Skip to content

King of Gods 1179

King Of Gods

บทที่ 1179 รังหงส์

ไม่นานนัก ทุกคนก็เข้าใกล้ป่าวิหคสวรรค์ พืชพรรณทุกชนิดที่ขึ้นเป็นป่าวิหคสวรรค์ล้วนเป็นทรัพยากรล้ำค่าที่ราคาสูงลิ่ว อีกทั้งพืชพรรณเหล่านี้ก็แข็งแรงเป็นอย่างมาก ยากที่จะถูกทำลาย

“เมื่อครู่ต้องขอบคุณสหายอวี๋เป็นอย่างมาก!”

จ้าวเฟิงยิ้มพูดขึ้น

เผ่าพันธุ์พาหาทองคนอื่นๆ เพียงแค่ผ่านมาพบจ้าวเฟิงเท่านั้น ไม่ได้สนิทสนมอะไรมาก แต่อีกฝ่ายกลับช่วยเขาจัดการปัญหายุ่งยากนี้ นี่ทำให้จ้าวเฟิงคิดไม่ถึง

“ไม่ต้องเกรงใจ มาป่าวิหคสวรรค์ เผ่าพาหาทองเรามีเพียงแค่สามคน ยังต้องขอยืมแรงของสหายจ้าวและผู้อาวุโสท่านนี้ด้วย!”

อวี๋เฮิ่นยิ้มบางพลางพูดขึ้น กวาดสายตาไปยังจ้าวเฟิงและผู้เฒ่าชุดเขียว

ผู้เฒ่าชุดเขียวไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ทุกคนก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะชายสูงใหญ่เผ่าพาหาทองของพวกเขาผู้นั้นก็ปิดปากเงียบมาโดยตลอดเหมือนกัน

ตัวอยู่ในป่าวิหคสวรรค์ก็ยิ่งได้ยินเสียงต่อสู้จากหลายๆ ทางได้ชัดมากยิ่งขึ้น

“ดูเร็ว ตรงนั้นมีรังหงส์อยู่!”

สายตาของอวี๋เฮิ่นจ้องไปยังทิศทางหนึ่ง เอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น

เห็นเพียงเบื้องหน้าไม่ไกลนัก ต้นไม้เถาวัลย์มากมายก่อเป็นวงกลม ข้างในส่งกลิ่นหอมที่ร้อนนิดหน่อยออกมา

“รังหงส์?”

จ้าวเฟิงสงสัยเล็กน้อย รังหงส์ไม่ใช่สถานที่แห่งโอกาสที่ใหญ่ที่สุดในป่าวิหคสวรรค์หรอกรึ ไยจึงพบเจอได้ง่ายเช่นนี้

“นี่น่าจะเป็นรังหงส์รอบนอก เป็นที่ที่ยูงหางหงส์ทั้งหลายพักผ่อน แต่ที่ใจกลางสุดของป่าวิหคสวรรค์จะมีรังหงส์ใหญ่มหึมา ข้างในล้วนเป็นยูงหางหงส์ที่งดงามที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดพำนักอยู่ รังหงส์ที่อยู่ใจกลางนั่นต่างหากถึงจะเป็นสถานที่แห่งโอกาสที่ใหญ่ที่สุด!”

สตรีชุดชาววังสีชมพูรู้ว่าจ้าวเฟิงสงสัยอะไร จึงเอ่ยอธิบายขึ้นอย่างช้าๆ

“มนุษย์ ตายซะ!”

ในยามที่ทุกคนคุยกันอยู่นั้นเอง ยูงหางหงส์ในรังหงส์ก็บินมาพร้อมพ่นไหมเปลวเพลิงหลากสี

“ข้าเอง!” อวี๋เฮิ่นตะโกนเสียงดัง สายเลือดที่น่าหวาดหวั่นทั่วกายปะทุขึ้น แสงประกายทองกลุ่มหนึ่งหุ้มล้อมอยู่ที่แขนขวาของเขา

ยูงหางหงส์ตัวนี้มีพลังแค่เพียงเทพแท้จริงขั้นสองเท่านั้น มีอวี๋เฮิ่นคนเดียวพอที่จะรับมือ จ้าวเฟิงจะได้รู้ถึงพลังของอัจฉริยะของเผ่าพาหาทองพอดี

วู้ม ฟู่!

