บทที่ 1252 ทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์ (1)
ผ่านไปไม่กี่วัน จ้าวเฟิงก็มาถึงยังป่าลึกสีดำแห่งหนึ่ง
ต้นไม้ที่นี่ชื่อว่าหนามทมิฬ กิ่งก้านสาขาดุจหนามเหล็กแหลม น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
ใต้พื้นดินป่าแห่งนี้ยังมีสายแร่ผลึกเซียนระดับต่ำสายหนึ่ง
“เป็นที่นี่ก็แล้วกัน!” จ้าวเฟิงมาถึงยังใจกลางป่าแห่งนี้ แล้วนั่งขัดสมาธิลง
ฟุ่บ! จ้าวเฟิงหยิบเอาของล้ำค่าบรรพกาลที่ลอกเลียนแบบสำเร็จบางอย่างในมิติเนตรเทพเจ้าออกมา จากนั้นก็ดูดเอาของล้ำค่าบรรพกาลอีกกลุ่มหนึ่งเข้าไปทำการลอกเลียนแบบ
หลายวันหลังจากนั้น มีเผ่าพันธุ์บรรพกาลอีกตัวหนึ่งมายังข้างกายจ้าวเฟิง โยนแหวนเก็บของวงหนึ่งไว้แล้วจากไปทันที
ขณะเดียวกัน ในมิติเนตรเทพเจ้า การลอกเลียนของล้ำค่าจำนวนหนึ่งก็เสร็จสิ้นลงแล้ว
“ในตอนนี้ข้ามีความมั่นใจเก้าส่วนที่จะทะลวงถึงเทพแท้จริงขั้นห้า!”
จ้าวเฟิงพูดอย่างมั่นใจ
“ทะลวงเทพแท้จริง ขั้นที่หนึ่ง สร้างรากฐานเทพ!”
ความคิดของจ้าวเฟิงจมลงไปในแสงวนพลังเทพที่อยู่ในกายโดยสมบูรณ์
บนแผ่นแสงห้าสีมหึมาแผ่นหนึ่ง บนนั้นมีอัสนีสีขาววาววับเป็นเส้นๆ ลอยเอ่อ ค่อยๆ โคจรในกายของเขา
แสงวนพลังเทพของคนทั่วไปเป็นเพียงแค่น้ำวนเท่านั้น แต่แสงวนพลังเทพของจ้าวเฟิงเป็นแผ่นแสงห้าสี นี่แสดงให้เห็นว่าแสงวนพลังเทพของจ้าวเฟิงก่อตัวแข็งแกร่งเพียงใด พลังเทพอัสนีเทวะห้าธาตุที่ก่อขึ้นในนั้นก็แกร่งเป็นอย่างยิ่ง
วู้ม วู้ม! ใจกลางแสงวนพลังเทพ แสงประกายอัสนีห้าสีแต่ละเส้นถูกดึงออกมา
ไม่นานนัก จ้าวเฟิงก็วาดเค้าร่างโครงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดมหึมาออกมา
เทพแท้จริงทั้งเก้าขั้น ทุกขั้นมีรากฐานเทพหนึ่งแห่ง
และรากฐานเทพชั้นล่างสุดจะต้องแข็งแกร่งมั่นคงมากพอ มิฉะนั้นจะไม่อาจแบกรับรากฐานเทพขั้นหลังๆ ได้ เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นการกำหนดว่าชั่วชีวิตนี้จะไปไม่ถึงเทพโบราณที่ขั้นเก้า
การสร้างรากฐานเทพต้องดึงพลังของแสงวนพลังเทพ อีกทั้งพลังทุกๆ ด้านและศักยภาพของตนออกมา
วู้ม วู้ม! ในแสงวนพลังเทพ ประกายแสงอัสนีเทวะห้าสีแปลกประหลาดแต่ละกลุ่มทะลักล้นออกมา สร้างขึ้นด้วยวิธีพิเศษวิธีหนึ่ง ค่อยๆ เติมเต็มรากฐานเทพขั้นแรก
“รากฐานเทพขั้นแรกจะเลินเล่อไม่ได้!” จ้าวเฟิงสร้างรากฐานเทพอย่างตั้งอกตั้งใจ
รากฐานเทพขั้นแรกสำคัญเป็นอย่างมาก เขายังนำพลังชีวิตในกายของตนอีกทั้งพลังสายเลือดผสานเข้าไปในรากฐานเทพขั้นนี้
