Skip to content

Outside Of Time 532

บทที่ 532 ปลัดเขตปกครอง โปรดชี้แนะ!

สวี่ชิงช่วงยี่สิบวันนี้ ขณะที่ใช้เหตุผลมากมายนับไม่ถ้วนเกลี้ยกล่อมตัวเอง อันที่จริงก็ยังไม่อาจควบคุมตนเองให้ไปคิดถึงบทสรุปอื่นได้

เขาจึงรู้มาโดยตลอด หากตนก้าวออกมา เช่นนั้นภัยพิบัติที่รอตนอยู่ จะแบ่งออกเป็นสามความเป็นไปได้

ความเป็นไปได้แรก หลังจากที่ตนปรากฏตัวก็จะถูกสังหารทิ้งอย่างรวดเร็ว แม้มีความเป็นไปได้นี้ แต่ก็ไม่มากนัก

ถึงอย่างไรท่ามกลางสายตาคนทั้งหมด แม้ว่าตนจะคัดค้าน แต่การคัดค้านไม่ใช่การสร้างความวุ่นวาย

จึงมีความเป็นไปได้ที่สอง นั่นก็คือถูกคาดโทษและจับกุม หลังจากนี้จะเป็นหรือตายก็อยู่ที่ชั่วความคิดของคนอื่น

ส่วนความเป็นไปได้ที่สาม ก็คือทั้งหมดราบรื่น แต่จากนั้นก็จะมีภัยแฝงเร้นขนาดใหญ่ และก่อให้เกิดหายนะไร้ที่สิ้นสุด

แน่นอนว่าในปัจจัยที่เขาล้มเหลวแล้ว

ดังนั้น ตอนที่สวี่ชิงก้าวออกมาอันดับแรกก็พูดว่าตนจักรพรรดิหยั่งใจหมื่นจั้ง ใช้เรื่องนี้ลบล้างความเป็นไปได้แรกออก ส่วนการปรากฏตัวและคุ้มกันของพวกรองเจ้าวังในอันดับต่อมา ไม่อยู่ในความคาดคิดของเขา

สิ่งนี้ทำให้เขาผ่านช่วงแรกไปได้อย่างราบรื่น จากนั้นตอนที่เขาเอ่ยถึงคำสั่งเสียเจ้าวังครองกระบี่ และหยิบแผ่นหยกออกมายืนยันพร้อมรายงาน เขาก็ผ่านช่วงที่สองไปแล้ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการตัดสินชี้ขาดแล้ว แต่คำพูดของสวี่ชิงก็ไม่ได้หักล้างการชี้ขาดก่อนหน้านี้ และใช่ว่าเข้าข้างโหวเหยา แต่ยิ่งเพิ่มข้อสงสัยให้เผ่ามนุษย์เขตปกครองผนึกสมุทรเข้าใจรายละเอียดได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

แม้ปลัดเขตปกครองจะได้ใจประชาชนไปอย่างท่วมท้น แต่ก็ยังเทียบกับเจ้าเขตปกครองคนเก่าไม่ได้

ส่วนคุณความดีอันยิ่งใหญ่ของเจ้าวัง ผู้คนก็ไม่ได้ลืมเลือนไปจากความทรงจำอย่างง่ายดายเช่นนั้น

สวี่ชิงใช้คำพูด ย้ายภูเขาขนาดใหญ่สองแห่งนี้ออกไป ผนวกกับสถานะจักรพรรดิหยั่งใจหมื่นจั้งของตน แลกมาซึ่งโอกาสในการเอ่ยปากตอนนี้

ด้านหน้า สั่นคลอนประชาชนเมืองหลวงเขตปกครอง

ด้านหลัง สั่นคลอนผู้บำเพ็ญผนึกสมุทรที่ร่วมสงคราม

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าเพราะอะไรปลัดเขตปกครองจึงมองสวี่ชิงอย่างล้ำลึก ราวกับทำความเข้าใจตัวเขาใหม่อีกครั้งในตอนสุดท้าย

เพราะหากสวี่ชิงเอ่ยปกป้องโหวเหยาขึ้นมาเพียงเล็กน้อย หักล้างการตัดสินชี้ขาดก่อนหน้านี้ เช่นนั้นเขาก็สยบได้ในพริบตา

เวลานี้ ฟ้าดินก็เงียบสงัด

ในโอกาสที่ตนเองสร้างขึ้นมา ท่ามกลางสายตาของคนมากมายที่จับจ้อง ภายใต้การรวมตัวของกวานพลังดวงชะตาเหนือศีรษะ สวี่ชิงยืนอยู่กลางอากาศ สูดลมหายใจลึก

เขาเข้าใจ เวลานี้ทุกประโยคที่ตนพูดออกมาล้วนสำคัญมาก จะให้เกิดรูรั่วใดขึ้นไม่ได้ หากพูดผิดเพียงประโยคเดียว จะย้อนกลับไปอีกไม่ได้ตลอดกาล

เขาจึงนิ่งเงียบไปหลายช่วงอึดใจ จ้องปลัดเขตปกครองเขม็ง เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ

“เดือนสี่ปีนี้ เจ้าเขตปกครองคนเก่าดับสูญอย่างลึกลับ ในขณะเดียวกันเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าโจมตี ความสงบสุขแปดร้อยปีของเขตปกครองผนึกสมุทรถูกทำลายลงด้วยเหตุนี้ เผ่าฟ้าทมิฬรุกรานดินแดนจักรพรรดิเผ่ามนุษย์ ขัดขวางเจ้าเขตปกครองคนใหม่และกองหนุนที่ส่งมา ทำให้เขตปกครองผนึกสมุทรโดดเดี่ยวไร้การช่วยเหลือ ลมพายุโหมกระหน่ำ ผู้คนหวาดผวา

