Skip to content

King of Gods 784

King Of Gods

บทที่ 784 แย่งชิง

จ้าวเฟิงและ ‘จ้าวเฟิง’ มีเจตจำนงแตกต่างกัน

เขาไม่อยากยื่นมือเข้าไปอยู่ในวังวนความสัมพันธ์ของฝ่ายหลัง

ถึงแม้ลั่วสุ่ยเอ๋อร์ผู้นั้นจะมีใบหน้าและบุคลิกงดงาม ยากจะพบเจอในโลกใบนี้

ขณะเดินออกจากป่าไผ่ จ้าวเฟิงก็ย้อนรำลึก ‘ความปรารถนา’ ส่วนหนึ่งของจ้าวเฟิงคนก่อนอย่างละเอียด

หนึ่งในนั้นคือทำให้ตระกูลยิ่งใหญ่รุ่งเรือง ส่วนความปราถนาที่จะรวมเขาเมฆาให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว

อีกทั้งการช่วยให้ท่านปู่มีอายุขัยยืนยาว และรักษาอาการบาดเจ็บพิการก็สำเร็จลุล่วงเช่นกัน

“ฝากตัวเป็นศิษย์ของราชัน สร้างชื่อเสียงที่ดินแดนเกาะเทียนเฟิงและสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่น”

มุมปากของจ้าวเฟิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

เป้าหมายนี้ใกล้สำเร็จลุล่วงในงานเลี้ยงที่จะเกิดขึ้น รวมไปถึงการทดสอบคัดเลือกเทพลวงตาในอีกไม่นานนี้

ส่วนเรื่องการฝากตัวเป็นศิษย์ของราชัน จ้าวเฟิงใช้เวลาไม่นานก็สามารถฝึกตนจนฟื้นฟูไปถึงขั้นราชันได้ เกรงว่าจะเหนือกว่าการคาดเดาของเจ้าตัวเสียอีก

“นอกเหนือจากการแต่งงานกับลั่วสุ่ยเอ๋อร์ เรื่องอื่นๆ ที่เหลือก็แทบจะสำเร็จลุล่วง ถึงขั้นเกินกว่าที่คาดไว้เสียด้วยซ้ำ”

จ้าวเฟิงลองผงกศีรษะน้อยๆ

เขาทุ่มเทกายใจทำถึงขนาดนี้ พูดได้เลยว่าทำจนสุดความสามารถแล้ว เพราะอย่างไรในขณะที่เขาช่วงชิงร่างเกิดใหม่ จ้าวเฟิงคนเก่าก็ได้ตายไปเรียบร้อย

จวนอ๋องโหวประดับไฟสว่างเจิดจ้า เสียงดนตรีเฉลิมฉลองครื้นเครง

จ้าวเฟิงเป็นคนสำคัญของงานเลี้ยงจวนอ๋องโหวในคืนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

คนชั้นสูงมากมายที่มาจากดินแดนเกาะเทียนเฟิงต่างก็รู้จักอัจฉริยะนักฝึกสัตว์ที่มหัศจรรย์ผู้นี้

ในบรรดาคนที่มาร่วมงานเลี้ยง มีราชันสองคนของสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่น ซึ่งว่ากันว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหนานเฟิงอ๋อง

ในงานเลี้ยง บุคคลชั้นสูงของดินแดนเกาะใหญ่จำนวนไม่น้อยเชิญชวนและพูดคุยกับจ้าวเฟิงไม่หวาดไม่ไหว

ดีที่ท่านหญิงอวี่ชิงช่วยแบ่งแรงกดดันจากจ้าวเฟิงไปไม่น้อย

ท่านหญิงน้อยที่หนานเฟิงอ๋องรักมากที่สุดเดินใกล้ชิดกับจ้าวเฟิงเป็นอย่างยิ่ง

ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวตกอยู่ในสายตาของหนานเฟิงอ๋อง บ้านสกุลลั่ว และคนอื่นๆ