ในขณะเดียวกัน มิติเก็บของเบื้องหน้าจ้าวเฟิงประเดี๋ยวก็มีของล้ำค่าแต่ละชนิดลอยมาอีก ของล้ำค่าพวกนี้ ส่วนมากล้วนเป็นของล้ำค่าฝึกฝนประเภทห้าธาตุทั้งสิ้น และยังมีบางส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างรากฐานเทพอีกด้วย
ฟู่ ฟู่! พลังในของล้ำค่าพวกนี้ ใช้ตาเปล่ามองก็เห็นได้ว่าหลอมหายเข้าไปในรากฐานเทพอย่างรวดเร็ว
รากฐานเทพขั้นที่หนึ่ง จ้าวเฟิงใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ
ระหว่างนี้เขาโคจรดวงตาเทพเจ้าร่วมกับการสร้างรากฐานเทพอยู่ตลอด อีกทั้งยังคอยตรวจตราทุกตารางอย่างละเอียด ลดจุดด่างพร้อยของรากฐานเทพขั้นนี้ให้น้อยลงที่สุด
“ ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ และ ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ สมบูรณ์แล้ว พลังเพิ่มมากขึ้นเกินกว่าที่ข้าคิดไว้ บางทีข้าอาจมีความหวังส่วนหนึ่งที่จะทะลวงถึงเทพแท้จริงขั้นหก”
จ้าวเฟิงประเมินได้จากสถานการณ์การสร้างของรากฐานเทพขั้นแรก
ความคิดนี้ทำให้ลมหายใจของเขาค่อนข้างถี่กระชั้น พิสูจน์ได้ตำแหน่งเทพขั้นหกเลยทันที จ้าวเฟิงไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
แต่ในวันนี้ จ้าวเฟิงเหมือนว่าจะมีความหวังอยู่รางๆ!
……
โลกภายนอก ผ่านไปทุกๆ สามสี่วันจะมีคนโยนหนังสือท้าประลองไว้ที่นอกประตูของจ้าวเฟิง
“เขาอยู่ในนั้นสองเดือนแล้ว!”
“ข้าว่าเขาไม่กล้าออกมา วางแผนหดหัวอยู่ข้างใน หลีกหนีทุกอย่าง!”
ศิษย์นอกเผ่าหลายคนเห็นจ้าวเฟิงไม่ปรากฏตัวออกมาตลอดทั้งสองเดือน ก็อดใจกล้าขึ้นไม่ได้ พูดคุยถากถางไปตามอารมณ์
“หากเขาไม่กล้าออกมา หลังจากสิบเดือนก็จะถูกขับไล่ออกไปจากเผ่าพันธุ์วิญญาณ!”
ศิษย์นอกเผ่าที่เพิ่งผ่านที่นี่มาพอดีพูดเสียงเย็น
ศิษย์นอกเผ่าจะต้องปฏิบัติภารกิจในเผ่าหนึ่งภารกิจให้สำเร็จทุกเดือน แต่ศิษย์นอกเผ่าบางคนปิดด่านฝึกตนหรือมีเรื่องพิเศษบางอย่าง ทำให้ไม่อาจไปปฏิบัติภารกิจได้ ในเผ่าเล็งเห็นถึงจุดนี้จึงยืดภารกิจออกไป โดยยืดมากที่สุดได้หนึ่งปี
หากเวลาหนึ่งปีนี้จ้าวเฟิงไม่ได้สร้างคุณูปการอะไรให้กับในเผ่า ก็จะถูกขับไล่ออกจากเผ่าพันธุ์วิญญาณ
ที่จริงแล้ว ศิษย์นอกเผ่าส่วนใหญ่ก็มีเหตุการณ์ปิดด่านหลายปีเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาปฏิบัติภารกิจสำเร็จล่วงหน้า แต่จ้าวเฟิงไม่รู้ตรงจุดนี้
ทันใดนั้น ไอสวรรค์รอบด้านตำหนักของจ้าวเฟิงก็สั่นไหวขึ้นอย่างน่าประหลาด
ก่อเป็นคลื่นวนใหญ่ยักษ์และอ่อนแรงโดยมีตำหนักของเขาเป็นใจกลาง ดูดเอาไอสวรรค์ฟ้าดินแต่ละสายเข้าไปข้างใน
ในเวลาเดียวกัน บนคลื่นวนใหญ่ยักษ์นี้เหมือนมีเงาเลือนรางสีเหลี่ยมก่อขึ้น!
