Skip to content

King of Gods 1132

King Of Gods

บทที่ 1132 ชะตาของป๋ายหลิน

“ไม่ต้องแล้ว ข้าจะไปเอาเอง!”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงเย็นชา จิตสังหารน่าหวาดหวั่น

นี่คือโอกาสดีที่จะกำจัดมังกรวารีล้างโลกาและป๋ายหลิน จ้าวเฟิงจะปล่อยทั้งสองไปได้อย่างไร

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงส่องประกายแสงอัสนีเทวะสีขาวแวววาวนับไม่ถ้วน เสวียนอ้าวทำลายล้างวิญญาณกลุ่มหนึ่งมาพร้อมคลื่นพลังดวงตาที่แข็งแกร่ง

ครืน ฉัวะ!

ตราอัสนีเทวะบิดโค้งกลุ่มหนึ่ง ลุกไหม้ดุจเปลวเพลิง ระเบิดลงบนส่วนหัวของมังกรวารีล้างโลกา

“อ๊าก….จ้าวเฟิง อย่ารังแกกันให้มากนัก!”

พลังวิญญาณของมังกรวารีล้างโลกาถูกทำร้ายบาดเจ็บหนักอีกครั้ง

แต่ว่าพลังวิญญาณของมังกรวารีล้างโลกาก็ไม่ใช่แข็งแกร่งธรรมดา หากเปลี่ยนเป็นครึ่งเทพทั่วไป ภายใต้การโจมตีจากวิชาดวงตาวิญญาณของจ้าวเฟิงหลายครั้ง เกรงว่าคงอ่อนล้าเต็มทีแล้ว

“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”

หลังจากสำแดงเพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า

จ้าวเฟิงก็รู้สึกว่ามังกรวารีล้างโลกาไม่ใช่สังหารยากธรรมดา

ด้วยขอบเขตวิญญาณของจ้าวเฟิงรวมกับดวงตาเทพเจ้าและพลังอัสนีเทวะ ทำได้เพียงแค่สร้างความบาดเจ็บหนักให้กับวิญญาณของมังกรวารีล้างโลกา หากคิดจะสังหารเขาจึงมีความยากในระดับหนึ่ง

หลังจากที่สำแดง ‘เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า’ สองครั้งแล้ว ตราประทับอัสนีเทวะในกายวิญญาณอัสนีของจ้าวเฟิงก็เหลือไม่มาก

เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าหวาดกลัวเช่นมังกรวารีล้างโลกา จ้าวเฟิงตื่นตัวอยู่ทุกชั่วขณะ ไม่มีทางใช้พลังอัสนีเทวะทั้งหมดตามใจเป็นแน่

“กระบี่จินรุ่ย!”

“คมลมกรด!”

ด้านข้าง จ้าววั่นกระตุ้นเนตรหมื่นปรากฏการณ์ สำแดงการโจมตีแข็งแกร่งที่มีธาตุพิเศษไม่หยุดเพื่อทำลายกายมังกรล้างโลกาของมังกรวารีทมิฬ

“อ๊าก…จ้าวเฟิง เจ้าบีบบังคับข้าเองนะ!”

แววตาทั้งสองข้างมังกรวารีล้างโลกาฉายแววบ้าคลั่ง พลังเพลิงทมิฬรุนแรงพวยพุ่งออกมาทั่วร่างเกล็ดมังกรดำ

วู้ม วู้ม!

ร่างของมังกรวารีล้างโลกาพลันแผ่กระจายพลังทำลายล้างบรรพกาลกว้างไกลออกมากลุ่มหนึ่ง แสงเทพเพลิงทมิฬนับไม่ถ้วนหลั่งไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ฟ้าดินที่อยู่ภายใต้พลังเทพทำลายโลกกลุ่มนี้บิดเบี้ยว ท้องฟ้าบางแห่งฉีกออก

“พลังดั้งเดิมทำลายล้าง!”

