บทที่ 1130 ลมหายใจมังกรล้างโลกา
กลางอากาศ เนตรสวรรค์สีทองอำพันข้างหนึ่งปรากฏขึ้น ราวกับฝังเอาไว้ในฟ้าดิน เสวียนอ้าวล้ำลึกประกายทองลอยเอ่อ มองลงมาเบื้องล่างอย่างเย็นชา
แม้กระทั่งมังกรวารีล้างโลกา ในยามที่เงยหน้ามองเนตรสวรรค์ กายใจยังเย็นยะเยือกเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
“สวรรค์! นั่นมัน…”
ในตำหนักเซียนพิณสวรรค์ ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดประหวั่นพรั่นพรึง นิ่งแข็งดุจกลายเป็นหิน เสียงสั่นเครือ
ในดินแดนพิณสวรรค์ ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มองไปยังเนตรสรรค์สีทอง กายใจล้วนหวาดกลัว ยืนอึ้งอยู่กับที่
“ตาข้างนั้นมันคืออะไรกันแน่…”
เจ้าตำหนักพิณสวรรค์และหลีเสวี่ยอี้ตื่นตะลึง
นอกจากมังกรวารีล้างโลกาแล้ว ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่มองเนตรสวรรค์ข้างนี้ล้วนมีความรู้สึกขาดอากาศหายใจอย่างรุนแรง ทำให้กายสั่นเทิ้ม
“ท่านอาจารย์ ผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์เมื่อครู่พูดว่าจ้าวเฟิง!”
หลีเสวี่ยอี้จิตใจสั่นไหว
ในตอนนั้นจ้าวเฟิงมาเยือนดินแดนพิณสวรรค์เป็นครั้งแรก และใช้พลังอันแข็งแกร่งบดขยี้อัจฉริยะของดินแดนพิณสวรรค์ทั้งหมดที่งานชุมนุมศาสตร์ดนตรี จากนั้นก็บังคับเชิญนางไป…
ภาพแต่ละฉาก วันนี้หลีเสวี่ยอี้ยังจำได้ไม่ลืม
“นี่เป็นไปไม่ได้ คนผู้นี้เป็นถึงเซียนเทวาเร้นลับผู้ปลีกตัวจากโลกภายนอก นายของเขาจะเป็นจ้าวเฟิงไปได้อย่างไร!”
เจ้าตำหนักพิณสวรรค์ปฏิเสธทันควัน
เจ้าตำหนักพิณสวรรค์เลื่อมใสในพรสวรรค์และพลังของจ้าวเฟิงเป็นอย่างยิ่ง แต่นับจากที่จ้าวเฟิงจากตำหนักเซียนพิณสวรรค์ไปก็หลายสิบปีเท่านั้น
จ้าวเฟิงจะกลายเป็นเซียนเทวาเร้นลับภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงนี้ อีกทั้งมีผู้รับใช้ในขอบเขตเทวาเร้นลับได้อย่างไร
ใบหน้าของมังกรวารีล้างโลกาเคร่งเครียด ส่งกระแสจิตให้กับป๋ายหลิน
“จ้าวเฟิงไล่ตามมาแล้ว ไยเจ้าจึงไม่บอกข้า?”
มังกรวารีล้างโลกาเอ่ยเชิงกล่าวโทษเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ ข่าวลือเกี่ยวกับจ้าวเฟิงที่แพร่สะพัดในราชวงศ์ต้าเฉียนน่าหวาดหวั่นยิ่ง อีกทั้งมังกรวารีล้างโลกาเพิ่งจะฟื้นฟูขอบเขตพลังครึ่งเทพ ความมั่นใจว่าจะสังหารจ้าวเฟิงได้มีไม่มากเท่าใดนัก
“บอกเจ้าไปกี่ครั้งแล้ว ข้าไม่อาจทำนายเรื่องจ้าวเฟิงได้ แต่ในเมื่อข้าสัมผัสถึงอันตรายไม่ได้ บางทีนี่อาจพิสูจน์ได้ว่าเจ้าสามารถสังหารจ้าวเฟิงได้สำเร็จ!”
ป๋ายหลินนิ่งไปชั่วครู จากนั้นเอ่ยขึ้น
โดยปกติแล้วยามที่มีอันตรายเข้าใกล้นาง เนตรทำนายของนางสามารถสัมผัสได้ก่อน แต่ครั้งนี้เหมือนจะไม่มีความรู้สึกนี้
วู้ม!
