Skip to content

King of Gods 1287

King Of Gods

บทที่ 1287 หยิบยืมพลัง

“นี่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเดิมพันของทั้งสองเผ่าแล้ว ไม่รู้ว่าใครจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้!”

เทพโบราณหลิวจินและจ้าวเฟิงล้วนแต่เคยบอกว่าจะจัดการทุกคนที่เหลือของฝ่ายตรงข้ามด้วยพลังของตนคนเดียว

จนสุดท้าย ทั้งสองคนได้ปะทะกันแล้ว

ผลลัพธ์จะมีเพียงแค่หนึ่งในสองคนที่พิสูจน์คำพูดตนได้

“จ้าวเฟิงประลองหกครั้งติดต่อกันโดยไม่ได้พัก แต่อาการบาดเจ็บของเทพโบราณหลิวจินก็สมานตัวไปแล้วพอประมาณ ความต่างระหว่างทั้งสองชัดมาก…”

“อีกทั้งการต่อสู้ก่อนนี้ก็ยังไม่เห็นจ้าวเฟิงเอาอาวุธเทพออกมาใช้ เขาคงจะไม่มีอาวุธเทพในครอบครอง แต่เทพโบราณหลิวจินมีอาวุธเทพระดับสูงชิ้นหนึ่ง…”

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้น คนที่ชมการประลองต่างคาดเดากันอย่างอดไม่ได้

ทว่าทุกคนไม่พนันข้างจ้าวเฟิงเท่าไหร่นัก ซึ่งสรุปมาจากหลายสาเหตุ

“จ้าวเฟิง อย่ากดดัน!”

ผู้อาวุโสสี่ของเผ่าพันธุ์วิญญาณรีบส่งกระแสจิตบอกจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงสู้ติดต่อกันหกครั้งโดยไม่ได้พัก การต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน แต่เผ่าพันธุ์วิญญาณไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้อีกต่อไปแล้ว อย่างไรเสีย ก่อนนี้เผ่าพันธุ์วิญญาณอาจพ่ายแพ้เผ่าเปลวทองหมดรูป กระทั่งสายธารผลึกเพลิงวิญญาณส่วนหนึ่งก็ไม่ได้ส่วนแบ่งมา

แต่จ้าวเฟิงทุ่มสุดกำลังพลิกสถานการณ์มาได้ เขาชิงสายธารผลึกเพลิงวิญญาณมาให้เผ่าพันธุ์วิญญาณสี่ส่วนแล้ว

“ผู้อาวุโสอย่าลืมที่รับปากกับข้าไว้ คะแนนคุณูปการจำนวนห้าแสน!”

จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างจริงจัง

“คะแนนคุณูปการห้าแสน!”

ผู้อาวุโสสี่พลันนึกได้ถึงเรื่องที่เขารับปากจ้าวเฟิงส่งๆ ไปก่อนนี้ ขอแค่เอาชนะเผ่าเปลวทองจะยกคะแนนคุณูปการจำนวนห้าแสนให้ แน่นอนว่าตอนนั้นผู้อาวุโสสี่ทำไปเพียงแค่ให้จ้าวเฟิงสบายใจ จึงรับปากส่งๆ ไปอย่างนั้น

“หรือว่าเขาจะมีหวัง?” ผู้อาวุโสสี่อึ้งไป

ถ้าหากจ้าวเฟิงไม่มีความมั่นใจ ไยต้องเอ่ยเรื่องนี้กับตนก่อนจะเริ่มประลองตาที่สี่

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ใจผู้อาวุโสที่สี่เต้นระรัวเร็ว

ในตอนที่เทพโบราณหลิวจินปรากฏกายขึ้นมา เขาไม่คิดว่าเผ่าพันธุ์วิญญาณจะได้รับชัยชนะอีก เพียงแต่หวังว่าจะไม่พ่ายแพ้จนอเนจอนาถเกินไป

แต่ยามนี้เผ่าพันธุ์วิญญาณอาจได้ชัยชนะหรือ?

