Skip to content

King of Gods 1271

King Of Gods

บทที่ 1271 สังหารทายาทเนตรเทพเจ้า

“เอ๋? ใต้พื้นดิน…”

สายตาของจ้าวเฟิงพลันเพ่งลึกลงไปใต้พื้นดินแสนกว่าลี้ เห็นเพียงชายชั่วร้ายคลุมชุดสีดำที่แทบจะเห็นแค่ใบหน้าดำอยู่ในดินอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกลิ่นอายของคนคนนี้ยังอำพรางได้ดีเยี่ยม มุดดำดินอย่างรวดเร็ว ความเคลื่อนไหวน้อยนิดมาก แทบจะจับสัมผัสไม่ได้

วิชาดำดินที่สูงส่งเช่นนี้ ต่อให้เป็นจ้าวเฟิงก็ยากจะทำได้

ทันใดนั้น ชายในชุดดำจับสัมผัสได้ สายตากวาดมายังจ้าวเฟิง

“นั่นมัน?” สีหน้าของจ้าวเฟิงตกตะลึงไปโดยพลัน

“เป็นอะไรไป?” หานหนิงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของจ้าวเฟิง จึงถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

จ้าวเฟิงไม่สนใจหานหนิงเอ๋อร์ แต่กลับจ้องตาขวาของชายชุดดำไม่กะพริบ

“เนตรหมื่นปรากฏการณ์!”

หนึ่งในร่างแยกของจ้าวเฟิงก็มีเนตรหมื่นปรากฏการณ์

แน่นอน สิ่งที่ทำให้จ้าวเฟิงตกใจจริงๆ ก็คือเนตรหมื่นปรากฏการณ์ของคนคนนี้มีเพียงแค่ข้างเดียว นั่นก็คือข้างขวา

ในยามนี้ คนชุดดำนั่นอาศัยเนตรหมื่นปรากฏการณ์ควบคุมพลังแห่งดิน ดังนั้นจึงสามารถดำผ่านดินไปได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งคลื่นกลิ่นอายยังน้อยมาก คนทั่วไปยากจะสัมผัสได้

“ฮี่ๆ เจ้าเด็กนี่สัมผัสถึงข้าได้? เป็นสายเลือดดวงตาพิเศษรึ?”

ที่ลึกใต้ดิน ชายชุดดำค่อนข้างตกใจ

ดวงตาของจ้าวเฟิงดูไปแล้วไม่ธรรมดายิ่งนัก ดังนั้นชายชุดดำคิดว่าตาของจ้าวเฟิงน่าจะเป็นประเภทรับรู้ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางเจอเขา

“เอ๋? เนตรชีวิต!” สายตาของชายชุดดำพลันเปลี่ยนมายังร่างของหานหนิงเอ๋อร์

“ฮ่าๆ เดินมาเองถึงหน้าประตู เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว!”

ชายชุดดำยิ้มเหี้ยม เปลี่ยนทิศทางมุดมายังจ้าวเฟิง

“จิตสังหาร เขาก็เป็นเทพโบราณเช่นกัน!” สีหน้าของจ้าวเฟิงคร่ำเคร่งเล็กน้อย

จ้าวเฟิงมองพลังฝึกตนที่แน่นอนของชายคนนี้ไม่ออก แต่เขารู้สึกว่าจะต้องแข็งแกร่งกว่าเทพโบราณเฮยเทียนแน่นอน นอกจากนั้น จ้าวเฟิงยังมองออกอีกว่าเป้าหมายของชายชุดดำคือหานหนิงเอ๋อร์

นี่ทำให้จ้าวเฟิงไม่ค่อยเข้าใจ

หานหนิงเอ๋อร์มาถึงยังเขตเทพสวรรค์ก็ไม่ค่อยโผล่หน้าออกมาสักเท่าไหร่ และยิ่งเป็นครั้งแรกที่มายังใจกลางของเขตนี้ด้วย ส่วนชายชุดดำเห็นหานหนิงเอ๋อร์แวบแรกก็เกิดจิตสังหารขึ้นแล้ว แต่ว่าจ้าวเฟิงไม่มีทางให้เขาทำได้สำเร็จ!