ป๋ายหลินไม่รู้สึกว่าในตำหนักฟั่นหลุนกู่อินที่อยู่ไม่ไกลจากนางมากนัก มีพลังลี้ลับที่ไม่อาจสัมผัสได้ทะลุทะลวงทุกสรรพสิ่งและผสานไปในฟ้าดินแผ่กระจายมา
“เป็นเช่นนั้นรึ?”
สีหน้าของมังกรวารีล้างโลกาตะลึงไปเล็กน้อย เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
หากเป็นเช่นป๋ายหลินเอ่ยมาจริง ครั้งนี้มังกรวารีล้างโลกาอาจจะสามารถสังหารจ้าวเฟิงอย่างซึ่งหน้าได้สำเร็จ
“หึ จ้าวเฟิง เจ้าออกจากตำหนักราชันมา วันนี้เจ้าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
มังกรวารีล้างโลกาประจันหน้ากับเนตรสวรรค์บนท้องฟ้า ใบหน้าเย็นชา ตะเบ็งเสียงดัง
แต่เดิม หลังจากที่สำรวจร่างเทพเสร็จสิ้นแล้ว มังกรวารีล้างโลกาก็เตรียมจะกำจัดจ้าวเฟิง
แต่จ้าวเฟิงอยู่ในตำหนักราชันตลอด คุนอวิ๋น หนานกงเซิ่ง และจ้าวหยูเฟยก็อยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นตลอดมาเขาจึงไม่ได้เคลื่อนไหว
“มังกรวารีล้างโลกา เจ้ารนหาที่ตายเอง!”
คลื่นจิตวิญญาณพร้อมด้วยจิตสังหารเย็นเยือกล้นฟ้า แผ่ออกมาจากในเนตรสวรรค์สีทองอ่อน
“น่าขันนัก ตอนนั้นกระทั่งเสียหยางยังฆ่าข้าไม่ได้ คนที่อยากจะสังหารข้าทั้งสองราชวงศ์ก็เยอะแยะมากมาย แต่ในตอนนี้ข้าก็ยังมีชีวิตอยู่!”
มังกรวารีล้างโลกาอดหัวเราะเยาะไม่ได้
ต่อให้เขาไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง แต่หากเขาคิดจะหนี คนในระดับเดียวกันไม่มีใครรั้งเขาเอาไว้ได้เด็ดขาด
“ตอนนี้ ข้าจะให้ข้ารับใช้ของเจ้าตายที่นี่ก่อน!”
มังกรวารีล้างโลกาสีหน้าเคร่ง มองไปยังเฒ่าประหลาดสวีด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม
แน่นอนว่าเขามองออกว่าจ้าวเฟิงอยู่ห่างเขาออกไปในระยะหนึ่ง เพียงแต่อาศัยตราประทับบนร่างเฒ่าประหลาดสวีสำแดงวิชาดวงตาข้ามขอบฟ้าอะไรบางอย่าง
วู้ม ฟู่!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน เพลิงทมิฬทำลายล้างทะลักออกจากมือของมังกรวารีล้างโลกา
แต่ในเวลานี้ เนตรสวรรค์บนท้องฟ้าปลดปล่อยเจตจำนงดวงตาที่น่าหวาดหวั่นออกมา ในนั้นมีเปลวเพลิงม่วงทองที่น่าพรั่นพรึงขยับวูบไหว
“ลืมไปเลย ดวงตานี่สามารถโจมตีได้!”
สีหน้ามังกรวารีล้างโลกเคร่งเครียด โคจรพลังวิญญาณและพลังเทพเพื่อทำการป้องกัน
เสี้ยวขณะต่อมา เพลิงอัสนีม่วงทองใหญ่กลุ่มหนึ่งโจมตีไปยังร่างของมังกรวารีล้างโลกา
ครืน บึ้ม!
พลังวิญญาณที่น่าหวาดกลัวทำเอาผู้แข็งแกร่งทั้งหมดทั่วบริเวณหมื่นลี้มีเสียงระเบิดดังในชั้นวิญญาณ จิตใจหวาดผวา
ฟุ่บ!
เฒ่าประหลาดสวีหลุดพ้นจากการควบคุมของมังกรวารีล้างโลกา หนีไปยังทิศทางหนึ่ง
“บัดซบ ตาข้างนี้!”
