1087. เปลี่ยนร่างขั้นแรก

หวังหลินขบคิดเงียบๆและเป็นกังวลมาก ไม่มีใครสามารถหยุดสิ่งที่ฉิงชุ่ยกำลังทำได้ เขาถอนหายใจก่อนจะหลับตาลงและกำลังจมอยู่กับการฝึกฝน

“ข้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของเจ้ากับฉิงชุ่ย หลังจากเจ้าเชี่ยวชาญเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงขั้นแรก เมื่อข้าไปหาผลึกแดนสวรรค์พิรุณมา ข้าอาจจะเจอข่าวของฉิงชุ่ยบ้าง…” ชายชรามองหวังหลินด้วยสายตาอ่อนโยน

เด็กหนุ่มคนนี้คือความหวังของเขา ความหวังของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์

เพื่อเด็กคนนี้ เขายอมทำทุกอย่างไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม!

‘ช่วงวิกฤติในดินแดนวิญญาณปิศาจ เขาไม่ลืมเลือนสหาย ตอนนี้ปลอดภัยแล้วก็ยังไม่ลืมเลือนฉิงชุ่ย แค่นี้ข้าก็วางใจยามทิ้งสำนักวิหคเพลิงให้เขาและส่งต่อวิชาทั้งหมดของข้าแล้ว…’

ชายชราพยักหน้าอย่างเงียบงันพลางยกแขนขวาชี้ใส่แผ่นหลังหวังหลิน พลังดั้งเดิมไหลเข้าไปในตัวหวังหลินไม่มีหยุด เข้าไปล้อมรอบวิญญาณดั้งเดิมและเข้าสู่เมล็ดอัคคีภายใน

วันเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ พริบตาเดียวอีกหนึ่งปีก็ผ่านไป สถานการณ์ในพันธมิตรเซียนไม่เปลี่ยนไปมาก ยังมีการปะทะและสงครามอยู่เนืองๆ

สำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนทิศตะวันออกไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้มากเกินไป แต่เนื่องจากคำสั่งสังหารของกองบัญชาการพันธมิตรเซียนที่ออกไว้กับหวังหลิน จึงมีหลายคนกล้าพอจะเข้ามาในเขตสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์

ทว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลอะไรนักและถูกองครักษ์ของสำนักฆ่าไปหมด แม้จะมีเซียนที่แข็งแกร่งสามารถเล็ดลอดเหล่าองครักษ์มาได้ยังต้องถูกผู้อาวุโสของสำนักกวาดล้างออกไปอยู่ดี

สงครามระหว่างฝ่ายทุกชั้นฟ้าและพันธมิตรเซียนดำเนินต่อไป สำนักซากศพค่อนข้างนิ่งเฉย แต่ก็ยังมีคนของสำนักซากศพบนสนามรบ

พวกเขาปรากฏตัวเพื่อเก็บร่างกายที่ได้รับความเสียหาย อีกด้านหนึ่งคือการทำธุรกิจดั้งเดิมในการขายร่างกายให้ทั้งสองฝ่าย

สงครามที่ดำเนินต่อไปนี้ทำให้ทุกคนยินดีต้อนรับสำนักซากศพ ร่างจำนวนมากถูกขายให้แก่กองกำลังของฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายทุกชั้นฟ้า

หินหยกสวรรค์ สมบัติ วัตดุดิบและของทุกอย่างที่ใช้แลกเปลี่ยนกับร่างกายจึงไหลเข้าสู่สำนักซากศพ

มีเพียงดินแดนฟ้ากระจ่างและสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่อย่าสงบราวกับตัดขาดจากโลกภายนอก

ในปีนี้ระดับบ่มเพาะของหวังหลินเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว สายฟ้าดังคำรามจากร่างกายออกมาบ่อยขึ้นและดังสะท้อนไปทั่วสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แม้ทุกคนไม่ได้เห็นเขาแต่ทุกคนต่างก็รู้เรื่องหวังหลิน

สมาชิกสำนักทุกคนที่รู้ว่าหวังหลินซึ่งปลดปล่อยสายฟ้าคำรามนี้คือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต เป็นความหวังของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ทว่าตราบใดที่มีผู้คนอยู่จึงเกิดข้อพิพาทและการต่อสู้กันเพื่อพลังอำนาจ

