บทที่ 1178 พบเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าอีกครั้ง
“โหวชิ่งคือทายาทรุ่นหลังของยอดผู้อาวุโสเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ ในเผ่าก็กำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวสิ่งใด แต่พอดีว่าพรสวรรค์และพลังของคนคนนี้ก็ไม่เลว…”
อวี๋เฮิ่นเห็นจ้าวเฟิงเหมือนไม่รู้เรื่องราวของโหวชิ่งจึงเล่าให้ฟัง
“พลังและพรสวรรค์ก็ไม่เลวจริงๆ นั่นแหละ!”
จ้าวเฟิงพยักหน้า
พลังของโหวชิ่งไม่ด้อยไปกว่าจ้าวเฟิงก่อนที่จะเลื่อนเป็นเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์เลย ต้องรู้ว่าจ้าวเฟิงใช้ทรัพยากรมหาศาลของห้วงฝันบรรพกาล และยิ่งมีพลังแข็งแกร่งจากดวงตาเทพเจ้า ถึงแม้โหวชิ่งจะเป็นลูกศิษย์ขั้วอำนาจสี่ดาว แต่มีผลสำเร็จได้ถึงเพียงนี้ก็นับว่าไม่เลวเลย อย่างน้อยๆ ก็แข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะทั้งหมดที่จ้าวเฟิงได้พบในดินแดนเทพรกร้าง
“เมื่อครู่ข้าเห็นว่าสหายจ้าวไม่ได้ใช้แม้กระทั่งพลังสายเลือด ก็สามารถทำให้โหวชิ่งตกใจถึงเพียงนั้นได้ ท่าทางพลังของสหายจ้าวจะไม่ธรรมดาเลย!”
อวี๋เฮิ่นมองจ้าวเฟิงอย่างลึกซึ้งพลางเอ่ยชมเชย
แต่ในใจของเขาทายว่าเหตุที่โหวชิ่งหนีไปเป็นเพราะจ้าวเฟิงมีความช่วยเหลือจากผู้แข็งแกร่งขั้นสาม แต่โหวชิ่งมีตัวคนเดียว
“สายเลือดของข้าธรรมดาเป็นอย่างมาก ไม่มีประโยชน์อะไรนัก!”
จ้าวเฟิงเอ่ยทันที
คำพูดของอวี๋เฮิ่นเมื่อครู่ ความจริงแล้วคือกำลังสืบว่าจ้าวเฟิงเป็นลูกศิษย์ของขั้วอำนาจใด
และคำตอบของจ้าวเฟิง จริงๆ คือกำลังบอกว่าตนเองไม่มีสายเลือดบรรพกาล
“สหายจ้าวพึ่งสายเลือดธรรมดาก็สามารถฝึกฝนได้จนถึงระดับนี้ ช่างชวนให้คนนับถือยิ่งนัก!”