“นี่มันการสร้างรากฐานเทพ ทะลวงตำแหน่งเทพ…”
ศิษย์นอกเผ่าคนนั้นจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย พูดขึ้นอย่างตกใจ
“เขากำลังทะลวงตำแหน่งเทพ?”
ข่าวนี้แผ่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว ทำเอาศิษย์นอกเผ่ากลุ่มใหญ่มารวมตัวกัน
“ท่าทางจ้าวเฟิงคงจะถูกบีบจนจนตรอก ดังนั้นจึงเริ่มทะลวงตำแหน่งเทพ!”
“ฮี่ๆ เขาเอาชนะเว่ยเจ๋อได้ อย่างมากก็ทะลวงได้ถึงเทพแท้จริงขั้นสี่ ก็ยังคงไม่มีทางรับมือหนังสือท้าประลองพวกนี้ได้อยู่ดี!”
ศิษย์นอกเผ่าพูดคุยซุบซิบ
“ไม่สิ ทำไมปรากฏการณ์ยามทะลวงตำแหน่งเทพจึงอ่อนแรงเช่นนี้…”
ศิษย์นอกเผ่าคนนั้นจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว
……
ข้างทะเลสาบใสกระจ่าง หลังจากที่จางอวี่ถงได้รับข่าวแล้วก็เผยรอยยิ้มสนุกออกมา
“เป็นอะไรไป สหายจาง?” ชายหนุ่มแซ่หลู่แห่งเทวาพฤกษาสมุทรคนนั้นถามขึ้นทันใด
“ตอนนี้จ้าวเฟิงกำลังทะลวงตำแหน่งเทพ!” จางอวี่ถงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
คำพูดนี้เพียงออกไป คนที่นี่ทั้งหมดตกใจก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงหัวเราะลั่น
“เขาคิดว่าหลังจากที่ทะลวงตำแหน่งเทพแล้วก็จะเป็นคู่มือของพวกเราได้อย่างนั้นรึ?”
“ข้าว่าเขาคงถูกบีบจนจนตรอก ไร้ซึ่งหนทาง จึงเลือกทะลวงตำแหน่งเทพเพื่อยกระดับพลัง!” ศิษย์หลักไม่น้อยหัวเราะถากถาง ในใจแอบลำพองใจ
“ไปเถอะ ในเมื่อจ้าวเฟิงเลือกทะลวงตำแหน่งเทพ เช่นนั้นหมายความว่าหลังจากที่มันทำสำเร็จก็จะรับคำท้าของพวกเรา!” จางอวี่ถงพลันลุกยืนขึ้น
“สหายจางคิดมากไปแล้ว ข้าว่าเขาก็เพียงแค่ยืมใช้สถานที่ล้ำค่าของเผ่าพันธุ์วิญญาณ รอหลังจากสำเร็จแล้วก็ไปจากเผ่าเอง!”
ศิษย์หลักอีกคนหนึ่งพูดคล้อยตาม จากนั้นศิษย์หลักที่รวมตัวอยู่ที่นี่ก็แยกย้ายกันไป
……
พื้นที่นอกเผ่า
ผู้คนมารวมตัวรอบตำหนักของจ้าวเฟิงมากขึ้นเรื่อยๆ
“จ้าวเฟิงถูกบีบจนจนตรอกแล้ว แต่ต่อให้มันทะลวงตำแหน่งเทพได้ ก็ไม่มีทางหลุดจากสภาพยากลำบากได้!”
