Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1011

Cover Renegade Immortal 1

1011. แดนสวรรค์วิญญาณเทพ

ในดินแดนวิญญาณปิศาจพื้นที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ทางตอนเหนือ ขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงลึกลับขึ้นในท้องฟ้าเหนือที่ราบ

ก้อนเมฆเริ่มรวมตัวกันจากทุกทิศทาง ปกคลุมท้องฟ้าจนกลายเป็นทะเลเมฆ เสียงหวีดหวิวดังออกมาไกลจากนั้นเสาแสงต้นหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากพื้นที่ราบ

เสาแห่งนี้คล้ายจะสนับสนุนท้องฟ้าของดินแดนวิญญาณปิศาจ มันส่งเสียงดังกึกก้องออกมา ขณะที่มันพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระลอกคลื่นจำนวนมากพร้อมกับผลกระทบรุนแรงแพร่กระจายออกมาและทำให้ก้อนเมฆต้องล่าถอย

เสาแสงแทงทะลุสรวงสวรรค์ เปลี่ยนกลายเป็นวงแหวนแสงค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วท้องฟ้า

วินาทีที่เสาแสงปรากฏ พลังปราณสวรรค์มหาศาลกระจายออกมาปกคลุมพื้นที่ดินแดนวิญญาณปิศาจเกือบสามในสิบส่วน

นกน้อยน่าเกลียดแล่นผ่านไปและบังเอิญถูกพลังปราณสวรรค์กวาดผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ร่างกายสั่นเทาจากนั้นควันสีดำโผล่ออกมาจากร่างมันจำนวนมากและสลายหายไป

หลังจากควันดำหายไป นกน้อยพลันเปลี่ยนกลายเป็นกระเรียนขาว มันร้องเสียงร่าเรือง ดวงตาฉายแววสติปัญญาพลางเหาะเหินโค้งออกไปสวยงาม

ดินแดนวิญญาณปิศาจเต็มไปด้วยพลังปิศาจซึ่งเป็นต้นตอพลังงานให้แก่คนที่อาศัยอยู่มาฝึกฝน วินาทีนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงคลี่คลายออกมาในท้องฟ้า

พลังปิศาจที่เต็มไปทั่วดินแดนวิญญาณปิศาจพลันปะทะกับพลังปราณสวรรค์ที่ปรากฏขึ้นมา การปะทะรุนแรงดุจน้ำกับไฟ ทั้งสองไม่สามารถผสมกันได้จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดยิ่ง

ทว่าพลังปิศาจที่นี่แข็งแกร่งเกินไปและปราณสวรรค์จากเสาหนึ่งต้นก็ไม่เพียงพอ ในไม่นานมันก็ถูกพลังปิศาจเข้าล้อมรอบ

ทว่ามีพลังปราณสวรรค์โผล่ออกมาจากเสาอีกจำนวนมาก ท้ายที่สุดมันก็สามารถปกคลุมรัศมีห้าสิบลี้ได้ซึ่งเพียงพอจะให้พลังปราณสวรรค์ป้องกันพลังปิศาจเข้าลบล้าง

ทุกสิ่งทุกอย่างภายในรัศมีห้าสิบลี้เต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ ขณะที่ด้านนอกกลับเต็มไปด้วยพลังปิศาจ เกิดสมดุจระหว่างสองขั้วซึ่งพลังปราณสวรรค์ไม่สามารถขยายออกไปได้แต่พลังปิศษจก็ไม่สามารถรุกรานได้เช่นกัน

ณ ตอนนี้หลิงเทียนโฮว ชายวัยกลางคนชุดม่วงและผู้อาวุโสชีกงซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังกำลังนั่งอยู่ใจกลางค่ายกลในถ้ำที่สาม

หลิงเทียนโฮวลืมตาขึ้นและส่องประกายเจิดจ้า แขนขวายื่นออกไปและปรากฏรอยแยก ควันสีขาวโผล่ออกมาจากรอยแยกและกุญแจเปิดถ้ำปรากฏขึ้น

