Skip to content

King of Gods 1111

King Of Gods

บทที่ 1111 บดขยี้ทุกสิ่ง

“เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้า ‘เทพแท้จริงเทียนฝา’ ไม่ปรานีก็แล้วกัน!”

เทพแท้จริงเทียนฝามองการกระทำที่โง่งมของทั้งสองราชวงศ์ หัวเราะอย่างเหยียดหยาม

สำหรับตำหนักวิญญาณบรรพกาล ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของทั้งสองราชวงศ์ในร่างเทพตกตะลึงเล็กน้อย ด้วยไม่เคยได้ยินมาก่อน

แต่ชายเกราะมังกรดำทองผู้นั้นเรียกตัวเองว่าเทพแท้จริง นี่ทำให้ผู้แข็งแกร่งของทั้งสองราชวงศ์กายใจสั่นสะท้าน มองไปยังชายผู้นั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เขาเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตเซียนสวรรค์งั้นรึ?”

“เทพแท้จริง? นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”

เซียนและราชาเซียนทั้งหลายส่งเสียงดังอย่างสงสัย

ถึงแม้ว่าหลังจากทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์แล้ว ขอเพียงแค่ควบคุมพลังฝึกตนก็สามารถอยู่ในดินแดนทวีปได้ช่วงระยะหนึ่งอย่างแน่นอน

แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินว่าช่วงนี้มีผู้แข็งแกร่งคนใดสามารถพิสูจน์ตำแหน่งเทพได้เลย ตำหนักวิญญาณบรรพกาลที่ ‘เทพแท้จริงเทียนฝา’ พูดถึง พวกเขาก็ล้วนไม่รู้จักเลยสักนิด

“ที่แท้เป็นผู้แข็งแกร่งตำแหน่งเทพนี่เอง!”

ในที่สุดความสงสัยของครึ่งเทพหลงหวงก็หายไป แต่คำตอบที่แท้จริงกลับทำให้เขายิ่งเคร่งเครียด

“ผู้อาวุโสสูงสุด หรือว่าเขาคือผู้แข็งแกร่งตำแหน่งเทพที่มาจากดินแดนเทพรกร้างอย่างนั้นรึ?”

ผู้แข็งแกร่งอีกคนของตำหนักไท่หวงมีสีหน้าตื่นตระหนก ส่งกระแสจิตถาม

“น่าจะใช่!” ครึ่งเทพหลงหวงตอบ

ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ต้าเฉียนก็เคยมีผู้แข็งแกร่งขอบเขตเซียนสวรรค์จากสวรรค์ปรากฏขึ้น ดังนั้นครึ่งเทพเก่าแก่ของทั้งสองราชวงศ์ก็อาจเข้าใจเรื่องนี้บ้างเล็กน้อย

ผู้แข็งแกร่งขอบเขตเซียนสวรรค์ของดินแดนเทพรกร้าง มีวิธีมาเยือนมิติระดับล่างอื่นๆ อยู่จริง แต่รายละเอียดไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรู้ได้

ผู้แข็งแกร่งของทั้งสองราชวงศ์ตกเข้าสู่ความเงียบทันใด

ลางสังหรณ์บอกพวกเขาว่าจะเป็นปฏิปักษ์กับเทพแท้จริงผู้นี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

แต่เทพแท้จริงผู้นี้บังคับขังพวกเขาเอาไว้ที่นี่ อีกทั้งยังพยายามตรวจค้นมิติเก็บของของทุกคน ละเมิดต่อผลประโยชน์ของพวกเขาอย่างรุนแรง

“อ๊าก….”

ข้างกายเทพแท้จริงเทียนฝา เซียนทั่วไปผู้หนึ่งถูกพลังของเขาสังหารลง

“ไม่มอบมิติเก็บของมาแต่โดยดี ฆ่าไม่ยกเว้น!”

