Skip to content

King of Gods 1221

King Of Gods

บทที่ 1221 จ้าวเฟิงลงสนาม

ขั้วอำนาจที่จ้าวเฟิงเคยยั่วโทสะในพื้นที่ลับรกร้างโบราณมีเผ่าหยกทอง เผ่ามังกรเกล็ดฟ้า เผ่าปีศาจวารีสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์มิติ

หนำซ้ำขั้วอำนาจจำนวนเล็กน้อยเหล่านี้ล้วนเสียเปรียบจ้าวเฟิง จึงย่อมไม่เอาเรื่องเขาไปป่าวประกาศ อย่างมากสุดก็ทำเพียงลอบสืบและปล่อยข่าวลือ

ขั้วอำนาจใหญ่น้อยที่เดินทางมางานประลองยุทธ์ผาเก่าครั้งนี้มีทั้งหมดสามสิบกว่าแห่ง ฝ่ายที่รู้จักจ้าวเฟิงมีน้อยนิด

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ชื่อเสียงของจ้าวเฟิงในตอนนี้ก็ไม่ด้อยกว่าอัจฉริยะของขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอดทั่วไปแม้แต่น้อย

จำนวนคนที่คิดจะประลองกับจ้าวเฟิงอาจมากกว่าคนที่อยากประลองกับผู้ถูกเลือกบนรายชื่อปฐมเทพเสียด้วยซ้ำ

“โดนปฐมเทพเหลยหมิงตัดหน้าไปก่อนแล้ว!”

ปฐมเทพหมัวกุ่ยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์

แต่พลังของปฐมเทพเหลยหมิงก็แข็งแกร่งนัก และยังชำนาญเสวียนอ้าวสายฟ้า พลังการโจมตีก็น่าสะพรึง

“ไม่ต้องรีบร้อน ให้ปฐมเทพเหลยหมิงได้ลองก่อนพอดี!”

เทพแท้จริงขั้นสี่ข้างปฐมเทพหมัวกุ่ยเอ่ยช้าๆ

“หาเรื่องเองย่อมต้องรับผิดชอบเอง!”

สายตาปฐมเทพตี้หลินจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง

ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง แต่เขาก็มองออก อัจฉริยะปฐมเทพจำนวนมากตรงนั้นมองจ้าวเฟิงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน

อีกด้าน ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงสามคนฝ่ายหอมังกรเหลืองก็เริ่มสังเกตบริเวณใกล้ตัวจ้าวเฟิง

“สตรีที่ใส่ผ้าคลุมนั่นก็คือหานหนิงเอ๋อร์!”

สีหน้าเทพแท้จริงจ้งถู่เคร่งขรึม

“จะปล่อยนางให้ไปเขตเทพสวรรค์ไม่ได้เด็ดขาด!”

เทพแท้จริงอีกคนหนึ่งเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยว

เขตเทพสวรรค์เป็นพื้นที่ที่โดดเด่นในศาสตร์แพทย์ ขั้วอำนาจปกครองคือ ‘แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต’ ในนั้นมีขั้วอำนาจห้าดาวสี่แห่ง มีสองแห่งที่ศึกษาศาสตร์แพทย์โดยเฉพาะ

ถ้าหากหานหนิงเอ๋อร์เดินทางไปถึงเขตเทพสวรรค์ได้สำเร็จ ด้วยพรสวรรค์เนตรชีวิตของนาง จะเข้าร่วมขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอดได้ง่ายดายอย่างยิ่ง ไม่แน่ว่าหากดวงดีอาจไปเตะตาขั้วอำนาจห้าดาวเข้า

“เป็นเจ้าเด็กนี่เองที่พาหานหนิงเอ๋อร์ไป แถมยังสังหารเทพแท้จริงขั้นสาม?”

ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงข้างกายจ้งถู่ แววตาจับจ้องจ้าวเฟิง จนในตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเชื่อ

ฟิ้ว! ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงโดดลงไปบนลานประลองด้านล่าง

“ข้าปฐมเทพเหลยหมิง เจ้าเป็นใคร? ขานชื่อมา!”

