเทพ!”
มังกรวารีล้างโลกามีสีหน้าตื่นตะลึงทันใด
“เจ้าพวกโง่ ถูกจ้าวเฟิงข่มขวัญเสียได้ นั่นคือเลือดบริสุทธิ์ของร่างเทพเชียวนะ!”
มังกรวารีล้างโลกาอ้าปากสบถ
จากการคาดเดาของมังกรวารีล้างโลก ร่างเทพร่างนี้จะต้องมีสายเลือดเผ่าพันธุ์เทพยักษ์อย่างแน่นอน อีกทั้งในยามที่ร่างเทพนี้มีชีวิตอยู่ จะต้องมีพลังเทพที่แข็งแกร่งกว่าเขาหรือเทพบรรพกาลเสียหยางเป็นแน่
“ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเลือดบริสุทธิ์หยดนี้อยู่มานานเท่าไหร่ มีพลังไหลออกไปมากเพียงใด อีกทั้งยังถูกพลังลึกลับของศีรษะร่างเทพดูดซับพลังไปบางส่วน แต่เลือดบริสุทธิ์เช่นนี้ก็มากพอจะช่วยข้าฟื้นฟูขอบเขตเทพแท้จริงได้ขั้นหนึ่ง!”
สายตาของมังกรวารีล้างโลกาส่องประกายวาววับ มองมายังจ้าวเฟิง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา
ในสายตาเขา เลือดหยดนี้เป็นของเขาแล้ว
และจ้าวเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
วูบ! มังกรวารีทมิฬเตรียมลงมือ
แต่ยามนี้ ภายในกายของมังกรวารีล้างโลกามีคำพูดร้อนรนของป๋ายหลินลอยมา
“ไม่ได้ ตอนนี้สังหารจ้าวเฟิงไม่ได้ รีบไปซะ มิเช่นนั้นทั้งข้าและเจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่!”
ป๋ายหลินส่งเสียงร้อนรนกระวนกระวาย ราวกับทำนายได้ถึงเรื่องราวที่สุดแสนจะน่ากลัว