Skip to content

King of Gods 1466

King Of Gods

บทที่ 1466 ศัตรูที่แข็งแกร่ง

ดวงตาของจ้าวเฟิงส่องประกาย อีกฝ่ายรู้ข่าวเรื่องเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าไม่ใช่เรื่องน่าประหลาด แต่พูดประโยคนี้ออกมา จุดประสงค์ของเขาก็ชัดเป็นอย่างยิ่งแล้ว นั่นก็คือ เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า!

“พวกเจ้าสองคนไปก่อน!” จ้าวเฟิงมองคนเบื้องหน้า ก่อนจะส่งกระแสจิตให้เซี่ยโหวอู่และหานหนิงเอ๋อร์

จอมเทพขั้นสองเบื้องหน้ารู้เส้นทางของพวกเขา ก็พิสูจน์แล้วว่าเขามีเครือข่ายข่าวกรองที่ยิ่งใหญ่มาก เช่นนั้น อีกฝ่ายคงไม่มีทางไม่รู้ว่าจ้าวเฟิงโจมตีจอมเทพขั้นสองอย่างเจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงจนล่าถอยไป

รู้ทั้งรู้ว่าพลังของจ้าวเฟิงแข็งแกร่ง อีกฝ่ายยังกล้ามาเพียงลำพัง ทำให้จ้าวเฟิงยิ่งเพิ่มความระมัดระวังขึ้นอีก

เขาจึงให้เซี่ยโหวอู่และหานหนิงเอ๋อร์จากไปก่อนเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

ฟุ่บ! ฟุ่บ! เซี่ยโหวอู่และหานหนิงเอ๋อร์จากไปทันที

สนามต่อสู้ของจอมเทพ พวกเขายื่นมือเข้าไปยุ่งไม่ได้ กลับจะยิ่งเกะกะเสียมากกว่า นอกจากนั้น เซี่ยโหวอู่ก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของจอมเทพป้าหลง น่ากลัวว่านี่จะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด พวกเขายิ่งอยู่เป็นอุปสรรคต่อจ้าวเฟิงที่นี่ไม่ได้

สายตาของจอมเทพป้าหลงจ้องจ้าวเฟิงอยู่ตลอด

ไม่สนใจเซี่ยวโหวอู่และหานหนิงเอ๋อร์ที่จากไป

“หากเจ้ายอมมอบดวงตาของเจ้ามา ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า อีกทั้งจะให้เจ้าเข้าร่วมขั้วอำนาจที่ข้าอยู่ด้วย!”

จอมเทพป้าหลงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ขั้วอำนาจที่เจ้าอยู่คือขั้วอำนาจใด?” จ้าวเฟิงถามทันที

เขามองว่าเขตผาเก่ามีเพียงแค่สามขั้วอำนาจห้าดาวกับแดนศักดิ์สิทธิ์ จึงจะมีเครือข่ายข่าวกรองที่ใหญ่ถึงเพียงนั้น และรับรู้ความเคลื่อนไหวของจอมเทพคนหนึ่งได้

ความเป็นไปได้ที่จะเป็นหนึ่งในสามขั้วอำนาจห้าดาวน้อยนัก เช่นนั้น ความเป็นไปได้มากที่สุดคือแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาแห่งเขตผาเก่า!

“เจ้ามอบเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้ามา ข้าถึงจะบอก!” จอมเทพป้าหลงยิ้มมุมปากเหี้ยมเกรียม

หากจ้าวเฟิงยอมมอบเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าให้ ก็พิสูจน์ได้ว่าจ้าวเฟิงอยากเข้าร่วมขั้วอำนาจที่เขาอยู่จริงๆ

“เจ้าอยากได้ก็มาเอาไปสิ!” สีหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งเครียด พลังเทพบริสุทธิ์มหาศาลในแท่นเทวะโคจรขึ้นมา

“เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า ข้าจะต้องเอามาให้ได้!” จอมเทพป้าหลงแค่นเสียงเย็น ในกายก่อพลังสายเลือดต้องห้ามขึ้นกลุ่มหนึ่ง

