บทที่ 1196 เนตรแห่งความว่างเปล่า
“เทพโบราณขั้นเจ็ด!”
ผู้แข็งแกร่งที่ช่วงชิงของวิเศษอยู่ข้างล่างวังได้ยินข่าวที่น่าตื่นตะลึงนี้ ตาก็ตะลึงค้างไปทันใด
ถึงแม้เทพโบราณจะอยู่ในขอบเขตของเทพแท้จริงทั้งเก้าขั้น แต่ในเมื่อมีเส้นแบ่งของเทพโบราณ เช่นนั้นก็พิสูจน์แล้วว่า ความแตกต่างระหว่างเทพโบราณระดับล่างและเทพโบราณระดับบนมีมากเป็นอย่างยิ่ง
ในขั้วอำนาจใหญ่ทุกกลุ่ม เทพโบราณเป็นผู้แข็งแกร่งสูงสุดที่สูงส่งจนไม่อาจจับต้องได้
แต่ยามนี้ ในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ กิเลนเเดงที่นำเผ่าพันธุ์บรรพกาลพวกนั้นเป็นถึงเทพโบราณ ทั้งยังเป็นเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต
กิเลนเพลิงโลหิตตัวนั้น ดวงตาแดงโลหิตชั่วร้ายของมันกวาดมองไปยังผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่อยู่ที่นั่น
ใครที่ถูกสายตาของมันจับจ้องก็ล้วนใจกายสั่นสะท้าน สายเลือดเยือกแข็งไปทั้งสิ้น
ฟู่!
พลังเจตจำนงกลุ่มหนึ่งม้วน ‘กระจกกั้นเวหา’ โยนไปยังกิเลนดำอีกตัวที่อยู่ด้านข้าง
“ของล้ำค่านี่ไม่เลวเลย!”
กิเลนดำรับ ‘กระจกกั้นเวหา’ เอาไว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตนี้ สายเลือดในกายเป็นสีใด ร่างกายก็จะมีเปลวเพลิงสีนั้นลุกไหม้ สายเลือดกิเลนเพลิงดำยิ่งสูงส่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่ากิเลนเพลิงดำตัวนี้ขนาดค่อนข้างเล็ก ระดับพลังฝึกตนเป็นเพียงแค่เทพแท้จริงขั้นสี่เท่านั้น
“นายน้อย กำราบมันเสีย!”
กิเลนเพลิงแดงพูดขึ้น
ขั้วอำนาจทั้งสิบที่ช่วงชิง ‘กระจกกั้นเวหา’ เมื่อครู่มีใบหน้าเคร่งเครียดยิ่ง
พวกเขาช่วงชิงกันดุเดือดเพียงนั้น เอาชีวิตเป็นเดิมพัน สุดท้ายกิเลนเพลิงแดงตัวนี้เพียงปรากฏกายขึ้น ก็เอากระจกกั้นเวหาไปทันที
อีกทั้งหากกิเลนเพลิงดำสยบกระจกกั้นเวหาได้ พวกเขาก็จะยิ่งกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำ
“ทุกคน หากให้เผ่าพันธุ์บรรพกาลครองกระจกกั้นเวหา สถานการณ์ต่อไปของพวกเราจะยิ่งอันตราย!”
ปฐมเทพขั้นห้าของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติส่งกระแสจิตให้กับผู้แข็งแกร่งทั้งหลายที่นั่น
“ใช่แล้ว ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นเทพโบราณ แต่ก็มีเพียงแค่คนเดียว!”
เทพแท้จริงขั้นห้าของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติพูดขึ้น
“เทพแท้จริงขั้นห้าทั้งหมดที่นี่ พวกเราจะต้องร่วมมือกันรับมือกับผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณ มิฉะนั้นพวกเราก็จะไม่ได้อะไรไปเลย!”
เทพแท้จริงขั้นห้าของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาส่งกระแสเสียงให้กับทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ลับ
สถานการณ์ในตอนนี้ มีแต่ต้องร่วมมือกัน อีกทั้งเป็นการร่วมมือกันของทุกคนเท่านั้น
แต่ทว่า ความแข็งแกร่งของเทพโบราณหยั่งลึกในใจทุกคน เทพแท้จริงขั้นห้าของขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งหรือสี่ดาวสุดยอด เมื่อเทียบกับของขั้วอำนาจห้าดาวหรือแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วอ่อนแอกว่ามาก อีกทั้งพวกเขาให้ความสำคัญกับชีวิตและผลประโยชน์ของตนเองมากกว่า ไม่อยากจะปะทะกับเทพโบราณ
“จริงๆ แล้วหากทุกคนไม่ยินยอม พวกเราสามแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีวิธีถอยหนีอย่างปลอดภัย!”
ปฐมเทพซือคงของแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์พลันส่งกระแสจิตมา
คำพูดนี้เพียงพูดออกมา ขั้วอำนาจทั้งหมดที่นั่นใจสั่นสะท้าน
ไม่ผิด แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพมีพลังแฝงลึกล้ำ ต่อให้เบื้องหน้าเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณ พวกเขาก็ยังมั่นใจที่จะถอยหนี เช่นนั้นแล้ว ผู้ที่จะพบกับหายนะก็คือขั้วอำนาจอ่อนแอเหล่านั้น
ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในดินแดนเทพรกร้างค่อยๆ เห็นพ้องต้องกัน เทพแท้จริงขั้นห้าร่วมมือกันรับมือกับเทพโบราณและเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่มีพลังเทพแท้จริงขั้นห้า
ส่วนเรื่องช่วงชิงของล้ำค่ามอบให้กับเทพแท้จริงที่อายุน้อยและพลังค่อนข้างต่ำ
แน่นอน เทพแท้จริงขั้นห้าก็หารือกับเทพแท้จริงในขั้วอำนาจไว้เรียบร้อยแล้ว ผลเก็บเกี่ยวที่ได้ในตอนนั้นย่อมต้องมีส่วนของพวกเขาด้วย
เทพแท้จริงขั้นห้าเสี่ยงอันตรายมหาศาล ต่อกรกับเทพโบราณ ให้พวกเขาไปช่วงชิงของล้ำค่า จะไม่มีของตอบแทนที่เทียบเท่ากันได้อย่างไรกัน
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!
ในขั้วอำนาจทั้งสิบกลุ่ม ผู้ที่ไม่ใช่เทพแท้จริงขั้นห้าถอยหลังไปหมด
ส่วนด้านหลัง เทพแท้จริงขั้นห้าทั้งหมดบินออกมา
“ฆ่ามัน!”
กิเลนเพลิงแดงเหมือนรู้แผนของคนเหล่านี้จึงลงมือทันใด
ต่อให้เขาเป็นเทพโบราณ แต่ก็ใช่ว่าจะไร้พ่าย
อีกทั้งเทพแท้จริงขั้นห้าที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ก็เป็นพวกค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามที่มีพลังแฝงล้ำลึก
เช่นเดียวกัน ทางฝั่งเผ่าพันธุ์บรรพกาล ก็มีเทพแท้จริงขั้นห้ามุ่งหน้ามาช่วยกิเลนเพลิงแดง
ส่วนเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่เหลือเเละกิเลนเพลิงดำก็ร่วมมือกันช่วงชิงของล้ำค่าอยู่ที่ใต้วัง
“บุก!”
ฝั่งดินแดนเทพรกร้าง เทพแท้จริงขั้นห้าทั้งหมดร่วมมือกัน
ครืน ตูม บึ้ม! การปะทะกันของเทพแท้จริงขั้นห้าและเทพโบราณทำให้ฟ้าดินผันเปลี่ยน ตะวันจันทราอับแสง
ผู้แข็งแกร่งขั้นปฐมเทพและเทพแท้จริงที่ไม่ได้ร่วมรบ แม้จะอยู่ห่างไปมากก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังเทพกับเสวียนอ้าวแต่ละกลุ่มที่ชวนให้คนหวาดกลัว
“ดี ได้ของล้ำค่าชิ้นที่สามแล้ว!”
มังกรวารีล้างโลกาฉีกยิ้ม
ชิ้นหนึ่งอยู่ในมิติดั้งเดิมของเขา และยังมีอีกสองชิ้นอยู่ในท้องของแมวขโมยตัวน้อย
การปรากฏตัวขึ้นของกิเลนเพลิงดำ สำหรับพวกจ้าวเฟิงกลับเป็นเรื่องที่ดี เพราะในกลุ่มของพวกเขา เดิมก็ไม่มีเทพแท้จริงขั้นห้าอยู่แล้ว
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะกลายเป็นแบบนี้!”
