บทที่ 1108 ผู้แข็งแกร่งมาเยือน
“ไม่ได้ ตอนนี้สังหารจ้าวเฟิงไม่ได้ รีบไปจากที่นี่เร็ว…”
ป๋ายหลินส่งกระแสจิตที่ร้อนรนกระวนกระวายมา
“หึ เมื่อครู่เจ้าให้ข้าทิ้งโอกาสมรดกที่นั่น ตอนนี้ยังขัดขวางข้าสังหารจ้าวเฟิงอีกรึ?”
มังกรวารีล้างโลกาขมวดคิ้วเล็กน้อย ในดวงตาฉายแววอำมหิตวูบผ่าน
สถานที่มรดกแห่งนั้นยังมีโอกาสมากมาย มักรวารีล้างโลกายังไม่ทันสำรวจทั่วก็ต้องรีบร้อนจากไป
ผลสุดท้ายตอนนี้หาจ้าวเฟิงพบ ทั้งยังเจอเลือดบริสุทธิ์ร่างเทพ ป๋ายหลินกลับเตือนเขาให้หนี
“วางใจเถิด สังหารมันช่างง่ายแสนง่าย!”
มังกรวารีล้างโลกาใบหน้าลิงโลด นัยน์ตาฉายแววละโมบเลือดบริสุทธิ์ของเทพ เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า!
ของล้ำค่าสองสิ่งที่จะได้มาครองอย่างง่ายดายอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม มังกรวารีล้างโลกาจะทิ้งไปได้ยังไงกัน!
ฟู่!
มังกรวารีล้างโลกาแปลงเป็นแสงเปลวเพลิงสีดำทมิฬ ทะยานตรงไปยังจ้าวเฟิง
……
ในซากผลึก จ้าวเฟิงกำลังแหย่นิ้วชี้ลงไปในรูผลึก และดูดซับพลังเลือดเทพสุดกำลัง
“ร่างกายไม่อาจดูดซับพลังในเลือดเทพนี้ได้แล้ว!”
จ้าวเฟิงปวดหัวนัก
จนถึงในตอนนี้ จ้าวเฟิงดูดซับพลังเทพไปเพียงแค่สองส่วนกว่าเท่านั้น แต่ร่างกายของเขาก็อยู่ในสภาวะอิ่มตัวแล้ว
สามารถดูดซับพลังเลือดเทพได้มากเช่นนี้ สาเหตุหลักๆ ก็เพราะจ้าวเฟิงใช้พลังจากเลือดเทพทะลวงเทวาเร้นลับชั้นสูงแล้ว ในขณะเดียวกันก็ยกระดับขั้นชีวิตจนสูงเป็นอย่างมาก อีกทั้งหล่อหลอมกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์
ทะลวงเทวาเร้นลับชั้นสูง กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นสุดยอดระดับสูง ต่อให้เผชิญหน้ากับราชาเซียนอวี่หลิงโดยไม่ใช้เพลิงดวงตาอัสนีเทวะในยามนี้ จ้าวเฟิงก็มีโอกาสชนะสูงมาก
ถึงแม้ว่าจ้าวเฟิงยังผสานพลังนี้เข้าไปในตาซ้ายได้
แต่ยามนี้ขอบเขตพลังของเขาไม่ได้ดีมากนัก เพียงพลังเลือดเทพเข้าไปยังในตาซ้าย จนทำให้ตาซ้ายเกิดการแปรสภาพแบบใดขึ้น เช่นนั้นจะไม่เป็นการดีอย่างแน่นอน
ในเมื่อหลังจากใช้ศรสังหารเทพแล้ว ดวงตาเทพเจ้าก็กลายเป็นที่พึ่งที่สำคัญที่สุดของจ้าวเฟิง ช่วงเวลาที่สำคัญในยามนี้ จ้าวเฟิงจะนำดวงตาเทพเจ้ามาดูดซับพลังในเลือดเทพได้อย่างไร
“ใคร!” จ้าวเฟิงที่อยู่ในห้วงภวังค์สัมผัสถึงสิ่งผิดปกติได้ทันใด
ฟู่! แสงเปลวเพลิงเลือนรางที่มองเห็นไม่ชัดมาถึงยังเบื้องหน้าของจ้าวเฟิงแล้ว
“เร็วยิ่งนัก! มังกรวารีล้างโลกา!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงตื่นตะลึง
มังกรวารีล้างโลกายังจับจ้องเขาเอาไว้จริงๆ ด้วย อีกทั้งมังกรวารีในยามนี้แข็งแกร่งกว่าตอนแรกมาก
เกรงว่าแม้กระทั่งกระบวนท่าเดียวของเขา เซียนชั้นสูงก็ไม่อาจรับได้ เซียนทั่วไปไม่ใช่คู่มืออย่างแน่นอน
“ไม่ทันแล้ว!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงร้อนรน
ตราอัสนีเทวะในกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ฟื้นกลับมาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่อาจสร้างความบาดเจ็บให้กับมังกรวารีล้างโลกาได้
เกราะศักดิ์สิทธิ์อัสนีธาตุดิน!
