Skip to content

King of Gods 948

King Of Gods

บทที่ 948 ใจกลางพื้นที่ต้องห้าม

หมื่นลี้นอกพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬ

“เจียงฮ่าว ครั้งนี้ดีที่ได้เจ้า ถึงสามารถพิชิตมรดกของขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นได้อย่างสบายเช่นนี้!”

“ไม่เสียทีที่เป็นอัจฉริยะชั้นเลิศของตระกูลเจียง!”

“เจียงฮ่าว ได้ข่าวว่าเจ้ามีโอกาสทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับสูงมาก เหตุใดจึงยังกดขอบเขตพลังอยู่เล่า?”

ระหว่างเงาร่างคนทั้งสี่เดินออกมาจากในมรดก ก็พูดคุยกันอย่างไม่จริงจังนัก

คนที่เป็นผู้นำคือคนวัยกลางคนผมขาว องอาจกล้าหาญ ดวงตาเป็นประกาย

“หากข้าทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับ ต้องทำให้สำเร็จในคราเดียว!”

เจียงฮ่าวเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

การทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับ ในทันทีที่ล้มเหลว อัตราความสำเร็จของการทะลวงผ่านในครั้งต่อไปจะลดลงเรื่อยๆ

ในการทะลวงผ่านทุกครั้งจะสิ้นเปลืองแหล่งกำเนิดพลังส่วนหนึ่งของชีวิตและวิญญาณ แหล่งกำเนิดที่สูญเสียไปเหล่านี้แทบจะไม่สามารถทดแทนได้ ด้วยเหตุนี้ ศักยภาพและรากฐานของยอดฝีมือที่ทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับเป็นครั้งแรก จะแตกต่างกับคนที่ทะลวงหลายครั้งถึงสำเร็จอย่างมาก

ความทะเยอทะยานของเจียงฮ่าว ทำให้คนที่เคยทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับแต่ล้มเหลวในกลุ่มริษยาและอับอาย

“นั่นคือ?”

สมาชิกคนหนึ่งร้องอย่างตื่นตกใจ ทุกคนแหงนศีรษะขึ้นในทันใด

วูบ!

เห็นเพียงลำแสงสมบัติวิจิตรตระการพุ่งมาจากท้องฟ้าไกลลิบ ทะยานขึ้นไปในชั้นเมฆ เปล่งแสงงดงามย้อมผืนฟ้าทั้งผืน จนเหมือนภูเขาสมบัติชั้นเลิศปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน แสงวิจิตรงดงามเหล่านั้นทำให้ใจคนสั่นไหว

คนเหล่านั้นหยุดพูดคุยแล้วเพ่งมองไปที่ไกลๆ เป็นจุดเดียวกัน ไม่อาจจะละสายตาได้

“นี่…นี่คือแสงของอาวุธวิเศษ!”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งแววตาเป็นประกายวิบวับ น้ำเสียงสั่นพร่าแต่มั่นใจอย่างยิ่ง

“แสงสมบัติที่ตื่นตะลึงเช่นนี้ ในช่วงชีวิตนี้ของข้าไม่เคยเห็นมาก่อน!”

ดวงตาสองข้างของผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งในกลุ่มวูบไหว

“รีบไป!”

เจียงฮ่าวเองก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ใจเต้นระรัวขึ้นมา

สมบัติล้ำค่าเช่นนี้จะพลาดได้อย่างไรกัน!

สมาชิกสามคนได้ยินเจียงฮ่าวพูดเช่นนี้ ก็ยินดีอย่างบ้าคลั่ง เงาทั้งสี่ร่างตรงดิ่งไปยังสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสมบัติแห่งนั้นทันที

……

ที่บึงน้ำแห่งหนึ่ง ณ ส่วนลึกของสุสานราชวงศ์

เงาทั้งสี่ร่างพุ่งทะลุเข้าไปในป่าทึบ คนที่เข้าไปคนแรกทั่วร่างอยู่ใต้ชุดคลุมสีดำ

สามคนด้านหลังตามมาติดๆ ด้วยความระมัดระวัง บรรยากาศของทั้งกลุ่มตกอยู่ในความเงียบสงัด

ทันใดนั้นเอง!

