Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 109

Cover Renegade Immortal 1

109. ป้ายสิทธิ์

แต่ละคนต่างตกใจพวกเขาคิดว่าหวังหลินไม่อยากบอกความจริงจึงยิ้มอย่างขมขื่นเขาสัมผัสกระเป๋าข้างเอวพลันโยนป้ายสิทธิ์ออกมา หันกลับไปและพูดเสียงดัง “สำนักเปียวเมียวขอยอมแพ้โอกาสที่จะเข้าไปสนามรบต่างแดนเมื่อหุบเขาเปิดขึ้นพวกเราจะจากไปทันที” ด้วยคำพูดนี้เขานำกลุ่มเซียนไปทางตะวันตกและค่อยๆหายไป

เมื่อมีคนหนึ่งนำสำนักที่สูญเสียสิทธิ์ของตนเองก็ได้อธิบายเหตุการณ์และแม้กระทั่งเปิดกระเป๋าของศิษย์ทุกคนให้ดูหลังจากนั้นก็มีมากกว่าสามสำนักที่จากไป

สำนักเฮฮวนเป็นสำนักสุดท้ายที่มีป้ายสิทธิ์ผู้นำกลุ่มเป็นสตรีคนหนึ่งไม่ได้ส่งมอบป้ายสิทธิ์แต่มองไปที่สำนักอื่นที่เหลือซึ่งก็คือหุบเขาหวู่เฟิง

ผู้นำของหุบเขาหวู่เฟิงเป็นชายชราที่ดูเหมือนใกล้ตายเขาอยูที่ขั้นแตกหน่อแบบหลอกๆและคงจะเหลือเพียงปิดประตูฝึกฝนไม่กี่ปีเพื่อสร้างแกนพลังงานของตนเอง

เขาจ้องไปที่หวังหลินและยิ้มเหยียด “เด็กน้อย ตาเฒ่าคนนี้ขอบคุณที่รวบรวมป้ายสิทธิ์ทั้งหมดนี้ให้นะ ทิ้งมันไว้ เจ้าจะไปไหนก็ไป”

ผู้นำของสำนักเฮฮวนเลิกคิ้วขึ้น หลังจากหลังจากกำลังจะพาศิษย์ร่วมสำนักจากไป ทั้งหมดได้ถอยห่างช้าๆ

สายตาหวังหลินกวาดมองผ่านพวกเขาก่อนที่จะหยุดลงตรงตาเฒ่ายโสโอหังผู้นี้โดยต้องพูด หวังหลินสัมผัสกระเป๋าและเมล็ดข้าวสีฟ้าปรากฎขึ้นในอากาศ

เห็นได้ชัดเจนว่าใบหน้าของตาเฒ่าคนนี้กำลังมองลงมายังหวังหลินเขารู้สึกได้ว่าสามารถสังหารคนพวกนี้ได้อย่างหมดจดเช่นที่หวังหลินทำในสายตาเขา หวังหลินต้องซ่อนความแข็งแกร่งตัวเองไว้แน่ๆแต่อย่างมากที่สุดมันก็แค่จุดสูงสุดระดับปลายของขั้นสร้างลำต้นเขาเชื่อว่าระดับการฝึกตนของเขานั้นเท่ากับหวังหลินเพราะว่าเขาอยู่ระดับฝึกตนเดียวกันและมีหนึ่งในสมบัติเซียนอันสำคัญของหุบเขาหวู่เฟิงไว้พัดสวรรค์ไตรธาตุ จึงไม่สงสัยเลยว่าชัยชนะของเขามาถึงหน้าประตูแล้ว

ตอนนี้เขาเห็นว่าหวังหลินนำจุดแสงเล็กๆที่ไม่พิเศษอะไรออกมาใบหน้ายิ้มแป้นปรากฎบนหน้าเขาพลันตะโกนให้กับสหายศิษย์ของตัวเอง “พวกเจ้าทั้งหมดถอยไปก่อนและดูข้าจะจัดการเจ้าเด็กอวดดีคนนี้”

