บทที่ 1146 แขกผู้มีเกียรติ
“คุณชายจ้าว หากไม่รังเกียจก็เชิญเข้ามาพักด้านในสักครู่ก่อน ระหว่างทางมีข้อผิดพลาดมากนัก หวังว่าจะไม่ถือสา!”
อวี้หลินเอ๋อร์เอ่ยอย่างเขินอายเล็กน้อย
สมาชิกคนอื่นในกลุ่มนอกจากท่านอาชิงล้วนชะงักนิ่ง
เหตุใดคุณหนูจึงบุ่มบ่ามเชิญมนุษย์เข้าไปในรถนาง
ถึงแม้ก่อนนี้อวี้หลินเอ๋อร์ก็เคยเชิญท่านอาชิงเข้าไปพักผ่อนเล็กน้อย แต่ท่านอาชิงเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังคอยช่วยคุณชายและคุณหนูตลอดทางที่มุ่งหน้าไปยังเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง เรียกได้ว่ามีความดีความชอบอย่างยิ่ง
แต่มนุษย์ที่โผล่มาเข้าร่วมกลุ่มระหว่างทาง ตลอดทางที่ผ่านมาไม่มีผลงานใดๆ ในตอนที่เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวโดนลอบโจมตีจากสัตว์อสูรก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย
สมาชิกคนอื่นของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวจึงมีความประทับใจที่ไม่ดีนักต่อจ้าวเฟิง
แต่ยามนี้ คิดไม่ถึงว่าคุณหนูจะเชิญคนผู้นั้นเข้าไปในรถ นี่ทำให้สมาชิกเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวงุนงง
‘หรือว่าคุณหนูชมชอบชายผู้นี้แล้ว? ‘
คนเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวผู้หนึ่งคาดเดาในใจ
ในดินแดนเทพรกร้าง ระหว่างเผ่าพันธุ์สายเลือดต่างๆ ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามกันมากนัก อย่างไรเสียในพื้นที่แห่งนี้ก็มีเผ่าพันธุ์สายเลือดนับไม่ถ้วน เผ่าพันธุ์สายเลือดบางส่วนที่แข็งแกร่งหลงเหลือคนในเผ่าเพียงหลายร้อยหรือหลายสิบคน ด้วยเหตุนี้การแต่งงานนอกเผ่าพันธุ์สายเลือดจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ
“ได้!” จ้าวเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตกปากรับคำ
วัสดุในรถพิเศษมาก ภายในมีค่ายกลขอบเขตพลังปิดกั้นโลกภายนอก
ตอนที่เข้าไปภายใน จ้าวเฟิงพลันได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนช่วยทำให้จิตใจสงบลง
“เมื่อครู่ขอบคุณผู้อาวุโสที่ยื่นมือช่วยเหลือ เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง!”
อวี้หลินเอ๋อร์ค้อมคำนับเล็กน้อยด้วยสีหน้าเคารพนบนอบ
เมื่อครู่หากไม่ใช่จ้าวเฟิงทำให้เหยี่ยวเหมันต์เกล็ดดำตื่นตกใจหนีไป เกรงว่าทั้งเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวจะตายกันเสียหมด
“หลิวอวิ๋น รีบคารวะผู้อาวุโสเร็ว!”
อวี้หลินเอ๋อร์เร่งเร้าน้องชายที่อยู่ด้านข้าง
“คารวะผู้อาวุโส!”
คุณชายน้อยเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวด้านข้างเผยสีหน้าหวั่นเกรง รีบทำความเคารพทันที
ในสายตาของเขา ขอบเขตพลังของพี่สาวสูงส่งอย่างยิ่งแล้ว คนที่ทำให้พี่สาวเรียกว่าผู้อาวุโสได้ย่อมเก่งกาจแน่นอน
“เรื่องเล็กน้อย” จ้าวเฟิงไม่ใส่ใจ
ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเหตุและผล ถ้าหากตอนแรกอวี้หลินเอ๋อร์ไม่ช่วยจ้าวเฟิง ตอนนี้เหตุใดจ้าวเฟิงจะช่วยพวกเขาให้พ้นเคราะห์ภัยครั้งนี้กันเล่า
“เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ของผู้อาวุโสคือตามหาแผนที่ที่มีรายละเอียดเช่นนั้นหรือ?”
