Skip to content

เป็นนายกทำไมยากอย่างนี้วะ 1

  • by
Cover Pn

วันที่เริ่มเขียน 31 มกราคม 2567

เป็นนายกทำไมยากอย่างนี้วะ

Chapter 1

ฟื้นขึ้นมาในร่างคนอื่น!

“ผมจะปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากแผ่นดินนี้ ผมจะทำให้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านกินดีอยู่ดี ค่าแรงเพิ่มขึ้น ลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าน้ำ ค่าไฟ ทุกสิ่งที่ผมพูดไปไม่ใช่เพียงแค่นโยบายหาเสียงที่พูดปากเปล่า แต่ผมสัญญาด้วยชีวิตของผมว่าผมจะทำทุกสิ่งที่ผมพูดไปให้ได้ครับ” อากิโอะ เอบะ พูดในขณะที่หาเสียง ทำให้ผู้คนที่มาฟังนโยบายหาเสียงเฮลั่นอย่างถูกใจ “เฮ้!—”

อากิโอะยิ้มแล้วโบกมือให้ผู้คนที่มาฟังนโยบายหาเสียงของเขาในวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ จากนั้นเขาก็เดินลงจากเวทีไป เซริน ไอริ เลขาของอากิโอะรีบเดินเข้าไปบอกว่า “หลังจากนี้ท่านต้องไปดินเนอร์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นค่ะ”

“อืม” อากิโอะตอบเลขาคำหนึ่งแล้วเดินไปขึ้นรถ พวกบอดี้การ์ดก็คอยห้อมล้อมกันไม่ให้ผู้คนเข้าใกล้อากิโอะได้ เซรินรีบตามไปนั่งหน้าคู่กับคนขับรถ อากิโอะก็นั่งหลังคู่กับบอดี้การ์ด จากนั้นรถก็ขับออกไป รถคันที่อากิโอะนั่งนั้นขับอยู่ตรงกลางระหว่างการห้อมล้อมของรถบอดี้การ์ด พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันชี้ชะตาแล้ว ใครจะได้เป็นนายกฯ ของประเทศนี้หลังจากพรุ่งนี้ไปก็จะได้รู้กันล่ะ

ครั้นถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนก็แห่กันไปลงคะแนนเลือกตั้งอย่างล้นหลาม ผู้คนต่างลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครพรรคการเมืองที่พวกเขาชอบ หลังจากลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้วผู้คนก็กลับไปรอลุ้นกันว่าพรรคไหนจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

จนกระทั่งถึงเวลาปิดหีบลงคะแนน เจ้าหน้าที่ก็เก็บหีบใส่คะแนนเลือกตั้งตามขั้นตอน ท่ามกลางการจับตาดูของประชาชนและนักข่าวท้องถิ่นที่มารอทำข่าวการนับคะแนน ท่ามกลางสายตาของประชาชนมากมายเจ้าหน้าที่ทั้งหลายไม่อาจเล่นตุกติกได้ หลังจากปิดหีบแล้วก็ถึงเวลานับคะแนน ทั้งประชาชนทั้งนักข่าวต่างจับตามองอย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นก็เปิดหีบเริ่มนับคะแนน

พรรคการเมืองต่างๆ ก็จับตาดูการนับคะแนนอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน จนกระทั่งการนับคะแนนสิ้นสุดลง เป็นอันว่าพรรคคนรุ่นใหม่ของอากิโกะ เอบะได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นทิ้งห่างพรรคการเมืองที่ผูกขาดอำนาจมานานอย่างพรรคเสรีไปอย่างขาดลอย สมาชิกพรรคคนรุ่นใหม่ต่างเฮลั่น “เฮ! ประวัติศาสตร์การเมืองเปลี่ยนขั้วแล้ว”

ยามาโตะ โทมิประธานใหญ่บริษัทโทมิ ซึ่งดูผลคะแนนเลือกตั้งแล้วเขากัดฟันกรอด! “ฮึ่ม!”

เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคเสรี สนับสนุนพรรคเสรีมานาน นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลพรรคเสรีออกมานั้นล้วนเกื้อหนุนการค้าของกลุ่มโทมิทั้งสิ้น แต่บัดนี้ขั้วอำนาจกลับเปลี่ยนไปอยู่ในมือพรรคการเมืองหน้าใหม่อย่างพรรคคนรุ่นใหม่ซะแล้ว ทำให้เขาไม่พอใจมาก!

วันต่อมา พรรคคนรุ่นใหม่ก็เริ่มจัดตั้งรัฐบาล อากิโอะ เอบะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองประเทศ J ผู้คนมากมายต่างส่งกระเช้าดอกไม้ไปอวยพรนายกฯ อากิโอะเต็มไปหมด จนที่ทำการใหญ่ของพรรคเต็มไปด้วยกระเช้าดอกไม้

ภายในห้องประชุมของพรรคคนรุ่นใหม่ นายกฯ อากิโอะยืนอยู่หัวโต๊ะประชุม เขามองสมาชิกพรรคคนอื่นๆ แล้วบอกว่า “เอาล่ะ พวกเรามาทำนโยบายหาเสียงให้เป็นจริงกันเถอะ”

“ครับ”

“ค่ะ”

สมาชิกพรรคขานรับอย่างแข็งขัน จากนั้นพวกเขาก็ประชุมกันว่าจะทำยังไงถึงจะทำให้นโยบายหาเสียงเป็นจริงขึ้นมาได้ การประชุมยาวนานมาก กว่าจะได้ข้อสรุปคร่าวๆ เริ่มจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดก่อน

หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา ยูทากะ โซเฮย์ อธิบดีกรมตำรวจก็ถูกเรียกเข้าพบนายกฯ อากิโอะ เอบะ

“สวัสดีครับ” อธิบดีฯ ยูทากะยืนอยู่ตรงหน้านายกฯ อากิโอะ เอบะ นายกฯ อากิโอะมองอธิบดีกรมตำรวจแล้วเอ่ยว่า “สวัสดีครับ เชิญนั่งครับ”

อธิบดีฯ ยูทากะนั่งลง นายกฯ อากิโอะก็นั่งลงเช่นกัน เซรินก้าวไปวางแฟ้มตรงหน้าอธิบดีฯ ยูทากะ อธิบดีฯ ยูทากะมองแฟ้มแล้วมองเซรินจากนั้นก็เบนสายตาไปมองท่านนายกฯ “นี่คือ?”

“นี่คือแผนปราบปรามยาเสพติด” นายกฯ อากิโอะบอก อธิบดีฯ ยูทากะหยิบแฟ้มมาเปิดดู แค่หน้าแรกเขาก็เงยหน้ามองท่านนายกฯ ทันที “นี่มัน!”

“จัดการตามแผนซะ ผมหวังว่าจะได้รับข่าวดี ถ้าคุณทำไม่ได้ งั้นผมก็จะหาคนใหม่มาทำแทน” นายกฯ อากิโอะเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ อธิบดีฯ ยูทากะรีบลุกขึ้นรับคำแข็งขัน “ครับท่าน”

แน่นอนว่าเขาไม่กล้าขัดคำสั่งท่านนายกฯ หรอก เพราะนั่นหมายถึงว่าถ้าทำไม่ได้ เขาก็จะหลุดจากตำแหน่งอธิบดีฯ น่ะซิ

“เอาล่ะ ผมให้เชฟทำอาหารไว้ พวกเราก็ไปทานข้าวด้วยกันซักมื้อเถอะ” นายกฯ อากิโอะบอก อธิบดีฯ ยูทากะพยักหน้ารับ “ครับๆ”

จากนั้นนายกฯ อากิโอะก็ลุกขึ้นเดินนำไปที่ห้องข้างๆ ซึ่งเชฟจากร้านอาหารชื่อดังรออยู่แล้ว บนโต๊ะมีอาหารที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ วางอยู่ เชฟโค้งคำนับอย่างอ่อนน้อม นายกฯ อากิโอะผายมือ “เชิญครับ”

“ครับๆ” อธิบดีฯ ยูทากะก้าวไปนั่งที่เก้าอี้ จากนั้นเขาก็ทานอาหารกับนายกรัฐมนตรีอย่างเกร็งๆ

หลังจากทานอาหารอิ่มแล้วอธิบดีฯ ยูทากะก็กลับไป เซรินยืนอยู่ข้างหลังนายกฯ อากิโอะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านว่าจะสำเร็จไหมคะ?”

