Skip to content

King of Gods 1483

King Of Gods

บทที่ 1483 พลังบริสุทธิ์

เขตลำนำดารา นอกมหาสมุทรเพลิงสวรรค์

วู้ม~ ประกายแสงมายาบิดม้วน ร่างร่างหนึ่งค่อยๆ ปรากฏออกมาจากในนั้น

“ฮ่าๆ ออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว!” จ้าวเฟิงยืนขึ้น ทั้งร่างเบาสบาย

ถึงแม้เขาจะได้รับการดูแลอย่างดีในอาณาจักรเทพของเผ่าความลับสวรรค์ แต่อยู่ในถิ่นของศัตรู ข้างในยังมีคนที่ล้ำลึกเกินหยั่ง จ้าวเฟิงจึงรู้สึกกดดันทุกวัน หากไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เขาก็ไปจากอาณาจักรเทพนั่นนานแล้ว

ในอาณาจักรเทพเผ่าความลับสวรรค์ จ้าวเฟิงใช้ทรัพยากรมากมายได้โดยไร้เงื่อนไข เสวียนอ้าวที่เขาฝึกฝนในวันนี้แทบจะถึงขั้นเก้าบริบูรณ์

เสวียนอ้าวเวลาในนั้นยิ่งทะลวงขั้นกลายเป็นกฎเกณฑ์เวลา

ส่วนกฎเกณฑ์มิติของเขาก็ก้าวหน้า ทำให้พลังฝึกตนไปถึงขั้นหนึ่งสุดยอด รวมกับการฝึกฝนกับเป่ยหมิงฮุยและการชี้แนะด้วยตนเองจากจ้าวสวรรค์ เทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว พลังของจ้าวเฟิงในตอนนี้พัฒนาไปมาก

แน่นอน ในยามที่ยกระดับตัวเองเขาก็ไม่ลืมบริวารของตน

ในบรรดาทรัพยากรที่เขาร้องขอในช่วงนั้น มีส่วนน้อยส่วนหนึ่งที่เขาให้บริวารและร่างแยกใช้

ในช่วงนั้นจ้าวเฟิงย้ายมังกรล้างโลกามาอยู่ในอาณาจักรเทพมายา มังกรล้างโลกาก็ทะลวงถึงขอบเขตจอมเทพได้อย่างสบายๆ

ส่วนในบรรดาร่างแยก จ้าวคงมีพรสวรรค์มากที่สุด ทั้งยังเป็นเนตรมิติ จึงทะลวงถึงขั้นจอมเทพได้อย่างราบรื่น ร่างแยกอื่นยังคงเป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพ

เมื่อเทียบกับสิ่งเหล่านี้ จ้าวเฟิงเสี่ยงภัยอยู่ในเขตของเผ่าความลับสวรรค์ก็ล้วนคุ้มค่าแล้ว

ตอนนี้เผ่าความลับสวรรค์คงจะโมโหแทบตาย กำลังค้นหาร่องรอยของเขาแน่นอน คิดถึงตรงนี้จ้าวเฟิงก็รู้สึกสาแก่ใจ

ฟุ่บ! ประสาทสัมผัสเทพเพียงกวาดผ่าน จ้าวเฟิงก็พบว่าจำนวนผู้แข็งแกร่งรอบทะเลเพลิงสวรรค์มากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก

มองไปยังทะเลเพลิงสวรรค์อีก เนื่องจากการปรากฏตัวขึ้นของจอมเทพขั้นสาม ผ่านการดูดซับพลังจากศึกใหญ่ รวมกับเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนถูกชิงไป พลังไฟของแดนต้องห้ามแห่งนี้จึงอ่อนกำลังลงกว่าก่อนหน้านี้มาก ความอันตรายก็ลดลงเช่นกันและอาจเป็นเพราะเหตุนี้ ผู้แข็งแกร่งที่ก่อนหน้านี้ไม่กล้าสำรวจแดนอันตรายแห่งนี้จึงมีความคิดจะเข้าไปสำรวจ

ก่อนหน้านี้ ข่าวที่สองขั้วอำนาจรวมตัวกันช่วงชิงเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนได้แพร่กระจายไปนานแล้ว

