Skip to content

King of Gods 1469

King Of Gods

บทที่ 1469 หอหงส์เพลิง

อีกทั้งพลังของผู้ลอบโจมตีก็ดูแคลนไม่ได้เลย ทั้งยังเชี่ยวชาญกฎแห่งไฟ เมื่ออยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมของมหาสมุทรเพลิงสวรรค์ พลังยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ตายซะ!” ผู้อาวุโสผมแดงคนหนึ่งปรากฏออกมาจากเงาแสงสีแดง แววตาโหดเหี้ยม

ครืน ฟู่ ฟู่!

ฝ่ามือทั้งสองของเขาซัดเงาฝ่ามือสีแดงเพลิงหลายสายออกไปติดๆ กัน เหนี่ยวนำเพลิงมหาศาลในมหาสมุทรเพลิงสวรรค์มา มองไปแล้วราวกับภูเขาไฟลูกยักษ์หลายลูกกดทับลงมาด้วยพลังสะท้านฟ้า

จ้าวเฟิงกุมกระบี่เทพ ทั้งยังกระตุ้นวงแสงรวมศูนย์โดยเร็ว

ฟิ้ว บึ้ม บึ้ม~

กระบี่เทพรวมศูนย์ของเขากวัดแกว่งโจมตีออกไป เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือเพลิงเหล่านั้น

สำหรับการโจมตีที่ไปไม่ถึงก็ใช้วงแสงรวมศูนย์ดูดซับเอา

สถานที่ต้องห้ามอันตรายเช่นนี้ รอบด้านล้วนเต็มไปด้วยพลังชั้นยอด วงแสงรวมศูนย์จึงสามารถดูดซับได้ทุกชั่วขณะ ทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น

ฟุ่บ! หลังจากที่ต้านทานการโจมตีรอบแรกของผู้อาวุโสผมแดงไว้ จ้าวเฟิงก็ทิ้งห่างจากฝ่ายตรงข้ามระยะหนึ่ง

“พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ท่านเข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่?”

จ้าวเฟิงมองอีกฝ่าย เอ่ยอย่างสงบนิ่ง

ผู้อาวุโสผมแดงทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าแค่อยากจะสังหารตนเท่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อชิงเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า

“ไม่รู้จักก็ดี รู้จักก็ช่าง!” ผู้อาวุโสผมแดงแค่นเสียงต่ำ ก่อนพุ่งสังหารมาอีกครั้ง

ฟุ่บ! ดาบยาวเมฆาเพลิงเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา คมดาบส่องประกายเพลิงร้อนแรง อานุภาพมหาศาล

จากการประมือกันเมื่อครู่ ผู้อาวุโสผมแดงรู้สึกว่าพลังแท้จริงของจ้าวเฟิงแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้ จัดการค่อนข้างยาก จึงเอาอาวุธเทพระดับสุดยอดออกมา

ขวับ ขวับ!

ดาบบยาวกวัดแกว่ง แสงเพลิงแดงแต่ละเส้นทะลวงผ่านท้องฟ้า ราวกับแม่น้ำที่ไหลบ่าอย่างไรอย่างนั้น

“หึ!” จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็น

จากเหตุการณ์เมื่อครู่ ท่าทางผู้อาวุโสผมแดงคนนี้ไม่ได้มาเพื่อชิงเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้า เขาอยากสังหารตน บางทีอาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น และเป็นไปได้ว่าเดิมทีเขาก็เป็นคนที่ชอบการสังหารอยู่แล้ว

ฝ่ายตรงข้ามคิดจะสังหารตน จ้าวเฟิงก็ไม่พูดพร่ำอีกต่อไป

“กระบี่เทพรวมศูนย์!” เหนือกระบี่เทพรวมศูนย์เล่มหนาในมือจ้าวเฟิง พลันอบอวลไปด้วยพลังอัสนีเทวะ ลวดลายอัสนีพันล้อมกระบี่เทพรวมศูนย์ แล้วแปลงเป็นกระบี่อัสนีเทวะในทันใด!

ครืน! จ้าวเฟิงฟันกระบี่ออกไป ประกายกระบี่อัสนีเทวะใหญ่ยักษ์ทะลวงผ่านทะเลเพลิง

“เอ๋?” สีหน้าผู้อาวุโสผมแดงตกตะลึง

พลังเทพที่จ้าวเฟิงปะทุออกมาในตอนนี้ไม่ธรรมดาเลย

ครืน บึ้ม ตูม!

