Skip to content

Library Of Heaven’s Path 177

ตอนที่ 177 หม้อต้มยาระเบิด

“เขาคือชายในผลึกบันทึกผู้เชื่อมั่นคนนั้นหรือเปล่า?” นักปรุงยาหงหยุ่นพยายามสงบสติอารมณ์เมื่อหายจากอาการตกตะลึง

ชายที่ปรากฎในผลึกบันทึกดูปราดเปรื่องและเชื่อมั่นในตัวเองขณะแสดงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเรื่องการปรุงยาออกมา แต่ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาดูหมดสภาพ นัยน์ตาแดงก่ำ…

เขาถูกใครทำร้ายมาหรือเปล่า?

นักปรุงยาจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับสมุนไพรเสมอ จึงมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองดูอ่อนล้า อีกประการหนึ่ง…อาชีพนักปรุงยาเป็นหนึ่งในอาชีพแถวหน้าของเก้าสถานภาพระดับบน พวกเขาจึงให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และความมีเกียรติ คนที่มีถุงใต้ตาอันเบ้อเร่อขนาดนี้จะเป็นนักปรุงยาได้อย่างไร?

มันไม่สวยเอาเสียเลย

ไม่ใช่นักปรุงยาหงหยุ่นผู้เดียวที่งุนงง สีหน้าพิศวงก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนักปรุงยาโอวหยางและคนอื่นๆเช่นกัน

นี่คือชายหนุ่มผู้พิชิตชัยชนะอันขาวสะอาดในวิวาทะยาจริงๆหรือ? ชายที่ทำให้พวกเขาอยากเอาตัวมุดร่องมุดรูที่ไหนสักแห่งทันทีที่พวกเขาหาได้?

ดูผิดฝาผิดตัวอะไรเช่นนี้…

ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับความคิดของแต่ละคน เมื่อก้าวเข้ามาในห้อง จางเซวียนเห็นนักปรุงยาของอาณาจักรเทียนเซวียนจำนวนมากกว่าหนึ่งโหลจับจ้องมาที่เขาอย่างงงงัน

โดยปกติแล้วนักปรุงยาจะมีงานยุ่งอยู่เสมอ ดูไม่ธรรมดาเอาเสียเลยที่มารวมตัวกันแบบนี้ ก่อนหน้านี้มีนักปรุงยาสิบคนมารวมตัวกันด้วยเรื่องของการประลองวิวาทะยา แต่แล้วเหตุใดวันนี้จึงมีจำนวนมากมายนัก?

จะอย่างไรก็เถอะ การที่นักปรุงยาจะมารวมตัวกันที่นี่ก็ไม่ใช่กงการของเขา จางเซวียนส่ายหน้าและตัดสินใจที่จะไม่ก้าวก่าย เขาฝืนความอ่อนล้าที่เกาะกุมเขาไว้และเดินไปยังกลางห้อง

“ประธานโอวหยาง ของที่ผมสั่งซื้อมาถึงหรือยัง?”

“มาถึงแล้ว อยู่ด้านโน้น…”

ประธานโอวหยางผายมือไปทางของที่นักปรุงยาหงหยุ่นเพิ่งนำมาส่งให้ ยาปลดปล่อยพลังหยินระดับ 3 และ เลือดแรดยักษ์ดึกดำบรรพ์

จางเซวียนมีสีหน้าดีใจเมื่อได้ของมา เขาเก็บมันไว้ในแหวนเก็บสมบัติและยื่นปึกเงินที่เตรียมไว้ล่วงหน้าส่งให้อีกฝ่าย

“ผมขอตัว…” เมื่อเห็นอีกฝ่ายนับเงินและพบว่าทุกอย่างเรียบร้อย จางเซวียนก็เตรียมตัวกลับ

เขาเหนื่อยมาก แต่ก็ยินดีนักที่ได้ของทั้งหมดมา จากนี้เขาจะรีบนำไปให้จ้าวหย่ากับหยวนเทากิน และสุดท้ายก็จะได้พักยาวอย่างที่รอคอยมานานเสียที

“นักปรุงยาจางเซวียน รอเดี๋ยว…” ในที่สุดนักปรุงยาหงหยุ่นก็หายตะลึงและลุกขึ้นยืน

“คุณเป็นใคร?” ทั้งเหนื่อยและหงุดหงิด จางเซวียนไม่พอใจที่มีคนมาขวางทาง

“ผมคือหงหยุ่น ผมมีข้อสงสัยเรื่องการปรุงยาที่อยากขอปรึกษาคุณ หวังว่านักปรุงยาจางเซวียนจะยินดีรับคำขอของผม…”

