บทที่ 837 พลิกนภากลับตะวัน
ฉากนี้ องค์ชายใหญ่รวมถึงเผ่ามนุษย์ที่เกี่ยวข้องเห็นจากที่ไกลแล้วต่างคนจิตใจสั่นสะท้าน นัยน์ตาเผยความเหลือเชื่อ
วิชาดวงดาวที่เกิดบนตัวสวี่ชิงเหนือความคาดหมายของพวกเขาโดยแท้
กฎแห่งเวลากับการพลิกผันชะตากรรมเช่นนั้นก็ประหลาดจนคนตกใจอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงสวี่ชิงกลับมาแล้วควงอาวุธต้องห้ามในมือ
3 เล่มในนั้น ชัดว่าเป็นฝีมือรัฐทายาทหมิงหนานก่อนหน้านี้
แต่ในเวลาสั้นๆ สวี่ชิงถึงกับสำแดงมันออกมา เรื่องนี้อยู่ในหัวทุกคนแล้วปรากฏคำเดียวกันอย่างห้ามไม่อยู่
มารปีศาจ
มีแต่มารปีศาจถึงจะมีการหยั่งรู้น่าหวาดกลัวเช่นนี้!
อย่างไรต่อให้เป็นแสงประกายอรุณ ในความรู้ที่สืบทอดกันมาก็ไม่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ นั่นคือการที่สวี่ชิงรวมจิตเทพของตนเข้ากับการตระหนักรู้และขุดค้นด้วยตัวเองหลายครั้ง สุดท้ายผลักดันมันมาถึงระดับเหนือจินตนาการที่ไม่เคยมีมาก่อน
แม้แต่รัฐทายาทกับท่านย่าสามบนแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทรา ตอนแรกพวกเขายังใจสั่นสะท้านเพราะสิ่งนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น
ดังนั้นท่านอ๋องน้อยหมิงหนานในยามนี้ คลื่นในใจเขาม้วนขึ้นเทียมฟ้า กลายเป็นฟ้าคำรามนับไม่ถ้วนระเบิดอยู่ในจิตใจอย่างต่อเนื่อง
เสียงอึมครึมสนั่นหวั่นไหว ทำให้เขาหายใจถี่เร็ว ร่างกายถอยหลังตามสัญชาตญาณ มองอาวุธต้องห้ามข้างกายสวี่ชิงอย่างเหลือเชื่อ ในใจพยายามควบคุมความรู้สึกของตนให้นิ่งสงบ
“เจ้า…”
เขาไม่อาจเอ่ยคำครบประโยค
เพราะพริบตาต่อมาความสั่นสะเทือนยิ่งกว่าแผ่ออกมาจากสวี่ชิง สนั่นถ้วนทั่วสารทิศ สะท้านถึงกลุ่มคน
สวี่ชิงยกมือขวากดไปยังท้องฟ้า ม่านฟ้าเกิดเสียงดังลั่นเบิกฟ้าเปิดดินในชั่วลมปราณ
เสียงนี้ดังดุจเทพเจ้าคำราม ขณะก้องสะท้อนในโลก หมู่ดาวในท้องฟ้ายามราตรีเหนือเมฆหมอกพลันมืดหม่น!
มีเพียงดาว 9 ดวงสว่างไสวขึ้นจากข้างใน
ชั่วขณะหนึ่ง แสงดาวสาดส่อง ถึงกับเกิดเป็นนิ้วมือใหญ่ยักษ์ 4 นิ้วใต้ม่านฟ้า ปกคลุมฟ้าดิน และปกคลุมรัฐทายาทหมิงหนาน
นั่นคือ…นวดาราสังหาร จากการเคลื่อนย้ายดวงดาวใน 36 ดาวเซียนของรัฐทายาทหมิงหนาน
“เป็นไปไม่ได้!” หมิงหนานสีหน้าเปลี่ยนรุนแรง ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
“วิชาระดับจักรพรรดิ ไม่อาจเรียนสำเร็จหากไม่มีเมล็ดพันธุ์มรรคา!”
