Skip to content

King of Gods 981

King Of Gods

บทที่ 981 สยบ

“ไม่ได้การ องค์ชายสามมาแล้ว!”

สืออวี่เหลยมองไปยังที่ไกล สีหน้าเคร่งเครียด

“จ้าวเฟิง!” ตาเฒ่าอิงตะโกนขึ้นอย่างร้นรน

ในกองกำลังขององค์ชายเก้า ผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดก็คือจ้าวเฟิง และในยามนี้ จ้าวเฟิงใช้กำลังของตนเพียงผู้เดียวควบคุมจักรพรรดิและปฐมเซียนสิบกว่าคนไว้ได้ เชื่อว่าจ้าวเฟิงน่าจะมีพลังจัดการกับพวกเขา

เช่นนี้แล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับองค์ชายทั้งสาม กลุ่มขององค์ชายเก้าจึงมีกำลังรบเพียงแค่หนึ่งเดียว

วิ้ง! องค์ชายเก้าค่อยๆ ก้าวเท้าออก ตรารัชทายาทจำลองในมือส่องประกายเจิดจ้า

เผชิญหน้ากับองค์ชายทั้งสามที่ล้วนเป็นขั้นจักรพรรดิ หนึ่งในนั้นมีเพียงพลังขององค์ชายสองที่ใกล้เคียงกับองค์ชายเก้ามากที่สุด แต่หากเหล่าองค์ชายใช้ ‘พลังชะตามังกร’ เช่นนั้นก็จะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

องค์ชายทั้งสามสามารถยกระดับกำลังรบไปได้ถึงกระทั่งปฐมเซียนหรือสูงกว่านั้น

ดีที่พลังชะตามังกรที่องค์ชายทั้งสามรวบรวมมาไม่เยอะเท่าไร

ในมิติส่วนตัววายุอัสนีของจ้าวเฟิง

“จ้าวเฟิง เจ้ามันชั่วช้าจริงๆ ใช้วิธีลักลอบขโมยเช่นนี้!”

“จ้าวเฟิง เจ้าจับพวกเราไว้ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเจ้าแพ้แน่แล้ว!”

“องค์ชายทั้งสามใช้ ‘พลังชะตามังกร’ กำลังรบจะเกือบถึงขั้นเซียนได้ในชั่วเวลาสั้นๆ!”

สิบกว่าคนที่ถูกจ้าวเฟิงจับเอาไว้ เมื่อพบว่าองค์ชายทั้งสามเข้ามายังสนามรบ ในใจก็ยินดีอย่างบ้าคลั่ง ยามที่พวกเขาถูกจ้าวเฟิงจับเอาไว้ได้ แม้กระทั่งหยกมังกรคุ้มกันบนกายก็หายไป แค้นนี้ต้องชำระ

“เหอะๆ ในเมื่อได้หยกคุ้มกันมังกรมาแล้ว แต่พวกเจ้ายังไม่ยอมจากไป เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว!”

จู่ๆ จ้าวเฟิงก็หัวเราะเย็น

ฟู่! เปลวไฟวาววับสีแดงสดที่คล้ายกำลังลุกไหม้ ราวกับสีแดงโลหิตหมุนวนรอบกายจ้าวเฟิง ทั่วทั้งร่างจ้าวเฟิงลุกไหม้เหมือนอาบอยู่ในเปลวเพลิง ทั่วทั้งร่างแวววับ เมื่อรวมกับการขับให้เด่นขึ้นของกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ จึงดูราวจอมปีศาจเพลิงโลหิตตนหนึ่ง

“นี่คือ? เพลิงมารโลหิต!”

“ข่าวไม่ผิดจริงๆ ด้วย จ้าวเฟิงมีสายเลือดเพลิงมารโลหิตของตระกูลเถี่ย!”

“บุกเข้าไปด้วยกัน ตรึงจ้าวเฟิงเอาไว้ รอให้องค์ชายทั้งสามมา”

ยอดฝีมือที่ถูกจ้าวเฟิงขังไว้ในโลกมิติส่วนตัวใจสั่นสะท้านเล็กน้อย แต่ตอนนี้การยึดเมืองความลับสวรรค์ให้ได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ผลของวิชาลวงตาศาสตร์วิญญาณและละอองเกสรไฉ่เมิ่ง พวกเขาขจัดออกไปนานแล้ว

เหตุที่พวกเขายังคงอยู่ในโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงก็เพราะเห็นองค์ชายทั้งสามเข้าร่วมรบ

ทันใดนั้น ยอดฝีมือทั้งหลายเตรียมร่วมมือกัน เพียงแค่พวกเขาตรึงจ้าวเฟิงเอาไว้ได้ องค์ชายทั้งสามก็จะตรงเข้าบดขยี้และยึดครองเมืองความลับสวรรค์

ตูม ฟู่ ฟู่!