ครืน! เพลิงมังกรสีแดงเข้มมหาศาลพวยพุ่งออกมาตามช่องระหว่างเกล็ดทั่วกายเทพ ชั่วพริบตาก็ย้อมให้ทั่วทั้งท้องฟ้ากลายเป็นทะเลเพลิงสีแดงเข้ม กลิ่นอายภัยพิบัติที่กดดันกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายมายังจ้าวเฟิงที่อยู่ใจกลางทะเลเพลิง

“เผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกา!” จ้าวเฟิงตกใจเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้เขาก็สัมผัสได้ แต่ตอนนี้มาเห็นด้วยตาตัวเองยิ่งตกใจขึ้นไปอีก นี่คือเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาตัวที่สองนอกจากมังกรทมิฬล้างโลกาที่เขาเจอ

อีกทั้งคนที่มีสายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาเบื้องหน้านี้ยังเป็นจอมเทพขั้นสอง พลังแท้จริงของเขาแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ยากที่จะจินตนาการได้

ภายในชุดคลุมมิติ

เลือดในกายของมังกรทมิฬล้างโลกาสั่นสะท้าน

“เกิดอะไรขึ้น? สายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาแข็งแกร่งยิ่งนัก”

มังกรล้างโลกาตกใจยกใหญ่

“มังกรล้างโลกาโจมตี!” กรงเล็บทั้งสองของจอมเทพป้าหลงสะบัดไป

เปลวไฟแดงเข้มทั่วท้องฟ้าก่อตัวเป็นมังกรยักษ์เปลวเพลิงสองตัวทันที จากนั้นพุ่งทะยานไปยังจ้าวเฟิง

การโจมตียังไม่ทันมาถึง จ้าวเฟิงก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่อันตราย

“สมกับที่เป็นมังกรล้างโลกา พลังการโจมตีทำลายล้างฟ้าดิน!” จ้าวเฟิงไม่กล้าดูแคลน รีบโคจรพลังเทพรวมศูนย์ทันที แล้วสำแดงหลุมดำรวมศูนย์

วู้ม ฟู่ ฟู่! วงแสงสีดำทมิฬโอบล้อมจ้าวเฟิงเอาไว้ ทั้งยังส่งพลังบิดเบี้ยวกัดกินที่แข็งแกร่งออกมา แน่นอนว่าต่อให้สำแดงหลุมดำรวมศูนย์ จ้าวเฟิงก็ไม่สามารถฝืนต้านการโจมตีของจอมเทพป้าหลงได้

การโจมตีกระบวนท่าเดียวของจอมเทพป้าหลงแข็งแกร่งกว่าเจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงในตอนนั้นไม่น้อย หลุมดำรวมศูนย์ก็ไม่แน่ว่าจะต้านทานต่อไปได้

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงคงสภาพหลุมดำรวมศูนย์เอาไว้พลางเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว

วู้ม วู้ม! ทั้งสองข้างของหลุมดำต่างแผ่พลังเทพรวมศูนย์ออกมา ก่อขึ้นเป็นกระบี่เทพรวมศูนย์สองเล่ม จากนั้นลวดลายอัสนีชั้นหนึ่งแผ่ขยายไปบนกระบี่เทพ ก่อนฟาดฟันไปยังจอมเทพป้าหลง

“หึ!” จอมเทพป้าหลงแค่นเสียงเย็น ไม่หลบหลีก แต่ทะยานออกไปทันใด

ครืน! เพลิงมังกรแดงเข้มชั้นหนึ่งปะทุออกมา จอมเทพป้าหลงแปลงเป็นมังกรยักษ์ดำทมิฬตัวหนึ่ง อ้าปากใหญ่เหี้ยมเกรียมตรงมาฉีกกระชากพร้อมด้วยเพลิงมังกรทำลายล้าง

เคร้ง บึ้ม!

กระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์ของจ้าวเฟิงถูกจอมเทพป้าหลงกัดเอาไว้ ส่วนอีกเล่มหนึ่งฟันลงมาบนร่างของเขา ทิ้งรอยแผลเอาไว้ทางหนึ่ง แต่ทว่า เผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกามีกายมังกรล้างโลกา ต่อให้เป็นกระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์ก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว

อีกด้านหนึ่ง จอมเทพป้าหลงพ่นเพลิงมังกรทำลายล้างออกมา เปลวไฟลุกไปตามกระบี่อัสนี แผ่ลามไปยังจ้าวเฟิง

วู้ม! จ้าวเฟิงชักกระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์กลับไปอย่างจนใจ

“จัดการยากเสียจริง!” สีหน้าเขาเคร่งเครียด

ทั้งที่เป็นจอมเทพขั้นสองเช่นกัน แต่จอมเทพป้าหลงแทบจะสามารถบดขยี้เจ้าตำหนักรัตติกาลม่วงได้

“ผู้เยาว์ ไม่ใช่ว่าเจ้ายังมีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนอยู่หรอกรึ?” จอมเทพป้าหลงเงยหน้าคำราม แล้วจึงทะยานไปยังจ้าวเฟิง

“อะไรนะ?”