บนแขนซ้ายของอวี๋เฮิ่นมีเงาแขนแสงทองเจิดจ้าปรากฏขึ้น ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งยิ่งนัก

“หมัดสังหาร!”

อวี๋เฮิ่นแกว่งแขนขึ้น เหวี่ยงเอาเงาหมัดแสงสีทองที่ทรงพลังและเหี้ยมเกรียมออกมาสายหนึ่งทันที

ฟุ่บ ฟิ้ว ฟิ้ว!

ยูงหางหงส์เห็นอีกฝ่ายแข็งแกรงเช่นนี้ก็ไม่กล้าประมาท พ่นไหมเพลิงหลากสีออกมามากมาย ก่อเป็นตาข่ายเพลิงขึ้นชั้นหนึ่ง หุ้มการโจมตีของอวี๋เฮิ่นไว้ข้างใน

ครืน ฟุ่บ ฟุ่บ!

วงแสงทองของอวี๋เฮิ่นพุ่งทะลุพันธนาการจากตาข่ายเพลิงหลากสี แต่พลังของการโจมตีนี้ก็ถูกลดลงไปมาก สุดท้ายก็ตกไปลงบนเถาวัลย์โบราณเบื้องหลัง

แต่สิ่งที่จ้าวเฟิงคิดไม่ถึงก็คือ หมัดแสงสีทองของอวี๋เฮิ่นที่ถูกลดพลังลงไม่ได้สร้างความเสียหายมากเท่าไหร่ให้กับเถาวัลย์โบราณในป่าวิหคสวรรค์

ฟิ้ว!

ความเร็วของยูงหางหงส์สูงเป็นอย่างมาก มันลากเอาเส้นไหมเปลวเพลิงหลากสีเป็นทางยาว บินวนมายังอวี๋เฮิ่น ราวกับจะเฉือนเขาให้เป็นชิ้นๆ

“คมคลื่นสีทอง!”

อวี๋เฮิ่นเปลี่ยนวิธีการโจมตี มือขวาเป็นฝ่ามือ ฟาดคมคลื่นสีทองอันคมกริบนับไม่ถ้วนออกมา

ครืน ตูม ตูม!

ยูงหางหงส์ที่มีพลังเทพแท้จริงขั้นสองไม่อาจทำร้ายอวี๋เฮิ่นได้ จึงหนีไปทันที

“ไป ไปรังหงส์!”

หลังจากที่อวี๋เฮิ่นโจมตียูงหางหงส์จนล่าถอยไปแล้ว เขาก็ไม่ได้ไล่ตาม

ในเมื่อยูงหางหงส์เชี่ยวชาญด้านความเร็ว เมื่ออยู่ในป่าวิหคสวรรค์ที่ต้นไม้โบราณตั้งตระหง่านก็ยิ่งราวกับปลาได้น้ำ ดังนั้นเมื่อยูงหางหงส์เห็นผู้รุกล้ำมากมายเช่นนี้จึงไม่ได้หนีไปทันที

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว…

ทุกคนมาถึงยังจุดที่ยูงหางหงส์ตัวนั้นอยู่เมื่อครู่ทันที

“นี่ก็คือหญ้าเลือดลมเก้าทวาร ผกาทองเกสรม่วง…”

จ้าวเฟิงเพียงมองก็เจอทรัพยากรของล้ำค่ามากมาย พวกมันราวกับรุ้งพร่างพราย ประดับไปทั่วทุกด้านภายในรังหงส์

“ยูงหางหงส์ชอบนำของล้ำค่าสีสันสดใสมาตบแต่งรังของตน เพื่อได้รับความชื่นชอบจากเพศตรงข้าม นอกจากนั้น ที่ที่ยูงหางหงส์เคยอาศัยอยู่ วัตถุดิบยาล้ำค่าทั้งหมดจะได้รับการยกระดับ มีสรรพคุณยาดีกว่าวัตถุดิบยาชนิดเดียวกันจากที่อื่นๆ นัก!”