มังกรวารีล้างโลกาใบหน้าเหี้ยมโหด ขจัดเปลวเพลิงอัสนีเทวะที่กายและวิญญาณออกไปอย่างรวดเร็ว แต่อาการบาดเจ็บบางแห่งที่พลังอัสนีเทวะสร้างขึ้นกลับไม่อาจลบล้างได้
ฟิ้ว!
มังกรวารีล้างโลกาแปลงเป็นเปลวเพลิงทมิฬสายหนึ่งทะลุผ่านท้องฟ้า ไล่ตามเฒ่าประหลาดสวีไป
และในยามนี้เอง ท้องฟ้าห่างไกลมีพลังวายุอัสนีน่าหวาดหวั่นพวยพุ่งมา ทำให้ฟ้าดินรอบด้านดินแดนทะเลมืดมิด ภูเขาแม่น้ำแหลกลาญ
เห็นเพียงแสงอัสนีสีแดงทองพุ่งผ่านท้องฟ้า ตรงไปยังเส้นทางที่มังกรวารีล้างโลกาบินหนี
ครืน บึ้ม!
เงาร่างสองเงาปะทะกันเต็มแรง จากนั้นกระเด็นออกไปไกลหลายลี้
ไหล่ซ้ายของมังกรวารีล้างโลกาทรุดลงเล็กน้อย แต่ชั่วเวลาเพียงเสี้ยวขณะก็ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม
อีกด้านหนึ่ง จ้าวเฟิงก็ขจัดเพลิงทมิฬทำลายล้างบนร่างไป
ผ่านการปิดด่านหนึ่งปี กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิงพัฒนาขึ้นไปอีก อีกทั้ง ‘กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อมตะ’ ก็สำเร็จแล้ว
กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขาในยามนี้มีคุณสมบัติกายอมตะ ขอเพียงไม่ใช่อาการบาดเจ็บถึงส่วนสำคัญก็ล้วนฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับกายมังกรล้างโลกาของมังกรวารีทมิฬ
“คุณสมบัติร่างกายของมัน…”
มังกรวารีล้างโลกาเผยสีหน้าตกใจเล็กน้อย
การปะทะและปรากฏการณ์เมื่อครู่ มังกรวารีล้างโลกามองออกถึงความไม่ธรรมดาของคุณสมบัติร่างกายจ้าวเฟิง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน การต้านทาน หรือพลังฟื้นฟูล้วนถึงขั้นที่คาดไม่ถึง
“มอบตำหนักฟั่นหลุนกู่อินมา!”
ใบหน้าของจ้าวเฟิงเย็นชา เอ่ยออกมาทันที
แน่นอนว่าจ้าวเฟิงรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ผ่านเฒ่าประหลาดสวี
ในตอนนี้ ตำหนักฟั่นหลุนกู่อินอยู่ในมือของมังกรวารีล้างโลกา เขาจะต้องแย่งมาให้ได้
มิฉะนั้นวันหนึ่งหลิ่วฉินอินจะต้องถูกกดขี่ทำร้ายโดยมังกรวารีล้างโลกาเป็นแน่
“เจ้ากำลังล้อเล่นอยู่หรือไร!”
มังกรวารีล้างโลกาหัวเราะเยาะเย้ย
แต่เดิมเขามาจับคนที่สามารถใช้ข่มขู่จ้าวเฟิงได้ แต่คนผู้นั้นหลบอยู่ในตำหนักลึกลับมหัศจรรย์หลังนี้ และสิ่งที่ทำให้มังกรวารีล้างโลกายิ่งแปลกใจคือ แม้แต่เขาที่เป็นครึ่งเทพก็ไม่อาจทำลายตำหนักนี้ลงได้
หรือก็คือมังกรวารีล้างโลกาไม่อาจนำคนที่หลบอยู่ในตำหนักออกมา
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่มีทางคืนตำหนักนี้ให้กับจ้าวเฟิงเด็ดขาด
ครืน!
บนร่างของมังกรวารีล้างโลกามีแสงเพลิงทมิฬพวยพุ่งขึ้น แผ่กระจายอำนาจมังกรล้างโลกาต้องห้ามที่เย็นเยือกออกมา
แม้กระทั่งจ้าวเฟิงยังสัมผัสได้ว่าเลือดสั่นสะท้านเบาๆ ซ้ำยังถูกสะกดอย่างหนัก
ถึงอย่างไรกายของมังกรวารีทมิฬก็มีสายเลือดหายากของเผ่าพันธุ์มังกรวารีล้างโลกา
ฟู่!