อวี้หลินเอ๋อร์ถามขึ้นอีกครั้ง
“ถูกต้อง!”
จ้าวเฟิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
“หากผู้อาวุโสไม่รังเกียจ ท่านลองดูแผนที่ที่เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวเก็บรักษาไว้ได้!”
อวี้หลินเอ๋อร์งอนิ้วเล็กน้อย ส่งกลุ่มแสงพร่างพรายพุ่งเข้าไปที่หว่างคิ้วของจ้าวเฟิง
วินาทีต่อมาจึงปรากฏภาพแผนที่ขนาดยักษ์ในหัวจ้าวเฟิง
“อาณาเขตที่ปรากฏในแผนที่ส่วนนี้ เป็นเพียงแค่พื้นที่ส่วนหนึ่งด้านนอกเกาะเทียนอวี่ คาดคะเนว่ายังไม่ถึงหนึ่งส่วนในร้อยของพื้นที่ด้วยซ้ำไป”
เสียงมังกรวารีล้างโลกาดังขึ้น
ดินแดนเทพรกร้างกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ดังนั้นแผนที่ของมันจึงล้ำค่ายิ่งนัก เป็นของสำคัญของทุกเผ่าพันธุ์สายเลือด โดยปกติแล้วจะไม่ให้คนนอกดูง่ายๆ
อีกอย่าง ดินแดนเทพรกร้างทั้งหมดแบ่งออกเป็นสิบแปดเขตพื้นที่ แต่ละเขตใหญ่เป็นร้อยพันเท่าของดินแดนทวีปเป็นอย่างน้อย
ตอนนี้ เกาะเทียนอวี่ในแผนที่ของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวก็มีขนาดเทียบเท่าได้กับทั้งราชวงศ์ต้าเฉียนแล้ว
“เพียงเกาะเดียวก็มีขนาดเท่าราชวงศ์ต้าเฉียน!”
เมื่อได้ยินคำบรรยายของมังกรวารีล้างโลกาแล้ว จ้าวเฟิงยังตื่นตระหนก รู้สึกไม่อยากเชื่อ
มิน่า ทั้งกลุ่มเดินทางมาสองเดือนยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ที่แท้เกาะเทียนอวี่มีอาณาเขตที่ใหญ่โตเช่นนี้
“แม่นางหลินเอ๋อร์ทราบหรือไม่ว่าเกาะเทียนอวี่เป็นอาณาเขตส่วนไหนของดินแดนเทพรกร้าง?”
จ้าวเฟิงเอ่ยถามตรงไปตรงมา
“อาณาเขต? เมื่อก่อนเคยได้ยินท่านพ่อพูดถึงเขตผาเก่ามาบ้าง แต่เรื่องอื่นข้ารู้ไม่ค่อยชัดเจนแล้ว!”
อวี้หลินเอ๋อร์ตื่นตระหนก
ในตอนนั้นบิดาของนางบอกเอาไว้ว่า คนที่เคยเอ่ยถึง ‘อาณาเขต’ แทบจะเป็นยอดฝีมือของดินแดนเทพรกร้างทั้งหมด
หลายปีที่ผ่านมา จ้าวเฟิงเป็นคนแรกที่เอ่ยถึงคำว่า ‘อาณาเขต’ กับนาง อวี้หลินเอ๋อร์จึงเคารพจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้น
“เหอะๆ ที่แท้เป็นเขตผาเก่านี่เอง คิดไม่ถึงเลย สตรีนางนี้ยังพอจะรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน ดูแล้วคงไม่ใช่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกกระมัง!”