เสี่ยวหลิงจิตใจสั่นสะท้าน
แค่เพียงเทพแท้จริงขั้นห้าไม่เข้าร่วมช่วงชิงของวิเศษ เช่นนั้นข้อเสียเปรียบของกลุ่มพวกเขาก็จะลดลงอย่างไร้รูปร่าง
ก่อนหน้านี้พวกเขาก่อกวนที่นี่ ตอนนี้กลับสามารถช่วงชิงกับกองกำลังอื่นๆ ได้ แต่ก็ยังมีระยะห่างอย่างมากกับกองกำลังที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษบางกลุ่ม
“ไสหัวไป ของชิ้นนี้ข้าปฐมเทพทุนเทียนหมายตาเอาไว้แล้ว!”
ชายสูงใหญ่ตะโกนเสียงดัง พุ่งไปยังผลไม้สีเงินลูกหนึ่ง
ครืน ครืน!
ทุกการซัดโจมตีจากฝ่ามือทั้งสองของเขาล้วนก่อคลื่นวนสีดำขึ้น กลืนกินการโจมตีทั้งหมดใกล้ๆ จนสิ้น
“ไสหัวไป!”
ผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภา ตามปฐมเทพทุนเทียนมาติดๆ
“ของข้า!” ปฐมเทพทุนเทียนได้ผลไม้สีเงินมาไว้ในมืออย่างราบรื่น
“ของล้ำค่าชิ้นนี้มอบให้ข้าได้หรือไม่?”
คำพูดของปฐมเทพซือคงค่อนข้างนุ่มนวล
วู้ม! ในยามที่ปฐมเทพซือคงลอยตัวลงมา ผู้แข็งแกร่งที่เหลือรอบด้านพลันสัมผัสได้ถึงการรบกวนของพลังเสวียนอ้าวที่แปลกประหลาดกลุ่มหนึ่ง การโจมตีของพวกเขาเปลี่ยนเป็นช้าลงอย่างยิ่งทันที
“นี่คือเสวียนอ้าวความเร็ว!”
เทพแท้จริงขั้นสี่คนหนึ่งร้องอย่างตกใจ
เสวียนอ้าวความเร็วสามารถเปลี่ยนแปลงความช้าเร็วของการโจมตี ทำให้ปลดปล่อยออกไปได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
ในขณะเดียวกัน หากเสวียนอ้าวความเร็วถึงระดับหนึ่งแล้วละก็ ยังสามารถทำให้การโจมตีของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นเร็วหรือช้าได้
แดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพที่ค่อนข้างพิเศษในดินแดนเทพรกร้าง รับลูกศิษย์ไม่พูดถึงสายเลือด ขอเพียงมีพรสวรรค์ก็ได้แล้ว อีกทั้งเคล็ดวิชาของแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์ล้ำลึกเป็นอย่างยิ่ง แฝงไว้ด้วยศาสตร์นับหมื่นนับพัน
ดังนั้นไม่ว่าอัจฉริยะแบบใด ในแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์ก็มีทั้งนั้น อีกทั้งแต่ละคนยังมีไม้ตาย กลวิธีไม่ธรรมดา
“ฮ่าๆ พลังของพวกเจ้าก็ไม่เท่าไหร่นี่!”
กิเลนเพลิงดำนำเผ่าพันธุ์บรรพกาลจำนวนมหาศาลทะยานเข้ามา
ครืน! กิเลนเพลิงดำกระตุ้นสายเลือด ร่างกายขยายส่วนขึ้นทันใด เพลิงดำพวยพุ่งทั่วร่าง ทุกที่ที่ผ่านมีเปลวเพลิงลุกโหม
เทพแท้จริงขั้นสองจำนวนไม่น้อยถูกเปลวเพลิงของกิเลนเพลิงดำลามลุก เพลิงกลุ่มนั้นแผ่ลามไปทั่วร่างทันใด เผาไหม้ไม่หยุด และยากที่จะดับลงได้
“อ๊าก…”
ปฐมเทพทั่วไปคนหนึ่งรวมทั้งวิญญาณถูกเพลิงกลุ่มนี้เผาไหม้ทำลายอย่างสมบูรณ์
“เปลวเพลิงของเจ้านี่มีเสวียนอ้าวทำลายล้างอยู่ด้วย”
มังกรวารีล้างโลกาประเมินกิเลนเพลิงดำแวบหนึ่ง
ไฟดำของกิเลนเพลิงดำ คล้ายกับเพลิงมังกรที่ลุกไหม้ด้วยพลังทำลายล้างดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกามาก แน่นอน หากพลังฝึกตนเทียบเท่ากันแล้วละก็ เปลวเพลิงของมังกรวารีล้างโลกาแข็งแกร่งกว่า
ฟู่!