จ้าวเฟิงตื่นตะลึง จอมเทพป้าหลงรู้ว่าเขามีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนด้วย!

ทว่ามาคิดๆ ดูแล้ว เขาใช้เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนในการต่อสู้ที่นรกเพลิงโลกันตร์ในตอนนั้น คนที่รู้ก็เพิ่มมากขึ้น

“หากไม่เอาออกมาละก็ เจ้าจะไม่มีโอกาสแล้ว!”

จอมเทพป้าหลงเข้าประชิดไปยังจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายสายเลือดกลุ่มนั้นทำให้จ้าวเฟิงไม่สบายไปทั่วทั้งร่าง

ขวับ! ในตอนนี้ ข้างกายจอมเทพป้าหลงปรากฏแผ่นเหล็กสีดำชิ้นหนึ่งซึ่งแผ่กระจายกลิ่นอายน่าพรั่นพรึงที่ทำลายทุกสิ่งออกมา

เสี้ยวขณะที่แผ่นเหล็กชิ้นนี้ปรากฏขึ้น เพลิงมังกรทำลายล้างในฟ้าดินก็รวมตัวไปที่แผ่นเหล็ก พลานุภาพที่น่าหวาดกลัวกลุ่มนั้น ต่อให้เป็นจ้าวเฟิงก็สั่นสะท้าน

“เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน!” จ้าวเฟิงตกใจจนร้องเสียงหลง

ใช่แล้ว แผ่นเหล็กสีดำที่จอมเทพป้าหลงหยิบออกมาเบื้องหน้านี้ก็คือเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนเช่นกัน!

ครืน ฟิ้ว! เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนเพียงวาดไปในอากาศ ก็ปลดปล่อยคลื่นแสงเพลิงดำออกมาสายหนึ่ง

ทุกที่ที่คลื่นแสงสีดำพาดผ่าน แม้กระทั่งมิติก็ยังบิดเบี้ยว อีกทั้งยังย้อมไปด้วยเปลวเพลิงสีดำ

ขวับ! เสี้ยวขณะนี้ จ้าวเฟิงไม่กล้าเก็บซ่อนอีกต่อไป รีบหยิบเอาเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนออกมา

ชั่ววินาทีที่เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทเวลาปรากฏ แสงเลือนรางสีขาวก็ตลบอบอวลไปทั่วทุกทิศ ควบคุมเปลวเพลิงรอบด้านได้หลายส่วน

“คมดาบแห่งเวลา!” จ้าวเฟิงสะบัดเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน ฟันคมดาบสีขาวระยับขนาดมหึมาทางหนึ่งออกไป

ทุกอย่างบริเวณคมดาบนั้นช้าเนิบยิ่งนัก แต่ความเร็วของมันกลับสูงเป็นอย่างยิ่ง ไปถึงหน้าคลื่นแสงเปลวเพลิงในพริบตา แล้วปะทะโจมตีอย่างรุนแรง

ครืน บึ้ม!

กฎเกณฑ์เวลาและกฎเกณฑ์ทำลายล้างปะทะเข้าด้วยกัน คลื่นแสงสีดำขาวตลบกระจายไปทั่วด้าน

ฟิ้ว! จอมเทพป้าหลงไม่สนใจคลื่นโจมตี อาศัยกายมังกรล้างโลกาที่แข็งแกร่งเข้าไปใกล้จ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว

“มังกรทะยานผลาญทำลาย!” เขาเพียงอ้าปาก มังกรดำเหี้ยมเกรียมก็ทะยานไปยังจ้าวเฟิง

มังกรดำเปลวเพลิงตัวนี้เหมือนจอมเทพป้าหลงราวกับพิมพ์เดียวกัน ประหนึ่งเป็นร่างแยกของเขา ความแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือ มังกรตัวนี้ก่อตัวขึ้นจากเพลิงมังกรล้างโลกาที่เข้มข้น