ท่านหญิงอวี่ชิงรู้สึกดีและเลื่อมใสในตัวจ้าวเฟิง ไม่ว่าใครก็ดูออก

หนานเฟิงอ๋องก็เห็นโดยตลอด แต่กลับอมยิ้มไม่พูดอะไร

ถ้าหากท่านหญิงอวี่ชิงคบหากับจ้าวเฟิงเขาก็จะไม่คัดค้าน

บ้านสกุลลั่วหลายคนมีสีหน้าวิตกกังวล

ถ้าหากว่าหลังจากที่จ้าวเฟิงเขียนจดหมายหย่า แล้วกลายมาเป็นเขยของ ‘หนานเฟิงอ๋อง’ แทน จะเป็นการทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของสกุลลั่วครั้งใหญ่

โชคยังดี เรื่องที่บ้านสกุลลั่ววิตกกังวลนั้นไม่ได้เกิดขึ้น

จ้าวเฟิงไม่ได้แสดงออกว่าสนใจในตัวท่านหญิงอวี่ชิง สีหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อถูกฝ่ายหลังพาเดินไปมา

ณ มุมหนึ่งของงานเลี้ยง

ลั่วจุนและองค์ชายแปด เดิมทีเป็นบุรุษหนุ่มสองคนที่โดดเด่น แต่กลับยืนอยู่ในมุมที่ไม่สะดุดตา

“จ้าวเฟิงผู้นี้ถอนหมั้นลั่วสุ่ยเอ๋อร์ และไม่ได้สนใจท่านหญิงอวี่ชิง ในสมองของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่?”

สายตาขององค์ชายแปดจับจ้องไปที่ร่างของจ้าวเฟิงอยู่บ่อยครั้ง

จ้าวเฟิงผู้นี้ นานวันเข้าก็ยิ่งทำให้เขามองไม่ออก

วงหน้างดงามของลั่วสุ่ยเอ๋อร์ ขนาดองค์ชายแปดอย่างเขายังถูกดึงดูด ส่วนท่านหญิงน้อยมีฐานะสูงส่ง เป็นดังฝันที่เกินจะเอื้อมถึงของชายหนุ่มจำนวนนับไม่ถ้วน

แต่ทว่า จ้าวเฟิงกลับทอดทิ้งคนทั้งสองที่เป็นหญิงงามเหมือนนางสวรรค์ในสายตาเขาไปพร้อมกัน

แข่งเรือแข่งพายได้ แต่แข่งบุญวาสนาไม่ได้จริงๆ

องค์ชายแปดอดถามตนเองไม่ได้ว่า ตนเองเป็นถึงองค์ชายแปดผู้สูงศักดิ์ของราชวงศ์ต้าเฉียน จะต้องพ่ายแพ้ต่อหนุ่มน้อยคนหนึ่งจากตระกูลเล็กๆ กระนั้นหรือ?

จนถึงกลางดึก งานเลี้ยงสิ้นสุดลง

จ้าวเฟิงแสดงความขอบคุณต่อหนานเฟิงอ๋องและเอ่ยปากขอตัว

หนานเฟิงอ๋องไม่ได้รั้งตัวเขาเอาไว้อีก

ทั้งยังให้ของตอบแทนส่วนหนึ่งให้แก่จ้าวเฟิง จ้าวเฟิงนั่งวิหคนิลกาฬออกไปจากจวนอ๋องโหว

ระหว่างทางกลับ เขาตรวจดูของตอบแทนที่หนานเฟิงอ๋องมอบให้

ของตอบแทนเหล่านั้นมีสมบัติล้ำค่าในแขนงวารีและทรัพยากรล้ำค่าส่วนหนึ่งที่จ้าวเฟิงต้องการ ทั้งหมดมีค่าควรเมือง ยากที่จะได้มาทั้งสิ้น

นอกจากนี้ หนานเฟิงอ๋องยังมอบผลึกเริ่มต้นให้ด้วย

ผลึกเหล่านี้ไม่ใช่ผลึกเริ่มต้นธรรมดา แต่เป็นผลึกเริ่มต้น ‘ระดับสุดยอด’ ที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ผลึกเริ่มต้นระหว่างระดับสูงถึงระดับสุดยอดมีเส้นแบ่งอย่างหนึ่ง

ผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอดหนึ่งชิ้น เท่ากับผลึกเริ่มต้นระดับสูงหนึ่งล้านชิ้น!