ในวังข้างบน ของวิเศษอีกหลายอย่างร่วงลงมาอีก อีกทั้งของวิเศษเหล่านี้มีจิตวิญญาณ เมื่อร่วงหล่นลงมาก็หนีไปทั่วทุกทิศ
วู้ม!
ทันใดนั้นในท้องฟ้า มีดวงตามหึมาสีเงินหม่นข้างหนึ่งปรากฏขึ้น ราวกับว่าฝังอยู่ในท้องฟ้า เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว
“กลืนกิน!”
ดวงตาสีเงินหม่นข้างหนึ่ง เคลื่อนที่ไปยังข้างพู่กันด้ามหนึ่งอย่างรวดเร็ว กลางตาฉีกออกเป็นรอยแยกมิติทางหนึ่ง แผ่กระจายพลังดึงดูดที่แข็งแกร่งออกมา และดูดพู่กันด้ามนี้เอาไว้
วู้ม วู้ม!
พู่กันด้ามนี้ก็เป็นของวิเศษประเภทมิติเช่นกัน มันต่อต้านอย่างสุดกำลัง
“ไป!”
ผู้แข็งแกร่งหลายคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติซัดพลังฝ่ามือมิติแต่ละสายออกมา
ครืน!
พู่กันถูกผลักโดยพลังมิติ ก่อนจะถูกดูดเข้าไปในรอยแยกมิตินั้น
ฟู่! ดวงตาสีเงินมหึมาข้างนั้นหายวับไปทันใด
“สมกับที่เป็นปฐมเทพคงหยวน ใช้วิธีนี้ช่วงชิงของล้ำค่า!”
ปฐมเทพซือคงพูดขึ้นอย่างชมเชยเล็กน้อย
“หึ ซ่อนอยู่ในที่มืด เต่าหดหัว!”
ปฐมเทพทุนเทียนเอ่ยอย่างเหยียดหยาม
แต่เดิมเขาวางแผนไว้ว่าจะสู้กับปฐมเทพคงหยวนสักครั้ง แต่ในยามนี้สถานการณ์วุ่นวายเกินไป ต่อให้รู้วิชา ‘เนตรเเห่งความว่างเปล่า’ ชนิดนี้ เขาก็ไม่อาจสัมผัสถึงที่ซ่อนกายของปฐมเทพคงหยวนได้
เนตรแห่งความว่างเปล่า คือกลวิธีข้ามขอบฟ้าที่สำแดงโดยการใช้เสวียนอ้าวมิติ ใน ‘เนตรแห่งความว่างเปล่า’ ของปฐมเทพคงหยวน ไม่มีผู้ใดรู้ว่าปฐมเทพคงหยวนซ่อนอยู่ที่ใดกันแน่
ในยามนี้ ที่ที่ห่างจากวังโปร่งแสงไกลลิบนั่น ในท้องฟ้าซ่อนเงาคนที่มองไม่เห็นเอาไว้ร่างหนึ่ง
“เป็นอาวุธเทพมิติประเภทโจมตีที่แข็งแกร่งนัก!”
ปฐมเทพคงหยวนพิจารณาพู่กันในมืออย่างละเอียด แม้กระทั่งอาวุธประเภทโจมตีที่อยู่ในมือตน ถึงแม้จะแฝงไว้ด้วยเสวียนอ้าวมิติแต่ก็เทียบกับพู่กันด้ามนี้ไม่ได้เลย
วู้ม วู้ม!
ปฐมเทพคงหยวนโคจรพลังเทพและพลังวิญญาณขึ้นกำราบพู่กันด้ามนี้อย่างช้าๆ
แต่ความคิดส่วนใหญ่ของเขากลับยังคงสำรวจไปทั่วท้องฟ้า
“ชุดคลุมมิติ ไม่รู้ว่าข้าจะได้เจ้ามาหรือไม่!”
สายตาของปฐมเทพคงหยวนจับจ้องไปยังเสื้อคลุมสีเงินหม่นที่อยู่ในวังโปร่งแสง
สำหรับความลับเกี่ยวกับ ‘ชุดคลุมมิติ’ ในดินแดนเทพรกร้างมีเพียงผู้แข็งแกร่งน้อยคนเท่านั้นที่รู้ คนจำนวนมากที่อยู่ที่นี่ เห็นเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็ไม่มีใครจำได้ แต่ปฐมเทพคงหยวนเป็นอัจฉริยะชั้นยอดของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งมิติ จึงรู้อะไรมาบ้าง
“หากข้าได้ ‘ชุดคลุมมิติ’ มา ทางสู่เทพโบราณก็จะง่ายขึ้นอีกมาก ความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นจอมเทพก็มากขึ้นอีกนิด!”