“แข็งแกร่งยิ่งนัก เผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาในขั้นสอง ทั้งยังมีเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน นอกจากนั้นพรสวรรค์ ประสบการณ์ และวิชาของคนคนนี้ล้วนล้ำหน้าคนทั่วไปทั้งสิ้น!” จิตใจของจ้าวเฟิงตึงเครียด

เห็นมังกรยักษ์เปลวเพลิงใกล้โจมตีมาเต็มที ขอบเขตการโจมตีกว้างมาก ยากจะหลบหลีกได้ ส่วนหลุมดำรวมศูนย์ก็เกรงว่าจะต้านทานได้ยาก

วู้ม! สีหน้าจ้าวเฟิงฉายแววตั้งมั่น ตาซ้ายส่องประกายแสงมายา

“เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้ารึ?” จอมเทพป้าหลงแววตาเปล่งประกาย ใจค่อนข้างวาดหวัง

“เปลี่ยนมายา!” หมอกแสงมายาแต่ละกลุ่มหมุนวนออกมาจากตาซ้ายของจ้าวเฟิง แล้วแทรกซึมไปในท้องฟ้า ทันใดนั้น ทุกสิ่งเบื้องหน้าของเขาถูกปกคลุมไปด้วยสีสันมายา พร่างพรายงดงามราวกับภาพความฝัน

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาชื่นชมทิวทัศน์ ภยันตรายยังคงประชิดมา!

“สลาย!” ความคิดของจ้าวเฟิงรวมไปยังมังกรยักษ์เปลวเพลิงเบื้องหน้าตัวนั้น จากนั้นจึงชี้นิ้ว ส่งแสงเทพรวมศูนย์ออกไปทางหนึ่ง

โผละ~ ในยามที่แสงเทพรวมศูนย์ปะทะเข้ากับมังกรยักษ์เปลวเพลิง มังกรยักษ์ตัวนั้นก็สลายไปทันทีราวกับฟองอากาศ ส่วนแสงเทพรวมศูนย์ทะลุผ่าน แล้วหายไปในท้องฟ้าไกล

“อ้อ? นี่ก็คือความสามารถอันน่ามหัศจรรย์ของเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า?” สีหน้าของจอมเทพป้าหลงฉายแววตื่นเต้นยินดี

ความสามารถเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนนี้ได้เห็นกับตาตัวเอง เขาก็ไม่อาจเข้าใจถึงหลักเหตุผลของความสามารถนี้ได้

“เนตรเทพลอกแบบ มังกรทะยานผลาญทำลาย!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงแผ่ระลอกพลังดั้งเดิมมหาศาล

จอมเทพป้าหลงที่กำลังโจมตีมายังจ้าวเฟิงพลันหยุดลง ประสาทสัมผัสเทพกวาดไปยังเบื้องหลัง เห็นเพียงเนตรสวรรค์สีเงินมายาข้างหนึ่งฝังตัวอยู่ในฟ้าดิน

ในขณะนี้ แม้กระทั่งสายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาของเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความกดดัน

วู้ม วู้ม! หมอกแสงมายาชั้นหนึ่งลอยขึ้นในเนตรสวรรค์สีเงิน

ทันใดนั้น มังกรดำทำลายล้างตัวหนึ่งบินออกมาจากในหมอกแสงมายา แยกเขี้ยวกางกรงเล็บ โจมตีไปยังจอมเทพป้าหลง

“นี่มัน?” จอมเทพป้าหลงตะลึงไปในทันที

จ้าวเฟิงสำแดงเคล็ดวิชาแข็งแกร่งที่เขาใช้เมื่อครู่!