จ้าวเฟิงกระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ด้วยระดับสูงสุด ในขณะเดียวกันก็สำแดงเคล็ดวิชาป้องกันวายุอัสนีธาตุดินขั้นที่เก้า
วู้ม ฟู่ ฟู่!
ผิวกายของจ้าวเฟิงทะลักพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีสีเหลืองหม่นออกมา ก่อร่างเป็นเกราะวาววับที่มีวายุอัสนีหุ้มล้อมทันใด ทั่วเกราะยังโอบล้อมด้วยความกดดันแรงดึงดูดที่ไร้รูปร่างชั้นหนึ่ง
“ฮี่ๆ กระบวนท่าเดียวก็ทำลายเจ้าได้แล้ว!”
มังกรวารีล้างโลกายิ้มชั่วร้าย แววตาละโมบจ้องเขม็งมายังจ้าวเฟิง
ฟู่!
มังกรวารีล้างโลกาส่งกรงเล็บสีดำซึ่งล้อมรอบด้วยเพลิงมังกรทมิฬออกมา เพลิงมังกรต้องห้ามที่ทำลายทุกสรรพสิ่งโจมตีมายังจ้าวเฟิง
“แข็งแกร่งยิ่งนัก!” จ้าวเฟิงหน้าเปลี่ยนสี
เผชิญหน้ากับการโจมตีที่แข็งแกร่งของมังกรวารีล้างโลกา เกราะศักดิ์สิทธิ์อัสนีธาตุดินไม่มีทางต้านทานได้เลย
ในขณะเดียวกัน เขามองสายตาของมังกรวารีล้างโลกาออกว่าอีกฝ่ายค้นพบเลือดเทพแล้ว
“โล่อัสนีศักดิ์สิทธิ์!”
จ้าวเฟิงยื่นมือขวาออกโดยทันที จับโล่อัสนีสีเหลืองหม่นหนาหนักซึ่งก่อตัวขึ้นจากพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุดินมหาศาลที่เบื้องหน้าเอาไว้
วู้ม บึม!
กรงเล็บที่ล้อมด้วยเพลิงมังกรดำมืดของมังกรวารีล้างโลกา ปะทะเข้ากับมือขวาของจ้าวเฟิง
แกรก! โล่อัสนีศักดิ์สิทธิ์ที่ก่อรูปขึ้นตรงมือขวาของจ้าวเฟิงพังทลายลงทันใด
ขณะเดียวกัน เกราะศักดิ์สิทธิ์อัสนีธาตุดินรอบกายจ้าวเฟิงก็โดนโจมตีอย่างไร้รูปร่าง
แต่ชั่วเสี้ยวขณะต่อมา นิ้วชี้ข้างขวาของจ้าวเฟิงก็ปลดปล่อยพลังสายเลือดแข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน โจมตีไปยังเบื้องหน้าพร้อมกับพลังศักดิ์สิทธิ์
ครืน บึ้ม!
มังกรวารีล้างโลกาที่แต่เดิมคิดว่าการโจมตีนี้ทำลายการป้องกันของจ้าวเฟิงได้ ถูกพลังสายเลือดที่จู่ๆ ก็พุ่งมาซัดกระเด็นไป
“นี่มันอะไรกัน?”