“เจ้าวังครองกระบี่รับคำสั่งในช่วงอันตราย ให้วังครองกระบี่รับหน้าที่คุ้มครองเขตปกครอง พิทักษ์เขตปกครองผนึกสมุทร

“ในเดือนเดียวกัน ข้าใช้สถานะอาลักษณ์ ติดตามข้างกายเจ้าวังจัดการรายงานสงคราม ปลายเดือนสี่ แนวหน้าเขตปกครองผนึกสมุทรขอความช่วยเหลือเร่งด่วน เจ้าวังนำกองทัพใหญ่เขตปกครองผนึกสมุทร ปกป้องเผ่ามนุษย์เขตปกครองผนึกสมุทร ปฏิบัติตามคำสาบานของผู้ครองกระบี่ ตรงไปยังแนวหน้าด้วยตนเอง ตอนนั้น ข้าเป็นคนสวมเกราะให้กับเจ้าวัง”

เสียงของสวี่ชิงดังก้องไปแปดทิศ คำพูดนี้ใช่ว่าไร้ความหมาย เขาต้องขุดความทรงจำของคนนับแสนในที่แห่งนี้ขึ้นมา เขาต้องทำให้ประชาชนในเมืองหลวงเขตปกครองระลึกถึงภาพในครึ่งปีก่อนหน้านี้

ต้องให้พวกเขาได้รู้ ว่าใครที่ปกป้องทั้งหมดเอาไว้ในตอนนั้น

“ก่อนเจ้าวังเดินทางไป ไม่ได้ให้ข้าติดตามไปด้วย แต่ใช้ตัวแทนอำพราง ส่งข้าไปที่มณฑลประกายอรุณลับๆ เพื่อตรวจสอบสาเหตุการตายของเจ้าเขตปกครองคนเก่า

“เจ้าวังสงสัยว่าสาเหตุการตายเจ้าเขตปกครองคนเก่านั้นมาจากลูกกลอนเม็ดหนึ่งที่ชื่อว่าประกายเคราะห์ชะตาชีวิต ลูกกลอนนี้มีชื่อมาแต่โบราณ มีประวัติศาสตร์ที่ตรวจสอบได้ สรรพคุณของมันคือระเบิดคนที่รวบรวมดวงชะตาเอาไว้ ยิ่งดวงชะตาเข้มข้น พลังทำลายล้างก็ยิ่งมาก

“เจ้าเขตปกครองคนเก่ารวมดวงชะตาผนึกสมุทรเอาไว้ ภาพการตายของเขาสอดคล้องกับพิษแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต”

“ส่วนเพราะอะไรเจ้าวังจึงคิดถึงลูกกลอนแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต ในบันทึกอักษรลับสิบเก้าม้วนของวังครองกระบี่มีบันทึกไว้ บันทึกนี้ข้าไม่รู้ว่ายังอยู่หรือไม่ แต่ต่อให้ไม่อยู่แล้ว ก่อนที่เจ้าเขตปกครองตาย วังครองกระบี่มีภารกิจให้ไปรับตัวสายลับเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ ได้รับกล่องปรารถนาว่างเปล่ามาใบหนึ่ง คนที่เข้าร่วมมีอยู่ไม่น้อย ล้วนเป็นพยานให้ได้

“แต่การใช้ลูกกลอนแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต จำเป็นต้องทำเงื่อนไขหนึ่งให้ได้ นั่นคือต้องมีแสงประกายอรุณหนึ่งสาย บางทีนอกเขตแดนอาจจะมี แต่มณฑลประกายอรุณของเขตปกครองผนึกสมุทรก็มีเช่นกัน เจ้าวังจึงให้ข้าไปที่นั่น ตรวจสอบว่ามีแสงประกายอรุณที่ถูกไม่มีการจดบันทึกหรือไม่

“ทั้งหมดที่ข้าพูด อยู่ในแผ่นหยกนี้ มีการบันทึกไว้อย่างชัดเจน!

“จากนั้นข้าจึงทำตามคำสั่งเจ้าวัง มุ่งตรงไปยังมณฑลประกายอรุณ คลี่คลายวิกฤตของโถงครองกระบี่ที่มณฑลประกายอรุณ ตรวจสอบที่นั่นจนได้หลักฐาน เรื่องนี้โถงครองกระบี่มณฑลประกายอรุณเป็นพยานได้ ร่องรอยตลอดทางก็เป็นหลักฐานได้ ข้าก็มีแผ่นหยกบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานได้เช่นกัน ส่วนบทสรุป คือในมณฑลประกายอรุณ มีแสงประกายอรุณสายหนึ่งปรากฏขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีการบันทึกเอาไว้”

เมื่อสวี่ชิงเอ่ยออกมา ข่งเสียงหลงลอยตัวขึ้นมาจากพื้น เอ่ยเสียงดัง

“ข้าเข้าร่วมภารกิจรับตัวสายลับ ข้าเป็นพิสูจน์การมีอยู่ของบันทึกอักษรลับสิบเก้าม้วนรวมถึงกล่องปรารถนาที่ว่างเปล่าได้ เนื้อหาตรงตามสิ่งที่สวี่ชิงพูดไม่ผิดเพี้ยน!”