แต่เป็นไปไม่ได้ นี่คือเคล็ดวิชาสายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกา จ้าวเฟิงไม่มีเพลิงมังกรล้างโลกา ไยจึงสำแดงวิชาออกมาได้

ทว่าเมื่อนึกถึงเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า จอมเทพป้าหลงก็ไม่ว้าวุ่นใจอีกต่อไป

ครืน ฟู่! มังกรล้างโลกาตัวนั้นพุ่งชนจอมเทพป้าหลง เพลิงสีดำมหาศาลลุกไหม้

เผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกามีร่างมังกรล้างโลกาและเพลิงมังกรที่แข็งแกร่ง พลังสองชนิดนี้สามารถกดข่มซึ่งกันและกันได้ในระดับหนึ่ง

ครืน ฟู่ ฟู่! บนร่างของจอมเทพป้าหลงเกิดรอยแตกไหม้เกรียมขึ้นมากมาย เพลิงมังกรล้างโลกาเผาไหม้ลุกโหม

“กระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์!” กระบี่ขนาดเล็กพุ่งออกมาจากตาซ้ายของจ้าวเฟิงทันที

ชั่วขณะที่กระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์พุ่งออกมา ตาซ้ายของเขาก็ปลดปล่อยวิชาดวงตาที่แข็งแกร่งมาอีกหลายสาย รวมถึงเพลิงดวงตาอัสนีเทวะ ดาราทลายผืนดิน และเนตรมารแผดเผาวิญญาณ

วิชาดวงตาพวกนี้แทบจะปลดปล่อยออกมาในชั่วพริบตา

ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จ้าวเฟิงในตอนนั้นไม่อาจเข้าใจได้ แต่ตอนนี้ เขาสามารถยืนยันได้แล้วว่านี่ก็คือความสามารถแบบหนึ่งของ ‘แปรฝันให้เป็นจริง’

ใจของเขาคิดอยากปลดปล่อยวิชาดวงตาออกมาอย่างเร่งร้อน เช่นนั้น ความเร็วในการสำแดงวิชาดวงตาก็จะเร็วเหลือประมาณ

ครืน ตูม บึ้ม! พลังที่แข็งแกร่งแต่ละชนิดแผ่ระลอกมายังร่างของจอมเทพป้าหลง

“คมดาบแห่งเวลา!” เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนกลับมาอยู่ในมือของจ้าวเฟิง กวัดแกว่งไปหลายทีติดต่อกัน คมสีขาวระยิบระยับหลายสายทะลวงออกมา

เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนของจอมเทพป้าหลงรู้สึกตัว จึงปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่ง พยายามต้านทานไว้เพื่อเจ้านาย แต่หนึ่งคือเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนที่โจมตีเอง อีกหนึ่งคือผู้ควบคุม ทั้งสองแตกต่างกันในระดับหนึ่ง

ครืน ตูม บึ้ม! เปลวเพลิงแสงสีดำขาวระเบิดปะทุ คมดาบสีขาวระยิบระยับพุ่งออกมาจากในนั้น โจมตีไปยังจอมเทพป้าหลง

“ไป!” จ้าวเฟิงเผยสีหน้าเคร่งขรึม โคจรพลังมิติหนีไปทันที

ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วครู่ที่เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่การต่อสู้เมื่อครู่ก็ใช้พลังไปไม่น้อย โดยเฉพาะการสำแดงกฎเกณฑ์และความสามารถของเนตรเทพมายา อีกทั้งจอมเทพป้าหลงมีพลังฝึกตนขั้นสอง สายเลือดอยู่ในสิบอันดับแรก พลังแฝงล้ำลึก ยากจะรับประกันว่าไม่มีไพ่ตายอะไรอีก คิดจะเอาชนะก็ยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง เกรงว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล!

หลังจากที่จ้าวเฟิงหนีไปชั่วขณะหนึ่งแล้ว

“บัดซบ หนีไปแล้ว!” จอมเทพป้าหลงเงยหน้าคำราม

คมดาบแห่งเวลาดาบสุดท้ายฟันโดนเขา ผลของพลังกฎเกณฑ์เวลาออกฤทธิ์ ทำให้บาดแผลสมานตัวช้า ความคิดและการกระทำต่างช้าลง

มิฉะนั้น จ้าวเฟิงไม่มีทางถอยไปได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้

แต่ตอนนี้จอมเทพป้าหลงได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ต่อให้ตามไป โอกาสชนะก็มีไม่มาก สิ่งที่ยิ่งสำคัญไปกว่าก็คือ จ้าวเฟิงครอบครองเศษเสี้ยวบรรพชนประเภทเวลา เขาอยากจะไล่ตามก็ตามไม่ทัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!