Skip to content

King of Gods 1459

King Of Gods

บทที่ 1459 จัดการพร้อมกัน

ช่วงระยะครึ่งปีนี้ เขาประจิมของเขตผาเก่าเกิดเรื่องที่สร้างความฮือฮาขึ้นไม่น้อย

สำนักรากฐานเทพที่ถูกหอมังกรเหลืองโจมตีพินาศเมื่อหลายสิบปีก่อนพลิกฟื้นกลับมา ก่อร่างสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง

ครั้นหอมังกรเหลืองรู้เรื่องนี้ก็ส่งสมาชิกจำนวนมากมาทันที ทั้งสองฝั่งเปิดศึกของขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง สุดท้าย สำนักรากฐานเทพต้านทานการโจมตีระลอกแรกของหอมังกรเหลืองเอาไว้ได้ จากนั้นสมาชิกสำนักรากฐานเทพในกาลก่อนค่อยๆ หวนกลับคืนมา มีขั้วอำนาจไม่น้อยที่หักหลังหอมังกรเหลือง กลับไปสู่สำนักรากฐานเทพทันที

ในโถงประชุมใต้ดินของสำนักรากฐานเทพ

“หานหนิงเอ๋อร์ ข้ามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ สำนักรากฐานเทพสามารถสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งได้ล้วนเป็นคุณงามความดีของเจ้า!”

ผู้อาวุโสผมเขียวคนหนึ่งที่นั่งสูงอยู่ข้างบน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มปลื้มอกปลื้มใจ

คนคนนี้ก็คือเจ้าสำนักรากฐานเทพ หลังจากสำนักรากฐานเทพถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ เขานำสมาชิกส่วนที่เหลือไปซ่อนตัว วางแผนที่จะกลับขึ้นมาผงาดใหม่โดยตลอด

สมาชิกผู้นำระดับสูงสำนักรากฐานเทพที่เหลือก็ยิ้มพลางพยักหน้าเช่นกัน สายตาจับจ้องรวมไปยังสตรีชุดเขียวคนหนึ่ง

สตรีคนนั้นเจิดจ้าเป็นอย่างยิ่งในโถงใหญ่ที่มืดมัว แผ่กระจายพละกำลังและพลังชีวิตบริสุทธิ์ มองไปแล้วราวกับภูตแห่งพงไพรที่มีชีวิตชีวาและงดงาม

“เจ้าสำนัก นี่คือสิ่งที่ข้าควรทำ แต่ว่าเรื่องนี้ยังต้องขอบคุณศิษย์พี่เซี่ยโหวด้วย!”

ใบหน้าของหานหนิงเอ๋อร์แต้มรอยยิ้มบางๆ มองไปยังเซี่ยโหวอู่ที่สวมชุดสีเขียวสะอาด ร่างกำยำเหยียดตรงที่อยู่ข้างๆ

ตอนอยู่ที่เผ่าพันธุ์วิญญาณ จ้าวเฟิงเพิ่งทะลวงขั้นเทพแท้จริงก็ได้ประมือกับเซี่ยโหวอู่แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ภายหลัง จ้าวเฟิงส่งหานหนิงเอ๋อร์ไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ก็เป็นเซี่ยโหวอู่ที่รับผิดชอบต้อนรับดูแลพวกเขาทั้งสอง

เวลาผ่านไปนานถึงเพียงนี้ เซี่ยโหวอู่ทะลวงขึ้นเป็นเทพโบราณขั้นเจ็ดได้อย่างราบรื่นแล้ว

“ขอบคุณแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตที่ยอมช่วยเหลือสำนักรากฐานเทพ!”

เจ้าสำนักรากฐานเทพมองไปยังชายข้างกายหานหนิงเอ๋อร์ด้วยสีหน้าตื่นเต้น

ในสำนักมีทายาทเนตรชีวิตปรากฏตัวขึ้น ช่างโชคดีนัก

สามารถสร้างความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยกับแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานได้ นี่เป็นสิ่งที่ชั่วชีวิตนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะเพ้อฝัน

“แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น!” เซี่ยโหวอู่โบกมือ สื่อนัยว่าไม่ได้ใส่ใจ

ที่จริง นี่เป็นความยินดีส่วนตัวของเขา ไม่เกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต มิฉะนั้นแล้วละก็ หอมังกรเหลืองต้องยอมแพ้ไปนานแล้ว จะกล้าเป็นปฏิปักษ์ต่อสำนักรากฐานเทพเสียที่ไหนกัน