ประกายกระบี่อัสนีเทวะรวมศูนย์ฟันคมดาบเปลวเพลิงขาดเป็นสองท่อน อีกทั้งในขณะเดียวกับที่ใช้พลัง ประกายกระบี่อัสนีเทวะยังดูดซับพลังจากภายนอกมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวมันเอง

เคร้ง! ผู้อาวุโสผมแดงกวัดแกว่งดาบยาวในมือ จัดการการโจมตีของจ้าวเฟิงจนแหลกละเอียด

“คนคนนี้…” ผู้อาวุโสผมแดงเผยสีหน้าขบคิด

ในตอนนี้เอง กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่กลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหลังจ้าวเฟิง

“คนของสำนักวายุลมกรด ถอย!” สีหน้าของชายผมแดงเปลี่ยนไป ก่อนล่าถอยไปทันที

ไม่นานเท่าใดนัก ชายวัยกลางคนในชุดครามก็มาถึงที่นี่

“ท่านโจมตีจน ‘ผู้เฒ่าสีชาด’ แห่งหอหงส์เพลิงล่าถอยไปได้ เห็นทีพลังคงจะไม่ธรรมดา ไม่ทราบว่าท่านเป็นจอมเทพจากแห่งใด? ไม่แน่ว่าข้าอาจเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านมาบ้างก็ได้!”

ชายวัยกลางคนชุดครามยิ้มแย้ม ให้ความรู้สึกเหมือนอาบด้วยลมยามวสันต์ท่ามกลางมหาสมุทรเพลิงสวรรค์แห่งนี้

“ข้าน้อยจ้าวหวาง เป็นจอมเทพเลื่อนขั้นคนใหม่ บังเอิญผ่านมาทางนี้ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ๆ ผู้เฒ่าสีชาดจึงเข้าโจมตี”

จ้าวเฟิงไม่ได้บอกชื่อที่แท้จริง แต่กลับใช่ชื่อของร่างแยก ทั้งยังถามหยั่งเชิง เพราะผู้เฒ่าสีชาดจากไปกะทันหันก็เพราะเห็นชายวัยกลางคนชุดคราม

“คนของหอหงส์เพลิงมีนิสัยฉุนเฉียว ชอบสังหารคนชิงของล้ำค่า หากท่านไม่รังเกียจแล้วละก็ ไปเยี่ยมเยือน ‘สำนักวายุลมกรด’ ได้!”

ชายวัยกลางคนชุดครามยิ้มบางๆ ออกปากเชิญชวนจ้าวเฟิง

“ไม่ล่ะ ข้าเพียงแค่ผ่านมาที่นี่เท่านั้น ไม่รั้งอยู่นาน!” จ้าวเฟิงปฏิเสธ

ก่อนหน้าที่ชายวัยกลางคนยังมาไม่ถึงที่นี่ เนตรเทพมายาของเขาก็เจอตัวอีกฝ่ายแล้ว

ตอนนั้น สายตาของชายวัยกลางคนชุดครามเหี้ยมโหด แฝงไว้ด้วยจิตสังหาร เพียงแต่หลังจากนั้น ชายวัยกลางคนเห็นจ้าวเฟิงกำลังสู้กับผู้เฒ่าสีชาดจึงเปลี่ยนสีหน้า

ส่วน ‘หอหงส์เพลิง’ และ ‘สำนักวายุลมกรด’ ที่ชายวัยกลางคนชุดครามพูดถึง เขาแค่เคยได้ยินชื่อเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ก็รู้ไม่มาก

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ขอลาไปก่อน แล้วอีกอย่าง ท่านเข้าใกล้พื้นที่ใจกลางของมหาสมุทรเพลิงสวรรค์แล้ว หากเข้าไปลึกอีก เกรงว่าจอมเทพขั้นหนึ่งก็ยากจะทานทนเปลวไฟที่นั่นได้!” ชายชุดครามแสดงทีท่ามีน้ำใจ เอ่ยเตือนจ้าวเฟิงเล็กน้อย

“ขอลาไปก่อน!” จ้าวเฟิงเอ่ยราบเรียบ จากนั้นก็ค่อยๆ จากไปไกล

ครั้งนี้เขาไม่ได้เดินลึกเข้าไปในมหาสมุทรเพลิงสวรรค์ต่อ แต่กลับสำรวจบริเวณรอบนอก

“หรือที่นี่จะมีลับลมคมนัยอะไร?” จ้าวเฟิงค่อนข้างสงสัย

‘หอหงส์เพลิง’ และ ‘สำนักวายุลมกรด’ เป็นขั้วอำนาจห้าดาวในเขตลำนำดาราทั้งสิ้น

แต่ทำไมจอมเทพของขั้วอำนาจห้าดาวจึงมารวมตัวอยู่ในพื้นที่ต้องห้าม ‘มหาสมุทรเพลิงสวรรค์’