‘ใช้เวลาเจ็ดวันก็เปิดถ้ำที่สี่ได้ ข้าประเมินหวังหลินต่ำไปจริงๆ เหมือนข้าจะยังต้องมองเขาใหม่…ข้าใช้เวลาเกือบเดือนกว่าจะเปิดถ้ำที่สี่ได้…’ หลิงเทียนโฮวครุ่นคิดพลางชี้นิ้วไปที่ก้อนหินสีดำใจกลางค่ายกลซึ่งอยู่ด้านล่าง

ควันล้อมรอบหินสีดำทันทีและเข้าไปข้างใน

จากนั้นก้อนหินสีดำก็สั่นไหว ค่ายกลเปิดออก!

ณ ทางทิศตะวันตกของดินแดนวิญญาณปิศาจซึ่งเป็นดินแดนของแคว้นปิศาจวิญญาณ ขณะนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน เสาแสงพุ่งขึ้นสู่อากาศ! คลื่นกระทบเริ่มแพร่กระจายออกไปข้างนอกไร้ที่สิ้นสุด

เสาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเกิดเสียงดังสนั่น พลังปราณสวรรค์หนาแน่นแพร่กระจายและเริ่มเกิดการปะทะกับพลังปิศาจในดินแดนวิญญาณปิศาจ

ขณะนี้เสาจากทิศเหนือและทิศตะวันตกดูเหมือนจะสะท้อนเสียงใส่กันและกระพริบอย่างรุนแรง พลังของแต่ละแห่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทะลวงกำแพงห้าสิบลี้และขยายออกไปด้านนอก

ขณะเดียวกันเสาแสงอีกต้นพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในทิศใต้ พลังปราณสวรรค์ปะทุขึ้นไปอีก เริ่มการต่อสู้ระหว่างพลังเทพและพลังปิศาจ!

เทียนหยุนกำลังนั่งอยู่ในถ้ำที่สองมองค่ายกลด้วยสายตาสงบนิ่ง ทว่าในแววตามีแสงประหลาดแทบมองไม่เห็น

‘เจ็ดวัน…’ เทียนหยุนขบคิดเงียบๆ มิอาจบอกได้ว่าเขากำลังคิดหรือสู้สึกอะไรอยู่

เสาแสงสามต้นปรากฏขึ้นมาติดๆกันในดินแดนวิญญาณปิศาจ ทำให้ผู้ทรงอำนาจในดินแดนแห่งนี้เกิดความสนใจ การเปลี่ยนแปลงรุนแรงในพลังปิศาจทำให้พวกเขาตื่นตระหนก

พลังปราณสวรรค์ที่แพร่กระจายออกมาจากสามเสาคล้ายจะเริ่มการต่อสู้กับพลังปิศาจสามจุด นอกจากทิศตะวันออกไปแล้ว ท้องฟ้าที่เหลือเหนือดินแดนวิญญาณปิศาจกลับเต็มไปด้วยแสงหลากสี

อย่างไรก็ตามตลอดเวลาหลายพันหลายหมื่นปีมีพลังปิศาจจำนวนมากรวมกันอยู่ที่นี่มากเกินไป ทำให้พลังปราณสวรรค์ของสามเสาไม่เพียงพอจะสั่นสะเทือนดินแดนวิญญาณปิศาจ

ในถ้ำแรก คู่รักเซียนเมฆานั่งอยู่เงียบๆในค่ายกลยักษ์ แม้หวังเว่ยจะดูสงบนิ่งแต่แฝงความตื่นเต้นไว้ไม่มิด

เขาสูดหายใจลึกและพึมพำ “วันนี้…ในที่สุดวันที่เรารอคอยก็มาถึง…”

ฮู่จวนยืนอยู่ด้านข้างกำมือหวังเว่ยและเอ่ยเสียงเบา “ครั้งนี้เราจะทำสำเร็จ”

