Skip to content

King of Gods 712

King Of Gods

บทที่ 712 พวกฝืนชะตาฟ้า

“หลังจากที่ซ่อมแซมฟื้นฟูแล้ว พลังเหมันต์ก็จะเพิ่มขึ้นไปจนถึงแปดสิบส่วน สามารถปรากฏเป็นเกราะป้องกันเหมันต์ และมังกรเหมันต์วิญญาณ…”

เมื่อฟังคำบรรยายจากช่างตีเหล็กผิวดำเสร็จแล้ว ดวงตาจ้าวเฟิงเป็นประกายแวววับ เผยสีหน้ายินดีออกมา อาวุธวิเศษอย่างหอกจักรพรรดิเหมันต์ชิ้นนี้สามารถสร้างความเสียหายได้ จ้าวเฟิงรู้มานานแล้ว

แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ฟื้นฟูซ่อมแซมแล้ว หอกจักรพรรดิเหมันต์จะปรากฏออกมาในลักษณะเกราะเหมันต์และสิ่งอื่นๆ ได้ด้วย

ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นแล้ว ความสามารถในการป้องกันของจ้าวเฟิงก็จะเพิ่มขึ้นอย่างยิ่ง

“เลือกสร้างความแข็งแกร่ง!” จ้าวเฟิงตัดใจจ่ายค่าใช้จ่ายและทรัพยากร

หินผลึกทรัพยากรแขนงเหมันต์ในมือของเขาก็มีอยู่ไม่น้อย

ด้วยเพราะจ้าวเฟิงได้เก็บเกี่ยวทรัพยากรจำนวนมหาศาลมาจากอุทยานครึ่งเซียนและซากปรักหักพังสือเฉิง ยังรวมไปถึงของที่ได้จากการสังหารราชาโจรสลัดส่วนหนึ่งด้วย

ช่างตีเหล็กผู้นั้นระบายยิ้มเต็มใบหน้า แล้วรับผลึกเริ่มต้นจำนวนมหาศาลไป

ถึงแม้ว่าจ้าวเฟิงจะรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่ว่าการแลกเปลี่ยนนี้สะดวกและราคาถูกกว่าเชิญปรมาจารย์ด้านอาวุธของโลกภายนอกมามาก

ความสามารถในการสรรสร้างวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์เกินกว่าที่คาดคิดไว้มาก

จ้าวเฟิงอดจะระลึกถึงข้อความแนะนำเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ไม่ได้

 

เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์คือเผ่าพันธุ์มนุษย์ ความสามารถดั้งเดิมของเผ่าพันธุ์นี้ไม่ได้แกร่งกล้ามากนัก และก็ไม่ได้มีสายเลือดอะไรที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ

หากว่าด้วยพรสวรรค์ในการรบ เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์อาจจะด้อยกว่าคนธรรมดาเสียด้วยซ้ำไป

แต่ทว่า เผ่าพันธุ์ประเภทนี้กลับมีความสามารถในการสรรสร้างและความรู้ที่สูงส่ง ทิ้งห่างเผ่าพันธุ์ทั้งหมดรวมไปถึงเผ่าพันธุ์โบราณจนไม่เห็นฝุ่น

เมืองของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ตรงหน้า มีความสามารถที่แปลกประหลาดเกินจะคาดคิดมากมาย ทำให้คนต้องตกตะลึง

ตอนนี้จ้าวเฟิงมาคิดๆ ดู ค่าเข้าเมืองจำนวนมหาศาลที่จ่ายไปนับว่าคุ้มค่าอยู่เหมือนกัน

ครึ่งชั่วยามหลังจากนั้น

“ตุบ ตุบ… แกรก แกรก…”

ช่างตีเหล็กวัยกลางคนผู้นั้น หยิบหอกยาวสีฟ้าที่ซึ่งมีระลอกพลังเหมันต์วารีหมุนวนอยู่ออกมาจากเตาหลอมลี้ลับขนาดใหญ่

การหลอมสร้างในครั้งนี้ใช้เวลาสั้นกว่ารอบของเจ้าแมวขโมยตัวน้อยอยู่บ้าง

จ้าวเฟิงรับหอกเหมันต์สีฟ้าเล่มยาวมา สัมผัสได้ถึงพลังเหมันต์หนาวเหน็บที่สาดซัดอยู่ภายใน

วิ้ง!