อวี๋เฮิ่นยิ้มพูดขึ้น จากนั้นก็หยิบเอาทรัพยากรทั้งหมดในรังหงส์ไป

อวี๋เฮิ่นเป็นคนโจมตีจนยูงหางหงส์ตัวนี้ล่าถอย อีกทั้งรังหงส์รังนี้อยู่พื้นที่รอบนอก ทรัพยากรข้างในไม่มีค่าอะไรนัก ทุกคนจึงไม่ใส่ใจเท่าใด

‘ป่าวิหคสวรรค์นี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!’

จ้าวเฟิงรู้สึกว่าโลกนี้กว้างใหญ่ยิ่งนัก มีสิ่งอัศจรรย์อยู่มากมาย ทุกเผ่าพันธุ์ล้วนมีความเคยชินและความเชื่อของตนเอง

พื้นที่อาศัยของยูงหางหงส์น่าจะเป็นแดนสมบัติวิเศษที่สามารถกวาดค้นทรัพยากรฝึกฝนได้ อีกทั้งวัตถุดิบยาพวกนี้ ไม่ว่าชนิดใดก็มีทั้งนั้น ดังนั้นป่าวิหคสวรรค์จึงดึงดูดขั้วอำนาจและผู้แข็งแกร่งมามากมายเช่นนี้

ทุกคนบินไปยังด้านในทันที ไม่นานนักก็พบกับรังหงส์รังหนึ่ง

ในรังหงส์รังนี้มียูงหางหงส์พลังเทพแท้จริงขั้นสองอยู่สองตัว

สองฝ่ายปะทะกันโดยไม่มีอะไรต้องพูด เข้าต่อสู้กันทันใด ครั้งนี้สตรีชุดชาววังและผู้เฒ่าชุดเขียวลงมือ

วู้ม ขวับ ขวับ!

พลังของผู้เฒ่าชุดเขียวแข็งแกร่ง แค่ลงมือก็ได้เปรียบ บดขยี้ไปยังยูงหางหงส์

“ผู้ฝึกฝนศาสตร์อัสนี พลังแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง!”

อวี๋เฮิ่นและชายสูงใหญ่มองไปยังผู้เฒ่าชุดเขียวอย่างจริงจัง

สุดท้ายยูงหางหงส์สองตัวบาดเจ็บหนีไป ผู้เฒ่าชุดเขียวทำคุณูปการมากที่สุด ได้ทรัพยากรล้ำค่าในรังหงส์ไปหกส่วน

“รังหงส์มากมายนัก!”

สายตาของจ้าวเฟิงเพ่งมองไปเบื้องหน้า

ยิ่งเข้าใกล้ใจกลาง รังหงส์ก็ยิ่งแน่นขนัด ในรังหงส์ล้วนมียูงหางหงส์อย่างน้อยสองตัว อีกทั้งพลังไม่ธรรมดาเลย

“กายศักดิ์สิทธิ์อัสนี!”

ครั้งนี้จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แล้วทะยานออกไปทันที ผู้ที่ออกไปกับเขายังมีผู้เฒ่าชุดเขียวและสตรีชุดชาววังด้วย

ฟิ้ว ฟู่ ฟู่!

เบื้องหน้าคนทั้งสาม เส้นไหมเปลวเพลิงถี่ยิบพุ่งตรงมา เปลวเพลิงถึงแม้จะบางละเอียด แต่พลังที่แฝงอยู่ข้างในจะดูถูกไม่ได้เลย

“ดัชนีสังหารเทพ!”

เมื่อโคจรวายุอัสนีทอง นิ้วทั้งสองของจ้าวเฟิงวาดไปในอากาศอย่างรวดเร็ว เห็นเพียงแสงทองนับไม่ถ้วนแผ่กระจายทั่วฟ้า เส้นไหมเปลวเพลิงที่ปะทะเข้ามาล้วนถูกฟันขาด

ฟิ้ว ฟิ้ว!