ผลึกเริ่มต้นระดับสูงหนึ่งชิ้น จะเท่ากับผลึกเริ่มต้นระดับกลางหนึ่งร้อยชิ้น และเท่ากับผลึกเริ่มต้นระดับต่ำหนึ่งหมื่นชิ้น

จากจุดนี้จะเห็นได้ถึงความหายากของผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอด

คิดถึงตอนนั้นที่จ้าวเฟิงใช้ค่ายกลข้ามดินแดนจิตวิญญาณ ก็ได้ใช้ผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอดไปไม่น้อย

จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฝูเมิ่งถึงทวีปบุปผาคราม และจากบุปผาครามถึงทะเลแดนใต้อันเป็นเขตทะเลของดินแดนทวีป

เพื่อการนี้ จ้าวเฟิงในช่วงชีวิตก่อนใช้ต้นทุนไปเก้าสิบห้าส่วน ถึงกระทั่งกล้าเอาผลึกเริ่มต้นในระดับสุดยอดส่วนหนึ่งจาก ‘จักรพรรดิจื่อมู่’ มาเพิ่มให้ครบตามจำนวนที่ต้องใช้

หลังจากเปลี่ยนร่างเกิดใหม่ จ้าวเฟิงจึงไม่มีผลึกเริ่มต้นอยู่ในมือเลย

ทว่าครั้งนี้ ในบรรดาของตอบแทนจากหนานเฟิงอ๋อง กลับมีผลึกเริ่มต้นในระดับสุดยอดเกือบหนึ่งร้อยชิ้น รวมไปถึงผลึกเริ่มต้นระดับสูงนับพันนับหมื่นชิ้น

แน่นอนว่าเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หนานเฟิงอ๋องติดค้างบุญคุณของจ้าวเฟิงครั้งหนึ่งอาจจะมีค่ายิ่งไปกว่านั้นเสียอีก

“ของพวกนี้มากพอให้ข้าฝึกตนได้ถึงขั้นราชันในขอบเขตปราณเทวะ แต่ในระยะหลังจากราชัน ทรัพยากรที่ต้องใช้จะมากมายกว่านี้” จ้าวเฟิงมองการณ์ไกลอย่างยิ่ง

เขาฝึกบำเพ็ญใหม่ก็เพื่อเป้าหมายที่สูงส่งยิ่งกว่าเดิม ไปได้ไกลยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้น ในมิติเทพลวงตาที่เชื่อมต่อหนึ่งครั้งในรอยร้อยปี จ้าวเฟิงจะต้องคว้าโอกาสเอาไว้ให้ได้

จากที่เขารู้มา ทรัพยากรระดับสูงส่วนหนึ่งที่หายสาบสูญไปของดินแดน มีจำนวนไม่น้อยมีที่มาจาก ‘มิติเทพลวงตา’

ตัวอย่างเช่น นอกจากผลึกเริ่มต้นในระดับสุดยอด ยังมี ‘ผลึกเซียน’ ในตำนานอีกด้วย

ด้วยสภาพแวดล้อมของพื้นพสุธาในตอนนี้ ผลึกเซียนแทบจะไม่สามารถถือกำเนิดได้อีก โดยปกติแล้วจะมาจากซากปรักหักพังโบราณ อย่างเช่น ‘มิติเทพลวงตา’

‘ผลึกเซียน’ ดังกล่าว หนึ่งเป็นศูนย์กลางของค่ายกลข้ามดินแดนระยะทางไกลๆ สองใช้ในการฝึกฝนขั้นครึ่งเซียนและเซียนขอบเขตเทวาเร้นลับขึ้นไป

ตามระดับของจ้าวเฟิงในตอนนี้ ผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอดก็ถือว่าเป็นผลึกที่ใช้ฝึกฝนซึ่งยอดเยี่ยมยิ่งแล้ว