“สำเร็จซิ แต่ว่าพวกเราก็ต้องตั้งรับให้ดีๆ ล่ะ เพราะหลังจากนี้พวกที่ถูกขัดผลประโยชน์คงไม่ยอมให้ผมอยู่ดีมีสุขแน่ๆ” นายกฯ อากิโอะบอก เซรินรับคำ “ค่ะ”

หลังจากนั้นการปราบปรามยาเสพติดก็เริ่มต้นขึ้น ทำให้กลุ่มมาเฟียทั้งหลายสูญเสียผลประโยชน์ไปมากมาย พวกมาเฟียจึงแอบประชุมลับกัน รวมหัวกันจ้างมือปืนเก็บนายกฯ อากิโอะ เอบะ

ส่วนนโยบายลดค่าครองชีพต่างๆ ก็เริ่มขึ้นเช่นกัน เช่นว่ามีโครงการสนับสนุนให้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ตามบ้านเรือนประชาชน ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน ค่าน้ำประปาก็ออกนโยบายลดภาษีลงเพื่อให้ค่าการผลิตถูกลง นโยบายเหล่านี้ถูกใจประชาชนทั้งประเทศมาก ยิ่งทำให้ความชื่นชมในตัวนายกฯ อากิโอะ เอบะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว

คืนหนึ่ง ในขณะที่นายกรัฐมนตรี อากิโอะ เอบะ กลับจากงานเลี้ยงของพรรค จู่ๆ รถคันที่นายกฯ อากิโอะนั่งก็เกิดเบรกไม่อยู่ขึ้นมา ไดจิ โช คนขับรถตกใจ “แย่แล้ว รถเบรกไม่อยู่!”

“อะไรนะ!” คนอื่นตกใจ มองคนขับรถเป็นตาเดียว ไดจิพยายามตั้งสติ “เบรกไม่อยู่จริงๆ! ทุกคนจับแน่นๆ นะ!”

เขาบอกแล้วพยายามประคองรถดีๆ เท้าก็เหยียบเบรกไปด้วย อีกมือก็คอยดึงเบรกมือรถไปด้วย เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะกดไฟฉุกเฉิน เซรินรีบยื่นมือไปกดปุ่มไฟฉุกเฉินให้ ทำให้สัญญาณไฟฉุกเฉินกะพริบวาบๆ ขึ้นมาทันที ทำให้รถบอดี้การ์ดคันอื่นๆ ที่ขับนำหน้าและขับตามหลังต่างมองรถที่ท่านนายกฯ นั่งอยู่ พวกบอดี้การ์ดเอ่ยออกมา “เกิดอะไรขึ้น!? ทำไมรถท่านนายกฯ ถึงเปิดไฟฉุกเฉิน!?”

บอดี้การ์ด เออิจิ ฟูโดซึ่งนั่งอยู่ข้างท่านนายกฯ รีบรายงานสถานการณ์ให้คนอื่นๆ ทราบ “แย่แล้ว รถท่านนายกฯ เบรกไม่ได้!”

“อะไรนะ!?” พวกบอดี้การ์ดได้ยินเสียงจากหูฟังไร้สายที่ใส่อยู่ที่หูก็ตกใจกันหมด ขณะเดียวกันทางที่พวกเขาอยู่นั้นเป็นทางลงเนินเขายาวทีเดียว ถ้ารถเบรกไม่ได้ก็อันตรายมากทีเดียว ดังนั้นรถคันหน้าจึงบอกว่า “โช นายชนรถฉันไว้ ฉันจะช่วยชะลอให้เอง”

“อืม” ไดจิตอบ มีแต่ทำแบบนั้นจึงจะช่วยชะลอความเร็วรถที่กำลังเบรกแตกได้ เขาประคองรถให้อยู่ในเลน รถวิ่งลงเนินไปชนกับรถคันหน้า ตึง!