สวี่ชิงสีหน้าปกติ สูดหายใจเข้าลึก
ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น พลังไร้ขีดจำกัดม้วนเข้าปากสวี่ชิงด้วยความเร็ว ถึงขั้นเกิดเป็นเกลียวคลื่นขนาดยักษ์รอบตัวเขา เห็นได้ถึงความรุนแรงของแรงดูด
และหลังจากพลังไหลเข้ามาทั่วทิศ พลังกายเนื้อของสวี่ชิงระเบิดพรวดพุ่ง!
ต่อเนื่อง 17 ครั้ง!
พลังปะทุครั้งแล้วครั้งเล่า มาถึงสุดท้าย ฟ้าดินเปลี่ยนสี ลมพันเมฆแผ่คลุม มวลพลังที่ทำให้จิตใจคนสะพรึงกลัวพลุ่งขึ้นบนกายสวี่ชิง
รัฐทายาทหมิงหนานจ้องสวี่ชิงด้วยสีหน้าอึมครึม
“ที่เจ้าแสดงออกมาไม่ใช่ระดับจักรพรรดิที่แท้จริง เป็นการเลียนแบบ มีแค่รูปลักษณ์ ไม่มีแก่นแท้!”
“แต่ศึกครั้งนี้ไม่มีความหมายแล้ว”
ขณะพูด รัฐทายาทหมิงหนานไม่ลังเลแม้แต่น้อย หันหน้าห้อตะบึงไกลออกไป
เขาไม่อยากสู้แล้ว แม้เขายังมีกลยุทธ์อีกมาก ยังมีไม้ตาย แต่เป็นเช่นนี้ต่อไป เขามีลางสังหรณ์ว่าไม้ตายทั้งหมดของตนคงสังหารอีกฝ่ายไม่ได้
แม้ตัวเขาก็มีวิธีพลิกผันชะตากรรมที่คล้ายคลึงกัน แต่สัญชาตญาณของเขาไม่อยากแสดงต่อหน้าสวี่ชิง
นั่นเป็นความรู้สึกของการช่วยส่งเสริมศัตรูอันน่ารังเกียจยิ่ง
เขาจึงมาถึงขอบฟ้าในพริบตาด้วยความเร็ว เห็นว่าจะจากไปแล้ว
สวี่ชิงจ้องมอง มือขวายกโบกไปข้างหน้า ในปากส่งเสียงสงบนิ่ง
“เรื่องความเป็นความตาย ใช่ว่าท่านอยากสู้ก็สู้ อยากไปก็ไปได้หรือ”
ชั่วขณะที่กล่าวคำ นิ้วมือ 4 นิ้วบนท้องฟ้าดิ่งลงมาทันใด มุ่งตรงไปหารัฐทายาทหมิงหนาน 4 ฤดู เหนือ ใต้ ออก ตก มาถึงอย่างพร้อมเพรียง
“ผนึก!”
กักวิญญาณของเขา ปิดกั้นความเป็นไปได้ที่เขาจะหนีหรือส่งข้าม!
ยังมีสายรุ้งตัวแทนแห่งความตาย 4 สายหวีดคำรามออกมาจากข้างกายสวี่ชิง ลากผ่านอากาศ เกิดเป็นร่องรอยบนฟ้า เข้ามาหารัฐทายาทหมิงหนานอย่างรวดเร็ว
ยังไม่จบลง การตอบโต้ของสวี่ชิงสำแดงออกมาทั้งหมดในยามนี้ ท้องฟ้าเลือนราง เมฆหมอกครืนครั่น คุกขนาดใหญ่ที่ปกคลุมพื้นที่พันลี้บนผืนดินปรากฏขึ้นบนม่านฟ้า
มาถึงผืนดินในฉับพลัน
ภายในคุกนี้จะเห็นห้องขังเรียงเป็นแถว ส่วนใหญ่ในนั้นล้วนขังนักโทษไว้ บางคนงุนงง บางคนหัวเราะทึ่มทื่อ บางคนร้องโหยหวน บางคนร้องไห้
สรรพชีวิตหลายร้อยสภาพปรากฏอยู่ที่นี่ทั้งหมด
พวกศีรษะกลับส่งเสียงร้องประหลาด นิ้วมือเทพเจ้าก็พลิกตัวกระแทกอย่างแรง
ฉับพลันพลังผนึกเขตติงหนึ่งสามสองพุ่งพรวดตามมา ดิ่งลงไปยังผืนดินอย่างรวดเร็ว
หากไม่มีผนึกของ 4 นิ้ว เหนือ ใต้ ออก ตก รัฐทายาทหมิงหนานคิดจะหนีย่อมทำได้ อย่างไรการมาถึงของเขตติงหนึ่งสามสองต้องใช้เวลา นี่ก็เป็นหนึ่งในช่องโหว่เล็กน้อยของมัน
แต่บัดนี้ รัฐทายาทหมิงหนานทำไม่ได้แล้ว
หลัง 4 นิ้วผนึก แม้เริ่มพังทลายด้วยการตอบโต้ของเขา แต่สุดท้ายยังถูกถ่วงเวลา พริบตาต่อมา ฟ้าดินมืดมิด
เขตติงหนึ่งสามสองตกถึงโลกมนุษย์
ตูม!
