Skip to content

King of Gods 1576

King Of Gods

บทที่ 1576 เจ้าแมวขโมยจอมละโมบ

เมืองหนานอวิ้น เมืองที่รุ่งเรืองที่สุดในรัศมีหลายล้านลี้

ภายในเมืองยิ่งใหญ่เกินจะเปรียบ อาคารหลากสีทอดตัวเรียงรายติดต่อกัน ด้านบนประดับเพชรพลอยนับไม่ถ้วน ส่องแสงเปล่งประกาย

“พี่เฟิง ท่านต้องการอะไรบอกพวกข้าก็ได้!”

เสียงหัวเราะของจ้าวอวิ๋นดังมาจากด้านข้าง

ตอนนี้ พี่น้องเหล่านี้แทบทั้งหมดต่างอยู่ในขอบเขตสามปราณขั้นปราณม่วง ส่วนจ้าวไห่ที่มีพรสวรรค์ที่สุด พลังฝึกตนถึงขอบเขตก่อเกิดดาราช่วงแรกเริ่มแล้ว

ในภาพจำของพวกเขา เหมือนจ้าวเฟิงยังอยู่ขอบเขตสามปราณขั้นปราณฟ้าอยู่เลย

และถึงจะเป็นเช่นนี้ คนทั้งหมดก็ยังยอมรับใช้ติดตาม เชื่อฟังคำสั่งของจ้าวเฟิงอยู่ดี ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่บอกว่าจ้าวเฟิงสั่งสอนได้ดี

ในเมืองหนานอวิ้น ไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อของจ้าวเฟิง

เจ้าของร้านข้างทางทั้งหลายแถวนั้น เมื่อเห็นพวกคุณชายของกลุ่มจ้าวเฟิง สีหน้าต่างเปลี่ยนไปทันที

ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้จักจ้าวเฟิงมากมากนัก แต่ชื่อเสียงไม่ดีของจ้าวเฟิงลือกระฉ่อนมานานมากแล้ว ในสายตาคนนอก คุณชายเหล่านี้จะต้องเป็นเด็กเสเพลแน่นอน และสิ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดเกรงมากกว่าเดิมคือ บุตรชายท่านเจ้าเมืองคนนี้จับคนที่ยั่วโทสะเขามัดและแก้ผ้า…

จ้าวเฟิงหลับตาลงเล็กน้อย พลังดั้งเดิมมายาในดวงวิญญาณสั่นสะท้านไม่หยุด

แรงสั่นไหวกลุ่มนี้มาจากการสัมผัสได้ถึง ‘ตราประทับมายา’

เมื่อมาถึงโลกไร้ลักษณ์ จ้าวเฟิงเคยทิ้งตราประทับมายาไว้บนร่างหลิ่วฉินซิน จ้าวหยูเฟย และเจ้าแมวขโมยน้อย

“ดูไปแล้วน่าจะอยู่ในเมืองหนานอวิ้นนี่เอง!”

สีหน้าจ้าวเฟิงปลื้มปีติ เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังดั้งเดิมทำนาย จ้าวเฟิงก็พอจะสังเกตเห็นตำแหน่งที่ชัดเจนของตราประทับมายาได้

เดินไปเดินมา ประสาทสัมผัสของตราประทับมายาก็ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที

และในเวลาหนึ่ง จ้าวเฟิงชะงักฝีเท้าเมื่อเดินผ่านภัตตาคารหรูหราที่วิจิตรตระการตา

เห็นเพียงผู้อาวุโสชุดดำแขนขาดผู้หนึ่งนั่งลิ้มรสอาหารร่ำสุราอยู่ที่โต๊ะข้างหน้าต่าง

ส่วนตรงข้ามของผู้อาวุโสมีแมวตัวน้อยสีเงินตัวหนึ่ง ดวงตาสองข้างของมันเปล่งประกายราวผลึกหิน ชวนให้คนเอ็นดู

“เจ้าแมวขโมยน้อย!”