จ้าวหลานอี้สองพี่น้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาเย็นชา
“ถอยไปเร็วเข้า ศิษย์หลักหลายคนมาถึงแล้ว!” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ศิษย์นอกเผ่าและศิษย์ในเผ่าที่ล้อมอยู่ใกล้ๆ ตำหนักจ้าวเฟิงแหวกทางออกทันที
ต่อมา ศิษย์หลักที่รวมตัวกันก็มาถึงยังด้านหน้าสุดของตำหนัก
“ที่แท้เขากำลังทะลวงตำแหน่งเทพอยู่ที่อีกมิติหนึ่ง!” คิ้วของจางอวี่ถงกระตุก พูดออกมาตามอารมณ์
ปรากฏการณ์ประหลาดในการทะลวงตำแหน่งเทพยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก แต่นอกวังจ้าวเฟิงมีเพียงแค่คลื่นไอสวรรค์ที่ไม่ชัดเจนเท่าใดนัก เงารากฐานเทพก็อ่อนกำลังเป็นที่สุด
นี่พิสูจน์ว่าจ้าวเฟิงแอบทะลวงขอบเขตอยู่ที่อีกมิติหนึ่ง
แต่ว่านี่ก็นับว่าปกติ หากจ้าวเฟิงทะลวงตำแหน่งเทพในที่พักอาศัย เช่นนั้นก็โง่เขลาไปเสียหน่อย หากศัตรูของเขาไม่สนใจอะไรแล้วเข้าขัดขวางลอบโจมตี การเลื่อนขั้นของเขาต้องไม่สำเร็จ คว้าน้ำเหลวอย่างแน่นอน
ไม่ไกลนัก พานฮ่าวก็มาถึงที่นี่เช่นกัน
“นี่เขาจะทำอะไร? ต่อให้ทะลวงตำแหน่งเทพได้เขาก็ไม่ใช่คู่มือของผู้ท้าประลองหรอก!” ในใจของพานฮ่าวค่อนข้างร้อนรน
วู้ม วู้ม! รอบตำหนัก ขอบเขตการปกคลุมของคลื่นวนไอสวรรค์เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งเท่า เงารากฐานเทพขั้นที่สอง ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
“เทพแท้จริงขั้นสองแล้ว!” จางอวี่ถงพูดเสียงเบา
……
“หยูเฟย หยูเฟย จ้าวเฟิงกำลังทะลวงตำแหน่งเทพ!” ข่งเตี๋ยบินมายังที่พักของจ้าวหยูเฟย ร้องตะโกนขึ้น
“พี่เฟิงกำลังทะลวงตำแหน่งเทพ?”
ในวังผลึกแก้วสีม่วง จ้าวหยูเฟยมีสีหน้าตกตะลึง จากนั้นก็ค่อนข้างโกรธเคือง
สำหรับนาง จ้าวเฟิงจะต้องถูกเผ่าพันธุ์วิญญาณบีบคั้นอย่างแน่นอน ถึงต้องทะลวงขอบเขตในเวลานี้
“เจ้าเด็กนี่คิดจะทำอะไรกัน?” ใกล้วังจ้าวหยูเฟย เทพโบราณฝูหลิงพูดพึมพำ
ความรู้สึกแรกของเขาคือจ้าวเฟิงทะลวงตำแหน่งเทพก็เพื่อยกระดับพลัง เช่นนั้นก็คือปฏิเสธการประณีประนอม และเลือกที่จะขัดขืนแทน แต่จ้าวเฟิงต่อให้ทะลวงถึงเทพขั้นสี่ได้ ก็ไม่ใช่คู่มือของผู้ท้าประลองเหล่านั้น!
“หรือเด็กนี่มั่นใจว่าจะทะลวงถึงขั้นที่ห้า?”
ในใจของเทพโบราณฝูหลิงเกิดความคิดอุกอาจนี้ขึ้น
ยามจ้าวเฟิงต่อสู้กับเว่ยเจ๋อเมื่อครั้งที่แล้ว เขาก็อยู่ที่นั่นด้วย
เขารู้สึกมาโดยตลอดว่าจ้าวเฟิงเหมือนยังซ่อนอะไรเอาไว้อีกมาก ไม่ได้ลงมือสุดกำลัง
“ท่านอาจารย์!”
