Skip to content

King of Gods 1165

King Of Gods

บทที่ 1165 กุ่ยลี่ดับดิ้น

จ้าวเฟิงตื่นตะลึงขณะเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้สร้างเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะลงมือทำ ก็ไม่ได้ล่วงรู้เลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้

โครม!

กลางอากาศ คมดาบเหี้ยมโหดที่เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนสองสายปะทะเข้าหากัน พายุพลังชั่วร้ายที่น่ากลัวสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วสี่ทิศ

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

มังกรวารีล้างโลกาตะลึงค้าง ไม่อาจเข้าใจได้

คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่จ้าวเฟิงกระตุ้นพลังดั้งเดิมของดวงตาเทพเจ้าแล้วจะทำให้เกิดภาพเหตุการณ์เช่นนี้

เนตรเทพเจ้าลำดับที่เก้าเป็นเนตรเทพเจ้าแบบไหนกันแน่?

พลังอัปมงคลกระจายออกไป เทพแท้จริงกุ่ยลี่เบื้องหน้าตื่นตะลึง

“เจ้าหนุ่ม เมื่อครู่เจ้าทำอะไร?”

สีหน้าเทพแท้จริงกุ่ยลี่หวาดหวั่น ตะโกนออกมาเสียงดัง

จนตอนนี้ เขายังไม่อาจเข้าใจภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เลย เหตุใดจ้าวเฟิงจึงเรียก ‘โลกันตร์ทมิฬ’ ออกมาได้ นี่เป็นเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา!

ต่อให้จ้าวเฟิงเป็นกระบวนท่านี้ ก็ไม่น่าจะมีพลานุภาพได้ถึงขนาดนั้น หนึ่งคือความต่างของขอบเขตพลัง สองก็คือโลกันตร์ทมิฬเป็นถึงเคล็ดวิชาศาสตร์ซากศพ บนร่างจ้าวเฟิงไม่มีกลิ่นอายศาสตร์นี้แม้แต่น้อย ไม่มีทางจะปลดปล่อย ‘โลกันตร์ทมิฬ’ ในระดับนี้ได้

แต่จ้าวเฟิงกลับสามารถสำแดง ‘โลกันตร์ทมิฬ’ หนำซ้ำพลานุภาพของมันยังสูสีกับเขาอีกด้วย

ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงที่กำลังอยู่ในห้วงความคิดไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเทพแท้จริงกุ่ยลี่แม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้ ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง ‘คัดลอก’ ทรัพยากรได้ ดังนั้นหลังจากที่ตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เขาก็กลับคืนสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว

“ดูเหมือนความสามารถในการ ‘คัดลอก’ ของข้าจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ทำได้เพียงคัดลอกสิ่งของในมิติดวงตาซ้ายเท่านั้น แต่ในตอนนี้กลับลอกเลียนแบบสิ่งของใดๆ ก็ได้ในโลกภายนอก!”

เมื่อนึกถึงจุดนี้ ใจจ้าวเฟิงเต้นรัวแรง ดีใจเป็นล้นพ้น

ความสามารถในการคัดลอกพัฒนาขึ้น ทำให้เขาได้ครอบครองพลังที่น่ากลัวเช่นนี้

แต่ทว่า หากจะคัดลอกกระบวนท่าของคนอื่นไปโดยตรง การสิ้นเปลืองพลังของมันไม่ใช่สิ่งที่จ้าวเฟิงจะสามารถแบกรับได้

อย่างแรก ไอสวรรค์ในร่างจ้าวเฟิงและเจตจำนงดวงตาหมดไปมากกว่าครึ่ง จากนั้นจึงจะเป็นการหดหายของพลังดั้งเดิม!