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ผู้อาวุโสสี่แอบวาดหวังเล็กน้อย ศิษย์เผ่าพันธุ์วิญญาณคนอื่นๆ พากันตื่นเต้น

มีเพียงเทพโบราณปิงหยวนที่เหมือนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่างอยู่ด้านข้าง

การประลองของทั้งสองเผ่าคราวนี้ เป็นช่วงเวลาที่ขมขื่นและทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิตของเขา

ตูม! จ้าวเฟิงและเทพโบราณหลิวจินเริ่มห้ำหั่นกันบนเวทีประลอง

เทพโบราณหลิวจินกำขวานยักษ์เก่าแก่สีเหลืองเข้ม เขาอยู่ในกลุ่มแสงเพลิงสีทอง ระเบิดการโจมตีมหาศาล ทรงอานุภาพเกินจะเปรียบ

ส่วนจ้าวเฟิงใช้จุดเด่นในเรื่องของความเร็ว วูบไหวหลบหลีกไม่หยุด จากนั้นจึงโจมตีจุดที่มีการป้องกันอ่อนกำลังของเทพโบราณหลิวจิน

เทพโบราณหลิวจินอาศัยอาวุธเทพระดับสูง การโจมตีจึงทรงพลัง แต่เขาก็ยังทำร้ายจ้าวเฟิงไม่ได้ ทว่าการป้องกันร่างกายและวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง การโจมตีของจ้าวเฟิงก็ยากจะสร้างบาดแผลให้เขาได้เช่นกัน

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จ้าวเฟิงจะเคยสังหารเทพโบราณขั้นเจ็ด แต่นั่นเป็นเพราะมีการป้องกันของชุดคลุมมิติและความช่วยเหลือของมังกรวารีล้างโลกา ทว่าที่นี่จ้าวเฟิงไม่มีทางเอาชุดคลุมมิติออกมาอวดใครต่อใคร ดังนั้นจึงไม่อาจให้เทพโบราณหลิวจินเข้าใกล้เขา

“รู้จักแค่หลบไปหลบมาเท่านั้นหรือ?” เทพโบราณหลิวจินหัวเราะเย้ยหยัน

สู้หกครั้งโดยไม่ได้พัก จ้าวเฟิงจะเอาอะไรมาสู้กับเขากัน?

อีกทั้งครั้งนี้เทพโบราณหลิวจินได้เตรียมพร้อมก่อนแล้ว

“ดาบทลายนภา!” เทพโบราณหลิวจินรวบรวมพลัง เตรียมจะปลดปล่อยเคล็ดวิชาที่ทรงพลัง

“ตอนนี้แหละ!” แววตาเทพโบราณหลิวจินทอประกาย อาศัยตอนที่จ้าวเฟิงจะเคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตา หยิบแผ่นแผนภูมิแปดทิศออกมา

เขากระตุ้นแผ่นแผนภูมิแปดทิศ พลังมิติประหลาดกระจายตัวออกมาจนทับซ้อนกับมิติรอบบริเวณ

“อาวุธเทพกั้นเวหา!”

จ้าวเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ปรากฏปีกสีทองคู่หนึ่งขึ้นที่ด้านหลัง ก่อนจะพาเขาบินถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว

เผ่าเปลวทองฝากฝังทุกสิ่งไว้ให้เทพโบราณหลิวจิน ย่อมเป็นเพราะวิเคราะห์วิธีการต่อสู้ของจ้าวเฟิงแล้ว และสรรหาวิธีการมาต้านกลเม็ดบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น แหวนสีดำในมือเทพโบราณหลิวจิน นั่นคืออาวุธเทพป้องกันวิญญาณที่เป็นขั้นเทพระดับสูง นอกจากจุดนี้แล้ว เผ่าเปลวทองย่อมต้องหาวิธีการข่มเสวียนอ้าวมิติของจ้าวเฟิงด้วย

ตูม วูบ วูบ! เทพโบราณหลิวจินปลดปล่อยเงาขวานเพลิงสีทองกลุ่มหนึ่งออกมา แต่จ้าวเฟิงหลบได้ทันเวลา

“เจ้าฉลาดมากนัก คิดไม่ถึงเลยว่าจะเตรียมการป้องกันเอาไว้!”