ภายใต้การระเบิดอันทรงพลังของเพลิงมารโลหิต กายของจ้าวเฟิงเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากเสียงดังขึ้น

“ระวัง!”

ปฐมเซียนคนหนึ่งในนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยของจ้าวเฟิง จึงรีบตะโกนขึ้น

ชั่ววินาทีถัดไป ท่ามกลางเสียงกัมปนาทของอัสนีเพลิงสะเทือนฟ้า ในกลุ่มผู้คน จักรพรรดิขอบเขตปราณเทวะคนหนึ่งถูกหมัดของจ้าวเฟิงซัดจนแหลกลาญ

เฮือก! สมาชิกฝ่ายศัตรูเงียบสงัด มองจ้าวเฟิงที่สังหารจักรพรรดิชั้นยอดคนหนึ่งได้อย่างสบายมือ ทุกคนรู้ว่าพลังของจ้าวเฟิงถึงขั้นเซียน แต่ด้วยความเร็วที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ แม้กระทั่งเซียนที่ไม่ชำนาญด้านความเร็วก็เทียบไม่ได้กระมัง

“รีบจับเขาเอาไว้!” ทั่วทั้งร่างเซวียนหย่วนสั่นสะท้าน ตะโกนขึ้นทันใด

คนอื่นที่เหลือคืนสติจากความตื่นตกใจ ปราณที่แท้จริงหลั่งไหลไปล้อมจ้าวเฟิงเอาไว้

จะให้จ้าวเฟิงใช้ข้อได้เปรียบด้านความเร็วค่อยๆ ลดสมาชิกของพวกเขาไม่ได้

ตูม แซ่ด แซ่ด! เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง จ้าวเฟิงทิ้งแสงอัสนีเพลิงโลหิตไว้ที่เดิม แล้วแปรเปลี่ยนเป็นประกายอัสนีน่าหวาดหวั่นสายหนึ่ง พุ่งไปยังจุดที่คนค่อนข้างน้อย

ตูม! จักรพรรดิคนหนึ่งเห็นจ้าวเฟิงบุกเข้ามา จึงโคจรปราณที่แท้จริงมาป้องกันร่างกาย แต่กลับยังถูกแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิงอัดจนแหลก ร่างกายระเบิดออกทันที

ในมิติส่วนตัววายุอัสนี ปราณที่แท้จริงวายุอัสนีของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้น ความเร็วและพลังล้วนใช้จนถึงขีดจำกัด หากสิบกว่าคนนี้ทลายโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงได้ก่อน ก็ยังพอจะเข้าขวางจ้าวเฟิงไว้ได้บ้าง

แต่นยามนี้สถานการณ์ถูกจ้าวเฟิงควบคุมเอาไว้ แม้กระทั่งโอกาสที่พวกเขาจะทำลายโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงก็ไม่มีแล้ว

“อ๊าก!”

ภายใต้การป้องกันสุดกำลัง จักรพรรดิอีกคนถูกจ้าวเฟิงบดขยี้จนเละอย่างง่ายดายเช่นเดิม ทั้งฝ่ายศัตรูและฝ่ายตนเองล้วนหวาดหวั่นใจ

“ดี ขอเพียงแค่จ้าวเฟิงจัดการสิบกว่าคนนี้ได้ พวกเราก็ยังคงมีหวัง!”

แววตาของตาเฒ่าอิงหนักอึ้ง น้ำเสียงสงบเยือกเย็น

อีกด้านหนึ่ง สมาชิกฝั่งศัตรูที่สู้รบกับวานรทองสะท้านฟ้าและสมาชิกองค์ชายเก้าที่เหลือ ทั่วทั้งร่างสั่นเทา สังหารจักรพรรดิได้ง่ายดายเช่นนี้ ง่ายราวกับฆ่าไก่ก็ไม่ปาน

พวกเขาทำได้เพียงแค่ฝากความหวังไว้ที่องค์ชายทั้งสาม

“จ้าวเฟิง หยุดเดี๋ยวนี้!”