นักปรุงยาหงหยุ่นเอ่ย

เมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏในผลึกบันทึก เขาแน่ใจในความสามารถของชายตรงหน้ากว่า 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีคำถามเพื่อต้องการจะพิสูจน์ว่ามีการใช้เล่ห์กลใดในกระบวนการของเขาหรือไม่

“ผมไม่ว่าง!” จางเซวียนเม้มปากอย่างไม่พอใจ เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว “ผมไม่ใช่อาจารย์ของคุณ ถ้าคุณมีข้อสงสัยใด กรุณาไปค้นจากหนังสือ ไม่ใช่มาไล่ถามเอากับคนแปลกหน้า? ช่วยไปรบกวนคนอื่นเถอะ…”

ตลกเป็นบ้า ไม่เห็นหรือว่าเรากำลังยุ่ง? อยากกลับบ้านไปนอนเต็มทีแล้ว ใครจะมีเวลามานั่งตอบคำถามกัน? ทำไมจึงไม่มีกาลเทศะเอาเสียเลย?

อีกอย่าง…คุณเป็นใคร!

ถ้านักปรุงยาทุกคนพากันตั้งคำถามกับเรากันหมด เราไม่เหนื่อยตายหรือ?

ตึ้ง!

นักปรุงยาทุกคนในห้องถึงกับทรุด

ประธานโอวหยางแทบสำลัก

น้องชาย นี่คือนักปรุงยาระดับ 2 ดาวที่เบื้องบนส่งมาตรวจสอบคุณ และคุณอาจหาญบอกให้เขาไปหาคนอื่น…

“แค่ก! แค่ก!” กลั้นความอยากกระอักเลือดไว้ ประธานโอวหยางก้าวออกมาและเอ่ย “นักปรุงยาจางเซวียน นี่คือนักปรุงยาหงหยุ่น ซึ่งเป็นนักปรุงยาระดับ 2 ดาวที่ทางสำนักงานใหญ่ส่งมา…”

“ระดับ 2 ดาวรึ?” จางเซวียนชะงัก เขาค่อยๆเปิดเปลือกตาอันอ่อนล้าขึ้นชำเลืองดูบุคคลที่มาขวางทางเขา และตอบ “ตกลง เชิญท่านถามทุกสิ่งที่ยังข้องใจได้เลย แต่เร็วหน่อยนะ ผมกำลังรีบ…”

“…….” ประธานโอวหยาง

“…….” นักปรุงยาคนอื่นๆ

ท่านผู้นี้มาทดสอบคุณ เหตุใดจึงทำเหมือนเขามาขอปรึกษาและเรียนรู้จากคุณเล่า? ยิ่งไปกว่านั้น…กำลังรีบหรือ? แล้วเงาหัวของตัวเองล่ะ ยังเป็นห่วงบ้างไหม? หากคุณไม่ผ่านการประเมินของเขา อีกฝ่ายมีสิทธิ์ริบเอาตำแหน่งนักปรุงยาคืนได้นะเฟ้ย

ฝูงชนต่างตะลึงกับคำพูดของจางเซวียน ส่วนนักปรุงยาหงหยุ่นก็ผิดหวังนัก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาได้เห็นความสามารถของอีกฝ่ายในผลึกบันทึกแล้วล่ะก็ เขาจะต้องเดือดดาลแน่

“ขณะปรุงยาฟื้นฟูลมหายใจ ระดับ 1, มันมักจะเปลี่ยนเป็นสีออกเหลืองเสมอ ผมอยากถามคุณว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร”

“คุณเรียกตัวเองว่านักปรุงยาระดับ 2 ดาวทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องนี้เลยน่ะหรือ? ยาฟื้นฟูลมหายใจนั้นจะทำให้ผู้กินสามารถเรียกพลังงานที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้ ส่วนประกอบหลักคือหญ้าโต๊ะขาว พืชชนิดนี้มีสีขาว และเมื่อสัมผัสกับพลังปราณของมนุษย์มันจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ปัญหานี้ไม่ได้มาจากตัวสมุนไพร แต่เป็นเพราะพลังปราณของนักปรุงยาที่มีสิ่งปนเปื้อนอยู่มากเกินไป หากผู้ปรุงยามีพลังปราณบริสุทธิ์ สภาวะเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น ในการป้องกันไม่ให้ยาเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผู้หลอมจะต้องใส่หญ้าตะวันเขียวเข้าไประหว่างการหลอม สมุนไพรตัวนี้จะซึมซับเอาสิ่งปนเปื้อนในพลังปราณของผู้หลอมไว้ ป้องกันหญ้าโต๊ะขาวมิให้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง…” จางเซวียนตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย

หน้าหนังสือสีทองได้รวบรวมเอาเนื้อหาจากหนังสือทั้งหมดในหมวดพื้นฐานและหมวดขั้นสูงของหอสมุดสมาคมนักปรุงยาเอาไว้ แม้จะไม่ใช้หอสมุดเทียบฟ้า เขาก็แก้ปัญหาที่อีกฝ่ายถามมาได้อย่างง่ายดาย

อีกเหตุผลก็คือ ฝ่ายนั้นตั้งคำถามเกี่ยวกับยาระดับ 1 มา หากเป็นคำถามที่ซับซ้อนกว่านั้น จางเซวียนก็คงตอบไม่ได้

“ดอกบัวบริสุทธิ์ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของยามีรสขมมาก แต่หากใส่ชะเอมเข้าไปก็จะทำให้ส่วนผสมไม่เสถียร คุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร?” นักปรุงยาหงหยุ่นตั้งคำถามต่อไป

“รสขมของดอกบัวบริสุทธิ์นั้นมาจากเมล็ดสีทองที่อยู่ตรงส่วนยอด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับยา ด้วยเหตุนี้ หากนำมันออกไป ไม่เพียงแต่ยาจะปราศจากรสขมเท่านั้น แต่ยังจะมีรสหวานอ่อนๆด้วย การใส่ชะเอมเข้าไปเป็นเรื่องเกินความจำเป็น และอาจทำให้หม้อต้มยาระเบิดได้”

จางเซวียนจ้องหน้าอีกฝ่ายราวกับเห็นคนปัญญาอ่อน “คุณเป็นนักปรุงยาระดับ 2 ดาว แต่ไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้ไงเนี่ย? นี่ซื้อตำแหน่งมาใช่ป่ะ?”

“….” นักปรุงยาหงหยุ่นโมโหจี๊ด

“ถ้านี่คือปัญหาที่คุณจะถามผม คำตอบมีอยู่ในหมวดหนังสือขั้นสูงในหอสมุดสมาคมนักปรุงยา ถ้าคุณมีเวลาก็ควรไปอ่านหนังสือให้มากกว่านี้ คนทุกคนต้องตั้งใจเรียนหนังสือ อ่านหนังสือให้มากๆอนาคตจะไปได้สวยเอง… เอาล่ะ ผมมีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อน…” จางเซวียนหาวและเดินไปยังทางออก

เขารู้ตัวว่าถ้าไม่ได้นอนพักเร็วๆนี้ จะต้องเพลียจนตายแน่

ได้ยินเช่นนั้น นักปรุงยาหงหยุ่นถึงกับเซ่อไป

เฮ้ย… คุณจะให้ความเคารพผมบ้างได้ไหม ผมระดับสองนะ!

ผมเป็นนักปรุงยาระดับ 2 ดาวจากสำนักงานใหญ่ ผมอยู่ในระดับขั้นที่สูงกว่าคุณ ผู้อื่นต่างปฏิบัติต่อผมด้วยความเคารพ แต่คุณ…แม้จะพูดจากับผมก็ยังแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม ถึงกับบอกให้ผมไปหาคนอื่นและอ่านหนังสือให้มากขึ้น…

อ่านบ้านแกสิ!

นี่ผมกำลังทดสอบคุณอยู่ ไม่รู้หรือ? คำตอบพวกนั้นน่ะแน่นอนว่าผมรู้อยู่แล้ว…

เขาเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจ

“รออีกเดี๋ยว ถ้าคุณตอบคำถามนี้ได้…ผมจะไม่ถามอะไรอีก และจะมอบยาปลดปล่อยพลังหยินกับเลือดแรดยักษ์นี้ให้ฟรีด้วย”

เมื่อพูดจบและกำลังสงสัยว่าอีกฝ่ายจะรับข้อเสนอของเขาหรือไม่

ก็เห็นว่าจางเซวียนมายืนตรงหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว ความเหนื่อยล้าในดวงตาของฝ่ายนั้นหายวับไป แทนที่ด้วยความกระตือรือร้นถึงขีดสุด “คุณพูดจริงหรือ?”