คนชุดดำหยุดเดินในฉับพลัน มองไปยังที่ไกลๆ

ส่วนสมาชิกอีกสามคนตกใจจนใบหน้าซีดขาว ชะงักฝีเท้าไป และต่างมองสถานที่แห่งนั้นที่คนชุดดำมองอยู่

แต่ว่าก็ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

สมาชิกทั้งสามคนสบตากันไปมา ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เข้าใจว่าคนชุดดำที่เดินนำทางมองอะไรอยู่กันแน่

“ไป!”

คนชุดดำเปลี่ยนเส้นทาง

“ผู้อาวุโสชุดดำ พวกเราไม่ไปที่ ‘มรดกลมจร’ แล้วหรือ?”

สมาชิกคนหนึ่งถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

คนชุดดำมองไปยังที่ไกลๆ ซึ่งไม่มีอะไรทั้งสิ้น แล้วจึงเปลี่ยนจุดหมายด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่บอก ในใจของทุกคนแอบไม่พอใจ และมีความสงสัยปนอยู่ด้วย

อยู่กลุ่มเดียวกันกับคนชุดดำ พวกเขาทำได้เพียงยอมรับความโชคร้ายเอาไว้ ด้วยนิสัยป่าเถื่อนชั่วร้ายของคนชุดดำ บางครั้งแม้กระทั่งพวกเขาก็ยังหวาดกลัวอยู่เหมือนกัน

ยังดีที่พลังของชายชุดดำน่ากลัวนัก จึงทำให้ตลอดทางที่ผ่านมาไม่มีภัยอันตรายใดๆ

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว!”

คนชุดดำไม่หันกลับมามอง เสียงตะคอกที่มีกลิ่นอายวิญญาณแห่งความตายเน่าเฟะพวยพุ่งออกมาทันที

ส่วนลึกในวิญญาณของคนทั้งสามที่เดินตามหลังมาหวาดระแวง รีบปิดปากโดยพลัน ก่อนจะรีบตามชายชุดดำไปติดๆ

……

พื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬ เต็มไปด้วยแสงพร่างพราววิจิตรงดงาม

กลุ่มตาเฒ่าอิงและผู้เฒ่าชุดม่วงอยู่ในแสงสว่างกลุ่มนี้ สัมผัสได้ถึงแสงสมบัติช่วงโชติเต็มฟ้าดิน จิตใจและร่างกายสั่นไหว รู้สึกเพียงว่าตนเองตัวเล็กจ้อยยิ่งกว่าอะไร

เหมือนขอทานที่พลันเห็นสมบัติล้ำค่าควรเมือง ไม่ตรงดิ่งไปเอา แต่กลับตื่นตะลึงยินดีอยู่ช่วงหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

“ต่อให้เป็นอาวุธเทพเก่าแก่ก็ไม่น่าจะมีปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้!”

จ้าวเฟิงตื่นตะลึงอย่างมาก ในวันที่เจอชิ้นส่วนกระบี่เทพเก่าแก่ที่คฤหาสน์ลับเทพบรรพกาล แสงพลังของมันก็ยังไม่ถึงหนึ่งในร้อยของวินาทีนี้ด้วยซ้ำ

ในส่วนลึกของพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬซุกซ่อนอาวุธวิเศษบรรพกาลประเภทใดไว้ ขนาดจ้าวเฟิงที่สงบนิ่งมาตลอด ในใจยังร้อนระอุ อยากได้สมบัติดังกล่าวอย่างแรงกล้า

“ไป ห้ามพลาดโอกาส ปรากฏการณ์ประหลาดในฟ้าดินเช่นนี้ กองกำลังอื่นๆ แถวนี้ต่างก็กำลังเดินทางไป!”

ดวงตาสองข้างของผู้เฒ่าชุดม่วงเป็นประกาย เร่งรุดเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาวายุทมิฬ เมื่อเผชิญหน้ากับสมบัติล้ำค่าที่สะเทือนฟ้าดิน เขาไม่อาจจะสงบนิ่งต่อไปได้

“ไป พวกเราก็ไปด้วย!”

เหลยทงและจักรพรรดิรุ่นเยาว์คนนั้นไม่อาจครุ่นคิดได้เป็นปกติ ตรงดิ่งไปทันที

“เฮ้อ อาวุธวิเศษระดับนี้ จะให้คนระดับข้าควบคุมได้อย่างไร!”

