บทที่ 1119 จุดเริ่มต้นวัฏสงสาร
“จ้าวเฟิง ในเมื่อหลิ่วฉินอินถูกเจ้าช่วยไปแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ตายเสีย!”
สีหน้าของราชาเซียนสังสารวัฏเหี้ยมเกรียม
ถึงแม้จะสังหารหลิ่วฉินอินไม่ได้ แต่ราชาเซียนสังสารวัฏทุ่มสุดพลังก็สามารถสังหารจ้าวเฟิงได้ หลังจากนั้นค่อยตามหาหลิ่วฉินอินอย่างช้าๆ ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
“อาวุธเทพชั้นรองรึ?”
สีหน้าของจ้าวเฟิงสงบนิ่ง
เขายังไม่ได้ฝึก ‘วิชาแปลงเทพ’ จนเข้าขั้น จ้าวเฟิงในตอนนี้ยังไม่อาจใช้พลังของ ‘ตราเทพบรรพกาล’ ได้ ส่วนอาวุธเทพชั้นรอง จ้าวเฟิงก็มีแต่มนตราอากาศที่เป็นประเภทช่วยเหลือเท่านั้น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเซียนที่มีอาวุธเทพชั้นรองแบบโจมตี จ้าวเฟิงจึงหวาดระแวงเป็นอย่างยิ่ง
วู้ม บึ้ม!
มุกแสงขาวทองในมือของราชาเซียนผู้หนึ่งพลันทะลักแสงออกมา แผ่กระจายกลิ่นอายแห่งเทพที่อ่อนจาง พร้อมพุ่งตรงไปยังจ้าวเฟิง
ราชาเซียนอีกผู้หนึ่งก็รีบสะบัดไม้บรรทัดหยกฟ้าในมือ
ครืน ครืน!
ท้องฟ้าพลันทะลักคลื่นน้ำวนเขียวครามมากมาย ราวกับว่าในชั่วพริบตา ทั่วทั้งท้องฟ้าตกเป็นพื้นที่ต้องห้ามใต้มหาสมุทร
ในโลกมหาสมุทรคลื่นวนสีเขียวครามแห่งนี้ จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงความกดดันมหาศาล พลังการเคลื่อนไหวก็ต่ำลงถึงขีดสุด
เดิมทีจ้าวเฟิงมีสายเลือดเหมันต์วารี บางทีอาจจะไม่ถึงกับถูกเสวียนอ้าวธาตุน้ำกลุ่มนี้กดจนอยู่ในสภาพนี้ก็เป็นได้
แต่สายเลือดเหมันต์วารีและหอกจักรพรรดิเหมันต์ของจ้าวเฟิงถูกใช้ไปแช่แข็งพลังเลือดเทพแล้ว
วู้ม ฟู่!
ในช่วงเวลาคับขัน จ้าวเฟิงปลดปล่อยเงาโลกมิติส่วนตัววายุอัสนีออกมาต้านทานโลกมหาสมุทรรอบด้าน
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
จ้าวเฟิงผสานพลังวายุอัสนีและพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับ ซัดเงาฝ่ามือแสงอัสนีสีแดงทองออกมา
ฝ่ามือสายฟ้าโจมตีไปเหนือโลกมหาสมุทรรอบด้าน แสงอัสนีพลันแลบแปลบปลาบ ทำลายเสวียนอ้าวธาตุน้ำรอบด้าน
หลังจากนั้น โลกมิติส่วนตัววายุอัสนีก็ฉวยจังหวะปล่อยพลัง จ้าวเฟิงหลุดพ้นจากพันธนาการมาได้
แต่ในขณะเดียวกัน แสงสีขาวทองก็โจมตีมายังจ้าวเฟิง
ครืน ตูม บึ้ม!
จ้าวเฟิงกระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์สุดพลัง ประสานเข้ากับโลกมิติวายุอัสนี ต้านทานการโจมตีของอาวุธเทพชั้นรองกลุ่มนี้ทันที
ฉึก ฟิ้ว!
แสงสีขาวทองทะลุการป้องกันของโลกมิติส่วนตัววายุอัสนี แต่พลังหลงเหลือที่ตกลงบนร่างจ้าวเฟิงก็ไม่มากพอจะสร้างความบาดเจ็บให้มากมาย
“ยังดีที่ราชาเซียนสองคนนี้ไม่มีพลังเทพ”
จ้าวเฟิงนึกยินดี
ไม่มีพลังเทพก็ไม่อาจดึงศักยภาพพลังทั้งหมดของอาวุธเทพชั้นรองออกมาได้ ดังนั้นจ้าวเฟิงที่เชี่ยวชาญการป้องกันเลยสามารถต้านทานได้
“โจมตีต่อไป!”