ชั่วพริบตา กองทัพใหญ่นับแสนบนแท่นพิธีพากันสูดลมหายใจ คนธรรมดาทั้งเมืองหลวงเขตปกครองก็สั่นสะท้านขึ้นมา

องค์ชายเจ็ดเก็บงำสายตา ปลัดเขตปกครองสีหน้าไร้อารมณ์

สวี่ชิงสูดลมหายใจ พูดต่อ

“ข้ารายงานทั้งหมดนี้กับเจ้าวังแล้ว ในเดือนเดียวกัน เจ้าวังก็สู้จนตัวตาย ข้าจึงแอบทำการตรวจสอบต่อ”

สวี่ชิงพูดถึงจุดนี้ ปลัดเขตปกครองถอนใจแผ่วเบาออกมา

“สหายเลี่ยงซิว ก็คิดเหมือนกับข้าสินะ”

สวี่ชิงดวงตาแข็งค้าง

สายตาปลัดเขตปกครองเบนจากสวี่ชิง มองไปทางกองทัพใหญ่นับแสนนั่น ในน้ำเสียงแฝงความปวดร้าวเล็กน้อย

“สิ่งที่สวี่ชิงพูด ก็เป็นสิ่งที่ข้าคิดอยู่ในใจ ข้าเคยเห็นบันทึกอักษรลับสิบเก้าม้วนนั่น

“อันที่จริงตั้งแต่ต้นจนจบ หาใช่เพียงสหายเลี่ยงซิวที่กำลังตรวจสอบ ข้าก็ตรวจสอบอย่างลับๆ เช่นกัน แต่เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ข้ามีความลังเลอยู่เล็กน้อยมาโดยตลอด พลังบำเพ็ญเจ้าเขตปกครองสูงส่ง ใครจะวางยาโดยที่เขาไม่รู้ตัวได้เล่า

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายเจ้าเขตปกครอง เจ้าเขตปกครองก็เป็นทั้งสหายร่วมงานและยังเป็นสหายสนิทของข้า ยิ่งเป็นวีรบุรุษแห่งเขตปกครองผนึกสมุทร ข้าหวังว่าจะรู้สาเหตุการตายของเขาที่ถูกต้องได้ มีเพียงเช่นนี้ พวกเราจึงจะล้างแค้นให้เขาได้อย่างแท้จริง!

“จวบจนสงครามก่อนหน้านี้ยุติลงชั่วคราว ในที่สุดข้าก็มีเบาะแสบางส่วน และประกาศออกมาหมดแล้วเช่นกัน ทว่าที่สวี่ชิงกล่าวมาก็มีเหตุผล ควรจะให้เผ่ามนุษย์ในเขตปกครองผนึกสมุทรได้รู้ความจริง”

ปลัดเขตปกครองพูดจบ ก็ยกมือขวาขึ้นโบก ฉับพลันกระดานหมากล้อมก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ

บนกระดานนี้มีหมากที่ยังเล่นไม่จบอยู่ ตัวหมากขาวดำบนนั้น กำลังประหัตประหารกัน

“นี่คือกระดานหมากล้อมของเขตปกครอง ผู้ลงหมากนี้ปกตินอกจากเจ้าเขตปกครองแล้ว ยังมีข้า สหายเลี่ยงซิวรวมถึงเหยาเทียนเยี่ยน

“มีแค่พวกเราสี่คน ที่เคยสัมผัสกระดานนี้”

ดวงตาปลัดเขตปกครองฉายแววย้อนรำลึก ถอนหายใจเสียงแผ่วเบา หันหลังประสานหมัดให้องค์ชายเจ็ดข้างๆ

“ต้องรบกวนฝ่าบาท ทำเช่นเดียวกับตอนที่พวกเราค้นพบความลับการวางยาพิษในวันนั้นด้วย ใช้เลือดจักรพรรดิ สำแดงเคราะห์ดวงชะตา”

องค์ชายเจ็ดสีหน้าไร้อารมณ์ หลังจากมองปลัดเขตปกครองผาดหนึ่ง ก็ยกมือขึ้นกัดปลายนิ้ว เลือดสดสีแดงหยดหนึ่ง จะหยดลงไปที่กระดานหมากล้อม

เลือดสดหยดนั้นแฝงสายโลหิตที่น่าตกตะลึงไว้ ทำให้เผ่ามนุษย์ทั้งหมดร่างสั่นเทิ้มตาม พริบตาต่อมา เลือดหยดนี้ก็หยดลงไปบนกระดานหมากล้อม

ฉับพลันกระดานหมากล้อมก็เหมือนถูกเลิกผ้าคลุมหน้า มีปราณดำเป็นกลุ่มๆ ฟุ้งออกมา เมื่อมองอย่างละเอียดก็จะเห็นว่าต้นกำเนิดปราณดำนี้มาจากตัวหมาก

“ปราณดำนี้ ก็คือพิษของแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต ข้ามองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้ เจ้าเขตปกครองก็เช่นกัน มีเพียงต้องใช้สายโลหิตของจักรพรรดิเสวียนโยวแห่งแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ถึงทำให้ปรากฏออกมาได้”

“คนที่วางพิษ ก็ใช้กระดานหมากล้อมนี้”

เมื่อปลัดเขตปกครองเอ่ยออกมา รอบด้านก็สั่นสะเทือน

ภาพนี้สมจริงมาก

ส่วนปลัดเขตปกครองตอนนี้ก็ขมขื่น มองฟ้าดินอย่างอาลัยอาวรณ์ เอ่ยเสียงแผ่ว

“อันที่จริง ปลัดเขตปกครองอย่างข้า เดิมหลังจากตัดสินใจรับช่วงต่อเจ้าเขตปกครอง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้รักษาการณ์คนสุดท้ายแก่เขตปกครองผนึกสมุทร ใช้ชีวิตที่เหลือไม่มากนี้ อบรมสั่งรองเจ้าวังหนึ่งในสามคนให้รับช่วงต่อ หลี่อวิ๋นซาน เจ้าเป็นตัวเลือกแรกของข้าเลยนะ”