“คุณชายเซี่ยโหวถ่อมตัวเกินไปแล้ว หากไม่ใช่ท่าน พวกเราไม่อาจต้านทานหอมังกรเหลืองได้เลย!” เจ้าสำนักรากฐานเทพยิ้มพูดขึ้น

ครั้งที่แล้วในการต่อสู้ของสองขั้วอำนาจ เจ้าสำนักรากฐานเทพบาดเจ็บสาหัส จนถึงตอนนี้ก็ยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ดี

ส่วนเซี่ยโหวอู่เป็นเทพโบราณขั้นเจ็ด ทายาทเนตรชีวิต ลูกศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต พลังจึงแข็งแกร่งมาก ด้วยเหตุนี้ สำนักรากฐานเทพจึงสามารถต้านทานหอมังกรเหลืองได้

ตอนนี้ เซี่ยโหวอู่คือความหวังของทั้งสำนักรากฐานเทพ เป็นคนที่ลูกศิษย์มากมายเลื่อมใส

ส่วนผู้นำระดับสูงสำนักรากฐานเทพยิ่งหวังให้หานหนิงเอ๋อร์และเซี่ยโหวอู่ครองคู่กัน เช่นนี้จะยิ่งเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับสำนักรากฐานเทพ

ในตอนนี้เอง ปราการพลังของโถงประชุมเกิดระลอกคลื่นขึ้นมา

ฟุ่บ! เงาสีเขียวสายหนึ่งโผล่เข้ามาทันที

“รายงานเจ้าสำนัก หอมักรเหลืองโจมตีมาอีกแล้ว!” สายสืบคนนี้คุกเข่าลงข้างหนึ่ง พร้อมรายงานอย่างเคารพนอบน้อม

“เตรียมรับศึก!” เจ้าสำนักรากฐานเทพเปลี่ยนสีหน้า คำรามขึ้นทันใด

เสี้ยวขณะต่อมา ทั่วทั้งโถงประชุมก็ว่างโล่ง สมาชิกทั้งหมดในสำนักรากฐานเทพมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก เรือมังกรที่ใหญ่โตทรงอำนาจสองลำแล่นมาที่ปลายขอบฟ้า

เจ้าหอผิวเหลืองหม่น ร่างสูงใหญ่ ใบหน้าทรงอำนาจ ยืนอยู่บนยอดเรือมังกรหนึ่งในนั้น

“คุณชายเซี่ยโหว เรื่องนี้เป็นบุญคุณความแค้นของหอมังกรเหลืองกับสำนักรากฐานเทพ หวังว่าท่านจะไม่สอดมือเข้ามายุ่ง!”

เจ้าสำนักหอมังกรเหลืองมองมายังเซี่ยโหวอู่ก่อน

เซี่ยโหวอู่เป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต หากไม่ใช่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตอยู่ห่างจากที่นี่ไกลไป หอมังกรเหลืองไม่มีทางกล้าลงมือต่อหลังจากนี้แน่ อีกด้านหนึ่ง เขามองออกว่าเซี่ยโหวอู่เดินทางมาช่วยสำนักรากฐานเทพเพราะความยินดีส่วนตัวล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต

“ข้ารับปากศิษย์น้องหญิงหนิงเอ๋อร์เอาไว้แล้ว เรื่องนี้ข้าจะต้องช่วยจนถึงที่สุด!”สีหน้าของเซี่ยโหวอู่แน่วแน่

เห็นเซี่ยโหวอู่แสดงทีท่าเช่นนี้ ผู้นำระดับสูงฝั่งสำนักรากฐานเทพต่างเผยสีหน้ายินดี ในสายตาพวกเขา เซี่ยโหวอู่จะต้องพึงใจในตัวหานหนิงเอ๋อร์อย่างแน่นอน

“หอมังกรเหลือง ความแค้นเมื่อวันวาน สำนักรากฐานเทพจะต้องล้างแค้นแน่!”

เจ้าสำนักรากฐานเทพมองไปยังเจ้าหอมังกรเหลือง สายตาฉายแววเย็นชา ถึงแม้เขาจะบาดเจ็บหนัก แต่เซี่ยโหวอู่กำลังรักษาเขาอยู่ อีกไม่นานเท่าใดก็จะฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์

สำนักรากฐานเทพจะผงาดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง!