ตอนนี้ในหมู่คนที่เข้าไปสำรวจ แปดส่วนขึ้นไปล้วนเพื่อเศษเสี้ยวอาวุธทั้งสิ้น

นอกจากคนที่สำรวจของล้ำค่าพวกนี้ ก็ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์ของลำนำดาราก่อตั้งกลุ่มเล็กๆ ขึ้นมากลุ่มหนึ่ง สำรวจเบาะแสรอบบริเวณมหาสมุทรเพลิงสวรรค์

ผู้นำระดับสูงขั้วอำนาจห้าดาวทั้งสองถูกสังหารสร้างความสั่นคลอนให้กับพลังทั้งหมดของเขตลำนำดาราอย่างมหาศาล ดังนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์จึงคิดอยากสำรวจให้แน่ชัดเร็วๆ เหตุที่ทำให้เกิดทุกสิ่งนี่บางทีอาจจะมีความลับที่น่าตกใจอะไรซ่อนเอาไว้

ฟุ่บ! ร่างของจ้าวเฟิงหายเข้าไปในอาณาจักรเทพมายา

เขาเปลี่ยนห้วงฝันบรรพกาลในอดีตให้กลายเป็นอาณาจักรเทพได้อย่างราบรื่น และตั้งชื่อว่า ‘อาณาจักรเทพมายา’ ทุกอย่างในอาณาจักรเทพตอนนี้ล้วนอยู่ในการควบคุมของจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงมาถึงใจกลางอาณาจักรเทพ

เขาควบคุมทั่วทั้งอาณาจักรเทพได้อย่างราบรื่นผ่านจากใจกลางอาณาจักรเทพ กลายเป็นนายของมิติแห่งนี้

วู้ม วู้ม! ไอสวรรค์ฟ้าดินมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

จ้าวเฟิงสร้างมิติเอกเทศขึ้นมาแห่งหนึ่ง ในมิติมีคุณลักษณะพิเศษเหมือนกับมิติในชุดคลุมมิติ นอกจากนั้น มิติแห่งนี้ยังแฝงไว้ด้วยคุณลักษณะพิเศษของพลังดั้งเดิมมายาอีกด้วย

หรือก็คือพลังของแปรฝันให้เป็นจริงสามารถเกิดผลได้โดยไร้รูปร่าง ผลของการฝึกฝนที่นี่แทบจะแข็งแกร่งกว่าผลของการฝึกในแดนศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปเสียอีก

ฟุ่บ! ขัดสมาธินั่งลง ในมือของจ้าวเฟิงมีผ้าที่เบาพลิ้วผืนหนึ่งปรากฏขึ้น

“เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมิติ!” จ้าวเฟิงยิ้ม

ตอนนี้เขาเตรียมทดลองกำราบเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนชิ้นนี้

“จ้าวเฟิง รอหลังจากเจ้ากำราบเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทมิติได้แล้ว บางทีอาจจะหลอมรวมพวกข้าทั้งสองเข้าไปในชุดคลุมมิติได้!”

หลอมรวมพลังของเศษเสี้ยวอาวุธประเภทเวลาทั้งสองชิ้นเข้าไปในชุดคลุมมิติ ในระดับหนึ่งแล้วก็เท่ากับผสานพลังของเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน พลังของมันจะต้องยกระดับขึ้นอีกไม่น้อย

“ทำอย่างนี้ได้ด้วยรึ?” จ้าวเฟิงลิงโลด

พลังของเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว หากผสานพลังของเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนสองชิ้นด้วยกันแน่นอนว่าต้องยิ่งแข็งแกร่ง

“ผสานเศษเสี้ยวประเภทเวลาเพียงลำพังเข้าไปในชุดคลุมมิติผลลัพธ์ไม่ค่อยดีนัก แต่หากรวมกับเศษเสี้ยวประเภทมิติจะสามารถผสานและใช้ได้อย่างราบรื่น”

เศษเสี้ยวอาวุธประเภทเวลาพูดเสริมอีกประโยค

“ดี เช่นนั้นก็ทำตามนี้!”