หลังจากสำรวจอย่างละเอียด เขาก็พบว่าในมหาสมุทรเพลิงสวรรค์มีกลิ่นอายพลังเทพเบาบางอยู่มากมาย เห็นได้ชัดว่ามีคนมาที่นี่ในระยะนี้ไม่น้อยเลย ตามหลักแล้ว สถานที่ต้องห้ามอันตรายน่าจะมีคนน้อย ความอันตรายของพื้นที่ต้องห้ามยิ่งสูง ก็ยิ่งยากจะเจอเงาคนสักคนหนึ่ง ดังนั้นที่นี่จะต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเป็นแน่

ที่แห่งหนึ่ง ณ ใจกลางมหาสมุทรเพลิงสวรรค์ อุโมงค์มิติพลันปรากฏขึ้นข้างหน้าชายวัยกลางคนชุดคราม

ฟุ่บ! พอเขากระโดดเข้าไปข้างใน อุโมงค์ก็ปิดลงทันที เขาบินไปอย่างรวดเร็ว จนมาถึงยังวังขาวระยิบระยับแห่งหนึ่ง

วู้ม! จู่ๆ พลันมีเงาเลือนรางร่างหนึ่งปรากฏขึ้นบนบัลลังก์หยกเขียวในวัง

ข้างในมองเห็นผู้อาวุโสชราสวมชุดสีฟ้าซึ่งกำลังแผ่พลังอำนาจที่น่าพรั่นพรึงไปทั่วทั้งวังได้รางๆ

“สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง?” ผู้อาวุโสชุดฟ้าถามอย่างเอื่อยเฉื่อย

“ไม่ใช่คนของ ‘หอหงส์เพลิง’!” ชายวัยกลางคนชุดครามเอ่ยราบเรียบ

“ไม่ได้จัดการหรือไล่ไป?” ผู้อาวุโสชุดฟ้าถามไปตามอารมณ์

เป้าหมายของเขาคืออย่าให้คนนอกรู้เป็นดีที่สุด คนที่รู้ หากไม่เข้าร่วมกับสำนักวายุลมกรด ก็เป็นศัตรูของสำนักตน

“คนคนนี้บางทีอาจแข็งแกร่งกว่าผู้เฒ่าสีชาด ถึงแม้ข้าจะเอ่ยปากเชิญชวนเขาก็ไม่ตกลง” แววตาของชายวัยกลางคนชุดฟ้าหนักอึ้ง

ต่อมา ชายวัยกลางคนก็เล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อย่างละเอียด

“จับตาดูเขาเอาไว้ หอหงส์เพลิงจะต้องคิดว่าคนคนนี้เป็นคนของสำนักวายุลมกรดแน่ หากเขาเจอกับอันตราย เจ้าก็ลงมือช่วยเหลือ พยายามดึงเข้าเป็นพวก แต่หากเขายังดึงดันจากไปก็ปล่อยไปเสีย…” แววตาของผู้อาวุโสชุดฟ้าส่องประกาย

“ขอรับเจ้าสำนัก หากคนคนนี้ยินดีช่วย ความเป็นไปได้ที่เราจะได้ของสิ่งนั้นมาก็จะยิ่งมากขึ้น!” ชายกลางคนชุดครามเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

……

หลายวันต่อมา จ้าวเฟิงท่องเรื่อยเปื่อยไปในมหาสมุทรเพลิงสวรรค์ แต่เขาไม่ได้เข้าไปลึกในใจกลาง อย่างมากก็เดินอยู่ใกล้ๆ พื้นที่ใจกลางเท่านั้น

ระหว่างนั้นเขาก็ฝึกฝนตนเองพลางสำรวจจุดที่ผิดปกติ

“คนที่สะกดรอยตามเป็นคนของสำนักวายุลมกรด!” จ้าวเฟิงตรวจพบคนที่แอบสะกดรอยตามได้นานแล้ว

ถึงแม้วิชาอำพรางของอีกฝ่ายจะลึกล้ำ แต่ก็ยังคงหนีไม่พ้นสายตาของจ้าวเฟิงอยู่ดี แต่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้แสดงท่าทีคุกคามอย่างชัดเจน จ้าวเฟิงก็เลยไม่คิดจะลงมือ