เทพโบราณหลิวจินใช้อาวุธเทพกั้นเวหาในฉับพลัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ได้ชัยชนะแต่อย่างใด แต่เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจ

ในสายตาเขา จ้าวเฟิงที่ประลองมาหกครั้งติดต่อกันยังไงก็ต้องแพ้เขาอยู่ดี ของที่เผ่าเปลวทองเตรียมให้กับเขาเป็นของเกินจำเป็นทั้งสิ้น

“อันตรายเหลือเกิน!” ศิษย์เผ่าพันธุ์วิญญาณแอบเหงื่อตกแทนจ้าวเฟิง

“อาวุธเทพในครอบครองของเทพโบราณหลิวจินมีมากจนเกินไป แต่จ้าวเฟิง…”

ผู้อาวุโสระดับสูงผู้หนึ่งเอ่ยพลางทอดถอนใจ หากรู้ก่อนหน้านี้ พวกเขาคงจะเตรียมอาวุธเทพให้จ้าวเฟิงบ้าง

“ถ้าหากจ้าวเฟิงมีอาวุธเทพโจมตีในระดับสูงสักชิ้น ผลแพ้ชนะก็ไม่แน่นอนแล้ว!”

ศิษย์เผ่าพันธุ์วิญญาณที่เข้าร่วมประลองต่างโกรธเกรี้ยวแทนจ้าวเฟิง

อาวุธเทพโจมตีในระดับสูงที่เหมาะสมสักชิ้น อย่างน้อยๆ จะสามารถเพิ่มพลังการโจมตีของเทพโบราณผู้หนึ่งได้มากกว่าสี่ส่วนขึ้นไป

ความแตกต่างระหว่างคนที่มีอาวุธเทพ และไม่มีอาวุธเทพนั้นมากยิ่งนัก

แต่จ้าวเฟิงที่ไม่มีอาวุธเทพระดับสูงยังสามารถรับมือกับเทพโบราณหลิวจินได้ถึงขนาดนี้ ก็ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงแล้ว

อีกฟากหนึ่ง คนระดับสูงของเผ่าเปลวทองแต่ละคนมีท่าทีเชื่อมั่นว่าจะได้ชัยชนะมาครอบครอง

เปรี๊ยะ แซ่ด แซ่ด! จ้าวเฟิงสำแดงวิชาปีกแสงอัสนีทอง กลายร่างเป็นแสงทองกลุ่มหนึ่งโบยบินผ่านเวทีประลองอย่างรวดเร็ว

“ฝ่ามืออัสนีเทวะห้าธาตุ!”

“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”

จ้าวเฟิงเล็งที่ตำแหน่งหนึ่งในอากาศ ใช้กลยุทธ์การต่อสู้และวิชาดวงตาพร้อมกัน

โครม! เทพโบราณหลิวจินสะบัดขวานยักษ์เก่าแก่ ฟาดฟันระลอกแสงเพลิงสีทองเส้นหนึ่งออกมา ทำลายฝ่ามือสายฟ้าห้าสีของจ้าวเฟิงจนแหลกสลายไป

“อั่ก…” เทพโบราณหลิวจินรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของวิญญาณ หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งจึงค่อยตรงดิ่งเข้าไปโจมตีจ้าวเฟิง

“ข้าเข้าใจแล้ว…” ดวงตาจ้าวเฟิงทอแสงประกาย

เมื่อครู่เขาสังเกตได้ว่ายามตนเองใช้วิชาดวงตาวิญญาณกับเทพโบราณหลิวจิน พลังของแหวนบนนิ้วเทพโบราณหลิวจินไม่ถึงขั้นอาวุธเทพระดับสูง

นั่นต้องเป็นเพราะว่าอาวุธเทพระดับสูงชิ้นนี้เป็นของที่คนระดับสูงเผ่าเปลวทองให้เทพโบราณหลิวจินยืมชั่วคราว การจะยึดครองอาวุธเทพระดับสูงสักชิ้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเช่นนั้น

หากไม่ได้ยึดครองอาวุธเทพป้องกันวิญญาณชิ้นนี้อย่างสิ้นเชิง เทพโบราณหลิวจินก็จะไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้

จึงพูดได้ว่าวิชาดวงตาวิญญาณของจ้าวเฟิงยังได้ผลดีเยี่ยมอยู่

“คุกมายาอัสนีวารี!” นัยน์ตาสีเงินมายาของจ้าวเฟิงโคจรช้าๆ แสงมายาหลากสีสาดส่องออกจากภายในนั้น ทั้งสว่างทั้งวิจิตรตระการตา