กรงเล็บของชายเกล็ดดำโบกสะบัด คลื่นเพลิงสีดำกลุ่มหนึ่งบิดโค้ง กลายเป็นเพลิงมังดำทะยานไปยังจ้าวเฟิง
ครืน! กายของจ้าวเฟิงก็ผุดเพลิงสีชาดวายุอัสนีอันร้อนระอุเช่นเดียวกัน
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
จ้าวเฟิงผสานแก่นแท้พลังและพลังศักดิ์สิทธิ์เขาไปในฝ่ามือ โจมตีฝ่ามือที่มีสำนึกรู้ล้ำลึกและอำนาจมหาศาลออกมา
ครืน บึ้ม! พลังธาตุไฟทำลายล้างฟ้าดินสองกลุ่มระเบิดปะทุกลางฟ้า ผู้แข็งแกร่งในดินแดนพิณสวรรค์ทั้งหมดรู้สึกถึงพลังน่าหวาดหวั่นสะเทือนฟ้าดิน จิตใจสั่นสะท้าน
หากจุดที่ทั้งสองคนต่อสู้กันอยู่ใกล้กับดินแดนพิณสวรรค์อีกนิด เกรงว่าจะสร้างการโจมตีทำลายล้างต่อเกาะแห่งนี้ได้
“นี่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับใดกัน?”
“เกรงว่าคงทำลายดินแดนพิณสวรรค์ได้เพียงแค่ชั่วเวลาดีดนิ้วเท่านั้นกระมัง!”
ในดินแดนพิณสวรรค์ จักรพรรดิราชันชั้นยอดส่วนน้อยไม่กล้าเข้าไปใกล้มาก ทำได้เพียงแค่สอดแนมเหตุการณ์ที่รางเลือนเท่านั้น
“ดัชนีทะลุฟ้า!”
นิ้วชี้ขวาของจ้าวเฟิงแผ่กระจายกลิ่นอายบรรพกาล ขณะเดียวกันก็นำพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีใส่เข้าไปข้างใน
ฟิ้ว! แสงทองแดงสายหนึ่งพร้อมด้วยพลังวายุอัสนีที่น่าสะพรึงทะลุผ่านไป
ภายใต้ระยะอันใกล้ มังกรวารีล้างโลกาไม่อาจหลบหลีกได้ หน้าอกจึงถูกแทงทะลุเป็นรู
“กลิ่นอายสายเลือดกลุ่มนี้…”
ใบหน้าของมังกรวารีล้างโลกาเคร่งเครียดเล็กน้อย
เขาเคยลอบโจมตีจ้าวเฟิงในร่างเทพ ตอนนั้นจ้าวเฟิงก็ใช้สายเลือดพลังเทพน่าหวาดเกรงกลุ่มนี้โจมตีเขาจนล่าถอย
แต่ยามนี้จ้าวเฟิงเหมือนจะผสานพลังกลุ่มนี้เข้าไปในกายตัวเอง จึงใช้ได้อย่างตามใจมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งอาการบาดเจ็บที่พลังกลุ่มนี้สร้างให้เขา ต่อให้เป็นกายมังกรล้างโลกาก็ต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งจึงจะสามารถฟื้นฟูได้
“ป๋ายหลิน เจ้าหลอกข้า?”
มังกรวารีล้างโลกาสีหน้าดำทะมึน ส่งกระแสจิตถามอย่างโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
ตอนนี้พลังที่จ้าวเฟิงสำแดงออกมาเทียบเคียงได้กับครึ่งเทพเลยทีเดียว แต่จ้าวเฟิงยังมีสายเลือดดวงตาที่ทำให้มังกรวารีล้างโลกาหวาดกลัวอีก
หากสถานการณ์ดีหน่อย มังกรวารีล้างโลกาจึงจะสามารถสู้กับจ้าวเฟิงได้อย่างทัดเทียม
“จุดนี้ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เนตรทำนายของข้าตอนนี้ก็ยังสัมผัสถึงอันตรายอะไรไม่ได้!”
ป๋ายหลินที่อยู่ในมิติดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกาก็ไม่ค่อยแน่ใจสถานการณ์ตอนนี้เท่าใดนัก
ครืน!
ใบหน้าของมังกรวารีล้างโลกาเหี้ยมเกรียม แสงเพลิงดำแดงทั่วร่างพุ่งสูงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง“ลมหายใจมังกรล้างโลกา!”