ปฐมเทพคงหยวนปรารถนาในชุดคลุมมิติตัวนี้เป็นอย่างมาก
แต่ว่า ‘ชุดคลุมมิติ’ ในตอนนี้ลอยล่องตามอำเภอใจไปในวังโปร่งแสง
ส่วนปฐมเทพคงหยวนก็ไม่กล้าเข้าใกล้วังโปร่งแสง ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่รอชุดคลุมมิติออกมาเอง
“เอ๋? ดวงตาสีทองข้างนั้น!”
ในยามนี้เอง ปฐมเทพคงหยวนพบว่าในท้องฟ้ามีดวงตาสีทองมหึมาข้างหนึ่งปรากฏขึ้น
เนตรสวรรค์ข้างนี้ ใหญ่กว่า ‘เนตรแห่งความว่างเปล่า’ ที่เขาสำแดงออกมามากนัก อีกทั้งยังเข้มงวดยิ่งกว่า ผสานไปกับฟ้าดินได้แนบแน่นเป็นที่สุด พลังอำนาจล้นฟ้า
“เนตรสีทอง เนตรทำลายล้าง? แต่เนตรทำลายล้างเหตุใดจึงใช้เสวียนอ้าวมิติได้?”
ปฐมเทพคงหยวนตกอยู่ในห้วงภวังค์
ยามที่เผชิญหน้ากับดวงตาสีทองข้างนี้ เนตรแห่งความว่างเปล่าที่ปฐมเทพคงหยวนภูมิใจกับมันมาตลอดก็ยังเต้นโครามคราม
“ท่าทางในมุมมืดยังซ่อนอัจฉริยะที่สุดยอดเอาไว้อีก เป็นไปได้มากว่าคือคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์”
ปฐมเทพคงหยวนพูดพึมพำ
แดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์มีอัจฉริยะทุกรูปแบบ ถึงแม้แดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์จะก่อตั้งขึ้นค่อนข้างช้า แต่แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ดูแคลนไม่ได้เลย กระทั่งว่าอีกไม่นานเท่าไหร่ก็จะสามารถไล่ตามแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพส่วนใหญ่ได้ทัน
“เป็นตาสีทองข้างนี้อีกแล้วงั้นรึ!”
“บัดซบ ตกลงแล้วมันเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งมิติหรือไม่!”
ในตอนนี้ เนตรสีทองข้างนี้ปรากฏขึ้นหลายครั้งแล้ว
อีกทั้งกลวิชาของเนตรสีทองแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก การโจมตีชั้นวัตถุไม่มีผลอะไรกับมันเลย มีเพียงแค่การโจมตีวิญญาณของเทพแท้จริงขั้นสี่เท่านั้นจึงจะสามารถสั่นคลอนมันได้
“เอ๋ ของล้ำค่าชิ้นนี้เหมือนจะเป็นมิติเก็บของ!”
สายตาของเทพคงหยวนเพ่งไปยังกำไลข้อมือสีเงินวงหนึ่ง
ของล้ำค่าที่ได้รับที่นี่ โดยปกติแล้วไม่สามารถเก็บเข้าไปในมิติเก็บของได้ อีกทั้งไม่มีเวลาไปสยบมัน
แต่หากสยบอาวุธเทพที่ได้รับมาชิ้นแรกจากมิติเก็บของ ก็จะสามารถเก็บของล้ำค่าชิ้นต่อมาที่ได้รับลงไปข้างในได้ทันที
วู้ม วู้ม!
ดวงตาสีเงินหม่นขนาดมหึมาปรากฏขึ้นเหนือมิติเก็บของนี้
“ปฐมเทพคงหยวนลงมืออีกแล้ว!”
ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่เตรียมจะช่วงชิงกำไลสีเงินทอดถอนใจ
แต่ทันใดนั้น อีกข้างหนึ่งของกำไลสีเงินอันนั้นก็มีเนตรสีทองใหญ่มหึมาค่อยๆ ปรากฏขึ้น
การปรากฏขึ้นของมันเหมือนกับว่าท้องฟ้าผืนนี้ลืมตาขึ้นอย่างไรอย่างนั้น พลังน่าหวาดหวั่นสองกลุ่มที่ต่างคุณสมบัติกันพลันแผ่กระจาย ผู้แข็งแกร่งบางคนอดถอยหลังไปไม่ได้ พวกเข้าไม่กล้าจะช่วงชิงกับสวรรค์