“ฮ่าๆ เกรงว่าพวกเจ้าจะไม่มีโอกาสแล้ว!” เจ้าสำนักหอมังกรเหลืองหัวเราะลั่นทันที

ภาพนี้ทำให้ผู้นำระดับสูงสำนักรากฐานเทพรู้สึกว่ามีเงื่อนงำ ตามหลักแล้วพลังของหอมังกรเหลืองไม่มีทางทำอะไรสำนักรากฐานเทพได้ แต่เจ้าหอมังกรเหลืองกลับมั่นใจเช่นนี้ หรือหอมังกรเหลืองจะได้กองกำลังช่วยเหลือที่แข็งแกร่งมา?

ในตอนนี้เอง กลิ่นอายศาสตร์ซากศพที่ชวนให้คนหวาดผวาแผ่มาจากปลายฟ้าไกล

ครืน ครืน ครืน! เงาดำทะมึนเย็นเยียบนับไม่ถ้วนลอยมา

“เผ่าภูตทมิฬ!” คนสำนักรากฐานเทพเผยสีหน้าเคร่งเครียด

เผ่าภูตทมิฬเป็นเผ่าพันธุ์ขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เทพโบราณในนั้นมีมากถึงหกคน เกินกว่าขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งทั่วไป และคนที่มาถึงในตอนนี้ก็มีเทพโบราณขั้นเจ็ดถึงสามคนด้วยกัน

เมื่อเห็นภาพนี้ ผู้นำระดับสูงสำนักรากฐานเทพที่เหลือและเซี่ยโหวอู่ต่างสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น

เซี่ยโหวอู่มีพลังแข็งแกร่ง อย่างมากก็จัดการเทพโบราณขั้นเจ็ดได้สองคน แต่ฝั่งศัตรูมีเทพโบราณสามคนเพิ่มมาในพริบตา มีข้อได้เปรียบในการบดขยี้สำนักรากฐานเทพแล้ว

“คุณชายเซี่ยโหว ข้าขอเตือนให้เจ้าไปจากที่นี่เสีย ถึงแม้พวกเราจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ถึงตอนนั้นสู้กันขึ้นมาก็ไม่สนใจอะไรมาก ยากที่จะไม่ทำให้เจ้าบาดเจ็บ!”

เจ้าหอมังกรเหลืองมองไปยังเซี่ยโหวอู่อีกครั้ง

เสี้ยวขณะนี้ ทั่วทั้งสนามรบเงียบสงัด ฝั่งสำนักรากฐานเทพรู้สึกสิ้นหวังอยู่ลึกๆ ไม่ว่าเซี่ยโหวอู่จะช่วยหรือไม่ช่วยสำนักรากฐานเทพ พวกเขาก็ไม่ใช่คู่มือของหอมังกรเหลือง

ส่วนเซี่ยโหวอู่สีหน้าย่ำแย่ยิ่งนัก เรื่องที่เขารับปากหานหนิงเอ๋อร์ไว้ เกรงว่าคงทำไม่ได้แล้ว ทว่าในตอนนี้เอง มีเสียงราบเรียบดังมาจากที่ไกล “หานหนิงเอ๋อร์เจ้ากลับมาแล้วจริงๆ ด้วย แล้วก็สหายเซี่ยโหว คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมาด้วยเช่นกัน!”

เสียงนี้สบายๆ นัก ทำลายบรรยากาศเคร่งเครียดและเงียบสงัดลง

หอมังกรเหลืองกับเผ่าภูตทมิฬมองไปพร้อมกัน

สายตาของสมาชิกสำนักรากฐานเทพเปล่งประกาย คนที่จู่ๆ มาถึงนี้เหมือนว่าจะเป็นสหายของหานหนิงเอ๋อร์และเซี่ยโหวอู่

แต่ในตอนที่ทุกคนมองเห็นจ้าวเฟิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที ตื่นตะลึงกันเหลือประมาณ

“จ้าวเฟิง!” เจ้าหอมังกรเหลืองและผู้นำระดับสูงทั้งหลายร้องเสียงหลง

สมาชิกสำนักรากฐานเทพก็ตกใจอย่างยิ่งเช่นกัน คนคนนี้คือจ้าวเฟิงที่ทำให้เขตผาเก่าปั่นป่วนเมื่อหลายสิบปีที่แล้วไม่ใช่หรอกหรือ?

จ้าวเฟิงถูกขั้วอำนาจมากมายประกาศจับ ยังกล้ากลับมาอีก?

“จ้าวเฟิง เจ้าทำอะไรกับ ‘ปฐมเทพโม่กุ่ย’ หลานข้า?”