ฟุ่บ! ชายชุดดำคนนั้นดำไปใต้พื้นดินอย่างว่องไว ประชิดมายังจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงก็เตรียมตัวพร้อมป้องกันศัตรูเรียบร้อย แต่ในยามที่ชายชุดดำห่างจากจ้าวเฟิงไม่ถึงสองหมื่นลี้ จู่ๆ ร่างของเขาก็หยุดกึก

“คนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตมาแล้ว!” ชายชุดดำพึมพำเสียงต่ำ

“ฮี่ๆ ครั้งนี้ปล่อยพวกเจ้าไปก่อนก็แล้วกัน!”

ชายชุดดำคนนั้นส่งกระแสจิตมา จากนั้นก็เปลี่ยนทิศทางดำดินมุดไปไกล

“เป็นใครกัน?”

ในยามนี้ หานหนิงเอ๋อร์พลันได้ยินประโยคนั้น สีหน้าตื่นตกใจทันที ทว่าด้วยพลังฝึกตนของนาง จึงไม่อาจสัมผัสถึงตัวตนของชายชุดดำได้เลย

แววตาของจ้าวเฟิงมองไปยังเบื้องหน้าอย่างคร่ำเคร่ง

ไม่ไกลนัก มีกลุ่มคนสามคนพร้อมด้วยพลังแก่นแท้เข้ามาใกล้ยังพวกจ้าวเฟิงทั้งสอง

“เจ้าเป็นใคร?” ในกลุ่มคนสามกลุ่ม ผู้เป็นหัวหน้าเป็นเพียงแค่ชายหนุ่มคนหนึ่ง สวมชุดยาวสีฟ้าทอง รูปลักษณ์ไม่ธรรมดา

คนคนนี้มีพลังฝึกตนขั้นเทพโบราณ คนทั้งสองข้างๆ เป็นเทพแท้จริงขั้นหก

“เป็นคนที่ได้รับคำเชิญจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต”

จ้าวเฟิงเอ่ยราบเรียบ ในขณะเดียวกันหนังสือเชิญฉบับหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือ

ประสาทสัมผัสเทพของชายหนุ่มชุดฟ้าทองกวาดไปยังหนังสือเชิญ ก่อนมองจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย

“เจ้าคือ…จ้าวเฟิง?” ชายหนุ่มชุดสีฟ้าคนนั้นฉงนสงสัย กวาดมองจ้าวเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า คนทั้งสองข้างกายเขาก็มองจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าตื่นตกใจเช่นกัน

สำหรับเรื่องราวของจ้าวเฟิง ช่วงก่อนหน้านี้ก็สร้างความฮือฮาไม่น้อยในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ทุกคนล้วนสนใจจ้าวเฟิงมาก

หานหนิงเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างๆ อย่างระแวดระวัง ในสายตาของนาง คนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่ฐานะสูงส่ง

แต่ในยามนี้ ชายหนุ่มชุดสีฟ้าที่ไม่ธรรมดาคนนี้กลับประเมินจ้าวเฟิงด้วยใบหน้าตื่นตะลึง เหมือนว่าฐานะของจ้าวเฟิงจะสูงส่งยิ่งกว่าตัวเขา

“ท่านคิดจะเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ต้องผ่านการตรวจสอบจากข้า การเปลี่ยนรูปโฉมภายนอกมันง่ายดายมาก เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนปลอมเป็นจ้าวเฟิง คิดแฝงตัวเข้ามาในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต!”

ชายหนุ่มชุดฟ้าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

คิ้วของจ้าวเฟิงขมวดเล็กน้อย ตนได้รับคำเชิญของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต แต่กลับต้องโดนตรวจสอบ

“ท่านอย่าได้กล่าวโทษกัน หากเป็นปกติย่อมไม่มีขั้นตอนนี้ แต่ตอนนี้สถานการณ์พิเศษ ดังนั้น….” ชายหนุ่มชุดฟ้าเผยสีหน้าลำบากใจยิ่ง

“เช่นนั้นก็ได้ จะตรวจสอบเช่นไร?”

