Skip to content

King of Gods 1224

King Of Gods

บทที่ 1224 ใกล้ปิดฉาก

นี่คือการต่อสู้ครั้งแรกของงานประลองยุทธ์ผาเก่าที่ผู้ถูกเลือกในรายชื่อปฐมเทพเข้าร่วมด้วย คนทั้งหมดรอบบริเวณจึงตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“รับหมัดข้าไปเสีย!”

ชายผิวเหลืองทะยานออกมา เข้าปะทะกับปฐมเทพจินเจินอย่างรุนแรงทันที ในวินาทีที่เขาขยับกาย ฝุ่นธุลีสีเหลืองเข้มในลานประลองทั้งหมดปั่นป่วนตามไปด้วย

“แสงทองพิฆาต!”

แววตาของปฐมเทพจินเจินเย็นชา แสงสีทองแสบตาขยับวิบวับบนมือซ้าย กลายเป็นดวงอาทิตย์ทองขนาดเล็กในช่วงกลางคืน

ฟุ่บ เปรี๊ยะ! เมื่อฝ่ามือและหมัดปะทะเข้าหากัน พลังที่น่ากลัวหมุนกวาดไปรอบบริเวณ ชายผิวเหลืองและปฐมเทพจินเจิน แต่ละคนถอยไประยะหนึ่ง

“พลังของท่านไม่เลวเลย ข้าจะทุ่มพลังทั้งหมดแล้ว!”

ชายผิวเหลืองหัวเราะร่วน จิตต่อสู้ปั่นป่วนพลุ่งพล่าน แววตาเปลี่ยนแปลงไปทันที

โครม ครืน ครืน! หมอกธุลีสีเหลืองเข้มในลานประลองค่อยๆ เกาะบนผิวกายชายผิวเหลือง เปลี่ยนเป็นก้อนดินที่แข็งเป็นพิเศษ ชายผิวเหลืองในตอนนี้เหมือนกลายเป็นสัตว์ประหลาดหินขนาดยักษ์ ส่งแรงกดดันมหาศาลออกมา

“ต่อให้เจ้ามีสายเลือดบรรพกาลที่แปรสภาพ แต่ก็ยังสู้สายเลือดของข้าไม่ได้อยู่ดี!”

ปฐมเทพจินเจินตะโกนเสียงกร้าว แววตาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง

วู้ม! เห็นเพียงเลือดสีทองจำนวนหนึ่งค่อยๆ ไหลออกมาจากร่างปฐมเทพจินเจิน

เลือดเกาะกลุ่มบนฝ่ามือปฐมเทพจินเจินอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นกระบี่ยาวสีทอง

“ทั้งสองคนนี้ใกล้จะใช้พลังสายเลือดแล้ว!”

“สายเลือดของปฐมเทพจินเจินจะดึงเลือดออกมาเกาะกลุ่มจนกลายเป็นอาวุธเทพลักษณะใดก็ได้!”

เขาเบญจดาราและรอบบริเวณสั่นสะเทือน

งานประลองยุทธ์ผาเก่าเพียงแค่ประลองฝีมือกันเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้อาวุธเทพ แต่สายเลือดของปฐมเทพจินเจินให้พรสวรรค์ในการฝึกแก่เขา ทั้งยังกลายเป็นอาวุธเทพโจมตีได้ ทว่าเลือดของชายผิวเหลืองก็ไม่ธรรมดายิ่ง

เป็นเพราะเหตุนั้น การต่อสู้นี้ถึงทำให้ผู้คนฮึกเหิมอย่างนั้น

โครม ตู้ม! ตอนที่ทุกคนอุทานอย่างตื่นตะลึง คนสองคนบนลานประลองก็ปะทะเข้าหากันแล้ว ทุกครั้งที่สองคนประมือกันจะส่งเสียงโครมครามเลื่อนลั่น แสงสีทองพุ่งออกมาทั่วทิศทาง

“แข็งแกร่งเหลือเกิน!” ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงอุทานอย่างอดไม่ได้

“คนที่เป็นหนึ่งในรายชื่อปฐมเทพได้ อย่างน้อยต้องเป็นปฐมเทพขั้นสาม!”

จ้าวเฟิงมองการต่อสู้ของทั้งสองคนพลางเอ่ยเสียงต่ำ

ไม่ได้ทะลวงขั้นเทพแท้จริง แต่พลังถึงเทพแท้จริงขั้นสาม เงื่อนไขนี้สูงไม่ธรรมดาเลย!

