Skip to content

King of Gods 713

King Of Gods

บทที่ 713 ผสานวิชา

“เจ้ารู้ไม่น้อยเลยทีเดียว เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ก็คือ นายเหนือหัวที่สรรสร้างพวกเราขึ้นมา น่าเสียดายที่ในตอนนั้นมีเผ่าพันธุ์แข็งแกร่งมากมายร่วมมือโจมตีเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ ทำให้ผลงานจากการใช้สติปัญญาจำนวนมากสูญหายไปในสายธารประวัติศาสตร์”

สตรีประกายโลหิตผู้สง่างามมีท่าทางย้อนระลึกถึงความหลัง

ในเวลาเดียวกัน นางมองเด็กน้อยครึ่งเซียนอย่างคาดคะเนให้มากขึ้นอีก เด็กน้อยในวัยสองสามขวบผู้นี้ก็ไม่ธรรมดาเลย

เด็กน้อยครึ่งเซียนเองก็สังเกตนางอยู่นาน อีกฝ่ายไม่ได้มีชีวิตจริงๆ แต่กลับลอกเลียนแบบอารมณ์และสีหน้าเหมือนมนุษย์ได้

และนายที่สรรสร้างที่แห่งนี้ทั้งหมดก็คือ ‘เผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์’ ซึ่งเป็นอันดับที่สามของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ

“พวกท่านสามารถล่วงล้ำเข้ามาในที่แห่งนี้ น่าจะได้เจ้าแมวตัวนี้นำทางมากระมัง?”

สตรีแสงโลหิตหยุดแววตาลงบนร่างของเจ้าแมวขโมยตัวน้อย

เด็กน้อยครึ่งเซียนตกตะลึง จ้าวเฟิงที่นอนแช่ในสายธารเลือดมีสีหน้าแปลกไป

เมี้ยว~

กรงเล็บสองข้างของเจ้าแมวขโมยตัวน้อยกอดอกแน่นเหมือนลำพองใจ

สตรีแสงสีโลหิตยิ้มแย้ม “ในความทรงจำของข้ามีภาพจำเกี่ยวกับแมวลักษณะนี้อยู่เลือนราง”

เมื่อจ้าวเฟิงได้ยินดังนั้นก็อดจะตกใจไม่ได้

เสียดายก็แต่สตรีแสงโลหิตมีเพียงภาพจำเลือนรางของเผ่าพันธุ์เจ้าแมวขโมยตัวน้อยเท่านั้น

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยตัวน้อยเป่าลมออกจมูกเหมือนจะไม่พอใจ อุ้งมือของมันโบกไปมา แล้วทำท่าทาง ‘พิเศษเฉพาะตัว’

เมื่อนึกถึงความเจ้าเล่ห์และความสามารถที่เกินจะคาดเดาต่างๆ ของเจ้าแมวขโมย เด็กน้อยครึ่งเซียนอดยอมรับไม่ได้ว่า โลกนี้ยากที่จะหาแมวเช่นนี้เป็นตัวที่สอง

เวลาค่อยๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไป

จ้าวเฟิงแช่อยู่ในเลือดสีฟ้าเย็นเฉียบ แต่ที่แปลกใจก็คือ ร่างของเขาเป็นประหนึ่งแม่เหล็กชิ้นหนึ่ง ดูดซึมเลือดสีฟ้าอย่างรวดเร็ว

ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน จ้าวเฟิงก็ดูดซึมเลือดสีฟ้านั่นเข้าไปจนหมด

“เร็วกว่าที่คิดไว้หลายเท่าตัวนัก ภายในร่างของเขายังมีคุณสมบัติสายเลือดโบราณที่ไม่ธรรมดา”

สตรีแสงโลหิตดูประหลาดใจ

จ้าวเฟิงค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น แสงโลหิตสีฟ้าหมุนวนรอบร่างกาย

วิ้ง~

ชั่วครู่เดียว ทั่วร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีฟ้าแวววาวที่สวยงาม เหมือนเกล็ดมังกรแต่กลับละเอียดเล็ก

จ้าวเฟิงรู้สึกว่าในร่างกายและสายเลือดของตนเองมีระลอกพลังเหมันต์ที่ทรงพลัง ทุกอิริยาบถไอเย็นที่สูงส่งจะทะลวงผ่านมาในอากาศจนเกิดเป็น

‘เขตแดนฉวนปิง’ (เขตแดนน้ำแข็งลี้ลับ)

“นี่ก็คือพลังสายเลือดของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ”

จ้าวเฟิงกระปรี้กระเปร่า เหมือนมีพลังเหมันต์ที่ไม่สิ้นสุด พละกำลังของร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สายเลือดเหมันต์ที่หนึ่งใน ‘ผู้ถูกเลือกผู้ไร้คู่ต่อสู้’ ของทวีปบุปผาครามอย่างปิงเวยเซียนจื่อมีนั้นด้อยค่าไปเลยทันที

“ลองดู!” จ้าวเฟิงค่อยๆ ชันกายขึ้น สูดหายใจลึก แล้วพลังเหมันต์ที่รุนแรงของฉวนปิงโบราณก็ครอบคลุมไปทั่วบริเวณ

แซ่ด!