อวี๋เฮิ่นยิ้มน้อยๆ แต่เดิมเขาคิดว่าจ้าวเฟิงต้องเป็นลูกศิษย์ของขั้วอำนาจหนึ่ง มิฉะนั้นจะกล้าไล่สังหารโหวชิ่งได้อย่างไร
ในยามนี้ จ้าวเฟิงเองยอมรับว่าสายเลือดของเขาต่ำต้อย หรือก็คือเขาไม่มีสายเลือดบรรพกาล ไม่ก็สายเลือดอยู่ในอันดับต่ำมาก
สตรีสูงผอมและชายวัยกลางคนสูงใหญ่เผ่าพาหาทองก็ถูกประโยคนี้ของจ้าวเฟิงดึงดูด หลังจากที่โคจรพลังสายเลือดเล็กน้อยเพื่อรับรู้อยู่ชั่วขณะ ก็มั่นใจว่าจ้าวเฟิงไม่มีสายเลือดบรรพกาล
จ้าวเฟิงมองมายังอวี๋เฮิ่นด้วยสีหน้าตะลึงเล็กน้อย ท่าทีของคนคนนี้จะเป็นมิตรกับตนมากเกินไปหน่อยกระมัง
แต่ว่าบางทีอาจเป็นเพราะจ้าวเฟิงมายังดินแดนเทพรกร้างก็โดนคนดูแคลนมาโดยตลอด ดังนั้นจึงรู้สึกแปลกๆ
ระหว่างทาง จ้าวเฟิงได้รู้ว่า ‘ป่าวิหคสวรรค์’ คือถิ่นของยูงหางหงส์ และยูงหางหงส์เป็นหนึ่งในสี่เผ่าพันธุ์ที่งดงามที่สุด อยู่ในอันดับหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบแปดในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ
เผ่าพันธุ์ที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่นนี้ แน่นอนว่ามีเพียงสมาชิกขั้วอำนาจใหญ่ที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปข้างในได้ ยกตัวอย่างเช่นเผ่าปีศาจวารีสวรรค์สี่ดาวขั้นสุดยอด หรือไม่ก็เผ่าพาหาทองที่มีหวังว่าจะกลายเป็นสี่ดาวขั้นสุดยอด
แน่นอนว่าก็ไม่ขาดสมาชิกขั้วอำนาจอ่อนแอเล็กๆ บางแห่งที่คิดจะฉวยโอกาสในช่วงชุลมุน ในเมื่อสถานที่วิเศษเช่นนี้ เพียงแค่ขุดค้นโอกาสบางแห่งได้ ก็เท่ากับพวกเขาเก็บเกี่ยวที่อื่นหลายสิบวันทีเดียว
ป่าวิหคสวรรค์ห่างไกลจากที่นี่เป็นอย่างมาก ทั้งสามบินสุดกำลังก็ใช้เวลาเกือบเดือนกว่าๆ
‘ที่นี่น่าจะนับว่าเป็นพื้นที่ชายแดนของส่วนกลางห้วงฝันบรรพกาลแล้วกระมัง!’
จ้าวเฟิงพึมพำในใจ
พื้นที่ที่จ้าวเฟิงสำรวจในห้วงฝันบรรพกาลค่อนข้างแคบ
ปัจจุบันยังเตร็ดเตร่อยู่ในถิ่นของเผ่าพันธุ์อันดับห้าหกพันเท่านั้น แต่ในยามนี้เขากลับมุ่งหน้าไปยังถิ่นของยูงหางหงส์ที่อยู่ในอันดับพันกว่ากับคนทั้งสามของเผ่าพาหาทอง
‘พลังของปฐมเทพและเทพแท้จริงพวกนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากรวมอยู่ด้วยกันจะยิ่งเป็นพลังที่น่ากลัว!’
สีหน้าจ้าวเฟิงจริงจัง เพียงแค่เผ่าพันธุ์ใดรวมตัวกันในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ ต่อให้จ้าวเฟิงรวมพลังกับฝูงสัตว์อสูรทั้งหมดก็ยากที่จะเป็นคู่มือ
แต่ว่าจ้าวเฟิงก็ไม่คิดฝืนสู้กับพวกเขา ในเมื่อผู้แข็งแกร่งเหล่านี้จะไปบุกยึดที่แห่งโอกาสเหล่านั้น เช่นนั้นตนก็สามารถรวมกลุ่มไปด้วยได้ พยายามกวาดเอาประโยชน์มาบ้าง ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงมาที่นี่กับเผ่าพาหาทอง
ในห้วงฝันบรรพกาล พลังการรับรู้ของจ้าวเฟิงอีกทั้งความเร็วล้วนได้เปรียบอย่างแน่นอน ไพ่ตายรักษาชีวิตก็มีค่อนข้างมาก
“ที่นี่ก็คือป่าวิหคสวรรค์!”