มังกรวารีล้างโลกาถูกซัดลอยไปไกลหลายสิบจั้ง ร่างกายบาดเจ็บในระดับหนึ่ง มองไปยังจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
“นิ้วของข้า…”
จ้าวเฟิงมองนิ้วชี้ของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
ทั่วทั้งร่างจ้าวเฟิงโอบล้อมด้วยพลังวายุอัสนีสีเหลืองหม่น มีเพียงนิ้วชี้ขวาของเขาที่ปรากฏเลือดม่วงประกายทองขึ้น
ในนิ้วชี้ เส้นเลือดม่วงทองเชื่อมต่อกับฝ่ามือของจ้าวเฟิง เชื่อมประสานไปทั่วทั้งร่าง
“นิ้วชี้ของข้ารวบรวมพลังเลือดเทพไว้มหาศาลเลย!”
จ้าวเฟิงเข้าใจเหตุผลที่มาที่ไปทันที
ตั้งแต่ต้นจนสุดท้าย จ้าวเฟิงใช้นิ้วชี้ค่อยๆ ดูดซับพลังเลือดเทพในกำแพงผลึกสีแดง
แต่ตอนนี้ ร่างกายของจ้าวเฟิงไม่อาจดูดซับพลังเลือดเทพที่เหลือได้แล้ว ดังนั้นพลังกลุ่มนี้ส่วนมากจึงรวมอยู่ในนิ้วชี้
เมื่อครู่ที่ปะทะกับมังกรวารีล้างโลกา จ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังเลือดเทพในนิ้วชี้อย่างไม่รู้ตัว
“เจ้าเด็กนี่ สิ้นเปลืองถึงเพียงนี้เชียวรึ!”
มังกรวารีล้างโลกามองไปยังจ้าวเฟิงก็เข้าใจต้นสายปลายเหตุ และอดสบถด่าไม่ได้
นั่นคือเลือดเทพของร่างเทพนี้เชียว ต่อให้เป็นเทพแท้จริงมันก็มีประโยชน์ด้วยอย่างมหาศาล แต่จ้าวเฟิงกลับปลดปล่อยพลังเลือดเทพออกมาใช้ต่อสู้
ตรงจุดไกลลิบในซากปรักหักพังแห่งนี้ มนุษย์บางคนและเซียนต่างเผ่าพันธุ์ถูกคลื่นพลังที่น่าหวาดหวั่นจากจ้าวเฟิงดึงดูด
“นั่นมันมังกรวารีล้างโลกา!”
เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผู้หนึ่งร้องอย่างตกใจ ทั้งร่างสั่นสะท้านเย็นเยือก
“สวรรค์ มังกรวารีล้างโลกามาที่นี่แล้ว!”
“ดูนั่นเร็ว ในกำแพงผลึกข้างจ้าวเฟิงมีของวิเศษอะไรใช่หรือไม่?”
เซียนผู้หนึ่งที่สายตาเฉียบคมค้นพบเลือดเทพหยดนั้นข้างกายจ้าวเฟิง
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนล้วนถูกกลิ่นอายสายเลือดที่ยิ่งใหญ่น่าหวาดกลัวด้านข้างจ้าวเฟิงดึงดูดใจ
แต่ว่ามังกรวารีล้างโลกาอยู่ที่นั่น จ้าวเฟิงก็ไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายๆ ต่อให้เจอของวิเศษ พวกเขาก็ไม่กล้าเฉียดไปใกล้
ศูนย์กลางซากผลึก
“ฮี่ๆ เลือดเทพถูกพบแล้ว จ้าวเฟิง เจ้ามอบมันมาให้ข้าซะเถอะ!”
มังกรวารีล้างโลกาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายอำมหิต
ต่อให้นิ้วชี้ของจ้าวเฟิงแฝงไว้ด้วยพลังเลือดเทพบางส่วน แต่สุดท้ายแล้วจ้าวเฟิงก็ไม่อาจควบคุมหรือใช้พลังนี้ได้ แค่เพียงปลดปล่อยมันออกมาเฉยๆ เท่านั้น
มังกรวารีล้างโลกาเพียงต้องระวังนิดหน่อย สังหารจ้าวเฟิงก็ยังคงเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
แต่ขณะนี้ ในกายมังกรวารีล้างโลกามีเสียงร้อนรนของป๋ายหลินดังมาอีกครั้ง
“รีบหนีเร็ว เจ้าโง่นี่ เจ้าอยากตายอยู่ที่นี่รึ?”