จ้าวเฟิงสังเกตได้ว่าความสามารถในแต่ละด้านของดวงตาเทพเจ้าในตอนนี้ลดลงไปมาก เหมือนวัยกลางคนเปลี่ยนเป็นแก่ชราในทันที

สาเหตุที่ทำให้ทั้งหมดเกิดขึ้น ย่อมเป็นเพราะดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงใช้พลังดั้งเดิมไปเป็นจำนวนมาก

ในที่สุดตอนนี้จ้าวเฟิงก็เข้าใจ การคัดลอกทรัพยากรในมิติดวงตาเทพเจ้า จริงๆ แล้วสิ่งที่สลายไปก็คือพลังดั้งเดิมของดวงตาตนเอง

ทว่าการคัดลอกทรัพยากรและคัดลอกกระบวนท่าวิชาไม่ใช่ระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง การคัดลอกทรัพยากรสิ้นเปลืองเวลามาก ใช้พลังดั้งเดิมไปช้าๆ จนแทบจะจับสังเกตไม่ได้

แต่การคัดลอกกระบวนท่าวิชาจะต้องใช้พลังดั้งเดิมทันที หนำซ้ำยังต้องโคจรพลังดวงตาซ้ายไปจนถึงขีดสุด

หลังจากที่เข้าใจทั้งหมดแล้ว จ้าวเฟิงเงยหน้า อมยิ้มมองไปที่เทพแท้จริงกุ่ยลี่

ถึงแม้เมื่อจ้าวเฟิงคัดลอกกระบวนท่าเมื่อครู่แล้ว จะทำให้พลังของดวงตาซ้ายลดลงไปชั่วคราว แต่เทพแท้จริงกุ่ยลี่เองก็ตื่นตกใจเพราะจ้าวเฟิง

เพราะว่าเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจ้าวเฟิงจึงสามารถสำแดง ‘โลกันตร์ทมิฬ’ ที่มีพลังแข็งแกร่งเช่นนั้น

“เจ้าหนุ่ม รีบตอบข้ามา เหตุใดเจ้าจึงใช้เคล็ดวิชาของข้าได้?”

ถึงแม้ว่าเทพแท้จริงกุ่ยลี่หวาดกลัวอยู่บ้าง แต่อย่างไรเสียจ้าวเฟิงก็มีขอบเขตพลังเพียงเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ ไม่นานนัก พลังสูงส่งของเขาจึงทะลักออกมาอีกครั้ง

“ฮ่าๆ เจ้าทายดูสิ?” จ้าวเฟิงอดหัวเราะเยาะไม่ได้

ความลับเรื่องดวงตาเทพเจ้าของตนเอง ขนาดเจ้าแมวขโมยน้อยและมังกรวารีล้างโลกายังไม่ล่วงรู้ แล้วจะให้บอกเทพแท้จริงกุ่ยลี่ไปเพื่ออะไร

“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”

เมื่อได้ยินคำตอบจ้าวเฟิงแล้ว เส้นเลือดบริเวณหน้าผากเทพแท้จริงกุ่ยลี่นูนขึ้นทันที

วู้ม! เทพแท้จริงกุ่ยลี่ปลดปล่อยพลังเทพออกมา ใส่เข้าไปในอาวุธเทพ และเตรียมพร้อมจะลงมือ

ในดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง ตอนนี้สาดซัดเจตจำนงดวงตาที่น่ากลัวออกมาทันใด

“โลกันตร์ทมิฬ!”

จ้าวเฟิงพลันตะโกน

“อะไรกัน?”

เทพแท้จริงกุ่ยลี่สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ถอยร่นไปหลายก้าวอย่างห้ามไม่ได้

แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็ค้นพบว่าจ้าวเฟิงไม่ได้สำแดง ‘โลกันตร์ทมิฬ’ เมื่อครู่อีกฝ่ายต้องการทำให้เขาตกใจจริงๆ

สีหน้าเทพแท้จริงกุ่ยลี่เกรี้ยวกราดอย่างมาก เขาผู้เป็นถึงเทพแท้จริงขั้นที่สอง คิดไม่ถึงว่าจะถูกผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ผู้หนึ่งทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ในภายหน้าเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

แต่ตอนนี้ที่กลางอากาศ ลายคลื่นอันหนาวเหน็บมืดดำค่อยๆ เคลื่อนผ่านเขาไป

“แย่แล้ว!”