สายตาของจ้าวเฟิงจับจ้อง ตั้งท่าพร้อมรบ

ในที่สุดมังกรวารีล้างโลกาก็วางเดิมพัน ใช้พลังดั้งเดิมทำลายล้างอย่างไม่สนใจผลที่ตามมา พลังของมังกรวารีล้างโลกาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ทุกอย่างก็เป็นแค่เพียงชั่วขณะ พลังดั้งเดิมทำลายล้างก็คือพื้นฐานทั้งหมดของมังกรวารีล้างโลกา หากใช้ไปเท่าใด พลังทั้งหมดของเขาก็จะลดลงไปเท่านั้นตลอด

ตามหลักแล้ว เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้จ้าวเฟิงควรอยู่ไกลๆ มังกรวารีล้างโลกา รอเขาใช้พลังดั้งเดิมทำลายล้างหมดค่อยเข้าใกล้

แต่จ้าวเฟิงแน่ใจเป็นอย่างยิ่ง ครั้งนี้หากให้มันกรวารีล้างโลกาหนีไปได้ เช่นนั้นในยามที่มันฟื้นฟูพลังจนถึงขีดสูงสุดจะต้องมาตอแยจ้าวเฟิงอย่างแน่นอน

“จ้าวเฟิง บีบให้ข้าใช้พลังดั้งเดิมทำลายล้าง เจ้าตายได้อย่างสงบแล้ว!”

ใบหน้าของมังกรวารีล้างโลกาบิดเบี้ยว เผยสีหน้าทรมาน บ้าคลั่ง และเหี้ยมเกรียม

แสงเทพเพลิงทมิฬที่ลุกไหม้ทั่วร่างของเขาแผ่กระจายรัศมีอำนาจทำลายฟ้าดินออกมา ส่งผลกระทบไปทั่ว

เพลิงทมิฬกลุ่มนี้แม้กระทั่งท้องฟ้าก็สามารถลุกไหม้ได้ อีกทั้งยังลุกลามแผดเผาราวกับจะทำลายทุกสิ่ง

เมื่อใช้พลังดั้งเดิมทำลายล้าง พลังโจมตีของมังกรวารีล้างโลกาเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ขณะเดียวกัน กายมังกรล้างโลกาก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

หรือก็คือจ้าวเฟิงต้องใช้อาวุธเทพถี่ขึ้นเพื่อรับมือกับการโจมตีของมังกรวารีล้างโลกา

ส่วนพลังต้านทานการโจมตีจากอาวุธเทพของมังกรวารีล้างโลกาภายใต้สภาวะนี้ก็เพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง

วูบ! จ้าววั่นได้รับคำสั่งจ้าวจ้าวเฟิง ถอยหลังไปหมื่นลี้ทันใด ก่อนใช้เนตรหมื่นปรากฏการณ์ช่วยเหลือจ้าวเฟิง

วูบ! มังกรวารีล้างโลกาแปลงเป็นเงาเพลิงทมิฬผ่านหน้าจ้าวเฟิงไป

“เกราะศักดิ์สิทธิ์อัสนีธาตุดิน!”

จ้าวเฟิงโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุดินร่วมกับจ้าววั่น สำแดงเคล็ดวิชาป้องกัน

ครืน บึ้ม! จ้าวเฟิงปะทะเข้ากับมังกรวารีล้างโลกาอย่างรุนแรง

ครืน ฉัวะ!

ชั่วพริบตา เพลิงทมิฬทำลายล้างลุกไหม้เกราะของจ้าวเฟิงไปกว่าครึ่ง อีกทั้งยังแผ่ลามไปไม่หยุด

และบาดแผลที่เพลิงมารโลหิตของจ้าวเฟิงสร้างให้กับมังกรวารีล้างโลกาก็เล็กน้อยเป็นอย่างยิ่ง

เคร้ง เคร้ง!

ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมในมือของจ้าวเฟิงเปลี่ยนเป็นกระบี่เทพเหล็กดำ

พลังเทพหลั่งไหลเข้าไปในนั้น ลายประกายเขียวบนกระบี่เหล็กดำพลันส่องแสงทองสว่าง

กระบี่ของจ้าวเฟิงฟันลงไปทันใด คมคลื่นสีดำพร้อมด้วยแรงกดดันพลังเทพที่ทรงพลังและเหี้ยมโหดพุ่งออกมาทันใด

ฉัวะ ฉึก!

มังกรวารีล้างโลกาถูกกระบวนท่านี้ของจ้าวเฟิงฟาดออกไปไกลหลายลี้ บนร่างมีบาดแผลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น บาดแผลจากไหล่ลากยาวไปยังเอว

ฟู่ ฟู่!

ในรอยแผลของมังกรวารีล้างโลกา เพลิงทมิฬทำลายล้างพวยพุ่ง จากนั้นจึงค่อยๆ ฟื้นฟู

“เจ้าจะทนไปได้อีกนานเท่าใด? แค่เพียงใช้พลังเทพหมดก็จะเป็นเวลาตายของเจ้า!”

