บทที่ 1057 มหาบาปแห่งบรรพกาล
ตำหนักวิชาเซียนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา ผู้อาวุโสใหญ่ชุดคลุมสีดำคนนั้นเสียงดุจโลหะเสียดสี ดังไปทั้งลานกว้าง
อีกทั้งเสียงของเขายังแฝงไว้ด้วยเสียงซ้อนทับ เพราะคนที่พูดไม่ใช่แค่เขาที่แก่ชรา แต่ชายกลางคน ชายหนุ่ม เด็กชายข้างหลังเขาต่างพูดทั้งนั้น
ภาพนี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
เห็นได้ว่าชายชราคนนี้ แม้จะไม่มีวิชาเซียนมรดก 6 รากราคะตัณหาของเผ่าปีกมารฝั่งบูรพา แต่วิชาเซียนที่เขาครอบครองก็น่าตื่นตะลึงเช่นกัน
ตอนนี้พูดจบ คทาเวทในมือเขาก็เคาะลงไปกลางความว่างเปล่าข้างล่าง
เสียงเหมือนระฆังดังออกมาทันที แผ่สะท้อนมา
เหมือนสายฟ้าแต่ก็เหมือนเสียงคำรามที่แฝงไว้ด้วยสรรพชีวิตทั้งหลาย ก่อเป็นพลังถล่มภูเขาล่มมหาสมุทรบิดม้วนมิติ ทั่วทุกสารทิศรางเลือน เกิดพลังมหาศาลขึ้นมา
ยิ่งกว่านั้นพื้นของลานกว้างที่ชี้ไป ตอนนี้เสียงดังระเบิดดังก้องขึ้น คลื่นวนขนาดมหึมาลูกหนึ่งพลันปรากฏขึ้นตรงนั้น
หมุนวนไม่หยุด เหมือนเกิดเป็นหลุมดำหลุมหนึ่ง ชี้ไปยังสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้
ภาพนี้ทำให้ตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวของทุกฝ่ายต่างมองมา
สวี่ชิงแม้สีหน้าจะเป็นปกติ แต่ในดวงตากลับฉายแววล้ำลึก
ทูตของภูเขาเจ้าเหนือหัว 9 คนคนอื่นๆ ต่างคล้ายครุ่นคิดไปเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าสำหรับผู้อาวุโสใหญ่ที่เพิ่งออกจากด่านมาไม่นานนี้ มีความรู้ความเข้าใจใหม่
“ตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวทั้งหลาย เพื่อปฏิบัติตามคำสัญญาเก่าแก่โบราณ ขอโปรดนำป้ายออกมา อนุญาตให้ตำหนักวิชาเซียน เปิดเตาหลอม!”
ผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้า มองไปทางทุกฝ่าย เสียงต่ำทุ้ม
ทุกฝ่ายเงียบนิ่ง หลังจากมองซึ่งกันและกัน ทูตจากภูเขาเจ้าเหนือหัวที่ 5 ก็ยกมือ ทันใดนั้นป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นหนึ่งก็ลอยอยู่เหนือศีรษะเขา ส่องประกายแสงเจิดจ้า
จากนั้นตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวลูกอื่นๆ ก็ต่างมีป้ายอาญาสิทธิ์พุ่งออกมา
จากคำสัญญาของตำหนักวิชาเซียนกับภูเขาเจ้าเหนือหัว ตำหนักวิชาเซียนตามหลักแล้วจะต้องอยู่ภายใต้การถ่วงดุลโดยภูเขาเจ้าเหนือหัว ดังนั้นมหาปรมาจารย์ทุกรุ่นล้วนต้องได้รับการยอมรับจากภูเขาเจ้าเหนือหัว