สีหน้าของเทพแท้จริงเทียนฝาเย็นชา เดินไปในร่างเทพอย่างเนิบช้า

ทุกที่ที่เขาผ่าน หากไม่เป็นผู้ที่ยอมศิโรราบ ก็เป็นผู้ที่ดับดิ้น

ผู้แข็งแกร่งของทั้งสองราชวงศ์ที่รวมตัวกันอยู่ใจสั่นสะท้าน

ศัตรูมีเพียงแค่คนเดียว แต่ท่าทีเมินทุกสรรพสิ่งและกำเริบเสิบสานของอีกฝ่าย กลับสามารถสยบพวกเขาเอาไว้ได้

“หลงหวง ร่วมมือกันเถิด!”

ครึ่งเทพโยวหลงแห่งราชวงศ์จันทราทมิฬส่งกระแสจิตไป

“ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน!”

ครึ่งเทพหลงหวงตอบทันที

เหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ สองราชวงศ์หากยังขัดแย้งกันอยู่ นั่นก็เป็นการหาความตายใส่ตัวแล้ว

หลังจากที่ผู้อาวุโสสูงสุดของขั้วอำนาจสี่ดาวทั้งสองตกลงกันแล้ว ก็รีบส่งข่าวนี้ให้กับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ

จ้าวเฟิงที่กำลังปิดด่านโล่งอก

มีเพียงทั้งสองราชวงศ์ร่วมมือกัน จึงจะมีความหวังรอดชีวิตต่อไป

แต่ในยามนี้เอง ราชาเซียนปี้กวงและครึ่งเทพอีกผู้หนึ่งของตำหนักไท่หวงมาอยู่ตรงหน้าจ้าวเฟิง

“จ้าวเฟิง เลือดเทพไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะปกป้องเอาไว้ได้!”

ครึ่งเทพไท่จี๋มองต่ำลงมายังจ้าวเฟิงอย่างยโสจ้าวเฟิง พร้อมส่งกระแสจิตพูดขึ้น

ราชาเซียนปี้กวงด้านข้างมองจ้าวเฟิงด้วยรอยยิ้มได้ใจ

เขารู้ว่าตนเองไม่มีทางเป็นคู่มือของจ้าวเฟิงได้ หากเพียงเรื่องแดงขึ้น เลือดเทพหยดนั้นก็จะตกอยู่ในมือของผู้อื่นอยู่ดี ไม่สู้ซื้อใจครึ่งเทพผู้หนึ่งของตำหนักไท่หวง ดังนั้นเขาจึงไปหาครึ่งเทพไท่จี๋

“คิดอยากจะได้เลือดเทพ ก็ต้องดูว่าเจ้ามีปัญญาหรือไม่!”

จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงดัง

ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของฝั่งราชวงศ์ต้าเฉียนถูกคำพูดประโยคนี้ของจ้าวเฟิงดึงดูด แม้กระทั่งครึ่งเทพหลายคนก็ยังจ้องไปยังจ้าวเฟิง

ด้านราชวงศ์จันทราทมิฬ สายตาของผู้แข็งแกร่งหลายคนก็กวาดมาเช่นกัน

ราชาเซียนปี้กวงตะลึงอยู่กับที่ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงจะเปิดเผยความลับนี้ นี่จ้าวเฟิงคิดทำอะไรกัน?

“เจ้าบอกว่าข้าไม่มีปัญญา?”

