Skip to content

King of Gods 917

King Of Gods

บทที่ 917 หอโอสถเซียน

องค์ชายสิบสามอายุน้อยมุทะลุบุ่มบ่าม ความสามารถธรรมดา แต่ชาติกำเนิดของเขาสูงส่ง เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องค์ปัจจุบันอย่างยิ่ง มารดาของเขาก็เป็นหน่อเนื้อเชื้อพระวงศ์เช่นกัน ดังนั้น อิทธิพลเบื้องหลังขององค์ชายสิบสามจึงยิ่งใหญ่นัก เพราะการหมั้นหมายของจ้าวหยูเฟย ตระกูลตวนมู่จึงถูกดึงมาเป็นพวกองค์ชายสิบสาม

ได้ยินมาว่าฮองเฮายังแอบเตรียมการอย่างลับๆ

ต่อหน้ากลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ ต่อให้องค์ชายสิบสามต้องเผชิญหน้ากับองค์ชายสี่ผู้มีพลังแข็งแกร่งที่สุดก็ทรงอำนาจกว่า ด้วยเหตุนี้โอกาสดำรงตำแหน่งรัชทายาทขององค์ชายสิบสามจึงมีสูงมาก

ถึงแม้จะไม่สำเร็จ ตำแหน่งในราชวงศ์ขององค์ชายสิบสามในภายภาคหน้าก็สูงส่งยิ่งนัก ตระกูลตวนมู่ยังสามารถพึ่งพาอาศัย เฟื่องฟูขึ้นมาใหม่ได้

ผู้นำระดับสูงทั้งสี่ของตระกูลตวนมู่ตกอยู่ในภวังค์ แต่ละคนพยักหน้า เหลือเวลาไม่ถึงครึ่งปี ศึกชิงตำแหน่งรัชทายาทก็จะเริ่มขึ้น

หน่วยข่าวกรองทั้งหลายล้วนแต่อยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูลของเหล่าองค์ชาย และเริ่มวิเคราะห์ถึงโอกาสได้รับชัยชนะขององค์ชายทุกคน

กลุ่มอำนาจทั้งหมดของทั้งราชสำนักเริ่มเลือกฝักฝ่าย วางกำลังคน

จ้าวเฟิงที่กำลังเดินเล่นในตลาดซื้อข่าว ‘วิเคราะห์ความแข็งแกร่งขององค์ชาย’ มาฉบับหนึ่ง

มีองค์ชายทั้งหมดสิบคนเข้าร่วมศึกชิงตำแหน่งรัชทายาท

หนึ่งในนั้น องค์ชายสี่ผู้มีความคิดละเอียดรอบคอบ พละกำลังแข็งแกร่ง ความรู้ความสามารถลึกล้ำ เตรียมการมาพร้อมเป็นอย่างดี ถูกจัดไว้เป็นอันดับหนึ่ง

องค์ชายสิบสามที่มีอิทธิพลใหญ่หนุนหลังอยู่ ถูกจัดไว้อันดับสอง

จ้าวเฟิงอดสะท้อนใจไม่ได้ เพียงแค่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ก็ถูกจัดไว้ในอันดับสอง นี่แสดงให้เห็นได้ว่ากลุ่มอิทธิพลเบื้องหลังเขาแข็งแกร่งถึงเพียงไหน

องค์ชายเก้าสติปัญญาล้ำเลิศ คุณธรรมดีงาม แต่เสียที่ชาติกำเนิดต่ำต้อยที่สุด ในขณะนี้อยู่ในลำดับที่หก

องค์ชายแปดผู้สุขุมเยือกเย็น มากพรสวรรค์ อยู่อันดับเจ็ด

ข้อมูลที่นำเสนอเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์ตอนนี้เท่านั้น โปรดติดตามต่อไป

“ชาติกำเนิดขององค์ชายเก้าจัดว่าต่ำต้อยที่สุดในบรรดาองค์ชายทั้งสิบ แต่กลับอยู่ในลำดับที่หก”

จ้าวเฟิงมั่นใจในองค์ชายเก้าไปแล้วส่วนหนึ่ง

ในกลุ่มองค์ชายทั้งสามที่เขาเคยพบปะพูดคุย ภาพขององค์ชายเก้าในความทรงจำนับว่าดีที่สุด

จ้าวเฟิงหยุดฝีเท้า มองไปยังหอโบราณที่โอ่อ่าสง่างามเบื้องหน้า

หอโอสถเซียน!