เผ่าพาหาทองทั้งสามคนเผยสีหน้ายินดี
เห็นเพียงที่ขอบฟ้าไกลลิบมีเถาวัลย์หลากสีและต้นไม้โบราณขนาดมหึมานับไม่ถ้วน พืชพรรณพวกนี้ล้วนพึ่งพาและเกาะเกี่ยวกัน สูงทะลุชั้นเมฆ แทบจะปกคลุมไปครึ่งฟ้า
ยังไม่ทันเข้าใกล้ ทุกคนก็รู้สึกถึงไอสวรรค์ฟ้าดินที่เข้มข้น เจือด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทั่วทั้งกายก็กระปรี้กระเปร่าเป็นอย่างยิ่ง
ฟุ่บ ฟุ่บ!
กลุ่มสี่คนกลุ่มหนึ่งบินผ่านข้างๆ พวกเขาไป ผู้ที่เป็นผู้นำแผ่กระจายกลิ่นอายศาสตร์ไฟอันน่าหวาดหวั่นออกมา พลังฝึกตนสูงถึงเทพแท้จริงขั้นสาม
“ช่างเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
จ้าวเฟิงทอดถอนใจอย่างตื่นตะลึง
ครรลองสายตาของจ้าวเฟิงกว้างไกลเป็นที่สุด มองเห็นทั่วทุกสารทิศล้วนมีกลุ่มคนตรงเข้ามายังป่าวิหคสวรรค์ ท่าทางที่นี่จะเป็นที่แห่งโอกาสที่มีชื่อเป็นอย่างมาก
“ป่าวิหคสวรรค์ สถานที่พักผ่อนของยูงหางหงส์ วัตถุดิบล้ำค่าบรรพกาลหายากหลากหลายชนิดสามารถหาเจอได้ที่นี่ ยิ่งเข้าไปข้างใน ระดับของวัตถุดิบล้ำค่าก็ยิ่งสูง อีกทั้งรังหงส์ในใจกลางป่าวิหคสวรรค์ยิ่งมีโอกาสไม่จำกัด หากโชคดียังสามารถได้ขนหางของยูงหางหงส์ที่แข็งแกร่งมาอีกด้วย…”
สตรีชุดชาววังสีชมพูเอ่ยขึ้นช้าๆ ราวกับตอบรับคำทอดถอนใจจากจ้าวเฟิง
“ขนหางของยูงหางหงส์?”
สายตาของจ้าวเฟิงฉายแววประหลาดใจ
“ใช่แล้ว เผ่าพันธุ์ยูงหางหงส์มีความสัมพันธ์กับหงส์ในตำนานระดับหนึ่ง ขนหางของพวกมันล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เป็นของล้ำค่า ไม่แน่ว่าอาจยังแฝงไว้ด้วยไฟดั้งเดิมของยูงหางหงส์ด้วย!”
หลังจากที่อวี๋เฮิ่นพูดจบแล้ว ทุกคนก็บินตรงไปยังป่าวิหคสวรรค์
ในยามที่เข้าใกล้ก็พบว่าหลายที่ในป่าวิหคสวรรค์มีเสียงต่อสู้ลอยมาเป็นระยะ
สายตาจ้าวเฟิงมองทะลุพื้นที่รอบนอกของป่าวิหคสวรรค์ มองเห็นกลุ่มคนสามคนโรมรันอยู่กับยูงหางหงส์เทพแท้จริงขั้นสามตัวหนึ่ง
ยูงหางหงส์ตัวค่อนข้างเล็ก ขนหางหลากสีที่ราวกับภาพความฝันยาวกว่าตัวของมันเสียอีก เปลวเพลิงหลากสีงดงามลุกไหม้อยู่ในขนหางยาว
ฟู่ ฟุ่บ ฟุ่บ!
ปากของยูงหางหงส์พ่นเส้นเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนออกมา ก่อเป็นตาข่ายหลากสีแน่นถี่ ก่อนเข้าโรมรันกับผู้แข็งแกร่งสามคนรอบด้าน
“พลังควบคุมแข็งแกร่งนัก!”
