Skip to content

King of Gods 1162

King Of Gods

บทที่ 1162 ซีเฟิงพ่าย

ในตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขาย ผู้แข็งแกร่งหลายหมื่นที่ชมการประลองยังคงตื่นตระหนกกันอยู่

กูหลันที่แข็งแกร่งขนาดนี้กลับถูกจ้าวเฟิงเอาชนะได้ในกระบวนท่าเดียว

ไม่คิดเลยว่าผู้ชนะคนสุดท้ายในการประลองครั้งนี้จะเป็นเผ่าแพะเพลิงทองซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ลำดับท้ายๆ ในเกาะเทียนอวี่

“แกร่งกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ในตอนแรกนัก!”

เทพแท้จริงจวี้หั่วฟากเผ่าสุริยันชาดเอ่ยขึ้น

ตอนที่เขาสู้กับจ้าวเฟิง เขารับประกันได้ว่าตนเองจะไม่พ่ายแพ้อย่างอเนจอนาถ แต่เห็นจ้าวเฟิงในตอนนี้ เขาก็ไม่กล้าประมือกับจ้าวเฟิงอีกแล้ว

“หึ ก็แค่เผ่าแพะเพลิงทอง ต่อให้ครอบครองตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายเป็นเวลาหนึ่งพันปีแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”

ผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าเขี้ยวฉลามแค่นเสียงเย็นดูถูก

ถึงแม้ว่าเผ่าเขี้ยวฉลามจะไม่ชนะในการประลองครั้งนี้ แต่อย่างน้อยชัยชนะก็ไม่ตกเป็นของหมาป่าเหมันต์นัยน์ตาฟ้า กับอีแค่เผ่าแพะเพลิงทอง ถึงจะครอบครองตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายเป็นเวลาพันปีก็ยากจะประสบความสำเร็จอยู่ดี เพราะเผ่าพันธุ์นี้อ่อนแอจนเกินไป ยามที่ทุกคนคิดว่าประจักษ์พยานจากเกาะเทียนอวี่จะประกาศชัยชนะของเผ่าแพะเพลิงทอง ซีเฟิงก็ชันกายขึ้น

“ช้าก่อน ข้านึกออกแล้ว เจ้าก็คือจ้าวเฟิง คนชั่วที่สังหารเฉินอวี๋ไห่ผู้เป็นสหายสนิทของข้าในตอนนั้น!”

ซีเฟิงเอ่ยด้วยสีหน้าเจ็บปวด ดวงตามีแววอำมหิตวาบผ่าน

“สหายสนิทของเจ้า?”

สีหน้าจ้าวเฟิงสงสัยตกใจ

ถึงแม้ว่าเขาไม่มีความทรงจำที่ดีกับซีเฟิงเท่าไหร่นัก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าซีเฟิงจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาจากปาก

ตอนที่อยู่ในตำหนักประมูล หลังจากเฉินอวี๋ไห่แห่งเผ่าสุริยันชาดรู้ฐานะของซีเฟิงแล้วจึงรีบขอโทษในทันที นี่เป็นเรื่องที่สหายสนิทจะกระทำต่อกันอย่างนั้นหรือ?

เห็นได้ชัดเจนว่า ซีเฟิงแค่หาข้ออ้างส่งๆ เพื่อจะกำจัดจ้าวเฟิงเท่านั้น

ทว่าจ้าวเฟิงสังหารเฉินอวี๋ไห่ ณ บริเวณทางเข้าตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขาย ทุกคนต่างมองเห็น เขาจึงไม่สามารถบิดพลิ้วได้

“หรือไม่จริง?”

ซีเฟิงมองเทพแท้จริงหยางเหยียนด้านข้าง

“ถูกต้อง คุณชายซีเฟิงและเฉินอวี๋ไห่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นราวพี่น้องร่วมสายเลือด!”