หอกเหมันต์สีฟ้าเป็นประหนึ่งของเหลว รวมตัวกันกลายเป็นเกราะสีฟ้าเข้มบนร่างของจ้าวเฟิง

เกราะเหมันต์สีฟ้าเข้มยังสาดซัดกลิ่นอายที่หนาวเหน็บอย่างยิ่ง จนมากพอที่จะแช่แข็งสิ่งมีชีวิตในรัศมีหลายลี้

ขอแค่จ้าวเฟิงสวมใส่เกราะเหมันต์นี้ คนในขั้นราชันลงไปไม่มีทางจะเข้าใกล้เขาได้เลย

ในทันใดนั้นเอง

เกราะเหมันต์สีฟ้าเข้มกลายร่างเป็นมังกรเหมันต์ที่มีชีวิตชีวาสองตัว เกี่ยวกระหวัดรอบกายของจ้าวเฟิง แล้วยังแสดงท่าทางการโจมตีต่างๆ

ยังดีที่นี่คือเมืองเก่าแก่ของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ พลังเหมันต์ที่เล็ดลอดออกไปถูกกลุ่มพลังบางอย่างดูดซึมจนหมดสิ้น

“ไม่เลว ไม่เลว”

จ้าวเฟิงพออกพอใจยิ่งนัก ห้วงความคิดของเขาขยับเล็กน้อย หอกเหมันต์สีฟ้าหลอมรวมเข้ากับสายเลือดในร่างกายราวกับของเหลว

เด็กน้อยครึ่งเซียนที่อยู่ด้านข้างมีทีท่าริษยา เพียงแต่ว่าเขามีทรัพยากรผลึกเริ่มต้นอยู่อย่างจำกัดมาก ยากที่จะเอาอาวุธไปเสริมความแข็งแกร่งได้

หนึ่งมนุษย์คน หนึ่งเด็กน้อย และหนึ่งแมวเดินออกจากร้านหลอมอาวุธ

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยตัวน้อยหยิบแผนที่ออกมาถกกับจ้าวเฟิง

เมืองแห่งนี้เก็บรักษาวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ไว้ ความสามารถบางอย่างยังคงหลงเหลือมาจนถึงวันนี้

การจะเข้ามาในที่แห่งนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จ้าวเฟิงย่อมต้องการเห็นความสามารถทั้งหมดของที่นี่

“ตำหนักหมื่นโลหิต! สามารถหลอมรวมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พลังสายเลือดได้?”

“บ่อมนตรา! สะกดสัตว์เลี้ยงประเภทต่างๆ และเพิ่มกำลังการสู้รบให้แข็งแกร่ง”

“หอตราค่ายกล! จัดสร้างและเสริมความสมบูรณ์ให้กับค่ายกลประเภทต่างๆ…”

“วังวิถีเซียน! มีเคล็ดวิชาลับให้ซื้อขายแลกเปลี่ยน แล้วยังมีวิธีแก้ไขในการฝึกบำเพ็ญตนประเภทต่างๆ”

สายตาของจ้าวเฟิงหยุดลงตรงสถานที่ที่ดู ‘หรูหรา’ อยู่บ้าง

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ร้านหลอมอาวุธที่เขาเพิ่งเข้าไปเป็นเพียงแค่ร้านค้าธรรมดาแห่งหนึ่งเท่านั้น

สถานที่ที่สูงส่งยิ่งกว่า ย่อมมีความสามารถประเภทต่างๆ มอบให้มากกว่า ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ

โดยเฉพาะ ‘ตำหนักหมื่นโลหิต’ แห่งนั้นที่สามารถเพิ่มกำลังสายเลือดอันแข็งแกร่งได้

“ในตำนานว่าไว้ว่า เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์เคยศึกษาองค์ประกอบสายเลือดของเผ่าพันธุ์โบราณมาก่อน หรือกระทั่งเคยลอกเลียนสายเลือดทรงพลังของเผ่าพันธุ์นี้ด้วย”

เด็กน้อยครึ่งเซียนเอ่ยกระซิบกระซาบ

เรื่องเล่าต่างๆ ของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ได้รับการพิสูจน์แล้วจากที่แห่งนี้

“ตำหนักหมื่นโลหิตแห่งนี้ หรือว่าจะสามารถหลอมรวมสายเลือดของ ‘รายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ’ เข้าไปได้?”

จ้าวเฟิงไม่อยากจะเชื่อ

เขาจึงเดินเข้าไปในตำหนักหมื่นโลหิตด้วยความฉงนสงสัย

สิ่งปลูกสร้างภายในตำหนักหมื่นโลหิตมีขนาดใหญ่โตอย่างยิ่ง และมีถึงห้าหกชั้น

ในทุกชั้นล้วนแต่มีบ่อโลหิต มีหลอดเลือดกับท่อแก้วขนส่งประเภทต่างๆ ยื่นขยายออกมา

“ท่านต้องการจะหลอมรวมสายเลือดเพิ่มหรือว่าเสริมความแข็งแกร่งของสายเลือด?”