จ้าวเฟิงอดตะลึงไม่ได้
สายตาของเขามองทะลุป่าวิหคสวรรค์ สังเกตการต่อสู้นี้ได้อย่างชัดเจน ยูงหางหงส์ควบคุมไฟอันน่าอัศจรรย์ในกายของมันได้อย่างประณีตยิ่ง นำพลังเปลวเพลิงทั้งหมดหลอมเป็นเส้นไหมเล็กละเอียด หากถูกเส้นไหมนี้พันรัดเข้า ผลเป็นเช่นไรก็คงพอเดากันได้
บางทีอาจเป็นเพราะยูงหางหงส์ควบคุมเปลวเพลิงได้ชำนาญเช่นนี้ แม้พวกมันชำนาญการใช้ไฟ แต่กลับยังพักอาศัยในป่า
จ้าวเฟิงกำลังดูการต่อสู้ของยูงหางหงส์ จู่ๆ กลับได้ยินเสียงที่ทำให้เขาค่อนข้างรังเกียจดังมาจากที่ไม่ไกลนัก
“พี่ใหญ่ เป็นเจ้าจ้าวเฟิงนั่น!”
หูเฉิงเห็นจ้าวเฟิงบินมาทางนี้ ใบหน้าลิงโลดทันใด
ในตอนนั้นเขาและพี่ใหญ่หาจ้าวเฟิงแล้ว แต่เจอกับมวลสัตว์อสูรเข้าพอดี ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงหนีรอดเคราะห์ไปได้
คิดไม่ถึงว่าพื้นที่ลับกว้างใหญ่เช่นนี้ เขาก็เจอกับจ้าวเฟิงอีกครั้ง โลกช่างกลมเสียจริง
“อ้อ? ครั้งนี้ข้าจะต้องฆ่ามันให้ได้!”
สายตาของหูซังเบนไปจากป่าวิหคสวรรค์ มองไปยังจ้าวเฟิงที่อยู่เบื้องหลัง
“หืม? มีห้าคน!”
สีหน้าของหูซังเปลี่ยนไปเล็กน้อย ครั้งนี้ข้างกายจ้าวเฟิงมีเพิ่มมาอีกสี่คน ถึงแม้ว่าเขาจะมองสายเลือดของคนทั้งสี่ไม่ออก แต่กลิ่นอายของอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลย น่าจะแข็งแกร่งมาก
ทว่าคนเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าข้างกายหูซังมีมากยิ่งกว่า มีแปดคนด้วยกัน
“พี่จ้าว!” เว่ยเคอเห็นจ้าวเฟิง ใบหน้าก็ฉายแววยินดี
ตอนนั้นได้เจอกับมวลสัตว์อสูรที่น่ากลัวเพียงนั้น เห็นจ้าวเฟิงไม่เป็นอะไรเขาก็วางใจ
ส่วนหม่าหลิงซือที่อยู่ข้างๆ ค่อนข้างกังวล ได้พบกับจ้าวเฟิงอีกครั้ง เจ้าคนชั่วช้าหูเฉิงจะต้องไม่ปล่อยจ้าวเฟิงไปแน่
ฟุ่บ!
หูเฉิงและหูซังบินออกมาทันที สกัดอยู่เบื้องหน้าจ้าวเฟิงและอวี๋เฮิ่น ส่วนเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าหลายคนที่เหลือก็สังเกตเห็นการกระทำของพวกเขาทั้งสอง
“ทุกคน คนผู้นี้มีความแค้นกับเราเผ่ามังกรเกล็ดฟ้า จับมันเอาไว้!”
สีหน้าของหูซังเหมือนปกติ คำพูดแข็งกระด้าง ชี้มายังจ้าวเฟิงแล้วพูดขึ้น
ในร่างของจ้าวเฟิงไม่มีสายเลือดบรรพกาล แต่คนที่เหลือล้วนมีกันหมด ดังนั้นพวกเขาจะต้องไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกันแน่ หูซังเชื่อว่าสี่คนที่เหลือจะต้องไม่ล่วงเกินคนของเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าทั้งแปดเพื่อจ้าวเฟิงเป็นแน่
“เขาเป็นสหายของข้า!”