พลังทำลายนั้นแข็งแกร่งมาก คมดัชนีสีทองที่แกร่งยิ่ง ทิ้งรอยกรีดไหม้นับไม่ถ้วนไว้บนต้นไม้โบราณรอบด้านเหล่านั้น

“ไป มนุษย์พวกนี้พลังแข็งแกร่งนัก!”

ทุกครั้งที่ยูงหางหงส์สู้ไม่ได้ก็จะถอยหนีอย่างว่องไว ไม่เคยฝืนสู้ต่อ

“สหายจ้าวแข็งแกร่งนัก!”

อวี๋เฮิ่นยิ้มพูดขึ้น ชายวัยกลางคนสูงใหญ่ก็มองจ้าวเฟิงอย่างลึกซึ้งเช่นกัน

ถึงแม้ว่าพลังของจ้าวเฟิงจะไม่โดดเด่น แต่เทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์มีพลังเช่นนี้ก็ช่างน่าครั่นคร้ามนัก

“นี่คือดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำ!”

ยามที่ทุกคนมาถึงรังหงส์รังนี้ สายตาของสตรีชุดชาววังจ้องอยู่ที่ของล้ำค่าสิ่งหนึ่ง ก่อนร้องออกมาอย่างตกใจ

ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำ ว่ากันว่าเป็นของวิเศษล้ำค่าฝึกฝนศาสตร์วารี ลายน้ำเป็นเอกลักษณ์บนนั้นก็คือสัญลักษณ์ของกฎเกณฑ์เสวียนอ้าว สามารถผสานเข้าไปในแสงวนพลังศักดิ์สิทธิ์ และทำแสงวนนี้ให้มั่นคง เช่นนี้แล้วในวันข้างหน้ายามที่ทะลวงขั้นเทพ ก็สามารถสร้างรากฐานเทพที่แข็งแกร่งได้ หรือจะพูดได้ว่า มันเป็นของวิเศษที่สามารถทำให้ครึ่งเทพทะลวงขั้นเทพได้สูงกว่าเดิม มีประโยชน์ต่อผู้ฝึกฝนศาสตร์เหมันต์วารีเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าจำนวนลายน้ำบนดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำต้นนี้จะมีค่อนข้างน้อย แต่ก็เป็นของวิเศษที่ทำได้เพียงแค่ปราถนาแต่ไม่อาจร้องขอมาง่ายๆ แล้ว

“ของวิเศษล้ำค่าต้นนี้ ให้สหายจ้าวและผู้อาวุโสผู้นี้ก็แล้วกัน!”

หลังจากเผ่าพาหาทองทั้งสามคนคุยกันเล็กน้อยแล้ว อวี๋เฮิ่นก็พูดออกมา

“เช่นนั้นแซ่จ้าวก็ไม่เกรงใจแล้ว”

จ้าวเฟิงก็ถูกใจดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำต้นนี้เช่นกัน ถึงได้ชักนำทุกคนมายังรังหงส์รังนี้

จ้าวเฟิงฝึกฝนเสวียนอ้าวห้าธาตุ ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำมีประโยชน์กับเขาในระดับหนึ่ง นอกจากนั้นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำยังสามารถล่อให้คนที่อยู่ข้างหลังพวกนั้นออกมาได้

“ช้าก่อน!”

ไม่เกินความคาดหมายของจ้าวเฟิง เบื้องหลังมีเสียงตะโกนร้อนรนลอยมา

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ~

เงาหลายเงาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของทุกคน เป็นเผ่ามังกรเกล็ดฟ้านั่นเอง

ใบหน้าของเผ่าพาหาทองทั้งสามคร่ำเคร่ง คิดไม่ถึงว่าคนของเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าจะตามอยู่ข้างหลังพวกเขามาโดยตลอด

“พี่จ้าว คนของเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าจะฆ่าท่าน หาโอกาสหนีไปเถอะ!”

