บทที่ 1176 พลังทั้งหมดเพิ่มขึ้น
สายฟ้าในฟ้าดินเกี่ยวกระหวัดเข้าหากัน ระเบิดโจมตีไม่หยุดหย่อน
อีกด้านหนึ่ง ปฐมเทพทั้งสองของเผ่าปีกเพลิงมองภาพเหตุการณ์นี้ด้วยความตื่นตะลึงเช่นเดียวกัน
จ้าวเฟิงที่มีพลังเพียงขอบเขตเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ กลับสามารถปลดปล่อยกระบวนท่าไม้ตายสายฟ้าของเทพแท้จริงขั้นสาม หนำซ้ำ ‘แสงสายฟ้ากัมปนาท’ ยังเป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ของผู้เฒ่าชุดเขียว จ้าวเฟิงใช้เป็นได้อย่างไร?
ครืน ครืน ครืน!
มวลสัตว์อสูรทางด้านหลังยิ่งเข้าใกล้มาเรื่อยๆ กลิ่นอายปีศาจมหาศาลที่น่ากลัวทำให้เผ่าปีกเพลิงสองคนสั่นเทิ้มทั้งร่าง แทบจะหยุดหายใจ
“ไสหัวไป!”
สีหน้าผู้เฒ่าชุดเขียวเหี้ยมโหด รุกคืบโจมตีทำลายล้าง
ถึงแม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์เมื่อครู่เท่าไหร่นัก แต่ยามนี้จำต้องรักษาชีวิตเอาไว้ ต้องรีบสังหารจ้าวเฟิงหรือทำลายปราการป้องกันของอีกฝ่ายโดยเร็ว
เคร้ง!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีเฮือกสุดท้ายของเทพแท้จริงขั้นสาม จ้าวเฟิงไม่กล้าชะล่าใจ โล่เหล็กสีดำพลันปรากฏขึ้นในมือเขา พลังอัสนีเทวะในดวงตาซ้ายเปล่งแสงประกาย
โครม ผัวะ!
จ้าวเฟิงใช้ตราเทพบรรพกาลในลักษณะโล่ต้านทานการโจมตีทำลายล้างผู้เฒ่าชุดเขียวเอาไว้ และในเวลาเดียวกัน เขายังเรียกรวมวิชาดวงตาในดวงตาซ้าย ก่อนจะโจมตีใส่ฝ่ายตรงข้ามทันที
บึ้ม!
เพลิงอัสนีเทวะที่บิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่งระเบิดออกบนศีรษะผู้เฒ่าชุดเขียว
“อ๊าก…”
ผู้เฒ่าชุดเขียวพลันร้องลั่นอย่างพรั่นพรึง เขารู้สึกเหมือนว่าวิญญาณของตนเองถูกอัสนีนับหมื่นพุ่งทะลวงผ่าน เจ็บปวดเจียนตาย
เคร้ง!
โล่เหล็กดำในมือจ้าวเฟิงกลายเป็นกระบี่ยาวสีดำ ก่อนโคจรอัสนีเพลิงทำลายล้าง ส่งเปลวเพลิงดำพุ่งไปหาผู้เฒ่าชุดเขียว
ตูม!
ผู้เฒ่าชุดเขียวได้สติ พลังเทพทะลักออกมาทันควัน จากนั้นส่งแสงสายฟ้าสายหนึ่งเข้าปะทะเข้ากับการโจมตีของจ้าวเฟิง
โครม!
พลังอัสนีเพลิงทองพุ่งออกจากกลุ่มระเบิดตรงไปหาผู้เฒ่าชุดเขียว เห็นได้ชัดว่าผู้เฒ่าประเมินอานุภาพการโจมตีนี้ของจ้าวเฟิงผิดไป
“รนหาที่ตาย!”