ในกายของมังกรวารีล้างโลกา ก่อกลิ่นอายทำลายล้างต้องห้ามกลุ่มหนึ่งขึ้น
“แย่แล้ว เสวียนอ้าวทำลายล้าง!”
จ้าวเฟิงตื่นตกใจ
เสวียนอ้าวทำลายล้างเป็นปฏิปักษ์ต่อกายอมตะทุกชนิด
พลังอัสนีเทวะก็มีเสวียนอ้าวทำลายล้าง แต่อย่างไรก็ไม่ใช่เสวียนอ้าวทำลายล้างบริสุทธิ์
ด้วยคุณสมบัติกายของจ้าวเฟิงตอนนี้ หากรับการโจมตีกระบวนนี้ไป เกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บชนิดทำลายล้าง
“หึ ในเมื่ออยู่ในทะเลแดนใต้ ข้าก็ไม่ต้องซ่อนมันแล้ว!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงพลันเปลี่ยน ในมือมีชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมปรากฏขึ้น
ในขณะเดียวกัน ตาซ้ายของจ้าวเฟิงเปล่งประกายแสงอัสนีสีขาวทองนับไม่ถ้วน เสวียนอ้าวทำลายล้างวิญญาณพร้อมคลื่นวิญญาณอันแข็งแกร่งทะลักล้นออกมา
ครืน ฉัวะ!
ตราอัสนีเทวะบิดโค้งกลุ่มหนึ่ง ลุกไหม้บิดเบี้ยวดุจเปลวเพลิง พลันโจมตีมายังวิญญาณของมังกรวารีล้างโลกาพร้อมด้วยกลิ่นอายวิญญาณที่น่าหวาดหวั่นเป็นที่สุด
แต่ในขณะนี้เอง มังกรวารีล้างโลกาพ่นเพลิงเทวะต้องห้ามสีแดงดำทรงพลังออกมา
วู้ม ครืน!
เหนือท้องฟ้า ลูกไฟแดงดำใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้น ราวกับดวงอาทิตย์สีแดงดำดวงหนึ่ง แผ่กลิ่นอายต้องห้ามที่ทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง
“อ๊าก…”
มังกรวารีล้างโลกาโดนเพลิงดวงตาอัสนีเทวะจู่โจม ร้องอย่างอเนจอนาถไม่หยุด
หลังจากที่ความเจ็บปวดคลายลงไปเล็กน้อย มังกรวารีล้างโลกาค่อยเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่ไม่หลบรึ ช่างโง่เขลานัก!”
ถึงแม้เขาจะโดนวิชาดวงตาทำลายล้างโจมตี แต่ถ้าเทียบระดับความแข็งแกร่งของเสวียนอ้าวทำลายล้าง ก็ยังคงเป็น ‘ลมหายใจมังกรวารีล้างโลกา’ ของเขาที่แข็งแกร่งกว่า
แต่เสี้ยวขณะต่อมา ลูกไฟดำแดงหน้ามังกรวารีล้างโลกามีเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมา
ฟุ่บ! จ้าวเฟิงเข้าใกล้มังกรวารีล้างโลกาทันที
“ดัชนีทะลุฟ้า!”
นิ้วของจ้าวเฟิงแตะไปยังส่วนหัวของมังกรวารีล้างโลกา
ฟิ้ว ฉึก!
แสงสีแดงทองสายหนึ่งแผ่กระจายพลังเทพสายเลือดบรรพกาล พร้อมด้วยพลังวายุอัสนีที่น่าหวาดเกรง ทะลุผ่านหัวของมังกรวารีล้างโลกา
“อ๊าก…เป็นไปได้อย่างไรกัน!”
มังกรวารีล้างโลการ้องเจ็บปวด จากนั้นมองไปยังจ้าวเฟิงที่ยังอยู่รอดปลอดภัย
จ้าวเฟิงรับการโจมตีที่แฝงด้วยพลังดั้งเดิมทำลายล้างไว้ นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
เสวียนอ้าวทำลายล้างนั่นทำลายทุกสิ่งเชียวนะ!
“นี่มัน…อาวุธเทพ!”
เสี้ยวขณะต่อมา ดวงตาของมังกรวารีล้างโลกาจ้องโล่เหล็กดำที่เต็มไปด้วยลายเล็กละเอียดประกายสีเขียวล้ำลึกในมือจ้าวเฟิง