แน่นอนว่าจ้าวเฟิงไปถึงเงื่อนไขนี้นานแล้ว อีกทั้งไม่นานก่อนนี้ เสวียนอ้าวห้าธาตุและเสวียนอ้าววายุอัสนีของจ้าวเฟิงผ่านขอบเขตขั้นที่สองทั้งหมด พลังของเขาจึงก้าวกระโดดอีกครั้ง

‘หากไม่ใช้ชุดคลุมมิติ ในตอนนี้ข้าสามารถรับมือเทพแท้จริงขั้นสี่ น่าจะอยู่แค่รายชื่อปฐมเทพลำดับที่ห้าโดยประมาณ!’

จ้าวเฟิงคาดคะเนในใจ

พูดได้ว่า ผู้ถูกเลือกห้าลำดับแรกในรายชื่อปฐมเทพจะมีพลังของเทพแท้จริงขั้นสี่ทั่วไป

ตามที่จ้าวเฟิงรู้มา ผู้ถูกเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตผาเก่าก็คือ ‘ปฐมเทพทุนเทียน’ ของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภา ว่ากันว่าเป็นไปได้ที่เขาจะทะลวงผ่านขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นสี่แล้ว

จ้าวเฟิงเคยเห็นพลังของปฐมเทพทุนเทียนในพื้นที่ลับรกร้างโบราณมาก่อน ถ้าหากเขาลงมือสุดพลัง ก็อาจจะสามารถต้านทานพลังเทพแท้จริงขั้นห้าได้

ปฐมเทพที่มีพลังของเทพแท้จริงขั้นห้า เป็นผู้ถูกเลือกที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดในเขตผาเก่า

“ทันทีที่ ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ทะลวงถึงขั้นสิบสอง บวกกับพลังเสวียนอ้าวประเภทต่างๆ และกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แล้ว ข้าน่าจะสามารถต้านทานเทพแท้จริงขั้นห้าได้!”

จ้าวเฟิงคาดหวังรอคอยสิ่งนี้อยู่บ้าง เขาตั้งเงื่อนไขกับตนเองอย่างเคร่งครัด ในเมื่อคนอื่นสามารถไปถึงมาตรฐานที่สูงส่งขนาดนี้ เช่นนั้นตนเองก็ต้องทำได้เช่นกัน

ความช่วยเหลือที่ดวงตาเทพเจ้ามอบให้จ้าวเฟิง ไม่ด้อยกว่าสายเลือดของผู้ถูกเลือกห้าลำดับแรกในรายชื่อปฐมเทพเลย

โครม บึ้ม! บนลานประลอง เสียงดังอึกทึกขึ้นไม่หยุด แสงสีทองแสบตาอย่างยิ่ง

การโจมตีของชายผิวเหลืองบ้าคลั่งดุเดือด ทำให้ไม่กล้างัดข้อด้วย

ส่วนการโจมตีของปฐมเทพจินเจินเกาะกลุ่มรวมตัวกันเพียงจุดเดียว แม่นยำอย่างยิ่ง เป็นคมแสงแหลมคมที่ทำลายล้างทั้งหมด

“สองคนนี้เป็นหอกและโล่อย่างแท้จริง!”

“ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นหอกทำลายโล่ หรือว่าจะเป็นโล่ทำให้หอกทื่อ!”

อารมณ์ของกลุ่มคนรอบบริเวณถูกการต่อสู้ของทั้งสองดึงดูดเอาไว้

ศึกของทั้งคู่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็ยังไม่มีผลแพ้ชนะที่เห็นได้ชัด

“แสงทองสะท้านฟ้า!”

“ฝังกลบพสุธา!”

ยามนั้น คนทั้งสองสำแดงอาวุธสังหารออกมาในทันที

บึ้ม ครืน ครืน!

ทั้งลานประลองสะเทือนอย่างรุนแรง เหนือลานปรากฏแสงสว่างสีทองนับไม่ถ้วน ทำให้คืนที่มืดมิดกลายเป็นกลางวัน แสงสว่างกระจายตัวออกไป มีคนลอยตัวอยู่เหนือลานประลอง ชายผู้นั้นก็คือปฐมเทพจินเจิน

“ปฐมเทพจินเจินเป็นฝ่ายได้ชัย!”