องค์ชายทั้งสามรีบตามมาทันใด เมื่อเห็นภาพนี้ตะโกนขึ้นโดยพลัน

“เจ้าพวกโง่!” องค์ชายห้าร้องด่า

คนที่ตกอยู่ในโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงกลุ่มนั้น คิดว่าจ้าวเฟิงทำอะไรพวกเขาไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกจ้าวเฟิงสังหารเช่นนี้ หากว่าเพิ่งเริ่ม ใช้พลังทั้งหมดทำลายโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงไปก็เรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ

“พวกเราทำลายมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงก่อน!”

สีหน้าขององค์ชายสองเคร่งเครียด รีบพูดออกมา จะให้จ้าวเฟิงลดจำนวนสมาชิกของเขาอีกไม่ได้แล้ว

ฟู่! สามองค์ชายพยักหน้าพร้อมกัน ต่างยกกระบี่ยาวในมือขึ้น โคจรพลังปราณที่แท้จริง แสงลายมังกรชั้นหนึ่งพุ่งออกทันที

“ไม่ดีแล้ว องค์ชายทั้งสามจะทำลายมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิง!”

สีหน้าของตาเฒ่าอิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาในยามนี้ก็กำลังสู้กับปฐมเซียนคนหนึ่ง ไม่สามารถไปช่วยได้

“มิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงเสียหายเมื่อใด เช่นนั้นก็แย่แล้ว”

ใจของสืออวี่เหลยหนักอึ้ง เขาในยามนี้กำลังต้านการโจมตีให้กับสมาชิกที่เหลือ

ฝั่งขององค์ชายเก้า สมาชิกที่สามารถต่อสู้ได้มีน้อยเกินไป หากไม่ใช่เพราะวานรทองสะท้านฟ้าสามตัวตรึงกำลังบางส่วนเอาไว้ พวกเขาก็แพ้ไปตั้งนานแล้ว

“หึ!” จ้าวเฟิงมององค์ชายทั้งสาม มือซ้ายสะบัดขึ้น

เห็นเพียงผึ้งพิษสีสันแพรวพราวแปดตัว ตัวใหญ่เพียงกำปั้น แต่กลับรวมกลิ่นอายที่สุดแสนจะน่ากลัวไว้ พวกมันพุ่งไปยังองค์ชายทั้งสามที่เตรียมโจมตี

“แย่แล้ว คือผึ้งเบญจพิษ ถอยเร็ว!” องค์ชายสองร้องขึ้นอย่างตกใจทันที

องค์ชายทั้งสามพลันทิ้งการโจมตี ถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างรู้ที่มาของผึ้งเบญจพิษกันมาบ้าง

ตูม ตูม ตูม! ผึ้งเบญจพิษขั้นราชันช่วงสุดยอดแปดตัวระเบิดตัวเองก่อนที่สามองค์ชายจะถอยหนี

ถึงแม้จะเป็นเพียงรอบนอกของการระเบิด เมื่อกระทบไปยังองค์ชายทั้งสาม การโจมตีพลีชีพของผึ้งราชาก็คุกคามถึงชีวิตจักรพรรดิได้

ในขณะที่ผึ้งราชาทั้งแปดระเบิด ผลกระทบที่สร้างขึ้นแก่องค์ชายทั้งสามย่อมไม่น้อย

สีหน้าของสามองค์ชายดูย่ำแย่ พลังชะตามังกรเสียหายไปเยอะมากภายใต้การระเบิดของผึ้งเบญจพิษ

“เยี่ยม จ้าวเฟิง!” ตาเฒ่าอิงตะโกนยินดี

จ้าวเฟิงใช้ผึ้งเบญจพิษ ทำให้องค์ชายทั้งสามถอยห่างไประยะหนึ่ง

เช่นนี้แล้วจ้าวเฟิงก็มีเวลาจัดการศัตรูในโลกมิติส่วนตัวให้เรียบร้อย

“เป็นไปได้อย่างไร?”

“องค์ชายสอง ช่วยพวกเราด้วย!”

“องค์ชายทั้งสามโดนจ้าวเฟิงบีบให้ถอยไปแล้ว!”