เมื่อกลับถึงสำนัก จ้าวเฟิงก็เริ่มปิดผนึกฝึกตนใหม่อีกครั้ง

“หนึ่งเดือนจากนี้ค่อยไปจวนอ๋องโหวอีกรอบ ตอนนั้น ‘ไหมเมฆาผีเสื้อเซียน’ ก็คงจะฟื้นคืนอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว”

ก่อนที่จ้าวเฟิงจะปิดผนึก เขากำหนดเวลาที่แน่นอนไว้

ภายในห้อง

ทั่วร่างของจ้าวเฟิงเปล่งแสงโลหะสีเงินฟ้าชั้นหนึ่ง เป็นประกายเจิดจ้าดั่งรูปสลักน้ำแข็ง

แซ่ด วิ้ง วิ้ง!

วายุอัสนีธาตุน้ำหมุนวนอยู่ทั่วร่างของจ้าวเฟิง จากด้านนอกเข้าสู่ภายใน หล่อหลอมเลือดเนื้อ อวัยวะ และกระดูก

ตั้งแต่ ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ บรรลุถึงขั้นที่สี่ พลังกายเนื้อและการป้องกันร่างกายของจ้าวเฟิงจึงไปถึงขั้นใหม่

ในเวลาดังกล่าว

เพียงร่างกายและกายเนื้อของเขาเท่านั้น ก็สามารถรับมือหรือกระทั่งกดดันคนในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดทั่วไปได้

เป็นเพราะ ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ ทำให้จ้าวเฟิงสามารถฝึกวิชาระดับสูงทั้งสองได้ในเวลาเดียวกัน

เมื่อปรียบเทียบกันแล้ว

พัฒนาการของ ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ จะรวดเร็วกว่าเล็กน้อย ด้วยเพราะมีส่วนประกอบวายุอัสนีและสำนึกรู้ขั้นจักรพรรดิของจ้าวเฟิงในช่วงชีวิตก่อน

เพียงพริบตา เวลาหนึ่งเดือนก็ผ่านไป

‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ของจ้าวเฟิง ‘ก้าวหน้า’ ขึ้นไปอีกครั้ง ทะลวงผ่านขั้นที่ห้า

‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ แบ่งออกเป็นสิบสองขั้น

สามขั้นแรกเป็นวายุอัสนีขั้นพื้นฐาน

ในขั้นที่ 4-6 เป็นรากฐานแหล่งกำเนิดของธาตุแรกในวายุอัสนีห้าสาย

ซึ่งจ้าวเฟิงเลือก ‘วายุอัสนีธาตุน้ำ’

เมื่อเริ่มขั้นที่ 7 จ้าวเฟิงก็สามารถขยายไปวายุอัสนีลำดับที่สอง…คือวายุอัสนีธาตุไม้

น้ำให้กำเนิดไม้ ไม้ให้กำเนิดไฟ ไฟให้กำเนิดดิน ดินให้กำเนิดทอง สุดท้ายทองก็จะให้กำเนิดน้ำอีกรอบ กลายเป็นสังสารวัฎของธาตุทั้งห้า

ขั้นที่เจ็ดเป็นวายุอัสนีธาตุไม้ ขั้นที่แปดเป็นวายุอัสนีธาตุไฟ ขั้นที่เก้าเป็นวายุอัสนีธาตุดิน ขั้นที่สิบเป็นวายุอัสนีธาตุทอง

หลังจากขั้นที่สิบไปแล้วก็จะเป็นวัฎจักรของวายุอัสนีทั้งสาย หมุนวนไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด หรือกระทั่งสามารถรวมห้าธาตุให้เป็นหนึ่งเดียว!

นี่ล้วนเป็นเสวียนอ้าวแก่นสำคัญที่เก่าแก่โบราณส่วนหนึ่งจาก ‘วิชาหมื่นอัสนีห้าสาย’

แน่นอนว่าสาระสำคัญด้านความเร็วของพวกมรดกวายุอัสนีและวายุอัสนีทำลายล้าง ก็ได้ปรากฏอยู่ภายในนั้นด้วย

แต่จ้าวเฟิงกลับหลอมรวมเสวียนอ้าวทำลายล้างเข้าไปภายในพลังวายุอัสนีได้ล่วงหน้า ต่อจากนั้นจึงเป็นพลังอัสนีเทวะ