รถคันหน้าก็พยายามเบรกช่วยชะลอความเร็ว เอี๊ยดดดด—

ทุกคนในรถตัวเกร็งกันหมด ส่วนรถคันหลังก็ขับชะลออยู่ห่างๆ จนกระทั่งรถคันที่อยู่ข้างหน้ากับรถของท่านนายกฯ ค่อยๆ ชะลอความเร็วลงและจอดลงในที่สุด เอี๊ยดดด—

เมื่อรถหยุดลง ทุกคนก็ถอนหายใจโล่งอก “เฮ้อ…”

ทีมบอดี้การ์ดบอก “ให้ท่านอยู่ในรถก่อนนะ อย่าเพิ่งลงมา คันหลังขับไปรับท่าน”

“ครับ” รถคันหลังรับคำสั่งแล้วขับไปเทียบรถของท่านนายกฯ ทันที ทีมบอดี้การ์ดมองสำรวจบริเวณรอบๆ ไปทั่ว เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ปกติดีจึงบอกว่า “ให้ท่านลงจากรถได้”

“ท่านครับ เปลี่ยนรถครับ” บอดี้การ์ดเออิจิบอก นายกฯ อากิโอะพยักหน้า “อืม”

เออิจิรีบเปิดประตูรถออกไป เขามองอย่างระวังตัวตลอดเวลา บอดี้การ์ดคนอื่นๆ ก็มองอย่างระวังตัวเช่นกัน เออิจิก้มตัวลงบอก “ท่านครับ เชิญครับ”

“อืม” นายกฯ อากิโอะพยักหน้าแล้วออกจากรถ เขากำลังจะก้าวไปนั่งในรถอีกคัน พลัน! เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ฟิ้ว!

ตู้ม!

นายกฯ อากิโอะรู้สึกมึนงง ชาไปทั้งตัว เขาเห็นภาพเปลวไฟรอบๆ ตัวเต็มไปหมด แล้วภาพก็ตัดไป

ขณะเดียวกัน รถของท่านนายกฯ ที่ถูกยิงระเบิด RPG ใส่ก็ระเบิดเป็นเศษซาก ทีมบอดี้การ์ดล้มลงกับพื้นหลายคน ยังไม่รู้ว่าเป็นหรือว่าตาย! พวกเขาเลือดอาบท่วมตัว

หลังจากนั้นก็มีข่าวด่วนข่าวดังไปทั่วประเทศว่ารถที่ท่านนายกฯ อากิโอะ เอบะนั่งถูกคนร้ายโจมตีด้วยระเบิด ทำให้ท่านนายกฯ อากิโอะ เอบะเสียชีวิตแล้ว ทีมบอดี้การ์ดก็เสียชีวิตเกือบทั้งหมด รถยนต์ 3 คันระเบิดเละเป็นเศษซาก ข่าวๆ นี้ช็อกประชาชนชาวประเทศ J ทั้งประเทศเลยทีเดียว

ยามาโตะ โทมิดูข่าวแล้วเอ่ยกับไคโตะ โกโร่ ว่า “ดีๆๆ”

“ครับ” ไคโตะ โกโร่มือขวาของยามาโตะ โทมิรับคำสีหน้านิ่งเฉย

ศพของท่านนายกฯ อากิโอะ เอบะถูกตั้งใส่โลงอย่างสวยงามและยิ่งใหญ่สมฐานะ ประชาชนต่างแห่กันไปไว้อาลัยให้ท่านนายกฯ ที่เพิ่งจะรับตำแหน่งได้ไม่กี่เดือนอย่างเสียใจเป็นที่สุด ผู้คนมากมายรวมถึงตัวแทนจากประเทศต่างๆ ก็พากันไปร่วมพิธีศพ