“เราวางแผนมานาน เราต้องสำเร็จ!” หวังเว่ยพยักหน้า

มีร่างเงาสีม่วงอยู่เบื้องหลังพวกเขา ปลดปล่อยกลิ่นอายดุร้ายและเผยกลิ่นอายที่หวังหลินคุ้นเคยยิ่ง

“ดินแดนวิญญาณปิศาจ…ใครจะรู้ว่าที่นี่เคยถูกเรียกว่าแดนสวรรค์วิญญาณเทพ…” หวังเว่ยถอนหายใจและชี้แขนขวาเข้าหาก้อนหินสีดำในค่ายกล ก้อนหินกระพริบวาบ ค่ายกลกระตุ้นขึ้นมา

“พลังปิศาจเป็นเหมือนกับพิษ วันนี้ปล่อยให้มันปรากฏร่างที่แท้จริงอีกครั้ง!” ดวงตาหวังเว่ยส่องประกายเจิดจ้า

เสาแสงพุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้าในฝั่งตะวันตกของดินแดนวิญญาณปิศาจพร้อมกับพลังปราณสวรรค์แพร่กระจายออกมาไร้ก้นบึ้ง

วินาทีนี้สี่เสาแสงจากทั้งสี่ทิศพลันเปลี่ยนไปราวกับพวกมันเชื่อมต่อกันจนสร้างเป็นค่ายกลยักษ์!

พลังปราณสวรรค์จำนวนมากพุ่งออกมาและแข็งแกร่งมากกว่าก่อนหลายเท่า สร้างเป็นพายุพลังปราณสวรรค์กวาดผ่านไปทั่วดินแดนวิญญาณปิศาจ

พลังปราณสวรรค์ข้ามผ่านดินแดนสีแดงเข้มราวกับกวาดล้างฝุ่นออกไปจนเผยพื้นดินสีดำแข็งแรง ต้นไม้หลายแห่งกำเนิดชีวิตใหม่ตามที่พายุพัดผ่าน

พายุพลังปราณสวรรค์กวาดผ่านป่าหนาแน่น ต้นไม้มหาศาลในป่าปิศาจสั่นเทาและเปลี่ยนคืนสู่รูปดั้งเดิมเป็นต้นไม้สูงตระหง่าน

แม้แต่อสูรในป่าก็ยังสั่นเทาเมื่อพายุพลังปราณสวรรค์ผ่านไป พยัคฆ์ดำเขาเดียวก้มหัวลง ดวงตาเปล่งประกายจ้องมองออกไปน้ำลายไหลมุมปาก เบื้องหน้าคือกลุ่มกวางปิศาจ กวางลำตัวสีม่วงและกำลังถูกฉีกกระชากแยกจากกัน

ขณะที่พยัคฆ์ดำกำลังกระโจน พายุพลังปราณสวรรค์พลันกวาดผ่านมา

ราวกับพายุนี้กวาดไล่พลังปิศาจทั้งหมดไป เมื่อไร้พลังปิศาจ พื้นดินก็ไม่เป็นสีแดงอีกและกลายเป็นสีเขียวอีกครั้ง เจ้ากวางทั้งหมดสั่นเทาอยู่บนพื้น สีม่วงบนร่างจางหายเผยให้เห็นสีดั้งเดิมและส่งความรู้สึกแบบเทพออกมา

เจ้าพยัคฆ์ดำที่กำลังกระโจนพลันสั่นสะท้านและร้องคำราม เขาบนศีรษะแตกกระจาย ขนสีดำเปลี่ยนเป็นสีขาว ร่างเต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ จากนั้นความดุร้ายก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยสติปัญญา

เมื่อพายุพลังปราณสวรรค์กวาดผ่าน ป่าปิศาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มองไกลๆมันดูเหมือนแดนสวรรค์

แม้ว่าแม่น้ำนอกป่าดูใสกระจ่างแต่กลับเต็มไปด้วยพลังปิศาจ หากดื่มมันนานเกินไป พลังปิศาจจะรวมกันและเปลี่ยนรูปกายหยาบ