แหล่งแลกเปลี่ยนวัตถุดิบยาที่ใหญ่ที่สุดของเมืองฉางหงในมณฑลอวิ๋น และเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเช่นกัน ด้วยทุนที่มีอยู่ของจ้าวเฟิง แน่นอนว่าย่อมต้องซื้อวัตถุดิบยาที่ดีที่สุด

“ยินดีต้อนรับ ไม่ทราบว่าท่านต้องการซื้อวัตถุดิบยาตัวไหน ข้าจะได้แนะนำให้ท่านถูก!”

ทันใดนั้น หญิงสาวเรียบง่ายแต่สง่างามในชุดผ้าไหมสีน้ำเงินตัวยาวออกมาต้อนรับ แนะนำแขกซื้อของ

“ข้าต้องการซื้อวัตถุดิบยาหายากธาตุไฟ!” จ้าวเฟิงเอ่ยตรงๆ

“ได้ โปรดตามข้ามา วัตถุดิบยาหายากอยู่ชั้นห้า!”

ใบหน้าของหญิงสาวผู้นั้นแสดงถึงความยินดี ดูจากภายนอกก็รู้ว่าแขกคนนี้ไม่ธรรมดา แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แค่เอ่ยปากก็ต้องการวัตถุดิบยาหายาก

หอโอสถเซียนมีทั้งหมดเก้าชั้น ทุกชั้นกว้างขวางเป็นอย่างมาก โอสถหลากหลายครบสมบูรณ์ จ้าวเฟิงเพียงแค่มองก็รู้ได้

ชั้นแรกของหอโอสถเซียน คนที่แน่นขนัดส่วนมากคือคนป่วย ยาส่วนมากเป็นพวกที่ขั้นมนุษย์แท้ต้องการ

ชั้นห้า มีเพียงยอดผู้สูงศักดิ์ไม่กี่ร้อยคนเลือกวัตถุดิบยาอย่างตั้งใจอยู่ที่นี่

สีหน้าของจ้าวเฟิงยังคงเหมือนเดิม เมินเฉยไม่สนใจ เดินขึ้นชั้นบนต่อไป

“ท่านผู้มาเยือน ท่าน?”

หญิงสาวผู้สง่างามตกตะลึงเล็กน้อย แขกคนนี้ไม่แม้แต่จะมองวัตถุดิบยาชั้นห้า

“ข้าต้องการวัตถุดิบยาที่ดีที่สุด!” เสียงของจ้าวเฟิงดังขึ้นในวิญญาณของหญิงสาวนางนี้

หญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว รีบเดินตามหลังจ้าวเฟิงมา “ท่านผู้มาเยือน เชิญตามข้ามาชั้นแปด!”

ยิ่งชั้นสูงขึ้น ถึงแม้มีค่ายกลปิดกั้นกลิ่นอายพลัง จ้าวเฟิงก็ยังได้กลิ่นวัตถุดิบยาหายาก

ชั้นแปด มีเพียงจักรพรรดิห้าคนกำลังเลือกสรรตัวยา

“สหายจ้าว เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

ชายหนุ่มในชุดคลุมสีทองใบหน้าองอาจ มองมาที่ผมสีทองของจ้าวเฟิง ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบก้าวมาหาด้วยสีหน้าดีอกดีใจ

ข้างหลังคนหนุ่มชุดทองมีผู้อาวุโสในชุดดำคอยตาม ตาเดียวดวงนั้นจ้องจ้าวเฟิงที่มีผมทองตาทอง แววตาดิ่งลึก

หญิงสาวงามสง่าผู้นั้น เมื่อเห็นองค์ชายเก้ารู้จักกับเด็กหนุ่มผมทองจึงถอยจากไปชั้นล่าง เพราะเจ้าหอได้สั่งเอาไว้ เรื่องใดที่เกี่ยวกับองค์ชายเก้า พวกเขาล้วนไม่ต้องซักถาม

จ้าวเฟิงเองก็ไม่คิดว่าจะได้พบกับองค์ชายเก้าที่นี่

องค์ชายเก้าต้องการวัตถุดิบยา ยังต้องมาเลือกยาด้วยตัวเอง? ทั้งยังต้องให้ตาเฒ่าอิงคอยติดตาม?

จ้าวเฟิงเดาอะไรบางอย่างได้เลาๆ จึงเงยหน้ามองขึ้นไปยังชั้นเก้า

“มีธุระบางอย่างต้องจัดการ ก็เลยแวะมา!”