สีหน้าของเทพแท้จริงหยางเหยียนลังเลไปชั่วครู่ ก่อนกัดฟันเอ่ย

เผ่าสุริยันชาดจะกล้าขัดความต้องการของเกาะเทียนอวี่ได้อย่างไร

หนำซ้ำหากซีเฟิงทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์ได้สำเร็จ ขั้วอำนาจของเจ้าเกาะเทียนอวี่จะแข็งแกร่งมากขึ้น

อีกอย่าง ระหว่างเผ่าแพะเพลิงทองและเผ่าสุริยันชาดก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ดีต่อกันเท่าไหร่นัก เผ่าสุริยันชาดย่อมไม่มีทางล่วงเกินซีเฟิงเพื่อเผ่าแพะเพลิงทองแน่

ผู้แข็งแกร่งของขั้วอำนาจ ณ ตรงนั้นค่อยๆ เข้าใจกัน เกาะเทียนอวี่กำลังหาข้ออ้างจัดการจ้าวเฟิง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดตรงนั้นก็คือหมาป่าเหมันต์นัยน์ตาฟ้า แต่เผ่าหมาป่าเหมันต์นัยน์ตาฟ้าอดรนทนไม่ไหว อยากให้ซีเฟิงจัดการจ้าวเฟิงไปเสีย ตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขายหลังนี้จะได้กลายเป็นของพวกเขาอย่างถูกต้อง

พวกเทพแท้จริงเทียนหั่วชะงักค้าง สีหน้าขมขื่น

ถึงแม้พวกเขาได้ชัยชนะแล้ว ทว่าพยานของการประลองในตอนนี้กลับหมายหัวจ้าวเฟิง

โลกนี้มีพลังเป็นทุกอย่าง ไม่มีพลังแล้วจะหาความยุติธรรมมาจากไหน

“เจ้าจะเอาอย่างไร?”

สีหน้าจ้าวเฟิงติดจะเย็นชา เอ่ยออกมาตามตรง

เฉินอวี๋ไห่ย่อมต้องเป็นคนที่ซีเฟิงส่งมาลอบสังหารเขา ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงมีความแค้นต่อซีเฟิงอยู่ในระดับหนึ่ง

“ชีวิตชดใช้ชีวิต ในเมื่อเจ้าสังหารสหายสนิทของข้าซีเฟิง ข้าย่อมต้องให้เจ้าลงหลุมไปเป็นเพื่อนเขา แต่เห็นแก่ที่เจ้ามีพรสวรรค์ดีเลิศ หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายชนะการประลองครั้งนี้ ขอแค่เจ้าทำลายขอบเขตพลังตนเอง ข้าจะให้อภัยเจ้า!”

ใบหน้าหล่อเหลาของซีเฟิงปรากฏรอยยิ้มหยันที่เย็นชาและลำพองใจ

ทำลายขอบเขตพลังของตัวเอง? ในดินแดนเทพรกร้าง หากไร้ซึ่งพลังใดๆ ถึงจะเป็นการตายทั้งเป็น

ทุกคนในที่นั้นตื่นตระหนก คิดไม่ถึงว่าซีเฟิงจะอำมหิตได้ถึงขนาดนี้ ข้อเสนอที่เขายื่นให้จ้าวเฟิงก็คือ ความตายหรือไม่ก็ตายทั้งเป็น สีหน้าคนเผ่าหมาป่าเหมันต์นัยน์ตาฟ้ายโสอย่างยิ่ง ยิ้มลิงโลดได้ใจ มองไปยังจ้าวเฟิงที่อยู่บนเวทีประลอง

“ฮ่าๆ!”

ทันใดนั้น จ้าวเฟิงระเบิดเสียงหัวเราะ กลิ่นอายน่ากลัวที่ไร้รูปร่างกระจายออกมา

สีหน้าซีเฟิงเย็นชาเล็กน้อย จ้าวเฟิงก็หัวเราะได้เพียงแค่ตอนนี้เท่านั้น

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าคงต้องเลือกทางเลือกที่สอง!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเรียบๆ

“เฮ้อ เสียดายอัจฉริยะที่มากความสามารถเช่นนี้!”

“ใครให้เขายั่วโทสะซีเฟิงกันเล่า!”

ผู้แข็งแกร่งมากมายต่างพากันเสียดาย ไม่คิดเลยว่าจ้าวเฟิงจะเลือกทำลายขอบเขตพลังของตนเอง ช่างไม่สมเหตุผลอย่างยิ่ง

“ดี!”