ผู้เฒ่าชุดเขียวบันดาลโทสะ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการโจมตีวิญญาณของจ้าวเฟิงจะแกร่งกล้าเช่นนี้ ขนาดวิญญาณของเขายังบาดเจ็บสาหัส หนำซ้ำอาวุธเทพป้องกันของจ้าวเฟิงยังเปลี่ยนเป็นอาวุธเทพโจมตีได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเมื่อเข้าห้ำหั่นกันเมื่อครู่
“บีบให้ข้าใช้ท่าไม้ตาย เจ้าจงตายอย่างสงบได้เลย!”
ดวงตาของผู้เฒ่าชุดเขียวดุดันเย็นชา พลังเทพบ้าคลั่งระเบิดออกจากในร่างติดๆ กัน
“อัสนีบาตคำรามลั่น!”
ผู้เฒ่าชุดเขียวประสานฝ่ามือสองข้างเข้าหากัน พลังสายฟ้าทั้งหมดในฟ้าดินเกาะกลุ่มกลายเป็นอสูรยักษ์สายฟ้าที่บ้าคลั่งน่ากลัวตนหนึ่ง
ผลัวะ!
อสูรยักษ์สายฟ้าร้องคำรามสะเทือนแก้วหู คล้ายเสือและมังกร กระเทือนออกไปทั่วทุกสารทิศ
“แข็งแกร่งนัก มันหลอมพลังสายฟ้าเข้าไปในคลื่นเสียงได้!”
จ้าวเฟิงรู้สึกว่าทั่วร่างถูกพลังสายฟ้าที่ไร้รูปร่างเข้าจู่โจม ยังดีที่กายของเขาสามารถต้านทานการโจมตีจากสายฟ้าได้ มิฉะนั้นคลื่นเสียงสายฟ้านี้คงจะพุ่งเข้าไปในร่างเขา
แต่ทว่า ผู้ถูกเลือกเผ่าปีกเพลิงสองคนด้านหลังก็ไม่ได้สบายเท่าไหร่นัก พวกเขาตัวชาเลือดค้างแข็งจากเสียงอัสนีบาตดังกล่าว กระทั่งวิญญาณก็ได้รับบาดเจ็บด้วยพอควร
“สังหาร!”
ผู้เฒ่าชุดเขียวโบกมือข้างหนึ่ง อสูรยักษ์สายฟ้าที่น่าสะพรึงส่งเสียงดังกึกก้อง มาถึงเบื้องหน้าจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว พลานุภาพของสายฟ้ามหาศาลเข้าโจมตีเขาทันที
“รวดเร็วหลือเกิน!”
จ้าวเฟิงตึงเครียด กระบี่ยาวในมือกลายเป็นโล่เหล็กดำในทันที
ในเวลาเดียวกัน ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงทอประกายระลอกแสงมายา แสงสีทองพลันปรากฏขึ้น เล็งเป้าหมายไปที่กระบวนท่าสังหาร ‘อัสนีคำรามลั่น’ อันน่าหวาดกลัว
“ด้วยความสามารถของข้า พึ่งพา ‘ ตราเทพบรรพกาล’ ยังยากจะต้านทานไว้!”
จ้าวเฟิงตื่นตะลึง ตราเทพบรรพกาลจะต้องเป็นอาวุธเทพที่ทรงพลังอย่างแน่นอน แต่พลังฝึกตนของเขาต่ำเกินไป จึงไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของอาวุธเทพได้
“ฮ่าๆ ทันทีที่เจ้าตายลง เผ่าพันธุ์บรรพกาลเหล่านี้ก็จะไม่ถูกควบคุมอีกต่อไป และสมบัติของเจ้าก็จะกลายเป็นของข้า!”
สีหน้าผู้เฒ่าชุดเขียวค่อนข้างซีดขาว แต่กลับยิ้มออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ถึงกระบวนท่านี้ของเขาจะสิ้นเปลืองพลังไปมาก แต่ความน่ากลัวของพลัง ตัวเขาเองชัดเจนแจ่มแจ้งอย่างที่สุด คนต่ำกว่าขั้นเทพแท้จริงขั้นสามลงไปยากจะรอดชีวิตไปได้!