“เป็นการประลองที่ทรงพลังนัก พลังของทั้งสองคนน่ากลัวยิ่ง!”

รอบบริเวณสั่นสะเทือน การประลองรอบนี้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

ถึงแม้ครั้งนี้ชายผิวเหลืองจะพ่ายแพ้ แต่กว่าจะถึงการประลองรายชื่อปฐมเทพยังอีกหลายสิบปี ครั้งหน้าไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นฝ่ายชนะก็เป็นได้

หลังจากการประลองจบลง การต่อสู้นัดต่อมาเริ่มขึ้นทันที

บนลานประลองขนาดยักษ์ การต่อสู้ยังไม่จบลง!

ในระหว่างนั้นก็มีม้ามืดที่ไม่มีชื่อเสียงส่วนหนึ่ง แต่ไม่โดดเด่นเท่าจ้าวเฟิงและชายผิวเหลือง

เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนในที่แห่งนั้นยังฮึกเหิมกระปรี้กระเปร่า

ครืน ตูม! การต่อสู้ดุเดือดบนลานประลองยังดำเนินต่อไป

เปรี๊ยะ!

ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงเข้าสู่ลานประลองก่อน!

“ข้าต้องการท้าประลองกับปฐมเทพหลินกวง!”

ดวงตาของปฐมเทพเจี้ยนเฟิงแหลมคมดั่งกระบี่ มองตรงไปยังปฐมเทพหลินกวงแห่งเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ หลังได้สัมผัสการต่อสู้ของชายผิวเหลืองและปฐมเทพจินเจิน ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงรู้ว่าหากตนเองจะเอาชนะปฐมเทพจินเจินก็ยากลำบากนัก

แต่ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงกลับไปท้าประลองกับปฐมเทพหลินกวงที่ลำดับรายชื่อปฐมเทพสูงกว่า แน่นอนว่านี่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล

หนึ่ง เผ่าปีศาจวารีสวรรค์และเผ่าหมอกสวรรค์เป็นขั้วอำนาจที่เป็นศัตรูกัน

สอง ปฐมเทพหลินกวงย่อมต้องไม่ออมมือ ทำให้ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงรู้สึกกดดันและไม่ปลอดภัยมากขึ้น

ทำได้เพียงรอตอนประลองรายชื่อปฐมเทพ เจี้ยนเฟิงถึงมีความเป็นไปได้ที่จะติดยี่สิบลำดับแรก

“ใช้พลังแต่พอตัว!”

หญิงชราเผ่าหมอกสวรรค์เอ่ยเสียงต่ำ

ตามธรรมเนียมแล้ว ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงจำต้องเอาชนะสมาชิกเผ่าปีศาจวารีสวรรค์คนอื่นให้ได้ก่อน แต่คนที่เผ่าปีศาจวารีสวรรค์ส่งมา ประมือกับปฐมเทพเจี้ยนเฟิงสามกระบวนท่าก็แพ้ไป

คนทั้งหมดจึงเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่านี่คือเจตนาร้ายของเผ่าปีศาจวารีสวรรค์

เมื่อการต่อสู้ผ่านไปอีกไม่กี่รอบ ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงก็ขึ้นลานประลองอีกครั้ง

ฟุ่บ ฟุ่บ! ปฐมเทพหลินกวงกลายร่างเป็นแสงสีฟ้าอ่อนระยิบระยับ ปรากฏกายขึ้นบนลานประลอง

“ให้ข้าได้เห็นผู้ถูกเลือกของเผ่าหมอกสวรรค์สักหน่อยเถอะ!”

ปฐมเทพหลินกวงหัวเราะอย่างชั่วร้าย

ก่อนจะประลอง ปฐมเทพหลินกวงจงใจยกยอปฐมเทพเจี้ยนเฟิง

รอให้เขาเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนเถอะ จะสามารถดูหมิ่นเผ่าหมอกสวรรค์ให้ได้อาย!

“ฮ่าๆ ผู้ถูกเลือกที่แท้จริงของเผ่าหมอกสวรรค์ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านผู้นั้นผู้เป็นลำดับที่สิบหกในรายชื่อปฐมเทพ!” ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าปฐมเทพหลินกวงพลันเย็นชา

ในรายชื่อปฐมเทพ ผู้ถูกเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าหมอกสวรรค์อยู่สูงกว่าเขาหนึ่งลำดับ เรื่องนี้เป็นความเจ็บปวดในใจเขาตลอดมา

“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”

ปฐมเทพหลินกวงเอ่ยเสียงทุ้ม ก่อนจะตรงไปหาปฐมเทพเจี้ยนเฟิง

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!