สีหน้าเทพแท้จริงกุ่ยลี่เปลี่ยนไปทันที เร่งโคจรพลังเทพเพื่อป้องกัน

ฟิ้ว ฟุ่บ! ลายคลื่นทมิฬสายหนึ่งทะลวงผ่านทรวงอกของเขา

ฟิ้ว! เส้นสีเทาวาบผ่าน เจ้าแมวขโมยน้อยรีบหนีกลับไปยังข้างกายจ้าวเฟิง

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยอธิบายการสังหารเมื่อครู่กับจ้าวเฟิง ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เทพแท้จริงกุ่ยลี่ใช้พลังเทพต้านทานฤทธิ์เดชส่วนมากจากการสังหารของมัน

“พอได้แล้ว!”

สีหน้าจ้าวเฟิงเย็นชา ดวงตาจ้องเทพแท้จริงกุ่ยลี่ ก่อนดำดิ่งลงไปในวิญญาณ

ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น จ้าวเฟิงก็ให้เจ้าแมวขโมยซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง เมื่อเป็นเช่นนี้เทพแท้จริงกุ่ยลี่ถึงจะลดอาการระแวดระวังลงได้ การลอบสังหารของเจ้าแมวขโมยตัวน้อยก็จะสำเร็จได้อย่างง่ายดายขึ้น

แต่ที่คาดคิดไม่ถึงก็คือเทพแท้จริงกุ่ยลี่ระมัดระวังตัวขนาดนี้ ไม่เสียทีที่เป็นเทพแท้จริงอาวุโสขั้นสอง

“บ้าเอ๊ย เจ้าเด็กหน้าไม่อาย!”

มุมปากเทพแท้จริงกุ่ยลี่มีคราบเลือดไหล

เขาไม่คิดเลยว่าจ้าวเฟิงจะเจ้าเล่ห์เช่นนี้ เขย่าขวัญเขาเพื่อให้สัตว์วิเศษที่ซ่อนตัวอยู่มีโอกาสชั้นยอดในการลอบสังหาร

อีกทั้งคิดไม่ถึงสัตว์วิเศษตัวนี้จะมีอาวุธเทพที่น่ากลัว ดีที่ขอบเขตพลังของมันไม่สูงมากนัก ไม่เช่นนั้นเทพแท้จริงกุ่ยลี่อาจจะต้องตายที่นี่จริงๆ

“ลงมือเลย!”

จ้าวเฟิงตะโกนขึ้นทันที

“ดัชนีสังหารเทพ!”

จ้าวเฟิงโคจรอัสนีเพลิงทำลายล้าง ตรงดิ่งไปที่เทพแท้จริงกุ่ยลี่

“พวกเจ้ารนหาที่ตาย!”

ถึงแม้เทพแท้จริงกุ่ยลี่จะได้รับบาดเจ็บพอควร แต่เขายังคงไม่หวาดกลัว

“มังกรทำลายล้างโจมตี!”

มังกรวารีล้างโลกาเองก็รุกคืบเข้ามาใกล้ ฝ่ามือสองข้างส่งเพลิงมังกรทมิฬที่น่าสะพรึงกลัวออกมาหลายชั้น

ส่วนเจ้าแมวขโมยเผยตัวออกมาแล้ว ย่อมไม่อาจจะซ่อนตัวอยู่ข้างๆ แส้งูมังกรบนคอของมันหมุนกวาดไปหาเทพแท้จริงกุ่ยลี่

“ใช้ดินกดดัน ใช้ไม้รัดตรึง!”

ด้านหลัง จ้าววั่นไล่บี้และก่อกวนเทพแท้จริงกุ่ยลี่ไม่หยุด

ในวินาทีดังกล่าว ทุกคนร่วมมือกันบุกโจมตี จ้าวเฟิงไม่ใช้ไพ่ตายอะไร กำราบเทพแท้จริงกุ่ยลี่ไปอย่างช้าๆ

“บัดซบ พวกเจ้าใช้คนมากรังแกคนน้อย!”

