บทที่ 1181 บุกรังหงส์
ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงนำเผ่าพาหาทอง จ้าวเฟิง และคนอื่นๆ เข้าใกล้ไปยังใจกลางป่าวิหคสวรรค์
จากที่ไกลลิบมทุกคนเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกเกือบยี่สิบ ในยามนี้พวกเขากำลังรวมตัวกันหารือวิธีบุกรังหงส์ที่อยู่ใจกลางป่า
คนยี่สิบคนนี้ แต่ละคนมีกลิ่นอายไม่ธรรมดา แทบจะเป็นพลังเทพแท้จริงขั้นสองขึ้นไปทั้งนั้น หลายคนในนั้น จ้าวเฟิงยังไม่อาจวิเคราะห์ได้ถึงขอบเขตพลังของอีกฝ่าย
หลายร้อยลี้เบื้องหน้าคนทั้งยี่สิบกว่าคนนี้มีรังหงส์ที่ใหญ่โตราวกับพระราชวัง สีสันสดใสพราวพร่าง งดงามเป็นอย่างยิ่ง และส่งกลิ่นหอมหวนเย้ายวนใจ
“นี่ก็คือรังหงส์ใจกลางป่า!”
ตาซ้ายของจ้าวเฟิงเพ่งไปบนนั้น มองทะลุในชั่วพริบตา
ภายในรังหงส์ ประกายแสงหลากสีสันทั้งหลายยิ่งสว่างพราวพร่าง ทั้งหมดเป็นแสงระยิบระยับของของล้ำค่าและกลิ่นหอมเข้มข้นที่ลอยเอ่อ เมื่อลึกเข้าไปอีกชั้นจะเป็นยูงหางหงส์จำนวนมากมาย ยูงหางหงส์ใช้ความยาวของหางกับสีสันมาแบ่งความแข็งแกร่งและอ่อนแอ
“จำนวนมันน่ากลัวนัก!”
จ้าวเฟิงตกใจยิ่งนัก หากเปลี่ยนเป็นตน ต่อให้อาศัยฝูงสัตว์อสูรบรรพกาลก็ไม่มีทางบุกที่นี่ได้เลย จ้าวเฟิงกระทั่งไม่กล้าจะบุกที่นี่ด้วยซ้ำ
“ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงกลับมาแล้ว!”
“นั่นคือคนของเผ่าพาหาทอง!”
อวี๋เฮิ่นอยู่ในเผ่าพาหาทองก็เป็นอัจฉริยะขั้นปฐมเทพที่แข็งแกร่ง ดังนั้นผู้แข็งแกร่งของขั้วอำนาจบางคนจึงเคยได้ยินชื่อเสียงของเขา
จ้าวเฟิงมองปฏิกิริยาของทุกคน เหมือนว่าทุกคนจะเคารพปฐมเทพเจี้ยนเฟิงเป็นอย่างมาก ตำแหน่งของคนคนนี้ในเผ่าหมอกสวรรค์ท่าทางจะสูงไม่เบา
“ทำไมถึงมีเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์คนหนึ่งด้วย!”
ผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเทพคนหนึ่งที่มีผิวกายสีเงินเทา สายตาเขาแฝงด้วยแววดูถูก
สายตาของคนที่เหลือมองมายังจ้าวเฟิงทันใด รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ โดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นปฐมเทพและเทพแท้จริง ส่วนผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับ พวกเขาเพิ่งจะเคยพบเป็นครั้งแรก กระทั่งในประวัติศาสตร์ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีเทวาเร้นลับเข้ามาในรกร้างบรรพกาล
“นี่คือสหายอวี๋เฮิ่นแห่งเผ่าพาหาทอง ผู้นี้คือสหายจ้าว พวกเขามาช่วยเหลือพวกเราบุกรังหงส์ใจกลางป่า!”
ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงยิ้มแนะนำเผ่าพาหาทอง จ้าวเฟิง และคนอื่นๆ
สีหน้าของทุกคนอึ้งไปเล็กน้อย ในยามที่ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงแนะนำคนทั้งห้านี้ ที่สำคัญคือเน้นแนะนำอวี๋เฮิ่นและจ้าวเฟิง นี่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก จ้าวเฟิงเป็นอัจฉริยะของเผ่าใดกันจึงสามารถเทียบเคียงกับอวี๋เฮิ่นได้
“มีเผ่าพาหาทองเข้าร่วม ความมั่นใจของพวกเราย่อมเพิ่มมากขึ้นอีกนิด แต่สหายจ้าวเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์คนนี้ ข้าแซ่โจวไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!”
ปฐมเทพผิวกายสีเทาเงินกวาดสายตาเย็นเยือกมายังจ้าวเฟิง เน้นคำว่าเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ชัดยิ่ง
ผู้แข็งแกร่งทั้งหลายที่นั่นไม่ได้พูดอะไร นี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาสงสัยเช่นกัน
“ฮ่าๆ ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเช่นกัน แต่ว่าพวกเจ้าอย่าได้ดูถูกเขาเชียว!”
ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงหัวเราะอย่างเบิกบาน ไม่พูดมากอะไรอีก
อย่าได้ดูถูก! หรือคนเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์แบบคนนี้มีพลังแข็งแกร่งมาก?
ทว่าเห็นท่าทีของปฐมเทพเจี้ยนเฟิงเป็นมิตรกับจ้าวเฟิงเหลือเกิน ผู้แข็งแกร่งในกลุ่มที่ค่อนข้างจะดูถูกจ้าวเฟิงจึงไม่พูดอะไรอีก
จากนั้น เผ่าพาหาทองและจ้าวเฟิงก็เข้าไปใกล้กลุ่มนี้ เข้าร่วมการหารือแผนที่จะบุกรังหงส์
“ด้านใต้และด้านเหนือยังมีอีกสองขั้วอำนาจใหญ่ พวกเราจะต้องเข้าไปในรังหงส์ใจกลางป่าให้ได้ก่อนพวกเขา!”
เทพแท้จริงชุดลายคนหนึ่งเอ่ยอย่างมุ่งมั่น
“เป็นเช่นนี้นี่เอง!”
จ้าวเฟิงพยักหน้า
หากอาศัยเพียงแค่คนยี่สิบกว่าคนที่นี่ ไม่มีทางเป็นคู่มือให้กับยูงหางหงส์ในรังหงส์ได้เลย กระทั่งว่าอาจจะถูกกลุ่มลูกไฟสังหารเอาก็เป็นได้
หากมีกลุ่มแบบนี้สามกลุ่ม เช่นนั้นก็เท่ากับผู้แข็งแกร่งเทพแท้จริงเกือบเจ็ดสิบคน พลังไม่ด้อยไปกว่ายูงหางหงส์เท่าไหร่
ถึงแม้ว่าขั้วอำนาจทั้งสามกลุ่มต่างมีเจตนาแอบแฝง ไม่มีทางร่วมมือกันบุก แต่ทั้งสามฝ่ายก็ได้ทำสัญญาร่วมกัน ขั้วอำนาจทั้งสามจะต้องบุกในเวลาเดียวกัน มีเพียงเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสามารถตรึงกำลังยูงหางหงส์ทั้งหมดในรังหงส์ได้
จากนั้นจ้าวเฟิงถึงได้รู้ว่าเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ก็เป็นอีกขั้วอำนาจหนึ่งในสามขั้วอำนาจนี้ อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย
“ยูงหางหงส์เชี่ยวชาญด้านไฟ ดังนั้นผู้ฝึกฝนศาสตร์แห่งไฟที่พลังฝึกตนต่ำกว่าเทพแท้จริงขั้นสามจึงจะอยู่ข้างหลังสุด ผู้ฝึกฝนศาสตร์วารีเหมันต์เป็นคนบุกนำหน้า…”
ผู้อาวุโสชุดผ้าเผ่าหมอกสวรรค์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างเรียบเฉย
ในยามที่ผู้อาวุโสผู้นี้เอ่ยปาก ทุกคนที่อยู่ที่นี่แทบจะปิดปากไม่พูดอะไร รับฟังอย่างเงียบๆ
จ้าวเฟิงรู้สึกว่าเทพแท้จริงของเผ่าหมอกสวรรค์ผู้นี้ เกรงจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้แล้ว
“ศาสตร์แห่งไฟปิดท้าย และศาสตร์แห่งน้ำเป็นตัวบุก!”