ปฐมเทพเหลยหมิงมองจ้าวเฟิงด้วยสายตาเย็นชา

“ข้าคือคนที่จะเอาชนะเจ้า!” จ้าวเฟิงเอ่ยเนิบนาบ

“ได้!” ดวงตาปฐมเทพเหลยหมิงเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เอ่ยออกมาคำหนึ่ง

ฟิ้ว วู้ม วู้ม! เหนือมือสองข้างของปฐมเทพเหลยหมิงเกาะกลุ่มเป็นแสงสายฟ้าลั่นแปลบปลาบสองลูก สายฟ้าเต้นระริกอย่างบ้าคลั่ง อานุภาพกดดันผู้คน

“สวรรค์ คิดไม่ถึงเลยว่าเสวียนอ้าวสายฟ้าของปฐมเทพเหลยหมิงจะถึงขั้นที่สองแล้ว!”

กลุ่มคนรอบบริเวณร้องออกมาอย่างตื่นตะลึง

คนขั้นปฐมเทพที่สามารถทำความเข้าใจในเสวียนอ้าวได้ นับว่าเป็นยอดฝีมือในบรรดาปฐมเทพ ส่วนปฐมเทพเหลยหมิงถึงขั้นครอบครองเสวียนอ้าวสายฟ้าขั้นที่สองเลยทีเดียว

“หนุ่มผมทองผู้นั้นน่าจะตั้งรับปฐมเทพเหลยหมิงได้ไม่ถึงห้ากระบวนท่าด้วยซ้ำ!”

คนจำนวนไม่น้อยยิ้มเอ่ยอย่างยินดีที่เห็นคนอื่นลำบาก

เสวียนอ้าวสายฟ้าเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเสวียนอ้าวโจมตีที่มีพลังทำลายล้างแข็งแกร่งที่สุด

ความมุทะลุเมื่อครู่ของจ้าวเฟิง หากประมือกับปฐมเทพเหลยหมิงได้ไม่ถึงห้ากระบวนท่า ต้องขายหน้าอย่างยิ่ง

บึ้ม แซ่ด แซ่ด! ทั้งลานประลองเต็มไปด้วยแสงสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน

ร่างปฐมเทพเหลยหมิงเหมือนกลายเป็นแสงอัสนีขนาดยักษ์กลุ่มหนึ่ง แสงที่เปล่งประกายในนั้นสว่างอย่างยิ่งในม่านราตรีที่เงียบเหงา

“คมอัสนีบาต!” ในขณะที่ปฐมเทพเหลยหมิงวูบวาบไปเบื้องหลังจ้าวเฟิง มือสองข้างก็ผลักออกไปทันใด

ฉับพลันนั้น พลังสายฟ้าที่ไร้ขอบเขตทั่วบริเวณผสานเข้าไปในกลุ่มแสงอัสนีในมือของเขา กลายเป็นหนามแหลมสายฟ้าสองแท่งพุ่งทะลวงไปหาจ้าวเฟิง

“กายศักดิ์สิทธิ์อัสนี!”

สีหน้าจ้าวเฟิงสงบนิ่ง กระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทันที

โครม แซ่ด แซ่ด!

บนร่างจ้าวเฟิงมีสายฟ้าห้าสีวิ่งไปทั่ว แรงกดดันแก่นแท้พลังที่ทำให้คนหายใจไม่ออกพวยพุ่งออกไปรอบๆ

“หืม?” ปฐมเทพเหลยหมิงร้องด้วยความฉงน

เขาคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะเป็นผู้ฝึกฝนร่างกายศาสตร์อัสนี อีกทั้งเสวียนอ้าวสายฟ้าของจ้าวเฟิงก็ไปแตะขั้นที่สอง อีกทั้งพลังกายก็มากมายนัก ทำให้ปฐมเทพเหลยหมิงต้องแบกรับแรงกดดันในระดับหนึ่งจนทั่วร่างรู้สึกไม่สบายนัก

แต่ปฐมเทพเหลยหมิงไม่รู้ จ้าวเฟิงไม่ได้ทุ่มเทพลังออกมาทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ

หากจ้าวเฟิงลงมือจนสุดพลัง ต่อให้เป็นปฐมเทพเทียนเสวี่ยก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่หากทำเช่นนั้นจะเขย่าขวัญจนเกินไป

อีกอย่าง ศัตรูที่คอยซุ่มดูจ้าวเฟิงมีจำนวนมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงเลือกซ่อนกำลังรบที่แท้จริงเอาไว้

ตูม! สายฟ้าของปฐมเทพเหลยหมิงโจมตีไปบนร่างจ้าวเฟิง

หลังจากสายฟ้าสองกลุ่มเกี่ยวกระหวัดกันครู่หนึ่ง การโจมตีของปฐมเทพเหลยหมิงไม่ได้สร้างอาการบาดเจ็บแก่จ้าวเฟิงเท่าไหร่นัก

ตูม!