มังกรวารีล้างโลกายิ้มอย่างชั่วร้าย
จ้าวเฟิงกลอกตามองมังกรวารีล้างโลกา
ถึงอย่างไรเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวก็ยังนับได้ว่าเป็นขั้วอำนาจสามดาว เหตุใดกลับกลายเป็นเพียงคนธรรมดาในสายตามังกรวารีล้างโลกาไปได้ แต่จากการบรรยายของมังกรวารีล้างโลกา จ้าวเฟิงพอจะเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของดินแดนเทพรกร้างลึกซึ้งขึ้น
เหมือนกับเผ่าพันธุ์สามดาวอย่างแพะหยกเขียว ดินแดนที่ใช้ชีวิตอยู่ อย่างมากที่สุดก็จำกัดอยู่ในละแวกกับเกาะเทียนอวี่เท่านั้น แผนที่ส่วนนี้จึงมีอาณาเขตใหญ่ได้เท่านี
‘มังกรวารีล้างโลกา จะเดินทางไปดินแดนของเผ่าพันธุ์วิญญาณจากที่นี่ น่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่? ‘
จ้าวเฟิงคาดเดาในใจไว้แล้ว แต่เขาก็ยังถามอยู่ดี
“เหอะๆ ด้วยความเร็วของท่านในตอนนี้ น่าจะต้องใช้เวลานานกว่าพันปีขึ้นไป…”
มังกรวารีล้างโลกายิ้มเอ่ย
หนึ่งพันปีขึ้นไป! คำพูดนี้ดังอื้ออึงในหัวจ้าวเฟิง
เขาฝึกตนมาจนถึงตอนนี้ยังไม่ถึงห้าสิบปี แต่จากจุดนี้ หากไม่มีเหตุขัดข้องใด ระยะทางไปเผ่าพันธุ์วิญญาณอันเป็นที่อยู่ของจ้าวหยูเฟยก็ต้องใช้เวลานานกว่าพันปี!
“อีกอย่าง อันตรายในดินแดนเทพรกร้างมากมายอย่างยิ่ง พื้นที่จำนวนมากถูกครอบครองจากขั้วอำนาจและเผ่าพันธุ์ต่างๆ ไม่มีวิธีที่ท่านจะผ่านไปได้เลย!”
มังกรวารีล้างโลกาหัวเราะเสียงดัง เอ่ยอีกครั้ง
“ดังนั้นท่านควรจะเข้าร่วมเผ่าพันธุ์หรือขั้วอำนาจสักแห่งหนึ่งเพื่อเพิ่มพลังไปยังขอบเขตเซียนสวรรค์ มีเพียงเทพแท้จริงเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติพื้นฐานที่จะข้ามอาณาเขตได้!”
ครั้งนี้นับได้ว่าจ้าวเฟิงได้รับคำชี้แนะแล้ว
เทพแท้จริงถึงจะมีคุณสมบัติพื้นฐานในการข้ามผ่าน ‘อาณาเขต’!
จากในคำพูดของมังกรวารีล้างโลกา เขาสัมผัสได้ถึงความสำคัญของพลังอีกครั้ง เมื่อไม่มีพลัง แค่ย่างเท้าเพียงก้าวเดียวก็แสนยากเย็น!
“ได้ จุดหมายปลายทางชั่วคราวเป็นเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองก็แล้วกัน!”
ตั้งแต่จ้าวเฟิงมีอำนาจเหนือดินแดนทวีป เขามักจะมีความต้องการที่ยิ่งใหญ่
เมื่อฟังมังกรวารีล้างโลกาเล่าเรื่องคร่าวๆ ของดินแดนเทพรกร้าง จ้าวเฟิงก็รู้สึกถึงความเล็กจ้อยของตนอีกครั้ง เหมือนว่าได้ย้อนกลับไปเป็นตัวเองผู้ที่ทุ่มเทฝ่าฟันคนนั้นอีก
“ผู้อาวุโส หาทิศทางกลับบ้านเจอแล้วหรือยัง?”
อวี้หลินเอ๋อร์หยั่งเชิงถาม
“หาเจอแล้ว เพียงแต่ระยะทางค่อนข้างไกล คาดว่าจะต้องหยุดพักที่เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองช่วงหนึ่ง!”