“พลังอัสนีเทวะล้ำลึกเป็นที่สุด รอข้าฟื้นฟูสำนึกรู้จักรพรรดิก่อน แล้วค่อยผสานเข้าไปก็ยังไม่สาย” จ้าวเฟิงวางแผนของตนในใจ

ในวันนี้

ท้องฟ้าด้านบนลานพักที่จ้าวเฟิงฝึกตน ปรากฏไอสวรรค์หมุนวนเป็นวงกลมดังละรอกคลื่นวารีอัสนี กลิ่นอายส่งผลกระทบเป็นรัศมีหลายสิบลี้

ในความเลือนราง เหมือนกับมีหลุมดำดูดซึบไอสวรรค์ในฟ้าดินรอบด้านเข้าไป

“เจ้าเด็กผู้นั้น รวดเร็วเช่นนี้ก็เริ่มทะลวงผ่านขอบเขตแก่นก่อกำเนิดแล้ว”

ศิษย์พี่ก่วงและคนอื่นๆ สังเกตเห็นปรากฏการณ์จากการปิดผนึกฝึกตนของจ้าวเฟิง

ลูกศิษย์คนสำคัญส่วนหนึ่งใจและวิญญาณสั่นระรัว

นี่เวลาเพิ่งจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ถึงครึ่งปีหรือไม่? จ้าวเฟิงก็เริ่มฝึกตนไปสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดแล้ว

อีกทั้งไอสวรรค์ที่หมุนวนบนอากาศเหนือเขตที่พักมีกลิ่นอายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ไอสวรรค์อัสนีวารีที่ดูดซึมเข้าไปก็บริสุทธิ์มากด้วย

ปรากฏการณ์ที่จ้าวเฟิงฝึกตนสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดดึงดูดความสนใจของราชันจำนวนหนึ่ง

ด้วยเพราะจ้าวเฟิงเพิ่งจะอายุสิบสี่สิบห้าปี อายุน้อยเพียงเท่านี้ก็ทะลวงไปสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิด ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็เป็นอัจริยะที่ยากจะพบเจอ

แต่ระลอกไอสวรรค์ที่หมุนวนเกิดขึ้นไม่ถึงสองวันก็อันตรธานหายไปทันที

“คงจะล้มเหลวแล้วสินะ?”

“เฮอะ! จ้าวเฟิงผู้นี้ทะเยอทะยานเสียจริง เลื่อนเป็นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดได้ไม่นานเท่าไหร่ก็คิดที่จะทะลวงขอบเขตแก่นก่อกำเนิด”

“พรสวรรค์และโอกาสจะดีขนาดไหน ถ้าหากขอบเขตและส่วนประกอบในพลังมีไม่เพียงพอก็ยากจะทะลวงผ่าน”

เหล่าศิษย์คนสำคัญที่มุงอยู่รอบๆ ผ่อนลมหายใจออกมา

หากจ้าวเฟิงทะลวงผ่านขอบเขตแก่นก่อกำเนิดได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นก็กระเทือนกันมากเกินไปแล้ว คนอื่นจะมีชีวิตอยู่ต่ออย่างไร?

ในเวลานี้เอง ค่ายกลป้องกันในลานที่พักของจ้าวเฟิงสลายไป

เขาออกจากการฝึกตนแล้ว!

ยามนั้น ประสาทสัมผัสมากมายหรือแม้แต่ห้วงคิดเซียนจำนวนน้อยนิดก็ตรงดิ่งมาสอดแนมด้วยเช่นกัน

“เอ๊ะ?”

“หา…นี่มันเรื่องอะไรกัน!”

เห็นเพียงเด็กหนุ่มที่ออกจากการฝึกบำเพ็ญตนหน้าแดงระเรื่อ สีหน้าสบายดีมาก ไม่เหมือนกับที่จินตนาการเอาไว้ว่าจะมีใบหน้าอ่อนแอซีดขาวหลังจากการฝึกตนล้มเหลว

กลิ่นอายทั่วร่างของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นอีกระดับขั้นหนึ่ง ร่างกายของเขายังแผ่ระลอกปราณที่แท้จริงออกมาหลายเส้นสาย

ปราณที่แท้จริง!