เวลานี้ จ้าวหยูเฟยมายังหน้าตำหนัก
นางรู้ว่าอาจารย์ของนางอยู่แถวนี้มาโดยตลอด ก็เพื่อที่จะขัดขวางไม่ให้นางไปพบจ้าวเฟิง
“เจ้าไปเถอะ!” เทพโบราณฝูหลิงพูดเสียงเรียบนิ่ง
ฟุ่บ! จ้าวหยูเฟยแปลงเป็นลำแสงสีม่วงหายวับไปที่ขอบฟ้า
ในขณะเดียวกัน ร่างของเทพโบราณฝูหลิงก็หลบเข้าไปในท้องฟ้าทันใด
……
ในตำหนักของจ้าวเฟิง ขอบเขตคลื่นวนไอสวรรค์มหึมาขยายกว้างออกไปเรื่อยๆ ค่อยๆ มั่นคงขึ้นจนกลายเป็นคลื่นวนห้าสี เงารากฐานเทพสองขั้นก็ค่อยๆ มีสีสันขึ้นบนนั้น
แสงสีม่วงกะพริบวิบวับ จ้าวหยูเฟยมาถึงใกล้ๆ แถวนั้น
“พี่เฟิง!” สีหน้าของจ้าวหยูเฟยค่อนข้างกังวล
ไม่นานนัก! ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมเมฆโหมกระหน่ำ เงาร่างที่อยู่เหนือความวุ่นวายทางโลกหลายร่างปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า
“เจ้าเด็กนี่เลือกทะลวงตำแหน่งเทพ เช่นนั้นก็เท่ากับปฏิเสธการประณีประนอม?”
น้ำเสียงของเทพโบราณในชุดคลุมดำค่อนข้างเย็นชา
คนคนนี้ก็คือเทพโบราณของเผ่าพันธุ์วิญญาณที่ไปหาจ้าวเฟิงเพื่อเจรจาในช่วงก่อนหน้านี้
“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รอหลังจากที่เขาทะลวงขั้นสำเร็จแล้ว เรื่องราวก็ย่อมมีผลลัพธ์ออกมา!” เทพโบราณฝูหลิงพูดอย่างเฉยชา
“แต่ว่ามิติที่เจ้าเด็กนี่เข้าไปค่อนข้างไม่ธรรมดา สามารถเข้ากันได้กับเค้าร่างฟ้าดินของดินแดนเทพรกร้างถึงเพียงนี้!”
เทพโบราณอีกคนหนึ่งพูดทอดถอนใจขึ้น
วู้ม วู้ม ครืน! รอบตำหนักของจ้าวเฟิง ขอบเขตคลื่นวนไอสวรรค์ห้าสีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน เงารากฐานเทพขั้นสามก็ค่อยๆ ลอยขึ้นมา!
“ขั้นที่สามแล้ว!”
“แฝงด้วยพลังห้าธาตุที่แข็งแกร่ง เป็นรากฐานเทพที่มั่นคงยิ่งนัก!”
แววของเทพโบราณฝูหลิงเป็นประกาย
จากประสบการณ์ของเขา อาศัยเพียงแค่เงารากฐานเทพสามขั้นก็มองสภาพรากฐานเทพของจ้าวเฟิงออกแล้ว
……
ในห้วงฝันบรรพกาล แสงวนพลังเทพในร่างกายของจ้าวเฟิงหดเล็กลงหนึ่งเท่า
และบนแสงวนพลังเทพก่อรากฐานเทพขั้นที่สามขึ้น พื้นผิวผลึกแก้วของรากฐานเทพโปร่งแสง ลำแสงแต่ละสีในนั้นหมุนวน ด้านนอกมีลวดลายเสวียนอ้าวล้ำลึกไหลโคจร ราวกับแฝงไว้ด้วยหลักแห่งฟ้าดิน
“ทำต่อไป ขั้นที่สี่!”
บนรากฐานเทพขั้นที่สามในกายจ้าวเฟิง แสงประกายอัสนีห้าสีกลุ่มหนึ่งพลันสาดส่องออกมา พยายามก่อร่างเป็นเส้นเค้าโครงของรากฐานเทพขั้นที่สี่
แต่ในยามนี้ การกระทำของเขาชะงักไป สมาธิของจ้าวเฟิงหลุดลอยออกไปเล็กน้อย
“นี่มัน?” สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปทันใด
เพราะเขาพบว่าเส้นผมสีทองอ่อนที่พลิ้วไปตามลม สีของผมหลายเส้นเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น!