ใบหน้าซีเฟิงเผยยิ้มลำพองใจ เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาต้องการ

เขาสิถึงจะเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาะเทียนอวี่ ไม่ว่าใครในรุ่นเยาว์ต่างต้องสยบต่อเขาทั้งสิ้น ตอนที่อยู่ตำหนักแลกเปลี่ยนค้าขาย จ้าวเฟิงไม่ยอมผูกมิตรกับเขา ซีเฟิงยังคงจดจำได้อย่างแม่นยำจนถึงวันนี้

แต่ในวันนี้ จ้าวเฟิงต้องทำลายขอบเขตพลังของตัวเองเพราะโดนเขาบีบบังคับ ทำให้ความหยิ่งผยองของซีเฟิงเพิ่มขึ้นหลายส่วนอีกครั้ง

เผ่าหมาป่าเหมันต์นัยน์ตาฟ้าและเทพแท้จริงกุ่ยลี่สบตากัน แต่ในวินาทีต่อมา ใบหน้าของพวกเขากลับแข็งค้าง

“เช่นนั้นต้องลำบากคุณชายซีเฟิงมาทำลายขอบเขตพลังของแซ่จ้าวแล้ว!”

ดวงตาของจ้าวเฟิงทะลักไอเย็นเยียบออกมา เรือนผมสีทองโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่งในอากาศ

เงียบ…รอบบริเวณตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง!

จ้าวเฟิงไม่ได้ต้องการจะสงบศึก และไม่ได้เลือกทำลายขอบเขตพลังของตนเอง แต่กำลังท้าสู้กับซีเฟิง ท้าทายลูกศิษย์เจ้าเกาะผู้เป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในเกาะเทียนอวี่ นี่เป็นความหยิ่งผยองและวางอำนาจบาตรใหญ่ในระดับไหนกัน

คนเผ่าสุริยันชาดมองไปที่จ้าวเฟิงผู้ยโสโอหัง เผยอาการอับอายโดยไม่รู้ตัว

“เจ้ารนหาที่ตายเอง!”

สีหน้าซีเฟิงอึ้งไปเล็กน้อย เผยประกายเย็นเยือกอำมหิตออกมาทันที

ในเมื่อจ้าวเฟิงกล้าท้าทายเขา ซีเฟิงโผบินขึ้นทันที นัยน์ตาชั่วร้ายจับจ้องไปที่จ้าวเฟิง พลานุภาพที่ไร้รูปร่างชั่วร้ายสาดกระจายทั่วทิศ

ในตอนที่ซีเฟิงร่อนลงบนเวทีประลองนั้นเอง ฟ้าดินพลันปั่นป่วน ดาบวายุสีขาวสว่างนับไม่ถ้วนหมุนวนรอบกายเขา ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงทั่วไปที่อยู่ใกล้ที่สุดสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายจากร่างซีเฟิง ต้องถอยร่นไปอย่างไม่รู้ตัว

ทุกคนต่างจับจ้องไปยังซีเฟิง

คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะโชคดีได้เห็นคุณชายซีเฟิงลงมือด้วยตนเอง แต่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างจ้าวเฟิงคงจะซวยเข้าแล้ว

“ข้าจะให้เจ้าได้ยลพลังของอัจฉริยะลำดับหนึ่งของเกาะเทียนอวี่!”

ดวงตาชั่วร้ายของซีเฟิงจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง ดาบวายุนับไม่ถ้วนรอบกายเคลื่อนไหวตามความคิดเขา

“พูดมากเสียจริง!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงต่ำ ร่างกายสว่างวาบ พร้อมโคจรวายุอัสนีธาตุทอง หอบแสงสีทองแสบตาพุ่งทะยานไปยังซีเฟิง

จ้าวเฟิงเองก็มีเสวียนอ้าวธาตุลม ลมในธรรมชาติรอบตัวซีเฟิงจึงไม่สามารถต้านทานเขาเอาไว้ได้

“ดัชนีคลั่งวายุอัสนี!”

พลังวายุอัสนีทะลักออกจากหนึ่งนิ้วของจ้าวเฟิงทันที

วูบ!