ใบหน้าของครึ่งเทพไท่จี๋ทะมึนเป็นที่สุด คำพูดนี้ของจ้าวเฟิงทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ยามนี้จ้าวเฟิงเปิดเผยความลับเรื่องเลือดเทพ ต่อให้ครึ่งเทพไท่จี๋ได้เลือดเทพหยดนั้นมาก็ต้องเหนื่อยอยู่เหมือนกัน

ฟู่! กฎเกณฑ์เสวียนอ้าวฟ้าดินทะลักล้น ความกดดันน่าหวั่นเกรงที่ไร้รูปร่างแผ่ทั่วผืนฟ้า

“เจ้ากล้ารึ!” จ้าวเฟิงพลันผุดลุกขึ้น ตะโกนออกไปทันใด

ในขณะเดียวกัน หนานกงเซิ่ง จ้าวหยูเฟย และยังมีคุนอวิ๋นที่อยู่ไกลๆ ตรงมายังข้างกายจ้าวเฟิงทันใด

หนานกงเซิ่งในยามนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูง แต่ขอบเขตพลังของเขามั่นคงอย่างสมบูรณ์แล้ว กลิ่นอายชั่วร้ายแข็งแกร่งทั่วร่างเขาทำให้ราชาเซียนบางคนไม่คิดที่จะตอแยด้วย

ส่วนการพัฒนาของจ้าวหยูเฟยยิ่งมากกว่า ผลึกสีม่วงทั่วกายนางส่องประกายระยิบระยับ ไอสวรรค์ทั่วฟ้าดิน รวมมาอย่างบ้าคลั่งทันใด สายเลือดและพลังศักดิ์สิทธิ์ในกายของเซียนและราชาเซียนสั่นเทาขึ้นโดยไม่รู้ตัว

อีกด้านหนึ่ง กลิ่นอายแก่นแท้ร่างกายของคุนอวิ๋นก็ยิ่งแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แรงกดดันแก่นแท้อัสนีที่ไร้รูปร่างทำให้ท้องฟ้าฟากหนึ่งสั่นสะเทือน

“พวกเจ้า…”

ครึ่งเทพไท่จี๋เผยสีหน้าเเค้นเคืองขึ้นทันใด

เขาคิดไม่ถึงว่าตนเองลงมือเรียกร้องของวิเศษจากเซียนผู้หนึ่งด้วยตนเอง กลับเปลี่ยนเป็นสถานการณ์เช่นนี้ได้

ตอนนี้หนานกงเซิ่ง จ้าวหยูเฟย คุนอวิ๋นรวมทั้งจ้าวเฟิง ต่อให้ปะทะซึ่งหน้าเขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ

ในสี่คนนี้ คนที่เขาหวาดระแวงมากที่สุดย่อมเป็นคุนอวิ๋น คุนอวิ๋นภพที่แล้วคือครึ่งเทพ การผ่านโอกาสในร่างเทพและฟื้นฟูพลังขั้นสุดยอดก็เป็นเรื่องในไม่ช้า

ฝั่งราชวงศ์ต้าเฉียน ผู้แข็งแกร่งจากขั้วอำนาจทั้งหลายตกตะลึง

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด จ้าวเฟิงมีพลังต้านทานครึ่งเทพได้แล้ว!

“ท่าทางหากคิดจะกำจัดจ้าวเฟิง ยังคงต้องใช้กลอุบายบางอย่างถึงจะได้!”

ไม่ไกลเท่าใดนัก ครึ่งเทพโยวไห่แห่งวังเก้านิรยสีหน้าเคร่งเครียด

ในขณะที่ครึ่งเทพไท่จี๋ จ้าวเฟิง และคนอื่นไปประจันหน้ากัน

“หยุดนะไท่จี๋!” น้ำเสียงเย็นชาของครึ่งเทพหลงหวงส่งออกไป

การกระทำแข็งขืนต่อตำหนักไท่หวงของจ้าวเฟิงทำให้เขาไม่พอใจ แต่พลังของจ้าวเฟิงและพวกก็ไม่อาจประมาทได้

ถึงแม้ว่าตำหนักไท่หวงจะไม่เกรงกลัว แต่ในยามนี้พวกเขาเผชิญหน้าอยู่กับศัตรูที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า จะมาทะเลาะกันเองในยามสำคัญ ทำลายกำลังรบเองได้อย่างไร