ราชาเซียนสังสารวัฏค่อนข้างโมโหโกรธา คำรามอย่างฉุนเฉียว
ร่างวัฏสงสารขั้นราชาเซียนทั้งสองโคจรอาวุธเทพชั้นรองขึ้นอีกครั้ง ก่อนโจมตีไปยังจ้าวเฟิง
แต่ในตอนนี้เอง ข้างกายของราชาเซียนทั้งสอง มีแสงสีเทาหม่นกลุ่มหนึ่งส่องประกายขึ้น
“รนหาที่ตาย!”
ราชาเซียนทั้งสองสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
ราชาเซียนหนึ่งในนั้นสังเวยอาวุเทพชั้นรองทันที เตรียมสังหารแมวขโมยน้อยที่แอบซุ่มโจมตี
เคร้ง ชิ้ง!
แมวขโมยน้อยสะบัดคลื่นคมมีดประกายดำปะทะเข้ากับมุกแสงขาวทองเม็ดนั้น
กรอบ! ผิวของมุกแสงขาวทองเกิดรอยแตกขึ้น ทั้งยังแผ่รอยแตกรอยเล็กๆ ออกไปอีกมากมาย
“นี่…เป็นไปได้ยังไงกัน? อาวุธเทพชั้นรองของข้า!”
ราชาเซียนผู้นั้นมองอาวุธเทพในมือ พลันร้องออกมาอย่างตกใจ
“นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
ไกลออกไป ราชาเซียนสังสารวัฏเผยสีหน้าตื่นตะลึง มองไปยังภาพเบื้องหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
อาวุธเทพชั้นรองในตำนานจะถูกทำลายลงอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน
จากนั้น ราชาเซียนสังสารวัฏก็มองไปยังสนามต่อสู้ของแมวขโมยน้อยและเซียนหมื่นปรากฏการณ์
กายวัฏสงสารขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงเหล่านั้นถูกเฉือนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อีกทั้งยังฟื้นคืนสภาพได้ช้าเป็นอย่างมาก
“หรือว่า…เป็นอาวุธเทพ?”
ราชาเซียนสังสารวัฏจ้องกริชดำในมือของเจ้าแมวขโมยน้อย
คิดถึงในตอนนั้น เหตุที่เทพแท้จริงเทียนฝาสามารถต้านทานกับผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของสองราชวงศ์ได้ ก็เพราะอาศัยอาวุธเทพสองชิ้น นี่แสดงให้เห็นถึงอานุภาพและความสำคัญของอาวุธเทพ
“เยี่ยมมาก แมวขโมยน้อย!”
จ้าวเฟิงร้องอย่างตื่นเต้นยินดี
หลังผ่านการฟื้นฟูยาวนานถึงเพียงนี้ ในที่สุดแมวขโมยน้อยก็สามารถใช้อาวุธเทพในมือได้
แต่ว่าขอบเขตพลังของแมวขโมยน้อยยังไม่เพียงพอ ยามที่เข้าใกล้ราชาเซียนก็ถูกอีกฝ่ายสัมผัสได้ มิฉะนั้นแล้วก็อาจสร้างบาดแผลถึงแก่ความตายหรือทำลายอาวุธเทพชั้นรองของ ‘ร่างวัฏสงสาร’ ได้
เหมียว เหมียว!
แมวขโมยตัวน้อยโบกไม้โบกมือ บอกจ้าวเฟิงว่าพลังเทพที่ตนเพิ่งฟื้นฟูมาเมื่อครู่ใช้ไปหมดอีกแล้ว ในระยะนี้ไม่อาจกระตุ้นอาวุธเทพได้อีก
“ได้ เช่นนั้นก็บุกไปด้วยกัน!”
จิตกระหายต่อสู้ของจ้าวเฟิงเปี่ยมล้น การโจมตีอย่างสุดกำลังของเจ้าแมวขโมยน้อยทำลายสถานการณ์ตึงเครียดของจ้าวเฟิงลง
นอกจากนั้น ต่อให้เจ้าแมวขโมยน้อยไม่กระตุ้นอาวุธเทพ ธาตุและความคมของอาวุธเทพชิ้นนั้นก็ไม่ด้อยไปกว่าอาวุธวิเศษชั้นนภาอย่างดีเลย
“จัดการเจ้าก่อนแล้วกัน!”