พูดจบ ปลัดเขตปกครองก็ยกมือขึ้น ฉับพลันปราณเลือดก็แผ่ขยายไปตามนิ้วเขาอย่างรวดเร็วจากการที่เลือดจักรพรรดิหยดนั้นที่กระดานหมากล้อมยังไม่สลายไป จุดที่แล่นผ่าน ปราณดำเข้มข้นก็ปรากฏขึ้นบนร่างปลัดเขตปกครอง

จนหลังจากที่ปราณเลือดกวาดผ่าน ปลัดเขตปกครองที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็มีปราณดำปกคลุมทั้งร่าง เห็นเส้นสีดำแต่ละทางบนผิวหนัง ลักษณะของมัน…คล้าคลึงกับภาพมายาก่อนที่เจ้าเขตปกครองจะแตกดับมาก

“เพราะ ข้าก็ติดพิษเช่นกัน

“ข้าเคยจับตัวหมากของกระดานหมากล้อมนั่น และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ก่อนจะเกิดสงคราม ข้าก็เพียรพยายามมาโดยตลอด

“สวี่ชิง มีครั้งหนึ่งที่เจ้ามาขอเข้าพบข้าก็เห็นความอิดโรยของข้าไม่ใช่หรือ ข้ารู้ดีว่าพิษนี้ไม่มียาถอนพิษ ตอนนั้นข้าจึงบอกกับบ่าวรับใช้ว่าข้าไม่รับยาแล้ว

“เจ้าเขตปกครองแตกดับ สหายเลี่ยงซิวแตกดับ ข้าก็อยู่ได้อีกไม่นาน มีแต่เหยาเทียนเยี่ยนที่หนีไป แล้วใครเป็นคนร้ายเล่า”

ปลัดเขตปกครองยื้มขื่น

คำพูดของเขาดังกึกก้อง ปราณดำที่ปรากฏขึ้นบนร่างราวกับสายอัสนีพันหมื่นสาย ฟาดผ่าลงมากลางแท่นพิธี ฟาดผ่าลงมากลางเมืองหลวงเขตปกครอง ครืนครันไปหมด

ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนหวั่นไหว

แม้แต่ในใจสวี่ชิงก็โหมระลอกคลื่นกระหน่ำซัด ความศรัทธาอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่แต่เดิมของเขาเวลานี้เริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย

“สวี่ชิง เจ้าเป็นเด็กดี เรื่องในวันนี้ ยิ่งพิสูจน์ว่าเจ้ามีจิตใจและคุณธรรมหมื่นจั้งจริงๆ ดีมาก ดีมาก” ปลัดเขตปกครองเอ่ยเสียงแผ่ว สีหน้าอบอุ่น

“เช่นนั้นตอนนี้ จิตใจหมื่นจั้งของเจ้า ยินยอมให้ข้ากลายเป็นเจ้าเขตปกครอง ปกป้องพวกเจ้านับจากนี้หรือไม่”

สวี่ชิงเงียบนิ่ง

ประโยคนี้ คนที่ได้ฟังทั้งหมด ล้วนเห็นเป็นความเมตตากรุณา มีเพียงองค์ชายเจ็ดข้างๆ ที่เมื่อได้ยิน ความกริ่งเกรงปลัดเขตปกครองคนนี้ในใจก็เพิ่มขึ้นถึงสามส่วน

จักรพรรดิหยั่งใจเจ้าได้หมื่นจั้งแล้วอย่างไร

เจ้าเผชิญหน้ากับผู้คนนับหมื่นอย่างกล้าหาญแล้วอย่างไร

ในเมื่อข้าไม่ได้ลงมือเพราะอับอายจนโกรธเคือง ไม่เคยสังหารใครอย่างลนลาน ข้าแค่พูดคุยกับเจ้าด้วยเหตุผล จากนั้น…ข้าแค่อยากได้ยินคำว่า “ได้” จากปากเจ้าเท่านั้น

ใช้ใจประชาชน กดข่มใจหมื่นจั้งของเจ้า

ผืนแผ่นดินนิ่งเงียบสงัด สายตานับไม่ถ้วนมองไปทางสวี่ชิง

นายกองสีหน้าเหี้ยมเกรียมเล็กน้อย หนิงเหยียนหดหัวในดวงตาฉายแววหวาดหวั่น ชิงชิวสีหน้าไร้อารมณ์แต่กำเคียวแน่นขึ้น

ในฝูงชน คนที่เคยแสดงความไม่พอใจกับความเย่อหยิ่งจองหองของสวี่ชิง เวลานี้ก็ขมวดคิ้ว จ้องปลัดเขตปกครองเขม็ง แผ่ความไม่เป็นมิตรออกมา

ใต้แท่นพิธี แม่ทัพเสี่ยเหยี่ยนที่สวมหน้ากาก ขยับเท้าขวาเล็กน้อย เหมือนจะก้าวออกมา…

แต่ตอนนี้เอง สวี่ชิงก็ยกมือขึ้น เอ่ยเสียงแผ่วเบา

“หลังจากเจ้าวังแตกดับ ข้าได้ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ เพราะข้าคิดว่าแค่เบาะแสอย่างแสงประกายอรุณพบยังไม่สามารถอธิบายสาเหตุการตายของเจ้าเขตปกครองคนเก่าว่าเกิดจากลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิต เพราะเจ้าเขตปกครองคนเก่าเป็นถึงครึ่งก้าวเตรียมสู่เทวะ จะวางยาเขาเป็นเรื่องยากเกินไป”