ครืน! หมอกแสงมายากระจายตัวรอบๆ เทพโบราณหลิวจิน ค่อยๆ ปกคลุมเขาเอาไว้ หมอกแสงมายากลายเป็นคุกวารีสีฟ้ากักขังอีกฝ่ายเอาไว้ภายใน

ในวินาทีที่ปลดปล่อยวิชาดวงตา จ้าวเฟิงโจมตีอย่างหนักหน่วง สำแดงฝ่ามือสายฟ้าสีมรกตออกมาไม่หยุด

ตูม! เมื่อรู้สึกได้ถึงอันตรายที่รุกคืบมา เทพโบราณหลิวจินจึงใช้เคล็ดวิชาป้องกัน

รอบตัวเขาปรากฏกลุ่มแสงสีทอง เหนือกลุ่มแสงนั้นมีริ้วเพลิงสีทองสว่าง ในเวลาเดียวกัน เทพโบราณหลิวจินยังแทงอาวุธเทพไปที่กำแพง

ตูม พลั่ก! เทพโบราณหลิวจินถูกกระแทกจนถอยร่นไประยะหนึ่งจึงจะหยุดลง

“ไม่นึกเลยว่าใช้พลังในการต่อสู้ไปหกครั้ง เจ้าจะยังสามารถปลดปล่อยพลังได้ขนาดนี้!”

เทพโบราณหลิวจินค่อนข้างประหลาดใจ ท่าทีของเขาเย็นชาขึ้นมาในทันที จิตสังหารกลุ่มหนึ่งกระจายตัวออกมา

“จะใช้พลังทั้งหมดเลยหรือ?” จ้าวเฟิงพึมพำเสียงต่ำ

เขาทะลวงผ่านขั้นเทพโบราณมาได้ในรวดเดียว นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าศักยภาพและพลังที่แฝงอยู่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างยิ่ง

การต่อสู้ก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะใช้พลังไปบ้าง แต่ก็ไม่นับว่ามากมายนัก

“ขวานยักษ์ทลายฟ้า!”

เทพโบราณหลิวจินตะโกนเสียงต่ำ บนขวานในมือปรากฏเงาขวานขนาดใหญ่ขึ้น

เมื่อระเบิดออก คมแสงเพลิงทองมหาศาลก็กวาดออกมา อาณาเขตของมันแทบปกคลุมทั่วเวทีประลอง ทำให้จ้าวเฟิงไม่สามารถหลบพ้น

“ฮึๆ ในที่สุดเทพโบราณหลิวจินก็จริงจังขึ้นมาแล้ว!”

“หากเป็นเช่นนี้จ้าวเฟิงต้องพ่ายแพ้ไปอย่างแน่นอน!” คนระดับสูงของเผ่าเปลวทองพากันหัวเราะอย่างชั่วร้าย

ผู้ที่เข้าชมการประลองรอบเวทีเหมือนรู้สึกเช่นกันว่าการต่อสู้ใกล้จะจบลงแล้ว

คมแสงเพลิงของที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่งตรงหน้านี้กำลังจะพุ่งเข้าหาจ้าวเฟิง

“เนตรเทพ…แยกส่วน!” จ้าวเฟิงลอบโคจรเนตรเทพเจ้า จ้องไปยังตำแหน่งหนึ่งเบื้องหน้า หมอกแสงมายาพุ่งออกจากนัยน์ตาซ้ายของเขา ทันใดนั้นเอง คมแสงเพลิงทองใหญ่ยักษ์ก็ปรากฏรอยโหว่ขึ้น

เปรี๊ยะ! อาณาเขตการโจมตีกว้างใหญ่กระหน่ำผ่านไป แต่จ้าวเฟิงกลับปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนอยู่บริเวณรอยโหว่นั้นพอดี

“นี่คือวิชาดวงตาอะไรกัน?”