สำนักวิหคเพลิงก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ทุกคนที่รู้จักหวังหลิน ความจริงแล้วมีคนจำนวนมากปฏิเสธการปรากฏตัวของหวังหลิน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอยู่สามคนที่ถูกเลือกจากคนจำนวนมากว่าจะกลายเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนต่อไป จิตใจแต่ละคนเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม มีแม้กระทั่งเซียนที่แก่ชรากว่าไม่พึงพอใจกับการจัดการของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรก็ตามอำนาจของจักรพรรดิยิ่งใหญ่เกินไป ดังนั้นคนเหล่านี้จึงไม่กล้าแข็งขืน

ช่วงเวลาสามปี ผ่านคืนและวันนับพัน หวังหลินไม่เคยหยุดการฝึกฝน จักรพรรดิวิหคเพลิงไม่เคยหยุดมอบพลังอัคคีดั้งเดิมของตนเองให้หวังหลินและยังมีความร้อนในก้อนหินที่ทั้งสองคนอยู่ด้วย

ทำให้ระดับบ่มเพาะของหวังหลินแข็งแกร่งยิ่งขึ้น วิญญาณดั้งเดิมเขาฟื้นคืนขึ้นมาแล้ว เมล็ดอัคคีภายในตัวได้ดูดซับเพลิงทั้งหมดและดูเหมือนพร้อมจะหลอมละลาย มันปลดปล่อยคลื่นพลังอัคคีดั้งเดิมอันทรงพลังไปทั่วร่างหวังหลิน เจ็ดรอยสักอัคคีกระพริบวาบบนแขนขวา

การเคลื่อนไหวของพลังอัคคีดั้งเดิมนี้คือต้นตอของสายฟ้าคำรามที่ออกมาจากร่างกาย ในวันนี้พลังอัคคีดั้งเดิมในตัวหวังหลินเพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัด หากดูดซับอีกต่อไปเขาคงระเบิด

ความรู้สึกฉีกขาดเต็มไปทั่วร่าง นาทีนี้หวังหลินพลันลืมตา ฝ่ามือรีบสร้างผนึกและชี้ใส่ทั่วร่างกาย ดัชนีใส่ตรงจุดไหน พลังดั้งเดิมในร่างก็จะหายไปเล็กน้อย

หวังหลินชี้ใส่ตนเองเจ็ดครั้งในคราเดียว พลังดั้งเดิมที่กำลังระเบิดในร่างหวังหลินพลันลดลง ความเจ็บปวดหายไปพร้อมกัน ทว่าหวังหลินชุ่มเหงื่อและเปลี่ยนกลายเป็นควันสีขาวลอยขึ้นสู่อากาศอย่างรวดเร็ว

หวังหลินถอนหายใจยาว “นี่เป็นครั้งที่แปด…”

ช่วงระยะเวลาสามปี หวังหลินผ่านประสบการณ์เช่นนี้ถึงแปดครั้ง แต่ละครั้งพลังดั้งเดิมเพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัดและเตรียมพร้อมระเบิด หวังหลินรีบควบแน่นพลังอัคคีดั้งเดิมเพื่อให้เขาทนได้มากยิ่งขึ้น

สี่ครั้งแรกจักรพรรดิวิหคเพลิงช่วยหวังหลินผนึกพลังดั้งเดิม ส่วนที่เหลือต่อมาหวังหลินทำมันด้วยตัวเองทั้งหมด

เมื่อพลังดั้งเดิมถูกระงับเอาไว้ รอยสักอัคคีอีกแห่งปรากฏขึ้นถัดจากเจ็ดอันที่มีอยู่แล้วบนแขนขวา

รอยสักทั้งแปดก่อตัวเป็นวงกลม เขาต้องการอีกอันเดียวเพื่อให้วงกลมนี้สมบูรณ์

“เปลี่ยนร่างขั้นแรกของวิชาเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงเก้าลี้ลับคือช่วงการบ่มเพาะเก้าครั้ง เจ้าจำเป็นต้องดูดซับพลังอัคคีดั้งเดิมจนกระทั่งรอยสักอัคคีก่อขึ้นมาเก้าจุด เก้ารอยสักอัคคีเหล่านี้เป็นตัวแทนของการบ่มเพาะเก้าครั้ง หยิบยืมพลังของมันเพื่อหวนคืนสวรรค์ จากนั้นดูดซับพลังทั้งหมดกลับกลายเป็นหนึ่งเพื่อให้เปลี่ยนร่างขั้นแรกเสร็จสมบูรณ์!”