คมแสงอัสนีธาตุทองส่องประกาย ปราการดาบวายุรอบตัวซีเฟิงถูกทะลวงผ่าน เส้นแสงสีทองนั้นพุ่งไปที่ทรวงอก

“ลอบทำร้ายผู้อื่น ช่างหน้าไม่อาย!”

ซีเฟิงทำท่าทางสูงส่ง ก่นด่าออกมาเรียบๆ

“ฝ่ามือวายุ!”

ซีเฟิงโบกฝ่ามือ พลังลมรอบตัวเกาะกลุ่มขึ้นจนกลายเป็นฝ่ามือวายุสีขาว ทะยานออกไปด้านหน้า

ฟุ่บ วูบ!

พลังธาตุลมทั้งสองกลุ่มพัวพันเข้าหากัน ลมพายุรอบกายพัดอย่างรุนแรง ดาบวายุปลิวว่อน

“แข็งแกร่งนัก พลังของคุณชายซีเฟิงไม่ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงรุ่นอาวุโสเลย!”

“รีบถอยไปเร็ว ‘วิชานภาวายุ’ ของคุณชายซีเฟิงทรงพลังเกินไปแล้ว!”

นอกจากเผ่าพันธุ์ต่างบนแท่นหิน คนที่ชมการประลองรอบบริเวณนั้นต่างก็รีบถอยไป

“ข้ายอมรับ พลังของเจ้าไม่เลวจริงๆ แต่ในวันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!”

ในวินาทีที่ประมือกับจ้าวเฟิง ซีเฟิงเห็นถึงความแกร่งกล้าของจ้าวเฟิง ทว่าเขาจะพ่ายแพ้ไม่ได้ เขาต้องให้จ้าวเฟิงได้เห็นพลังที่แท้จริงของตน

ฟู่! บนร่างซีเฟิงพลันหมุนวนด้วยชั้นพายุหมุนเล็กๆ พลังลมกลุ่มนี้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายกลายเป็นพายุหมุนขนาดยักษ์ที่หอบเอาร่างเขาไป

ซีเฟิงในขณะนี้ลอยอยู่ในใจกลางของพายุ ประหนึ่งจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับมัน ผมของเขาโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าโหดร้ายบ้าอำนาจ

“เหอะ คิดไม่ถึงเลยว่าซีเฟิงจะใช้พลังสายเลือด เจ้าเด็กนี่จบเห่แล้ว!”

เทพแท้จริงกุ่ยลี่ระบายยิ้มเล็กน้อยขณะมองซีเฟิง

ซีเฟิงมีสายเลือดเผ่าพันธุ์ลมสวรรค์ เผ่าพันธุ์ลำดับที่สามพันห้าร้อยหกสิบสองในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ พลานุภาพน่าเกรงขาม ในเกาะเทียนอวี่ไม่มีสายเลือดของใครหน้าไหนเหนือกว่าซีเฟิงอีกแล้ว

“สมแล้วที่เป็นคุณชายซีเฟิง ศิษย์ของเจ้าเกาะเทียนอวี่ เขามีสายเลือดที่สูงส่งถึงเพียงนี้!”

คนเผ่าหมาป่าเหมันต์นัยน์ตาฟ้าเอ่ยอย่างยินดีในทันใด

พื้นที่รอบนอกอย่างอ่าวทะเลคราม สายเลือดของคนจำนวนมากอยู่ในลำดับที่เจ็ดพันกว่าลงไป แต่ซีเฟิงกลับมีสายเลือดในลำดับที่สามพัน นับได้ว่าสูงส่งไม่ธรรมดา ไม่ต้องพูดก็รู้กัน

เลือดในร่างกลุ่มคนรอบบริเวณต่างสั่นสะท้าน แววตาที่มองซีเฟิงผู้ดูเหมือนเทพเจ้าเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ

“สายเลือดเผ่าพันธุ์ลมสวรรค์!”

แววตาของจ้าวเฟิงจับจ้องไปบนร่างซีเฟิง

สายเลือดของซีเฟิงเป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดที่จ้าวเฟิงเจอหลังจากเข้ามาในดินแดนเทพรกร้าง

ตุบ ตุบ! ตุบ ตุบ!