จ้าวเฟิงเริ่มกำราบเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทมิติทันที

ด้วยประสบการณ์กำราบของก่อนหน้านี้ รวมกับกฎเกณฑ์มิติของจ้าวเฟิง ไม่ถึงสามเดือนเขาก็กำราบเศษเสี้ยวประเภทมิติได้อย่างราบรื่น ต่อมาจ้าวเฟิงก็เริ่มลองผสานเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนทั้งสองเข้าไปในชุดคลุมมิติ

ในตอนแรก เนื่องจากธาตุของเศษเสี้ยวอาวุธรรพชนทั้งสองต่างกัน จึงเกิดการต่อต้านกันอย่างหนัก แต่ชุดคลุมมิติมีความยืนหยุ่น เลยสามารถเข้ากับเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนทั้งสองได้ เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนค่อยๆ ผสานไปในชุดคลุมมิติ

ชุดคลุมมิติในตอนนี้ส่องประกายแสงสีเงินวิจิตรราวกับเปลี่ยนโฉมใหม่อย่างไรอย่างนั้น ความเสียหายทั้งหมดก่อนหน้านี้ฟื้นฟูสมบูรณ์ขึ้นทั้งหมด

แน่นอน เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนไม่ได้หลอมเป็นหนึ่งเดียวกับชุดคลุมมิติจริงๆ แต่มาเก็บอยู่ในชุดคลุมมิติชั่วคราว

“ปราการมิติ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นชุดคลุมมิติและเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนสองชิ้นที่อยู่ข้างใน

ทันใดนั้น ประกายแสงรางเลือนแผ่ออกมาจากชุดคลุมมิติมาปกป้องเอาไว้รอบกายของจ้าวเฟิง

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงชี้นิ้วปล่อยประกายกระบี่รวมศูนย์ออกมา

ในตอนที่ประกายกระบี่รวมศูนย์เข้าในในปราการมิติก็เชื่องช้าลงในชั่วพริบตา พลังของมันก็ถูกลดทอนลงเป็นชั้นๆ เมื่อมันออกไปจากปราการมิติ ประกายกระบี่รวมศูนย์ก็หายไปอย่างสมบูรณ์ ต่อมา จ้าวเฟิงก็ทดลองพลังอื่นๆ ของชุดคลุมมิติ

จ้าวเฟิงค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้

สรุปคือการผสานเศษเสี้ยวสองชิ้นเข้าไปในชุดคลุมมิติ จะเท่ากับผสานพลังของทั้งสามให้ทบเท่าทวีขึ้นในระดับหนึ่ง เทียบกับการแยกกันใช้แล้วดีกว่าและสะดวกกว่ามาก

วู้ม วู้ม! ในตอนนี้เอง ระลอกคลื่นแปลกประหลาดกลุ่มหนึ่งแผ่ออกมาจากในแท่นเทวะของจ้าวเฟิง

ความคิดแรกซึมเข้าไป จ้าวเฟิงพบว่าในแท่นเทวะมีพลังแปลกประหลาดมืดหม่นบริสุทธิ์กลุ่มหนึ่งก่อตัวขึ้น

ในยามที่กำราบและหลอมรวมเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน จ้าวเฟิงก็แบ่งความคิดส่วนหนึ่งไปฝึกฝนมาโดยตลอด

“พลังบริสุทธิ์!” สีหน้าของจ้าวเฟิงฉายแววประหลาดใจ

ในตอนที่ถูกเป่ยหมิงฮุยจับตัว เขากระตุ้นสายเลือดเผ่าทำนุฟ้า ปล่อยพลังบริสุทธิ์ออกมา ถึงจะจับจ้าวเฟิงได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเคยคุ้นกับพลังกลุ่มนี้

ถึงแม้เผ่าทำนุฟ้าจะอยู่ในอันดับหกของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ แต่พลังบริสุทธิ์กลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าพลังดั้งเดิมของเผ่าเทพสงครามที่อยู่ในอันดับห้า

“ไม่ผิดจริงๆด้วย เมื่อ ‘พลังฟ้าประสานหนึ่ง’ อยู่ในขึ้นบริบูรณ์ก็ก่อกำเนิดพลังบริสุทธิ์ขึ้นด้วย”

ถึงแม้พลังบริสุทธิ์จะน้อยเพียงเท่านั้น แต่กฎเกณฑ์และเสวียนอ้าวทั้งหลายที่หลอมขึ้นในภายหลังจะบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