ทันทีที่จ้าวเฟิงตายลง อันตรายที่เกิดขึ้นจากเขาก็จะถูกคลี่คลาย และยังจะได้รับสมบัติมาครอบครองด้วย ยกตัวอย่างเช่นอาวุธเทพที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้
ผู้เฒ่าชุดเขียวย่อมมองออกว่าอาวุธเทพชิ้นนี้พิเศษอย่างยิ่ง
โครม แซ่ด! ตุบ…
จ้าวเฟิงถูกสายฟ้าที่น่าเกรงขามกดดันจนถอยร่นไปหลายสิบก้าวติดกัน พลังสายฟ้าจู่โจมจ้าวเฟิงจากทั่วทิศทาง โชคดีที่กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งยิ่งนัก จึงต้านทานการโจมตีไปได้หลายส่วน
“คิดไม่ถึงว่าจะต้านทานเอาไว้ได้…ตายซะเถอะ!”
ผู้เฒ่าชุดเขียวอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง แววตาชั่วร้าย ร่างกายขยับวูบวาบ ทะยานมาจากด้านข้าง หมาป่าสายฟ้าที่น่ากลัวโจมตีมายังจ้าวเฟิง
ในตอนนั้น จ้าวเฟิงฝืนต้านรับกระบวนท่า ‘อัสนีคำรามลั่น’ เมื่อพลังไม่พอ เลือดลมจึงปั่นป่วนขึ้นมา
สถานการณ์ตรงหน้าอันตรายอย่างยิ่ง!
บนใบหน้าชั่วร้ายของผู้เฒ่าชุดเขียวมีรอยยิ้มเย็นชา สายตาประหนึ่งมองคนที่ตายไปแล้ว
“เจ้าดีใจไวเกินไปแล้ว!”
สองมือของจ้าวเฟิงประคับประคองตราเทพบรรพกาลเอาไว้ ยันร่างให้มั่นคง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นเยือก
เห็นเพียงพลังสายฟ้าที่น่าหวาดกลัวพุ่งออกจากดวงตาซ้ายของเขา
ผลัวะ!
ทันใดนั้นเอง อสูรยักษ์สายฟ้าที่ดุร้ายร้องคำรามก่อนจะกระโจนไปด้านหน้า พลานุภาพกระเทือนฟ้าดิน
“อะไรกัน…นี่มันเคล็ดวิชา ‘อัสนีคำรามลั่น’ ของข้า!”
สีหน้าผู้เฒ่าชุดเขียวซีดขาว ความหวาดกลัวฉาบทั่วใบหน้า
“อ๊าก…”
ผู้เฒ่าชุดเขียวที่ตกอยู่ในวงล้อมของสัตว์อสูรทุ่มเทกำลังทั้งหมดหลบหลีกและต้านทานเอาไว้ พลังส่วนมากของ ‘อัสนีคำรามลั่น’ ก็ยังคงกระแทกใส่ร่าง
ร่างผู้เฒ่าชุดเขียวสั่นเทิ้ม หน้าขาวเผือดไร้สีเลือด ได้รับบาดเจ็บสาหัส
และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ!
รอบๆ บริเวณมีเผ่าพันธุ์บรรพกาลจำนวนมากล้อมกลุ่มของเขาเอาไว้ กลิ่นอายชั่วร้ายโบราณแผ่กระจายปกคลุมฟ้าดิน
“ได้ผลจริงด้วย!”