รอบตัวปฐมเทพเจี้ยนเฟิงปรากฏจิตกระบี่ที่สมจริงขยับวูบวาบ

เขาประสานนิ้วทั้งสองเข้าหากัน ปลายกระบี่สีฟ้าอ่อนเล่มหนึ่งก่อตัวขึ้นบนนั้น ทำให้รอบๆ มีแสงเงากระบี่สว่างไสว

โครม เปรี้ยง!

ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในตอนแรกที่ทั้งสองประมือกัน

บึ้ม! ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงถอยร่นไปหลายสิบก้าว กระอักเลือดออกมา แต่จิตกระบี่ของเขาไม่ได้ลดลงไปเลย แหลมคมยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“ดาบวายุ!” ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงอาศัยเสวียนอ้าวแห่งลม สร้างพายุกระบี่ขนาดใหญ่ที่เบาบางไร้รูปร่าง ทำให้คาดเดาอะไรไม่ออก

“ทัณฑ์ประหารม่านวารี!” ปฐมเทพหลินกวงไม่ออมมือแม้แต่น้อย ลงมือกดดันปฐมเทพเจี้ยนเฟิงทันที

หลังจากผ่านไปสิบกระบวนท่า ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ทว่าจิตกระบี่ที่พวยพุ่งออกมาจากร่างเขากลับสมจริงและแหลมคมยิ่งกว่าที่ผ่านมา

“ตอนงานประลองรายชื่อปฐมเทพ เจ้าต้องติดหนึ่งในยี่สิบลำดับแรกแน่นอน!”

จ้าวเฟิงมองปฐมเทพเจี้ยนเฟิงที่หมดแรงด้านข้าง เอ่ยพลางอมยิ้ม

“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น!”

ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงยิ้มมุมปาก

งานประลองยุทธ์ผาเก่าดำเนินต่อไป อัจฉริยะที่แข็งแกร่งมากขึ้นค่อยๆ ปรากฏตัวออกมา อัจฉริยะที่ท้าประลองปฐมเทพในลำดับรายชื่อมีจำนวนไม่น้อย แต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จ

‘ก่อนงานประลองยุทธ์จะจบลง ข้าจะลงมืออีกครั้งหนึ่ง!’

จ้าวเฟิงวางแผนในใจ

อย่างแรก พรสวรรค์และพลังแกร่งกล้าที่จ้าวเฟิงแสดงออกมา ทำให้เขาถูกชักชวนจากขั้วอำนาจส่วนหนึ่ง การผูกมิตรกับพวกเขาจะช่วยคลี่คลายอันตรายที่กำลังจะมาเยือน อย่างที่สอง จ้าวเฟิงยังต้องการบีบให้ชายผิวดำ ‘ทำร้ายตัวเอง’ หากเขาไม่ยอมทำ จ้าวเฟิงจะโคจรเสวียนอ้าวห้าธาตุเพื่อทำให้ค่ายกลแตกก่อนถึงเวลา

เวลาเดินไปอย่างเชื่องช้า งานประลองยุทธ์ต่อเนื่องมาเป็นวันที่สาม ถึงคราวใกล้จะปิดม่านลงแล้ว

“ถึงคราวข้าแล้ว!” จ้าวเฟิงหรี่ตา คอยหาโอกาสเหมาะสม เตรียมจะขึ้นลานประลอง

เปรี๊ยะ! แต่ความเร็วของใครบางคนมากกว่าจ้าวเฟิง เร็วกว่าคนทั้งหมด พุ่งขึ้นลานประลองทันที

“ปฐมเทพกุยอี ขึ้นมาประมือกับข้าเถิด!”

ชายใบหน้าเจ้าเล่ห์ราวอสรพิษบนลานประลองเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาด

“นั่นปฐมเทพปี้ซี (กิ้งก่ามรกต) ผู้ถูกเลือกลำดับที่สิบสี่ในรายชื่อปฐมเทพ!”