เด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยตัวน้อยล้วนแต่สัมผัสได้ว่าความเย็นที่หนาวเหน็บไปถึงกระดูกทะลวงผ่านดวงวิญญาณและร่างกาย

ภายใต้การชี้นำของจ้าวเฟิง เด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยตัวน้อยโจมตีเป็นระลอก

เพี๊ยะ ผัวะ!

เด็กน้อยครึ่งเซียนใช้ลำแสงหมัดสีทองเจ็ดสิบส่วนเกาะกลุ่มเป็นพลัง ปะทะไปบนร่างของจ้าวเฟิง

“โครม!” ร่างของจ้าวเฟิงสั่นสะเทือนน้อยๆ เกล็ดสีฟ้าทั่วร่างเปล่งแสงเล็กละเอียดสว่างเจิดจ้า ไม่มีแม้แต่ร่องรอยเหลือทิ้งไว้เลย

แต่ว่าระดับวิชาหมัดของเด็กน้อยครึ่งเซียนก็ไม่ได้ธรรมดาเลย เพราะมันตรงดิ่งเข้าไปยังวิญญาณและอวัยวะภายใน

ทว่าพลังในส่วนที่เหลือก็ไม่ได้ส่งผลทำร้ายจ้าวเฟิง

“ช่างเป็นการป้องกันที่แข็งแกร่งนัก มือของข้า…”

ความเย็นค่อยๆ แผ่กระจายบนกำปั้นของเด็กน้อยครึ่งเซียน คล้ายมีผลสะท้อนกลับไปทั่วร่างเขา

เมื่อเข้าใกล้หรือว่าโจมตีจ้าวเฟิง ก็จะต้องโดนผนึกด้วยน้ำแข็ง

เมี้ยว เมี้ยว!

กริชจักรพรรดิเงาสังหารในมือของเจ้าแมวขโมยตัวน้อยกวาดเป็นเงาเหมันต์ แล้วฟาดฟันลงบนร่างของจ้าวเฟิง

ตุบ โครม~

บริเวณบ่าของจ้าวเฟิงเกิดรอยแผลเล็กยาว ความรู้สึกเหน็บชาแล่นเข้ามา

ผลจากการโจมตีของกริชจักรพรรดิเงาสังหารราวกับอยู่เหนือการป้องกันร่างกายใดๆ เพราะว่าการโจมตีนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างเงาและรูปธรรม

แต่ทว่า จ้าวเฟิงมีสายเลือดของ ‘เผ่าพันธุ์เกล็ดเหมันต์’ การป้องกันร่างกายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง พลังฟื้นฟูก็ไม่ด้อยไปกว่ารายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ

แต่กลับเป็นเจ้าแมวขโมยตัวน้อยที่หนาวจนฟันกระทบดังกึกๆ แล้วรีบถอยร่นไปหลายจั้ง

“พลังสายเลือดนี้โจมตีและป้องกันพร้อมกัน อีกทั้งผลในการแช่แข็งดำรงอยู่ทุกหนแห่ง แข็งแกร่งกว่าสายเลือด ‘เผ่าพันธุ์นักรบสุริยัน’ ของเวินลั่วอัน”

จ้าวเฟิงผงกศีรษะอย่างพึงใจ สายเลือดเผ่าพันธุ์นักรบสุริยันของเวินลั่วอันจัดอยู่ในอันดับที่เก้าสิบแปด แต่ว่า ‘เผ่าพันธุ์เกล็ดเหมันต์’ ของจ้าวเฟิงอยู่ในลำดับที่แปดสิบเก้า

“ยินดีด้วยที่ผลลัพธ์ในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสายเลือดเป็นไปตามที่คาด”

สตรีประกายโลหิตเอ่ยปนยิ้ม

นัยน์ตาของเด็กน้อยครึ่งเซียนเผยแววริษยา ถึงแม้จะบอกว่าเขามีพรสวรรค์ในการฝึกร่างกายที่สูงส่ง แต่ว่าก็ไม่ได้มีสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ

ถ้าหากว่าสายเลือดของเขาแกร่งมากกว่านี้อีกสักหน่อย อย่างเช่นเกิดอยู่ในสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ กำลังการฟื้นฟูจะยอดเยี่ยมกว่า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะผ่าน ‘ด่านเคราะห์อัสนีบาต’ ในยามที่มีชีวิตอยู่ไปได้

แต่ของอย่างเช่นสายเลือดพวกนี้คือสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด มาอ้อนวอนขอในภายหลังไม่ได้

“จ้าวเฟิงผู้นี้โชคดีเสียจริงที่มีโอกาสดีๆ เช่นนี้” เด็กน้อยครึ่งเซียนรู้สึกอิจฉาในใจอยู่บ้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีเจ้าแมวขโมยตัวน้อยที่เป็นผู้นำความโชคดีต่างๆ มาให้จ้าวเฟิง

“ จะเข้ามาภายในซากปรักหักพังของเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์นับว่าหายาก ต่อไปภายหน้าเกรงว่าจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีก” จ้าวเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก

มรดกของจักพรรดิโจรสลัด ปกติแล้วช่วงเวลาจะไม่เกินหนึ่งเดือน

บางทีต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสมายังสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว

ทว่าทรัพยากรผลึกเริ่มต้นของจ้าวเฟิงหายไปกว่าครึ่ง เนื่องจากเอามาจ่ายค่าเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสายเลือดของตนเอง

หากจะเสริมความแข็งแกร่งด้วยสายเลือดหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณอีกครั้งก็ออกจะไม่ค่อยพอ

“เจ้ามีสายเลือดที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกระดูกหรือไม่? โดยที่ไม่ต้องเป็นสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ”

จ้าวเฟิงเอ่ยถาม เขาดูรายชื่อและราคาแล้ว หากเป็นสายเลือดหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ราคาจะแพงกว่าปกติถึงสิบเท่าหรือร้อยเท่าทีเดียว

“ทั้งหมดมีอยู่สองร้อยสี่สิบเก้าชนิด” สตรีแสงโลหิตเรียกกระดานสีเลือดออกมาอีกครั้ง

จ้าวเฟิงมองปราดหนึ่ง จึงเห็นว่าราคาในครั้งนี้เบาลงมาไม่น้อยทีเดียว

“ข้าต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหุ่นเชิดศพจำนวนมาก” จ้าวเฟิงโบกมือเรียกหุ่นเชิดศพต้องสาปออกมา

“ขอตรวจสอบก่อน”

สตรีแสงโลหิตเด็ดขาดอย่างยิ่ง

ไม่นานนักแขนกลไกมากมายก็เริ่มลงมือตรวจสอบเหล่าหุ่นเชิดศพต้องสาป

“ค้นพบคุณสมบัติสายเลือดโบราณ โครงสร้างกระดูกและวิญญาณ…” แขนกลเปล่งเสียงออกมา

ผลการตรวจสอบทำให้จ้าวเฟิงและสตรีประกายโลหิตตกตะลึง

โครงสร้างกระดูกและวิญญาณเป็นเรื่องปกติยิ่ง หุ่นเชิดศพต้องสาปร้อยร่างล้วนแต่มีคุณสมบัติร่างกายเช่นนี้ แต่ว่าคุณสมบัติสายเลือดโบราณกลับไม่ปกติ

“มีคุณสมบัติสายเลือดโบราณ ดังนั้นราคาการเสริมความแข็งแกร่งจะลดลงไปหนึ่งในห้าหรือหนึ่งในสิบ”

สตรีโลหิตกล่าว

ต่อจากนั้น จ้าวเฟิงจึงเลือกรายการบนกระดานพื้นผิวสีเลือด

สตรีประกายโลหิตรู้ว่าจ้าวเฟิงจะเพิ่มความแข็งแกร่งของศพร้อยร่างในราคาที่ย่อมเยาคุ้มค่า จึงเอ่ยแนะนำ

 

 

“แนะนำให้เพิ่มความแข็งแกร่งด้วยสายเลือด ‘หมื่นกระดูกภูต’ ถึงจะสามารถเก็บรักษาแรงอาฆาตและปราณศพ อีกทั้งต่อให้กระดูกแตกละเอียดไปก็เกาะกลุ่มใหม่ได้อีกครั้ง ”

สตรีโลหิตเอ่ย

จ้าวเฟิงดูอยู่ครู่หนึ่ง สายเลือดหมื่นกระดูกภูตินี้ การป้องกันและการโจมตีไม่นับว่าโดดเด่น แต่ว่าหลังจากเพิ่มความแข็งแกร่งแล้ว พละกำลังของร่างกายหุ่นเชิดศพอย่างน้อยๆ จะเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งเท่า