สตรีงามสง่าผู้หนึ่งที่ประกอบขึ้นจากประกายหยดเลือดอมยิ้มมองจ้าวเฟิงและพวก

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงกวาดมองสตรีร่างประกายหยดเลือด ร่างกายของนางไม่มีระลอกพลังงานชีวิต ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งใดกันแน่

“หลอมรวมสายเลือดเพิ่มเข้าไปในร่างหนึ่งชนิด คิดราคาเท่าไหร่?” จ้าวเฟิงเอ่ยถาม

“ต้องดูว่าท่านต้องการหลอมรวมสายเลือดอะไรเข้าไปในร่าง?”

สตรีประกายโลหิตผู้สง่างามดีดนิ้วเบาๆ ปรากฏกระดานสีเลือดที่เบื้องหน้า

บนกระดานมีสายเลือดเป็นจำนวนนับพันนับหมื่น

“สามารถฝังสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเพิ่มเข้าในร่างได้หรือ?”

จ้าวเฟิงเอ่ยถาม

“สายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ? คิก คิก นั่นเป็นการหลอมรวมสายเลือดชั้นยอดที่สุด ราคาแพงมหาศาล ที่แห่งนี้มีการหลอมรวมหรือเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยสายเลือดในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณกว่าสามร้อยประเภท”

สตรีประกายโลหิตยื่นมือออกมาเล็กน้อย

ด้านบนของกระดานสีเลือดพลันปรากฏประเภทของสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ

“ทำได้จริงๆ หรือ?” จ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนมีสีหน้าตื่นตกใจ

แน่นอนว่าสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณบนนั้นมีจำนวนนับร้อยนับพัน

แต่ที่จัดอยู่ในร้อยอันดับแรกมีเพียงสี่เผ่าพันธุ์เท่านั้น เผ่าพันธุ์นักรบสุริยันก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

 

“การจะหลอมรวมสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเข้าไปเดิมเป็นเอกสิทธิ์ระดับหนึ่ง แต่ว่าในวันนี้ เมืองแห่งนี้ไม่มีผู้ตรวจการอีกแล้ว ทั้งยังเป็นเมืองที่ไร้นาย ขาดการหมุนเวียนของผลึกเริ่มต้นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงเปิดกว้างต่อโลกภายนอก และยกเลิกข้อจำกัดสิทธิ์อีกด้วย ”

สตรีแสงโลหิตผู้สง่างามอธิบาย

จ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนมองหน้ากันไปมา นี่เป็นถึงสายเลือดในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเลยเชียว

แต่ว่าหลังจากที่จ้าวเฟิงมองเห็นจำนวนผลึกเริ่มต้นที่ต้องจ่ายหากหลอมรวมสายเลือด ก็เหลือบตาขาวขึ้นน้อยๆ

ตามราคาที่ปรากฏด้านบน จะหลอมรวมสายเลือด ‘เผ่าพันธุ์นักรบสุริยัน’ เพิ่ม ผลึกเริ่มต้นที่จ้าวเฟิงมีทั้งหมดก็ยังไม่พอเสียด้วยซ้ำไป

สายเลือดนักรบสุริยันเป็นสายเลือดหนึ่งร้อยอันดับต้น

“เฮ้อ นี่เป็นราคาที่ลดแล้วห้าสิบส่วน ใครใช้ให้เมืองนี้อยู่มายาวนาน แล้วทรัพยากรก็ยังมาขาดแคลนอีกเล่า”

สตรีประกายโลหิตเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม

“ลดหน่อยได้หรือไม่”

จ้าวเฟิงสนใจในสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณยิ่งนัก

สายเลือดดวงตาของเขาทำได้เพียงแค่ลอกเลียนผลของพลังสายเลือดส่วนหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างจะสับสนปนเป

 

 

“การหลอมรวมสายเลือดเพิ่มมีค่าใช้จ่ายที่แพงมหาศาล แต่ถ้าหากว่าเดิมทีท่านมีสายเลือดบางอย่างอยู่แล้วเสริมความแกร่งด้วยสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณที่สอดคล้องกัน ราคาจะลดต่ำลงหนึ่งในสามหรือหนึ่งในห้าส่วน” สตรีประกายโลหิตเอ่ย

“ลองดูก็ได้” จ้าวฟิงผงกศีรษะเป็นการอนุญาต

การเพิ่มความแข็งแกร่งให้สายเลือด อันดับแรกต้องตรวจสอบสายเลือดเสียก่อน

ไม่นานนัก

จ้าวเฟิงก็นั่งด้านหน้าเก้าอี้ที่มีแขนกลไกต่างๆ มากมาย แขนกลไกนั้นแทงปลายหลอดเข็มเข้าไปในร่างของจ้าวเฟิง