สีหน้าจ้าวเฟิงเผยแววยินดี เขาสามารถลอกเลียนการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม แต่ถ้าหากปลดปล่อยออกมาทันที จะปะทะเข้ากับการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้ประโยชน์แต่อย่างใด
ดังนั้นเมื่อครู่จ้าวเฟิงคัดลอกการโจมตีของผู้เฒ่าชุดเขียว จึงไม่ได้รีบร้อนปลดปล่อยออกมา แต่ ‘เก็บสะสมพลัง’ ไว้ชั่วคราว และรอโต้กลับในเวลาที่เหมาะสม
แต่ทว่าการคัดลอกกระบวนท่าสังหารของผู้เฒ่าชุดเขียวสิ้นเปลืองพลังมหาศาล ตอนนี้ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงอับแสงลงไปเล็กน้อย เกรงว่าจะไม่สามารถเลียนแบบการโจมตีที่รุนแรงต่อได้แล้ว
“จ้าวเฟิง เจ้าคิดจะเอาอย่างไร?”
ผู้เฒ่าชุดเขียวมีสีหน้าเคียดแค้น จ้องจ้าวเฟิงที่เดินมาหาเขาอย่างช้าๆ
“ผู้อาวุโส ช่วยพวกข้าด้วย!”
ผู้ถูกเลือกเผ่าปีกเพลิงสองคนที่อยู่ข้างๆ เอ่ยเสียงสั่น
จ้าวเฟิงปรายตามองพวกเขาด้วยแววตาเย็นชา ห้วงความคิดขยับเล็กน้อย เผ่าพันธุ์บรรพกาลที่น่ากลัวหลายสิบตัวบินโผมาอย่างรวดเร็ว
กลิ่นคาวเลือดและเสียงกรีดร้องกระจายออกไป
ผ่านไปสักพัก สุดท้ายแล้วฟ้าดินก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ
“เจ้าคิดจะเอาอย่างไรกันแน่…หรือว่าเพื่อให้ข้าดูของเหล่านี้?”
สีหน้าผู้เฒ่าชุดเขียวย่ำแย่อย่างยิ่ง
“มอบมิติเก็บของมา บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า!”
น้ำเสียงเย็นชาทำให้ร่างกายและจิตใจผู้เฒ่าเย็นวาบ
เขาไม่นึกเลยว่าตนเองจะถูกคนรุ่นหลังในขอบเขตเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ผู้หนึ่งข่มขู่เช่นนี้
ในเวลาเดียวกัน เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวเฟิงจึงไม่ชิงมิติเก็บของหลังจากที่สังหารตนไปแล้ว
หรือว่าจ้าวเฟิงคิดจะปล่อยตนเองไปจริง? ผู้เฒ่าชุดเขียวไม่ค่อยเชื่อ แต่ตอนนี้ทำได้เพียงทำตามคำพูดของจ้าวเฟิง บางทีอาจจะยังมีชีวิตรอดไปได้
ผู้เฒ่าชุดเขียวหยิบกำไลสีเงินชิ้นหนึ่งออกมาอย่างไม่ยินยอมนัก แต่ในเวลานี้เอง ในฝูงเผ่าพันธุ์บรรพกาลจำนวนมหาศาล หลายสิบตัวที่ชำนาญด้านวิญญาณและการโจมตีเผ่าพันธุ์บรรพกาลศาสตร์มายาเข้าจู่โจมวิญญาณผู้เฒ่าชุดเขียวทันที
“เนตรเพ่งเทพเจ้า!”
จ้าวเฟิงโคจรดวงตาซ้ายที่อ่อนแออย่างยิ่ง พลังต้องห้ามที่ไม่อาจต้านทานได้ปกคลุมวิญญาณผู้เฒ่าชุดเขียว
สิ่งที่เขาถูกใจย่อมเป็นกำลังรบของผู้เฒ่า อย่างอื่นสามารถมองข้ามได้ แต่หากจ้าวเฟิงพูดว่าต้องการจะควบคุมผู้เฒ่าชุดเขียว ฝ่ายตรงข้ามต้องปฏิเสธแน่ ไม่แน่อาจจะถึงขั้นระเบิดตัวตายก็เป็นได้
“แย่แล้ว…”
ผู้เฒ่าชุดเขียวได้รับบาดเจ็บสาหัส อ่อนแอสุดขีด จึงต้านทานจ้าวเฟิงได้เพียงชั่วขณะ สุดท้ายวิญญาณก็ถูกจ้าวเฟิงฉกฉวยเอาไป
…
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง กำไลสีเงินปรากฏขึ้นในมือจ้าวเฟิง เมื่อดำดิ่งสตินึกคิดลงไปภายใน จ้าวเฟิงตื่นตะลึงเล็กน้อย
“คิดไม่ถึงเลยว่าตาเฒ่านี่จะได้สมบัติในวังเพลิงมามากถึงขนาดนี้!”