จ้าวเฟิงไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องของตระกูลตวนมู่

“ไม่ทราบว่าสหายจ้าวไตร่ตรองว่าอย่างไรบ้าง?” ยามที่เห็นจ้าวเฟิง องค์ชายเก้าคิดว่าอีกฝ่ายยอมรับข้อตกลงของเขา จึงมาหาเขาที่แผ่นดินใหญ่โดยเฉพาะ

เมื่อได้ยินคำตอบของจ้าวเฟิงแล้ว องค์ชายเก้าก็รู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไป แต่ว่าเขาก็ยังไม่ยอมแพ้เรื่องจ้าวเฟิง ขอเพียงแค่จ้าวเฟิงไม่โดนองค์ชายคนอื่นดึงตัวไป เขาก็ยังมีโอกาส

“ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก ขอคิดอีกสักระยะก็แล้วกัน!”

จ้าวเฟิงมาเพราะเรื่องหมั้นหมาย ในยามนี้ไม่มีกระจิตกระใจคิดถึงเรื่องอื่น

สีหน้าองค์ชายเก้าชะงักงัน หมองหม่นลงเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มพูด “นั่นสินะ นี่สิถึงจะเป็นวิถีของสหายจ้าว เหมือนกับท่านที่อยู่บนนั้นจริงๆ!”

“ไม่สู้สะ…สหายเก้าแนะนำท่านที่อยู่ข้างบนนั้นให้กับข้าสักหน่อยเถิด!”

จ้าวเฟิงเผยรอยยิ้มบาง

วัตถุดิบยาชั้นที่แปดหาได้ยากจริงๆ เพียงแต่ยาธาตุไฟมีจำนวนไม่มาก หากอยากได้วัตถุดิบยาที่ล้ำค่าขึ้นไปอีก ไม่สู้ถามเจ้าหอเสียเลยดีกว่า อีกทั้งเจ้าหอคนนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน มิฉะนั้นคงไม่ถูกองค์ชายเก้าชักชวนมาเป็นพวกเหมือนกัน และดูเหมือนองค์ชายเก้าจะล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสียด้วย

“ได้สิ ไป!”

ใบหน้าขององค์ชายเก้านิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบเอ่ยตกลง เขากำลังกลุ้มใจเพราะหาข้ออ้างไม่ได้ โดนไล่ลงมาอีกครั้งแล้ว

เมื่อย่างก้าวเข้าสู่ชั้นเก้า จ้าวเฟิงก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองมาถูกที่แล้ว โครงสร้างของจุดธาตุไฟลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเต็มไปหมด

“คุณชายเก้า ท่านไม่ต้องมาแล้วจริงๆ ข้าไม่รับปากท่านหรอก!”

เพิ่งจะมาถึงชั้นที่เก้า เสียงเบื่อหน่ายรำคาญของสตรีก็ลอยมา

ที่ประตูทางเข้ามีผู้อาวุโสชุดดำขั้นจักรพรรดิยืนอยู่ เมื่อเห็นองค์ชายเก้าก็ก้มหัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“พี่ซู่เอ๋อร์ นี่คือสหายจ้าว เขาอยากรู้จักท่าน แล้วก็ถือโอกาสซื้อวัตถุดิบยาหายากบางอย่าง!”

องค์ชายเก้ารีบอธิบาย

จ้าวเฟิงมองไป เห็นเพียงหญิงสาวในชุดขาวนางหนึ่ง ผิวขาวดุจหยก คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย

นางค้อมเอวคอดกิ่ว สายตาอ่อนโยนจ้องไปยังรังผึ้งสีม่วงที่อยู่ในกล่องไม้สีเดียวกัน

จ้าวเฟิงแปลกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเจ้าหอหอโอสถเซียนจะเป็นหญิงงามอายุน้อยเช่นนี้

“ข้าไม่สนใจ วัตถุดิบยาข้างล่างก็มีทั้งนั้น!”

ดวงตาทั้งสองข้างของโจวซู่เอ๋อร์จับจ้องที่รังผึ้งสีม่วงตั้งแต่ต้นจนจบ คิ้วขมวดเล็กน้อย ไม่แม้แต่จะมององค์ชายเก้า

องค์ชายเก้ามองมายังจ้าวเฟิง ส่งสัญญาณว่านิสัยของเจ้าหอเป็นเช่นนี้ ตนเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน

จ้าวเฟิงตกตะลึงอยู่บ้าง หญิงสาวนางนี้ไม่แม้แต่จะเห็นองค์ชายเก้าในสายตา นี่แสดงว่าอำนาจที่อยู่เบื้องหลังนางไม่ธรรมดาเป็นแน่

“เจ้าหอ ข้าเพิ่งจะมาถึงชั้นเก้าก็อยากได้วัตถุดิบยาที่อยู่ตรงหน้าท่าน!”