ยอดฝีมือที่อยู่ในโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงเห็นฉากนี้ สีหน้าก็ไร้ซึ่งความหวัง

จ้าวเฟิงยังซ่อนกลอุบายเช่นนี้ไว้ด้วย

“บัดซบ จ้าวเฟิงใช้ผึ้งเบญจพิษจัดการพวกเราตั้งแต่แรกก็ได้!”

จักรพรรดิคนหนึ่งร้องออกมาทันใด

“อาจเป็นเพราะเขาคงรู้สึกว่าไม่จำเป็น!”

ปฐมเซียนคนหนึ่งกายใจหนาวเหน็บ

ได้ยินประโยคนี้ สมาชิกคนอื่นใจสั่นไหว ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน

ถูกต้อง จ้าวเฟิงไม่จำเป็นต้องใช้ผึ้งเบญจพิษ ก็สามารถบีบพวกเขาสู่ทางตัน ค่อยๆ ฆ่าอย่างช้าๆ

ตูม!

ในขณะที่ทุกคนกำลังเหม่อลอย จักรพรรดิสองคนถูกหมัดเพลิงอัสนีสีชาดของจ้าวเฟิงกลืนกิน

“หนีเร็ว!”

“ข้าไม่อยากตาย!”

“จ้าวเฟิง อย่าฆ่าข้า!”

เซวียนหย่วนวิงวอนจ้าวเฟิงในขณะที่ถอยหนีอย่างสุดกำลัง

ในยามนี้ มีจักรพรรดิห้าคนแล้วที่ถูกจ้าวเฟิงสังหารลงอย่างง่ายดาย

ต่อให้พวกเขารวมพลังทำลายโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงได้ ก็ไม่อาจเป็นคู่มือของอีกฝ่าย จิตต่อสู้ของทุกคนหมดสิ้น มองไปยังทิศทางถอยหนีขององค์ชายทั้งสาม ได้แต่หวังว่าเหล่าองค์ชายจะรีบกลับมาช่วยเหลือพวกตน

ฟู่ แซ่ด แซ่ด!

จ้าวเฟิงกระพือปีกแสงอัสนีสีชาด ทิ้งประกายอันน่าหวาดหวั่นไว้สายหนึ่ง ก่อนปรากฏขึ้นยังเบื้องหลังของทุกคน ขวางทางเอาไว้

“จ้าวเฟิง ปล่อยพวกเราไปเถอะ!”

“พวกเราจะไม่มาโจมตีที่นี่อีกแล้ว!”

“หยกมังกรคุ้มกันเจ้าก็เอาไปหมดแล้ว ปล่อยพวกเราไปเถอะ!”

ใจของทุกคนสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง ตัวอยู่ในโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิง พวกเขาไม่มีทางหนีไปไหนพ้น

ส่วนจ้าวเฟิง เมื่ออยู่ในมิติโลกส่วนตัวของเขา ความเร็วก็อยู่ในระดับสูงสุด เมื่อรวมกับพลังกายที่แข็งแกร่ง ทุกคนไร้ซึ่งพลังจะต่อต้าน

“องค์ชายทั้งสาม ส่งตรารัชทายาทจำลองมาซะ มิฉะนั้นข้าจะฆ่าล้างบาง!”

จ้าวเฟิงกุมสถานการณ์ ดุจดั่งราชันแห่งโลกมิติอัสนีวายุคลั่งทั้งใบ มองจากข้างบนลงมายังทุกสรรพสิ่ง

องค์ชายทั้งสามที่อยู่ไกลออกไปได้ยินคำพูดนี้ ในใจหนักอึ้งทันใด

หากจ้าวเฟิงฆ่ายอดฝีมือพวกนั้นทั้งหมด เช่นนั้นความผิดก็จะตกอยู่ที่จ้าวเฟิง

เป็นจ้าวเฟิงที่สังหารอย่างเหี้ยมโหด เขาจะล่วงเกินขั้วอำนาจสำนักใหญ่สิบกว่าแห่งในราชวงศ์ แต่จ้าวเฟิงพูดออกมาเช่นนี้ก็ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

หากองค์ชายทั้งสามปฏิเสธ จ้าวเฟิงสังหารคนทั้งหมด เช่นนั้นก็จะเป็นความผิดของเหล่าองค์ชาย

พวกเขาเห็นความตายแต่ไม่ช่วย ละทิ้งชีวิตของสมาชิกเพื่อพลังชะตามังกร

“หึ! จ้าวเฟิง หยุดสังหารสมาชิกกลุ่มของข้า!”