ตาเฒ่าอิงทอดถอนใจออกมา ในใจสับสนวุ่นวาย

สมบัติล้ำค่าเก่าแก่ระดับนี้ปรากฏขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถควบคุมได้

หากสมบัตินี้ปรากฏขึ้นที่ดินแดนทวีป จะต้องทำให้ราชวงศ์ล่มสลายลง หรืออาจถึงขั้นทำให้สองราชวงศ์เปิดศึกต่อสู้กันด้วยซ้ำไป แต่ถึงจะไม่อาจได้มา ตาเฒ่าอิงก็ไม่สามารถล้มเลิกได้ อย่างน้อยขอแค่ได้เห็นสมบัตินี้ด้วยตาของตนเอง มิฉะนั้นจะสบายใจได้อย่างไร

“เฒ่าอิง พวกเราเองก็ไปกันเถอะ สมบัติล้ำค่าในระดับนี้ปรากฏขึ้นที่นี่ เป็นโอกาสที่ข้ารออยู่จริงๆ จะไม่ยอมพลาดไปแน่!”

จิงข่ายเผยสีหน้าตื่นเต้น เอ่ยโน้มน้าวสุดแรง

สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ต้องสามารถแก้ไขชะตาชีวิตของผู้ใดที่ได้ครอบครองอย่างที่สุดแน่

กลุ่มผู้เฒ่าชุดม่วงเดินทางไปแล้ว ในใจของจิงข่ายร้อนรนราวไฟเผา อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

หากตาเฒ่าอิงไม่เห็นด้วย เขาย่อมไม่อาจแยกตัวออกจากกลุ่มได้ ที่โลกภายนอกเขาเป็นจักรพรรดิที่กำลังรบไร้เทียมทานผู้หนึ่ง สูงส่งอย่างยิ่ง แต่ในที่แห่งนี้เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งระดับปฐมเซียนสามารถพบเห็นได้ทั่วไป

ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่คือพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬ

สมบัติล้ำค่าที่นี่ย่อมต้องมีภยันอันตรายแฝงอยู่ จำเป็นต้องมีผู้นำที่เก่งกาจและเปี่ยมด้วยประสบการณ์อย่างตาเฒ่าอิง

“ได้ เช่นนั้นพวกเราลองไปดูกัน!”

ตาเฒ่าอิงตัดสินใจ

ทั้งสามเข้าไปใกล้ส่วนลึกของหุบเขาวายุทมิฬ

หุบเขาวายุทมิฬเป็นหนึ่งในสถานที่ต้องห้ามที่อันตรายที่สุดในสุสานราชวงศ์ ต่อให้เป็นเซียนที่แข็งแกร่งส่วนหนึ่งตั้งใจมาทิ้งมรดกที่นี่โดยเฉพาะ ก็ยังไม่เข้ามาลึกจนเกินไป

หากไม่ใช่ว่าลมมืดอ่อนกำลังลงพอดี สมบัติที่ชวนตะลึงปรากฏขึ้น กลุ่มของตาเฒ่าอิงก็คงไม่อาจจะเข้าไปตามใจชอบ

“หืม? ลมมืดเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นหลายส่วน?”

จ้าวเฟิงครุ่นคิดฉับไว แววตาจับได้ถึงความผิดปกติในอากาศ

ถึงแม้ว่าแสงสมบัติที่น่าตื่นตะลึงจะย้อมทิวทัศน์รอบบริเวณจนยากจะจำแนกแยกแยะได้ แต่ไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงชำเลืองมองตาเฒ่าอิงและจิงข่ายแวบหนึ่ง พวกเขาสองคนต่างยังไม่รู้สึก

เห็นได้ชัดว่าแสงสมบัติหลากสีนี้ดึงดูดใจทุกคนจนมองข้ามของอย่างอื่นไป

“มีความผิดปกติบางอย่าง!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในวิญญาณสีม่วงเข้มปรากฏแสงแปลบปลาบของพลังอัสนีเทวะทันที

ครืน ครืน ครืน!

เห็นเพียงกลิ่นอายพลังมืดมิดที่ถี่ละเอียด ถูกพลังอัสนีเทวะฟาดทำลาย ถูกบีบเค้นออกภายนอกร่างกาย แล้วจึงหลอมรวมเข้าไปในลมมืด

“แม้กระทั่งข้ายังได้รับผลกระทบเล็กน้อยโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว!”