จ้าวเฟิงฉวยเอาสิ่งของล้ำค่าหลายชิ้นจากในกองสมบัติมา ของชิ้นแรกเป็นเขายักษ์เพลิงทองในลักษณะเขาวัว เห็นได้ชัดเจนว่านี่เป็นเขาของหนูเพลิงเขาทอง พลังธาตุทองและธาตุเพลิงที่แฝงอยู่ภายในมีจำนวนมหาศาล แสดงให้เห็นว่าพลังเขาทองของหนูเพลิงเขาทองไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย
ของชิ้นที่สองคือทรัพยากรในการฝึกตนชื่อว่าบุปผาเพลิงตะวันทอง โอสถนี้เป็นสีแดงฉาน สาดซัดแสงสีแดงที่ร้อนระอุ มันเป็นถึงทรัพยากรฝึกตนดีเยี่ยมของผู้ฝึกธาตุทอง ไม่เพียงแต่พัฒนาระดับขั้นชีวิตได้ แต่ยังสามารถช่วยคนให้ลึกซึ้งเสวียนอ้าวธาตุทองและธาตุเพลิง
ของชิ้นที่สามน่าจะเป็นเพลิงประหลาดของเผ่าพันธุ์บรรพกาลสักเผ่า สาดซัดกลิ่นอายที่มืดหม่นเย็นชาอย่างยิ่งออกมา
“เหอะๆ หากนายท่านต้องการ จะเอาไปทั้งหมดย่อมได้!”
ผู้เฒ่าชุดเขียวเอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจข้างกายจ้าวเฟิง
พรึ่บ!
จ้าวเฟิงส่งเพลิงโบราณกลุ่มนี้เข้าไปในกำไลสีเงิน จากนั้นจึงโยนเข้าไปในมนตราอากาศ
“รีบฟื้นพลังเทพแท้จริงขั้นสองโดยเร็ว!”
จ้าวเฟิงส่งเสียงบอกมังกรวารีล้างโลกาที่อยู่ในมนตราอากาศ
ถึงแม้จ้าวเฟิงจะมีฝูงสัตว์อสูรมหาศาล แต่กำลังรบไม่สูงส่งมากนัก และอีกไม่นานเท่าไหร่ ผู้แข็งแกร่งที่เข้ามาจะรวมตัวกันช้าๆ จ้าวเฟิงไม่อาจรับมือพวกเขาไหว
ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงต้องการกำลังรบค่อนข้างมาก มังกรวารีล้างโลกาก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก เขาแค่ต้องใช้ทรัพยากรที่ล้ำค่าเรื่อยๆ จึงจะสามารถฟื้นฟูพลังกลับคืนมาช้าๆ
“เอ๋? จ้าววั่นทะลวงผ่านขั้นครึ่งเทพสำเร็จแล้ว!”
ห้วงความคิดของจ้าวเฟิงขยับทันที
จ้าววั่นในตอนนี้ยังฝึกตนอยู่ในมรดกเหมันต์อันเป็นถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์หมาป่าเหมันต์นัยน์ตาฟ้า จ้าววั่นยึดครองสมบัติในมรดกแห่งนี้ได้มากกว่าครึ่ง พลังของเขาเองก็พัฒนาไปอย่างมาก
“ปกติแล้วทายาทแปดเนตรเทพเจ้าจะเป็นผู้ถูกเลือกของขั้วอำนาจห้าดาวหรือสี่ดาวระดับสุดยอด ตอนที่จ้าววั่นปรากฏตัวขึ้น ต้องทำให้พวกเขาตื่นตะลึงทีเดียวกระมัง!”