ป๋ายหลินอยู่ในมิติดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกา จึงทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่เพียงตะโกนไม่หยุดเท่านั้น
“กลิ่นอายทายาทเนตรเทพเจ้า?”
จ้าวเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย จับได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย
บนร่างของมังกรวารีล้างโลกาจะมีกลิ่นอายของเนตรเทพเจ้าได้อย่างไรกัน?
มังกรวารีล้างโลกาขมวดคิ้วแน่น เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าที่นี่จะมีอันตรายอะไร
แต่ป๋ายหลินร้อนรนหวาดกลัวเช่นนี้ ไม่แน่ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
มังกรวารีล้างโลกาลังเลเล็กน้อย เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าและเลือดบริสุทธิ์ร่างเทพก็ช่างดึงดูดเขามากจริงๆ
แต่ทันใดนั้น มังกรวารีล้างโลกาเหมือนจะสัมผัสอะไรได้ ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
มังกรวารีล้างโลกาพลันเผยสีหน้าหวาดหวั่นเป็นที่สุด
มังกรวารีทมิฬมองจ้าวเฟิงและเลือดเทพแวบหนึ่ง ก่อนจะปิดตาทั้งสองแน่นแล้วหนีไปทันใด
“เกิดอะไรขึ้น?” จ้าวเฟิงอึ้งไปเล็กน้อย
มังกรวารีล้างโลกาเพียงแค่ทุ่มสุดกำลังก็สามารถสังหารตนได้
แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ มังกรวารีล้างโลกากลับทิ้งโอกาสที่ล้ำค่า เลือกที่จะหนีไป ทำให้จ้าวเฟิงตกตะลึงเป็นที่สุด
จ้าวเฟิงเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่สู้ดีบางอย่าง
เมี้ยว เมี้ยว!
ในเวลานี้ แมวขโมยน้อยมุดออกมาจากมนตราอากาศ อุ้งเท้าทั้งสองโบกขึ้นอย่างรีบร้อน
“เมื่อครู่เจ้าทำนายได้ว่ามีอันตรายใกล้เข้ามา?”
จ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งเครียด
การทำนายของเจ้าแมวขโมยน้อยไม่มีทางผิดพลาด อีกทั้งแมวขโมยน้อยยังตั้งใจออกมาเตือนตน ต้องไม่ใช่ภัยอันตรายเล็กๆ แน่
หรือว่ามีครึ่งเทพต่างเผ่าพันธุ์มา?
แต่หากให้จ้าวเฟิงทิ้งเลือดเทพหยดนี้ไปเช่นนี้ จ้าวเฟิงเจ็บใจยิ่งนัก
“แมวขโมยน้อย ช่วยข้าที!” จ้าวเฟิงร้องตะโกนทันใด
เจ้าแมวขโมยน้อยเข้าใจความหมายของจ้าวเฟิง จึงหยิบเอากริชสีดำออกมา เจาะลงไปยังรูผลึกเล็กบางนั่นหลายที
ในขณะนี้ พลังของกำแพงผลึกและเลือดเทพอ่อนลงกว่าตอนแรก ดังนั้นจ้าวเฟิงเลยอยากจะลองเอาเลือดเทพหยดนี้ไป
นอกจากนั้นจ้าวเฟิงก็สังเกตสถานการณ์รอบด้าน แค่เพียงมีครึ่งเทพต่างเผ่าพันธุ์เข้าใกล้ จ้าวเฟิงก็ทำได้เพียงแค่ทิ้งเลือดเทพแล้วใช้มนตราอากาศหลบหนี
“มังกรวารีล้างโลกาไปแล้ว”
“ตรงจ้าวเฟิงมีของวิเศษ น่าจะเป็นเลือดเทพหยดหนึ่ง!”
ทันใดนั้น เซียนที่แต่เดิมถูกจ้าวเฟิงสยบรีบพุ่งมาทันใด แม้กระทั่งเซียนโม๋ยวนก็ไม่อาจต้านทานความดึงดูดจากเลือดเทพหยดนั้นได้
ในเวลานี้เอง!
บนท้องฟ้าของสนามรบสองมณฑล มวลอากาศฟ้าดินพลันบิดม้วน กลิ่นอายคลื่นมิติที่แข็งแกร่งน่าหวาดหวั่นแผ่กระจายออกทันที
วู้ม ซ่า!