จ้าวเฟิงจ้องไปยังราชาเซียนที่อาวุธเทพชั้นรองเสียหายไปแล้วผู้นั้น
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
จ้าวเฟิงโคจรพลัง ซัดฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีแดงทองนับไม่ถ้วนออกไปสกัดกั้นทางหนีของราชาเซียนผู้นี้
ในขณะเดียวกัน แมวขโมยตัวน้อยก็ลอบใช้อาวุธเทพสร้างความบาดเจ็บให้กับเซียนผู้นี้
ครืน ตูม บึ้ม!
ภายใต้การร่วมมือของมนุษย์และแมว เพียงชั่วพริบตาก็สร้างความบาดเจ็บสาหัสให้กับราชาเซียนผู้นี้ได้
ต่อให้เขาเป็นกายวัฏสงสาร แต่บาดแผลที่เกิดจากพลังอัสนีเทวะและอาวุธเทพจะมีความเร็วในการฟื้นฟูช้าอย่างยิ่ง
“คลื่นยักษ์ฟ้าคราม!”
ราชาเซียนอีกผู้หนึ่งรีบกระตุ้นอาวุธเทพชั้นรอง จัดการล้อมโจมตีจ้าวเฟิงเอาไว้
ขอบเขตแก่นแท้อัสนี!
จ้าวเฟิงโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุดิน ปลดปล่อยอาณาเขตแรงดึงดูดสายฟ้าอันแข็งแกร่งอีกครั้ง
อาณาเขตนี้ผสานกับเงาโลกมิติส่วนตัว ปะทะเข้ากับคลื่นวนมหาสมุทรนับไม่ถ้วนรอบด้านอย่างซึ่งหน้า
“ระเบิด!”
จ้าวเฟิงซัดฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์อัสนีออกไป ทำลายพันธนาการของราชาเซียนผู้นี้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้น จ้าวเฟิงสำแดงเพลิงวายุอัสนีเนตรเทพเจ้าร่วมกับแมวขโมยน้อย สังหารราชาเซียนที่บาดเจ็บหนักลงอย่างสมบูรณ์
“หึ เจ้าไม่ตายหรอก!”
จากที่ไกลๆ ราชาเซียนสังสารวัฏโคจรดวงตาซ้าย ปลดปล่อยเสวียนอ้าวสังสารวัฏอันแข็งแกร่งออกมา
เบื้องหน้าของเขา กายวัฏสงสารที่ถูกจ้าวเฟิงสังหารลงค่อยๆ รวมตัวขึ้น
ขอเพียงไม่ตายลงอย่างสมบูรณ์ กายวัฏสงสารล้วนสามารถฟื้นคืนสภาพได้ด้วยตนเอง แต่หากถูกสังหารลงอย่างสมบูรณ์ ราชาเซียนสังสารวัฏจะต้องใช้เสวียนอ้าวสังสารวัฏอันแข็งแกร่งจึงจะสามารถฟื้นคืนชีพมันได้
“ข้ารอให้เจ้าฟื้นคืนชีพมันนี่แหละ!”
จ้าวเฟิงกระตุ้นปีกแสงศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีชาด พุ่งโจมตีไปยังราชาเซียนสังสารวัฏทันที
ราชาเซียนสังสารวัฏเว้นระยะห่างกับจ้าวเฟิงมาโดยตลอด และจ้าวเฟิงเผชิญกับการพัวพันของราชาเซียนทั้งสอง จึงไม่อาจเข้าใกล้ราชาเซียนสังสารวัฏได้เลย หากถูกตัดพลังเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ ผู้ที่แพ้จะต้องเป็นจ้าวเฟิงอย่างแน่นอน
แต่ในยามนี้ จ้าวเฟิงร่วมกับแมวขโมยน้อยทำลายกายวัฏสงสารร่างหนึ่งลงอย่างสมบูรณ์
ราชาเซียนอีกผู้หนึ่งที่เหลือก็ยากที่จะสร้างความคุกคามมากมายอะไรให้จ้าวเฟิงได้ และราชาเซียนสังสารวัฏกำลังสำแดงวิชาดวงตาฟื้นคืนชีพราชาเซียนผู้นั้นที่ตายไปเพื่อลดการป้องกันของจ้าวเฟิงลง
ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงหลุดพ้นจากพันธนาการของราชาเซียนผู้หนึ่งด้วยความเร็วสูงสุด โจมตีไปยังราชาเซียนสังสารวัฏ
“ไม่ได้การ ตกหลุมพรางแล้ว!”