จ้าวเฟิงมองรังผึ้งในกล่องไม้สีม่วงก็ยิ่งมั่นใจ

โจวซู่เอ๋อร์คิ้วขมวดมุ่น ยืดตัวขึ้นมองมาทางจ้าวเฟิง เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญว่า “วัตถุดิบยาที่เจ้าอยากได้? เจ้ารู้ว่ามันคืออะไรรึ?”

โจวซู่เอ๋อร์จนคำพูด สำหรับนาง องค์ชายเก้าแค่กำลังอยากหาเรื่องพูดด้วย จึงส่งเขามาก็เท่านั้น

“รังผึ้งอัคคีเทียนหง!”

จ้าวเฟิงพูดออกไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาซ้ายของเขาเห็นแล้วไม่ลืมเลือน ยิ่งเมื่อรวมกับการมองทะลุผ่าน การจดจำเรื่องราวจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

โจวซู่เอ๋อร์ตะลึงเล็กน้อย คนที่องค์ชายเก้าหามาอย่างลวกๆ ตอบถูกเสียด้วย

องค์ชายเก้าและตาเฒ่าอิงก็ตกใจเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่รู้ชื่อของรังผึ้ง แต่จ้าวเฟิงกลับตอบถูก หรือว่าจ้าวเฟิงก็มีความรู้เรื่องยาลึกซึ้ง?

“อืม เจ้าตอบถูก แต่ว่ารังผึ้งอัคคีเทียนหงยังจัดการไม่เสร็จ ไม่ขาย!”

โจวซู่เอ๋อร์มองสำรวจเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างละเอียด ก่อนจะปฏิเสธเด็ดขาด

“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็รีบขจัดพิษของมันทิ้งเสีย แล้วขายให้ข้า!”

จ้าวเฟิงพูดออกไปตรงๆ

โจวซู่เอ๋อร์เกือบเดินสะดุด นางหันหน้ากลับมา ดวงตาทั้งสองข้างจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง ในใจก่นด่า ‘เจ้าเด็กนี่จงใจใช่หรือไม่ หากข้าขจัดพิษมันออกเองได้ ข้าก็ทำไปตั้งนานแล้ว!’

“ท่านขายมันให้ข้า ให้ข้าเอาไปขจัดพิษเองก็ได้!”

จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงแววขุ่นเคืองจากดวงตาของโจวซู่เอ๋อร์ จึงรีบเอ่ยเสริม

“อะไรนะ? เจ้า?” โจวซู่เอ๋อร์ร้องออกมาอย่างประหลาดใจโดยพลัน แล้วรีบสงบสติอารมณ์

นางได้รังผึ้งอัคคีเทียนหงมาเดือนหนึ่งแล้ว แต่หาทางขจัดพิษออกไปไม่ได้เสียที ในยามนี้เด็กหนุ่มคนหนึ่ง กลับทำทีท่าสบายๆ พูดว่าขจัดพิษได้

“หึ หากเจ้าเอาไปแล้วถูกพิษตาย ก็ทำลายชื่อเสียงหอโอสถเซียนของข้าน่ะสิ!”

ปากเล็กๆ ของโจวซู่เอ๋อร์เหยียดขึ้น สังเกตุจ้าวเฟิงอย่างละเอียด

“ถ้าเช่นนั้น แบบนี้ดีหรือไม่ ข้าขจัดพิษให้ท่านดูต่อหน้า หากขจัดพิษได้สำเร็จ ท่านก็ขายให้ข้า!”

จ้าวเฟิงยิ้มอบอุ่น

“ได้ หากเจ้าขจัดพิษของของรังผึ้งพิษอัคคีได้ ข้าจะยกให้เจ้า นอกจากนั้นหากเจ้าอยากได้วัตถุดิบยาตัวไหน ข้าจะพาเจ้าไปเลือกด้วยตัวเอง!”