จ้าวเฟิงค่อนข้างลังเล
ยูงหางหงส์เชี่ยวชาญด้านไฟ หากผู้แข็งแกร่งที่พลังฝึกตนค่อนข้างต่ำใช้ไฟละก็ พลังเปลวเพลิงนั่นกระทั่งว่าจะถูกยูงหางหงส์ดูดรับไป
ดังนั้น หากให้ผู้ฝึกตนศาสตร์ไฟที่พลังฝึกตนต่ำมากปิดท้าย ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างปลอดภัย แต่พวกเขาก็จะเก็บเกี่ยวประโยชน์ได้น้อยที่สุด
ผู้ฝึกฝนวารีเหมันต์เป็นตัวบุก พวกเขาทะลวงอยู่ข้างหน้าอันตรายเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ได้รับก็จะมากมายที่สุดอย่างแน่นอน
จ้าวเฟิงเชี่ยวชาญทั้งศาสตร์ไฟและศาสตร์วารีเหมันต์ ดังนั้นเขาเลยค่อนข้างลังเล ว่าตนเองควรจะเป็นตัวบุกหรือปิดท้าย
“เอาละ ทุกคนรู้แจ้งตำแหน่งของตัวเองดีแล้วใช่ไหม!”
ผู้อาวุโสชุดผ้าสีหน้าเคร่งขรึม
สมาชิกที่อยู่ที่นั่นต่างพยักหน้า แต่ละคนมีตำแหน่งอยู่ในใจ
“สหายจ้าวพลังฝึกตนค่อนข้างอ่อนแอ ให้อยู่ปิดท้ายเถอะ จะได้ไม่เอาชีวิตไปทิ้ง!”
ยามนี้ ปฐมเทพผิวกายสีเทาเงินนั่นยิ้มพูดกับจ้าวเฟิง แต่ว่ารอยยิ้มของเขากลับค่อนข้างเย็นเยือก
ทุกคนรู้ดี คนคนนี้ตั้งใจยุให้จ้าวเฟิงเป็นตัวบุก แต่ว่านี่จะเป็นไปได้อย่างไร ต่อให้จ้าวเฟิงเชี่ยวชาญวารีเหมันต์ แต่พลังฝึกตนต่ำเกินไป ไม่มีทางแบกรับหน้าที่เป็นตัวบุกได้เลย
นอกจากปฐมเทพผิวสีเทาเงินคนนี้ ยังมีผู้แข็งแกร่งอีกหลายคนมองมาอย่างแฝงด้วยความดูถูกเช่นกัน
จ้าวเฟิงมองคนคนนี้แวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร เขาก็กำลังขบคิดปัญหานี้อยู่
ผู้แข็งแกร่งปฐมเทพที่ยุแยงจ้าวเฟิงเห็นเขาไม่พูดอะไรก็ไม่ได้ยั่วยุต่อ ในเมื่ออีกฝ่ายมีความสัมพันธ์กับปฐมเทพเจี้ยนเฟิงและเผ่าพาหาทอง อีกทั้งในยามนี้ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญของการบุกรังหงส์ด้วย
“บุก!”
ตอนนี้เอง ผู้อาวุโสชุดผ้าเอ่ยปากขึ้นทันใด เห็นได้ชัดว่าได้รับข่าวสารจากผู้แข็งแกร่งอีกสามฝ่ายที่เหลือแล้ว
ฟุ่บ ฟุ่บ!
เทพแท้จริงเกือบยี่สิบคนทะยานออกไปทันที ส่วนจ้าวเฟิงตามอยู่ด้านหลังสุดของกลุ่ม
“หึ ไอ้ตัวไร้ประโยชน์!”