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงเต้นตุบๆ กำจัดอาการสั่นระรัวของเพลิงมารโลหิตโบราณในร่าง และในเวลาเดียวกัน จิตต่อสู้ที่ไม่ท้อถอยก็สาดซัดออกมาจากดวงตาเทพเจ้า

“สายเลือดบรรพกาลที่แกร่งกล้า เหมือนจะสามารถกระตุ้นดวงตาเทพเจ้าของข้าได้!”

ใบหน้าจ้าวเฟิงเผยแววยินดี

ฟิ้ว วู้ม วู้ม!

ปีกแสงศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีชาดคู่หนึ่งเกาะกลุ่มกันที่หลังจ้าวเฟิง กลายเป็นแสงเพลิงอัสนีสีชาดกลุ่มหนึ่งทะลวงไปหาซีเฟิง

“รนหาที่ตาย!” ซีเฟิงแค่นเสียงเย็น

ในวันนี้ตนเองกระตุ้นพลังสายเลือด จ้าวเฟิงย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่

ระดับความเข้มข้นของสายเลือดในดินแดนเทพรกร้างต่างจากปกติ สายเลือดระดับสูงกว่าจะกดข่มสายเลือดในระดับที่ต่ำกว่าได้เป็นอย่างมาก

“โทสะวายุ!” ซีเฟิงควบคุมพลังวายุในฟ้าดินให้หมุนวนไปกวาดร่างจ้าวเฟิง

“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”

จ้าวเฟิงกระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ พลังอัสนีเทวะกลุ่มหนึ่งพลันแผ่พวยพุ่ง พลังวายุทั้งหมดที่พยายามจะเข้าใกล้เขาถูกซัดกระจายออกไป และในเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงก็ฟาดฝ่ามือแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองขนาดยักษ์ออกมา

นี่คือฝ่ามือสายฟ้าทลายนภาที่เกิดขึ้นจากวายุอัสนีธาตุทอง ใช้ควบคู่กับกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งของจ้าวเฟิง พลังของมันมหาศาลเกินจะเปรียบ ดุจภูเขาศักดิ์สิทธิ์แสงทองลูกหนึ่งที่ทำลายทุกอย่าง

โครม! ใบหน้าซีเฟิงฉายแววตื่นตกใจ ถูกระลอกฝ่ามือของจ้าวเฟิงกระทบร่าง แต่เขามีสายเลือดเผ่าพันธุ์ลมสวรรค์อยู่ในร่าง จึงต้านทานพลังธาตุลมได้ค่อนข้างมาก

แต่ทันใดนั้น จ้าวเฟิงปล่อยหมัดสองข้าง เกิดเป็นหมัดแสงทองสายหนึ่ง

บึ้ม!

ซีเฟิงรีบป้องกัน แต่ก็ยังคงบาดเจ็บเพราะการโจมตีของจ้าวเฟิงเล็กน้อย

“เป็นไปได้อย่างไร?”

ซีเฟิงกระอักเลือดสดออกมา ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

เหตุใดอยู่ๆ จ้าวเฟิงจึงเปลี่ยนไปแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ ตนเองกระตุ้นพลังสายเลือดแล้ว แต่ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย

ไม่ใช่แค่ซีเฟิงที่ตื่นตระหนก แต่ทุกคนภายในนั้นก็ไม่กล้าเชื่อเช่นกัน ในสมองขาวโพลนไปหมด

คุณชายซีเฟิงกระตุ้นสายเลือดเผ่าพันธุ์ลมสวรรค์ กลับยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน?

“พัดสวรรค์!”

ซีเฟิงตะโกนเสียงดัง ก่อนจะปรากฏพัดขนนกในมือ ขนนกสีขาวปลอดบนนั้นสาดซัดพลังเทพแห่งสายลมที่ไร้รูปร่าง

พัดสวรรค์ชิ้นนี้เป็นไพ่ตายที่เจ้าเกาะเทียนอวี่มอบให้กับเขา เป็นถึงอาวุธเทพระดับล่าง

ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาะเทียนอวี่ เขาไม่อาจพ่ายแพ้ได้ อีกทั้งยังต้องเอาชนะจ้าวเฟิงให้ได้อย่างเด็ดขาด เพื่อดูหมิ่นให้ได้มากที่สุด

“บีบบังคับให้ข้าใช้อาวุธเทพ เจ้าได้ตายสมใจแน่!”