เทพแท้จริงกุ่ยลี่ตะโกนอย่างโมโหโกรธา

เขาเองก็ไม่ได้หวาดกลัวการร่วมมือของจ้าวเฟิงกับมังกรวารีล้างโลกาเมื่อครู่

แต่ในตอนนี้ แมวขโมยตัวน้อยก็เข้าร่วมวงด้วย มันเจ้าเล่ห์เพทุบายนัก ชำนาญการลอบโจมตี และด้านหลังยังมีจ้าววั่นคอยใช้เนตรหมื่นปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่อการปลดปล่อยพลังของเขา

“ฮ่าๆ นี่นับได้ว่าเป็นรุมงั้นเรอะ? เสี่ยวเฮยและเจ้าแมวขโมยเป็นสัตว์วิเศษของข้า ส่วนเขาก็เป็นร่างแยกของข้า!”

จ้าวเฟิงหัวเราะเยาะอดไม่ได้

“เจ้า…” สีหน้าเทพแท้จริงกุ่ยลี่โกรธแค้น แต่กลับไม่รู้จะพูดอะไร

เขาทำได้เพียงโมโหเท่านั้น จ้าวเฟิงมีสัตว์วิเศษที่แข็งแกร่งเช่นนี้ถึงสองตัว ส่วนกำลังรบของร่างแยกก็ไม่ธรรมดา หนำซ้ำยังครอบครองเนตรหมื่นปรากฏการณ์อีกด้วย

ร่างแยกของเทพแท้จริงกุ่ยลี่อยู่ในวัง ไม่ได้เดินทางมาด้วย อีกทั้งพลังร่างแยกของเขาก็ธรรมดา ถึงจะพามาด้วยก็ไม่ส่งผลอะไรกับสถานการณ์การต่อสู้มากนัก

หนี!

ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจเทพแท้จริงกุ่ยลี่ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายในวงล้อมของพวกจ้าวเฟิงแน่

วูบ!

เทพแท้จริงกุ่ยลี่กลายร่างเป็นประกายแสงชั่วร้ายน่าตกใจบินหนีไปไกล

ในเวลาเดียวกัน พลันปรากฏตราคำสั่งขึ้นในมือเขา เทพแท้จริงกุ่ยลี่ส่งข่าวออกไปทันที

“จะหนีไปไหน!

จ้าวเฟิงโบกมือเก็บเสี่ยวเฮย เจ้าแมวขโมยตัวน้อย และจ้าววั่นเข้าไปในมนตราอากาศ จากนั้นโบยบินตามไป

พรึ่บ! ธนูคันยาวที่เปล่งแสงสีทองเป็นประกายปรากฏขึ้นในมือจ้าวเฟิง

ธนูคันนี้ก็คืออาวุธเทพชั้นรองที่หลี่ว์เหว่ยใช้สังหารเขาในตอนนั้น หลังจากที่หลี่ว์เหว่ยถูกสังหารลงไปแล้ว อาวุธเทพชั้นรองชิ้นนี้ย่อมตกเป็นของจ้าวเฟิง

อาวุธชิ้นนี้ชื่อว่า ‘เสี้ยวนภา’ เป็นถึงธนูที่ใช้ลอบสังหาร มีพลังโจมตีรุนแรง รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ

ถึงแม้ความพิเศษของธนูนี้จะไม่เท่ากับธนูเหนือนภา แต่อย่างไรเสีย ธนูคันนี้ก็เป็นถึงอาวุธเทพชั้นรอง ความสามารถในแต่ละด้านล้วนเหนือกว่าธนูเหนือนภาไปมาก

ฟิ้ว!

จ้าวเฟิงเรียกอัสนีเพลิงทำลายล้างออกมา หลอมรวมมันเข้าไปใน ‘เสี้ยวนภา’

ฟุ่บ!