อย่างไรหุ่นเชิดศพเหล่านั้นก็ไม่ได้มีระดับขั้นสูงส่งอย่างจ้าวเฟิง ถึงจะไม่ใช่สายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณก็เพิ่มความแข็งแกร่งได้มากอยู่แล้ว

จุดเด่นที่สุดของสายเลือดหมื่นกระดูกภูติคือความสามารถในการดำรงอยู่ที่ยอดเยี่ยม

กระดูกแตกละเอียดแล้วสามารถเกาะกลุ่มขึ้นใหม่ได้

“ค่ายกลหุ่นเชิดศพไม่จำเป็นต้องใช้หุ่นเชิดศพสังหารศัตรู แต่ใช้พลังของค่ายกลเองต่างหาก” จ้าวเฟิงผงกศีรษะ

หนำซ้ำสายเลือดหมื่นกระดูกภูติประเภทนี้ ราคาในการเพิ่มความแข็งแกร่งไม่สูงมาก

หุ่นเชิดศพต้องสาปร้อยร่างดูดซึมกลิ่นอายเลือดเนื้อจากห้วงฝันบรรพกาลจำนวนมาก คุณสมบัติสายเลือดโบราณจึงหลอมรวมเข้าไปภายในร่าง

เช่นนี้แล้ว ราคาจึงต้องการเพียงแค่หนึ่งในเจ็ดส่วนของราคาเดิม เมื่อรวมๆ กันแล้วราคา ค่าเสริมความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดศพต้องสาปร้อยร่างยังไม่ถึงหนึ่งในสี่ของค่าใช้จ่ายจ้าวเฟิงเมื่อครู่

“หุ่นเชิดศพร้อยร่างต้องใช้เวลาเจ็ดวัน” สตรีประกายโลหิตบอก

จ้าวเฟิงผงกศีรษะ แล้วจึงจัดแจงเอาหุ่นเชิดศพต้องสาปร้อยร่างและเจ้าหอโครงกระดูกทิ้งไว้ที่ตำหนักหมื่นโลหิตเป็นการชั่วคราว

เจ้าหอโครงกระดูกเองก็จะเสริมด้วย ‘หมื่นกระดูกภูติ’ เช่นกัน นี่นับเป็นสายเลือดชั้นยอดสำหรับคุณสมบัติร่างกายดั้งเดิมของเขาเลยทีเดียว

ต่อมา จ้าวเฟิงจึงเดินไปมาภายในเมืองเก่าแก่จากเหล็กกล้าอยู่นาน

“ข้าสิ้นเปลืองทรัพยากรไปจนเหลือเพียงแค่สามสิบส่วนเท่านั้น…” จ้าวเฟิงรู้สึกว่าตนล้มละลายอยู่บ้าง

เขาเริ่มเก็บสะสมทรัพยากรตั้งแต่อยู่ในซากปรักหักพังสือเฉิง แล้วต่อด้วยอุทยานครึ่งเซียน ซ้ำยังช่วงชิงมรดกโจรสลัด จึงมีต้นทุนเพียบพร้อม

แต่ทว่าทรัพยากรมหาศาลสิ้นเปลืองไปในเมืองเก่าความลับสวรรค์ถึงเจ็ดสิบส่วนแล้ว

เด็กน้อยครึ่งเซียนย่อมล่วงรู้ถึงสถานการณ์ของจ้าวเฟิง จึงไม่ได้เรียกร้องอะไรที่มากเกินไป

จ้าวเฟิงไม่ได้จำกัดการใช้ทรัพยากรของเขาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

สามวันต่อมา

จ้าวเฟิงมาถึง ‘วังวิถีเซียน’

วังวิถีเซียนแห่งนี้มีเคล็ดวิชาลับขาย มีวิธีแก้ปัญหาการฝึกวิชาและการฝึกตนต่างๆ ด้วย

ในที่แห่งนี้มีขายแม้กระทั่งสิ่งที่สูงส่งกว่ามรดกวายุอัสนีกับกายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทอง

เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายมีราคาสูงมาก เป็นรองแค่การหลอมรวมสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณเท่านั้น

“แขกผู้มาเยือน พวกท่านต้องการเคล็ดวิชาใดหรือไม่?” ผู้เฒ่าในลำแสงขาวนวลท่าทางสุขุมแย้มยิ้มอย่างเป็นมิตร

 