ครึ่งเทพไท่จี๋แค่นเสียงเย็น ทำได้เพียงถอยไปเท่านั้น

อีกด้านหนึ่ง ครึ่งเทพชื่อเสี่ยแห่งตระกูลเถี่ย สีหน้าเคร่งเครียด

การเติบโตของพวกจ้าวเฟิงเกินกว่าการคาดเดาของเขานัก ตำหนักราชันจะต้องกลายเป็นขั้วอำนาจที่เกรยงไกร นี่พิสูจน์ว่าการเลือกของเขาในตอนนั้นถูกต้องแล้ว

แต่จ้าวเฟิงลำพองมากเกินไป เขาไม่ควรล่วงเกินครึ่งเทพของตำหนักไท่หวง!

“คุนอวิ๋น หลังออกไปจากที่นี่ข้าจะมอบรางวัลให้กับเจ้า!”

จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตไป

ครั้งนี้ประโยชน์จากอำนาจสยบของคุนอวิ๋นไม่น้อยเลย ดังนั้นจ้าวเฟิงจะมอบรางวัลที่ควรค่าให้ตามสัญญาที่ตกลงไว้ในตอนแรก

นอกจากนั้น จ้าวเฟิงก็ไม่แน่ว่าอาจต้องขอความช่วยเหลือจากคุนอวิ๋นในอนาคต ดังนั้นจะแตกหักกับเขาไม่ได้ชั่วคราว

‘คิดไม่ถึงเลยจริงๆ จ้าวเฟิงเจ้าเด็กนี่โชคดีอะไรเพียงนี้ ได้เลือดร่างเทพมาครอง!’

คุนอวิ๋นอิจฉาเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ใบหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งขรึม กวาดสายตาไปยังตำหนักไท่หวงทุกคน สัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาล

การล่วงเกินตำหนักไท่หวงก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากจะทำ แต่ครึ่งเทพไท่จี๋ก็รังแกกันมากเกินไป อาศัยอำนาจของครึ่งเทพมาเรียกร้องขอเลือดร่างเทพ

พรึ่บ จ้าวเฟิงเข้าไปยังในมนตราอากาศ

เห็นทีทำให้พลังมั่นคงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเพื่อรับมือกับวิกฤตที่ผู้แข็งแกร่งขอบเขตเซียนสวรรค์นำมาในตอนนี้ หรืออำนาจกดดันจากตำหนักไท่หวงในวันข้างหน้า

ขอเพียงแค่เขาแข็งแกร่งเพียงพอ อันตรายพวกนี้ล้วนสามารถรับมือและจัดการได้

และจ้าวเฟิงในยามนี้ก็ไม่ขาดแคลนทรัพยากรเลยสักนิด

“เลือดร่างเทพ!”

ใจของจ้าวเฟิงเต้นโครมคราม มองไปยังนิ้วชี้ขวาของตน

“บางทีอาจจะทำเช่นนี้ได้!”

จู่ๆ จ้าวเฟิงก็คิดอะไรขึ้นมาได้

ในยามนี้ ศรสังหารเทพของจ้าวเฟิงใช้หมดไปแล้ว ขาดไพ่ตายที่สำคัญที่สุด

แต่นิ้วชี้นี่ บางทีอาจจะกลายเป็นไพ่ตายอีกใบของจ้าวเฟิง

จำได้ว่าก่อนหน้านี้ มังกรวารล้างโลกาลอบโจมตีจ้าวเฟิง เขาปลดปล่อยพลังสายเลือดส่วนน้อยจากนิ้วชี้ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็สามารถทำให้อีกฝ่ายหวาดหวั่นถอยไปได้

และในยามนี้ ในนิ้วชี้ของจ้าวเฟิงยิ่งแฝงไว้ด้วยเลือดเทพหยดหนึ่ง หากมีวิธีทำให้มันกลายเป็นไพ่ตายได้ พลังอำนาจของมันอาจจะไม่เป็นรองศรสังหารเทพเลยก็ได้

เพียงแต่ว่าปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมเลือดร่างเทพหยดนี้มีมากมาย อันตรายเกินไป

“ลองไปทางทิศทางนั้นก็แล้วกัน!”

หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว จ้าวเฟิงก็โคจร ‘หมื่นห้วงความคิดเซียน’ แบ่งหนึ่งใจใช้หลากหลาย

ความคิดส่วนแรก ใช้ทำขอบเขตพลังที่เพิ่งทะลวงให้มั่นคง

ความคิดส่วนที่สองนำมาศึกษาทำความเข้าใจ ‘วิชาแปลงเทพ’ ที่ได้มาจากทรัพย์สมบัติของครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง

ระดับของวิชานี้สูงถึงชั้นนภาขั้นสูง ภายในระยะเวลาสั้นๆ อาจจะไม่มีทางฝึกได้ แต่แค่เพียงมีการพัฒนา พลังของจ้าวเฟิงก็จะยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความคิดส่วนที่สามนำมาทบทวนแผนที่จะฝึกฝนเลือดเทพหยดนี้ให้กลายเป็นไพ่ตาย

จ้าวเฟิงรู้ดีว่า เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือนิ้วชี้ของตนไม่อาจรับพลังของเลือดเทพได้ มิเช่นนั้นปัญหาก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายไปแล้ว

โลกภายนอก

เทพแท้จริงเทียนฝามาถึงยังเบื้องหน้าของทั้งสองราชวงศ์

“พวกเจ้าก็คือผู้ที่ขัดขืน?”

เทพแท้จริงเทียนฝาเย้ยหยัน

ในร่างเทพ เกรงว่าผู้แข็งแกร่งเกือบเก้าส่วนขึ้นไปล้วนเป็นผู้ขัดขืนทั้งสิ้น แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นเซียนในนั้น เทพแท้จริงเทียนฝาขี้เกียจจะมอง

“ไม่ทราบว่าการกระทำของใต้เท้าเทพแท้จริงเป็นเพราะเหตุอันใดกัน พูดออกมา พวกเราอาจจะช่วยท่านได้!”

ครึ่งเทพหลงหวงใบหน้าเคร่งเครียด

เขาเชื่อว่าเทพแท้จริงเทียนฝาตรวจค้นมิติเก็บของของทุกคนจะต้องมีเป้าหมายอย่างแน่นอน หากพวกเขาสามารถช่วยเทพแท้จริงผู้นี้ให้สำเร็จได้ บางทีอาจจะไม่ต้องเป็นศัตรูกับเทพแท้จริงผู้นี้ก็ได้

“ไม่ต้องแล้ว ข้าจะตรวจค้นมิติเก็บของของพวกเจ้าทุกคน!”

เทพแท้จริงเทียนฝาใบหน้าเย็นชา

ฟู่! กฎเกณฑ์เสวียนอ้าวฟ้าดินไร้รูปร่างโคจรขึ้น ก่อเป็นมือยักษ์ลวดลายสีดำข้างหนึ่ง พุ่งไปจับผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเซียนผู้หนึ่งฟากราชวงศ์ต้าเฉียน

“เช่นนั้นตำหนักไท่หวงก็ไม่เกรงใจแล้ว!”

ครึ่งเทพหลงหวงแค่นเสียงเย็น

ฟู่! ฝั่งราชวงศ์ต้าเฉียน ครึ่งเทพทั้งหมดของตำหนักไท่หวงและวังลอยฟ้าลงมือทันที

พลังเทพน่าหวาดหวั่นรวมตัวด้วยกัน ทำลายมือของเทพแท้จริงเป็นผุยผง

อีกด้านหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งครึ่งเทพทั้งหมดของราชวงศ์จันทราทมิฬก็โจมตีออกไป

ฟู่! ครึ่งเทพตระกูลเถี่ย ครึ่งเทพตระกูลหยู ครึ่งเทพวังเก้านิรย และยังมีครึ่งเทพของขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งบางแห่ง ล้วนลงมือ