โดยเฉพาะเตาหลอม ‘หลอมเซียน’ ของวิเศษโบราณของตำหนักวิชาเซียนชิ้นนี้ยิ่งมีข้อจำกัดเพิ่มเติมคือมีเพียงป้ายอาญาสิทธิ์เท่านั้นที่จะเปิดมันได้
ในเมื่อ ของวิเศษโบราณชิ้นนี้ที่มาที่ไปไม่ธรรมดา อีกทั้งยังเป็นเพียงชิ้นเดียวของทั้งเผ่าปีกมารอีกด้วย
และก็เป็นสิ่งที่เป็นศูนย์กลางของอำนาจและความชอบธรรมของเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาในอดีตเช่นกัน แม้ว่าวันนี้ตำหนักวิชาเซียนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาจะเสื่อมถอย แต่ไม่ว่าตำหนักวิชาเซียนปีกมารฝั่งประจิมจะวางแผนอย่างไรก็ไม่เคยสัมฤทธิ์ผล
และตำหนักวิชาเซียนเผ่าปีกมารฝั่งบูรพาแม้ตามหลักปฏิบัติแล้วจะถูกถ่วงดุลและจำกัดอำนาจ แต่ความจริงแล้วภูเขาเจ้าเหนือหัวฝ่ายต่างๆ ล้วนให้ความเคารพต่อกิจการภายในของวิหารเวทเซียนอย่างเต็มที่ แทบจะไม่เคยแทรกแซงเลย
ดังนั้น หลังจากที่ตัวแทนภูเขาเจ้าเหนือหัวส่งป้ายอาญาสิทธิ์ขึ้นไป สวี่ชิงก็คิดๆ แล้วเอาป้ายอาญาสิทธิ์ออกมาเช่นกัน
การปรากฏขึ้นของป้ายอาญาสิทธิ์ทั้ง 10 แผ่นสาดประกายแสงเจิดจ้าพร่างพรายพร้อมกัน รวมเป็นทะเลแสง ผสานไปในคลื่นวนที่อยู่ข้างล่าง
ทำให้คลื่นวนนี้สีสันพราวพร่างไปในทันที ในขณะที่ระยิบระยับพร่างพราย เสียงระเบิดครืนครั่นก็น่าครั่นคร้ามกว่าก่อนหน้านี้ ท่ามกลางเสียงสะท้อนที่ดังไม่หยุด ในคลื่นวนมีวัตถุชิ้นหนึ่งลอยขึ้นมา
สิ่งที่ปรากฏออกมาก่อนเป็นกระดูกชิ้นหนึ่ง!
ไม่มีเลือดเนื้อ มีเพียงกระดูก แผ่กลิ่นอายเหี้ยมโหดน่าพรั่นพรึง
จากนั้นก็เป็นฝาขนาดร้อยจั้งอันหนึ่ง…
จากนั้นก็เป็นเตาหลอมขนาดมหึมา
สุดท้ายสิ่งที่ปรากฏท่ามกลางสายตาของคนทั้งหลายก็เป็นเตาหลอมขนาดหลายร้อยจั้งใบหนึ่ง!
เตาหลอมนี้เป็นสีขาว ทั้งใบทำมาจากกระดูก ผิวเตาหลอมสลักไว้ด้วยอักขระโบราณนับไม่ถ้วน ในขณะที่ความเหี้ยมโหดพลุ่งพล่านโหมทะลัก ก็มีความรู้สึกของห้วงกาลเวลาไหลเวียนอยู่บนนั้น
ทันทีที่ปรากฏขึ้น ก็เหมือนมีลมบรรพกาลพัดเอาเสียงคำรามบ้าคลั่งไม่ยอมจำนนมายังโลกปัจจุบัน
ดึงดูดความสนใจและความสะท้านสะเทือนจิตใจของทุกคน
ขั้วอำนาจทุกฝ่ายที่นี่มีจำนวนไม่กี่คนไม่มากที่เคยเห็นเตาหลอมหลอมเซียนใบนี้ปรากฏเมื่อหลายปีก่อน ส่วนคนอื่นๆ แม้จะเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับเตาหลอมใบนี้ แต่เห็นเองกับตาก็นับว่าเป็นครั้งแรก
สวี่ชิงก็ตาจ้องไม่กะพริบเช่นกัน แต่จุดสำคัญที่เขามองไปคือกระดูกชิ้นนั้น
ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่า…คุ้นตานัก!