ทันใดนั้น ในหัวของจ้าวเฟิงก็มีเสียงวิญญาณของเว่ยเคอดังขึ้น

จ้าวเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นยิ้มบางๆ ออกมาและไม่ได้ใส่ใจ

“คนเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าตามพวกเรามา ต้องการอะไร?”

ใบหน้าของอวี๋เฮิ่นเคร่งเครียด ถามซักไซ้ทันใด

“พวกเราก็แค่ผ่านมาที่นี่พอดีเท่านั้น!”

เทพแท้จริงขั้นสามคนหนึ่งของเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าทำสีหน้าไม่สะทกสะท้าน เอ่ยออกมาทันใด

ยามนี้รอบๆ ด้านไม่มีขั้วอำนาจอื่น เผ่ามังกรเกล็ดฟ้ามีแปดคน เผ่าพาหาทองมีเพียงห้าคน พวกเขายังต้องเกรงใจอีกฝ่ายรึ?

“ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำเหมาะกับผู้ฝึกฝนศาสตร์วารีมากที่สุด หวังว่าเผ่าพาหาทองทุกคนจะมอบของล้ำค่านี้ให้พวกเรา!”

เทพแท้จริงขั้นสองอีกคนหนึ่งพูดขึ้น ให้เผ่าพาหาทองมอบของวิเศษนี้ให้พวกเขาเสีย

สีหน้าของอวี๋เฮิ่นและสตรีชุดชาววังเคร่งเครียดเล็กน้อย

หากงัดข้อกันซึ่งๆ หน้า น่าจะเป็นพวกเขาฝั่งนี้ที่เสียเปรียบ อีกทั้งยังต้องลงไม้ลงมือเพราะดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำต้นเดียว

“ของวิเศษนี้มอบให้สหายจ้าวไปแล้ว หากสหายจ้าวไม่มีข้อขัดข้อง จะมอบให้พวกท่านก็ไม่เป็นไร หากสหายจ้าวไม่ยินยอม พวกเจ้าก็อย่าได้ฝืนเลย!”

อวี๋เฮิ่นในยามนี้ไม่วางอำนาจบาตรใหญ่เหมือนตอนอยู่นอกป่าวิหคสวรรค์ ทั้งยังผลักอำนาจการตัดสินใจไปให้กับจ้าวเฟิง

“จ้าวเฟิง ส่งของออกมาซะ!”

หูซ่างเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา

“ส่งดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำออกมาเสีย ของวิเศษนี้เจ้าไม่มีสิทธิ์ครอบครอง!”

ในเผ่ามังกรเกล็ดฟ้า ปฐมเทพหลานเยี่ยก้าวออกมา ตะโกนขึ้นทั้งใบหน้าเย็นชา

ปฐมเทพหลานเยี่ยเป็นผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่ามังกรเกล็ดฟ้า ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีคุณค่ากับเขา

แต่เดิมเผ่ามังกรเกล็ดฟ้าวางแผนไว้ว่าจะลอบโจมตีเผ่าพาหาทอง ไม่หวังว่าจะสังหารฝ่ายตรงข้าม ขอเพียงแค่สังหารจ้าวเฟิงได้ ก็สยบเผ่าพาหาทองได้แล้ว

แต่ยามนี้ เป้าหมายอันดับแรกของพวกเขาคือชิงดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำ เป้าหมายอันดับสองถึงจะเป็นสังหารจ้าวเฟิง

“เช่นนั้นเจ้ามีสิทธิ์อะไร?”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงเรียบนิ่ง ไม่ลนลานแม้แต่น้อย

“กับอีกแค่มดปลวก เจ้าอยู่ในมือข้า แค่กระบวนท่าเดียวก็รับไม่ไหวแล้ว!”

ใบหน้าของปฐมเทพหลานเยี่ยหยิ่งยโส ปรายตามองจ้าวเฟิงอย่างเหยีดหยามยิ่ง เทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์กล้ามาพูดกับเขาเรื่องสิทธิ์งั้นรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย

“ในเมื่อเจ้ามั่นใจเช่นนี้ ไม่สู้พวกเรามาพนันกัน เจ้าออกสามกระบวนท่า หากข้าต้านทานไม่ได้ ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำต้นนี้ก็จะเป็นของเจ้า!”