ทันใดนั้น กลิ่นอายกดดันกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายมาจากทะเลเพลิงไกลลิบ

“แย่แล้ว!” จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงความเป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรง

ชายวัยกลางคนชุดครามที่อยู่ห่างไกลข้างหลังเผยสีหน้ายินดี “หอหงส์เพลิงอดใจไม่ไหวลงมือแล้ว ฮี่ๆ หากคนคนนี้ยินดีเข้าร่วมกับสนักวายุลมกรด เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณหอหงส์เพลิงแล้ว!”

เขาอำพรางตัวต่อไป คอยจับตาดูสถานการณ์เอาไว้

ครืน! ในทะเลเพลิงกว้างใหญ่ ผู้อาวุโสชุดเหลืองที่ผิวเหลืองหยาบกร้าน คิ้วหนาตาโตคนหนึ่งทะยานออกมา

“ตาย!” พอผู้อาวุโสคนนั้นปรากฏกายขึ้น ก็ปลดปล่อยพลังเทพที่แข็งแกร่งออกมาทันที

พลังหนักอึ้งสีเหลืองหม่นชั้นหนึ่งลอยขึ้นมา ทำให้ร่างกายของจ้าวเฟิงชะงักไป

“จอมเทพขั้นสอง!” จ้าวเฟิงตื่นตะลึง

เขาคาดเอาไว้แล้วว่าผู้มาเยือนคือคนของหอหงส์เพลิง แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะส่งจอมเทพขั้นสองมา

ครืน! เหนือหัวจ้าวเฟิง พลังเทพมากมายก่อร่างเป็นภูเขายักษ์น่าหวาดหวั่น

ภายใต้การแผดเผาของไฟมหาศาล ภูเขายักษ์ปรากฏรอยสีแดงเข้ม ความกดดันที่ส่งมายิ่งหนักหน่วงรุนแรงกว่าเดิม

ในตอนนี้เอง

วูบ! ชายวัยกลางคนชุดครามบินมาจากข้างหลังอย่างรวดเร็ว

“สหาย คนของหอหงส์เพลิงเพ่งเล็งเจ้าแล้ว คนคนนี้คือจอมเทพขั้นสอง ‘จวี้หลิง’ (จิตมหึมา) พวกเรารีบถอยเร็ว!”

ชายชุดครามเข้าไปใกล้จ้าวเฟิงอย่างว่องไว จากนั้นแสดงทีท่าเห็นความไม่เป็นธรรม ชักกระบี่เข้าช่วย

พลังของจ้าวเฟิงแข็งแกร่ง และตัวเขาเองก็มีวิชาอยู่บ้าง ต่อให้ศัตรูเป็นจอมเทพขั้นสอง พวกเขาสองคนร่วมมือกันถอยเพื่อเอาตัวรอดก็ไม่ใช่ปัญหาเลย อีกทั้งยังสามารถดึงจ้าวเฟิงให้มาเป็นพวก เพิ่มกำลังเสริมชั้นยอดให้กับสำนักวายุลมกรด!

ครืน บึ้ม!

ทั้งสองลงมือพร้อมกัน โจมตีภูเขายักษ์สีเหลืองหม่นข้างบนจนแหลกละเอียด

“เป็นสำนักวายุลมกรดจริงๆ ด้วย ไม่ว่าพวกเจ้าจะมีแผนอะไร วันนี้ก็ต้องตายอยู่ที่นี่!”

จอมเทพจวี้หลิงหัวเราะหยัน บดขยี้มาพร้อมกับแรงดึงดูดที่น่าพรั่นพรึง

“ถอยเร็ว!” ชายชุดครามไม่ไปสนใจจอมเทพจวี้หลิง

ตอนนี้ขอเพียงพาจ้าวเฟิงกลับไปยังสำนักวายุลมกรด ก็นับว่าเป็นชัยชนะอย่างหนึ่งแล้ว

แต่ยามนี้เอง ทะเลเพลิงไกลๆ ก็ระเบิดปะทุขึ้น

“ตายซะ!” ผู้อาวุโสผมแดงคนหนึ่งพลันปรากฏตัว

คนคนนี้ก็คือผู้เฒ่าสีชาดที่โจมตีจ้าวเฟิงก่อนหน้านี้นั่นเอง

“แย่แล้ว ยังมีอีกคน!” สีหน้าของชายวัยกลางคนชุดครามเปลี่ยนไปทันที

คิดไม่ถึงว่าหอหงส์เพลิงไม่เพียงส่งจอมเทพขั้นสองมา ยังให้ผู้เฒ่าสีชาดซ่อนตัวอยู่ที่นี่อีกด้วย

ครืน ตูม บึ้ม!