จ้าวเฟิงยิ้มอย่างจนปัญญา
ความกว้างใหญ่ของดินแดนเทพรกร้างอยู่เหนือกว่าที่จ้าวเฟิงจินตนาการเอาไว้มาก ณ ดินแดนเทพรกร้าง เรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กได้ปรากฏขึ้นในทุกๆ ด้าน
อวี้หลินเอ๋อร์ที่ท้อแท้หมดหวังเล็กน้อยมีชีวิตชีวาร่าเริงอีกครั้ง
เดิมทีนางเคยคิดเอาไว้ว่าผู้อาวุโสท่านนี้น่าจะแข็งแกร่งกว่าท่านอาชิงมากนัก บางทีอาจจะช่วยเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวแย่งชิงพื้นที่กลับมาได้
แต่นางก็ครุ่นคิดได้ว่าเรื่องแบบนี้ให้ตนที่เป็นคนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวทำน่าจะเหมาะสมกว่า
ในตอนนี้เอง แววตาของจ้าวเฟิงก็ทอประกายสีทองแวววับ
ส่วนอวี้หลินเอ๋อร์ที่อยู่ในรถก็เหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
นางเลิกผ้าม่านออก แล้วจึงเห็นยอดฝีมือในเผ่าพันธุ์กวางยักษ์หลายสิบคนไล่ตามเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวไปอย่างรวดเร็ว
ผู้เฒ่าชุดเหลืองที่เป็นผู้นำ ท่าทางยโส ดวงตาสองข้างราวสายฟ้า ยืนเอามือไพล่หลังเหนือวิหคยักษ์ตัวหนึ่ง
บนร่างเขาสาดซัดกลิ่นอายทรงพลังของขอบเขตเทวาเร้นลับออกมา พลานุภาพในฟ้าดินที่ไร้รูปร่างตรงดิ่งมาปกคลุมเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียว ทำให้ทุกคนช้าลงไปทุกที จนสุดท้ายหยุดชะงักลง
ในวินาทีที่มองเห็นผู้เฒ่า ดวงตาท่านอาชิงและอวี้หลินเอ๋อร์แดงฉาน โกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง
ส่วนคนในเผ่าพันธุ์ที่เหลือ อย่างมากก็หวาดกลัวและลนลาน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ผู้เฒ่าคนนี้คือผู้อาวุโสที่สองของเผ่าพันธุ์กวางยักษ์ โหดเหี้ยมทารุณในการรบกับเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียว พวกเขาตายด้วยเงื้อมมือของเขามากที่สุดแล้ว
“เหอะๆ ไล่ตามพวกเจ้าทันแล้ว!”
ผู้เฒ่าชุดเหลืองเผยยิ้ม เย็นชาและโหดเหี้ยม
เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวเกือบจะเข้าไปในอาณาเขตของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองเสียแล้ว
แต่ตอนนี้ ในเมื่อเขาไล่ตามมาทัน คนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวจะต้องตายทั้งหมด
“เผ่าพันธุ์กวางยักษ์!”
ท่านอาชิงเผยจิตสังหารออกมา อดรนทนไม่ไหวที่จะทะยานออกไป แล้วสังหารผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์กวางยักษ์ทิ้งไปเสีย
แต่เขาต้องรับมือกับสัตว์อสูรดุร้ายมากมายระหว่างระยะทางอันยาวไกล แบกรับภาระหนักหน่วง แทบจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยด้วยซ้ำ
อีกอย่างสมาชิกในเผ่าพันธุ์กวางยักษ์คนอื่นๆ ที่ไล่ตามมาท้อแท้ยอมแพ้ไปหมด พลังทั้งหมดแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวหลายระดับขั้น
“สังหารให้หมด!” ผู้เฒ่าชุดเหลืองท่าทางยิ่งยโส เอ่ยออกมาเสียงเย็น
ทันใดนั้นเอง คนของเผ่าพันธุ์กวางยักษ์เบื้องหลังเขากระตุ้นไอสวรรค์ในร่าง เตรียมเข้าทะลวงสังหาร
“เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวของข้าและพวกเจ้ามีความแค้นล้ำลึกต่อกันจริงๆ แต่ในรถยังมีแขกอีกท่านหนึ่ง พวกเจ้าอย่าเกินเลยนักเลย!”
อวี้หลินเอ๋อร์เดินออกมาจากหลังรถ เอ่ยด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
“ฮ่าๆ เหตุใดเจ้าจึงไม่บอกว่าบนรถเจ้ายังมียอดฝีมือเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์หรือไม่ก็เทพแท้จริงผู้หนึ่งอยู่!”