วู้ม! จ้าวเฟิงขับเคลื่อนพลังบริสุทธิ์กลุ่มนี้ขึ้น พร้อมทั้งหลอมรวมกระบี่รวมศูนย์ออกมา

ครืน บึ้ม! กระบี่หนึ่งฟันออกมา พลังมหาศาลบดขยี้ออกไป

อีกทั้งพลังกลุ่มนี้แทบจะไม่ถูกควบคุมจากสิ่งใด ดูดซับพลังอื่นๆ ตามรายทางไปอย่างบ้าคลั่ง พลังทำลายล้างมหาศาลนัก

ครืน! ผืนปฐพีถูกจ้าวเฟิงฟันออกเป็นร่องมหึมา บนร่องนั้นยังตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายที่วุ่นวาย

“พลังสูบกินแข็งแกร่งยิ่งขึ้นแล้ว!”

หลังจากผสานพลังบริสุทธิ์ กระบี่เทวะรวมศูนย์ก็ยิ่งมั่นคงขึ้น พลังการวสูบกินและความยืดหยุ่นแข็งแกร่งขึ้น ด้านพลังก็ยกระดับขึ้นไม่น้อย ดูท่ากระบี่เทพรวมศูนย์ที่ผสานพลังบริสุทธิ์ น่าจะต้านทานพลังเทพของเป่ยหมิงฮุยที่ไม่กระตุ้นสายเลือดได้

พลังบริสุทธิ์ของเป่ยหมิงฮุยอาศัยสายเลือดถึงจะฝึกได้ ส่วนจ้าวเฟิงอาศัยพลังของตนที่ก่อกำเนิดขึ้นภายหลังรวมกับกฎเกณฑ์มิติเป็นหนึ่งเดียวทั้งสิ้น หากเป็นการโจมตีพลังบริสุทธิ์ทั้งหมด ในด้านความแข็งแกร่งของพลังกลับได้เปรียบในระดับหนึ่ง

แต่ว่า หลอมพลังบริสุทธิ์ออกมาได้กลุ่มหนึ่งออกมาได้ นี่หมายถึง ‘วิชาพลังฟ้าประสานหนึ่ง’ มาถึงขีดสูงสุดแล้ว ต่อไปจ้าวเฟิงคิดจะพัฒนาไม่หาวิชาก็ต้องสร้างวิชาขึ้นเอง ยังมีอีกวิธีหนึ่งนั่นคือให้เวลาไปทำให้คงที่ ในยามที่พลังแฝงสะสมได้ในระดับหนึ่งก็จะสามารถทะลวงขั้นไปได้เอง

อันที่จริงแล้ว จอมเทพมากมายในดินแดนเทพรกร้างต่างใช้วิธีที่สามมายกระดับพลังฝึกตน ด้วยเหตุนี้อายุของเขาจึงมากเป็นธรรมดา ส่วนมากล้วนมีอายุหลายพันล้าน หรือกระทั่งหลายหมื่นล้านปี

แน่นอนว่าจ้าวเฟิงไม่สามารถรอได้นานถึงเพียงนั้น หนทางที่จะยกระดับพลังฝึกตนได้เร็วที่สุดคือหาเคล็ดวิชาฝึกฝนให้เจอ

“โชคดีที่ข้าหาข่าวที่เกี่ยวกับเผ่าทำนุฟ้ามาจากคลังตำราลับของเผ่าความลับสวรรค์ได้ไม่น้อย!” มุมปากของจ้าวเฟิงยกยิ้ม

เขามั่นใจว่าเคล็ดวิชาที่เหมาะกับพลังฝึกตนของตัวเองก็คือเคล็ดวิชาของเผ่าทำนุฟ้า

ตอนนั้นเขาสรุปข้อมูลมากมายจากคลังตำราลับ มั่นใจว่ามีอยู่สามแห่งที่อาจจะมีความลับ มรดก และของล้ำค่าอะไรประเภทนี้ของเผ่าทำนุฟ้าซ่อนอยู่

สถานที่แห่งหนึ่งในนั้นคือ ‘เขตปราการหยั่งรู้’ ที่อยู่ข้างเขตลำนำดารา

“เตรียมลงมือ!” ตอนนี้ ตามหาเคล็ดวิชาเผ่าทำนุฟ้ากลายเป็นภารกิจสำคัญ

ก่อนลงมือ “ตราผนึกประสานฟ้า!”