ยาปลดปล่อยพลังหยินกับเลือดแรดยักษ์นั้นมีมูลค่ากว่ายี่สิบสามล้านเหรียญ ถ้าเขาได้ฟรีก็จะเป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดมาก

เขาจะทุ่นเงินไปได้มหาศาล

“คุณ ขี้งกเหลือเกินนะ!” นักปรุงยาหงหยุ่นโกรธจนเคราพะเยิบพะยาบจากการหายใจถี่กระชั้น ตอนที่เขาพูดด้วยก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายไม่เต็มใจแม้แต่จะลืมตา แต่พอได้ยินว่าเขาจะให้ของเหล่านี้ฟรี ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ดูเอาเถิดว่า ในสายตาของอีกฝ่าย นักปรุงยาระดับ 2 ดาวอย่างเขามีค่าน้อยกว่าเหรียญทองกองหนึ่งเสียอีก…

เขาโมโหเดือด

แต่อันที่จริง การกระทำอย่างนั้นของจางเซวียนมิได้มาจากความจงใจ

เขายังคงให้คุณค่ากับสิ่งต่างๆแบบเดียวกับสมัยที่ยังเป็นบรรณารักษ์อยู่ในโลกเก่า เขาเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นานและยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของโลกใบใหม่นี้ดีนัก ดังนั้นจึงไม่รู้ว่านักปรุงยาระดับ 2 ดาวสำคัญอย่างไร ป่วยการจะพูดถึงว่าน่าทึ่งขนาดไหน

สำหรับจางเซวียน นักปรุงยาจะสำคัญไปกว่าเงินได้อย่างไร?

อีกอย่าง เขาได้ใช้สมองและลงแรงไปมากมายเพื่อให้ได้ยี่สิบสามล้านนี้มา

“ปัญหาคือ เมื่อไรก็ตามที่ผมปรุงยาฟื้นฟูพลังชีวิต ก็จะต้องลงเอยด้วยการที่หม้อต้มยาระเบิดเสมอ…” นักปรุงยาหงหยุ่นตั้งคำถาม

เมื่อได้ยินคำถามนั้น โอวหยางเฉิงกับคนอื่นๆต่างมองหน้ากันอย่างพรั่นพรึง

ยาฟื้นฟูพลังชีวิตเป็นยาระดับ 2 ชั้นยอด ใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตที่สูญเสียไป พูดได้ว่าแม้แต่นักปรุงยาระดับ 3 ดาวก็ยังไม่อาจปรุงยาชนิดนี้ได้โดยง่าย

แต่นักปรุงยาหงหยุ่นถามนักปรุงยาระดับ 1 ดาวถึงวิธีการปรุงยาระดับ 2 ชั้นยอด…

หน้าไม่อายอะไรเช่นนี้

เขาล้ำเส้นไปเสียแล้ว

เมื่อเห็นสายตาของคนอื่นๆ นักปรุงยาหงหยุ่นหน้าแดงก่ำ

เรื่องจริงก็คือ เขาตั้งคำถามนี้เพราะความขัดเคืองใจในตัวจางเซวียน เก่งกาจนักใช่ไหม? มาดูกันว่าคุณจะตอบคำถามที่แม้แต่นักปรุงยาระดับ 2 ดาวอย่างผมยังไม่รู้คำตอบได้หรือไม่

ถ้าคุณตอบคำถามของผมไม่ได้ ผมจะให้บทเรียนและทำลายฟองสบู่แห่งความหลงตัวเองของคุณเสีย ผมจะทำให้คุณรู้ว่าวิธีการพูดกับนักปรุงยาระดับ 2 ดาวที่ถูกต้องนั้น เขาทำกันอย่างไร

“ยาฟื้นฟูพลังชีวิตหรือ?” จางเซวียนไม่เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับยาระดับ 2 มาก่อน จึงไม่รู้จักชื่อของมัน เขาคิดว่ามันอาจจะเป็นยาหายากบางขนานที่ไม่มีรายละเอียดบอกไว้ในหนังสือที่อยู่ภายในหอสมุดของสมาคมนักปรุงยาแห่งอาณาจักรเทียนเซวียน

แต่แน่นอนว่าเขาจะรู้หรือไม่ก็ไม่ใช่สาระ เพราะจางเซวียนไม่คิดจะพึ่งพาความรู้ของตัวเองในการตอบคำถามอยู่แล้ว เขาเพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่ถึงครึ่งเดือน

และแม้จะมีหอสมุดเทียบฟ้าที่ทำให้เขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่จะเทียบชั้นกับนักปรุงยาผู้มีประสบการณ์มาหลายทศวรรษ

“ขอผมชมการปรุงยาของคุณ…”

จางเซวียนโบกมือด้วยทีท่ามั่นใจ

“ได้!”