ปฐมเทพผิวสีเทาเงินเห็นจ้าวเฟิงอยู่ท้ายสุดของกลุ่ม ก็อดที่จะถากถางขึ้นไม่ได้
“ในกลุ่มขั้วอำนาจสามกลุ่มนี้ เผ่าปีศาจวารีสวรรค์แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นข้าจะอยู่ข้างหน้าสุดไม่ได้”
นี่จึงจะเป็นเหตุผลที่จ้าวเฟิงไม่เลือกเป็นตัวบุก
โหวชิ่งอยู่ในเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ตำแหน่งสูงมากอย่างแน่นอน หากถูกเขาเจอและจับได้ จะต้องไม่ปล่อยตนไปอย่างแน่นอน อีกทั้งผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ที่นี่มีมากมายนัก จ้าวเฟิงทำอะไรเขาไม่ได้เลย เขามองไปยังเผ่าพาหาทองทั้งหลายที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาลึกซึ้ง
ในครรลองสายตา รังหงส์สีสันพร่างพรายนั่นยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ยูงหางหงส์ทั้งหลายบินออกมาจากในรัง สีขนหางของยูงหางหงส์ทุกตัวต่างกัน แต่ล้วนงดงามเป็นอย่างยิ่ง
“ฆ่ามัน!”
ในเผ่าหมอกสวรรค์ ผู้อาวุโสชุดผ้าบุกทะลวงอยู่ด้านหน้า แขนโบกสะบัด พลังเทพแท้จริงอันน่าหวาดหวั่นแผ่กระจาย
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
คมวายุสีฟ้าอ่อนนับไม่ถ้วนหุ้มล้อมอยู่รอบกายผู้อาวุโส จิตใจขยับเล็กน้อย คมวายุทั้งหมดก็ถูกผู้อาวุโสควบคุม เปลี่ยนเเปลงได้ดั่งใจนึก กวาดไปข้างหน้าอย่างหยิ่งทะนง
“เทพแท้จริงขั้นสี่!”
จ้าวเฟิงตื่นตกใจ กลิ่นอายที่ผู้อาวุโสผู้นี้แผ่กระจายออกมาเป็นเทพแท้จริงขั้นสี่อย่างแน่นอน
ตามที่จ้าวเฟิงรู้มา แทบจะทุกขั้วอำนาจในเขตผาเก่าล้วนมีเทพแท้จริงขั้นสี่อยู่ กระทั่งเทพแท้จริงขั้นห้ายังเข้ามาในพื้นที่ลับ แต่ในพื้นที่ลับซึ่งกว้างใหญ่เช่นนี้ ยากที่จะได้พบผู้แข็แกร่งเทพแท้จริงขั้นสี่ขึ้นไป
ผู้อาวุโสชุดผ้าคนนี้เป็นเทพแท้จริงขั้นสี่คนแรกที่จ้าวเฟิงได้เจอในห้วงฝันบรรพกาล
ทันใดนั้น ด้านหลังของเผ่าหมอกสวรรค์มียูงหางหงส์มากมายปรากฏขึ้น
พวกนี้ล้วนเป็นยูงหางหงส์ที่อาศัยอยู่ด้านนอกรังหงส์ตรงใจกลางป่า
ในยามที่รังหงส์ใจกลางป่าถูกบุก แน่นอนว่าพวกมันจะมุ่งหน้ามา แต่ว่าเทียบกันแล้วพลังและสายเลือดของยูงหางหงส์พวกนี้ล้วนอ่อนด้อยกว่า
“บุก สกัดกั้นพวกมัน อย่าให้พวกมันรบกวนตัวบุกในกลุ่ม!”
เทพแท้จริงขั้นสองที่แข็งแกร่งคนหนึ่งตะโกนขึ้นทันใด พูดจบทั่วร่างของเขาก็ทะลักเปลวเพลิงสีเขียวน่าหวาดกลัวออกมา
“ลงมือเร็ว ถึงแม้พลังฝึกตนเจ้าจะต่ำ แต่ในเมื่อเข้าร่วมกลุ่มแล้วก็อย่าคิดอู้!”
ผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเทพจากเผ่าหมอกสวรรค์คนหนึ่งตะโกนใส่จ้าวเฟิง
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
จ้าวเฟิงโคจรวายุอัสนีไฟ ซัดฝ่ามือเปลวเพลิงยักษ์ที่ส่องประกายแสงอัสนีออกมา
ครืน ตูม ตูม!
ยูงหางหงส์ที่อ่อนแอสามตัวโดนฝ่ามือยักษ์ของจ้าวเฟิงจนถอยหลังไปไกลหลายสิบจั้งทันที อีกทั้งถูกกัดกินจากพลังอัสนีเทวะ
ผู้ถูกเลือกเผ่าหมอกสวรรค์คนนั้นเห็นฝ่ามือของจ้าวเฟิงน่ากลัวเช่นนี้ ดวงตาทั้งสองก็ตกตะลึงและไม่พูดอะไรอีก
แม้จ้าวเฟิงจะเป็นผู้ฝึกฝนศาสตร์ไฟ แต่ในวายุอัสนีธาตุไฟยังแฝงด้วยพลังวายุอัสนีและพลังอัสนีเทวะ ยูงหางหงส์ไม่มีทางดูดรับพลังเปลวเพลิงข้างในนั้นได้เลย
“ท้ายที่สุดก็ปลอดภัยจริงๆ นั่นแหละ แต่หากคิดอยากได้ของดีก็ค่อนข้างลำบาก!”
สายตาของจ้าวเฟิงมองไปยังด้านหน้า
ผู้ฝึกฝนวารีเหมันต์และผู้แข็งแกร่งเผ่าหมอกสวรรค์บุกโจมตีฝูงยูงหางหงส์ไม่หยุด รุกคืบเข้าใกล้รังหงส์ใจกลางป่า
ในขณะเดียวกัน อีกสองด้านของรังหงส์ก็มีเสียงต่อสู้โครมครามดังลั่น
บุกสามด้านในเวลาเดียวกัน แบ่งกำลังรบของเผ่าพันธุ์ยูงหางหงส์ ทั้งสามด้านล้วนมีโอกาสทะลวงเข้าไปในรังหงส์ที่ใจกลางทั้งสิ้น ของที่ได้ก็อยู่ที่ดวงแล้ว
“ใครก็อย่าคิดจะบุกรังหงส์ที่อยู่ใจกลางของเผ่าพันธุ์ยูงหางหงส์!”
ในยามนี้เอง แสงเปลวเพลิงเจ็ดสีพร่างพรายโจมตีมายังเผ่าหมอกสวรรค์ทั้งหลาย
ครืน!
บนท้องฟ้า เส้นเปลวเพลิงหลายสีสันถี่ยิบ ดุจเส้นไหมแห่งความตายเข้าเชือดเฉือนไปยังทุกคน
“อ๊าก…”
เทพแท้จริงขั้นสองสองคนถูกเส้นไหมเปลวเพลิงเส้นหนึ่งตัดผ่าน ร่างกายถูกแยกออกเป็นสองท่อนทันใด เปลวเพลิงตรงรูโหว่ลุกไหม้ขึ้นไม่หยุด แม้กระทั่งวิญญาณในร่างกายก็ลุกไหม้ด้วย
ไม่นานเท่าใด เทพแท้จริงขั้นสองทั้งสองคนก็ดับดิ้น
“ยูงหางหงส์ที่ถึงเทพแท้จริงขั้นห้า!”
ทั้งกลุ่มจิตใจสั่นสะท้าน ฝีเท้าหยุดชะงักลง
“อย่าถอยหลัง!”
ในยามนี้เอง เทพแท้จริงขั้นสี่เผ่าหมอกสวรรค์นำผู้แข็งแกร่งศาสตร์วารีเหมันต์สองคนทะลวงออกมาทันที และตรึงกำลังยูงหางหงส์ขั้นห้าเอาไว้
ฟิ้ว ฟิ้ว บึ้ม!