คลื่นโจมตีพลังเทพที่ปั่นป่วนจากข้างหลังตรงมาทางจ้าวเฟิงและชายชุดคราม

‘จอมเทพขั้นสองกับผู้เฒ่าสีชาด พวกเราเกรงว่าคงต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว!’

ความคิดของชายวัยกลางคนชุดครามหมุนเร็วจี๋ ไม่ถึงเสี้ยวขณะ เขาก็ตัดสินใจได้

“เจ้าคุมเชิงข้างหลัง ข้าจะไปตามคนมาช่วย!”

ชายชุดครามพูดจบก็เผาผลาญพลังเทพ โคจรพลังกฎเกณฑ์แห่งสายลม รอบกายของเขาพันล้อมด้วยพายุสีเขียวคราม ทั่วทั้งร่างราวกับว่าค่อยๆ ผสานเข้าไปในพายุนั้น

ฟิ้ว! ร่างของชายชุดครามแปลงเป็นแสงสีเขียวอ่อนจากไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วที่ปะทุขึ้นในชั่วพริบตานี้ จอมเทพขั้นสองที่ไม่เชี่ยวชาญด้านความเร็วไม่มีทางตามได้ทันเลย

“เฮ้อ จนปัญญาแล้ว!”ชายชุดครามถอนหายใจหลังจากหนีไปได้ระยะหนึ่ง

ถึงแม้จะไม่อาจดึงเข้าเป็นพวกได้ แต่เขากลับวางแผนทำร้ายจ้าวเฟิง จ้าวเฟิงคนเดียวเผชิญหน้ากับจอมเทพจวี้หลิงและผู้เฒ่าสีชาดต้องตายอย่างแน่นอน

ในเมื่อเป็นแรงเสริมให้กับสำนักวายุลมกรดไม่ได้ ให้หอหงส์เพลิงสังหารทิ้งเสียก็ไม่เลวนัก

“ตายซะ เจ้าหนุ่ม!” จอมเทพจวี้หลงประกบฝ่ามือ กำแพงดินสีเหลืองหม่นปรากฏขึ้นทางซ้ายขวาของจ้าวเฟิง

ครืน! กำแพงดินบีบอัดไปเข้าไปตรงกลาง แผ่กระจายแรงดึงดูดมหาศาลออกมา ราวกับจะบดขยี้จ้าวเฟิงให้กลายเป็นเนื้อเละ

“หลุมดำรวมศูนย์!”

จ้าวเฟิงปลดปล่อยพลังเทพรวมศูนย์มหาศาลออกมาทันใด

วงแสงรอบด้านเขามีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายกลายเป็นสีดำ ทั้งยังแผ่พลังบิดเบี้ยวและสูบกินออกมา

ครืน บึ้ม! กำแพงดินสีเหลืองหม่นสองด้านปะทะเข้าด้วยกัน แรงระเบิดสะเทือนฟ้าทำให้ทะเลเพลิงเกิดคลื่นยักษ์เป็นชั้นๆ

ทันใดนั้น ใจกลางการระเบิดเกิดแรงดูดขึ้นมา

ครืน ฟิ้ว ฟิ้ว! อานุภาพการระเบิดและพลังธาตุไฟมากมายรวมไปยังใจกลาง

“เห็นทีคงต้องทุ่มสุดกำลังแล้ว!” สายตาของจ้าวเฟิงนิ่งดุจน้ำลึก

จากประสบการณ์ช่วงนี้ แม้ไม่ใช้เนตรเทพเจ้า เขาก็สามารถต้านทานจอมเทพขั้นสองได้

ละอองฝุ่นสลายไป หลุมทรงกลมมืดทะมึนที่เกิดขึ้นจากการระเบิดแผ่กระจายกลิ่นอายปั่นป่วนล้ำลึกออกมา

“เอ๋?” สายตาของจอมเทพจวี้หลิงอึ้งตะลึง

เดิมเขาคิดว่าจากการโจมตีกระบวนท่านี้ของเขา จ้าวเฟิงไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บหนัก แต่ผลกลับเหนือความคาดหมายของเขาไปมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!