“ตรวจสอบพบสายเลือดดวงตา ไม่ทราบและไม่สามารถจะทำให้แข็งแกร่งได้”

แขนกลไกจำนวนมากนั่นเปล่งเสียงออกมา

จ้าวเฟิงตกใจจนเกือบจะลืมไปแล้วว่า สายเลือดดวงตาของตนเป็นสายเลือดที่พิเศษอย่างหนึ่ง

“ตรวจสอบพบสายเลือดเหมันต์วารีโบราณ ทายาทสายเลือดเกล็ดมังกร ส่วนประกอบสายเลือดโบราณ พอที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นสายเลือด ‘เผ่าพันธุ์เกล็ดเหมันต์’ ซึ่งอยู่ในอันดับที่แปดสิบเก้าได้”

“เนื่องด้วยพื้นฐานสายเลือดของท่านยังมีส่วนประกอบของสายเลือดโบราณด้วย ค่าใช้จ่ายจึงมีเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น”

สตรีแสงโลหิตเผยสีหน้าประหลาดเมื่ออ่านรายงานข้อมูลจนจบแล้ว

สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือสายเลือดดวงตาของจ้าวเฟิง ซึ่งขนาดแขนกลไกก็ยังไม่อาจอ่านค่าออกมาได้

นอกจากนี้ บนร่างของอีกฝ่ายยังมีส่วนประกอบของสายเลือดโบราณด้วย

“ถ้าหากว่าท่านสามารถมอบของเหลวต้นกำเนิดของสายเลือดดวงตามาให้ได้ การเพิ่มความแข็งแกร่งของสายเลือดครั้งนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายใด”

แววตาของสตรีประกายโลหิตมีไฟลุกโชน

สายเลือดที่แปลกใหม่และไม่มีใครรู้มาก่อน ทำให้นางสนใจอย่างมากจนอยากจะศึกษา

“ข้าขอปฎิเสธ” จ้าวเฟิงสั่นศีรษะ

ความลับสายเลือดในดวงตาเทพเจ้าของเขา จะปล่อยให้คนอื่นเอาไปศึกษาได้อย่างไร

“เช่นนั้น ท่านเลือกที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของสายเลือด ‘เผ่าพันธุ์เกล็ดเหมันต์’ ใช่หรือไม่ สายเลือดของเผ่าพันธุ์นี้สามารถทำให้พลังเหมันต์ในสายเลือดของท่านเพิ่มขึ้นกว่าเท่าหนึ่ง ร่างกายจะแข็งแกร่งอีกเป็นเท่าตัวเช่นกัน ส่วนพลังป้องกันจะเพิ่มเป็นสองเท่า”

สตรีลำแสงโลหิตเอ่ยบอก

“เลือกเพิ่มความแข็งแกร่ง”

จ้าวเฟิงเอ่ยตกลงท่ามกลางสายตาริษยาของเด็กน้อยครึ่งเซียน

จากราคาในการหลอมรวมสายเลือด ต่อให้จ้าวเฟิงขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนออกไปก็ยังไม่พอเพียง

แต่พื้นฐานสายเลือดที่เขามีอยู่ก็ใกล้เคียงกับสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ เมื่อต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งเข้าไปจึงมีค่าใช้จ่ายเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น

ต่อให้เป็นเช่นนั้น จ้าวเฟิงก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายที่มหาศาล จึงใช้ทรัพยากรของมีค่าจำนวนมหาศาลแลกเปลี่ยนมา

สุดท้าย ทรัพย์สมบัติภายในแหวนเหล็กโบราณของจ้าวเฟิงก็ถูกใช้ไปเกือบครึ่ง

เขารู้สึกเจ็บปวดใจไม่น้อย

หลังจากจ่ายค่าใช้จ่ายราคามหาศาลแล้ว จ้าวเฟิงก็ถูกนำตัวไปนอนลงในบ่อเลือดแห่งหนึ่งที่ชั้นสี่สิบห้า

“สิ่งที่ท่านต้องทำก็แค่นอนในนั้นหนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้น” สตรีแสงโลหิตท่าทางภูมิฐานเอ่ย

ต่อมา เลือดสีฟ้าที่เย็นยะเยือกอย่างแปลกประหลาดก็ห่อหุ้มทั่วร่างของจ้าวเฟิง

ในเวลาเดียวกันก็มีหลอดปลายแหลมขนาดใหญ่หลายสิบแท่งแทงเข้าไปตามจุดชีพจรของเขาด้วย

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยตัวน้อยเล่นกริชจักรพรรดิเงาสังหารไปมา นั่งรอคอยกับเด็กน้อยครึ่งเซียน

“หลอมรวมสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ นี่เป็นการฝืนชะตาฟ้าดินอย่างแท้จริง โอกาสครั้งใหญ่เช่นนี้นับว่าหาได้ยากเย็นยิ่ง” เด็กน้อยครึ่งเซียนเอ่ยพึมพำ

ในความคิดของเขา สายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้

ถ้าหากว่าไม่ได้เข้ามาภายในเมืองโบราณลี้ลับของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์แห่งนี้ ต่อให้มีทรัพยากรที่มากกว่านี้ ก็ไม่สามารถหลอมรวมเพิ่มความแข็งแกร่งจนกลายเป็นสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณได้

ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวเฟิงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กลายเป็น ‘สายเลือดเผ่าพันธุ์เกล็ดเหมันต์’ ซึ่งเป็นสายเลือดลำดับที่แปดสิบเก้า

ลำดับสายเลือดนี้อยู่เหนือสายเลือดเผ่าพันธุ์นักรบสุริยันด้วยซ้ำไป

 

อีกทั้งเผ่าพันธุ์เกล็ดเหมันต์นี้ยังเป็นสามอันดับต้นของสายเลือดที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งได้

“ขอบังอาจถาม แผนการ ‘ลอกเลียนหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ’ ของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ในกาลก่อนสำเร็จลุล่วงหรือไม่?” เด็กน้อยครึ่งเซียนเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ

เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความรู้และความสร้างสรรค์ที่สุดในใต้หล้า

ในบันทึกโบราณ เผ่าพันธุ์นี้มีแผนการและวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่หลายอย่าง หนึ่งในแผนการที่เลื่องชื่อก็คือ แผนการ ‘อุปกรณ์ย้อนเวลา’ และแผนการ ‘ลอกเลียนเผ่าพันธุ์โบราณ’

แผนการเหล่านี้ไม่ใช่แค่ความทะเยอทะยานธรรมดา

แผนการย้อนเวลา ต้องการข้ามผ่านช่วงเวลาเพื่อเปลี่ยนประวัติศาสตร์และโชคชะตา หรือกระทั่งทำให้เก็บเกี่ยวทรัพยากรได้อย่างไร้ขีดจำกัด

เพื่อสิ่งนี้แล้ว เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์จึงคิดหาวิธีตามล่า ‘เผ่าพันธุ์แห่งแสง’ ผลสุดท้ายก็คือทำให้เกิดมหันตภัยที่ทำลายล้างอารยธรรม

แผนการลอกเลียนเผ่าพันธุ์โบราณก็ทำไปเพื่อต้องการจะครอบครอง ‘เผ่าพันธุ์โบราณ’ ไปจนถึงสายเลือดร่างเทพเจ้าที่สมบูรณ์แบบ

“เอ๊ะ!”

สตรีแสงโลหิตประหลาดใจอย่างยิ่ง “ เจ้าล่วงรู้ถึงแผนการทั้งสองอย่างนี้ด้วยหรือ? แต่ว่านี่คือความลับสูงสุดของ ‘พวกฝืนชะตาฟ้า’ ในเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ ข้าเองก็ยังไม่รู้”

“พวกฝืนชะตาฟ้า ว่าแล้วเชียว!”

เด็กน้อยครึ่งเซียนตกใจอย่างยิ่ง ใจเต้นระรัว

เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ตนเองใกล้จะรู้ความจริงของตำนานโบราณแล้ว

เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ ถึงแม้ว่าเป็นหนึ่งเผ่าพันธุ์ แต่ว่าภายในกลับแบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือ พวกฝืนชะตาฟ้า ส่วนอีกฝ่ายคือพวกผู้ทรงภูมิ

พวกฝืนชะตาฟ้า เรียกอีกอย่างว่าพวกใจอำมหิต ฝืนชะตาฟ้า คิดจะครอบครองและลอกเลียนแบบสายเลือดเหล่านั้นที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

แต่ว่าพวกผู้ทรงภูมิจะศึกษาศาสตร์แห่งธรรมชาติ วิถีแห่งฟ้า ช่วยเหลือปวงประชาในใต้หล้า

“ถ้าหากทายไม่ผิด ที่นี่น่าจะเป็นเมืองเก่าลึกลับที่ ‘พวกฝืนชะตาฟ้า’ ของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์เหลือทิ้งเอาไว้ ”

แววตาของเด็กน้อยครึ่งเซียนเป็นประกาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version