สายตาของอวี๋เฮิ่นกวาดไปยังคนเบื้องหน้าทั้งสอง เอ่ยคำอย่างเรียบนิ่ง
สตรีผอมสูงมองสถานการณ์เบื้องหน้า อมยิ้มไม่ได้พูดอะไรโดยตลอด แต่ชายสูงใหญ่นั่นแทบจะไม่พูดอะไรเลยตลอดทาง
“มันล่วงเกินพวกเรา!”
หูซังเผยแววเหี้ยมเกรียม
สายตาโกรธแค้นของทั้งเว่ยเคอและหม่าหลิงซือจับจ้องไปยังหูซัง แต่ไม่กล้าพูดอะไร
ในบรรดาเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าทั้งแปดที่นี่ นอกจากพวกเขาและพี่น้องตระกูลหู ยังมีอีกคนหนึ่งเป็นปฐมเทพที่แข็งแกร่งที่สุด หรือก็คือปฐมเทพหลานเยี่ย ส่วนเทพแท้จริงอีกสามคนล้วนเข้าข้างหูซังและปฐมเทพหลานเยี่ย ไม่มีทางสนใจพวกเขาแน่นอน
ชายชราสามคนในเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าส่ายหัว เข้ามาใกล้ก่อนพูดขึ้นทันใดว่า “ทุกท่าน อย่าได้เดือดร้อนใจเพราะเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์คนหนึ่งเลย!”
ชายชราทั้งสามคนนี้คำพูดไม่แข็งกระด้างเท่ากับหูซัง แต่แฝงไว้ด้วยแววคุกคามอยู่บ้าง ความหมายก็คืออวี๋เฮิ่นและคนอื่นๆ หากไม่ส่งตัวจ้าวเฟิงออกมาจะเท่ากับล่วงเกินคนของเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าที่นี่
คิ้วของจ้าวเฟิงขมวดเล็กน้อย ความเย็นเยียบส่องประกายขึ้นในดวงตา
ในกลุ่มคนเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าเบื้องหน้า นอกจากคนทั้งสี่ที่เขารู้จักแล้ว ยังมีชายหนุ่มหนึ่งคน ชายชราสามคน ในนั้นมีเทพแท้จริงขั้นสามเพียงสองคน หากจ้าวเฟิงคิดอยากจะหนี อีกฝ่ายไม่มีทางตามได้ทันแน่
แต่ประเด็นก็คือจ้าวเฟิงใช้เวลาไปมหาศาลเพื่อมายังป่าวิหคสวรรค์ จะกลับไปมือเปล่าได้อย่างไร
“พวกเจ้ากำลังข่มขู่เผ่าพาหาทองรึ?”
ใบหน้าสง่างามของอวี๋เฮิ่นเยียบเย็นขึ้นทันใด ดวงตาทั้งสองส่องประกายเฉียบคม
วู้ม! หมัดขวาที่กำแน่นของเขาพลันปรากฏลวดลายสีทองแปลกประหลาดขึ้น จากนั้นทั่วทั้งแขนกะพริบประกายแสงสีทองเจิดจ้า พลังแก่นแท้ที่ทำให้ขาดอากาศหายใจพลันแผ่กระจายมา
“เผ่าพาหาทอง!”
ชายชราทั้งสามและหูเฉิงหูซังตื่นตกใจทันที จากนั้นถึงยิ้มบางๆ “คิดไม่ถึงว่าทุกท่านคือผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเทพของเผ่าพาหาทอง ข้ามีตาหามีแววไม่!”
เผ่าพาหาทองเป็นขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง มีความหวังสูงมากที่จะกลายเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวสุดยอด ขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งทั่วไปอย่างเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าไม่มีทางเทียบได้เลย
“ทั้งหมดนี้คือเรื่องเข้าใจผิด ข้าจำคนผิดไป!”