จ้าวเฟิงโคจรแก่นแท้พลังและพลังเทพ ส่งหมัดอัสนีห้าสีสายหนึ่งออกมา

“ฮ่าๆ การโจมตีเช่นนี้ ยังคิดจะว่าโดนข้าหรือ?”

ร่างปฐมเทพเหลยหมิงประหนึ่งสายฟ้า ผละออกไปอย่างรวดเร็ว รีบหลบการโจมตีของจ้าวเฟิง

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

บนลานประลอง สายฟ้าน่ากลัวเกี่ยวกระหวัดเข้าด้วยกัน โจมตีปราการค่ายกลรอบๆ ไม่หยุด

ท่ามกลางสะเก็ดไฟสายฟ้า คนทั้งสองประมือหลายกระบวนท่า

จ้าวเฟิงเป็นผู้ฝึกฝนร่างกายศาสตร์อัสนี จึงมีแรงต้านทานสายฟ้าพอดี

ส่วนปฐมเทพเหลยหมิงรวดเร็วยิ่ง สามารถหลบหลีกการโจมตีรุนแรงของจ้าวเฟิงได้ทุกครั้ง

ผู้ชมรอบบริเวณก็คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะต่อสู้กับปฐมเทพเหลยหมิงได้อย่างสูสี

แต่มีเพียงปฐมเทพเหลยหมิงที่รู้ตัวเองดีว่าสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ลำบากยิ่งนัก

ทุกครั้งที่เข้าใกล้จ้าวเฟิงในระยะหนึ่ง เขาจะรู้สึกได้ถึงแก่นแท้พลังสายฟ้าอันไร้รูปร่างที่กดดันมา แต่เขากลับไม่อาจทำร้ายจ้าวเฟิงได้แม้แต่น้อย

อีกทั้งดูเหมือนเขาจะหลบหลีกการโจมตีของจ้าวเฟิงได้ แต่ก็มักจะมีเศษเสี้ยวพลังที่คนทั่วไปสัมผัสไม่เจอกระแทกบนร่าง ยิ่งปฐมเทพเหลยหมิงต่อสู้ก็ยิ่งตื่นตะลึง เขาไม่อาจทำร้ายจ้าวเฟิงได้เลย

แต่ฝ่ายตรงข้ามทำเหมือนแค่กำลังเล่นกับตนเอง ทั้งดูสบายๆ ค่อยๆ ตัดทอนกำลังเขาไปทีละน้อยๆ

“หมื่นประกายอัสนี!”

ปฐมเทพเหลยหมิงกัดฟันกรอด ทั่วร่างเปล่งระลอกแสงสายฟ้าหลายชั้น

ในเวลาเดียวกัน สายฟ้าในลานประลองก็พลันเปล่งแสงประกายแล้วหมุนวนรอบปฐมเทพเหลยหมิง

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? คิดไม่ถึงเลยว่าปฐมเทพเหลยหมิงจะสำแดงหมื่นประกายอัสนี นั่นเป็นไม้ตายที่ลือชื่อของเขาเชียวนะ!”

“อาจเพราะร่างกายของเจ้าเด็กนั่นแข็งแกร่งจนเกินไป ปฐมเทพเหลยหมิงจึงจะใช้กระบวนท่านี้ฝ่าการป้องกัน เอาชนะอีกฝ่าย!”

คนไม่น้อยรอบๆ มองเห็นภายในไม่ชัดนัก จึงได้แต่คาดเดากันไป

แต่ในตำหนักแห่งหนึ่ง แววตาของปฐมเทพจื่อเฟิงจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง

“เจ้าคนนี้มีความสามารถไม่เลวเลย!”

ปฐมเทพจื่อเฟิงเผยสีหน้าประหลาดใจ

“ทำลาย!” ปฐมเทพเหลยหมิงตะโกนเสียงกร้าว เขากลายร่างเป็นแสงสายฟ้าแสบตาพุ่งไปหาจ้าวเฟิง

“ควรจบลงได้แล้ว!” จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเบาด้วยสีหน้าราบเรียบ

ตูม เปรี้ยง!