สวี่ชิงจิตใจสะท้าน ในขณะในสมองมีความคิดที่เหลือเชื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้น ก็มีทูตจากภูเขาเจ้าเหนือหัวคนหนึ่ง จ้องมองมาแล้วกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ
“ผู้อาวุโสใหญ่ เตาหลอมใบนี้ก็คือ 1 ใน 6 เตาหลอมกระดูกที่มหาจักรพรรดิวิชาเซียนเป็นคนสร้างขึ้นอย่างนั้นหรือ”
ผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนได้ยินก็พยักหน้าช้าๆ ในดวงตาฉายประกายเย็นเยือก
“มหาจักรพรรดิวิชาเซียนแม้จะเป็นเผ่ามนุษย์ อีกทั้งหลังจากนั้นก็เลือกที่จะถูกประวัติศาสตร์ลืมเลือน ทำให้ชนรุ่นหลังไม่รู้จักชื่อเสียงของเขา ต่อให้สายวิชาเซียนเราก็ยากจะล่วงรู้”
“แต่ร่องรอยเรื่องราวของมาหจักรพรรดิ พวกเราสายวิชาเซียนไม่มีทางลืมแน่นอน”
“เตาหลอมใบนี้ก็คือ 1 ใน 6 เตาหลอมกระดูก ซึ่งถูกหลอมขึ้นโดยมหาจักรพรรดิวิชาเซียนในช่วงต้นสมัยที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวออกศึกทั่วแผ่นดินต้องประสงค์ โดยเขาได้สังหารมหาบาปไร้เทียมทานทั้ง 6 แห่งยุคนั้นด้วยมือ นำกระดูกของพวกมันมาเป็นวัสดุในการสร้างขึ้น!”
“กระดูกบนนั้นก็คือกระดูกของมหาบาปที่ถูกหลอม”
“ส่วนเตาหลอมกระดูกที่อยู่ข้างหน้าทุกท่านใบนี้ ในยามมีชีวิตไม่รู้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ใด จากตำนานที่เล่าขาน มหาบาปคล้ายทั้งเผ่ามนุษย์แต่ก็เหมือนไม่ใช่เผ่ามนุษย์”
“และตำหนักวิชาเซียนก็ได้มีร่องรอยบันทึกโบราณบอกเล่าเอาไว้ว่ามหาบาปนี้พลังบำเพ็ญยิ่งใหญ่ เทียบได้กระทั่งมหาจักรพรรรดิ โดยเฉพาะความบ้าคลั่งของเขายิ่งสะท้านสะเทือนไปทุกทิศ ความละโมบของเขาก็ชวนให้ขนลุกนัก”
“ตอนนั้นฉวยโอกาสที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวทำสงครามกับหมื่นเผ่า มหาบาปนี้ก็แฝงตัวเข้ามาในเผ่าทั้งหลาย ขโมยของวิเศษต่างๆ โดยเฉพาะครั้งสุดท้าย มหาบาปนี้ได้ขโมยมงกุฏจักรพรรดิของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวไป หลังจากล้มเหลว จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวโมโห ส่งมหาจักรพรรดิวิชาเซียนไปไล่สังหาร”
“ภายหลังมหาจักรพรรดิวิชาเซียนได้วางค่ายกลสังหาร วางแผนล่อ ถึงได้ฆ่าเขาได้สำเร็จ”
“หลอมเป็นเตาหลอม ‘หลอมละโมบ’ สามารถใช้วิชาเซียนหลอมเอาความละโมบของเตาหลอมนี้ออกมาได้”
เสียงของผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนดังก้อง ดังไปในหูของทุกฝ่าย ทำให้ทูตของภูเขาเจ้าเหนือหัวทุกคนต่างสีหน้าเปลี่ยนไป
พวกเขาแม้จะรู้ถึงการมีอยู่ของเตาหลอมใบนี้ แต่ที่มาที่ไปโดยละเอียดเช่นนี้ก็นับเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน
ส่วนสวี่ชิง…
ในใจเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดผุดขึ้น การคาดเดาที่ไม่อยากจะเชื่อนั่นตอนนี้ยิ่งรุนแรง ดังนั้นสายตาจึงมองขึ้นไปบนกระดูกของเตาหลอมใบนี้ มองไปทางเยวี่ยตงที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศ
“หรือว่าเป้าหมายของศิษย์พี่ใหญ่…ก็คือเตาหลอมใบนี้อย่างนั้นหรือ”
ในยามสวี่ชิงครุ่นคิด ผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนหลังจากที่แนะนำเตาหลอมกระดูกเสร็จ 2 มือก็ยกขึ้น
“ข้าในนามผู้รับหน้าที่แทนมหาปรมาจารย์เซียน ขออัญเชิญป้ายอาญาสิทธิ์แห่งภูเขาเจ้าเหนือหัวทั้ง 10 เปิดเตาหลอมกระดูก ณ บัดนี้ หลอมกบฏเยวี่ยตงให้เป็น…ลูกกลอนเซียน 6 ราก!”