จ้าวเฟิงยิ้มพูดขึ้น ดอกหญ้าสีทองน้ำเงินต้นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา บนนั้นมีลวดลายกฎเกณฑ์เสวียนอ้าวอันน่าอัศจรรย์ไหลวนอยู่เงียบๆ

เมื่อครู่ปฐมเทพหลานเยี่ยพูดว่าแค่กระบวนท่าเดียวของเขา จ้าวเฟิงก็รับไม่ได้แล้ว แต่ในยามนี้จ้าวเฟิงพนันกับปฐมเทพหลานเยี่ย ให้อีกฝ่ายออกสามกระบวนท่า เช่นนี้ปฐมเทพหลานเยี่ยจึงไม่มีทางปฏิเสธ

เผ่าพาหาทองทั้งสามมีสีหน้าตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะพูดไปเช่นนี้ แต่ว่าพวกเขาก็เชื่อมั่นจ้าวเฟิงเป็นอย่างมาก

เผ่ามังกรเกล็ดฟ้าทั้งหลายไม่ขมวดคิ้วใดๆ พวกเขาไม่คิดว่าจ้าวเฟิงจะรับสามกระบวนท่าของปฐมเทพหลานเยี่ยได้

หากเปลี่ยนเป็นเหตุการณ์ปกติ ปฐมเทพหลานเยี่ยสามารถสังหารเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์กลุ่มหนึ่งได้สบายๆ แต่จ้าวเฟิงก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอเอง จะต้องมั่นใจอะไรบางอย่างแน่ๆ

“หลังจากสามกระบวนท่า ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำก็จะเป็นของข้า!”

ปฐมเทพหลานเยี่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ

เมื่อครู่ หลังจากที่เขาตามอยู่ข้างหลังเผ่าพาหาทองคนอื่นๆ ก็ได้เห็นพลังของจ้าวเฟิง ซึ่งก็แข็งแกร่งจริงๆ ประมาณกับเทพแท้จริงขั้นสองได้ แต่ปฐมเทพหลานเยี่ยเคยมีผลงานสังหารเทพแท้จริงขั้นสองมาก่อนด้วย

อีกทั้งจ้าวเฟิงท้าทายเขาเอง ปฐมเทพมีเหตุผลที่จะไม่รับปากเสียที่ไหน และเขาก็มั่นใจว่าสามกระบวนท่าจะสามารถทำให้จ้าวเฟิงบาดเจ็บหนัก เช่นนี้แล้ว หลังจากที่ได้ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำมา ไม่แน่ว่าอาจยังถือโอกาสสังหารจ้าวเฟิง ใช้มันสยบพวกเผ่าพาหาทองที่อวดดีต่อหน้าเขาเมื่อครู่

“หากข้าสามารถต้านทานเจ้าได้สามกระบวนท่า เจ้าก็น่าจะใจถึงสักนิดหรือไม่ เชื่อว่าปฐมเทพเยี่ยหลานไม่น่าจะไม่มีของวิเศษอะไรเลยกระมัง!”

จ้าวเฟิงเผยรอยยิ้มบางๆ

หลานเยี่ยตะลึงไปเล็กน้อย จ้าวเฟิงยังนึกว่าตัวเองจะสามารถต้านทานสามกระบวนท่าของตนได้

“หึ เช่นนั้นข้าก็จะเอาผลึกเทพทองชิ้นนี้เป็นเดิมพัน!”

ปฐมเทพหลานเยี่ยเพียงพลิกมือ ผลึกแก้ววาววับส่องประกายแสงทองชิ้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือทันใด

ยามสะกดรอยตามเผ่าพาหาทองเมื่อครู่ ปฐมเทพหลานเยี่ยรู้ว่าจ้าวเฟิงเชี่ยวชาญเสวียนอ้าวธาตุทอง เช่นนั้นตนนำผลึกเทพทองก้อนนี้ออกมา จ้าวเฟิงก็น่าจะไม่พูดเพ้อเจ้อไร้สาระอะไรแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!