หลังจากตั้งศพไว้พอสมควรแล้วก็เป็นพิธีเผาศพ ตระกูลเอบะเผาศพแล้วเก็บเถ้ากระดูกใส่โถแล้วนำกระดูกกลับไปเซ่นไหว้ที่บ้านหลักของตระกูลเอบะ หลังจากสิ้นอากิโอะ เอบะแล้ว อากิฮิโระ เอบะ ซึ่งเป็นน้องชายของอากิโอะ เอบะก็สืบทอดตระกูลต่อจากพี่ชาย

ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทางพรรคคนรุ่นใหม่ก็ผลักดันอากิฮิโระ เอบะเข้ารับตำแหน่งแทน แต่ว่าเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ กลับลงมติให้ซึบาสะ ยามะ ซึ่งเป็นสส.จากพรรคเสรีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ด้วยคะแนนเสียงที่ชนะขาดลอยทำให้ซึบาสะ ยามะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปครอง

หลังจากนั้นก็มีพิธีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งต่างๆ หลายตำแหน่งทีเดียว ประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคคนรุ่นใหม่ดูข่าวอย่างสิ้นศรัทธา พวกเขารักนายกฯ อากิโอะ เอบะ พวกเขาไม่อยากให้ซึบาสะ ยามะเป็นนายกฯ จึงเกิดการประท้วงเกิดขึ้น แต่การประท้วงก็เกิดได้ไม่นานเพราะประชาชนต้องทำมาหากินจึงไม่มีใครสามารถอดทนประท้วงได้นานๆ

เวลาผ่านไป 2 เดือน หลังจากนายกฯ ซึบาสะ ยามะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่นาน จู่ๆ ท่านนายกฯ ซึบาสะก็เกิดอุบัติเหตุตกบันไดหมดสติจนต้องหามส่งโรงพยาบาล

“อูย” นายกฯ ซึบาสะ ลืมตาขึ้น

“ท่านฟื้นแล้ว!”

เสียงดังขึ้น ทำให้นายกฯ ซึบาสะรู้สึกปวดหัวมากจนต้องยกมือนวดๆ ขมับ แต่ปลายนิ้วกลับสัมผัสกับผ้าหนาเตอะที่อยู่ตรงจุดที่ปวด “หือ?”

เขาคลำๆ ผ้า รู้สึกเจ็บๆ ปวดหนึบตรงขมับ “อูย”

“ท่านหัวแตกค่ะ”

“หัวแตก!?” นายกฯ ซึบาสะทวนคำ ภาพสุดท้ายที่จำได้คือเปลวไฟลุกท่วมตัวไปหมด เขามองไปรอบๆ เห็นเพดานขาวสะอาดตา ครั้นมองคนที่พูดก็เห็นนางพยาบาล ใช่ เป็นนางพยาบาลจริงๆ เขากะพริบตาปริบๆ แล้วถามว่า “คนอื่นล่ะ?”

“คะ?” นางพยาบาลงงๆ แล้วตอบว่า “อ๋อ รออยู่ข้างนอกค่ะ”

จากนั้นนางพยาบาลคนนั้นก็กดโทรศัพท์แจ้งว่า “ท่านนายกฯ ฟื้นแล้วค่ะ”

“โอ้” ปลายสายอุทานแล้วบอกว่า “ผมจะรีบไป”

จากนั้นสายก็ตัดไป นางพยาบาลวางหูโทรศัพท์แล้วบอกว่า “อีกสักครู่คุณหมอจะมาค่ะ”

“อืม” นายกฯ ซึบาสะพยักหน้ารับ แล้วบอกว่า “คุณช่วยพยุงผมเข้าห้องน้ำหน่อย”

“เอ่อ…รอคุณหมอมาก่อนนะคะ” นางพยาบาลบอก นายกฯ ซึบาสะจึงบอก “ผมรอไม่ไหว”

“งั้นดิฉันไปเอากระบอกปัสสาวะให้ค่ะ” นางพยาบาลบอก นายกฯ ซึบาสะบอก “ผมไม่ได้ปวดปัสสาวะ ผมปวดท้อง เร็วๆ”

เขาบอกพลางลุกขึ้นลงจากเตียง นางพยาบาลรีบช่วยประคองทั้งยังพยายามห้าม “ท่านคะ แต่คุณหมอไม่ให้ท่านลุกจากเตียงค่ะ”