มังกรวารล้างโลกายิ้มเหี้ยมเกรียม

ถึงแม้พลังดั้งเดิมทำลายล้างของมังกรวารีล้างโลกาก็ถูกใช้ไปตลอดเช่นกัน บางทีหลังจากนี้ขอบเขตพลังของเขาอาจจะลดลงถึงเซียนหรือกระทั่งจักรพรรดิ แต่แค่เพียงสังหารจ้าวเฟิง ได้ทุกอย่างในมืออีกฝ่ายมา เช่นนั้นก็คุ้มค่าแล้ว

แต่ในยามนี้เอง มังกรวารีล้างโลกาพบว่าสายตาของจ้าวเฟิงผิดปกติไปเล็กน้อย เหมือนจะเสียแววตาและประกายไป

เสี้ยวขณะต่อมา มังกรวารีล้างโลกาเงยหน้าขึ้นโดยพลัน

เห็นเพียงบนท้องฟ้า เนตรสวรรค์สีทองอำพันข้างหนึ่งปรากฏขึ้น เสวียนอ้าวล้ำลึกประกายทองลอยเอ่อ มองลงมาข้างล่างอย่างเย็นชา

แรงกดดันจิตวิญญาณที่ไร้รูปร่างแผ่มายังร่างของมังกรวารีล้างโลกา

เนตรสวรรค์พลันยืดคลื่นวนสีม่วงทองที่ลึกไร้ก้นบึ้งออกมา ราวกับเชื่อมต่อไปยังเขาวงกตลวงตาที่ลึกไม่สิ้นสุด

ทันใดนั้น พลังต้องห้ามที่กักขังและดึงดูดวิญญาณห้อมล้อมอยู่เหนือร่างของมังกรวารีล้างโลกา

พลังต้องห้ามกลุ่มนนั้นดุจพลังแห่งราชัน ไม่อาจขัดขืนได้

“กระบวนท่านี้….” สีหน้าของมังกรวารีล้างโลกาตื่นตระหนกยิ่ง

กระบวนท่านี้ของจ้าวเฟิง เขาเคยเห็นในมิติเทพลวงตา

“จ้าวเฟิง ต่อให้เจ้าใช้เนตรสวรรค์สำแดงวิชาดูดวิญญาณชนิดนี้ ก็ยากที่จะดูดวิญญาณของข้าไป!”

มังกรวารีล้างโลกามั่นใจเป็นอย่างยิ่ง

ภายใต้การกระตุ้นพลังดั้งเดิมทำลายล้าง รัศมีอำนาจจิตวิญญาณของเขาจะเพิ่มมากขึ้น มีประโยชน์ในการต้านทานเนตรสวรรค์สีทองในระดับหนึ่ง

“เอ๋? ไม่ใช่แล้ว!”

สีหน้าของมังกรวารีล้างโลกาตื่นตระหนก เขาพบว่าวิญญาณของตนไม่รู้สึกถึงพลังดึงดูดกลุ่มนั้น แต่ถูกพลังต้องห้ามพันธนการและกักขัง

มังกรวารีล้างโลกาเข้าใจความหมายในการกระทำนี้ของจ้าวเฟิงทันที

จ้าวเฟิงคิดจะกักขังเขา รอให้พลังดั้งเดิมทำลายล้างของเขาถูกใช้จนถึงระดับหนึ่ง

ตอนนั้นเมื่อมังกรวารีล้างโลกาพลังฝึกตนลดลง จ้าวเฟิงก็สามารถสังหารเขาลงได้อย่างง่ายดาย

“แต่ว่าเมื่อสำแดงเนตรสวรรค์ การป้องกายของตัวเจ้าก็จะลดลงถึงขีดจำกัดเช่นเดียวกัน!”

ดวงตาของมังกรวารีล้างโลกาจับจ้อง มองไปยังกายของจ้าวเฟิง

ภายใต้สถานการณ์ที่จ้าวเฟิงสำแดงเนตรสวรรค์ กำลังรบของกายเดิมก็มีประมาณเพียงสามสี่ส่วนเท่านั้น

ในยามนี้ มังกรวารีล้างโลกาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเมื่อครู่จ้าวเฟิงจึงใช้พลังอาวุธเทพโจมตีจนเขาลอยไปไกล

“หึ!”