ยามเห็นเจ้าแมวตัวนี้ปราดแรก จ้าวเฟิงก็แน่ใจได้เลยว่านี่คือเจ้าแมวขโมยน้อย

เมี้ยว เมี้ยว~

เจ้าแมวขโมยน้อยกระโดดโลดเต้นบนโต๊ะ ผู้อาวุโสคนนั้นระบายยิ้มน้อยๆ ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าขบขันการกระทำของเจ้าแมวขโมย

‘หรือว่ามันมีเจ้าของเสียแล้ว?’

จ้าวเฟิงครุ่นคิดในใจ

แต่ก็ไม่เป็นไร ของที่เขาอยากได้ อย่างไรก็ต้องได้มาครอบครอง

ในตอนที่จ้าวเฟิงกำลังจะเดินเข้าไปในภัตตาคาร

ตรงหน้าต่าง เจ้าแมวขโมยน้อยพลันกระโดดขึ้น หนีออกไปอีกด้านหนึ่ง

“เจ้าแมวขโมย!”

ทิศทางที่เจ้าแมวขโมยน้อยหนีไปเป็นทางที่จ้าวเฟิงเดินไปพอดี จ้าวเฟิงจึงขวางมันเอาไว้ทันที

พี่น้องคนอื่นที่เหลือเห็นจ้าวเฟิงขวางเจ้าแมวขโมยตัวนี้เอาไว้ ก็รีบก้าวเข้ามาล้อมรอบด้าน

เมี้ยว~

เจ้าแมวขโมยตัวน้อยเงยหน้าขึ้น โบกกรงเล็บและร้องเมี้ยว ท่าทีน่ารักไร้พิษสง ทำให้พี่น้องคนอื่นที่เหลือคลายความระแวดระวังลงไป

แต่ในชั่วขณะต่อมา เจ้าแมวขโมยน้อยก็หนีออกจากช่องว่างระหว่างพวกเขาไป

ทว่าเจ้าแมวขโมยน้อยก็ค้นพบว่ามันเพิ่งหนีออกจากวงล้อม ด้านหน้าก็มีคนผู้หนึ่งยืนขวางอยู่ นั่นก็คือจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงระบายยิ้มบาง จ้องเจ้าแมวขโมยน้อย

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยามถูกบุรุษหนุ่มผู้นี้จ้องเขม็ง เจ้าแมวขโมยถึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด และยังหวาดเกรงอีกด้วย

เมี้ยว เมี้ยว~

เจ้าแมวขโมยน้อยส่ายหัวทันใด ตึงเครียดเล็กน้อย จากนั้นร่างกายสว่างวาบและหนีไปอีกครั้ง

ในเวลานี้เอง ภายในภัตตาคารมีกลิ่นอายกดดันที่แข็งแกร่งปะทุออกมา

แสงดำสว่างวาบ ผู้อาวุโสชุดดำแขนด้วนพุ่งออกมา

“เจ้าแมวน่าตาย!”

ผู้อาวุโสชุดดำผู้นั้นบันดาลโทสะ ขณะมองเจ้าแมวที่อยู่ไม่ไกล

ในตอนนี้จ้าวเฟิงก็เข้าใจได้ทันที คนผู้นี้มิใช่เจ้านายของเจ้าแมวขโมยน้อย และเข้าใจเหตุผลที่เจ้าแมวขโมยน้อยรีบร้อนหนีได้เช่นกัน

พี่น้องสกุลจ้าวหลายข้างจ้าวเฟิงต่างตัวสั่นเทิ้ม กลิ่นอายของผู้อาวุโสชุดดำน่ากลัวนัก ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะจงใจกดเอาไว้ ก็ยังคงทำให้พวกเขาขวัญผวาอยู่ดี

ฉับพลันนั้น ผู้อาวุโสปรากฏกายข้างตัวเจ้าแมวขโมยตัวน้อย พลังที่ไร้รูปร่างตรงไปสะกดมันเอาไว้จนขยับตัวไม่ได้

“เจ้าแมวขโมยน่าตาย คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าขโมยของของข้า เดี๋ยวข้าจะกรีดท้องเจ้าออกมาเอง!”