ใจกลางลานประลองปรากฏอสรพิษสายฟ้านับไม่ถ้วน ฟ้าที่มืดมิดสว่างดุจกลางวัน

แสงสายฟ้าอับแสงลงไปอย่างรวดเร็ว ใจกลางลานประลองมีคนยืนนิ่งสงบ คนผู้นั้นก็คือ จ้าวเฟิง

ส่วนปฐมเทพเหลยหมิงนอนแผ่ราบที่เบื้องหน้าเขา ร่างกายไหม้เกรียม ลมหายใจรวยริน

พรึ่บ! รอบบริเวณตกอยู่ในความโกลาหล

“เป็นไปได้อย่างไร? แพ้แล้ว?”

“ปฐมเทพเหลยหมิงแพ้ได้อย่างไร?”

ตามตรรกะแล้ว ปฐมเทพเหลยหมิงปลดปล่อย ‘หมื่นประกายอัสนี’ จ้าวเฟิงต้องพ่ายแพ้ไปแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน

แต่แสงสายฟ้าตอนนั้นสว่างแสบตาเกินไป คนจำนวนมากจึงเห็นไม่ชัดเจนนักว่าปฐมเทพเหลยหมิงแพ้ไปได้อย่างไร

สวบ! ร่างผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงในขั้วอำนาจเดียวกับปฐมเทพเหลยหมิงร่อนลงบนลานประลอง

ผู้อาวุโสคนนี้จ้องจ้าวเฟิงถมึงทึง ก่อนจะพาปฐมเทพเหลยหมิงจากไปในทันที

“เจ้าเด็กนี่หนังเหนียวเกินไป ไม่เช่นนั้นคนแแพ้ต้องเป็นเขาแน่!”

จนสุดท้าย ทุกคนก็ได้แต่เข้าใจไปว่า เหตุผลที่จ้าวเฟิงชนะก็เพราะเขาเป็นผู้ฝึกฝนร่างกายศาสตร์อัสนี ซึ่งข่มปฐมเทพเหลยหมิงเอาไว้พอดี

หลังจากที่การต่อสู้จบลง จ้าวเฟิงเดินกลับมาข้างพวกเผ่าหมอกสวรรค์

“สหายจ้าว เจ้าเก็บงำพลังเอาไว้หรือ?” ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงถามอย่างสงสัย

ตอนที่จ้าวเฟิงสู้กับโหวชิ่ง พลังสายฟ้าไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้

แต่ในการประลองเมื่อครู่ กำลังรบที่จ้าวเฟิงปลดปล่อยออกมาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก

จึงเข้าใจได้เพียงว่าจ้าวเฟิงซุกซ่อนพลังเอาไว้

“อืม!” จ้าวเฟิงผงกศีรษะน้อยๆ ไม่แจกแจงอะไร

“ข้าอยากท้าประลองปฐมเทพจินเจิน (เทพทอง)!”

ลานประลองสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเมื่อปรากฏบุรุษหนุ่มผิวคล้ำ รูปร่างใหญ่กำยำ ใบหน้าคมชัด

ส่วนปฐมเทพจินเจินที่เขาอยากจะประลองด้วย คือผู้ถูกเลือกในยี่สิบลำดับแรกของรายชื่อปฐมเทพ

“มีคนจะท้าประลองอัจฉริยะในรายชื่อปฐมเทพเร็วขนาดนี้เชียวหรือ!”

กลุ่มคนรอบบริเวณตื่นเต้นขึ้นทันที

“เหอะ อยากจะประลองกับปฐมเทพจินเจิน ต้องผ่านข้าไปก่อน!”

ฝั่งขั้วอำนาของปฐมเทพจินเจิน ร่างคนในชุดสีทองกระโจนออกมา

งานประลองยุทธ์ของผาเก่าครั้งนี้ มีอัจฉริยะจำนวนมากที่มาเพราะผู้ถูกเลือกในรายชื่อปฐมเทพ แต่ผู้ถูกเลือกในรายชื่อปฐมเทพย่อมไม่อาจรับคำท้าประลองของทุกคน จึงจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เช่นนี้

ทันทีที่มีคนท้าประลองผู้ถูกเลือกในรายชื่อปฐมเทพ จะมีคนอื่นในขั้วอำนาจของผู้ถูกเลือกคนนั้นเสนอตัวแทน ต้องเอาชนะให้ได้ครั้งหนึ่งก่อน จึงจะสามารถประลองกับผู้ถูกเลือกในรายชื่อปฐมเทพได้

“ตกลง เช่นนั้นก็ลองฝีมือกับเจ้าก่อนแล้วกัน!”