เมื่อสายตาของเขาหยุดลงบนร่างของเจ้าแมวขโมยตัวน้อยก็ฉายแววประหลาดออกมา แล้วจึงเก็บงำอย่างรวดเร็ว

“ข้าต้องการวิชาที่ช่วยให้แข็งแกร่ง” จ้าวเฟิงเอ่ยถึงเจตนา

ในมือของเขามี ‘วิชาหมื่นอัสนีห้าสาย’ และ ‘กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทอง’ กระทั่งมรดกวายุอัสนี

จุดประสงค์ของจ้าวเฟิงคือเอาสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน ก่อนจะผสานให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น

“ขอข้าดูหน่อย” ผู้เฒ่าในลำแสงขาวนวลเนียนยิ้มแย้มน้อยๆ

จ้าวเฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดกลไกที่สมจริงเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ไม่สามารถจะฝึกฝนใดๆ ได้

เขาถ่ายทอด  ‘วิชาหมื่นอัสนีห้าสาย’ ‘กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทอง’ ‘มรดกวายุอัสนี’ และข้อมูลต่างๆ ให้ผู้เฒ่าสุขุมลุ่มลึกในแสงสีขาว

“อืม วิชามรดกทั้งสามอย่างนี้ ในคลังข้อมูลของข้าพอจะมีคล้ายๆ อยู่บ้าง วิชาหมื่นอัสนีห้าสายกับกายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทอง ข้าก็มีต้นฉบับอยู่”

ผู้เฒ่าในแสงขาวนวลยิ้มอย่างมั่นใจ

เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว เด็กน้อยครึ่งเซียนเองยังตกใจไม่น้อย

“ข้าสามารถขัดเกลากายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทองให้กลายเป็น ‘กายศักดิ์สิทธิ์อัสนีปฐพีทอง’ จะทำให้เงื่อนไขในการฝึกร่างกายลดลง เหมาะกับการฝึกตนของท่าน”

ผู้เฒ่าท่าทางสุขุมในแสงขาวนวลชะงักไปครู่หนึ่ง

จ้าวเฟิงอดจะตกใจไม่ได้ เด็กน้อยครึ่งเซียนเบิกตากว้าง

 

ผู้เฒ่าท่าทางสุขุมลุ่มลึกเอ่ยต่อ “ มรดกวายุอัสนีและหมื่นอัสนีห้าสาย ข้าสามารถนำมาผสานเข้าด้วยกันให้กลายเป็น ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ พลังจะเพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งไม่ต้องใช้คุณสมบัติกายจิตวิญญาณอัสนีที่สูงส่งมากนัก”

วิชาวายุอัสนีห้าสาย!

จ้าวเฟิงปิติยินดีอย่างยิ่ง ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ผสาน ‘มรดกวายุอัสนี’ เข้ากับ ‘วิชาหมื่นอัสนีห้าสาย’ ที่เก่าแก่ พลังจะเพิ่มขึ้นมาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ มรดกวายุอัสนีที่ขาดไปของจ้าวเฟิงจึงจะสมบูรณ์

และแน่นอนว่าการขัดเกลาวิชาทั้งสองนี้ ค่าใช้จ่ายก็ไม่น้อยเลยทีเดียว

“เนื่องจากมรดกวายุอัสนีของท่านช่วยเพิ่มพูนคลังข้อมูลของข้า การผสานวิชาในครั้งนี้จะลดให้ท่านสี่สิบส่วน”

“ข้าเลือกผสานให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น!”

จ้าวเฟิงกัดฟันจ่ายทรัพยากรที่เหลืออยู่ไป แทบจะใช้ไปจนหมดสิ้นแล้ว

สามวันต่อมา

ผู้เฒ่าท่าทางสุขุมนุ่มลึกนำ ‘หนังสือทอแสง’ เก่าแก่โบราณสองเล่มส่งให้จ้าวเฟิง

วิ้ง! หนังสือแสงสองเล่มบินว่อนเข้าไปในหัวจ้าวเฟิง

“ ‘กายศักดิ์สิทธิ์อัสนีปฐพีทอง’ ใช้หมื่นอัสนีฝึกร่างจนสำเร็จกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือกว่าผู้ใด สูงที่สุดก็น่าจะสามารถกลายเป็น ‘เซียนที่แท้จริง’ ของขอบเขตเซียนสวรรค์ได้”

“ ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ใช้วายุอัสนีเป็นโครงสร้าง และพัฒนากลายเป็นหมื่นรูปลักษณ์ห้าสาย ควบคุมวายุอัสนีทอง วายุอัสนีพฤกษา วายุอัสนีวารี วายุอัสนีอัคคี วายุอัสนีปฐพี…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!