จ้าวเฟิงระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย จุดนี้เขาได้ยินมาจากเว่ยเคอ ตอนนี้จ้าววั่นทะลวงขอบเขตพลังครึ่งเทพได้ สามารถรับมือกับพลังของเทพแท้จริงขั้นสองทั่วๆ ไปได้แล้ว
“ข้าเองก็ต้องเพิ่มพลังเช่นกัน!”
สีหน้าจ้าวเฟิงฉายแววแน่วแน่ ในตอนนี้เขาครอบครองสมบัติฝึกตนธาตุทองสองชิ้น ทรัพยากรสมบูรณ์อย่างยิ่ง สามารถเพิ่มพลังวายุอัสนีธาตุทองไปจนถึงขั้นสูงได้
วูบ!
จ้าวเฟิงดูดบุปผาเพลิงตะวันทองและเขาทองเข้าไปในมิติดวงตาซ้าย ทรัพยากรฝึกตนที่ล้ำค่าเช่นนี้ย่อมต้องคัดลอกเอาไว้หลายๆ ชิ้น
แต่ที่เบื้องหน้าของจ้าวเฟิงปรากฏทรัพยากรฝึกตนธาตุทองอีกชิ้นหนึ่งขึ้น นั่นก็คือกระดูกเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่ส่องแสงสีทองสุกสกาว
กระดูกสีทองนี้คือของที่จ้าวเฟิงได้มาจากมิติเทพลวงตา และเก็บไว้จนถึงตอนนี้
“กระดูกเผ่าพันธุ์บรรพกาลขั้นสาม!”
จ้าวเฟิงเพิ่งจะแน่ใจในระดับพลังยามมีชีวิตของกระดูกร่างนี้
วิ้ง! จ้าวเฟิงรีบโคจร ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ทันที เพื่อดูดซึมเอาพลังธาตุทองที่ทรงพลังจากกระดูกทองนี้
ผู้แข็งแกร่งคนนี้ตายไปนานมากแล้ว พลังธาตุทองที่แฝงอยู่ภายในกระดูกนิ่งสงบนัก ปล่อยให้จ้าวเฟิงดูดซึมไป
เวลาสามวันผ่านไปในพริบตา กำลังรบที่จ้าวเฟิงมีเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง รวมไปถึงผู้เฒ่าชุดเขียวที่เพิ่งถูกควบคุมด้วยเช่นกัน
ฟิ้ว แซ่ด แซ่ด!
ยอดเขาที่จ้าวเฟิงอยู่พลันปรากฏเงาแสงอัสนีสีทองเกี่ยวกระหวัดกันนับไม่ถ้วน พลังที่แฝงอยู่ในแสงอัสนีธาตุทองทุกเส้นสายสามารถทำร้ายครึ่งเทพทั่วไปจนบาดเจ็บสาหัส
ตูม!
กลิ่นอายวายุอัสนีที่แข็งกล้ากลุ่มนี้ค่อยๆ หดกลับเข้าไปในร่างจ้าวเฟิง กลิ่นอายบนร่างเขาเพิ่มขึ้นไปหลายส่วน
“วายุอัสนีธาตุทองระดับสูง พลังเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ห่างจากวายุอัสนีธาตุทองระดับสมบูรณ์ไม่ไกลแล้ว!”
ดวงตาจ้าวเฟิงฉายแววยินดี
ตอนที่วายุอัสนีธาตุทองสมบูรณ์ จ้าวเฟิงจะทะลวงขั้นครึ่งเทพทันที จนถึงตอนนั้นพลังของเขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงราวพลิกฝ่ามือทีเดียว