สีหน้าซีเฟิงที่ติดจะโหดเหี้ยมฉายแววน่ากลัวอำมหิตผิดปกติ

ในเกาะเทียนอวี่ อาวุธเทพเป็นสิ่งของที่เทพแท้จริงเท่านั้นถึงจะมีได้ ครึ่งเทพทั่วไปไม่อาจครอบครอง และเมื่อได้มาแล้วก็ยังยากที่จะควบคุมมันด้วย

แต่ซีเฟิงมีพรสวรรค์อย่างยิ่ง หลังจากฝึกฝนอยู่เนิ่นนาน เขาก็สามารถสำแดงพลังของอาวุธเทพชิ้นนี้ออกมาได้

แต่ในวินาทีต่อมา แววตาของเขาจับจ้องดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงอย่างเผลอไผล เขาคล้ายมองเห็นกลุ่มแสงสีม่วงทอง หมอกควันภายในนั้นหมุนวนเปลี่ยนแปลง เขาเหมือนตกลงไปภายในโลกใบนี้ หาทางออกไม่เจอ

ฟิ้ว วู้ม วู้ม!

วายุอัสนีสีชาดเส้นหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา

ฉัวะ!

ซีเฟิงรู้สึกเหมือนช่วงท้องถูกฉีกทึ้งจนเจ็บปวด จึงตื่นขึ้นจากวิชาลวงตา

โครม!

ร่างกายซีเฟิงกระเด็นออกไป ปะทะลงด้านบนแท่นหินขนาดยักษ์ด้านหลัง

ส่วนจ้าวเฟิงลอยตัวอยู่กลางอากาศ ในมือถือ ‘พัดสวรรค์’ อาวุธเทพที่ซีเฟิงเอาออกมาเมื่อครู่

ถ้าหากซีเฟิงใช้อาวุธเทพหลังจากกระตุ้นสายเลือดจะยุ่งยากมากยิ่งขึ้น เมื่อครู่จ้าวเฟิงจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะใช้วิชาสายเลือดดวงตาอย่าง ‘เขตแดนคุกมายา’ กับซีเฟิง

ด้วยวิญญาณและเจตจำนงของซีเฟิง ย่อมต้องถูกวิชาลวงตาของจ้าวเฟิงควบคุมเอาไว้ได้

“ซีเฟิงพ่ายแพ้แล้ว!”

“คนผู้นี้เป็นใครกันแน่?”

คนที่มองดูการต่อสู้รอบบริเวณอุทานด้วยความตื่นตกใจ

หลังจากกระตุ้นสายเลือดแล้ว ซีเฟิงไม่อาจรับมือได้ หยิบเอาอาวุธเทพออกมาแล้ว ก็ยังเสียท่าอีกครั้ง แม้กระทั่งอาวุธเทพยังถูกชิงไป

ซีเฟิงพ่ายแพ้อย่างราบคาบภายใต้เงื้อมมือของจ้าวเฟิง

“แข็งแกร่งเหลือเกิน!”

กูหลันมองดูการต่อสู้ของทั้งสองตั้งแต่ต้นจนจบอยู่ข้างๆ

จ้าวเฟิงสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยกระบวนท่าเดียว ย่อมต้องไม่ใช่เพราะบังเอิญ เขามีความสามารถนี้จริงๆ

“คุณชายซีเฟิงต้องการจะทำลายขอบเขตพลังของข้าน้อยมิใช่หรือ? เหตุใดจึงต้องออมมือให้ด้วย?”

จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น ก้าวเท้าไปหาซีเฟิงอย่างช้าๆ และเป็นธรรมชาติ

“ข้า…จะสังหารเจ้า!”

ดวงตาซีเฟิงแดงก่ำ ร้องตะโกนอย่างโกรธแค้น แต่เมื่อเขาเห็นจ้าวเฟิงสาวเท้าเข้ามาช้าๆ ความหวาดกลัวกลับเพิ่มขึ้นมาในใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!