สีหน้าผู้อาวุโสชุดดำเย็นชา จิตสังหารไร้รูปร่างกระจายออกมา ทำให้คนจำนวนไม่น้อยแถวนั้นหวาดกลัว

เมี้ยว เมี้ยว~

ดวงตาเจ้าแมวขโมยน้อยเบิกกว้าง เผยท่าทีน่าสงสาร ทำให้คนที่พบเห็นสงสารเอ็นดู

แต่ผู้อาวุโสแขนด้วนชุดดำไม่ได้เป็นคนใจดีมีเมตตาอะไร หน้าเขาไม่เปลี่ยนอารมณ์ด้วยซ้ำ

ฟิ้ว!

แสงสีดำสว่างวาบ แล้วจึงปรากฏกระบี่ยาวหยกเขียวเล่มหนึ่งในมือผู้อาวุโส แสงเย็นเยียบกระจายตัวออกมา

ในตอนนี้เอง เจ้าแมวขโมยน้อยสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของผู้อาวุโส มันพองขนทั้งตัว รู้ตัวว่าไปยั่วโทสะคนที่ไม่ควรเสียแล้ว

เมี้ยว เมี้ยว~

เจ้าแมวขโมยน้อยมองจ้าวเฟิง ก่อนจะส่งเสียงร้องอย่างเคียดแค้น

ก่อนนี้หากไม่ใช่เพราะการขัดขวางของพวกจ้าวเฟิง มันคงหนีเอาตัวรอดไปได้นานแล้ว คนในเมืองหนานอวิ้นมีมากมายไม่ขาด หากผู้อาวุโสคิดจะหามันก็ไม่ได้ง่ายนัก

“นายท่าน ยั้งมือก่อน มันเป็นแมวของข้า!” เวลานี้เอง จ้าวเฟิงก็เปิดปากเอ่ย

ภาพเหตการณ์นี้ทำให้เจ้าแมวขโมยน้อยชะงัก และเผยใบหน้าซาบซึ้งออกมาทันที

จ้าวเฟิงพูดไม่ออก เจ้าแมวขโมยตัวนี้เปลี่ยนท่าทีไวเกินไปแล้ว ถึงแม้จะเกิดใหม่ตามสังสารวัฏ นิสัยละโมบของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ถึงขนาดว่าใจกล้ายิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“ของเจ้าแล้วอย่างไร?” สายตาผู้อาวุโสชุดดำกวาดผ่านจ้าวเฟิงไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยอาการเหยียดหยาม

ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่งเท่านั้น ช่างไม่รู้จักหวาดกลัวอะไรเลย คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยผู้หนึ่งจะกล้าช่วยคนจากคมกระบี่เขา ไม่สิ ช่วยแมวตัวหนึ่งต่างหาก

“มีอะไรสนุกๆ ให้ดูแล้วสิ บุตรชายเจ้าเมืองถูกใจเจ้าแมวตัวนี้เข้าแล้ว!”

“ผู้อาวุโสชุดดำผู้นี้พลังฝึกตนลึกล้ำ ดูไปแล้วไม่ใช่คนใจดีอะไร อีกทั้งข้ารู้มาว่าเจ้าแมวขโมยตัวนี้มาที่นี่เมื่อปีก่อน ย่อมไม่ใช่แมวของคุณชายรองแน่?”