คำพูดของสวี่ชิงทำให้คนไม่น้อยขมวดคิ้ว เหมือนเขาในตอนนี้ลืมเรื่องทั้งหมดที่ปลัดเขตปกครองกล่าวก่อนหน้านี้ และมองไม่เห็นปลัดเขตปกครองที่มีปราณดำกระจายทั่วร่างด้วย เขาเอ่ยต่อจากที่ตนเองถูกตัดบทไปก่อนหน้า

“ตอนแรกข้าใคร่ครวญว่าวางยาพิษกับเจ้าเขตปกครองคนเก่าอย่างไร้ซุ่มเสียงได้อย่างไร ข้าก็ถนัดวิถีโอสถแต่กลับไม่มีคำตอบ ทว่าข้านึกถึงกลิ่นที่คล้ายกับดอกกุ้ยด้านในกล่องปรารถนา

“จนเมื่อยี่สิบสามวันก่อน หลังจากที่ข้ากลับมาจากแดนต้องห้ามเซียน ข้าได้กลิ่นที่คล้ายๆ กันจากลูกกลอนแก่นแท้เม็ดหนึ่ง”

ขณะที่คำว่าลูกกลอนแก่นแท้ออกมาจากปากสวี่ชิง ม่านตาของปลัดเขตปกครองก็หดลงเล็กน้อยอย่างไม่ทันได้สังเกต จากนั้นก็เอ่ยราบเรียบว่า

“ถึงแม้ข้าจะไม่คิดว่าลูกกลอนแก่นแท้เป็นคุณูปการยิ่งใหญ่มาโดยตลอด แต่เจ้าใช้สิ่งนี้มาเป็นเหตุผล ทำให้ข้ารู้สึกอับอาย ตบปากตนเองหนึ่งครั้งเสีย”

จากเสียงที่เอ่ยออกมา พลังหวนสู่อนัตตาวูบหนึ่งก็ปะทุออกมาขณะที่ปลัดเขตปกครองโบกแขนเสื้อ พุ่งไปหาสวี่ชิงในพริบตา

สีหน้ารองเจ้าวังเปลี่ยนไป ต้านทานสุดกำลัง แต่ยังไม่ใช่คู่มือของปลัดเขตปกครองที่ครึ่งร่างมีดวงชะตาค้ำจุน ถอยหลังไป แต่จู่ๆ ชั้นเมฆบนท้องฟ้าก็กระจายตัว เสียงเจาะทองทลายหินพลันดังมาจากขอบฟ้า

“แกว๊ก!”

พริบตาที่ได้ยินเสียง มหาวิหคสามหัวตัวหนึ่งก็มาถึงในพริบตา

ด้วยความเร็วนี้ก็ปรากฏตัวด้านล่างสวี่ชิงทันที ศีรษะขวาอยู่ที่ใต้เท้าสวี่ชิง หลังจากยกตัวเขาขึ้น หัวทั้งสามก็จ้องปลัดเขตปกครองเขม็ง ขนแหลมคมทั่วร่างสยาย แผ่ซ่านจิตสังหารโถมฟ้า จะงอยปากเปล่งเสียงแกว๊กดังเสียดหู!

ระเบิดคลื่นเสียง กลายเป็นครืนครันสั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ ทำให้เมืองหลวงเขตปกครองสั่นสะเทือน ฟ้าดินเปลี่ยนสี!

พริบตานี้ คนธรรมดาทั้งเมืองหลวงเขตปกครองสูดลมหายใจ ผู้บำเพ็ญนับแสนบนพื้นตื่นตะลึง สีหน้าองค์ชายเจ็ดแข็งค้างเล็กน้อย ปลัดเขตปกครองขมวดคิ้ว สีหน้ามืดครึ้ม

ทั่วทั้งฟ้าดิน มีเพียงมหาวิหคชิงฉินที่ผู้คนจับตามอง

มีเพียงเสียงร้องแกว๊กของมัน ที่ดังก้องไปทั้งชั้นเมฆ

มีเพียงหนึ่งเดียวที่เหนือกว่าการเป็นจุดสนใจของมันได้ มีเพียงร่างสูงโปร่งในชุดนักพรตผู้ครองกระบี่สีขาวที่โบกสะบัดท่ามกลางสายลมบนท้องฟ้ายืนอยู่บนหัวขวาที่เชิดสูงขึ้นเท่านั้น!

ฉัตรสี่ฉัตร แสงประกายเจิดจ้า อสูรสมุทรบรรพกาลจำแลงออกมา กลืนกินและพ่นแสงประกายอรุณ เงาเขาจักรพรรดิภูตตั้งตระหง่านด้านหลัง คล้ายยังมีแม่น้ำแห่งกาลเวลาสายหนึ่งไหลเวียนรอบกายรางๆ

พริบตานี้ ราวกับอาลักษณ์สวี่ของเจ้าวังรุ่นที่แล้วเมื่อครึ่งปีก่อนกลับมาอีกครั้ง!

พริบตาต่อมา เผ่าต่างๆ ที่เห็นทั้งหมดรอบๆ ก็สั่นเทิ้ม เงามืดในตอนนั้นปรากฏตัวอีกครั้ง!