“เตาหลอม จุดเพลิง!”
คำพูดเพียงดังออกมา เตาหลอมกระดูกมหึมาก็สั่นไหวเสียงดังวู้มๆ ทันที
ทะเลสาบสีขาวที่ตำหนักวิชาเซียนตั้งอยู่ตอนนี้เดือดพล่าน จะแปรเปลี่ยนน้ำในทะเลสาบให้กลายเป็นทะเลเพลิงสีขาว
และไฟนี้ยิ่งรวมมาทะลักเข้าไปในตำหนักวิชาเซียน ทะลักเข้าไปในลานกว้าง ทะลักไปใต้เตาหลอมกระดูก
ลุกโชติช่วง
ภาพนี้ทรงพลังยิ่งใหญ่เกรียงไกร และผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนตอนนี้ดวงตาฉายประกายประหลาด คทาเวทในมือชี้ไป คำรามเสียงต่ำออกมา
“เตาหลอม เปิด!”
เพียงพริบตา ฝาของเตาหลอมใบนี้ก็ส่งเสียงดังกว่าเดิมออกมา เปิดไปข้างๆ อย่างช้าๆ เปลวเพลิงมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากในเตาหลอม ปกคลุมเยวี่ยตงที่ถูกแขวนอยู่ข้างบนเอาไว้
โซ่ที่อยู่รอบๆ ตัวเยวี่ยตง อยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงนี้ก็หลอมละลายทันที
ดังนั้นร่างของเยวี่ยตงจึงร่วงลงมาทันใด เปลวเพลิงเพียงหอบม้วนก็ถูกกลืนกินไปในเตาหลอม!
สวี่ชิงลังเล สะกดความวู่วามที่จะลงมือเอาไว้ได้ เขาเลือกที่จะเชื่อศิษย์พี่ใหญ่
ขณะเดียวกัน ผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียนเพียงก้าวก็มาอยู่บนเตาหลอม ชุดคลุมดำทั้งร่างพอง ภายใต้การจับตามองจากทุกฝ่าย เขาสูดลมหายใจลึก มือซ้ายยกขึ้นแล้วพลันคว้าไปยังร่างวัยกลางคนที่อยู่ข้างหลัง
จากการคว้านี้ เงาร่างวัยกลางคนของเขาก็แหลกละเอียดไปในทันที เลือดเนื้อกลายเป็นลมกลุ่มหนึ่ง มาอยู่ที่มือของผู้อาวุโสใหญ่
“ชักนำวายุแห่งดวงดาวที่แตกสลายจากห้วงดารา ใช้มันบดขยี้เรือนร่างให้พินาศ!”