ปกคลุมพันลี้ ปกคลุมทั่วทิศ ปกคลุมรัฐทายาทหมิงหนาน!
ถัดจากนั้น เคราะห์หายนะเริ่มแผ่ขยาย จิตลืมเลือนเริ่มปรากฏ อาวุธลับ 4 เล่มตัดสลับกันไปมา รัฐทายาทหมิงหนานหายใจถี่รัว เขาสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของคุกแห่งนี้ จึงทำมุทราตอบโต้ ร่างกายถอยหลังเร็วรี่ หมายจะทะลวงออกไป
4 อาวุธไล่โจมตีอยู่ด้านหลัง ทุกครั้งที่ร่วงลงมาล้วนเป็นพลังทำลายล้าง
ชั่วขณะหนึ่งเสียงสนั่นหวั่นไหว ยากแยกว่าเป็นสิ่งใด
จากนั้น เสียงนับไม่ถ้วนดังมาจากในห้องขัง ในนั้นฝั่งศีรษะเสียงแหลมสูงที่สุด
“มีนักโทษหลบหนีคิดจะแหกคุก ทำลายความพร้อมหน้าของเรา!”
ห้องขังทั้งหมดเปิดออกทันใด เงาร่างเป็นสายในนั้นพุ่งออกมาต่อเนื่อง โถมเข้าหารัฐทายาทหมิงหนานด้วยจิตชั่วร้ายและความละโมบ
ที่น่าตกใจยิ่งกว่า คือกรงคุกในเขตติงหนึ่งสามสองถึงกับเริ่มหดตัว เกิดเป็นพลังบีบอัด ทำให้รัฐทายาทหมิงหนานที่อยู่ในนั้นลำบากยิ่งขึ้น
และเคราะห์หายนะระเบิดออกทั้งหมด จิตลืมเลือนเข้มข้นขึ้นทุกที ผลกระทบของมันก็เริ่มออกฤทธิ์
ขณะเดียวกัน เงาร่างของสวี่ชิงปรากฏในเขตติงหนึ่งสามสองในชั่วพริบตา โผล่มาข้างหน้ารัฐทายาทหมิงหนาน พลังกายเนื้อน่าสะพรึงกลัวกลายเป็นพลังอกสั่นขวัญแขวน กดทับลงมาใน 1 ฝ่ามือ
ขณะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รัฐทายาทหมิงหนานกระอักเลือดสด ร่างกายพลันหยุดชะงัก อาวุธต้องห้าม 4 เล่มข้างหลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว เขากำลังจะใช้พลังวิเศษตอบโต้
แต่อุบัติเหตุมาถึง พลังวิเศษที่ควรใช้ได้ราบรื่นเกิดหยุดนิ่ง แม้ไม่นานก็กลับมาปกติ แต่สุดท้ายยังช้าไปก้าวหนึ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
หอกยาวสีดำแทงเข้าจากหลังเขาด้วยความเร็วเหนือฟ้าแลบ ทะลุออกมาเป็นระเบิด
รัฐทายาทหมิงหนานร้องโดยไม่ส่งเสียงออกมา สีหน้าเหี้ยมเกรียม แสงสีดำแวววามทั่วกายขณะคำรามเสียงต่ำ เกิดเป็นค่ายกลป้องกันรูปสามเหลี่ยมครอบวงกลม เคลื่อนหมุนตัดกันตามกฎเกณฑ์แล้วขัดขวาง 3 อาวุธที่เหลือ