“การเปลี่ยนร่างนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงเจ้า แต่จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นและทำให้เจ้าระเบิดพลังสูงสุดได้เมื่อเจ้าสำเร็จการเปลี่ยนร่าง มีเพียงทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้ข้ารู้สึกสบายใจจนยอมให้เจ้ากลายเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และเดินทางไปพันธมิตรเซียน” น้ำเสียงจักรพรรดิวิหคเพลิงดังจากด้านหลังหวังหลิน

“แต่ข้าไม่มีเวลาเหลือมากแล้ว ข้ารู้สึกถึงเงาแห่งความตายกำลังใกล้เข้ามา ข้าต้องเร่งการดูดซับครั้งที่เก้าของเจ้า กระบวนการนี้เจ็บปวดมากแต่เจ้าต้องอดทนเอาไว้ เจ้ายอมรับไหม?”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ ผ่านไปสักพักจึงพยักหน้าและเผยสายตามุ่งมั่น

“เยี่ยม!” จักรพรรดิวิหคเพลิงชื่นชมมากขึ้นแต่ในไม่นานก็เกิดความเสียใจ เขาเอ่ยขึ้นเบาๆ “หากตอนนั้นร่างอวตารของข้ามอบรอยวิหคเพลิงและเกิดการตื่นของวิหตเพลิงเร็วกว่านี้อีกเล็กน้อย…เฮ้อ”

จักรพรรดิวิหคเพลิงส่ายศีรษะและไม่พูดอีก เขาสูดหายใจลึกและใช้ฝ่ามือตีก้อนหินด้านล่าง เสียงดังตุ๊บ ทั้งร่างลอยขึ้นไปในอากาศและห้อยหัวลงมาเป็นเส้นตรงกับหัวหวังหลิน จากนั้นสองฝ่ามือสร้างผนึกพลันเคลื่อนไหว

เสี้ยววินาทีนั้นพลังอัคคีดั้งเดิมของจักรพรรดิวิหคเพลิงพุ่งเข้าไปในร่างหวังหลินผ่านศีรษะ ขณะเดียวกันก้อนหินสีขาวปลดปล่อยคลื่นความร้อนจำนวนมากพรั่งพรูใส่หวังหลินด้วย

เป็นผลให้พลังดั้งเดิมจำนวนมากในร่างหวังหลินเพิ่มขึ้นรวดเร็วยิ่ง ทว่าความเจ็บปวดจากพลังดั้งเดิมที่กำลังชอนไชเข้ามาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทนได้

หวังหลินปลดปล่อยควันสีขาวออกมาทันที ควันนี้เกิดขึ้นมาจากเม็ดเหงื่อ!

ความเจ็บปวดจากร่างกายกำลังถูกฉีกกระชากได้ทำให้ใบหน้าหวังหลินบิดเบี้ยว หวังหลินร้องคำราม รู้สึกกำลังดิ้นรนอยู่ในพายุโกรธเกรี้ยว

เวลาค่อยๆผ่านไป เสียงคำรามของหวังหลินดังมากขึ้น เส้นเลือกบนร่างปูดพองเหมือนพร้อมจะระเบิด พลังดั้งเดิมในร่างกายทวีความรุนแรง เสียงดังคะนองในร่างกายผสมผสานกับเสียงคำรามของตนเอง

นาทีนี้ทุกคนในพื้นที่ดวงดาวพลันได้ยินเสียงคำรามแห่งความเจ็บปวดไปด้วย

หวังหลินไม่สามารถหลบหนีจากความเจ็บปวดหรือตัดขาดความรู้สึกเจ็บไปได้ เขาควบคุมพลังอั้งเดิมในร่างกายที่กำลังบวมเป่งอย่างต่อเนื่องเพื่อให้โคจรไปเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นร่างกายคงระเบิดทันที

จักรพรรดิวิหคเพลิงทำลงไปเพราะไม่มีทางอื่น เขารู้สึกถึงความตายที่กำลังเข้ามาอย่างชัดเจน รู้ตัวว่าเหลือชีวิตอยู่อีกราวๆสามเดือนเท่านั้น

ในสามเดือนนี้ ทลายสวรรค์ครั้งที่สามคงปะทุขึ้นและเขาคงตายโดยไม่ต้องสงสัย!

ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เสียงคำรามหวังหลินสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์ ในวันที่เจ็ด พลังดั้งเดิมในร่างหวังหลินก็เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัดอีกครั้ง จักรพรรดิวิหคเพลิงดูแก่ชรา กลิ่นอายแห่งความตายเต็มไปทั่วร่างกาย

‘ความตายนับเป็นอะไรได้เล่า?’ ใบหน้าจักรพรรดิถึงกับถอดสีแต่ดวงตามองหวังหลินด้วยความคาดหวัง

เขาไม่ได้กลัวตาย การกลัวตายนั้นไร้เหตุผล! เขากลัวสำนักวิหคเพลิงจะไร้ผู้สืบทอดและกลัวสำนักวิหคเพลิงสูญสิ้น! เขาคงล้มเหลวต่อเหล่าบรรพชน ล้มเหลวไปทั้งสำนัก!

‘มันต้องสำเร็จ!’ วินาทีนี้หวังหลินคือความหวังทั้งหมดของเขาและเป็นสิ่งที่ทำให้เขาหัวเราะได้อย่างสนุกสนานแม้แต่ตอนตาย

หวังหลินคำรามโกรธเกรี้ยว พลังดั้งเดิมในร่างกายปะทุขึ้นมา เสียงดังคะนองกึกก้อง พลังอัคคีดั้งเดิมอันทรงพลังได้ทำให้หวังหลินเกิดความเจ็บปวดเหนือจินตนาการ เขายกแขนขึ้นแนบอกและกำลังจะผนึกพลังดั้งเดิม

จักรพรรดิวิหคเพลิงเผยท่าทีไม่สมดังที่หวังไว้ แต่เขาไม่ได้หยุดหวังหลินเนื่องจากรู้ว่ามีคนน้อยมากที่สามารถอดทนต่อความเจ็บปวดได้และหยิบยืมพลังสายนี้เข้าไปเปลี่ยนร่างขั้นแรกตรงๆแม้ว่าโอกาสสำเร็จจะสูงกว่าและเวลาที่ใช้จะน้อยก็ตาม

‘บางทีความต้องการของข้าคงสูงเกินไป…อีกทั้งเขาก็เป็นแค่เด็กที่พึ่งบ่มเพาะมาได้เกินพันปีเอง…หากมีสิ่งใดต้องกล่าวโทษ คงเป็นข้าเองที่มีเวลาเหลือไม่มาก…’ แววตาจักรพรรดิวิหคเพลิงกลายเป็นหนาวเย็น เขาถอนหายใจและหลับตา

ทว่าช่วงที่เขาหลับตา หวังหลินหยุดแขน แววตามั่นคงและมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว

“รอยสักอัคคีจุดที่แปด จงเปิด!” หวังหลินดิ้นรนเพื่อร้องคำรามออกมา!

รอยสักอัคคีจุดที่แปดบนแขนขวาเริ่มเผาไหม้และลอยขึ้นไป ราวกับดอกไม้เพลิงกำลังเบ่งบานในพื้นที่ดวงดาว

หวังหลินกระโจนร่างขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเสียงคำรามสั่นสะเทือนฟ้าดิน ดอกไม้เพลิงพุ่งเข้าหาเข้า เข้าไปในร่างกายและดูเหมือนเปลวเพลิงทั้งหมดในดาราจักรพลันขยับเคลื่อนไหว

วินาทีนี้พื้นที่ดวงดาวเผาไหม้ของสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์พลันเริ่มหมุนปั่น!

สิ่งมีขีวิตทั้งหมดในพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้สั่นสะเทือนและมองขึ้นด้านบน…

‘เปลี่ยนร่างขั้นแรกแห่งเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงเก้าลี้ลับ!’ ใบหน้าผู้อาวุโสสำนักวิหคเพลิงพลันตกตะลึงยิ่งกว่าตอนที่ค้นพบเรื่องการตื่นขึ้นของวิหคเพลิง!

การตื่นขึ้นของวิหคเพลิงไม่ได้หมายความว่าคนผู้นั้นจะกลายเป็นจักรพรรดิคนถัดไป แต่การเปลี่ยนร่างขั้นแรกแห่งเปลี่ยนร่างวิหคเพลิงลี้ลับหมายความว่าคนผู้นั้นจะกลายเป็นจักรพรรดิคนถัดไป! มันคือสัญลักษณ์ของตำแหน่งจักรพรรดิที่ส่งต่อให้แก่รุ่นถัดไป!