พลันสบัดแขนและพัดเล็กยาวสามนิ้วปรากฎขึ้นบนมือ มันมีอักขระอัคคีสีทองหลายจุด ทำให้ดูงดงามมาก

ใบหน้าของศิษย์หุบเขาหวู่เฟิงเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของชายชราและเห็นใบพัดนี้พวกเขาถอยโดยไม่รู้ตัว บางคนถอยมากกว่าร้อยเมตรจนก่อนจะโล่งใจ

หวังหลินเคลื่อนไหวและจับเจ้าหลี่ซานที่กำลังตกตะลึงขณะที่เขาถอยอย่างรวดเร็วระหว่างนั้นได้ใช้วิชาแรงโน้มถ่วงเพื่อควบคุมเมล็ดข้าวเข้าไปหาตาเฒ่าคนนั้น

ใบหน้าตาเฒ่าคนนี้เต็มไปด้วยความดูถูก เขาสัมผัสพัดสวรรค์และมันก็คลี่ออกมา ขณะเดียวกันลำแสงสีทองก็พุ่งออกมา

ทันใดนั้นลมกรรโชกสายหนึ่งปรากฎขึ้นและลอยรอบพัดสวรรค์ จากนั้นอัคคีทองบนพัดดูราวกับมีชีวิต ความร้อนเพิ่มขึ้นทั่วพื้นที่ทันที

ขณะเดียวกัน เมล็ดสีฟ้าก็ปะทะกับขอบด้านนอกลมประหลาดสายนั้น จังหวะต่อมาได้มีอัคคีสีทองล้อมรอบเมล็ดสีฟ้า

ใบหน้าหวังหลินสงบนิ่ง เขาก้าวไม่หยุดขณะคิดขึ้นในหัว “ระเบิด!”

ท่ามกลางสายลมกรรโชกและอัคคีสีทอง แสงสีฟ้าสายหนึ่งระเบิดออกมาเมื่อแสงนั้นพุ่งขึ้นสูงสุดมันก็ระเบิดตูมและสร้างเป็นวงแหวนสีฟ้าที่เริ่มกระจายราวกับคลื่นยักษ์

ฉากนี้ราวกำลังควบม้านับหมื่นตัว ในทันทีทันใดมันก็ปกคลุมทุกอย่างภายในรัศมีมากกว่าสามร้อยเมตร

สายลมโดยปกติเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน แต่ภายใต้พลังของขอบเขตจวี่สายลมกลายเป็นเศษน้ำแข็งฟ้าและหล่นลงกับพื้น ถัดมาก็คือเปลวไฟสีทองเปลวไฟกระทั่งไม่มีเวลาให้หนีก่อนที่มันจะกลายเป็นน้ำแข็งหากดูใกล้ๆมันจะดูราวกับเปลวไฟยังคงลุกโชนอยู่ภายในน้ำแข็ง

ส่วนสมบัติของหุบเขาหวู่เฟิง พัดสวรรค์ไตรธาตุ ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งฟ้า

ตาเฒ่าขั้นแตกหน่อเทียมคนนี้ไม่มีกระทั่งเวลาตอบสนอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและดูถูกเมื่อน้ำแข็งได้แช่แข็งเขา

ศิษย์หุบเขาหวู่เฟิงทั้งสิบเจ็ดคนด้านหลัง แม้กระทั่งคนที่ห่างไปมากกว่าร้อยเมตรก็ไม่อาจหนีรอด ทั้งหมดกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง

ในรัศมีสามร้อยเมตร ไม่มีสิ่งใดรอดชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกดับลมหายใจ กลายเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับสิ่งมีชีวิต

ในใจหลี่ซานขาวโพลนขณะที่จ้องไปที่ฉากตกตะลึงด้านหน้าเขาจิตใจรู้สึกช็อคจนถึงขีดจำกัด เขาอ้าปากออกมาแต่พูดอะไรไม่ออกสายตาเขาจ้องไปที่หวังหลินด้วยความเคารพมากขึ้น