ทว่าป้องกันหมัดที่มาอย่างรวดเร็วของสวี่ชิงไม่ได้
1 หมัดดิ่งลงมา แสงสีดำแตกกระจาย รัฐทายาทหมิงหนานกระอักเลือดสดอีกครั้ง คิดจะทำมุทรา แต่นัยน์ตากลับฉายแววงุนงง
ความลืมเลือนก่อเกิด
ตรีศูลหวีดคำรามเข้ามา แทงทะลุส่วนท้องของรัฐทายาทหมิงหนาน
ดาบยาวสีดำวาดใกล้เข้ามา แสงกระบี่วาววับฟันบั้นเอวของเขาขาด
ชั่วขณะที่ร่างกายแบ่งเป็น 2 ซีก ขวานรบสีเลือดเข้ามาฟันอย่างรุนแรง
ความเจ็บปวดรุนแรงและความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทำให้เขาสีหน้าเป็นปกติทันใด ฝืนหลบขวานรบที่ดิ่งลงแสกหน้าในช่วงสำคัญ ทำให้ขวานนี้ฟันลงไหล่ข้างขวาของเขา
เสียงดังลั่น ฉีกร่างครึ่งบนของเขาออกอย่างถึงที่สุด
ขณะเลือดสดสาดกระจาย รัฐทายาทหมิงนานร้องโหยหวน ควบคุมร่างกายให้ถอยหลังอย่างรวดเร็ว หมายจะทำมุทรา แต่พริบตาต่อมาบรรพจารย์สำนักวัชระหวีดคำรามเข้ามาแทงเข้าหว่างคิ้ว
พลังมหาศาลพาให้ร่างกายของรัฐทายาทหมิงหนานม้วนไปข้างหลัง
ครู่ต่อมา เงาร่างของสวี่ชิงปรากฏอยู่ข้างหลังเขา จิตสังหารในตาฉายวาบ ยกมือขวา กริชเล่มหนึ่งปรากฏในนั้น ยื่นไปตรงคอรัฐทายาทหมิงหนานแล้วบั่นอย่างโหดเหี้ยม
ศีรษะลอยขึ้นมา!
การโจมตีครั้งนี้รวดเร็วดุจสายน้ำไหลเมฆเคลื่อนตัว ไม่ยืดเยื้อเลยสักนิด ออกมือโหดเหี้ยมด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
สังหารทันที!
และความเคยชินของสวี่ชิงทำให้ตัวเขาโบกมือตามสัญชาตญาณ ฉับพลันพลังพิษต้องห้ามกระจายออกมาปกคลุมร่างรัฐทายาทหมิงหนาน กัดกร่อนอย่างรวดเร็ว
และการหดตัวของเขตติงหนึ่งสามสองก็หยุดลงตรงนี้ นักโทษทั้งหมดในนั้นต่างส่งเสียงหัวเราะประหลาด
ทว่าสีหน้าของสวี่ชิงกลับอึมครึม
ในห้องขังเขตติงหนึ่งสามสองไม่มีวิญญาณรัฐทายาทหมิงหนานปรากฏ!
นี่แสดงว่า…คนผู้นี้ยังไม่ตาย!
ขณะนัยน์ตาสวี่ชิงฉายแววเย็นเยียบ ควันสีครามเป็นกลุ่มพลันปรากฏตรงพื้นที่ที่รัฐทายาทหมิงหนานตายก่อนหน้านี้ รวมเข้าด้วยกันในพริบตา ตามด้วยเสียงดังกึกก้อง ร่างของรัฐทายาทหมิงหนานก่อรูปขึ้น
“พลิกนภากลับตะวัน!”