เทพโบราณหลิวจินรู้สึกได้ว่าจ้าวเฟิงใช้พลังดวงตาเมื่อครู่ แต่เขากลับมองหลักการไม่ออก

“เนตรพิฆาตอัสนีเทวะ!” จ้าวเฟิงรีบปลดปล่อยวิชาดวงตากระบวนท่าหนึ่ง

พรึ่บ! คมแสงสายฟ้าสีขาวสุกสกาวพุ่งออกจากในร่างเทพโบราณหลิวจิน

“เจ้ารนหาที่ตาย!” แววตาเทพโบราณหลิวจินฉายแววโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง

เขาพบว่าจ้าวเฟิงใช้วิชาดวงตา ถึงแม้จะหลบการโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิตได้ แต่ก็บาดเจ็บไม่น้อย

วู้ม ในร่างเทพโบราณหลิวจินพลันปรากฏแสงทองเจิดจ้า กลิ่นอายเสวียนอ้าวที่ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งแผ่กระจายออกมา

“ระวัง เสวียนอ้าวทำลายล้าง!” คนในเผ่าพันธุ์วิญญาณร้องเสียงหลงทันที

อีกฟากหนึ่ง เผ่าเปลวทองกลับระบายยิ้มได้ใจ “จะจบแล้วสินะ!”

ทุกคนรอบบริเวณมีท่าทีประหนึ่งทุกสิ่งเป็นไปตามที่พวกเขาคาดไว้

เทพโบราณหลิวจินครอบครองอาวุธเทพระดับสูง บวกกับพลังเสวียนอ้าวทำลายล้างที่แข็งแกร่ง จ้าวเฟิงต้องพ่ายแพ้แน่

แต่จ้าวเฟิงไม่มีท่าทีลนลาน กลับดูตื่นเต้นเล็กน้อย

“ข้าก็รอให้เจ้าใช้พลังนี้อยู่!” จ้าวเฟิงยิ้มเจ้าเล่ห์

“เนตรเทพ…ลอกแบบ!”

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงจ้องไปบนพลังทำลายล้างกลุ่มนั้นของเทพโบราณหลิวจิน เจตจำนงดวงตาที่ทรงพลังทะลักออกมา

จ้าวเฟิงลอกเลียนพลังกลุ่มนั้นอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเดียวกัน เขาก็ก่อร่างวิชาดวงตาอัสนีเทวะเอาไว้ในดวงตาซ้าย

“ไปตายเสียเถอะ จ้าวเฟิง!” เทพโบราณหลิวจินร้องลั่น แกว่งขวานยักษ์ด้วยมือทั้งสองข้าง เตรียมจะใช้กระบวนท่านี้เป็นตัวตัดสินแพ้ชนะ

โครม บึ้ม! บนขวานเก่าแก่ในมือเขามีพลังทำลายล้างที่สะเทือนฟ้าดินทะลักออกมา

“เนตรเทพลอกแบบ เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!” ทว่าในเวลานั้นเอง วิชาดวงตาทรงพลังของจ้าวเฟิงก็สำแดงฤทธิ์เสียก่อน

เขาเอาพลังทำลายล้างที่ลอกเลียนแบบจากเทพโบราณหลิวจินหลอมรวมเข้ากับเพลิงดวงตาอัสนีเทวะของตนเอง พลานุภาพของเพลิงดวงตาอัสนีเทวะกระบวนท่านี้แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตูม แซ่ด! เห็นแค่แสงเพลิงสายฟ้าที่เจิดจ้าดิ่งลงเหนือศีรษะของเทพโบราณหลิวจิน

พลังทำลายวิญญาณที่ชวนให้สะพรึงขวัญยังไม่ทันปะทะร่าง ก็ทำให้เทพโบราณหลิวจินใจเต้นระรัวแล้ว

เทพโบราณหลิวจินรีบร้อนกระตุ้นอาวุธเทพป้องกันวิญญาณบนนิ้ว

วู้ม! ระลอกแสงสีดำหม่นปกคลุมบนกายวิญญาณของเขา

แทบจะในเวลาเดียวกัน

บึ้ม ตูม! เพลิงดวงตาอัสนีเทวะที่แข็งแกร่งขึ้นจากการหลอมรวม ‘เนตรเทพลอกแบบ’ ก็หอบเอากลิ่นอายทำลายล้างต้องห้ามระเบิดลงไป คลื่นแสงสีดำหม่นอับแสงแล้วแตกละเอียดทันที…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version