จ้าวเฟิงเห็นชายหนุ่มชุดฟ้าเหมือนจะมีเหตุผลอื่นจริงๆ จึงตกลง

“เซี่ยโหวอู่เคยสู้กับจ้าวเฟิงครั้งหนึ่ง รายงานข่าวของจ้าวเฟิงข้ารู้มาบ้างเล็กน้อย ข้าอยากจะทดสอบฝีมือของท่าน!”

ชายหนุ่มชุดฟ้ายิ้มพูดขึ้น

ถึงแม้ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์มิติจะอยู่ในสถานการณ์พิเศษ แต่จ้าวเฟิงเข้าไปข้างในไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากเขาก็ได้ เพียงแต่ว่าชายหนุ่มชุดฟ้าสนใจในตัวจ้าวเฟิงพอดี ดังนั้นจึงใช้ข้ออ้างนี้ คิดอยากสัมผัสพลังของจ้าวเฟิงสักหน่อย

“รูปลักษณ์ของคนคนหนึ่งเปลี่ยนได้ง่ายมาก แต่ธาตุเคล็ดวิชาที่ฝึกฝน หากคิดเปลี่ยนก็ค่อนข้างจะยากแล้ว!”

ชายหนุ่มชุดฟ้าพูดขึ้นอีก

คนทั้งสองข้างกายเขาเผยสีหน้าตะลึงเล็กน้อย พวกเขารู้ว่าหลิวข่ายคิดอยากลองพลังของจ้าวเฟิงสักหน่อย

แต่หลิวข่ายเป็นอัจฉริยะเทพโบราณรุ่นอาวุโสกว่า จ้าวเฟิงเป็นเพียงแค่เทพแท้จริงขั้นหก จะเป็นคู่มือของเขาได้อย่างไร

“ท่านวางใจ ข้าจะใช้พลังสี่ส่วนเท่านั้น ใช้พลังที่ท่านเอาชนะเซี่ยโหวอู่น่าจะสามารถรับได้!” หลิวข่ายพูดขึ้นอีก

เซี่ยโหวอู่ครอบครองเนตรชีวิต พลังฝึกตนขั้นหกสุดยอด พอๆ กับเทพโบราณคนหนึ่งที่สามารถสำแดงพลังได้เพียงแค่สี่ส่วน แต่หลิวข่ายคืออัจฉริยะรุ่นโตกว่าของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต พลังสี่ส่วนนี้อาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเซี่ยโหวอู่

“ได้!” จ้าวเฟิงพยักหน้า

ครั้นเห็นจ้าวเฟิงตกลง หลิวข่ายลิงโลดทันใด

คนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตทั้งสองและหานหนิงเอ๋อร์รีบถอยห่างไปในระยะหนึ่งทันใด หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกลูกหลงจากคลื่นการปะทะทำร้าย

“เริ่มแล้ว ท่านต้องระวังล่ะ!” หลิวข่ายยิ้มพูดเตือน

เสี้ยวขณะต่อมา ร่างของเขาค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น บนผิวปรากฏลวดลายสีเงินชั้นหนึ่ง พลังกดดันแก่นแท้อันแข็งแกร่งแผ่กระจายไปทั่วทิศ ท้องฟ้าหนักหน่วงขึ้นทันใด

“สำแดงพลังสี่ส่วนเท่านั้น ‘ร่างลับปราณเงิน’ ของหลิวข่ายก็มีพลังกดดันที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ท่าทางช่วงนี้เขาจะพัฒนาไปไม่น้อยเลย! ”

สองคนที่เหลือของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตอยู่ค่อนข้างใกล้กับสถานที่ต่อสู้ของทั้งสองคน จึงสัมผัสได้ถึงแก่นแท้พลังกลุ่มนั้นได้อย่างชัดเจน