สีหน้าขององค์ชายสองไม่เปลี่ยน ร้องตะโกนขึ้นแล้วบุกเข้ามาอีกครั้ง

องค์ชายอีกสองคนที่เหลือสีหน้าสะท้านเล็กน้อย พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรดี

“เป็นพี่สองที่มีวิธีเสมอ!” องค์ชายห้าเผยรอยยิ้มออกมา

องค์ชายสองใช้วิธีนี้ปฏิเสธจ้าวเฟิง

หากว่าสุดท้ายแล้วจ้าวเฟิงยังคงสังหารสมาชิกทั้งหมด เช่นนั้นก็ไม่ใช่เหล่าองค์ชายเห็นความตายแต่ไม่ช่วย แต่เป็นเพราะพวกเขาช่วยไม่ทัน

องค์ชายห้าและองค์ชายสิบสามก็ตะโกนเช่นนี้ทันใด ตามองค์ชายสองบุกเข้าโจมตีจ้าวเฟิงอีกที กระบี่ในมือมีปราณที่แท้จริงล้นทะลัก เตรียมทำลายโลกมิติส่วนตัวของจ้าวเฟิงอีกครั้ง

“ฮ่าๆ!”

มือซ้ายของจ้าวเฟิงยกขึ้นโบก ผึ้งพิษสีสันแพรวพราวแปดตัวปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ผึ้งเบญจพิษแปดตัวพุ่งไปยังองค์ชายทั้งสามทันที ผึ้งเบญจพิษหนึ่งในนั้นขนาดตัวใหญ่โต สีสันสดใสเป็นอย่างมาก ชัดเลยว่าเป็นผึ้งจักรพรรดิ!

ตูม ตูม ตูม!

องค์ชายทั้งสามหวาดกลัวจนต้องล่าถอยอีกครั้ง อีกทั้งครั้งนี้พลังการระเบิดตัวเองของผึ้งเบญจพิษยิ่งทรงพลังขึ้น

องค์ชายสิบสองไม่ทันระวัง ถูกไอพิษกระทบเข้า สีหน้าดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก

“เขายังมีผึ้งเบญจพิษอีกรึ!”

องค์ชายสองสีหน้าเขียวคล้ำ โกรธแค้นเป็นที่สุด แต่ไร้ซึ่งหนทาง

ทั่วทั้งสนามรบ ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนมองมายังจ้าวเฟิง ในใจสั่นสะท้าน ใจของยอดฝีมือฝ่ายศัตรูที่สู้กับตาเฒ่าอิงและวานรทองสะท้านฟ้าล้วนหวาดกลัว ค่อยๆสูญเสียจิตต่อสู้

แต่เดิมสถานการณ์ได้เปรียบมาโดยตลอด แต่การเข้าร่วมของจ้าวเฟิงทำให้กลับตาลปัตรในชั่วพริบตา

ฝูงสัตว์อสูรภายใต้การควบคุมของจ้าวเฟิงค่อยๆ กลับมาได้เปรียบ

วานรทองสะท้านที่มีสายเลือดหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณทั้งสามตัว ช่วยสมาชิกที่เหลือของกลุ่มองค์ชายเก้าตรึงกำลังยอดฝีมือทั้งหลายเอาไว้

ส่วนจ้าวเฟิงใช้พลังของตนเองกักขังศัตรูสิบกว่าคนไว้ อีกทั้งยังกันองค์ชายทั้งสามไว้ด้านนอก หากยังยืดเยื้อต่อไปเช่นนี้ ฝ่ายที่แพ้ต้องเป็นองค์ชายทั้งสามอย่างแน่นอน

เมืองความลับสวรรค์สามแห่งที่เหลือมองสงคราม ณ ที่แห่งนี้ ก็รู้สึกสะท้านใจเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน

กลางป่าห่างไปอีกร้อยลี้ ยังมีสมาชิกกลุ่มองค์ชายเจ็ดที่เตรียมลงมือโจมตีทุกเวลา ทว่ายังไม่เคลื่อนไหวเสียที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!