นี่เป็นมาตรฐานหลังจากเลื่อนขึ้นเป็นขอบเขตแก่นก่อกำเนิด

ห้วงคิดเซียนหลายสายที่อยู่ในเหตุการณ์ก็สัมผัสได้ถึง ‘ใจกลางแก่นก่อกำเนิด’ ที่อยู่ในร่างของจ้าวเฟิง

“ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดงั้นรึ? เขาทำสำเร็จแล้วหรือ?”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน…นี่เพิ่งจะเป็นเวลาสั้นๆ เพียงวันสองวันเท่านั้น สามารถสร้างใจกลางแก่นก่อกำเนิดได้แล้วอย่างนั้นหรือ?”

เหล่าลูกศิษย์คนสำคัญที่อยู่รอบๆ ตกใจจนพูดไม่ออก

เจ้าของห้วงคิดเซียนหลายคนที่ลอบสำรวจอย่างลับๆ ล้วนแต่ตื่นตกใจ

“ได้ความช่วยเหลือจากผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอด ความเร็วในการสร้างใจกลางแก่นก่อกำเนิดเร็วกว่าชีวิตก่อนมาก”

จ้าวเฟิงยิ้มบางๆ

อันที่จริง ระดับสำนึกรู้ของเขาอยู่ถึงขั้นนั้น แล้วยังมีความช่วยเหลือจากทรัพยากรชั้นเลิศในแขนงอัสนีและแขนงวารี รวมไปถึงผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอดด้วย

ด้วยเหตุนี้ เขาถึงสร้างใจกลางแก่นก่อกำเนิดได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นเช่นนี้

หากคาดเดาตามกฎเกณฑ์ปกติ ทะลวงผ่านขอบเขตแก่นก่อกำเนิดแล้วสิ้นสุดลงรวดเร็วขนาดนี้ ตัดสินได้เลยว่าล้มเหลวแน่นอน

จ้าวเฟิงเพิ่งจะเดินออกมายังลานที่พัก

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

พลังมหาศาลของราชันหลายเส้นสายทะยานไปยังตำแหน่งของจ้าวเฟิงด้วยความรวดเร็ว

“จ้าวเฟิง! เจ้ายินยอมรับข้าเป็นอาจารย์หรือไม่?”

ราชันวัยกลางคนในชุดยาวสีขาวสะอาด ปรากฏกายขึ้นกลางอากาศเหนือลานที่พักของจ้าวเฟิง

“ราชาลู่อวิ๋น!”

“ที่แท้ก็เป็นอาจารย์ของหวงอวิ๋นหู่…ราชาลู่อวิ๋น”

เหล่าลูกศิษย์คนสำคัญที่อยู่รอบๆ ตกใจกันหมด

ก่อนหน้านี้ จ้าวเฟิงเอาชนะและทำร้ายหวงอวิ๋นหู่จนได้รับบาดเจ็บถึงสองครั้ง จึงเคยได้รับความสนใจจากราชาลู่อวิ๋น

“ราชาลู่อวิ๋น…ช้าก่อน!”

“ลูกศิษย์ผู้นี้มีสิทธิ์เลือก ท่านห้ามบังคับ!”

ผู้อาวุโสราชันอีกสองคนเผยร่างขึ้นกลางอากาศ

“ราชาเหลยถิง! ราชาลิ่วฉยง!”

เหล่าลูกศิษย์รอบด้านอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

ราชันสามคนปรากฏตัวขึ้นในเวลาเดียวกันเพื่อแย่งชิงจ้าวเฟิงไปเป็นศิษย์ ดูจากท่าทางแล้วอย่างน้อยคงเป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอด

“ท่านอาจารย์…”

ศิษย์พี่ก่วงที่อยู่ไม่ไกลนักจ้องไปยังราชาลิ่วฉยงในกลุ่มนั้น เขาเอ่ยอันใดไม่ออก

ขนาดอาจารย์ของเขายังไปแย่งชิงตัวจ้าวเฟิงมาเป็นศิษย์ด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!