รอบลานประลองปั่นป่วนขึ้นทันใด

งานประลองยุทธ์ผาเก่าครั้งนี้มีอัจฉริยะในรายชื่อปฐมเทพทั้งหมดหกคนคือ

ปฐมเทพจื่อเฟิง ปฐมเทพเทียนเสวี่ย ปฐมเทพกุยอี ปฐมเทพปี้ซี ปฐมเทพหลินกวง และปฐมเทพจินเจิน

แต่ทั้งหกคนในรายชื่อปฐมเทพยังไม่เคยประลองด้วยกัน คาดคิดไม่ถึงเลยว่าตอนที่งานประลองยุทธ์กำลังจะจบลง ปฐมเทพปี้ซีก็ท้าทายปฐมเทพกุยอี

“ได้ เจ้าคือผู้ถูกเลือกในรายชื่อปฐมเทพ คนอื่นในขั้วอำนาจของข้าไม่มีใครเป็นคู่มือของเจ้า ข้าจะประมือกับเจ้าเลยแล้วกัน!”

ปฐมเทพกุยอียืนขึ้นทันที

ช่วงสุดท้ายของงานประลองยุทธ์ ได้การต่อสู้ของเขาปิดท้ายก็ไม่เลวเหมือนกัน!

“สองคนในรายชื่อปฐมเทพจะเริ่มประลองกันแล้ว!”

“มาครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวจริงๆ!”

สายตาของทุกคนรอบเขาเบญจดาราทอแสงประหลาด คาดหวังรอคอยเป็นที่สุด

สวบ! ปฐมเทพกุยอีค่อยๆ ร่อนลงบนลานประลอง

ในตอนนี้เอง ปฐมเทพปี้ซีชันกายลุกขึ้น กลายเป็นลำแสงความเร็วสูง ก่อนจะหายตัวไปกลางอากาศ

“พิษผลึกมรกต!” ปฐมเทพปี้ซีชี้ไปในอากาศ หมอกควันสีเขียวอ่อนสายหนึ่งทะลวงความว่างเปล่า ตรงดิ่งไปหาปฐมเทพกุยอี

“เสวียนอ้าวมิติขั้นที่สอง!”

จ้าวเฟิงเพ่งตามอง นอกเหนือจากนี้ปฐมเทพปี้ซียังใช้เสวียนอ้าวที่มีพิษประเภทหนึ่งด้วย

“ฟ้าดินห้าสาย!”

แขนสองข้างของปฐมเทพกุยอีสะบัด เรียกพลังห้าธาตุในฟ้าดิน จนกลายเป็นวงแหวนแสงสีรุ้ง ระลอกแสงห้าสีในวงแหวนหมุนวน เมื่อการโจมตีของปฐมเทพปี้ซีปะทะไปด้านในก็สลายทันที

“แย่แล้ว เสวียนอ้าวห้าธาตุ!” หน้าจ้าวเฟิงเปลี่ยนสีทันควัน

เขาเองก็คาดไม่ถึงว่าปฐมเทพกุยจะชำนาญเสวียนอ้าวห้าธาตุ หนำซ้ำผลงานไม่แย่เลย

ใต้ดินลึกลงไป สีหน้าชายผิวดำสั่นสะท้าน

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ชายผิวดำส่งกระแสจิตหาจ้าวเฟิง

“มีปฐมเทพที่ไม่ใช่ข้ากำลังใช้เสวียนอ้าวห้าธาตุต่อสู้!”

สีหน้าจ้าวเฟิงเคร่งเครียดเล็กน้อย

เสวียนอ้าวห้าธาตุที่ปฐมเทพกุยอีใช้แข็งแกร่งกว่าจ้าวเฟิงก่อนหน้านี้ หนำซ้ำกำลังรบของสองคนนั้นยังใกล้เคียงกัน การต่อสู้คงไม่จบลงง่ายๆ แน่ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ายกลใต้ดึกอาจจะแตกทลายก่อนเวลา

แต่จ้าวเฟิงก็ไม่สามารถจะขัดขวางการประลองของคนทั้งสองได้ ทั้งสองคนนี้ล้วนแต่เป็นผู้ถูกเลือกของขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอด จ้าวเฟิงขึ้นไปขวางการประลองของพวกเขา ไม่ใช่เป็นการรนหาที่หรอกหรือ?

“ไม่ได้การ เกรงว่าค่ายกลใกล้จะทลายแล้ว!”

ลึกลงไปใต้ดิน ชายผิวดำใจร้อนรุ่มราวไฟเผา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!