แสงสีทองปรากฏขึ้น ธนูเพลิงสีแดงเส้นหนึ่งตรงดิ่งออกไปไกลหลายหมื่นลี้ แฉลบบ่าของเทพแท้จริงกุ่ยลี่ไป!

ถ้าหากหลี่ว์เหว่ยได้เห็นภาพนี้จะต้องตื่นตะลึงอย่างยิ่ง เสี้ยวนภาเป็นธนูที่ใช้ลอบสังหาร เหมาะกับการลอบสังหาร จึงไม่เหมาะจะใช้ไล่ล่า นับประสาอะไรกับระยะทางที่ไกลขนาดนี้

“ธนูนี้ไม่มีความสามารถในการเล็งเป้าหมาย โชคดีที่ข้ามีดวงตาเทพเจ้า!”

ธนูเสี้ยวนภาไม่เหมาะสมกับการล่าสังหาร แต่เมื่อใช้ร่วมกับดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงแล้ว ก็สามารถลดข้อด้อยในด้านนี้ไปได้

ทัศนวิสัยของดวงตาซ้ายจ้าวเฟิงกว้างไกลยิ่งนัก เล็งเป้าหมายไปที่เทพแท้จริงกุ่ยลี่อยู่ตลอด เมื่อสบโอกาสก็จะปล่อยธนูอัสนีเพลิงทำลายล้างออกไป

หลังจากคุ้นเคยกับ ‘เสี้ยวนภา’ แล้ว ธนูของจ้าวเฟิงก็แม่นยำขึ้นเรื่อยๆ

อาการบาดเจ็บของกุ่ยลี่ยิ่งสาหัสขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน

พรึ่บ พรึ่บ!

จ้าวเฟิงเรียกเสี่ยวเฮยออกมา ให้อีกฝ่ายนำหน้าไล่โจมตีเทพแท้จริงกุ่ยลี่ ส่วนจ้าวเฟิงทุ่มเทแรงทั้งหมดใช้ ‘เสี้ยวนภา’ ไล่ตามไป

……

“จ้าวเฟิง ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ารับรองว่าจะไม่มากวนใจเจ้าอีก!”

เทพแท้จริงกุ่ยลี่ร่างกายมอดไหม้ ใบหน้าซีดเผือดและดูจนตรอกนัก เขาในตอนนี้ถูกจ้าวเฟิงตามสังหารเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว บาดเจ็บสาหัสจนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวเฟิงอีกต่อไป

จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น ไม่ได้พูดอะไร

เทพแท้จริงกุ่ยลี่ไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับจ้าวเฟิง และเขาย่อมต้องไม่ปล่อยให้คนอื่นๆ มาสร้างปัญหาให้ตัวเอง เทพแท้จริงกุ่ยลี่ไม่ปล่อยจ้าวเฟิงไปแน่

“จ้าวเฟิง พวกเราใกล้ถึงถิ่นของเจ้าเกาะเทียนอวี่เข้าไปทุกที รีบจัดการมันเร็ว!”

มังกรวารีล้างโลกาเอ่ยขึ้นในตอนนี้

ถึงแม้เทพแท้จริงกุ่ยลี่จะถูกจ้าวเฟิงล่าสังหาร แต่เส้นทางการหลบหนีก็เป็นพื้นที่ไม่มีคน เพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นเห็นตนโดนจ้าวเฟิงไล่ล่าอย่างน่าอนาถเช่นนี้ ส่วนเป้าหมายสุดท้ายในการหลบหนีของเขา ย่อมเป็นอาณาเขตพื้นที่ของเจ้าเกาะเทียนอวี่

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง รวบรวมตราอัสนีเทวะเกือบสี่พันเส้น สำแดงวิชาดวงตาอัสนีเทวะที่น่ากลัวที่สุด

โครม ตู้ม!