เหล่าศิษย์ของสำนักเฮฮวนที่ต้องการจะหนีเพราะว่าอยู่ห่างเกินห้าร้อยเมตรแต่กลับไม่กล้าเคลื่อนไหวเพราะว่าสายตาเย็นชาของหวังหลินจ้องมาที่พวกเขา

เหล่าศิษย์ของหุบเขาหวู่เฟิงกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งนั้นได้ทิ้งให้ศิษย์สำนักเฮฮวนอยู่ในภาวะช็อคการมองรูปปั้นน้ำแข็งสิบกว่าคนด้านหน้านั้นทำให้ใบหน้าผู้นำสตรีของเฮฮวนซีดเผือดขณะที่เธอหยิบป้ายสิทธิ์ออกมาโดยไม่ลังเลหลังจากเธอวางป้ายสิทธิ์อย่างระมัดระวังบนพื้น หวังหลินก็ตะโกนถามขึ้น “มีป้ายสิทธิ์ทั้งหมดเท่าไหร่?”

ร่างศิษย์สตรีคนนั้นสั่นสะท้าน ข่มความกลัวของตัวเอง น้ำเสียงสั่นเทาขณะที่พูดขึ้น “มีทั้งหมดเจ็ดป้าย”

ใบหน้าหวังหลินกลับเป็นเหมือนเดิมขณะที่ลอบคำนวณในใจหุบเขาหวู่เฟิงไม่มีป้ายสิทธิ์และในมือเขานี้ก็ได้มาจากสำนักเปียวเมียวสองป้ายจากซวนต้าว และหนึ่งป้ายจากเฮฮวน เขามีทั้งหมดตอนนี้สี่ป้ายเหลืออีกสามชิ้นเขาก็จะมีครบทั้งหมดแต่ป้ายสิทธิ์ที่เป็นของสำนักซากศพได้หายไปกับศิษย์ขั้นสร้างลำต้นระดับปลายไม่รวมหนึ่งชิ้นจากสำนักซากศพก็จะเหลืออีกสอง

ก่อนที่จะเข้าหุบเขาจูหมิงเขาได้ยินจากเย่จื่อว่าการแข่งขันในหุบเขาคือการขโมยป้ายสิทธิ์ของคนอื่นจากข้อมูลนี้และจากที่ซือถูหนานอธิบายการเข้าไปสนามรบต่างแดนเขาพึ่งได้เข้าใจทุกอย่างแบบคลุมเครือจึงได้หันหน้าไปหาศิษย์สตรีและถามขึ้นทันที

“มีที่ว่างกี่ที่ในการเข้าไปสนามรบต่างแดน?”

ศิษย์สตรีผู้นั้นตกใจ เธอลังเลแต่หลังจากเห็นการจ้องอย่างหนาวเหน็บของหวังหลินร่างกายเธอสั่นและรีบตอบอย่างรวดเร็ว “สามที่ มีเพียงสามที่เท่านั้น” ด้วยคำพูดนนั้นเธอกลัวว่าจะอธิบายไม่พอและอาจจะทำให้หวังหลินโกรธดังนั้นจึงเสริมเข้าไป “มีทั้งหมดเจ็ดป้าย แต่หากมีสี่ป้ายที่ไม่ถูกทำลายแคว้นจ้าวจะสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าสนามรบต่างแดน”

หวังหลินชำเลืองมองขณะเดียวกันสตรีคนนั้นกลายเป็นหวาดกลัวทันทีเธอพูดอย่างกระวนกระวาย “สหาย…สหายเซียน จากป้ายที่เหลืออยู่อีกสามชิ้นข้ารู้ว่าหนึ่งในนั้นอยู่ที่ไหน ถ้าหากท่านปล่อยเราไป ข้าจะบอกท่าน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!