ผู้เฒ่าชุดเหลืองหัวเราะเสียงดัง ไม่แยแสคำพูดของอวี้หลินเอ๋อร์แม้แต่น้อย
ถ้าหากเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวมีแขกผู้มีเกียรติจริง ถูกกวางยักษ์สังหารลงไปทั้งสิ้น เหลือเพียงคนพวกนี้หนีไปที่เผ่าพันธุ์อื่นๆ
ในตอนนั้นคนในเผ่าพันธุ์ทั้งสองน่าจะเริ่มสู้รบกันอย่างจริงจังแล้ว
ผู้เฒ่าชุดเหลืองยังไม่ทันได้ลงมือ คนของเผ่าพันธุ์กวางยักษ์ก็สามารถหลุดพ้นออกจากวงล้อมของคนในเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียว
ถึงแม้ว่าในรถคันนี้จะมีค่ายกลปกป้อง แต่ในระลอกที่หลงเหลือจากการโจมตียังคงสร้างความเสียหายไม่หยุด
ในเวลานี้เอง วิหคใต้ฝ่าเท้าผู้เฒ่าชุดเหลืองพลันปั่นป่วน แรงกดดันจากเทวาเร้นลับที่หนักหน่วงตรงดิ่งไปด้านหน้าทันที
“ขอให้ท่านผู้อาวุโสช่วยเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวให้ผ่านพ้นเคราะห์ครั้งนี้ไปด้วยเถิด!”
ในวินาทีนี้เอง วงหน้างามอวี้หลินเอ๋อร์สับสนวุ่นวาย คุกเข่าลงกลางอากาศ
นางไม่มีวิธีอื่น ทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับจ้าวเฟิง
“ไสหัวไป!”
เวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงเข้มงวดดังขึ้น เอ่ยเรียบๆ มาจากในรถ
แก่นแท้พลังไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งสาดกระจายออกรอบบริเวณจนกลบเสียงทั้งหมดเอาไว้
ผู้เฒ่าชุดเหลืองที่เพิ่งจะโบยบินขึ้นมาชะงักกลางอากาศ กระอักเลือดสดออกมา จ้องไปที่ตัวรถด้วยใบหน้าตื่นตะลึง
ส่วนคนของเผ่าพันธุ์กวางยักษ์ที่เหลือร่างสั่นไหว กระอักเลือดสดออกมาเป็นทิวแถว หมุนวนกวาดรอบบริเวณ ร่างกายแหลกละเอียด
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง คนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวอึ้งงัน เสียงดังสะท้องก้องอยู่ในหัว เหมือนไม่อาจจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้เลย
ทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบสงัดทันที!
“เอ่อ…ผู้อาวุโสไว้ชีวิตด้วย!”
ผู้เฒ่าชุดเหลืองใจสั่นหวั่นไหว ในวินาทีนี้
เขาย้อนคิดได้ถึงแขกผู้มีเกียรติที่อวี้หลินเอ๋อร์เคยพูดถึงก่อนหน้า คิดไม่ถึงว่าจะมีอยู่จริงๆ
เพียงแค่คำเดียวของแขกผู้มีเกียรติลึกลับผู้นี้ก็สามารถทำให้ร่างกายและวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส สังหารคนทั้งหมดของเผ่าพันธุ์กวางยักษ์จนหมด
พลังที่น่ากลัวในระดับนี้ ทำให้เขานึกถึงเพียงยอดฝีมือผู้น่ากลัวในขอบเขตเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์
คนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวทั้งหมดเพิ่งจะระลึกถึงจ้าวเฟิงในรถขึ้นมาได้ตอนนี้ จะต้องชะงักค้าง สูดลมหายใจเย็นเข้าปอด
ในที่สุดอวี้หลินเอ๋อร์จึงทอดถอนใจ มองจ้าวเฟิงที่อยู่ในรถด้วยใบหน้าตื้นตัน ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง เหมือนไม่อยากใยดีเรื่องในโลกภายนอกแม้แต่น้อย
“ทุกคน สังหารคนผู้นี้ ล้างแค้นให้คนในเผ่าเสีย!”
ในตอนนี้ อวี้หลินเอ๋อร์มองไปที่ผู้เฒ่าชุดเหลือง ในความดิ้นรนฉายแววดื้อดึงออกมา
“สังหารผู้อาวุโสที่สองของเผ่าพันธุ์กวางยักษ์เสีย!”
“สังหารเพื่อล้างแค้นให้คนเผ่าพันธุ์เรา!”
ทันใดนั้น คนเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวทั้งหมดต่างกรูกันออกมา
ผู้เฒ่าชุดเหลืองที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจะหนีก็ไม่ทันแล้ว หลังจากที่ถูกคนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวไล่ตามอยู่ครู่หนึ่งจึงล้มตายลงไป
“รีบออกเดินทางกันเถอะ!”
เสียงของจ้าวเฟิงดังแว่วออกมาจากในรถ