พลังยิ่งใหญ่ปรากฏบนตัวรัฐทายาทหมิงหนาน นั่นไม่เกี่ยวกับเวลา เหมือนการอำนวยพรมากกว่า
นัยน์ตาสวี่ชิงจับจ้อง สำรวจดูอย่างละเอียด
ด้วยการอำนวยพรนี้ เขตติงหนึ่งสามสองเกิดการสั่นสะเทือน ดวงตาของรัฐทายาทหมิงหนาน ยามนี้เบิกขึ้นฉับพลัน สีหน้าเขามืดหม่น นัยน์ตาเผยจิตสังหารมองไปทางสวี่ชิง
ขณะเอ่ยคำ รัฐทายาทหมิงหนานยกมือขวา ในมือเขาปรากฏเหรียญทองแดงสีดำ ค้อมกายอัดลงกับพื้นอย่างแรง
ด้วยการอัดนี้ พื้นดินในเขตติงหนึ่งสามสองสั่นสะเทือน ค่ายกลสีครามพลันขยายรอบทิศโดยมีรัฐทายาทหมิงหนานเป็นศูนย์กลาง
กลางค่ายกลนี้เป็นวงกลม ด้านนอกเป็นสามเหลี่ยม ชั้นนอกสุดเป็นวงกลม ต่างฝ่ายเคลื่อนหมุนขณะส่งเสียงสนั่นหวั่นไหวคล้ายเข็มทิศพิเศษอันหนึ่ง
ในนั้นเปี่ยมด้วยอักขระจำนวนมาก บัดนี้ต่างเปล่งประกายสีทอง มี 6 อักขระลอยขึ้นกลางอากาศ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
รูปร่างมันต่างกัน ดูแล้วเหมือนเป็น ‘อู้ จี่ เกิง ซิน เหยิน กุ่ย[1]’
ขณะปรากฏ ต่างฝ่ายปกคลุมทั่วทิศ ท้องฟ้าบิดเบี้ยว เกิดประตูหินสีดำ ยามแผ่ความเก่าแก่คร่ำโลกก็มีลมหนาวเยือกแฝงความตายพัดมา
เกราะอักขระ 6 ตัว ประตูกลับมี 7 บาน
บานสุดท้ายปรากฏข้างหลังรัฐทายาทหมิงหนาน ต่างกับ 6 บานที่เหลือ ประตูบานที่ 7 ไม่ได้แผ่ความตาย หากแต่เป็นการมีชีวิต
“เผ่ามนุษย์ ในเมื่อเจ้ารนหาที่ เช่นนั้นลองดูว่ากฎแห่งเวลาของเจ้าจะพลิกผันวิชาสังหารต้องห้ามของข้าได้หรือไม่!”
“วิชาต้องห้าม 6 เกราะ 7 ทวาร!”
เสียงดังกึกก้องผสานกับลมหนาวเยือก ครู่ต่อมา 6 เกราะนี้เคลื่อนหมุน ประตูด้านหลังตั้งตระหง่านและเปิดออก ราวกับเสียงจากยมโลกกำลังร้องเรียกอยู่ข้างใน
ร้องเรียงสวี่ชิง!
ในการร้องเรียกนี้ เหนือประตู 6 บานยิ่งต่างปรากฏเงาร่างเลือนรางของสวี่ชิง กำลังถูกประตูกลืนกิน
6 เกราะเคลื่อนหมุนไวเท่าไรก็กลืนกินเร็วเท่านั้น!
ร่างกายสวี่ชิงสั่นสะเทือน ขณะเกิดเสียงแกรกกราก บนร่างเขาปรากฏรอยยาว 6 สายลึกเข้าไปในจิตวิญญาณ กำลังเริ่มฉีกขาด
เห็นเป็นเช่นนั้น สวี่ชิงหรี่ตา กายพลันนั่งลง มือขวาชี้เหนือหว่างคิ้ว 3 ชุ่นกลางอากาศ
ลวดลายสีดำจำนวนมากก่อตัวตรงหว่างคิ้วอย่างรวดเร็ว เส้นเลือดหนาแน่นกอปรรวมเป็นหน้าผีดุดันเหี้ยมเกรียม
หน้าผีปรากฏ ลมหนาวพัดมาเป็นระยะ มันลอยไหวลุกไหม้ในลมหนาวดุจตะเกียง
นั่นคือคำสาปเพลิงทมิฬ 7 ตะเกียง!
ใช้คำสาปต้านวิชาต้องห้าม
ดูว่าใครจะตายก่อน!
หรือดูว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน!
………………………………………
[1] อู้ จี่ เกิง ซิน เหยิน กุ่ย หมายถึง ลำดับหกถึงสิบของกิ่งฟ้าในแผนภูมิสวรรค์ใช้ดูวันเวลาและโหราศาสตร์
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)