Skip to content

King of Gods 864

King Of Gods

บทที่ 864 วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน

“หึ่งๆๆ…”

ในส่วนลึกของสวนป่า ผึ้งเบญจพิษสีสันแพรวพราวนับหมื่นรวมตัวกันเป็น ‘สายธารแมลง’ มุดเข้ารังผึ้งดำใหญ่ราวพระราชวังนั้น

ใกล้ๆ รังผึ้งมักมีผึ้งเบญจพิษระดับราชาปรากฏตัวเป็นระยะ

ส่วนผึ้งเบญจพิษทั่วไปยิ่งล้อมรอบอยู่หน้ารังอย่างเนืองแน่น นอกจากความโอ่อ่าอลังการแล้ว มันยังทำให้คนหวาดหวั่นมากยิ่งกว่า

ผึ้งเบญจพิษทุกตัว เมื่ออยู่โลกภายนอกล้วนมีความสามารถในการฆ่าอันน่าสะพรึง

ณ ที่นี้ เกรงว่าต่อให้เป็นผึ้งเบญจพิษระดับธรรมดาที่ต่ำชั้นที่สุดก็มีพลังเทียบเท่าขอบเขตแก่นก่อกำเนิดแล้ว

“ตามบันทึก ‘ผึ้งประหลาดเบญจพิษ’ นี้สามารถปล่อยเข็มพิษที่ทำให้ถึงตายได้ มีความสามารถในการฆ่าศัตรูขั้นสูงกว่า วิธีที่ยอมตายไปพร้อมศัตรู ทำให้สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่นหวาดกลัวพวกมันมากขึ้น”

ผู้เฒ่าชุดเขียวของตระกูลตวนมู่ใบหน้าคร้ามเคร่ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความกริ่งเกรง

“ฆ่าศัตรูขั้นสูงกว่า ตายไปพร้อมกัน?”

พวกโม่ตงเหยาของหอกระบี่ฟ้าต่างสูดหายใจหนาวเหน็บอย่างอดไม่อยู่

หรือก็คือ ผึ้งเบญพิษที่อยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงพวกนั้น เมื่อปล่อยเข็มพิษที่ทำให้ถึงตาย ก็สามารถคุกคามราชาในขอบเขตปราณเทวะ และสังหารครึ่งก้าวสู่ราชันได้

แน่นอนว่าสิ่งแลกเปลี่ยนของการสังหารอันน่าหวาดกลัวนี้ก็คือความตายของพวกมันเอง

เผ่าพันธุ์ผึ้งพิษที่ยอมตายพร้อมศัตรูชนิดนี้ย่อมทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นๆ หวาดกลัว

ยามนี้ เมื่อเหลือบมองผึ้งพิษนับหมื่นตรงนั้น ทุกคนต่างล้วนขนลุก หนังหัวชาหนึบ

“ผึ้งเบญจพิษนั่นเมื่อโจมตีหนึ่งครั้งก็จะตายไปพร้อมศัตรู ผึ้งเบญจพิษระดับทั่วไปสามารถฆ่าครึ่งก้าวสู่ราชันได้ ผึ้งเบญจพิษระดับสูง เกรงว่าน่าจะยอมตายไปพร้อมราชัน ส่วนผึ้งพิษระดับราชานั่นยิ่งสามารถฆ่าจักรพรรดิได้…”

จ้าวเฟิงวิเคราะห์คร่าวๆ แล้วสะท้านไปทั้งใจ

แม้แต่หนานกงเซิ่งที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งก็ยังไม่กล้าดูถูก

ถ้าเป็นผึ้งเบญจพิษไม่กี่สิบตัวร้อยตัว ทั้งสองสามารถไม่ใส่ใจได้ แต่ว่าผึ้งพิษในสวนป่านี้มีจำนวนมหาศาลอย่างยิ่ง สิ่งที่คาดเดาได้ยากที่สุดคือ รังผึ้งใหญ่ราวพระราชวังบนต้นไม้สูงเสียดฟ้าต้นนั้น

ทุกคนพบว่า ไม่ว่าเป็นผึ้งระดับสูงหรือผึ้งราชา ยามเข้าไปในรังดำนั้นล้วนมีท่าทางกริ่งเกรง ระมัดระวัง ประหนึ่งเข้าเฝ้าราชาอย่างไรอย่างนั้น

ห่วงประดับข้างจมูกหนานกงเซิ่งขยับเบาๆ สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายน่ากลัวจากในรังผึ้งดำนั้น