คนรอบบริเวณถกเถียงกัน

อย่างแรก ผู้อาวุโสที่แผ่กลิ่นอายและจิตสังหารคนนั้น ระดับพลังฝึกตนต้องไม่ธรรมดาแน่

แต่อีกด้านหนึ่ง ตำแหน่งของจ้าวเฟิงก็ไม่ธรรมดาเลย

ผู้อาวุโสชุดดำได้ยินเสียงพูดคุยของคนรอบด้าน ก็รู้สถานะของจ้าวเฟิง หากเป็นเวลาทั่วไปเขาคงยอมอ่อนข้อให้อีกฝ่าย อย่างไรเสียสกุลจ้าวในเมืองหนานอวิ้นก็เป็นตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในถิ่นนี้ ส่วนจ้าวเทียนหลงบิดาของจ้าวเฟิงก็มีพลังฝึกตนอยู่ขอบเขตอมตะขั้นสุดยอด

ขอบเขตอมตะขั้นสุดยอดจะเท่ากับเซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับของมิติจักรวาล

แต่ทว่า เจ้าแมวขโมยตัวนี้กลืนสิ่งของสำคัญยิ่งของผู้อาวุโสชุดดำลงไป เขาย่อมไม่ปล่อยเจ้าแมวตัวนี้ไปอย่างง่ายดายแน่

“มันเป็นของข้าเอง ท่านห้ามทำร้ายมันแม้แต่นิดเดียว!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงราบเรียบ สาวเท้าเข้าไปใกล้ช้าๆ

“พี่เฟิง!” พวกจ้าวอวิ๋นจ้าวไห่ร้องเรียก

ผู้อาวุโสคนนั้นมองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่ามิใช่คนที่ควรล่วงเกิน ถึงแม้ที่นี่จะเป็นถิ่นของสกุลจ้าว แต่เจ้าแมวตัวนั้นไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของจ้าวเฟิงชัดๆ จ้าวเฟิงช่างไม่มีเหตุผลเลย

ดวงตาผู้อาวุโสชุดดำฉายแววประหลาดแวบหนึ่งขณะจ้องจ้าวเฟิง

“เจ้าเด็กนี่…” ผู้อาวุโสชุดดำพลันรู้สึกว่าตนเองอ่านเจ้าเด็กที่ระดับพลังต่ำคนนี้ไม่ขาด

แต่ว่าตนเองจะยอมแพ้เด็กน้อยผู้หนึ่งได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นจะปล่อยเจ้าแมวตัวนี้ไปไม่ได้

“ข้าแนะนำว่าคุณชายอย่ายื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้เลย หากต้องการสัตว์เลี้ยงสักตัว ประเดี๋ยวข้าจะให้เจ้าหลายๆ ตัวเลย!”

ผู้อาวุโสชุดดำเอ่ยเสียงเย็นชา

ในคำพูดเหล่านี้ ถึงแม้เขาจะไม่ยอมแพ้ แต่ก็รับปากผลประโยชน์ให้จ้าวเฟิงเช่นกัน

ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสก็แผ่กลิ่นอายพลังฝึกตนออกไป หวังจะเขย่าขวัญเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า

กลิ่นอายแหลมคมที่กดดันสาดกระจายทั่วสารทิศ ทำให้คนทั้งหลายแถวนั้นเจ็บแสบผิวหนังจนต้องถอยร่นไป

“คนผู้นี้อยู่ขอบเขตก่อเกิดดาราขั้นสุดยอดเป็นอย่างน้อย อีกทั้งยังเป็นผู้แข็งแกร่งศาสตร์กระบี่ด้วย!”

คนผู้หนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

จ้าวเฟิงค่อยๆ เข้าไปใกล้อีกฝ่ายต่อ ไม่ช้าไม่เร็ว สีหน้าราบเรียบ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

“กลิ่นอายเล็กน้อยเท่านี้ ดูท่าจะยังเขย่าขวัญบุตรชายเจ้าเมืองไม่ได้!”

แววตาผู้อาวุโสชุดดำเป็นประกายเล็กน้อย กลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งอีกกลุ่มกระจายออกมา

แปรจิตช่วงแรกเริ่ม!

เท่ากับราชันขอบเขตปราณเทวะในมิติจักรวาล

ทว่าสีหน้าจ้าวเฟิงก็ยังคงไม่แปรเปลี่ยน เหมือนไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

ผู้อาวุโสชุดดำกัดฟัน ปลดปล่อยกลิ่นอายออกมาอีกครั้ง

แปรจิตช่วงกลาง!