เส้นไหมเปลวเพลิงถี่ยิบสอดประสานกับคมวายุสีฟ้า ชวนให้คนตาลาย
“เอ๋ ในรังหงส์ใจกลางป่ามียูงหางหงส์ไม่กี่ตัวเท่านั้น!”
สายตาของจ้าวเฟิงมองทะลุผ่านทุกสรรพสิ่งไปยังในรังหงส์
ตอนนี้ยูงหางหงส์แทบจะทุกตัวล้วนถูกคนสามกลุ่มล่อออกมา แม้กระทั่งยูงหางหงส์ขั้นห้าก็ไม่เว้น
“นี่มันดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำ ผลศักดิ์สิทธิ์ปฐพี หลินจือห้ามเลือดไท่เสวียน…”
สายตาของจ้าวเฟิงมองไปยังของวิเศษมหาศาลในรังหงส์
ดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำเป็นชนิดที่ราคาต่ำที่สุดแล้วในของวิเศษเหล่านี้ อีกทั้งคุณสมบัติของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ลายน้ำเหล่านี้ สูงกว่าต้นที่จ้าวเฟิงได้มาเมื่อครู่มากนัก
“บางทีข้าอาจจะดูดของล้ำค่าพวกนี้มาได้เลย…”
จ้าวเฟิงครุ่นคิด หัวใจเต้นเร็วตุบๆ ขึ้นมา
ท่ามกลางการต่อสู้ห้ำหั่นของปฐมเทพ เทพแท้จริง หรือกระทั่งเทพแท้จริงขั้นสี่และยูงหางหงส์ขั้นห้า การดูดเอาของวิเศษในรังหงส์ใจกลางป่าเป็นการกระทำที่อันตรายเป็นอย่างมาก
“การต่อสู้ดุเดือนเช่นนี้ พวกเขาไม่มีทางรู้…”
จ้าวเฟิงรู้สึกโชคดี แต่เขายังคงตัดสินใจทดลองดูดของวิเศษจากด้านนอกที่ราคาค่อนข้างต่ำดูก่อน
“เคลื่อนย้ายมิติ!”
พลังดวงตาลายน้ำเลือนรางกลุ่มหนึ่งลอยขึ้นบนของวิเศษชิ้นหนึ่งในรังหงส์ใจกลางป่า ใจกลางพลังดวงตาลายน้ำปรากฏเค้าร่างน้ำวนอยู่รางๆ
วูบ! ดอกหญ้าสีฟ้าทองต้นนั้นหายไปในอากาศ
เสี้ยวขณะต่อมา ในมิติดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็มีหญ้าแปลกประหลาดสีฟ้าทองต้นหนึ่งปรากฏขึ้น
และยูงหางหงส์ที่ป้องกันรังหงส์ก็เหมือนจะไม่สังเกตเห็น ฝั่งเผ่าหมอกสวรรค์ก็ไม่มีผู้แข็งแกร่งที่ชำนาญเสวียนอ้าวมิติเป็นพิเศษ แต่ว่าต่อให้พวกเขารู้สึกถึงคลื่นมิติ ก็ไม่มีทางคิดได้ว่าเป็นจ้าวเฟิงที่กำลังแอบดูดเอาของวิเศษในรังหงส์ไป
“สำเร็จแล้ว!” จ้าวเฟิงค่อนข้างตื่นเต้น
ขโมยทรัพยากรฝึกฝนอย่างหนึ่งไปภายใต้สายตาของผู้แข็งแกร่งที่มีพลังเทพแท้จริงหลายร้อยคน จ้าวเฟิงรู้สึกถึงความสำเร็จ
แต่ว่าทรัพยากรฝึกฝนที่จ้าวเฟิงดูดเอามาเมื่อครู่ หากเทียบกันแล้ว ทั่วทั้งรังหงส์ยังมีของล้ำค่าอีกมากมายนับไม่ถ้วน