บุรุษหนุ่มผิวเข้มผู้นี้ระเบิดพลังออกจากทั่วร่าง ทำให้ในลานประลองปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันสีเหลืองเข้ม

“นี่คือ?” บุรุษหนุ่มชุดทองสีหน้าอึ้งไป

ยามนั้น เขารู้สึกเหมือนธรรมชาติถูกควบคุมจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนเขาก็ถูกกดดันขัดขวางอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พลังจึงลดลงไปหลายส่วน

“แสงทองพิฆาต!”

บุรุษหนุ่มชุดทองส่งแสงสีทองที่แหลมคมกลุ่มหนึ่งพุ่งตรงไปหาชายผิวเข้ม

“ชิมหมัดข้าสักหน่อยแล้วกัน!”

หมัดชายผิวเข้มโอบล้อมด้วยฝุ่นสีเหลือง เหนี่ยวนำพลังธาตุดินมหาศาลพุ่งตรงไปหาอีกฝ่ายในฉับพลัน

“ทรงพลังนัก!” ประมือกันไปหนึ่งกระบวนท่า บุรุษผมทองก็เริ่มระแวดระวังมากขึ้น

พลังของชายผิวเข้มผู้นั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง พลังป้องกันก็ชวนตกตะลึง ถึงจะเป็นการโจมตีศาสตร์ทองของเขาก็ยังยากจะทำลายล้าง

สมาชิกที่ชมการประลองอยู่รอบๆ ก็เริ่มสนใจชายผิวเข้มผู้นั้นเช่นกัน

เมื่ออีกฝ่ายสามารถประลองกับอัจฉริยะในขั้วอำนาจเดียวกันกับปฐมเทพจินเจินได้อย่างสูสี ก็นับว่ามากความสามารถไม่น้อยแล้ว

“คนผู้นี้เป็นอัจฉริยะผู้หนึ่งที่สำนักมังกรพรางกายไปเจอเมื่อหลายปีก่อนกระมัง?”

“ได้ยินมาว่าเขามีสายเลือดบรรพกาลที่แปรสภาพ!”

คนในที่แห่งนี้มีมากมาย ต้องมีใครบางคนที่ล่วงรู้ประวัติของเขา

“สายเลือดบรรพกาลที่แปรสภาพ?”

รอบด้านตกอยู่ในความตื่นตระหนกอีกครั้ง

สายเลือดบรรพกาลมีความเป็นมายาวนานจนถึงตอนนี้ จะกลายพันธุ์ไปบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ด้วยเพราะมีการแต่งงานข้ามเผ่าพันธุ์ไปมา แต่การกลายพันธุ์นี้มีทั้งดีและด้อย ชายหนุ่มผิวเข้มตรงหน้าน่าจะเป็นการกลายพันธุ์ที่ดี

ตูม! การประลองบนลานดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มชุดทองค่อยๆ ตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ถึงขั้นไม่กล้าจะปะทะกับชายผิวเหลืองอย่างจัง

“ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้!”

ชายผิวเข้มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะโคจรพลังสายเลือดพิเศษ แล้วปล่อยหมัดลงบนพื้นอย่างรุนแรง

โครม ผัวะ ผัวะ!

ธุลีดินบนลานประลองเกาะกลุ่มกลายเป็นโคลนทันที พวกมันก่อตัวเป็นกำแพงดิน ล้อมคนทั้งสองเอาไว้ภายใน

บึ้ม ตูม! กำแพงที่เกิดจากดินโคลนบดบังการประลองที่เกิดขึ้นภายในเอาไว้จนหมดสิ้น

หากประสาทสัมผัสเทพไม่แข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นก็ยากจะมองทะลุกำแพงที่เกิดจากพลังสายเลือดและชมการต่อสู้ภายใน

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงกระตุ้นพลังในการมองทะลุผ่านของดวงตาซ้ายโดยไม่รู้ตัว

ทันใดนั้น ทุกสรรพสิ่งเบื้องหน้าก็กลายเป็นโลกอณูสีทองเล็กละเอียด

กำแพงที่เกิดจากดินโคลนถูกจ้าวเฟิงมองผ่านไป

แต่สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปทันควัน เมื่อจ้องไปที่ด้านล่างลานประลอง

“ใต้ดินมีคน?” จ้าวเฟิงใจสั่นระรัว ใช้ดวงตาซ้ายสำรวจอย่างละเอียด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!