โจวซู่เอ๋อร์ไม่ค่อยอยากเชื่อว่าเด็กหนุ่มอายุเพียงสิบกว่าๆ จะสามารถขจัดพิษได้ แน่นอน หากจ้าวเฟิงขจัดพิษได้ นางก็จะแอบเรียนได้เช่นกัน มอบให้จ้าวเฟิงไปก็ไม่เป็นไร

องค์ชายเก้าที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้ายินดี หากจ้าวเฟิงขจัดพิษได้สำเร็จ ต่อไปเขาก็พูดกับโจวซู่เอ๋อร์ได้ง่ายขึ้น

สายตาของจ้าวเฟิงจับจ้องยังรังผึ้งสีม่วง โคจรพลังราชัน รังผึ้งลอยขึ้นในอากาศทันที

ดวงตาซ้ายของเขาพลันปรากฏแสงสีทองเป็นชั้นขึ้น พลังวิญญาณมหาศาลโหมปะทุจาก ‘กายวิญญาณอัสนีเทวะ’ เข้าไปในดวงตาซ้าย

วิญญาณของคนรอบด้านทั้งสามและผู้อาวุโสที่อยู่หน้าประตูสั่นสะท้านโดยพลัน มองมาทางจ้าวเฟิงก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

“พลังวิญญาณแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!”

ผู้อาวุโสตรงหน้าประตูอดใจสั่นไม่ได้

“เด็กหนุ่มนี่เป็นใครกัน!”

สีหน้าของโจวซู่เอ๋อร์พลันเคร่งขรึมจริงจัง เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน

มีเพียงองค์ชายเก้าและตาเฒ่าอิงเท่านั้นที่รู้ จ้าวเฟิงกดระดับพลังวิญญาณลงแล้ว

วู้ม! พลังดวงตาขับเคลื่อน ในลูกทรงกลมสีทอง รอยวนแสงสีทองอ่อนที่ลึกลับจนไม่อาจคาดเดาได้หลอมรวมเข้าไปในตาซ้าย

ฟุ่บ! ลำแสงสีทองลึกลับสายหนึ่งสาดส่องตรงไปยังพื้นผิวของรังผึ้งสีม่วงแล้วทะลุผ่านไป ไม่นานนัก จ้าวเฟิงก็รับรู้ถึงพิษและสภาพการณ์ของรังผึ้ง

โครงสร้างจุดของพิษแทรกซึมไปตามร่องเล็กๆ ของรังผึ้งจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน

แต่สำหรับจ้าวเฟิง โครงสร้างจุดของพิษเป็นลักษณะเงามืด จุดของรังผึ้งคือธาตุไฟและไม้ ทั้งสองธาตุแบ่งแยกออกอย่างชัดเจน ดูแล้วการแทรกซึมของพิษคงไม่ร้ายแรงมากนัก เพราะจุดทั้งสองชนิดไม่ได้หลอมรวมเปลี่ยนแปลง

แยกส่วน!

ลำแสงสีทองอ่อนพลันสว่างขึ้นเป็นประกายดาวสีทอง

เห็นเพียงพื้นผิวของรังผึ้งสีม่วง ในส่วนที่ถูกลำแสงสีทองส่องผ่านแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที!

โจวซู่เอ๋อร์และคนในที่นั้นตาโตอ้าปากค้าง มองดวงตาสีทองน่าอัศจรรย์ของจ้าวเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ง่ายเพียงแค่นี้เอง?และในยามนี้ จ้าวเฟิงก็ได้หยุดการแยกส่วนลงแล้ว

‘การแยกเฉพาะส่วน’ นี้คือพลังการใช้ที่จ้าวเฟิงค่อยๆ ใช้เวลาศึกษาขึ้นภายหลังในมนตราอากาศ

วิธีการแยกส่วนแบบนี้เหมาะสำหรับโครงสร้างของธาตุสองชนิดที่แตกต่างกันของวัตถุหรือวิญญาณ

สำหรับการเผาผลาญพลังดวงตาซ้ายที่มากยิ่งขึ้น ยังต้องคอยควบคุมอย่างระมัดระวังอีก ถึงแม้จ้าวเฟิงจะเชี่ยวชาญวิชาหมื่นห้วงคิดเซียนก็ไม่กล้าประมาท

หากอยู่ในการต่อสู้ จ้าวเฟิงไม่มีทางที่จะ ‘แยกเฉพาะส่วน’ ได้!

“เจ้า เจ้าเอาพิษมันออกไปแล้วจริงรึ เจ้าทำได้ยังไงกัน?”

โจวซู่เอ๋อร์ทนนิ่งไม่ได้อีกต่อไป นางมองไม่ออกเลย แล้วจะแอบขโมยเรียนได้อย่างไร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version