ฝั่งเผ่าภูตทมิฬ เทพโบราณคนหนึ่งมีสายตาเย็นเยียบ จิตสังหารทะลักล้น

ปฐมเทพโม่กุ่ยคือปฐมเทพที่เคยขัดแย้งกับจ้าวเฟิงตอนงานประลองยุทธ์ผาเก่า หลังจากนั้นก็กลายมาเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในตำหนักห้าธาตุ

“สหายจ้าว ไยเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เซี่ยโหวอู่รู้สึกแปลกใจมากเช่นกัน

เรื่องในเขตดาราชาด ทางแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ค่อนข้างจะรู้ดี

ว่ากันว่าจ้าวเฟิงเป็นผู้ครอบครองเนตรเทพเจ้าประเภทที่เก้า หลังจากเนตรเทพเจ้าตื่นขึ้น ก็เอาชนะตำหนักวิญญาณบรรพกาล แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย

หานหนิงเอ๋อร์ที่ได้เห็นจ้าวเฟิงตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่จากกันครั้งที่แล้ว นางก็ไม่ได้เจอจ้าวเฟิงอีกเลย เมื่อได้ยินเรื่องว่าจ้าวเฟิงครอบครองเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า นางยังเป็นห่วงมาตลอดว่าจ้าวเฟิงจะประสบเคราะห์ร้ายอะไรหรือไม่

ในขณะเดียวกัน การปรากฏตัวของจ้าวเฟิงก็ทำให้พวกเขาทั้งสองมองเห็นความหวัง

จ้าวเฟิงเคยถึงขั้นเอาชนะแม้กระทั่งจอมเทพในเขตเทพสวรรค์และเขตดาราชาด!

อีกด้านหนึ่ง หอมังกรเหลืองและเผ่าภูตทมิฬสีหน้าเคร่งเครียดกันมาก ตอนนั้นพลังของจ้าวเฟิงก็ไม่ธรรมดาเป็นที่สุด ก่อเรื่องในเขตผาเก่าจนอลหม่าน

วันนี้แม้กระทั่งเซี่ยโหวอู่ยังเรียกจ้าวเฟิงว่า ‘สหายจ้าว’ เห็นได้ว่าพลังของจ้าวเฟิงต้องเพิ่มขึ้นไม่น้อยแน่นอน

“อย่าเพิ่งผลีผลาม รายงานข่าวที่จ้าวเฟิงกลับมาแล้วกับขั้วอำนาจเบื้องบน จะมีคนมาจัดการมันเอง!”

เจ้าหอมังกรเหลืองค่อนข้างสุขุม แอบสื่อสารกับคนของเผ่าภูตทมิฬ

“สหายจ้าว ต้องเชิญท่านจัดการเรื่องนี้แล้ว!” เซี่ยโหวอู่ยิ้มพูด

แววตาคนฝั่งสำนักรากฐานเทพตะลึงไปทันที เซี่ยโหวอู่แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตกลับเชิญให้จ้าวเฟิงลงมือจัดการ อีกทั้งทีท่าของเซี่ยโหวอู่ก็ไม่กังวลสักนิด ราวกับว่าเมื่อจ้าวเฟิงลงมือ เรื่องทั้งหมดก็จะสามารถจัดการได้ เช่นเดียวกัน หานหนิงเอ๋อร์ก็ยิ้มแย้มเบิกบาน ประหนึ่งลืมเรื่องสงครามไปแล้ว

“รอก่อน!” จ้าวเฟิงเอ่ยปากเรียบๆ

รอ?

เซี่ยโหวอู่ตะลึง ค่อนข้างงุนงง ทำไมยังต้องรออีก?

อีกด้านหนึ่ง หอมังกรเหลืองและเผ่าภูตทมิฬเห็นพวกจ้าวเฟิงหัวเราะพูดคุยกัน สีหน้าก็ย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง

“เจ้าหอมังกรเหลือง พวกเราลงมือพร้อมกัน ฆ่าจ้าวเฟิงก่อน ข้าไม่เชื่อว่ามันจะสู้พวกเราได้!”

เทพโบราณเผ่าภูตทมิฬเผยสีหน้าเหี้ยมเกรียมน่ากลัว

แต่ตอนนี้เอง ปลายฟ้าไกลมีกลิ่นอายสะเทือนฟ้าดินแผ่ระลอกมา

ฟุ่บ! ร่างเงาสามร่างปรากฏขึ้นตรงกลางระหว่างกองกำลังทั้งสองฝั่ง กลิ่นอายมหาศาลอันน่าหวาดหวั่นสะเทือนไปทั่วทุกทิศ

“สำนักหวนคืนต้นกำเนิด เทพโบราณเฉียนหยวน!”