และเสียงของสวี่ชิงยังคงดังก้องสะท้อนในตอนนี้

“นั่นคือลูกกลอนแก่นแท้ที่ประชาชนในเมืองหลวงเขตปกครองนับล้านเคยกินหลายปีมานี้

“ตอนนั้น ข้าจึงรู้วิธีวางยาพิษแล้ว

“คนร้ายไม่ได้วางพิษกับเจ้าเขตปกครองคนก่อนโดยตรง ในช่วงหลายปีมานี้เขาทำให้ประกายเคราะห์ชะตาชีวิตเบาบางลงไม่รู้กี่เท่า ผสานเข้าไปในลูกกลอนแก่นแท้ ให้เผ่ามนุษย์ในเมืองหลวงเขตปกครองทั้งหมดกินมันลงไป”

พริบตาที่เขาพูดสามประโยคนี้ออกมา ราวกับอัสนีสร้างโลกาผ่าฟ้าแยกปฐพีครืนครันในใจผู้บำเพ็ญนับแสนตน สะเทือนเลื่อนลั่นในหูของคนธรรมดาอีกนับไม่ถ้วน

น้ำหนักของมัน หนักหนาเหลือเกิน!

เสียงสูดลมหายใจ เสียงตกตะลึง เสียงความโกลาหล เสียงกระสับกระส่าย จากเดิมที่เกิดจากการปรากฏตัวของชิงฉินก็รุนแรงยิ่งขึ้น

“ใช้ประชาชนนับร้อยล้านคนเป็นพิษ เปลี่ยนแปลงดวงชะตาสรรพสิ่งทั้งเมืองหลวงเขตปกครอง ทำให้ทุกคนกลายเป็นพาหะพิษ เผ่ามนุษย์นับไม่ถ้วนแฝงไว้ด้วยดวงชะตาพิษสะสมที่เจ้าเขตปกครองตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าเขตปกครองติดพิษประกายเคราะห์ชะตาชีวิตขณะที่ไม่รู้ตัว”

สวี่ชิงยังคงพูดต่อ เมืองหลวงเขตปกครองสั่นสะเทือนครืนครันถึงขีดสุด คนนับแสนใต้แท่นพิธีหอบหายใจถี่ สะท้านฟ้าสะเทือนดิน โหมพายุขนาดยักษ์

“ลูกกลอนแก่นแท้มีพิษหรือ”

“ลูกกลอนแก่นแท้ นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน!!”

“แต่ทุกอย่างก็สมเหตุสมผล สอดคล้องกับตรรกะ”

“ลูกกลอนแก่นแท้เป็นสิ่งที่ปลัดเขตปกครองสร้างขึ้น แหล่งผลิตเพียงแห่งเดียวของทั้งเมืองหลวงเขตปกครอง ร้านยาทั้งหมดต้องไปรับที่จวนปลัดเขตปกครอง!”

“อันใดคือจริง อันใดคือเท็จกันแน่!”

“เช่นนี่…ความจริงคืออะไรเล่า!”

เสียงฮือฮาดังไปรอบทิศ

สิ่งที่สวี่ชิงพูดมา ทำให้ทุกคนที่ได้ยินพรั่นพรึงขีดสุด ทำให้ทุกคนอดหนังศีรษะชาขึ้นมาไม่ได้ โหมคลื่นยักษ์โถมฟ้า

ข่งเสียงหลงสูดลมหายใจ ไม่มีผู้ครองกระบี่คนใดที่ไม่สั่นสะท้าน รองเจ้าวังก็หน้าเปลี่ยนสีกันหมด

ส่วนปลัดเขตปกครอง ก็มองสวี่ชิงอย่างล้ำลึกผาดหนึ่ง เรื่องลูกกลอนแก่นแท้ที่สวี่ชิงพูดออกมา เขาทราบว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องแล้วจึงถอนหายใจในใจ

สวี่ชิงยืนอยู่บนศีรษะด้านขวาของชิงฉิน ก้มหน้ามองพื้นดินเมืองหลวงเขตปกครอง เอ่ยเสียงเบา

“ผู้คนทั้งเมืองหลวงเขตปกครองติดพิษกันหมด ข้าไม่รู้ว่าหลังจากนี้พิษจะกำเริบอย่างไร…หากกำเริบ จะกลายเป็นมหันตภัยเช่นไร

“ข้า สวี่ชิงผู้ที่จักรพรรดิหยั่งใจหมื่นจั้ง ขอรับผิดชอบคำพูดทุกคำที่ข้าเอื้อนเอ่ย

“ใต้เท้าปลัดเขตปกครอง การรายงานของข้าสิ้นสุดลงเท่านี้ โปรดชี้แนะด้วย!”

เสียงของสวี่ชิงดังก้องไม่หยุด ขณะที่เลื่อนลั่นไปทั้งสี่ทิศ บนลานแท่นพิธี ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ สายตาทั้งหมดล้วนจับจ้องไปทางปลัดเขตปกครองโดยมิได้นัดหมาย

ไม่ใช่แค่พวกเขา เวลานี้คนธรรมดาในเมืองหลวงเขตปกครองก็เช่นกัน ท่ามกลางสายตานับล้านที่ตกตะลึงจนแปรเป็นความโกรธจับจ้องมาจากทั้งแปดทิศ

เพราะนี่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของพวกเขาทุกคน!

จะเรื่องใด เมื่อเกี่ยวข้องกับแต่ละบุคคล ต่อให้จะเล็กเพียงใด ก็เป็นเรื่องใหญ่โตทั้งสิ้น

ในตอนนี้ คนจำนวนน้อยมากที่จะพิจารณาถึงเรื่องอื่น พวกเขาทุกคนในพริบตานี้ล้วนต้องการเพียงคำตอบเดียว!

ลูกกลอนแก่นแท้ที่เจ้าให้พวกข้ากินมาหลายปี มันมีพิษอยู่จริงหรือไม่!