“ผึ้งราชา…ผึ้งจักรพรรดิ…นางพญาผึ้ง…”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทะลุเข้าไป และเห็นภาพที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าในรังนั้น

ภายในรังผึ้ง ผึ้งราชาที่เข้ามามีหลายสิบตัว เมื่อรวมกับด้านนอกแล้วก็เกินร้อยตัว

ผึ้งราชาพวกนี้ ความสามารถโดยเฉลี่ยใกล้เคียงกับราชันระดับสุดยอด

แต่เหนือพวกมันยังมีผึ้งจักรพรรดิและนางพญาผึ้งอีก

ผึ้งจักรพรรดิเทียบเท่ากับจักรพรรดิปราณเทวะ ในรังมีอยู่ประมาณสี่ห้าตัว

แต่ที่แข็งแกร่งที่สุดยังมี ‘นางพญาผึ้ง’ ที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว!

ขนาดของ ‘นางพญาผึ้ง’ ใหญ่พอๆ กับห้องหนึ่งห้อง กลิ่นอายรุนแรง ราวกับสามารถสยบฟ้าดินได้ ต่อให้เป็นจักรพรรดิชั้นยอดมาด้วยตัวเองก็ต้องหวาดกลัวจนถอยหลังไป

แน่นอน จ้าวเฟิงเองก็รู้ชัดถึงเป้าหมายที่ต้องการได้มาในการเดินทางครั้งนี้

ภายในรังที่นางพญาผึ้ง อยู่ มีน้ำหวานสีรุ้งราวกับผลึกแก้วขังอยู่

“วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน มีเพียง ‘นางพญาผึ้ง’ ที่สามารถหลั่งออกมาได้ อย่างน้อยร้อยปีหรืออาจหลายร้อยปีถึงจะมีออกมาได้จำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังมีข้อเรียกร้องต่อเกสรดอกไม้ที่เก็บมาสูงมาก จำเป็นต้องมาจากดอกไม้ระดับสูงสุดร้อยชนิดขึ้นไปไม่ซ้ำกัน…”

จ้าวหยูเฟยอธิบายเบาๆ

วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนคือเป้าหมายสำคัญอันดับหนึ่งที่พวกจ้าวเฟิงมาที่นี่

แต่เมื่อทุกคนมาถึงที่นี่และเห็นขบวนทัพใหญ่โตแข็งแกร่งของวังผึ้งแห่งนี้ ก็ใจฝ่อขึ้นมาหน่อยๆ

ยามจ้าวเฟิงประกาศจำนวน ‘ผึ้งราชา’ และ ‘ผึ้งจักรพรรดิ’ ในรังนั้น ทุกคนต่างสูดหายใจเฮือก

“ผึ้งราชาทั้งหมดเกินร้อยตัว ผึ้งจักรพรรดิมีสี่ห้าตัว ยังมีผึ้งพิษทั่วไปกับผึ้งพิษระดับสูงอีกนับหมื่นตัว…”

ทุกคนต่างสั่นสะท้าน

รังผึ้งแห่งนี้เป็น ‘ดินแดนผึ้งพิษ’ แห่งหนึ่ง ขบวนทัพของมันแทบจะไม่ต่างกับสำนักสามดาวหนึ่งแห่ง

“น่ากลัวเกินไปแล้ว! ต่อให้รวมทุกคนที่เข้าคฤหาสน์เสียหยางมา ก็ยากจะต่อกรกับ ‘ดินแดนผึ้งพิษ’ นี้!”

โม่ตงเหยาส่ายหน้า

นางไม่อยากให้คนของหอกระบี่ฟ้าเข้าไปเสี่ยงอันตรายนี้

“แม้ ‘วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน’ สามารถเสริมสสารแห่งชีวิตได้อย่างก้าวกระโดด ถึงขนาดเพิ่มความเป็นไปได้ในการทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับได้สามถึงสี่ส่วน แต่ต่อให้โชคดีได้น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มา สิ่งที่ต้องสูญเสียไปเล่าจะมากถึงขนาดไหน?”