จ้าวเฟิงโคจร ‘วิชาผนึกฟ้าดินประสาน’ ที่ถังไป๋มอบให้ หลอมตราผนึกประสานฟ้า เริ่มผนึกพลังเนตรเทพเจ้ามายาของตนไว้

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ของเขตลำนำดารากำลังตรวจสอบปริศนาการหายตัวไปของผู้แข็งแกร่งจอมเทพขั้วอำนาจห้าดาวทั้งสองอย่างจริงจัง หากมีคนจำตัวตนของจ้าวเฟิง เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าได้ก็จะเป็นปัญหา

จ้าวเฟิงเชื่อว่าในเขตลำนำดาราจะต้องมีเครือข่ายขั้วอำนาจที่เป็นของเผ่าความลับสวรรค์อยู่ด้วย

หากตอนนี้ให้จ้าวสวรรค์รู้ว่าจ้าวเฟิงอยู่ที่นี่ ท่าทางอีกไม่นานเท่าไหร่ก็จะมีผู้แข็งแกร่งชั้นยอดมากมายมาจับเขากลับไป หากตกไปอยู่ในมือของจ้าวสวรรค์อีกครั้ง อีกฝ่ายจะต้องมีการป้องกันเอาไว้ ต่อให้จ้าวเฟิงมี ‘ส่งวิญญาณ’ ก็ไม่น่าจะหนีพ้น

ฟู่! ผมสีเงินพร่างพรายของจ้างเฟิงค่อยๆ หม่นลง สูญเสียความกระปรี้กระเปร่า ราวกลายเป็นผมหลากสีธรรมดา หลังจากผนึกเนตรเทพเจ้ามายา เขายังผนึกกลิ่นอายพลังฝึกตนของตน

เช่นนี้เขาถึงจะวางใจจากไปจากอาณาจักรเทพ เริ่มมุ่งไปยังเขตปราการหยั่งรู้

ไม่ถึงครึ่งปีเขาก็มาถึงเขตปราการหยั่งรู้อย่างปลอดภัย

ในตำหนักแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จ้าวเฟิงซื้อข้อมูลแผนที่คร่าวๆ ของเขตปราการหยั่งรู้มาได้

“ที่หมายอยู่ที่…บริเวณใกล้กับตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์”

ตำหนักอาทิตย์พิสุทธิ์ หนึ่งในสามขั้วอำนาจห้าดาวของเขตปราการหยั่งรู้ สมาชิกข้างในฝึกฝนศาสตร์เพลิงอาทิตย์ พลังไม่ธรรมดา

“เอ๋? สัมผัสของแมวขโมยน้อย!” จ้าวเฟิงที่กำลังเตรียมตัวเดินทางพลันชะงัก

เมื่อครู่นี้ พันธะสัญญาสัตว์วิเศษของเขากับแมวขโมยน้อยพลันขานรับขึ้น

ถึงแม้ความรู้สึกนั่นจะเกิดขึ้นแล้วหายวับไป แต่จ้าวเฟิงมั่นใจว่าแมวขโมยน้อยอยู่ที่เขตปราการหยั่งรู้ อีกทั้งยังอยู่ไม่ห่างจากที่หมายของการเดินของเขาครั้งนี้อีกด้วย

ก่อนหน้านี้ จ้าวเฟิงจากเขตเทพสวรรค์มายังเขตลำนำดาราก็เพื่อตามหาแมวขโมยน้อย แต่ทว่าเดินทางได้แค่ครึ่งทางก็ถูกเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนและเผ่าความลับสวรรค์ทำเสียแผนไป

“เยี่ยมไปเลย!” จ้าวเฟิงยิ้มเล็กน้อย

ในตอนนั้นหลังจากที่มาถึงยังสำนักจันทร์สลาย แมวขโมยน้อยก็อยู่เคียงข้างจ้าวเฟิงมาโดยตลอด ไม่ได้พบแมวขโมยน้อยนานถึงขนาดนี้ เล่นเอาเขาคิดถึงมันขึ้นมาจริงๆ แล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version