ฟุ่บ! หลิวข่ายแปลงเป็นประกายแสงสีเงินสายหนึ่ง เข้าประชิดมายังจ้าวเฟิงทันที

เขายิ้มน้อยๆ พลางมองจ้าวเฟิง หมัดหนึ่งชกออกไปอย่างรุนแรง

เสี้ยวขณะที่หมัดนั้นชกออกไป ท้องฟ้าปรากฏเงาหมัดปราณสีเงินขึ้น ทุกที่ที่พาดผ่านจะมีเสียงระเบิดติดๆ กัน สีหน้าของจ้าวเฟิงไม่เปลี่ยนไป กระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ โคจรพลังเทพห้าธาตุ ชกโจมตีออกไปเช่นกัน ด้วยพลังฝึกตนขั้นหก ไม่ใช้สายเลือดดวงตา จ้าวเฟิงไม่มีทางเป็นคู่มือให้กับเซี่ยโหวอู่ แน่นอนว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิวข่ายด้วยเช่นกัน

ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงกระตุ้นพลังแก่นแท้ร่างกาย สำแดงออกมาเต็มแรง

ครืน บึ้ม! เสียงกระทบกันของธาตุทองเลื่อนลั่นดังออกมาจากหมัดของทั้งสอง

แซ่ด แซ่ด! สายอัสนีเล็กละเอียดวาววับดุจใยแมงมุมแผ่ลามไปยังร่างของหลิวข่าย

หลิวข่ายรู้สึกว่าร่างกายปวดชาอ่อนแรงไปขณะหนึ่ง

“รับได้งั้นรึ!” หลิวข่ายตกตะลึงไปเล็กน้อย

จากที่เขารู้มา จ้าวเฟิงเอาชนะเซี่ยโหวอู่ได้ หลักๆ คืออาศัยสายเลือดดวงตา แต่ตอนนี้จ้าวเฟิงไม่ได้ใช้พลังดวงตาก็สามารถรับหมัดนี้ของเขาได้

‘พลังแก่นแท้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าที่เซี่ยโหวอู่พูดมาเสียอีก…’

หลิวข่ายพึมพำในใจ

เขาไม่รู้ว่าตอนนั้นจ้าวเฟิงเก็บซ่อนพลัง หรือว่าช่วงระยะนี้พัฒนาขึ้น

“เป็นไปได้อย่างไรกัน เขารับเอาไว้ได้!” อีกสองคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย

“รับอีกหมัดของข้าไป!” หลิวข่ายสีหน้าไม่สู้ดีนัก ที่จริงแล้ว หากพูดว่าจะตรวจสอบจ้าวเฟิง การโจมตีเมื่อครู่ก็เพียงพอแล้ว

แต่จ้าวเฟิงสามารถรับได้อย่างสิ้นเชิง ไม่สะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น นี่ทำให้ใจของหลิวข่ายกระทบกระเทือนในระดับหนึ่ง

เขาเป็นถึงเทพโบราณ ประมือกับเทพแท้จริงขั้นหกคนหนึ่งกลับไม่ได้เปรียบ

ครืน!

หลิวข่ายพลันพุ่งไปยังท้องฟ้า หลังจากที่สะสมแรงแล้วก็บดขยี้ลงมาทันที มองจากไกลๆ ราวกับยอดเขาสีเงินสั่นสะท้านภพกดทับลงมาอย่างไรอย่างนั้น

ครั้งนี้หลิวข่ายยังคงสำแดงพลังสี่ส่วน แต่เพราะทิ้งดิ่งลงมา พลังที่เขาสำแดงออกมาจึงยิ่งแข็งแกร่ง

ครืน!

จ้าวเฟิงตั้งท่าพร้อมรบ รอบกายของเขาตลบอบอวลไปด้วยขอบเขตอัสนีเทวะห้าสีชั้นหนึ่ง

ครืน แซ่ด แซ่ด! เมื่อหลิวข่ายอยู่ห่างจากจ้าวเฟิงในระยะหนึ่งก็ถูกขัดขวางและลดทอนจากขอบเขตอัสนีเทวะห้าธาตุ

เห็นหมัดของหลิวข่ายใกล้จะโจมตีมายังจ้าวเฟิง จ้าวเฟิงย่อกายลงเล็กน้อย ขอบเขตอัสนีเทวะห้าธาตุรอบด้านพลันย่อส่วนลง หลอมรวมไปในฝ่ามือของเขา แล้วจึงค่อยซัดฝ่ามือหนึ่งออกมา

ครั้งนี้จ้าวเฟิงผสานแก่นแท้พลังเข้าไปในขอบเขตอัสนีเทวะห้าธาตุ สำแดงพลังออกมาเต็มแรง