“จะอะไรก็ไม่สนล่ะ ผมปวดท้องต้องเข้าห้องส้วมเดี๋ยวนี้” นายกฯ ซึบาสะบอกเสียงแข็ง นางพยาบาลรีบบอก “งั้นเดี๋ยวดิฉันเอากระโถนมาให้ค่ะ”

“ไม่เอา!” นายกฯ ซึบาสะบอกเสียงแข็ง จะให้เขานั่งถ่ายบนเตียงเขาเบ่งไม่ออกหรอกเฟ้ย!

เขาลงจากเตียงอย่างดึงดัน นางพยาบาลจึงได้แต่ช่วยประคอง “ระวังค่ะท่าน”

นายกฯ ซึบาสะเดินเท้าเปล่าตรงไปยังห้องน้ำทันที พยาบาลประคองไปจนถึงโถชักโครก นายกฯ ซึบาสะมองพยาบาลที่ยังยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีท่าทีว่าจะออกไป เขาจึงไล่ “เอ้าคุณ ออกไปซิ”

“เอ่อ…” นางพยาบาลละล้าละลัง กลัวว่าท่านนายกฯ จะล้มในห้องน้ำ นายกฯ ซึบาสะจึงไล่เสียงแข็งกร้าว “ออกไปได้แล้ว!”

“เอ่อ…ค่ะๆ” นางพยาบาลยอมถอยออกไป ปิดประตูงับเอาไว้แล้วยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องน้ำ นายกฯ ซึบาสะจึงนั่งลงจัดการถ่ายหนัก

หลังจากเสร็จธุระแล้วเขาจึงเดินไปล้างมือ เมื่อล้างมือแล้วก็เงยหน้ามองกระจก เขาพลันร้องลั่น “เฮ้ย!”

เขายกมือจับใบหน้าตัวเอง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ พยาบาลที่ยืนเฝ้าหน้าห้องรีบเปิดประตูเข้าไปดู “ท่านเป็นอะไรคะ?”

เธอเห็นท่านนายกฯ ซึบาสะจับใบหน้า ท่าทางตกใจ จึงปลอบว่า “แผลท่านอยู่ตรงขมับ หมอบอกว่าไม่ทำให้ท่านหมดหล่อหรอกค่ะ”

“หมดหล่อบ้าอะไร!? นั่นใคร!?” นายกฯ ซึบาสะชี้ไปที่เงาในกระจก พยาบาลมองเงาในกระจกแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากเงาของเธอกับท่านนายกฯ เท่านั้นเอง เธอจึงบอกว่า “ก็ท่านไงคะ หรือว่าท่านเห็นภาพหลอนอะไรคะ?”

นายกฯ ซึบาสะมองเงาในกระจก เขาจับๆ ใบหน้ามองเงานั้นอย่างอึ้งๆ ไป “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?”

“ท่านตกบันไดหัวแตก สลบไป พวกบอดี้การ์ดก็พาท่านส่งโรงพยาบาลค่ะ” นางพยาบาลอธิบาย นายกฯ ซึบาสะฟังแล้วอึ้งไป สักพักเขาก็ไล่ว่า “คุณออกไปก่อน”

“เอ่อ…” นางพยาบาลยังยืนนิ่ง นายกฯ ซึบาสะจึงไล่อีก “ออกไปก่อน! บอกให้ออกไปไง!”

“เอ่อ…ค่ะๆ” นางพยาบาลยอมออกไป นายกฯ ซึบาสะหันไปมองเงาในกระจก เขาจับๆ ใบหน้าจ้องเงาในกระจกเขม็ง พึมพำว่า “นี่มันเกิดบ้าอะไรเนี่ย? ทำไมเราถึงกลายเป็นคนๆ นี้ล่ะ?”