กลุ่มแสงเพลิงสายฟ้าระเบิดที่ศีรษะเทพแท้จริงกุ่ยลี่

เทพแท้จริงกุ่ยลี่กุมศีรษะร้องเสียงแหลมดิ้นรน เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป

แต่ทันใดนั้น เขาก็เผยยิ้มชั่วร้าย

“พวกเจ้าจบเห่แล้ว พี่สองของข้ามาแล้ว!”

เทพแท้จริงกุ่ยลี่ที่อ่อนแอถึงขีดสุดมองไปที่จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกา เสมือนหนึ่งมองคนตาย

ในตอนที่หนีมา เทพแท้จริงกุ่ยลี่ส่งสารขอความช่วยเหลือจากพี่สองของเขา แต่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเจ้าเกาะเทียนอวี่ผู้เป็นพี่ใหญ่ เพราะมันน่าขายหน้าเกินไป แต่ทว่าพี่สองของเขาอย่าง ‘เทพแท้จริงกุ่ยซา’ เป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสาม จะสังหารจ้าวเฟิงก็ง่ายดายยิ่ง

ฟู่ โครม!

บนฟ้าไกลออกไป เมฆดำทะมึนม้วนตลบ กลิ่นอายภูติผีที่น่ากลัวลอยบีบเข้ามา

“บังอาจ กลับกล้าลงมือกับคนของเจ้าเกาะเทียนอวี่!”

เห็นเพียงผู้เฒ่ากายเย็นเยือกที่สีผิวขาวราวกระดูกพุ่งทะยานมา

“ต่อให้เขามาแล้ว เจ้าคิดว่าจะมีชีวิตรอดหรือ?”

จ้าวเฟิงสีหน้าเย็นชา สายเลือดและพลังเทพที่น่าพรั่นพรึงในนิ้วชี้แผ่กระจาย ในเวลาเดียวกันยังมีอัสนีเพลิงทำลายล้างหมุนวนอยู่ด้านบน

ชั่วขณะนั้น มังกรวารีล้างโลกาใต้ฝ่าเท้าเขา ทั่วร่างพลันลุกโหมด้วยเพลิงทมิฬทำลายล้าง

“ดัชนีทะลุฟ้า!”

“ลมหายใจมังกรล้างโลกา!”

กระบวนท่าลมหายใจมังกรล้างโลกานี้ใช้พลังทำลายล้างดั้งเดิม

“เจ้ากล้าสังหารข้า…”

เทพแท้จริงกุ่ยลี่หวาดกลัวอย่างยิ่ง พลังเหมันต์มรณะแผ่กระจายรอบตัว แต่ตอนนี้เขาอ่อนแอเกินไป จึงไม่อาจต้านทานการโจมตีของจ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลกาได้

บึ้ม! การโจมตีทำลายล้างของทั้งสองสังหารเทพแท้จริงกุ่ยลี่ในพริบตา

“อ๊าก…เจ้าพวกสมควรตาย กล้าสังหารน้องสามของข้า!”

ณ ขอบฟ้าไกล ใบหน้าเทพแท้จริงกุ่ยซาบิดเบี้ยว ประหนึ่งภูติผีจากนรก คำรามลั่นพร้อมโผทะยานไปหาจ้าวเฟิง

“เทพแท้จริงขั้นสาม!”

สีหน้าจ้าวเฟิงตึงเครียด

ในขณะที่ไล่ล่าเทพแท้จริงกุ่ยลี่ เขารู้ว่าอาจไปยั่วโทสะขั้วอำนาจของเจ้าเกาะเทียนอวี่เข้า แต่นี่ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ในเมื่อซีเฟิงไม่ละเว้นเขา เทพแท้จริงกุ่ยลี่เองก็ไม่ละเว้นเขา และขั้วอำนาจเจ้าเกาะเทียนอวี่ก็ย่อมไม่ยอมปล่อยตนไปเช่นกัน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จ้าวเฟิงจึงสังหารคนของเจ้าเกาะเทียนอวี่อย่างไม่ลังเลใจ สังหารได้เท่าไหร่ก็สังหารเท่านั้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!