สวี่ชิง ได้ใจประชาชนไปอีกครั้ง!

ครั้งแรก เขาใช้อำนาจที่เหลืออยู่ของเจ้าเขตปกครองรวมถึงเจ้าวัง สลายการครอบครองใจประชาชนของปลัดเขตปกครองไป ทำให้ตนมีสิทธิ์ในการพูด

ต่อมาถูกปลัดเขตปกครองขจัดไป

ครั้งนี้ เขาใช้ความปลอดภัยของทุกคน ยืนอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา รวมตัวเป็นขั้วอำนาจขนาดใหญ่ บีบคั้นปลัดเขตปกครอง

ทั้งหมดนี้ สวี่ชิงไม่ได้ขอคำชี้แนะจากอาจารย์แต่อย่างใด เป็นสิ่งที่เขาเรียนรู้มาจากองค์ชายเจ็ดหลังผ่านเรื่องราวทำนองเดียวกันในเมืองหลวงเขตปกครองว่าต้องเล่นกับใจประชาชนอย่างไร

จากนั้นนายท่านเจ็ดยิ่งไขความรู้ความเข้าใจให้กับเขาอีกในแดนต้องห้ามเซียน ทำให้เขารู้ว่าในยามที่ตนจะกระทำและใคร่ครวญต้องยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่าขั้นหนึ่ง เช่นนี้ ถึงจะมองเห็นภาพรวมทั้งหมดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงจะเดินไปสู่จุดสูงสุดได้อย่างแท้จริง

เจ็ดปีมานี้ จากคนเก็บกวาดในถ้ำยาจกแห่งหนึ่ง ในที่สุดก็เดินทางมาจนถึงวันนี้ นิสัยของเขา ทัศนคติของเขา ในเจ็ดปีนี้ก็เหมือนกับหยกที่ยังไม่ผ่านการเจียระไนชิ้นหนึ่ง ที่สุดท้ายก็แวววาวพร่างพรายด้วยการขัดเกลาและเรียนรู้

คนสอนหนังสือในถ้ำยาจก สอนเขาให้รู้จักตัวอักษร สอนหนังสือให้เขา

หัวหน้าเหลยสอนให้เขารู้จักให้อภัย ทำให้เขาที่ไม่เชื่อใจใครเหมือนหมาป่าเดียวดาย มีความรู้สึกเหมือนมีบ้าน มีความอบอุ่นอย่างมนุษย์ขึ้นมา

ปรมาจารย์ไป่สอนเรื่องสมุนไพรให้เขา มนุษย์ก็เฉกเช่นสมุนไพร ทุกอย่างแตกต่างกัน นี่คือวิถีการเป็นมนุษย์

นายท่านเจ็ดสอนเรื่องโครงสร้างให้เขา วิธีการจัดการ ขยายโลกทัศน์

นายกองสอนให้เขาบ้าคลั่ง ทุกสรรพสิ่งต้องช่วงชิง ฝืนลิขิตสวรรค์ไปจะเป็นไรเล่า

องค์ชายเจ็ดสอนเขาว่าการเล่นกับใจประชาชนมีทั้งดีและเสีย กลับดำเป็นขาว ความคิดทะเยอทะยาน ไร้ทางหวนกลับ

เจ้าวังสอนเขาให้เป็นคน คำสาบานครองกระบี่ เรื่องบางเรื่องที่ต่อให้ตายก็ต้องทำ ความศรัทธาบางอย่างต่อให้ตายก็ต้องปกปักษ์เอาไว้

ปลัดเขตปกครองสอนให้เขารู้จักวางแผน สรรพสิ่งแปรเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินด้วยมือ

คนมากมาย บ้างก็เป็นฝ่ายกระทำ บ้างก็ถูกกระทำ ทำให้เจ็ดปีมานี้สวี่ชิงเติบโตอยู่เสมอ

จนกระทั่งถึงวันนี้!

ในพริบตา กวานห้าสายที่ก่อร่างขึ้นจากดวงชะตาที่ยังไม่สวมที่ศีรษะปลัดเขตปกครองก็พลันสั่นสะเทือน

ดวงชะตามหาศาลในนั้นแผ่ออกมา มาพร้อมกับการสรรเสริญที่ผู้อื่นสัมผัสไม่ได้ พุ่งมาเหนือศีรษะสวี่ชิง

ขณะที่ไปรวมตัวกันที่นั่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กวานที่ล่องลอยอยู่เหนือศีรษะสวี่ชิงชัดเจนเป็นวัตถุจริงขึ้นเรื่อยๆ

ในสายตาของคนที่เห็นภาพนี้ สวี่ชิงที่ยืนอยู่บนหัวด้านขวาชิงฉินเวลานี้ ทั่วร่างเปล่งแสงเจิดจรัส กวานที่อยู่เหนือฉัตรบนศีรษะ ยิ่งแผ่ดวงชะตาออกมาท่วมท้นราวกับกำลังสนับสนุนมัน

ขณะที่เลือนราง ยังมีเงาร่างของเด็กชายคนหนึ่งกระโดดโลดเต้นอยู่ในกวานนั้น

ราวกับกำลังบอกกับคนที่เห็นทั้งหมดว่าใครที่เป็นฝ่ายถูกต้องในตอนนี้!

ใคร ที่เป็นผู้รวบรวมดวงชะตาผนึกสมุทร!

ใคร ที่เป็นผู้ผนึกสมุทรอย่างแท้จริง!