ผู้อาวุโสชุดเขียวของตระกูลตวนมู่ส่ายหน้าน้อยๆ

ก่อนหน้านี้พวกเขาแค่พบ ‘ดินแดนผึ้งพิษ’ แห่งนี้ แต่ไม่รู้ถึงความจริงภายในรังผึ้งพิษ

ไม่ต้องพูดถึงพลังแท้จริงของ ‘นางพญาผึ้ง’ แค่ผึ้งจักรพรรดิสี่ห้าตัวนั้น ทุกตัวล้วนเทียบได้กับจักรพรรดิปราณเทวะ เมื่อรวมกับวิธีสังหารขั้นสูงอย่างการพร้อมตายไปกับศัตรู ยิ่งไม่กล้าจินตนาการถึง

“พลังของนางพญาผึ้งอาจไปถึงขั้นเซียนไม่มากไม่น้อย”

จ้าวเฟิงกับหนานกงเซิ่งสบตากันและได้ข้อสรุปออกมา

ถึงอย่างไรพลังของนางพญาผึ้งก็เหนือกว่าผึ้งจักรพรรดิหนึ่งระดับ เป็นระดับสูงสุดในดินแดนผึ้งพิษนี้!

ดังนั้นให้กำลังรบอยู่ใน ‘ขั้นเซียน’ ก็ไม่ถือว่าเกินไป

“เซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับ!”

คนตระกูลตวนมู่กับคนของหอกระบี่ฟ้าแต่ละคนต่างใจสั่นหวาดกลัว แทบจะวิ่งหนีออกไปอยู่แล้ว

ในยามนี้

กลุ่มคนของตระกูลตวนมู่และคนของหอกระบี่ฟ้าต่างสูญสิ้นแรงใจสู้ศึกแล้ว

หนานกงเซิ่งสีหน้าเย็นชา เมื่อมองรังผึ้งดำมโหฬารนั้นก็เกิดความหวาดกลัวอยู่ลึกๆ เช่นกัน

แม้เขาจะไม่เห็นจักรพรรดิทั่วไปอยู่ในสายตา แต่ในรังผึ้งนั่นอย่างไรก็มีตัวตนระดับเทียบเท่ากับเซียนอยู่

ยิ่งกว่านั้น ผึ้งเบญจพิษพวกนี้ต่างใช้วิธีน่ากลัวอย่างยอมตายพร้อมศัตรูด้วย

“ก็ไม่ใช่ว่าจะชิงชัยด้วยไหวพริบไม่ได้”

เสียงไม่รีบไม่ร้อนดังจากกลุ่มคนที่กำลังหวาดกลัว ทำให้เด่นชัดเป็นพิเศษ

“นี่…ยังมีวิธีอื่นหรือ?”

ทุกคนสีหน้าตื่นตกใจ ต่างมองไปทางเด็กหนุ่มผมม่วงที่ดูแล้วมีพลังอยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดเท่านั้น

หนานกงเซิ่งใจสะท้านเล็กน้อย สถานการณ์ตรงหน้านี้ ด้วยพลังน่าหวาดหวั่นของเขาในปัจจุบันยังไม่กล้าผลีผลามลงมือ

แต่น้ำเสียงของจ้าวเฟิงคล้ายว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป

“แม้ ‘นางพญาผึ้ง’ นั่นจะแข็งแกร่ง แต่ทั้งรังใหญ่ของมันมีเพียงตัวเดียว น้ำหวานที่ผึ้งเบญจพิษทั้งหมดเก็บมาล้วนเอาไปมอบให้มัน มันก็คือหัวใจหลักของดินแดนนี้”

จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ

สิ่งที่ทำให้เขากลัวจริงๆ มีเพียงนางพญาผึ้งที่อยู่ในขั้นเซียน แต่ถ้านางพญาผึ้งได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว

“ความหมายของท่านคือ นางพญาผึ้งเคลื่อนที่ไม่ได้ เป็นฝ่ายจู่โจมเองไม่ได้?”

จ้าวหยูเฟยดวงตาเป็นประกายวาบ

“ไม่ผิด”

จ้าวเฟิงเผยสีหน้าชื่นชมน้อยๆ “นางพญาผึ้งแทบจะไม่มีความสามารถในการเคลื่อนที่ ขอเพียงมันฝืนบินออกมา ระบบของดินแดนผึ้งพิษทั้งหมดก็จะพังทลาย”

“ก็หมายความว่าขอเพียงพวกเราทำแบบไม่ ‘นอกลู่นอกทาง’ เกินไป ก็จะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้”

หนานกงเซิ่งพลันกระจ่างแจ้ง แววท้าทายในดวงตาเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วนทันใด

หลังวิเคราะห์จุดอ่อนของ ‘นางพญาผึ้ง’ ได้แล้ว ความเชื่อมั่นของพวกจ้าวหยูเฟยก็ฟื้นคืนมาบ้างเช่นกัน

หลังจากนั้น ทุกคนเริ่มหารือกันว่าจะส่งขบวนรบอย่างไรเข้าไปใน ‘รังผึ้งพิษ’ เพื่อเก็บ ‘วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน’