จ้าวเฟิงตื่นตะลึงไป

จะต้องรู้ว่า พลังวิญญาณของจ้าวเฟิงแตะถึงขั้นเซียน วิญญาณเกาะรวมตัวกันเหนือเซียนมากนัก เมื่อเค้นไอมืดมิดออกนอกร่างกาย ดวงตาสองข้างของจ้าวเฟิงก็ฟื้นคืนกลับมากระจ่างแจ้ง

“ให้ข้าดูหน่อย!”

จ้าวเฟิงลอบโคจรดวงตาซ้าย ระลอกแสงสีทองอ่อนค่อยๆ แผ่ขยายบนดวงตาสีทองอำพัน

ในตอนนี้จ้าวเฟิงสามารถควบคุมและเข้าใจพลังดวงตาซ้ายได้ละเอียดยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาหากใช้พลัง ทั้งครรลองสายตาแทบตกอยู่ในโลกที่ประกอบขึ้นจากอนุภาคเล็กๆ สิ้นเปลืองพลังเป็นจำนวนมาก แถมยังได้รับข้อมูลมากเกินไปในเสี้ยววินาที

ทว่าเวลานี้ มีเพียงจุดที่จ้าวเฟิงเพ่งมองถึงจะเปลี่ยนเป็นโลกอนุภาคจุดสีทองอ่อน

แววตาของจ้าวเฟิงจับจ้องไปยังจุดที่แสงสว่างพุ่งสู่ฟ้าอยู่ไกลๆ ทะลวงผ่านลมมืด แทรกผ่านหุบเขา จ้องมองไปด้านล่าง!

“สมบัติน่าจะอยู่ด้านล่าง เอ๊ะ?”

เหมือนว่าจ้าวเฟิงเห็นของบางอย่างที่แปลกประหลาด สีหน้าชะงัก และกลับเป็นปกติอีกครั้ง

“เป็นอะไรไป จ้าวเฟิง?”

ตาเฒ่าอิงสังเกตเห็นความผิดปกติของจ้าวเฟิง

“เร็วเข้า จ้าวเฟิง นี่เป็นโอกาสใหญ่หลวงในชีวิตเชียวนะ!”

จิงข่ายเอ่ยเร่งอย่างรีบร้อน

“ไม่มีอะไร แค่สังเกตเห็นว่าจู่ๆ ลมมืดก็แข็งแกร่งขึ้น!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งขรึมลงเล็กน้อย

“หืม? จริงด้วย ดูท่าพวกเราต้องเร่งฝีเท้าแล้ว!” หลังจากที่ตาเฒ่าอิงสัมผัสอย่างลึกซึ้งแล้ว สีหน้าก็เคร่งเครียด หากลมมืดฟื้นกลับไปสู่สภาวะในตอนเริ่มแรก พวกเขาจำเป็นต้องออกไปก่อน

ลมมืดในระดับนั้น ต่อให้เป็นคนในขั้นเซียนก็ยังไม่กล้าจะเข้าไปลึก

“เฮ้อ ขอบเขตพลังของเจ้าต่ำเกินไป…”

จิงข่ายมองไปที่จ้าวเฟิง มีท่าทีไม่พอใจเจืออยู่

ในสายตาของเขา ต้องเป็นเพราะขอบเขตพลังของจ้าวเฟิงต่ำเกินไป จึงต้านทานลมมืดรอบบริเวณไม่ไหว

คนทั้งสามเร่งฝีเท้า บินตรงดิ่งไปยังใจกลางของพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬ

ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ ลมมืดรอบบริเวณก็ยิ่งทรงพลัง ขนาดจิงข่ายยังสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บและโหดเหี้ยมกลุ่มหนึ่ง

ไม่นานนัก ผู้เฒ่าชุดม่วงและพวกปรากฏขึ้นในครรลองสายตา

“ตาเฒ่าอิง กองกำลังของพวกเราคงจะไม่สลายตัวกันตอนนี้กระมัง?”

ผู้เฒ่าชุดม่วงหันมองพลางเผยรอยยิ้มบาง เขาเองก็หวังว่าตาเฒ่าอิงและพวกจะมาได้ พอถึงตอนนั้น ต่อให้ไม่ได้สมบัติก็ยังสามารถเอาทรัพยากรมรดกที่อยู่ในมือของพวกเขามาได้

“แน่นอนอยู่แล้ว!”