สีหน้าของหูเฉิงดูย่ำแย่ พูดได้เพียงเท่านี้ เผ่าพาหาทองคิดปกป้องจ้าวเฟิง พวกเขาลงมือไม่ได้จริงๆ
อีกด้านหนึ่ง ปฐมเทพหลานเยี่ยที่มองทุกอย่างอย่างเย็นชา ดวงตาทั้งสองมีจิตต่อสู้วาบผ่าน
ใบหน้าเว่ยเคอและหม่าหลิงซือตกตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะสนิทสนมกับคนของเผ่าพาหาทองถึงเพียงนี้
กลุ่มผู้แข็งแกร่งอื่นๆ รอบด้านก็สังเกตถึงสถานการณ์ทางด้านนี้ สายตาส่วนใหญ่หยุดอยู่ที่คนของเผ่าพาหาทอง
“คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เผ่าพาหาทองก็กำหนดป่าวิหคสวรรค์เป็นหนึ่งในเป้าหมายเช่นกัน!”
“แต่ว่าพวกเขาก็มีแค่ไม่กี่คน ไม่ใช่คู่มือของขั้วอำนาจใหญ่พวกนั้นในป่าวิหคสวรรค์หรอก!”
กลุ่มเล็กๆ ที่รวมตัวกันรอบด้านไม่ใช่สมาชิกขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งเท่าใด ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่ลงมือ
“หากจำคนผิด ก็ขอโทษต่อสหายของข้าเสีย!”
ใบหน้าของอวี๋เฮิ่นไม่เปลี่ยนแปลง เอ่ยด้วยเสียงเยียบเย็น
“อะไรนะ?”
เห็นได้ชัดว่าหูเฉิงและหูซังไม่ยอม ที่นี่มีคนมากมายเพียงนี้มองอยู่ พวกเขาเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน สุดท้ายกลับยังต้องขอโทษอีก
“รีบขอโทษเร็ว ที่นี่มีคนมากมาย พวกเราจะเป็นศัตรูกับเผ่าพาหาทองไม่ได้!”
ชายชราเทพแท้จริงขั้นสามฝ่ายเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าส่งกระแสจิตให้กับพี่น้องตระกูลหู
“ขอโทษด้วย พวกเราจำคนผิด!”
สองพี่น้องตระกูลหูก้มหัวลง ส่งเสียงต่ำทุ้มดูไม่ยินยอมออกมา
“ไปเถอะ!”
ประกายเย็นเยียบในดวงตาของจ้าวเฟิงหายไป สองคนนี้ทำอะไรตนไม่ได้เพราะเผ่าพาหาทอง ส่วนจ้าวเฟิงก็ไม่อาจสังหารพวกเขาได้เพราะเป็นคนของเผ่ามังกรเกล็ดฟ้า
ฟุ่บ ฟุ่บ!
เผ่าพาหาทองคนอื่นๆ และจ้าวเฟิงออกไปจากที่นี่ทันที มุ่งหน้าไปยังป่าวิหคสวรรค์
“บัดซบ เผ่าพาหาทองยังไม่ทันกลายเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวสุดยอดก็กำเริบถึงเพียงนี้!”
หูซังใบหน้าแดงก่ำ สบถเสียงต่ำ
“ที่นี่หูตามากมาย พวกเราจะวิวาทกับเผ่าพาหาทองไม่ได้!”
ชายชราพูดเสียงต่ำทุ้ม
ทั้งที่เป็นขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งเหมือนกัน คนเผ่ามังกรเกล็ดฟ้ามากมายกลับต้องกล้ำกลืน เป็นใครก็ขุ่นเคืองกันทั้งนั้น
“พวกเราก็เข้าไปด้วยเถอะ!”
ชายชราเอ่ยออกมาทันที
หูเฉิงและหูซังสบตากัน ในใจเข้าใจคำพูดของชายชรา อดเผยรอยยิ้มเย็นไม่ได้