ใช่! เขาคืออากิโอะ เอบะ แต่เขากลับมาอยู่ในร่างของใครก็ไม่รู้ เอ่อ…จะว่าไม่รู้ก็ไม่ได้ เพราะเงาในกระจกนั้นเป็นคู่แข่งของพรรคเสรีที่เคยเห็นหน้าตากันอยู่ ‘ซึบาสะ ยามะ’ หัวหน้าพรรคเสรี คนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มหน้าสวยอย่างไรล่ะ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตัวเองจะอยู่ในร่างคนอื่นแบบนี้ นี่มันบ้าชัดๆ! เรื่องบ้าๆ แบบนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?

ถ้าเขาพูดออกไป รับรองว่าคนอื่นๆ ต้องพาหมอจิตเวชมาตรวจเขาแน่นอน บางทีนี่อาจจะเป็นความฝันก็ได้ เขาจึงหยิกแขนตัวเองแรงๆ ทีหนึ่ง “อูย…”

เขาเจ็บ! มันไม่ใช่ความฝัน!

เขาเงยหน้ามองเงาในกระจกอีกครั้ง ใบหน้าในกระจกก็ยังคงเป็น ซึบาสะ ยามะ อยู่ดี!

“นี่มันเรื่องบ้าไรวะ!?” เขาพึมพำอย่างงงๆ เขามึนตึบไปหมดแล้ว พลัน! เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก็อกๆ

“ท่านครับๆ ผมมาตรวจครับ”

“อืมๆ” อากิโอะตอบออกไป เขาละสายตาจากกระจกแล้วเดินไปเปิดประตู เห็นหมอยืนอยู่ตรงหน้าประตู

“ผมมาตรวจครับ เชิญท่านไปนั่งที่เตียงก่อนครับ” หมอบอกพลางพยักเพยิดให้พยาบาลรีบช่วยพยุง พยาบาลจึงเข้าไปช่วยพยุง “ท่านคะ ค่อยๆ เดินค่ะ”

“อืม” อากิโอะตอบพลางเดินไปที่เตียง เขานั่งลงบนเตียง หมอก็เริ่มตรวจ พยาบาลยืนอยู่ข้างๆ คอยจดอาการ

หลังจากตรวจเสร็จแล้ว หมอก็บอกว่า “รอดูอาการซักวันก่อนนะครับ ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไรก็กลับบ้านได้ครับ”

“ครับ ขอบคุณครับ” อากิโอะตอบ เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น หมอจึงออกไป พยาบาลยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ

สักพักประตูห้องก็เปิดออก ยามาโตะ โทมิ เดินเข้าไป เขาพุ่งตรงไปที่เตียงทันที “ฟื้นแล้วรึ”

อากิโอะมอง ยามาโตะ โทมิ อากิโอะกะพริบตาปริบๆ ท่าทีที่ยามาโตะคนนี้แสดงออกมานั้นดูสนิทสนมกับซึบาสะมากทีเดียว

“เธอ ออกไปรอข้างนอก” ยามาโตะไล่นางพยาบาล นางพยาบาลรับคำ “ค่ะ”

แล้วเดินออกไป ยามาโตะมองคนบนเตียงแล้วยื่นมือไปจับแก้ม “ไม่ต้องกังวลไปนะ ผมจะไม่ให้ใบหน้าคุณมีแผลเป็นเด็ดขาด”

“ง่ะ!” อากิโอะ สะดุ้ง เขาผละออกอย่างตกใจ “เอ่อ…”

“เป็นอะไร?” ยามาโตะถาม พลางมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย “ไม่ต้องกังวลไป หมอบอกว่าแผลไม่ใหญ่มากนัก ถ้าทำเลเซอร์ก็จะไม่เหลือแผลเป็นหรอก”

ตรูไม่ได้กังวลเรื่องแผลว๊อย! อากิโอะพูดอยู่ในใจ เขามองยามาโตะที่ดูเป็นห่วงเป็นใยซึบาสะจนออกนอกหน้าขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของคน 2 คนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ

“ยังโกรธที่ผมลืมวันครบรอบของเราเหรอ?” ยามาโตะเอ่ยขึ้นมา สองมือก็ประคองใบหน้าสวยของอีกฝ่ายเอาไว้ในอุ้งมือ อากิโอะตกใจ “เอ่อ…!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version