ทันใดนั้น ท้องฟ้าปริแยกออกกลายเป็นหลุมดำมืดที่ลึกไม่เห็นก้นบึ้ง
ฟู่ ฟิ้ว ฟิ้ว!
พายุพลังมิติที่น่าพรั่นพรึงพัดออกมาจากกลางอากาศที่บิดโค้งข้างหลุมดำ
ครืน ฟู่! ทุกสรรพสิ่งที่ถูกกลิ่นอายพลังเทพนี้พัดผ่านล้วนพังพินาศสิ้น
ท้องฟ้ารอบหลุมดำสั่นขึ้นอย่างรุนแรง
วู้ม ครืน ครืน!
หินทรายปลิวว่อน ท้องฟ้ามืดครึ้ม พลังเทพต้องห้ามที่ชวนให้หวั่นเกรงพลันแผ่มาถึง กวาดผ่านไปทั่วฟ้าดินอย่างหยิ่งยโส
“นั่นคืออะไร?”
“ท้องฟ้ามีหลุมดำปรากฏขึ้น มันเรื่องอะไรกัน?”
บนพื้นดินมีผู้แข็งแกร่งจากขั้วอำนาจมากมายของสองราชวงศ์ พวกเขาล้วนอยู่ที่นี่ รอคอยการกลับมาของผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทวาเร้นลับในร่างเทพ กลับไม่คาดคิดว่าบนท้องฟ้าจะปรากฏการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ขึ้นกะทันหัน
ฟู่!
ในหลุมดำมืดพลันมีชายผู้หนึ่งที่ทั่วทั้งร่างส่องประกายไปด้วยแสงเทพเดินออกมา
ชายผู้นี้ใบหน้าเย็นชา ร่างสวมเกราะลายมังกรสีดำทอง กลิ่นอายน่าหวั่นเกรงที่สยบไปทั่วฟ้าดิน เป็นดั่งเทพผู้สูงส่งพลันมาเยือนโลกแห่งนี้
วู้ม!
ในพื้นที่ที่ชายเกราะมังกรดำทองอยู่ ห้วงอากาศบิดเบี้ยว เริ่มมีเค้าลางจะไม่มั่นคง
ฉัวะ! บนสนามรบของทั้งสองมณฑล ผู้แข็งแกร่งนับหมื่นจากทุกขั้วอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นยอดผู้สูงศักดิ์ ราชัน จักรพรรดิ และปฐมเซียน หรือเซียนส่วนน้อย ทั้งหมดล้วนกระอักเลือดออกมา ขาทั้งสองอ่อนแรง ล้มลงกองอยู่บนพื้นเหมือนหมอบคำนับเทพผู้สูงศักดิ์
วู้ม วู้ม! หลุมดำบนท้องฟ้าค่อยๆ หดเล็กลงแล้วหายไปในที่สุด
“ยังต้องกดพลังบางส่วนเอาไว้!”
ชายเกราะมังกรดำทองพึมพำ
จากนั้นกลิ่นอายพลังในท้องฟ้าก็อ่อนลงเล็กน้อย บรรยากาศรอบด้านค่อยๆ กลับคืนสู่ปกติ
แต่บนพื้นดิน ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของสองราชวงศ์ ทั้งเลือดทั่วร่าง ปราณที่แท้จริง และวิญญาณล้วนถูดกดเอาไว้แน่นหนา ทั่วร่างของพวกเขาสั่นสะท้าน แม้กระทั่งหัวก็ไม่อาจจะยกขึ้นมาได้
ชายเกราะมังกรดำทองค่อยๆ ลอยต่ำลงมา สายตาส่องประกายแสงสีทองวูบไหว มองไปยังเบื้องล่าง
“ท่านอู๋เหิน ท่านกลับมาตายลงในที่เช่นนี้รึ!”
ชายที่สวมเกราะมังกรดำทองทั้งร่างหัวเราะเยาะ
ส่วนศีรษะครึ่งเทพ ในตำหนักทองคำขาว จิตสำนึกของซินอู๋เหินขยับเล็กน้อย
“สุดท้ายก็มาจนได้!” สีหน้าของซินอู๋เหินเหนื่อยหน่าย ถอนหายใจเฮือก