สีหน้าของราชาเซียนสังสารวัฏตื่นตกใจ รีบหยุดการฟื้นคืนชีพราชาเซียนผู้นี้ หมุนตัวหนีไปทันที
ตัวเขาเองกำลังรบไม่แข็งแกร่ง ส่วนพลังวิญญาณของจ้าวเฟิงสูงถึงขั้นราชาเซียน วิชาดวงตาวิญญาณคุกคามเขาเป็นอย่างมาก
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงตามไปทันที
ตาซ้ายทะลักพลังวิญญาณและกลิ่นอายอัสนีเทวะไร้เทียมทาน
“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”
ในตาซ้ายของจ้าวเฟิงปรากฏตราอัสนีเทวะขึ้น บนตราอัสนีเทวะทุกเส้น เพลิงดวงตาวิญญาณลอยเอ่อ สุดท้ายแล้วก่อเป็นเปลวเพลิงวิญญาณอัสนีเทวะสีม่วงแวววาวกลุ่มหนึ่ง
ครืน บึ้ม!
ตราผนึกอัสนีเทวะกลุ่มหนึ่งบิดเบี้ยวลุกไหม้ดุจเปลวเพลิง โจมตีไปที่หัวของราชาเซียนสังสารวัฏพร้อมด้วยกลิ่นอายวิญญาณน่าหวาดหวั่นเป็นที่สุด
“อ๊าก!”
ราชาเซียนสังสารวัฏร้องอย่างเจ็บปวดทันที วิญญาณรู้สึกเจ็บปวดจนยากจะทานทน ราวกับถูกฉีกทึ้ง
วู้ม วู้ม!
สร้อยสีดำทองที่คอราชาเซียนสังสารวัฏ พลันส่องประกายเงียบสงบ ช่วยต้านทานพลังของวิชาดวงตาวิญญาณอย่างรวดเร็ว
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
ชั่วขณะต่อมา พลังอัสนีเทวะที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานก็ย้ายมายังสร้อยคอ
บึ้ม แกร๊ก! สร้อยคอสีดำทองบนคอของราชาเซียนสังสารวัฏระเบิดออก
“ของวิเศษป้องกันวิญญาณของข้า!” ใจของราชาเซียนสังหสารวัฏหล่นวูบ
แม้กระทั่งของวิเศษป้องกันวิญญาณชั้นนภาขั้นสุดยอดยังถูกทำลาย แสดงให้เห็นว่า วิชาดวงตาวิญญาณของจ้าวเฟิงกระบวนนี้น่าหวาดหวั่นถึงเพียงใด
“จุดเริ่มต้นสังสารวัฏ!”
ในยามที่ราชาเซียนสังสารวัฏหลบหนี รีบร้อนกระตุ้นวิชาดวงตาสังสารวัฏอีกวิชา
เห็นเพียงกายวัฏสงสารขั้นราชาเซียนร่างนั้นที่ไล่ตามจ้าวเฟิงค่อยๆ จางหายไป
เสี้ยวขณะต่อมา ในตาซ้ายของราชาเซียนสังสารวัฏทะลักร่างดำร่างหนึ่งขึ้น ราชาเซียนผู้นี้มาปรากฏอยู่เบื้องหน้าจ้าวเฟิงทันใด
“เนตรสังสารวัฏ!”
จ้าวเฟิงพูดไม่ออก
พลังของเนตรสังสารวัฏน่ารำคาญเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สามารถควบคุมหุ่นเชิดมากมายนับไม่ถ้วน อีกทั้งหุ่นเชิดเหล่านี้ยังมีร่างที่เป็นอมตะ
ในยามนี้ เนตรสังสารวัฏสำแดงพลังอีกชนิดหนึ่งของเขาออกมา สามารถเรียกหุ่นเชิดที่อยู่ด้านนอกกลับมาในเนตรสังสารวัฏ แล้วปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง นี่เท่ากับว่ารอบๆ ราชาเซียนสังสารวัฏมีการป้องกันจากร่างวัฏสงสารตลอดเวลา
แค่เพียงจ้าวเฟิงถูกราชาเซียนที่มีอาวุธเทพชั้นรองสกัดกั้นเพียงชั่วขณะ
ราชาเซียนสังสารวัฏก็หนีไปได้ไกลแล้ว
แต่ราชาเซียนสังสารวัฏในยามนี้ไม่ได้อยู่ในยุคเฟื่องฟู เป็นโอกาสอันดีที่จ้าวเฟิงจะสังหารเขา หากพลาดโอกาสนี้ไป รอให้เนตรสังสารวัฏสร้างร่างแยกราชาเซียนมากกว่านี้ได้ จ้าวเฟิงก็จะสังหารราชาเซียนสังสารวัฏได้ยากยิ่งขึ้น
“จะให้เจ้าหนีไปไม่ได้!”