ครืน บึ้ม! ภายใต้การปะทะกันของทั้งสอง หลิวข่ายได้รับการโจมตีจากพลังแก่นแท้อัสนีมหาศาล ทั้งร่างถอยหลังไป

“เป็นไปได้อย่างไรกัน!” สีหน้าของหลิวข่ายตะลึงไปเล็กน้อย ร่างถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว และใช้มันปกปิดความจริงที่ถูกจ้าวเฟิงโจมตีจนถอย

“เจ้าคือจ้าวเฟิงจริงๆ!” หลิวข่ายยิ้มกระอักกระอ่วน

สองฝั่งที่ห่างไปไกลจากที่นี่ ก็มีกลุ่มของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตอีกสองกลุ่มย่อย ผู้เป็นหัวหน้าล้วนเป็นเทพโบราณ

“คิดไม่ถึงว่าหลิวข่ายจะเสียเปรียบ!”

“จ้าวเฟิงแข็งแกร่งกว่าตอนที่เอาชนะเซี่ยโหวอู่แล้ว!” เทพโบราณทั้งสองต่างทอดถอนใจ พากลุ่มจากไปทันที

“ข้าพาพวกเจ้าเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วกัน!”

หลิวข่ายพูดกับจ้าวเฟิง จากนั้นมองไปยังคนสำนักเดียวกันทั้งสองที่อยู่ห่างไปไกล บัญชาขึ้นว่า “พวกเจ้าสองคนค้นหาต่อไป หากค้นพบก็ส่งข่าวมาทันที!”

จากนั้นพวกจ้าวเฟิงทั้งสองคนก็ตามหลิวข่ายไป ค่อยๆ เข้าใกล้แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต

“สหายหลิว แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นรึ?” จ้าวเฟิงถามขึ้นก่อน

เส้นทางอันสั้นนี้ เขาเห็นกลุ่มสามกลุ่มมุ่งไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว หัวหน้าของกลุ่มล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณทั้งสิ้น อีกทั้งจ้าวเฟิงยังเห็นว่าชายขอบพื้นที่ด้านในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตมีกองกำลังลาดตระเวนอยู่ตลอด และตรวจสอบคนเข้าออกอย่างเข้มงวด

เวลานี้ จ้าวเฟิงจึงโยนเรื่องที่หลิวข่ายตรวจสอบตนทิ้งไป เพราะท่าทางแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตจะเกิดเรื่องไม่เล็กจริงๆ

“สหายจ้าวเป็นแขกที่แดนศักดิ์สิทธิ์เชื้อเชิญมา เช่นนั้นข้าจะบอกข่าวบางอย่างกับท่านก็แล้วกัน!”

สีหน้าของหลิวข่ายเปลี่ยนไปเล็กน้อย

จ้าวเฟิงและหานหนิงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะมองเขา

“เมื่อไม่นานมานี้ ทายาทเนตรชีวิตคนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตออกไปข้างนอก ออกไปจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ไกลก็ถูกสังหารลง!”

สายตาของหลิวข่ายค่อนข้างเย็นเยียบ

“อะไรนะ? สังหารทายาทเนตรชีวิตของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต?”

จ้าวเฟิงใจสั่นเล็กน้อย

เนตรชีวิตอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตจะเป็นคนสำคัญที่ต้องปกป้อง แต่กลับมีคนกล้าสังหารทายาทเนตรชีวิตที่ออกมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต นอกจากนั้น จากการเล่าของหลิวข่าย ทายาทเนตรชีวิตคนนั้นเพิ่งไปจากแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่นานก็ถูกฆ่า

หรือก็คืออีกฝ่ายซ่อนอยู่ใกล้ๆ กับแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตแล้วลงมือสังหาร!

นี่เป็นการท้าทายอำนาจของแดนศักดิ์สิทธิ์โดยสิ้นเชิง!

“หรือจะเป็นเขา?” ทันใดนั้น ในความคิดของจ้าวเฟิงก็ปรากฏภาพของชายชุดดำขึ้นมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!