ความเร็วของตาเฒ่าอิงเพิ่มขึ้นหลายส่วน

จากการนำของผู้เฒ่าชุดม่วง ทุกคนก็มาถึงแถบใจกลางของหุบเขาวายุทมิฬอย่างรวดเร็ว ค่อยๆ เข้าใกล้แสงสมบัติที่พุ่งขึ้นฟ้าไปทุกที

ที่นี่คือกองหินระเกะระกะ มีพื้นที่กว้างใหญ่ ทุกก้อนหินยักษ์ที่มีรูปร่างประหลาดมีขนาดประมาณบ้านหลังหนึ่ง ทำจากวัสดุสีเข้ม แต่แสงสมบัติสว่างเรืองรองทะลักออกมาจากใจกลางของกองหินที่อยู่ไกลลิบ ระยะทางห่างยิ่งนัก และอานุภาพลำแสงสมบัติแรงกล้ากดทับทั่วร่างของพวกเขา ไม่กล้าจะเข้าไปใกล้

พู่ว!

ฉับพลันทันใด ลำแสงสมบัติที่พุ่งทะลุฟ้าค่อยๆ อ่อนกำลังลงไป อับแสงลงทีละน้อยจนถอยกลับไปที่พื้นด้านล่าง ทั่วทั้งพื้นที่ต้องห้ามหุบเขาวายุทมิฬเปลี่ยนเป็นโลกวายุดำมืดอีกครั้ง

“พลังของแสงสมบัติสลายไปแล้ว!”

เหลยทงเอ่ยอย่างตื่นตะลึง

ทุกคนเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ได้นัดหมาย โบยบินขึ้นในทันที และพุ่งทะยานไปเหนือกองหินกระจัดกระจาย

ไม่นานนัก ทุกคนก็มาถึงพื้นที่กว้างใหญ่ที่ลำแสงดังกล่าวถูกปลดปล่อยออกมา แต่ว่าด้านล่างก็ยังคงเป็นเพียงก้อนหินขนาดยักษ์นับไม่ถ้วน ประสาทสัมผัสได้รับผลกระทบจากลมมืด จึงไม่อาจสัมผัสอย่างลึกล้ำได้

“แสงม่วงทลายนภา!”

ผู้เฒ่าชุดม่วงฟาดฝ่ามือลงมา

เงาฝ่ามือสีม่วงที่ส่องสว่างราวแก้วผลึก กลายเป็นเงาสีม่วงมืดฟ้ามัวดินพุ่งปะทะเข้าไปที่กองหินด้านล่าง

บึ้ม! ไม่รู้ว่าหินสีเข้มเหล่านี้เป็นวัสดุประเภทไหน การโจมตีของผู้เฒ่าชุดม่วงกลับทิ้งไว้เพียงรอยร้าวเล็กๆ ไม่มากนัก

“ดูแล้วคิดจะเข้าไปเลยจากตรงนี้คงเป็นไปไม่ได้!”

ผู้เฒ่าชุดม่วงไม่ค่อยพอใจนัก

ด้านล่างทั้งหมดเป็นกองหินรก ปกคลุมทั้งหมดเอาไว้ คิดจะเข้าไปจากที่นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้

“ทำได้เพียงหาทางเข้าทางอื่น!”

จิงข่ายลอบทอดถอนใจ

“เมื่อครู่ข้าเห็นหลุมแห่งหนึ่ง!”

เสียงของจ้าวเฟิงดังขึ้นทันใด คิดอะไรออกในทันที ทำให้คนทั้งหมดหันไปมองและยินดีกันอย่างยิ่ง

“ที่ไหน?” ผู้เฒ่าชุดม่วงรีบเอ่ย

“จุดที่พวกเราเพิ่งมาเมื่อครู่ เยื้องไปไม่ไกลนัก มีหลุมเล็กแห่งหนึ่ง คล้ายตรงลงไปใต้ดิน!”

จ้าวเฟิงตอบอย่างตรงไปตรงมา

เพิ่งเอ่ยจบ สมาชิกของกลุ่มผู้เฒ่าชุดม่วงก็บินจากไปแล้ว

ผ่านไปไม่นานนัก ทุกคนก็เดินทางมาถึงสถานที่ที่จ้าวเฟิงบอก

“มีทางเข้าจริงๆ ด้วย!” เหลยทงเอ่ยอย่างตื่นเต้น ยินดีแทบคลั่ง

บนพื้นเบื้องหน้าทุกคนมีก้อนหินกองระเกะระกะ มีอุโมงค์ที่พอให้หนึ่งคนมุดเข้าไปปรากฏ พอเห็นว่ามีขั้นบันไดหินอยู่รางๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!