มังกรวารีล้างโลกาแค่นเสียงเย็น พลังจิตวิญญาณขยับทุกด้าน ต้านทานเนตรสวรรค์บนท้องฟ้าไว้

ฟู่! มังกรวารีเคลื่อนไปข้างหน้าระยะหนึ่ง

ทุกที่ที่ผ่านไปล้วนทิ้งเพลิงทมิฬทำลายล้างชั้นหนึ่งไว้เผาไหม้ท้องฟ้า

“เจ้ามังกรวารีนี่….” สีหน้าของจ้าวเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย

ในยามนี้ พลังเนตรเพ่งเทพเจ้าของจ้าวเฟิงพูดได้ว่าแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แต่พลังในช่วงสุดยอดของมังกรวารีล้างโลกาถึงขั้นเทพบรรพกาล ขอบเขตลึกล้ำเป็นที่สุด ร่วมด้วยวิญญาณที่แข็งแกร่งกับพลังดั้งเดิมทำลายล้าง พลังต้านทานไม่ใช่แค่มากธรรมดา

ฟู่! มังกรวารีล้างโลกาเคลื่อนมาข้างหน้าระยะหนึ่งอีกครั้ง อีกทั้งปลดปล่อยการโจมตีภายใต้วิญญาณที่ถูกพันธนาการ

“ขอบเขตดินสมบูรณ์!”

จ้าววั่นเบื้องหลังจ้างเฟิงกระตุ้นดวงตาทันใด ช่วยจ้าวเฟิงต้านทานการโจมตีของมังกรวารีล้างโลกาไว้

ครืน บึ้ม!

การโจมตีหลังจากที่จ้าวหวางกระตุ้นการป้องกันตกลงมาบนร่างจ้าวเฟิง แต่ไม่เป็นอะไรมาก

“ต้องเข้าไปใกล้อีกนิด!”

มังกรวารีเหงื่อซึมชื้น รัศมีอำนาจเทียบกับในตอนแรกแล้วลดลงไปเยอะ

การต้านทานเนตรสวรรค์ข้างนั้น ค่าตอบแทนจากการทุ่มเทของมังกรวารล้างโลกาสูงเป็นอย่างมาก พลังวิญญาณและพลังดั้งเดิมทำลายล้างล้วนถูกใช้ไปอย่างฉับพลัน

แต่ตอนนี้เขาไม่มีวิธีอื่นแล้ว เขาต้องต้านทานวิชาดวงตาของจ้าวเฟิง เข้าใกล้แล้วกำจัดทิ้งซะ

ฟู่! มังกรวารีล้างโลกาเคลื่อนเข้าไปใกล้อีกระยะหนึ่งอีกครั้งอย่างยากลำบาก

“มังกรวารีล้างโลกาโจมตี!”

มือทั้งสองของมังกรวารีล้างโลกาทะลักเพลิงทมิฬทำลายล้าง เตรียมโจมตีจ้าวเฟิง

แต่ในยามนี้ เบื้องหลังของเขามีเส้นเทาเงินกะพริบวูบผ่าน

ฉัวะ ฉึก!

ลายคลื่นสีดำเยือกเย็น กลิ่นอายพลังเทพต้องห้ามลอยเอ่อ ทะลุออกมาจากมิติดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกา

“แมวตัวนี้!” มังกรวารีล้างโลกามีแววตาหวาดผวา

เขารู้ว่าจ้าวเฟิงมีสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงว่าแมวตัวนี้จะมีการโจมตีที่แข็งแกร่งเช่นนี้

อั้ก! มังกรวารล้างโลการกระอักเลือดสีดำ กลิ่นอายทั่วร่างอ่อนจางลงทันใด

“ทำได้ดีมาก!”

จากการต่อสู้ตอนแรก จ้าวเฟิงก็ให้แมวขโมยน้อยซ่อนอยู่รอบด้าน จากนั้นโจมตีมังกรวารีล้างโลกาในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

วู้ม! ในยามที่มังกวารีล้างโลกาอ่อนแอลง เนตรเพ่งเทพเจ้าของจ้าวเฟิงก็สามารถคบคุมไว้ได้ทั้งหมด แมวขโมยน้อยสร้างความบาดเจ็บหนักในระดับหนึ่งให้กับมิติดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกา

ขณะนี้พลังดั้งเดิมทำลายล้างในกายของมังกรวารีล้างโลกาค่อยๆ ซึมออกมาด้านนอก แต่มังกรวารีล้างโลกากลับลนลาน ยากที่จะควบคุมหรือแก้ไข

ฟู่ ฟู่! ผืนฟ้าปฐพี เพลิงทมิฬที่ไม่มีสิ้นสุดลุกไหม้ทำลายทุกสิ่งให้สิ้น รอยแยกมิติไม่เล็กไม่ใหญ่หลายรอยแผ่กระจายทั่วด้าน

“มังกรวารีล้างโลกา เจ้าไม่มีทางหนีได้ ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงนิ่งเฉย ฉายแววมั่นใจ

ยามนี้เขาเพียงรักษาสภาพเช่นนี้ กักขังวิญญาณของมังกรวารเอาไว้ตลอด ก็สามารถได้รับชัยชนะมา

“ข้ายอมรับ ข้าพ่ายแพ้ในมือเจ้า แต่ว่าเจ้าก็อย่าคิดว่าจะสมหวัง!”

ใบหน้าของมังกรวารีล้างโลกาคุ้มคลั่ง

ทันใดนั้น มิติทำลายล้างดั้งเดิมในกายเขาค่อยๆ ขยายขึ้น

“แย่แล้ว เขาจะเหนี่ยวนำพลังทั้งหมดที่เหลือ!”

เนตรเพ่งเทพเจ้าของจ้าวเฟิงสำรวจทุกสรรพสิ่ง

ทว่าวิญญาณของมังกรวารีล้างโลกาถูกจ้าวเฟิงกักขังไว้หมด คิดจะระเบิดตัวเองต้องใช้เวลาครู่หนึ่ง จ้าวเฟิงในยามนี้ หากถอนเนตรสวรรค์แล้วหลบหนีทันที จะหลบหลีกขอบเขตการระเบิดตัวเองของมังกรวารีล้างโลกาได้แน่นอน

แต่เป้าหมายที่แท้จริงของมังกรวารีล้างโลกาคือทำลายตำหนักฟั่นหลุนกู่อินและหลิ่วฉินอินที่อยู่ข้างใน เขาอยากให้จ้าวเฟิงเสียใจไปชั่วชีวิต

แต่เสี้ยวขณะต่อมา จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกาต่างตกตะลึง

เห็นเพียงในมิติดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกา ป๋ายหลินกระตุ้นอาวุธเทพชั้นรองป้องกัน หลบหนีออกมาจากรอยแยกด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ

“เนตรทำนาย เจ้าโง่นี่ เจ้าก็ตายไปซะ!”

มังกรวารีล้างโลกามองมายังป๋ายหลิน ในใจเกิดไฟโทสะมหาศาล

เขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะป๋ายหลิน

ดังนั้นก่อนตายเขาก็จะฆ่าป๋ายหลินเสีย

และในยามนี้เอง ในมิติดั้งเดิม ตำหนักฟั่นหลุนกู่อินก็ลอยออกมาจากรอยแยก

ฟู่! ประตูของตำหนักฟั่นหลุนกู่อินเปิดออก เกิดแรงดูดรุนแรงทันใด มุ่งเป้าไปยังป๋ายหลิน

“ไม่นะ!” ใบหน้าของป๋ายหลินหวาดกลัว

เมื่อมิติดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกาทลายลง ป๋ายหลินก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของตำหนักนี้ทันใด

จู่ๆ ป๋ายหลินก็รู้สึกว่าชะตาชีวิตของตนไม่ถูกควบคุมแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางเกิดความรู้สึกเช่นนี้

การเสียการควบคุมชะตาชีวิตเช่นนี้ ทำให้นางหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และรู้สึกถึงภัยแห่งความตาย

ฟิ้ว! ป๋ายหลินที่พลังอ่อนแอทำอะไรก็ไม่ได้ ถูกดูดเข้าไปในตำหนักฟั่นหลุนกู่อิน

ในขณะนี้ มังกรวารีล้างโลกาและจ้าวเฟิงยืนตะลึงอยู่กับที่ มองภาพนี้อย่างตื่นตกใจ

“โอกาส!” สีหน้าของจ้าวเฟิงขยับเล็กน้อย

บนท้องฟ้า เนตรสวรรค์สีทองพลันเปล่งประกายแสงอัสนีสีขาวแวววาวนับไม่ถ้วน แผ่กระจายกลิ่นอายอัสนีเทวะทำลายล้างรุนแรง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!