การเคลื่อนไหวที่อันตรายอย่างยิ่งนี้ ย่อมไม่สามารถส่งทุกคนไปดำเนินการได้

ไม่นานนัก ก็ได้ข้อสรุปออกมาว่าจะส่งขบวนรบออกไปหนึ่งกลุ่ม มีสี่คน ไปเก็บ ‘วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน’

สี่คนนี้ประกอบด้วยจ้าวเฟิง หนานกงเซิ่ง จ้าวหยูเฟย และโม่ตงเหยา

ก่อนเริ่มดำเนินการ จ้าวเฟิงเตรียมการบางอย่างก่อน

เริ่มแรก เขาใช้อาวุธเทพชั้นรองมนตราอากาศทำสัญลักษณ์มิติหนึ่งตำแหน่งไว้นอกสวนป่า

“ไป!”

จากนั้นเมื่อจ้าวเฟิงชูมือ เสี้ยวเงาสีดำก็ปรากฏวูบวาบ

ฟิ้ว! ทุกคนเห็นแค่ว่ามนุษย์แมงป่องหญิงอัปลักษณ์ตนหนึ่งกรีดร้องบาดหู พุ่งไปในสวนป่า ทะยานเข้าไปในรังผึ้งใหญ่โตนั้น

พูดถึงแค่ด้านความเร็ว มนุษย์แมงป่องแทบจะอยู่ขั้นราชันระดับธรรมดา

อีกทั้งบนร่างมนุษย์แมงป่องหญิงตนนี้ยังปกคลุมด้วยเกราะแมงป่อง ป้องกันอย่างน่าตกตะลึง

จ้าวเฟิงเรียกใช้มนุษย์แมงป่อง เพราะนอกจากการแปรสภาพชั้นวิญญาณยังไม่มากพอแล้ว ในด้านอื่นๆ อย่างการโจมตี ความเร็ว และการป้องกันของมัน แทบจะใกล้เคียงกับราชันปราณเทวะอย่างหาตัวจับยาก

“หึ่งๆๆ…” หญิงแมงป่องเพิ่งเข้าไปในสวนป่าก็ดึงดูดความสนใจของผึ้งพิษจำนวนหนึ่งได้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อมันมุ่งหน้าเข้าหารังผึ้ง จึงล่อเอาฝูงผึ้งพิษมากมายให้ทะลักไหลมา

ในชั่วพริบตานั้น ผึ้งเบญจพิษเป็นพันเป็นร้อยตัวเข้าปกคลุมหญิงแมงป่อง

หญิงแมงป่องขยับตัวไปมาอย่างคลุ้มคลั่ง รอบกายมีผึ้งพิษร่วงลงไปหนึ่งชั้น แต่ภายใต้วิธีโจมตีที่เหมือนการฆ่าตัวตายของผึ้งพิษพวกนั้น เกราะแมงป่องอันแข็งแกร่งของนางก็ยังถูกแทงทะลุ

ฟุ่บๆๆ! โดยเฉพาะผึ้งเบญจพิษระดับสูงไม่กี่ตัว เข็มพิษแทงทะลุร่างได้อย่างง่ายดาย

“อ๊า…” หญิงแมงป่องร้องโหยหวน ผิวกายทั่วร่างปล่อยควันพิษหลากสีออกมา

แค่เพียงไม่กี่อึดใจ หญิงแมงป่องก็หลั่งเลือดดำแอ่งหนึ่งออกมา ณ ตรงนั้น

“การป้องกันของมนุษย์แมงป่องหญิงสูงมาก ช่วงเวลาที่มันยืนหยัดได้น่าจะพอๆ กับราชันทั่วไป”

สายตาจ้าวเฟิงเยียบเย็น อธิบายเสียงเบา

เมื่อพูดออกไปเช่นนี้ ทุกคนต่างหนาวเยือกไปทั้งตัว นี่ไม่ได้หมายความว่า ภายใต้การล้อมโจมตีของผึ้งพิษ ราชันทั่วไปก็ยืนหยัดได้ไม่กี่ลมหายใจหรอกหรือ

อีกทั้งนี่ยังเป็นรอบนอกของสวนป่า ผึ้งพิษระดับสูงที่เคลื่อนไหวมีไม่มาก ผึ้งพิษระดับราชาไม่มีเลยสักตัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผึ้งจักรพรรดิเลย