แปรจิตช่วงสุดยอด!

แปรจิตช่วงสมบูรณ์!

อยู่ห่างจากขอบเขตอมตะเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!

ถ้าหากพลังฝึกตนของผู้อาวุโสเทียบเท่าขอบเขตอมตะ ก็นับได้ว่าเขาเป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง แม้เป็นคนสกุลจ้าวก็ไม่สามารถประมาทผู้แข็งแกร่งขอบเขตอมตะได้

ตอนนี้กลิ่นอายกดดันของขอบเขตแปรเทพช่วงสมบูรณ์กระจายออกจากในร่างของผู้อาวุโส

แต่ผู้อาวุโสควบคุมกลิ่นอายได้ดียิ่ง ไม่สังหารผู้ใด เพียงเขย่าขวัญเท่านั้น!

โครม~

กลุ่มคนที่ล้อมรอบต่างรีบร้อนถอยไป

ผู้แข็งแกร่งศาสตร์กระบี่ขอบเขตแปรเทพช่วงสมบูรณ์ แรงกดดันที่น่ากลัวกลุ่มนั้นทำให้ร่างกายหรือกระทั่งวิญญาณของพวกเขารู้สึกเจ็บปวดเกินบรรยาย

เจ้าแมวขโมยน้อยที่อยู่ด้านข้างตัวสั่นเทิ้มกว่าเดิม เหมือนตกใจจนไร้สติไปแล้ว

แต่จ้าวเฟิงที่อยู่ใกล้ๆ กลับไม่ได้รับผลกระทบใด

‘หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะสวมใส่อาวุธเทพป้องกันระดับสุดยอด?’

ผู้อาวุโสชุดดำครุ่นคิดในใจ ปลดปล่อยประสาทสัมผัสจิตวิญญาณออกมา เตรียมจะสำรวจจ้าวเฟิง

ยามนี้เอง จ้าวเฟิงก็เปิดปากเอ่ย “เจ้าคิดจะข่มขวัญข้า?”

ผู้อาวุโสชุดดำชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะมองตาจ้าวเฟิง ทันใดนั้น ร่างกายเขาแข็งทื่ออย่างประหลาด ดวงวิญญาณสั่นเทิ้ม

เมื่อมองอย่างละเอียดแล้ว ผู้อาวุโสชุดดำสัมผัสได้ถึงลักษณะที่ยากจะอธิบายจากตัวจ้าวเฟิง เหมือนอีกฝ่ายเป็นราชาปกครองโลกหล้า คนอื่นไม่อาจขัดขืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาของจ้าวเฟิงที่ทำให้สติเขาเหม่อลอยอย่างควบคุมไม่ได้

เมื่อมองอีกที ผู้อาวุโสชุดดำก็รู้สึกเหมือนตนเองกำลังเคารพผู้เยาว์ตรงหน้า

กลิ่นอายบนร่างอันตรธานหายไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

สีหน้าของคนรอบบริเวณตะลึงค้าง

ผู้อาวุโสชุดดำผู้นั้นจ้องตาจ้าวเฟิง ดูเหมือนหวาดกลัวเล็กน้อย แรงกดดันนั้นก็หายไปหมดสิ้น

ยามนี้แววตาผู้อาวุโสชุดดำทอประกายแวววับ เขามองเด็กตรงหน้านี้อีกครั้ง รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาอย่างประหลาด

‘บัดซบ ข้าจะสังหารเจ้าแมวตัวนี้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าสกุลจ้าวจะหาเรื่องข้าเพื่อเจ้าแมวนี่!’