ได้ฟังน้ำเสียงที่ปราศจากความเคารพนับถือ นักปรุงยาหงหยุ่นโมโหเดือดขึ้นมาอีก เขาตัดสินใจจะสั่งสอนจางเซวียนอย่างเจ็บแสบหากจางเซวียนไม่สามารถหาคำตอบที่ดีได้ จากนั้น นักปรุงยาหงหยุ่นเดินไปยังหม้อต้มยา เขานำสมุนไพรสองสามชนิดออกมาจากแหวนเก็บสมบัติของเขา และเริ่มต้นกระบวนการปรุงยา

ยาฟื้นฟูพลังชีวิตเป็นหนึ่งในยาระดับ 2 ดาวที่ขายดีที่สุด ซึ่งนักปรุงยาหงหยุ่นไม่อาจหลอมมันได้สำเร็จ เขาจึงพกเอาส่วนผสมของมันติดตัวไปทุกหนแห่ง พยายามเรียนรู้ทุกเมื่อที่มีโอกาส

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เปลวไฟลามเลียข้างผนังหม้อ กระจายความร้อนให้กับสมุนไพร

ในฐานะนักปรุงยาระดับ 2 ดาว ทักษะของนักปรุงยาหงหยุ่นนั้นเหนือชั้นกว่านักปรุงยาเฉินเสี่ยวและคนอื่นๆมาก ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเปลวไฟหรือการจัดการกับสมุนไพรอย่างประณีต…ไม่มีนักปรุงยาคนใดในที่นี้จะเทียบชั้นกับเขาได้

สมุนไพรนานาชนิดถูกโยนลงไปในหม้อ ด้วยเปลวไฟที่โหมหนักหน่วง ไม่นานกลิ่นของเม็ดยาก็เริ่มโชยออกมา

กลิ่นนั้นได้รับการถ่ายทอดพลังมหาศาลลงไป แม้สูดเพียงครั้งเดียวก็จะรู้สึกมีกำลังวังชา

จางเซวียนถ่างตาอดนอนมาแล้วห้าวันติดต่อกัน และสะสมความอ่อนล้าเอาไว้ เมื่อสูดกลิ่นนั้นเพียงครั้งเดียว เขารู้สึกได้ว่าความอ่อนล้าบางส่วนหายไป นัยน์ตาที่แดงก่ำกลับคืนสู่สภาพปกติ

บึ้ม!

แต่เมื่อกลิ่นของยาเม็ดอบอวลถึงขีดสุด มันก็หายไปอย่างฉับพลัน พลังงานหนักหน่วงพุ่งออกจากภายในหม้อ และเมื่อไม่อาจต้านทานความรุนแรงนั้นได้ หม้อต้มยาก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ

บึ้ม!

เศษเถ้าถ่านของยาส่วนที่เหลือปลิวว่อนออกจากหม้อ

ไม่เพียงแต่เขาจะปรุงยาไม่สำเร็จ แต่มันยังเป็นความล้มเหลวอันน่าพรั่นพรึงที่สุดที่ปรากฏขึ้นระหว่างการปรุงยาอีกด้วย…หม้อต้มยาระเบิด

ถ้าไม่ใช่เพราะฝูงชนได้รับคำเตือนล่วงหน้าและเตรียมตัวไว้แล้ว พวกเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บจากรังสีเข้มข้นที่แผ่ออกมาจากหม้อต้มยาอย่างแน่นอน

โดนแรงระเบิดเข้าไปเต็มๆ นักปรุงยาหงหยุ่นเปื้อนเขม่าไปทั้งตัวและผมเผ้าชี้โด่ชี้เด่ไปทั้งหัวราวกับเพิ่งโดนฟ้าผ่า เขาเอามือไพล่หลังและวางท่าแบบผู้ทรงภูมิก่อนจะหันกลับมาที่จางเซวียน

“ผมทำเสร็จแล้ว บอกมาสิว่ามีอะไรผิดพลาด…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!