ครืน ตูม บึ้ม! ครึ่งเทพทั้งหลาย ทำการโจมตีไปยังเทพแท้จริงเทียนฝาพร้อมกัน

การโจมตีพลังเทพทะลักล้นฟ้าดินราวกับคลื่นยักษ์ที่โหมซัด โจมตีกดดันไปยังเทพแท้จริงเทียนฝา

พลังน่าหวาดหวั่นเพียงนี้ ทำให้ฟ้าดินผันเปลี่ยน จันทราอาทิตย์เปลี่ยนสี กวาดผ่านไปทั่วอย่างยโส

ผู้แข็งแกร่งที่เหลือของราชวงศ์ทั้งสองจิตใจสั่นสะท้าน สีหน้าหวาดหวั่นยำเกรง มองไปยังการโจมตีของครึ่งเทพทั้งหมด

“โง่เง่า!” เทพแท้จริงเทียนฝาสีหน้านิ่งดุจบึงน้ำเย็นเยียบ

ซ่า! ในมือของเขาพลันปรากฏหอกยาวสีดำ ปลายหอกมีประกายเย็นเยือกน่าหวาดหวั่นลอยเอ่อ พู่ประดับหอกสีม่วงเย็นเยียบโปร่งแสง

สวบ ฉึก ฉึก! เทพแท้จริงเทียนฝามือจับหอกดำฟาดฟันออกไปอย่างรุนแรง

เสี้ยวขณะนั้น พลังกฎเณฑ์ทุกอย่างในฟ้าดิน ราวกับถูกพลังนั่นทำลายจนย่อยยับ

ฟุ่บ ฟู่ ฟู่!

ในท้องฟ้า ปรากฏรอยเเยกเลือนลางขึ้น ในนั้นแผ่พลังมิติต้องห้ามออก ดูดเอาการโจมตีพลังเทพรอบด้านทั้งหมดไว้ในนั้น แล้วทำลายสิ้น

“นี่คือพลังที่พวกเจ้าสองราชวงศ์ร่วมมือกันแล้วรึ?”

เทพแท้จริงเทียนฝายิ้มเย็น

ทั่วร่างของเขาแผ่กระจายพลังอำนาจน่าหวาดหวั่นล้นฟ้าออกมา ทำให้จิตใจของผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของสองราชวงศ์เคร่งเครียดทันใด

ด้วยพลังคนเดียว ต้านทานสองราชวงศ์ นี่มันน่าหวาดหวั่นถึงเพียงใดกัน!

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? นี่คือพลังอะไร?”

เซียนผู้หนึ่งร้องขึ้นอย่างตกใจ เข้าไม่อาจที่จะเชื่อทุกสิ่งที่ตนเห็นได้

“ไยจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?”

“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นเทพแท้จริงก็ไม่มีทางที่จะแข้งแกร่งได้ถึงเพียงนี้!”

“พลังของอาวุธเทพ!” ครึ่งเทพหลงหวงส่งเสียงต่ำ

นับจากก่อนหน้าโอกาสร่างเทพ ในดินแดนแผ่นดินใหญ่ก็ไม่เคยมีอาวุธเทพเเท้จริงใดๆ ปรากฏขึ้น

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานวังลอยฟ้าจะได้เศษเสี้ยวอาวุธโบราณจากมิติเทพลวงตามา แต่ครึ่งเทพเทียนเจี้ยนเก๋อจนถึงตอนนี้ก็ไม่อาจดึงศักยภาพพลังของเศษเสี้ยวอาวุธโบราณชิ้นนั้นออกมาได้ทั้งหมด

แต่ในยามนี้ ในมือของเทพแท้จริงเทียนฝาถืออาวุธเทพแท้จริงเอาไว้ อาวุธเทพที่ถูกเทพแท้จริงเทียนฝาควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!