ในใจผู้อาวุโสชุดดำเคียดแค้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะโดนเด็กคนหนึ่งข่มขวัญ เรื่องนี้ทำให้เขาไม่พอใจอย่างยิ่ง

ทว่าผู้อาวุโสชุดดำยังไม่ทันได้ลงมือ ริมฝีปากจ้าวเฟิงก็ขยับเบาๆ “หากเจ้าสังหารแมวตัวนี้ จะไม่มีใครในเมืองหนานอวิ้นหลอม ‘โอสถชะล้างวิญญาณแรก’ ให้เจ้าได้”

ประโยคนี้แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่พลังฝึกตนของผู้อาวุโสชุดดำลึกล้ำสูงส่งและอยู่ใกล้ที่สุด จึงได้ยินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

ในความคิดของเขาเกิดเสียงดังโครมคราม

‘เขารู้ได้อย่างไรว่าข้ากำลังหาคนหลอมโอสถ แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าข้าต้องการโอสถชะล้างวิญญาณแรก?’

ผู้อาวุโสชุดดำถามในใจอย่างประหลาดใจ แต่ไม่ได้พูดออกมา

“อีกอย่าง ต่อให้มีโอสถชะล้างวิญญาณแรก อาการบาดเจ็บของเจ้าก็ไม่อาจหายได้ทั้งหมด พลังฝึกตนจะหยุดอยู่ที่ขอบเขตอมตะอยู่ดี!”

ยังไม่ทันให้ผู้อาวุโสชุดดำทำอะไร จ้าวเฟิงก็เปิดปากเอ่ยอีกครั้ง

ครั้งนี้ ในหัวผู้อาวุโสชุดดำเกิดเสียงดังโครมครามขึ้น และยิ่งยากจะกดข่มความตื่นตระหนกในใจ

คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กตรงหน้าคนนี้จะเดาระดับพลังฝึกตนที่แท้จริงของเขาถูก

ใช่แล้ว พลังฝึกตนที่แท้จริงของผู้อาวุโสชุดดำอยู่ขอบเขตอมตะ เพราะผ่านความเป็นความตายในสนามรบมา จึงส่งผลให้ระดับพลังฝึกตนลดลงไปถึงขอบเขตแปรจิต แต่จากกลิ่นอายที่แข็งแกร่งก็ยังพอจะเดาได้อยู่

แต่เพื่อหลบหนีจากการไล่ล่าของศัตรู เขาจึงเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอก เก็บงำกลิ่นอายพลังเอาไว้ ถึงขั้นผนึกระดับพลังไว้ที่ขอบเขตก่อเกิดดารา ด้วยเหตุนี้เจ้าแมวขโมยตัวนี้ถึงสามารถขโมยวัตถุดิบหลอมยาของเขาได้

“เมื่อครู่เพียงแค่หยอกคุณชายเล่นเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายจะกล้าหาญขนาดนี้ เผชิญหน้ากับอันตรายไม่หยุด ทำให้ข้านับถือเหลือเกิน!”

กระบี่ในมือผู้อาวุโสชุดดำหายไป กรงขังเจ้าแมวขโมยน้อยก็หายไปเช่นกัน

กลุ่มคนแถวนั้นอึ้งงัน ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้

เจ้าแมวขโมยน้อยอ้าปากค้าง พลังฝึกตนของผู้อาวุโสน่ากลัวเกินไป ต่อให้ปล่อยมันไป เจ้าแมวขโมยน้อยก็ไม่กล้าไปไหนอยู่ดี

เปรี๊ยะ!

มันรีบมายืนข้างกายจ้าวเฟิง ทำท่าทีเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา

พวกจ้าวอวิ๋นจ้าวไห่ที่อยู่ด้านหลังจ้าวเฟิง แต่ละคนมองตาค้าง ถึงแม้จะไม่รู้เรื่องราวอะไร แต่กลับเคารพนับถือจ้าวเฟิงจากก้นบึ้งหัวใจ

“ข้าน้อยเกือบทำร้ายแมวของคุณชาย ให้ข้าเลี้ยงสุราเพื่อไถ่โทษด้วยเถอะ!”

ผู้อาวุโสชุดดำพูดพลางผายมือเชื้อเชิญไปทางภัตตาคารที่อยู่ด้านข้าง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version