ตาซ้ายของจ้าวเฟิงพลันทะลักคลื่นพลังดวงตาอันน่าหวาดหวั่นออกมา ก่อเป็นคลื่นวนสีม่วงที่ลึก เชื่อมต่อไปถึงหุบเหวสีม่วงมายาไร้ก้นบึ้งที่เมฆหมอกลอยอวล
ทันใดนั้น พลังต้องห้ามที่กักขังและดึงวิญญาณห้อมล้อมไปยังร่างของราชาเซียนผู้นี้
“นี่คืออะไร?”
ราชาเซียนผู้นี้รู้สึกว่าวิญญาณของตน ไม่อยู่ในการควบคุมเหมือนจะหลุดลอยอกไป ดวงตาทั้งสองข้างหวาดหวั่นเป็นที่สุด
เขาดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ก็ยังคงไม่อาจหลีกหนีชะตาถูกดูดวิญญาณไปได้
ในยามที่ราชาเซียนสังสารวัฏที่อยู่เบื้องหลัง ปะทะเข้ากับตาซ้ายของจ้าวเฟิง จิตใจชะงักงัน วิญญาณราวกับจะหลุดลอยออกไป
“ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!”
เห็นเพียงในกายของราชาเซียนผู้นี้ วิญญาณดั้งเดิมร่างมนุษย์สีน้ำเงินค่อยๆหลุดลอยออกมา
ยามนี้เอง แมวขโมยน้อยแปลงเป็นเส้นเลือนรางสีเทาเงิน โจมตีไปยังราชาเซียนผู้นี้ แย่งชิงอาวุธเทพชั้นรองในมือของเขามา
“ทำได้ดีมาก!” จ้าวเฟิงชมออกมาประโยคหนึ่ง
ฟู่! วิญญาณดั้งเดิมร่างมนุษย์สีน้ำเงินเข้มนั่นถูกจ้าวเฟิงกระชากออกมา
ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงผ่านการแปรสภาพมาครั้งหนึ่ง พลังทุกๆ ด้านล้วนแข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งพลังวิญญาณของราชาเซียนผู้นี้ห่างชั้นกับจ้าวเฟิงเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าต้านทานเนตรเพ่งเทพเจ้าของจ้าวเฟิงไม่ไหว
ซ่า! จ้าวเฟิงนำวิญญาณของราชาเซียนผู้นี้ดูดเขาไปในมิติตาซ้าย
“ฮ่าๆ ช่างโง่เขลาเสียจริง!”
ราชาเซียนสังสารวัฏหัวเราะเยาะ
เมื่อครู่จ้าวเฟิงก็เพิ่งเห็นเขาเรียกร่างวัฏสังสารกลับ ตอนนี้กลับสิ้นเปลืองเจตจำนงดวงตาดึงวิญญาณของร่างวัฏสงสาร
“จุดเริ่มต้นสังสารวัฏ!”
ราชาเซียนสังสารวัฏสำแดงวิชานี้อีกครั้ง เตรียมเรียกทั้งวิญญาณและร่างของราชาเซียนผู้นั้นกลับ
แต่เสี้ยวขณะต่อมา ราชาเซียนสังสารวัฏก็ตกตะลึง
เขาพบว่าสิ่งที่เขาเรียกกลับมามีเพียงแค่ร่างไม่มีวิญญาณ
“ราชาเซียนสังสารวัฏ ในยามนี้อับจนปัญญาแล้วล่ะสิ!”
จ้าวเฟิงอดหัวเราะเยาะไม่ได้
เขามั่นใจในมิติตาซ้ายของเขา
ไม่ผิดดังคาด วิญญาณที่ถูกดูดเข้ามาในมิติตาซ้าย ต่อให้เป็นราชาเซียนสังสารวัฏก็ไม่อาจบังคับดึงกลับไปได้