ทันทีที่ลมนี้ปรากฏขึ้น รอบข้างส่งเสียงเลื่อนลั่น ในนั้นแฝงไว้ด้วยพลังน่าหวาดกลัว ทำให้หลังจากที่ทุกคนสัมผัสแล้วต่างสีหน้าเคร่งขรึม
ส่วนทางผู้อาวุโสใหญ่ทางนั้น มือซ้ายก็สะบัดไปตามแรง ส่งสายลมแห่งดวงดาวที่แหลกสลายในมือเข้าไปในเตาหลอม
เตาหลอมส่งเสียงครืนครั่นเลื่อนลั่น
เนื่องจากตอนนี้เตาหลอมเปิด ดังนั้นทุกฝ่ายสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เยวี่ยตงที่อยู่ในนั้น ภายใต้สายลมแห่งดวงดาวแหลกสลายนี้ ก็สลายไปอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า
จากนั้น ร่างหนุ่มที่อยู่ข้างหลังผู้อาวุโสใหญ่ จากการคว้าของเขาก็แหลกสลายไปเช่นกัน เลือดเนื้อกลายเป็นของเหลวสีดำ
“ดึงสายน้ำไม่เหือดแห้งจากนรกทมิฬ มาใช้หลอมรวมดวงจิต!”
น้ำสีดำไหลเข้าไปในเตาหลอม
กายเนื้อที่กำลังแหลกสลายของเยวี่ยตงถูกน้ำสีดำสาดลงไป สีหน้าของนางบิดเบี้ยวทันที คล้ายว่ากำลังแบกรับความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้
นั่นคือความเจ็บปวดที่วิญญาณถูกหลอม
สวี่ชิงสีหน้าคร่ำเคร่ง หลังจากที่มองอย่างละเอียดแล้วก็สะกดเอาไว้ได้
และพิธีของผู้อาวุโสใหญ่ก็ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อวันนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมการมานานมาก
ใช้เลือดเนื้อในช่วงอายุแตกต่างกันไปที่แปลงมาจากวิชาเซียนของตัวเอง เป็นภาชนะรองรับวัสดุหลอมเซียนของเขา
ดังนั้น ในขณะการสำแดงวิชาของเขา ร่างเด็กที่อยู่ข้างหลังก็พลันแตกสลาย
แปรเปลี่ยนเป็นเสียงคำราม
“เรียกเสียงคำรามแห่งความไม่ยอมจำนนในยามบรรพกาล ใช้มันปลุกเซียน!”
เสียงคำรามนี้ดังเข้าไปในเตาหลอม
เยวี่ยตงสะท้านเฮือก เส้นไหม 7 อารมณ์ 6 ปรารถนา จากไร้รูปร่างเปลี่ยนมามีรูปร่าง ถูกเรียกออกมา
ผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักวิชาเซียน คทาเซียนที่ร่างหลักแห้งเหี่ยวถือไว้ ตอนนี้สาดกะพริบแสงสายฟ้า อัสนีมากมายแลบแปลบปลาบอยู่บนคทาเวทเล่มนี้
เพียงพริบตา คทาเวทแตกร้าว เลือดเนื้อกระเซ็นออกมา
คทาเวทนี้หลอมขึ้นมาจากเลือดเนื้อวิชาเซียนของผู้อาวุโสใหญ่นั่นเอง
ตอนนี้เลือดเนื้อทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้า พุ่งตรงไปยังเตาหลอม
“ชักนำสายฟ้าแห่งนิรันดร์จากกลางห้วงอนธการ นำมาหลอมรวมเป็นผนึก!”
ยังไม่จบแค่นั้น ผู้อาวุโสใหญ่ดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง สำแดงกระบวนท่าสุดท้าย
ก็ยังคงเป็นไฟ!
พื้นดินไหวสั่น ในคลื่นวนที่เตาหลอมปรากฏออกมาตอนนี้มีเกล็ดปลา 8 เกล็ดพุ่งออกมา
ทุกเกล็ดล้วนมีลวดลายกะพริบวูบวาบ ดูเหมือนกันแต่สีที่สาดส่องออกมากลับไม่เหมือนกัน
จับกลุ่มเข้าด้วยกันเกิดเป็น 8 สี
หลังจากสีที่ 7 ก็มีสีดำเพิ่มเข้ามา!
และรวมกับไฟสีขาวที่แปรเปลี่ยนมาจากทะเลสาบสีขาว ดังนั้นสี…จึงมีทั้งหมด 9 สี
ไฟ 9 สีพุ่งเข้าไปในเตาหลอม พลังในการเผาก็ปะทุลุกโชนขึ้นมาทันที!