เทพโบราณเผ่าภูตทมิฬและหอมังกรเหลืองตกใจจนเสียงหลง

พวกเขาส่งข่าวที่จ้าวเฟิงกลับมาให้กับขั้วอำนาจบางแห่ง รวมไปถึงสำนักหวนคืนต้นกำเนิดด้วยเช่นกัน แต่สำนักหวนคืนต้นกำเนิดก็ไม่น่าจะตามมาเร็วถึงเพียงนี้ อีกทั้งคนที่มาถึงที่นี่ยังเป็นเจ้าสำนักหวนคืนต้นกำเนิดที่เป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพและผู้อาวุโสขั้นเก้าสุดยอดอีกสองคน

พวกเขาเพิ่งจะตระหนักได้ จ้าวเฟิงเกรงว่าจะแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคิดไว้

“จ้าวเฟิง ส่งตัวปฐมเทพกุยอีมา และยอมให้จับเสียดีๆ!”

เทพโบราณเฉียนหยวนไม่สนใจขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งทั้งสาม สายตาจ้องเพ่งไปยังจ้าวเฟิงพลางกล่าวราบเรียบ

“ในที่สุดพวกเจ้าก็ตามมา เช่นนั้นจัดการไปพร้อมกันเลยแล้วกัน!” มุมปากจ้าวเฟิงยกยิ้มน้อยๆ มองไปยังคนสำนักหวนคืนต้นกำเนิดทั้งสาม

เซี่ยโหวอู่และหานหนิงเอ๋อร์เข้าใจคำว่า ‘รอก่อน’ ของจ้าวเฟิงก่อนหน้านี้ทันใด

มาเพียงแค่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพคนเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่กังวลเลยสักนิด

ย้อนกลับมาดูฝั่งสำนักรากฐานเทพ แต่ละคนอกสั่นขวัญแขวน ถอยหลังไปอย่างอดไม่ได้ สำนักหวนคืนต้นกำเนิดเห็นได้ชัดว่ามาหาเรื่องจ้าวเฟิงโดยเฉพาะ

“อ้อ? เจ้าจะจัดการอย่างไร?”

เจ้าสำนักหวนคืนต้นกำเนิดตะลึงไปเล็กน้อย ฟังจากน้ำเสียงของจ้าวเฟิงแล้วเหมือนจะรู้ถึงการมาเยือนของพวกเขา

“ข้าย่อมหวังว่าจะจัดการได้อย่างสันติ!” จ้าวเฟิงพูดอย่างราบเรียบใจเย็น

ในตอนนั้น เขากักตัวสมาชิกอัจฉริยะของขั้วอำนาจทั้งหลายไว้ แต่พวกนั้นเป็นคนที่จะฆ่าเขาชิงของล้ำค่า ดังนั้นจ้าวเฟิงก็ไม่ได้ทำอะไรผิด อีกทั้งเขานำสมาชิกพวกนี้ไปไว้ในห้วงฝันบรรพกาลแล้ว แน่นอนว่าจะปล่อยออกมาไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความลับของเขาแพร่งพรายออกไป

“น่าขันนัก เจ้าจะมาเทียบกับปฐมเทพกุยอีได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าไม่ประนีประนอม ก็อย่าได้โทษสำนักหวนคืนต้นกำเนิด!” เทพโบราณเฉียนหยวนโกรธแค้น

ที่จริงจัดการอย่างสันติก็สามารถทำได้ แต่ผลประโยชน์ในตัวจ้าวเฟิงนั้นมากมาย มีชุดคลุมมิติ คทาคำสาปมรณะ ทั้งยังมีตำหนักเสวียนอ้าวห้าธาตุ หากฆ่าจ้าวเฟิงก็จะได้ทุกสิ่ง

“ฮี่ๆ เจ้านี่สมควรโดนแล้ว!” คนเผ่าภูตทมิฬคนอื่นหัวเราะชั่วร้ายขึ้นทันที

กองกำลังหอมังกรเหลืองก็ฮึกเหิมอย่างยิ่งเช่นกัน

สำนักหวนคืนต้นกำเนิดออกโรงลงมือเอง จ้าวเฟิงต้องตายเป็นแน่ ไม่แน่ว่าสำนักรากฐานเทพก็อาจจะเดือดร้อนไปด้วยเช่นกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version