กระทั่งปลาในแม่น้ำก็มีความก้าวร้าวเนื่องจากพลังปิศาจ ปลาขนาดเท่าฝ่ามือมีฟันแหลมคมสามารถฉีกคนธรรมให้กลายเป็นชิ้นๆได้ง่ายๆ

อย่างไร็ตามเมื่อพลังปราณสวรรค์กวาดผ่านไป ราวกับชั้นหมอกโดนซัด แม่น้ำกระจ่างใสยิ่งกว่าเดิมและเกิดความรู้สึกสดชื่น

ปลาข้างในสั่นเทา เปลี่ยนจากรูปลักษณ์น่าเกลียดกลายเป็นสีสันสวยงาม จากนั้นเหล่าปลาก็เริ่มเล่นอยู่ในแม่น้ำ

หากมองจากเบื้องบนจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งดินแดนวิญญาณปิศาจกำลังเปลี่ยนไปเนื่องจากพลังปราณสวรรค์กวาดผ่าน

ราวกับโลกมันควรจะเป็นเช่นนี้ แต่เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นเมื่อนานมาแล้วจนทำให้กลายเป็นดินแดนปิศาจไป ตอนนี้เสาแสงทั้งสี่กำลังปลดปล่อยพลังปราณสวรรค์เข้าชำละล้างพลังปิศาจออกไปจากดินแดน

ความมืดบนพื้นดินโดนหลอมละลายเหมือนหิมะและถูกแสงเข้ามาแทนที่ พลังปิศาจถูกผลักออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับดินแดนวิญญาณปิศาจคลุมด้วยพลังปิศาจ ตอนนี้ถูกลบล้างออกไปอย่างรุนแรงและกำลังเผยรูปร่างที่แท้จริง!

เมืองและเผ่าทั้งหมดในดินแดนวิญญาณปิศาจถูกพลังปิศาจกวาดออกไป ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความเจ็บปวดพลางฟุบลงไม่อาจทนยืนอยู่ได้

พลังปิศาจหลุดออกมาจากร่างและถูกพลังปราณสวรรค์สลายออกไป พลังปิศาจทั้งหมดที่กักเก็บไว้มานานหลายปีตอนนี้หายไปหมด ผู้คนได้สติกลับมาไม่มีพลังปิศาจหลงเหลือในร่างกายอีกแล้ว แต่กลับถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกสดชื่นและความงุนงง

เสาทั้งสี่ปลดปล่อยพลังปราณสวรรค์อย่างต่อเนื่อง ค่อยๆเติมเต็มทั่วโลก กระทั่งท้องฟ้ายังส่องสว่างขึ้น

พลังปิศาจทั้งหมดดูเหมือนสลายไปภายใต้พลังปราณสวรรค์อันท่วมท้น!

มองไกลๆมันเต็มไปด้วยภูเขาเขียวชอุ่มและแม่น้ำสดใส กระเรียนบินอยู่ในอากาศ ผสานกับเสียงร้องอสูรวิญญาณดังออกมา ไม่มีอสูรปิศาจตนใดหลงเหลืออีกแล้ว!

แดนสวรรค์วิญญาณเทพ!

ทว่ายังมีอีกสองสามที่มียังมีพลังปิศาจกักเก็บไว้ในแดนสวรรค์วิญญาณเทพ ไม่ว่าจะมีพลังปราณสวรรค์พุ่งเข้าไปในพื้นที่นั้นมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้พลังปิศาจเคลื่อนไหวออกไปได้!

ณ หุบเขาหนึ่งในแดนสวรรค์วิญญาณเทพ มีแอ่งน้ำอยู่หนึ่งแห่ง ใบหน้าปิศาจปรากฏขึ้นในแอ่งน้ำ เขามองพลังปราณสวรรค์ที่กวาดผ่านมา ดวงตาเรืองแสงชั่วร้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!