นี่คือเพลิงชิงเซียน ประวัติเก่าแก่โบราณ เป็นวิชาใช้เพื่อลงโทษคนทรยศในตำหนักวิชาเซียน
ส่วนพิธีของผู้อาวุโสใหญ่ นั่นคือลม ฝน สายอัสนี!
ตอนนี้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว มือขวาของเขายกขึ้น
“เตาหลอม ผสาน!”
เขาจะปิดเตาหลอมกระดูกใบนี้ เริ่มทำการหลอมสุดท้าย
สวี่ชิงมองภาพเหล่านี้ แม้ว่าในใจแต่เดิมจะมั่นใจว่าศิษย์พี่ใหญ่จงใจ แต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจแล้ว ทุกอย่างสมจริงเกินไป
“จะปล่อยให้ผู้อาวุโสใหญ่คนนี้ลงมือต่อไปไม่ได้แล้ว!”
สวี่ชิงในใจตั้งใจเด็ดเดี่ยว กำลังจะลงมือ
แต่ในตอนนี้เอง เหตุการเปลี่ยนแปลงน่าตื่นตะลึงก็เกิดขึ้น!
ในเตาหลอมที่กำลังจะปิดลงนั่น ศีรษะที่เยวี่ยตงที่ถูกหลอมจนเหลือแค่นั้น ดวงตาทั้ง 2 ที่ปิดสนิทมาตลอด ในเสี้ยวขณะนี้พลันลืมตาขึ้นมา
ในดวงตาฉายความบ้าคลั่งท่วมฟ้าออกมา
“ไอ้แก่ สิ่งที่ข้ารอเจ้าก็คือตอนนี้นี่แหละ!”
ในขณะที่เยวี่ยตงเอ่ยขึ้น ก็พ่นเลือดสดๆ คำหนึ่งออกมาจากปาก
เลือดนี้ไม่ใช่ของเยวี่ยตง แต่มาจากผู้อาวุโสใหญ่
เยวี่ยตงแอบเก็บเอาไว้จากการต่อสู้กับผู้อาวุโสใหญ่เมื่อก่อนหน้านี้
เช่นนี้แล้ว ชายกลางคน วัยหนุ่ม วัยเด็กที่เกิดขึ้นจากผู้อาวุโสใหญ่และเลือดเนื้อจากคทาอำนาจของตัวเอง รวมกับเลือดคำนั้น…
ตอนนี้ในเตาหลอมใบนี้ ก็เท่ากับว่ามีวัตถุที่เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสใหญ่ 5 อย่างแล้ว
นี่ก็ตรงกับเงื่อนไขหนึ่งในเคล็ดวิชาลับของเอ้อร์หนิวแล้ว!
5 โคสืบย้อนพลังต้นกำเนิด!
วิชานี้สามารถกระชากอีกฝ่ายมายังข้างหน้าตัวเองได้อย่างไม่อาจขัดขืน!
เสี้ยวขณะต่อมา ในเตาหลอมมีคลื่นวนเกิดขึ้น ในยามที่ส่งเสียงเลื่อนลั่น พลังดูดก็เพิ่มอย่างมหาศาล ขณะเดียวกัน เตาหลอมใบนี้ กระดูกก็พลันสาดแสงวาบขึ้นมาในเสี้ยวขณะนี้ คล้ายว่าถูกสั่นพ้อง เพิ่มพลังให้มัน
ดังนั้น นอกเตาหลอม ทันทีที่สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ตำหนักเซียนเปลี่ยนไป ร่างของเขาจากวิชาลับที่ได้รับการเพิ่มพลังก็พลันหายไป
ในยามปรากฏตัวขึ้น…ก็มาอยู่ในเตาหลอมแล้ว!
เสี้ยวขณะต่อมา ฝาเตาหลอมก็ปิดลงมาทันที!
ภาพนี้ทำให้ฝ่ายต่างๆ ข้างนอกต่างจิตใจเกิดระลอกคลื่น มีตัวแทนของภูเขาเจ้าเหนือหัวหลายคนที่ยิ่งหน้าเปลี่ยนสี ผุดลุกขึ้นมาทันที
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)