ตอนนี้ ดวงชะตาสนับสนุน ประชาชนรวมใจ ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมโหมเมฆทะลัก ก่อตัวเป็นมหาอำนาจที่รวบรวมผู้คนจากสวรรค์และโลกา จับจ้องไปที่ปลัดเขตปกครองโดยมีสวี่ชิงเป็นผู้นำ

ปลัดเขตปกครองนิ่งเงียบ

ดวงตาองค์ชายเจ็ดฉายแววแปลกประหลาด จ้องสวี่ชิงเขม็ง ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ เขาก็ได้รู้จักสวี่ชิงใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า

‘เด็กคนนี้ จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า!’

ขณะที่องค์ชายเจ็ดครุ่นคิด ปลัดเขตปกครองกำลังจะเอ่ยปาก สวี่ชิงก็ประสานหมัด คารวะอย่างสุดซึ้ง หลังจากเงยหน้าขึ้น ก็เอ่ยเสียงแผ่วเบา

“การคารวะนี้ เป็นการคารวะต่อบุญคุณที่ใต้เท้าปลัดเขตปกครองได้สั่งสอนและไขข้อสงสัยก่อนหน้านี้ หลังจากที่คารวะ จิตใจข้ามั่นคง ข้าถึงสามารถเอ่ยคำพูดบางอย่างออกมาได้

“ใต้เท้าปลัดเขตปกครอง ข้ารู้ว่าท่านคือเทียนประทีป”

“และการฝึกบำเพ็ญของเทียนประทีป ดูแคลนคำโป้ปด พิถีพิถันกับความสมเหตุสมผลทั้งปวง เช่นเดียวกับบทเรียนที่ท่านได้ไขข้อสงสัยก่อนหน้านี้ เอื้อนเอ่ยคำตอบออกมา ท่านที่กล้าหาญเยี่ยงนี้ วางหมากได้อย่างสมเหตุสมผล เช่นนั้นการถูกเปิดโปงก็สมเหตุสมผลเช่นกัน

“ใต้เท้าปลัดเขตปกครอง โปรดชี้แนะด้วย” สวี่ชิงจ้องเขม็ง

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ประกายในสายตาองค์ชายเจ็ดก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ก่อนหน้านี้ปลัดเขตปกครองคิดจะสังหารสวี่ชิงที่หยั่งใจหมื่นจั้ง คำพูดตอบกลับเวลานี้ของสวี่ชิงก็เป็นการแทงใจด้วยเช่นกัน

จากที่เขาได้ร่วมมือกับปลัดเขตปกครองมาถึงตอนนี้ นิสัยของอีกฝ่ายก็ดูแคลนคำโป้ปดจริงๆ ทั้งหมดล้วนอาศัยความสมเหตุสมผล

เจ้าถามเช่นไร ข้าก็จะตอบเช่นนั้น

ทว่าตอนนี้ ถ้ายอมรับก็เท่ากับไร้ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะปกปิดซ่อนเร้น แผนการทั้งหมดจะมลายหายไปกับสายน้ำ

หากไม่ยอมรับ ก็เท่ากับทรยศกับหลักการการทำงานมาโดยตลอด จิตใจไม่ปลอดโปร่ง ความคิดไม่ราบรื่น

ปลัดเขตปกครอง เงียบนิ่งอีกครั้ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็มองสวี่ชิงอย่างล้ำลึก ถอนหายใจออกมา ราวกับชราภาพลง ทั้งร่างแผ่ความอ่อนล้า จากนั้นก็จำแลงร่างสูงใหญ่ ให้ทั้งเขตปกครองได้เห็น ล้วงลูกกลอนแก่นแท้เม็ดหนึ่งออกมากลืนมันลงไปต่อหน้าทุกคน เอ่ยเสียงแผ่วเบา

“ลูกกลอนแก่นแท้ ไม่มีพิษ”

ผู้คนทั่วสารทิศ พากันสั่นสะท้าน

“สวี่ชิง ข้าไม่รู้ว่าไยเจ้าจึงให้ร้ายเช่นนี้ แต่เห็นแก่ความชอบในอดีตของเจ้า ข้ายังสังหารเจ้าไม่ลง จับเจ้าขังไว้ในวังครองกระบี่ ไต่สวนถึงการชักจูงเบื้องหลัง หลี่อวิ๋นซาน นี่คือขีดจำกัดของข้าแล้ว เจ้ารับผิดชอบคอยคุ้มกันกับไต่สวนด้วย”

“ทหาร!”

พูดจบ แผ่นดินก็ส่งเสียงเลื่อนลั่น ร่างเงาหลายร่างลอยขึ้นมาฉับพลัน ในบรรดานั้น คือบ่าวรับใช้ข้างกายปลัดเขตปกครองที่สวี่ชิงเคยเห็นในอดีต

เขามองสวี่ชิงอย่างเสียดาย ร่างระเบิดคลื่นพลังหวนสู่อนัตตาขั้นสอง

ส่วนปลัดเขตปกครองทางนั้น ระหว่างที่โบกมือ ข้างกายก็มีคลื่นวนปรากฏขึ้น ขณะที่หมุนวนเสียงครืนครัน หุ่นเชิดเกราะดำที่ใบหน้าเลือดเนื้อเลือนรางร่างหนึ่งก็เดินออกมาจากในคลื่นวนทีละก้าว

ปราณความตายแผ่ซ่าน ดวงตามืดมนเย็นชา คลื่นพลังหวนสู่อนัตตาขั้นสี่ ปะทุออกมาจากร่างมัน

“ที่แท้ ท่านก็ไม่ใช่ม่วงคราม” สวี่ชิงเอ่ยเสียงแผ่วเบา

ปลัดเขตปกครองสีหน้าไร้อารมณ์ พูดเสียงเรียบ

“เอาตัวไป”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!