แน่นอน ที่จ้าวเฟิงส่งหญิงแมงป่องเข้าไป ก็แค่เพื่อทดสอบพลังสังหารของผึ้งเบญจพิษพวกนั้น และผลลัพธ์ของมันเทียบกับที่คิดไว้แล้วยังน่ากลัวกว่าหลายส่วน

“ออกเดินทาง”

จ้าวเฟิงพยักหน้า กวาดสายตาไปทางพวกหนานกงเซิ่ง จ้าวหยูเฟย โม่ตงเหยา

เหล่ายอดฝีมือของตระกูลตวนมู่กับหอกระบี่ฟ้าที่อยู่ ณ ที่นั้นพลันเกิดความรู้สึกเหมือนเห็นเรื่องไร้สาระ เด็กหนุ่มผมม่วงคนนั้นเห็นชัดว่าพลังบำเพ็ญอ่อนด้อยที่สุด แต่กลับเป็นผู้นำกลุ่มกำลังสี่คนนั้น

แม้แต่หนานกงเซิ่งที่ก่อนหน้านี้เข่นฆ่าสังหารอย่างน่ากลัว ก็ยังเป็นเพียงหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม

ฟุ่บ พรึ่บๆๆ! ทั้งสี่เหินทะยาน มุ่งหน้าเข้าไปในสวนป่า

สิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ คนที่อยู่หน้าสุดคือจ้าวเฟิง

“หึ่งๆๆ…” ผึ้งพิษจำนวนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ พุ่งเข้ามาทันควัน

ฟุ่บ! ผึ้งพิษพวกนั้นยังไม่ทันเข้าใกล้ร่างจ้าวเฟิง ก็ถูกลวดลายแก่นแท้พลังสีทองอ่อนไร้รูปร่างบดทับจนกลายเป็นเถ้าเกรียม หลังกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทะลวงผ่านขั้นห้า อาศัยแค่แก่นแท้พลังกายเนื้อจ้าวเฟิงก็สามารถตีเสมอหรืออาจถึงขนาดกดดันราชันทั่วไปได้ ขอเพียงถูกเขาเข้าประชิด ราชันระดับธรรมดาก็ยากจะต่อต้านแล้ว

นี่ยังเป็นระดับแรกเริ่มของกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า หากไปถึงระดับสูง แก่นแท้กายเนื้อของจ้าวเฟิงจะสามารถต้านทานจักรพรรดิ กำราบคนต่ำกว่าขั้นเซียนลงไป

“ในรังผึ้งนั่น นอกจาก ‘วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน’ ที่ล้ำค่าที่สุดแล้ว ยังมี ‘น้ำผึ้งไป่หยวน’ แบบธรรมดาอยู่ด้วย สามารถเสริมแก่นแท้ชีวิตได้อย่างก้าวกระโดดเช่นกัน และช่วยให้ข้ายกระดับขอบเขต ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ได้…”

นัยน์ตาซ้ายของจ้าวเฟิงกลับจับจ้องแน่วนิ่งที่รังผึ้งสีดำมหึมาบนต้นไม้สูงเสียดฟ้าไกลๆ นั้น

แต่ตอนนี้ พวกจ้าวเฟิงทั้งสี่คนต้องผ่านฝูงผึ้งเบญจพิษนับหมื่นที่ปกคลุมเต็มฟ้าดินพวกนี้ เห็นว่าผึ้งพิษระดับสูงหลายตัวนำผึ้งเบญจพิษเป็นร้อยตัวพันตัวมุ่งหน้ามาทางทั้งสี่

นอกสวนป่า ผู้คนของหอกระบี่ฟ้ากับตระกูลตวนมู่ที่ดูการต่อสู้อยู่ต่างลอบปาดเหงื่อเย็นแทนพวกเขา

“ขั้นตอนนี้ง่ายดายมาก!”

จ้าวเฟิงกระตุ้นใช้ ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ ทันที สายเลือดดวงตาซ้ายราวกับห้วงมายาม่วงอันลึกล้ำ

ภาพที่พาให้คนตกตะลึงปรากฏออกมาแล้ว

ผึ้งเบญจพิษสีสันแพรวพราวพวกนั้นเพิ่งเข้าใกล้พวกเขา ร่างกายก็พลันแข็งทื่อ

“หึ่งๆๆ…” ผึ้งพิษมากกว่าร้อยตัวที่เข้าใกล้ ประหนึ่งทหารองครักษ์กองหนึ่ง วนเวียนรอบๆ พวกจ้าวเฟิงทั้งสี่อย่างเคารพนบนอบ ดูราวกับ ‘องครักษ์พิทักษ์ราชัน’ ก็ไม่ปาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!